มหันตภัยชำระโลกล้างระบบสู่ความสมดุลครั้งที่ 4..แน่หรือ!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 13 มิถุนายน 2016.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207

    การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต – วิชาการธรณีไทย GeoThai.net

    คัดลอกมาให้อ่านจากวิชาธรณีไทย การสูญพันธ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต

    แม้ว่าการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของโลกเมื่อประมาณ 250 ล้านปีก่อน ที่เรียกว่าการสูญพันธุ์เพอร์เมียน-ไทรแอสซิก (Permian-Triassic mass extinction) เหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่ได้รับความสนใจและได้รับการศึกษาค้นคว้ามากที่สุด คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงยุคครีเตเชียส (Cretaceous) และยุคพาลีโอจีน (Paleogene) หรือประมาณ 65 ล้านปีก่อน ซึ่งได้กวาดล้างเหล่าไดโนเสาร์ไปจากโลกนี้จนสิ้น เพื่อเปิดถนนสายใหม่ให้แก่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้แพร่ขยายและเจริญเผ่าพันธุ์อย่างรวดเร็ว

    ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุอะไรก็ตาม…ไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ เกือบครึ่งโลก…ต้องสูญพันธุ์ไป เหลือไว้แต่เพียงความลึกลับให้ศึกษากันไม่จบสิ้น

    จักรวาลได้บอกว่า สาเหตุแห่งการชำระเพราะว่า ดาวเคราะห์โลกเกิดความไม่สมดุลทั้งระบบเนื่องจากหมุนรอบตัวเองเร็วเกินไป ระบบยังขาดความเหมาะสม เพื่อปรับสมดุลบางประการนั้นเสียใหม่ เช่น สัดส่วนของแผ่นดินและแผ่นน้ำ จำนวนรูปธรรมของสิ่งมีชีวิตและน้ำหนักมวลของสรรพสิ่งบนผิวดาว เป็นต้น

    ผลจากการชำระครั้งแรกนี้ สัตว์ประจำโลกจำพวกไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีน้ำหนักมากถูกยกเลิก ด้วยการย้ายออกไปจากดาวเคราะห์โลกสู่ดาวเคราะห์ดวงอื่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เอิ่มม.ดิฉันไม่ได้หมายถึงคุณค่ะ(ยิ้ม)(kiss)
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ใช่ค่ะ...

    ถ้าจักรวาลบอกว่า ..อาวุธนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ และอาวุธเชื้อโรค คือ ความร้ายแรงและเป็นภัยมหันต์ ที่แต่ละชนชาติที่ก้าวร้าวเหล่านั้นเคยรู้บ้างหรือไม่ว่า ศาตราวุธที่ทันสมัยแต่ละรายที่สั่งสมกันไว้นั้น หากกดปุ่มพร้อมกัน มันสามารถทำลายโลกใบนี้ได้เพียงนาทีเดียว

    และ มนุษย์ทราบหรือไม่ว่า ในการคิดค้นอนุภาคเส้นแสงที่ร้ายแรงได้ มันจะสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดในระดับจักรวาลเลยทีเดียว

    และมนุษย์ทราบหรือไม่ว่า ผู้บ้าคลั่งทางปัญญาบางกลุ่ม ที่กำลังคิดการร้ายด้วยการคิดค้นและพัฒนาอาวุธเชื้อโรคขึ้นมาเป็นอาวุธชนิดใหม่ที่สร้างความเลวร้ายไม่แพ้ปรมาณู หากทำเสร็จขึ้นมาเมื่อใด ลำพังสติปัญญาของตนจะไม่มีวันควบคุมการเติบโตแพร่ขยายของพวกมันได้เลย สร้างพิษภัยที่รุนแรงจนแม้แต่ตัวต้นคิด ก็ยากที่จะเอาตัวรอดไปจากเชื้อโรคร้ายชนิดนี้ได้

    จักรวาลทราบดีว่า พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ ทุกตำแหน่งพิกัดที่ตั้งสถานที่เพาะเชื้อหลายพื้นที่ในดินแดนของชนชาติอื่น และกำลังดำเนินการกันอยู่ในขณะนี้ มันมิได้เป็นความลับสำหรับจักรวาลอย่างที่เข้าใจเลย จงรับรู้ด้วยว่าสิ่งศักดิ์สิทธ์ล้วนมีจริงและกฏแห่งกรรมล้วนเป็นจริง การนำพิษภัยที่ตนล่วงรู้ ไปไว้ยังตำแหน่งอื่นที่ห่างไกลจากพวกตน ด้วยความร่วมมือของคนที่มีจิตใจมืดบอดเป็นทาศทางวิญญาณของชนชาตินั้นเพียงไม่กี่คน โดยที่เจ้าของแผ่นดินส่วนใหญ่ไม่ล่วงรู้

    จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ ด้วยความรักแท้จริงต่อมวลมนุษยชาติ ภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่า หากไม่รีบเปลี่ยนจิตสำนึกให้ถูกต้องทันทีที่อ่านถึงข้อความนี้

    สิ่งนี้ต่างหากค่ะ ที่จะทำลายโลกโดยไม่เลือกว่าคนดี หรือ คนชั่ว แต่ถ้าจักรวาลดำเนินการเองด้วยความรักจะขจัดเฉพาะคนชั่วที่คนตัวเป็นคนพาลเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตคนอื่น ซึ่งอำนาจที่พวกเขามีอยู่จะไม่มีวันเอาชนะพลังอำนาจแห่งธรรมะที่เป็นด้านบวกได้

    และสิ่งที่กล่าวข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นของการชำระระบบโลก เหตุผลที่สำคัญที่สุดนั้นคือ นอกจากนี้ยังมีการขาดสมดุลพลังงานในมิติคู่ขนาน คือ มิติโลก เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลล้อม ที่ขาดแคลนเสียจนไม่สามารถจะผลิตสร้างให้แก่โลกได้ทันแล้ว และมิติพลังงาน ด้านจิตวิญญาณสิ่งที่เรามองไม่เห็นอีก ที่มนุษย์ปล่อยพลังงานด้านลบจนเป็นขยะรกโลกมากมายเสียจน ที่มีผลให้โลกหมุนตัวช้าลงและเกิดการกวัดแกว่งที่ทำให้เสียสมดุลอันอาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำได้ หากผลเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเกิดความเสียหายไปทั้งระบบจักรวาล กาแล๊กซี่และเอกภพ เพราะทุกระบบอยู่ได้ด้วยความสมดุลของระบบต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน หากสิ่งใดเสียหายก็พลอยทำให้ระบบเสียหายไปด้วย เหมือนปลาข้องเดียวกันปลาตายตัวหนึ่งก็เหม็นเน่าไปทั้งหมด ก็จะอยู่ไม่ได้

    โลกของเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว และมนุษย์เราก็ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่่ยวหรือเป็นวัตถุล่องลอย ที่ไม่สามารถติดต่อสัมพันธ์กับสิ่งใดในจักรวาลได้ ทุกอย่างต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะจิตใจของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กโลกที่เป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมต่อกับสนามพลังงานจักรวาล ที่ทำให้ทุกชีวิตดำรงอยู่ได้

    และไม่มีวันที่มนุษย์คนใดจะหนีไปอยู่ดวงดาวอื่นได้เลย เพราะทุกสิ่งที่มีชีวิตของดาวเคราะห์ดวงนั้นมันถูกกำหนดด้วยรหัสของคลื่นสนามแม่เหล็กโลกเฉพาะมนุษย์บนดาวดวงนั้นเท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    มีมนุษย์จำนวนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ผู้ที่มีพลังอำนาจด้านลบและชั่วร้าย คือ การใช้พลังอำนาจด้านลบทำลายล้างพลังงานด้านบวกด้วยวิธีก้าวร้าว ไม่รู้จักและรังเกียจพลังงานความรักบริสุทธิ์ กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับการเผยแพร่สัจธรรม สร้างความแตกแยกในหมู่มนุษยชาติ เพื่อผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของตนเอง ชักจูงและบงการจิตวิญญาณผู้อื่นด้วยอำนาจลบให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจตน ไม่เชื่อเรื่องศักดิ์สิทธิ์ ไม่ยอมรับกฏเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล หรือ สัจธรรมใด ๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น มัวเมาลุ่มหลงในอำนาจของตนเองด้วยการแสวงหาความมีอำนาจเหนือผู้อื่นเสมอ

    ุบุคคลนี้มีจริงในยุคนี้ จึงเรียกว่า กลียุค

    รหัส 666 ไม่ใช่รหัสของซาตาน

    คนส่วนใหญ่จึงถูกโปรแกรมความคิดให้มีอคติต่อเลขรหัสดังกล่าวกันไว้ล่วงหน้ามายาวนาน ก่อนการตัดสินใจของจักรวาลด้วยซ้ำ พวกเขารู้ดีว่า คำประกาศของจักรวาลรหัสนี้ คือ คำพิพากษาสุดท้ายที่จักรวาลมีมาต่อพวกเขาด้วย เพราะในอีกไม่นานนี้พลังอำนาจด้านลบของพวกตนจะถูกชำระทำลายด้วยพลังงานด้านบวกที่เข้มข้นกว่าทั้งจากนอกระบบและในระบบโลก จนไม่อาจแสดงอำนาจเหนือจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของผู้บริสุทธิ์และไร้เดียงสาทั้งหลายได้อีกต่อไปแล้ว

    แต่มันเป็นรหัสรักจากจักรวาลที่จะนำพาดาวเคราะห์โลกเข้าสู่ระบบความสมดุลด้วยความสงบและสันติสุขของมนุษย์ในวิถีทางที่ถูกต้องต่อไป เมื่อซาตานตัวจริงถูกจักรวาล นำจิตวิญญาณออกไปจากระบบโลกจนหมดสิ้น

    มันคือความพ่ายแพ้ต่อแสงสว่างเป็นพลังธรรมะโดยแท้
     
  5. อริยะบุคคล

    อริยะบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +476
    เรามีความรู้สึกว่า เราเชื่อคุณเพราะด้วยเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมันคงใกล้ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
     
  6. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๔.๑๓


    เราทั้งเชื่อและไม่เชื่อครับ
    เหตุเพราะเคยโม้ไว้หลายครั้ง
    ที่กระทู้นี้นะครับ หน้า ๙ / ๑๖๒

    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%86-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2.418338/page-9


    ยกความตอนหนึ่งมาให้ดูละกัน ความว่า


    โม้ไว้ก่อนสิ้นปี 2012 ครับ เห็นว่ากลัวกันมาก เลยจัดให้
    เชื่อว่า ถ้าภัยพิบัติจะเกิดร้ายแรง ก็คงต้องเป็นที่ประเทศอื่นครับ
    ไม่ใช่ที่ประเทศไทยแน่ ขอบอก "ใคร" ร่ายกลอนมนตราป้องกันแล้ว


    กระต่ายป่า เจ้าแห่งกลอนมนตรา / ชาวหมู่บ้านในนิทาน

    .
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ค่ะประเทศไทยเราโชคดีมากค่ะ เป็นศูนย์กลางศูนย์รวมของผู้มีบุญบารมีมาเกิดเพื่อสร้างบารมีกันเยอะมากค่ะ จำนวนที่พลังงานที่ท่านเหล่านั้นปฏิบัติดีงามในจิตใจ และการสร้างสมาธิที่เป็นพลังงานที่โลกต้องการ ก็ช่วยให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัยได้เยอะเลยค่ะ

    เห็นว่าข้อมูลที่จักรวาลสื่อมา..บางทีอาจเป็นประโยชน์กับในกาลอนาคตาก็เลยนำมาลงไว้ค่ะ

    เหตุการณ์ใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า มันอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

    จากหนักเป็นเบา หรือ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของทุกคนที่กระทำความดีงามต่อกันบนพิกัดถิ่นอาศัยดำรงอยู่ในเส้นทางแห่งการรู้แจ้งได้อย่างถูกต้อง ด้วยการปลดปล่อยพลังงานด้านบวกสู่สนามพลังงานในจักรวาลโลกออกมามากเท่าใดพื้นแผ่นดินที่อยู่อาศัยย่อมจะได้รับผลลัพธ์จากการกระทำในรูปแบบภัยพิบัติที่ลดความรุนแรงลงได้ตามสัดส่วนพลังงานด้านบวกที่สร้างขึ้นเสมอ ข่าวสารที่ได้รับเพื่อช่วยให้เกิดสติหันมาทำความดีงามต่อกัน รู้จักปลดปล่อยพลังงานด้านบวกมอบให้แก่กันและกัน จะได้ช่วยเหลือตนเองและแผ่นดินของตนให้หลุดพ้นไปจากเคราะห์ภัยรุนแรง จิตวิญญาณที่อยู่บนเส้นทางแห่งการรู้แจ้งนี้จะไม่มีใครถูกพิพากษา และไม่มีใครถูกชำระออกไปจากระบบโลก เพียงแค่สร้างสัญลักษณ์รอยประทับตรงหน้าฝากของตนไว้ ด้วยการทำสมาธิ คือทำให้จิตใจสั่นสะเทือนเป็นพลังงานความรักด้านบวกออกมาให้ได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเผชิญสถานการณ์แบบใดจิตใจต้องไม่หวั่นไหวไปกับมัน รักษาความสงบสุขของจิตใจด้วยความสงบสุขด้วยพลังงานความรักอย่างเดียว มันจึงสมารถเปิดประตูมิติ สร้างรอยตราประทับตรงหน้าผากของตนให้จักรวาลมองเห็นได้ทันที

    ดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เต็มไปด้วยผู้ปฏิบัติอยู่ในความดีงามตามคำสอนของพระศาสดาแท้จริงเท่านั้น จะเป็นดินแดนที่ปลอดภัยบนโลก

    ข่าวสารจากจิตจักรวาลเกี่ยวกับเรื่องหายนะภัยต่าง ๆ ที่สร้างเคราะห์ภัยอย่างรุนแรงมิได้ปั้นแต่งเพื่อสร้างขึ้นเพื่อความขลาดกลัว หรือ วัตถุประสงค์อื่น แต่เป็นการมอบความรักให้เพื่อให้ทุกคนเกิดสติทางวิญญาณ หันมาสร้างความดีงาม ตื่นจากความหลงผิดติดอยู่กับอวิชชาที่งมงายภายในเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนความรุนแรงแห่งภัยที่มันจะแสดงออกมา ซึ่งพลังอำนาจแห่งความดีงามของมนุษย์บนแผ่นดินนั้น มันจะพอช่วยบรรเทาจากหนักให้เป็นเบาได้ไม่น้อยเลย

    สามัคคีคือพลัง

    ถ้าแผ่นดินบริเวณใด ผู้คนบนแผ่นดินอาศัยนั้น ร่วมมือกันกระทำความดีผ่านกระบวนการจิตสำนึกด้านบวกเพิ่มขึ้นมาได้ คลื่นพลังงานด้านบวกจากผลรวมของแต่ละคนที่ปลดปล่อยออกมาภายนอก รางวัลของขวัญชิ้นสำคัญในมิติคู่ขนานก็คือ การเร่งสร้างตาข่ายสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ขึ้น ครอบคลุมเหนือแผ่นดินนั้นไว้เพื่อใช้เป็นแผงดูดซับคลื่นพลังงานความถี่สูง ซึ่งถูกส่งเข้ามายังระบบโลก ให้มันลดทอนพลังอำนาจความรุนแรงลงจนเหลือเล็ดลอดเข้าสู่ผื่นแผ่นดินนั้นในสัดส่วนที่เหมาะสมกับจำนวนที่แสดงออก ผลลัพธ์ในมิติโลก ซึ่งมนุษย์เองจะสัมผัสรู้ได้คือ ความแคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงและการได้รับผลกระทบในระดับต่ำ

    เพราะว่าการปรับความสมดุลโลกจะสร้างความสมดุลใหม่ จะถูกระทำด้วยพลังงานที่เข้มข้นจากนอกระบบโลกพายุสุริยะดวงอาทิตย์ 1 ส่วน และดวงจันทร์อีก 1 ส่วน และ จากระบบภายในโลกเอง คือ การสั่นสะเทือนไหวภายในจากแกนกลางของโลกอีก 1 ส่วน

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจะถูกกระทำต่อโลกนี้พร้อมกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. สิเนรุ อุตรกุรุ

    สิเนรุ อุตรกุรุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +297
    คำเตือนคำทำนายก็ดี ณ เวลานี้ไม่ต้องมีคำนาย..คำเตือนก็ได้ กลัวจะเป็นเช่นทุกครั้งที่อ้างมาสารพัดพอเกิดเหตุแห่งภัยทีก็แย่งกันอ้างว่าตัวเองได้ทำนายไว้นานแล้ว นับจากนี้ไปก็พอจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ทั้งหลาย ตั้งแต่หมู่บ้าน ขยายไปถึงระดับประเทศและแล้วก็ระดับโลกในอีกไม่ช้า เพราะมนุษย์..จะเอาความรัก ความสามัคคีกันจากที่ไหนกันเล่า..มองเห็นแต่ความโกลาหนวุ่นวาย แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในสังคมทุกชนขั้นก็ว่าได้ ปล้นฆ่ากันทุกๆวัน ขนาดอยู่ไม่ไกลจากตัวยังเห็นได้ยากผู้คนทุกวันนี้ไม่ค่อยนับถือเคารพพี่น้องร่วมสายโลหิตกันหรือแม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดว่ายากสอนยาก ภาวะโลกก็ร้อนขึ้นทุกๆวัน ร้อนระอุด้วยไฟแห่งความโลภ ความหลง ความโกรธ ความอิจฉาริษยา มันเกิดไปทั่วทุกหนทุกแห่งแล้วอย่ากระพริบตาต้องคอยจับตาดูหูฟังตลอดเวลานับวันจะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นและแรงขึ้นแน่นอน แม้จะมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบคอยเมตตาสงสารปัดเป่าภัยพิบัติให้หมู่สัตว์น้อยใหญ่ได้รอดพ้นซึ่งเปรียบความเย็นอันชุ่มฉ่ำคอยโชลมไฟมิให้ลุกโชนไปมากกว่านี้ แต่ก็ยังมีผู้อยู่ตรงข้ามกับความดีดังที่กล่าวมาเหมือนดังไฟกองมหึมา เช่นแดนตะวันออกกลางกำลังจะลามไหม้เข้ามารวมกับไฟที่กำลังจะลุกในบ้านเราไหม้ทุกสิ่งอย่างฉุดไม่อยู่จนไม่เหลือถึงจะดับ...ไม่เชื่อไม่เป็นไรนี่ไม่ใช่คำทำนาย แต่กำลังจะเกิดขี้น
     
  9. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๐.๕๘


    อ๋อ.เออ.ใช่ ถ้าจะกังวลเหตุจากพระอาทิตย์และพระจ้นทร์แล้วล่ะก็ นะ
    หมดห่วงได้เลยจ๊ะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ เพราะอะไรหรือ ดูให้ดีนะครับ ว่า

    อันนี้อยู่ในหน้าแรกของนิทานเรื่อง "นักรบแสง..." อ่ะนะ
    แปลได้ว่า นักรบแสง เค้าซี๊กะพระอาทิตย์น่ะครับ
    และญาติพี่น้องต้นตระกูล ก็อยู่กันแยะ
    บนดวงจันทร์ ขอได้ครับ สบายๆ
    สรุป ประเทศไทยสบายบรื๋อ
    ส่วนโลกก็เป็นเพื่อนซี๊กัน
    ปลุกตื่น ๑๗ มีค ๕๖

    [​IMG]



    กระต่ายป่า แห่งประเทศไทย / เล็บครุฑ นารายณ์ทรง

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    งั้นเราขอโม้แบบท่านกระต่ายมั้งดีกว่าค่ะ...

    ตัว jityim เอง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่สำคัญ ๆ มักจะถูกปลุกให้ตื่นให้ลุกปฏิบัติสมาธิตอนตี 1 เสมอ เคยได้ยินจากผู้เกี่ยวกับเรื่องศาสตร์พลังงานตัวเลข เคยบอกไว้ว่าถ้าใครลุกนั่งสมาธิตอนเที่ยงคืน จะเป็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเทพเทวดา

    แต่ถ้าการนั่งสมาธิประมาณตีหนึ่ง จะเป็นการติดต่อรับความรู้จากประมาณว่าองค์พระพุทธเจ้าหรือองค์สูงสุดอะไรสักอย่างนั่นแหละค่ะ เพื่อรับความรู้เพราะช่วงเวลานี้โลกจะหมุนจากจุดศูนย์กลางที่สุด เขาบอกมาประมาณอย่างนี้ค่ะ

    ที่นี้ตนเองถูกปลุกเมื่อไรแทนที่จะรับความรู้ข้อมูลข่าวสาร ให้นั่งสมาธิแบบนิ่ง กลับไปพิจารณาในความรู้ข้างในตนเองออกไปมันก็เลยไม่มีที่ว่างหรือช่องว่างสำหรับรับข้อมูลเลยนะค่ะ (แต่จะว่าไปเคยถามหลักธรรมในสมาธิ แล้วนิ่งว่างอยู่อย่างนั้น แล้วก็มีคำตอบกลับมาด้วยครั้งหนึ่งเหมือนกันนะคะ) เดี๋ยวหาว่าไม่มีดีเลย (ยิ้ม) พอที่นี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เลยบอกไม่ได้เรื่องเลยมั้งค่ะ หลายวันต่อมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปลุกแล้วเป็นไปตามยถากรรมเถอะแม่นาง ก็เลยอาศัยตอนช่วงตื่นเช้าขึ้นมาสมองว่างโล่งไม่คิดอะไรลืมตาตื่นขึ้นมาปุ๊บ วันนี้นะค่ะตอน ตี5.40 น มีคำถามเข้ามาที่ใจ 3 ข้อ จึงรีบลุกจดลงใส่กระดาษเลยค่ะกลัวลืม

    1.ใคร

    2.สนามแม่เหล็กโลก

    3. สมาธิ

    ที่ท่านกระต่ายบอก "ใคร" ต้องเป็นใคร ที่ใคร ๆ ก็รูรู้จักแน่นอนเลยใช่ไหมค่ะ ? ที่ช่วยร่ายมนต์ปัดเป่าให้

    "สนามแม่เหล็กโลก" พอคำนี้เคยเกิดขึ้นมาในใจก็พอศึกษาและมีความรู้อยู่บ้าง ก็พอเข้าใจว่าสนามแม่เหล็กโลกเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องพลังงานบวกนี้

    "สมาธิ" ที่ว่านี้คือสมาธิแบบไหน อย่างไร จึงเป็นพลังงานบวกที่โลกต้องการ

    เรื่องสนามแม่เหล็กโลกนั้น jityim ศึกษามาและค้นคว้าทำความเข้าใจมาหลายอยู่ ทั้งที่เคยลงกระทู้ทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก ถ้าใครได้อ่านพอที่จะเข้าใจได้บ้าง และ สนามแม่เหล็กโลกที่เกี่ยวข้องกับเราเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เป็นเรื่องที่เป็นความรู้ใหม่ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนในอดีต เป็นเรื่องลึกลับสำหรับคนยุคพลังงานเก่า สำหรับยุคพลังงานใหม่นี้จะเป็นเรื่องไม่ยากอีกต่อไป เพราะพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นอีกมิติหนึ่งที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ เป็นความลับเบื้องหลังมิติโลก หากถ้าเราจะทำความเข้าใจเพื่อความปลอดภัยของตนเองก็น่าจะดีเหมือนกันนะค่ะ เพราะโลกขาดแคลนพลังงานความดีจากมนุษย์ทุกคนจึงทำให้โลกเห็นเป็นเช่นทุกวันนี้ จึงเป็นที่มาของการปรับสิ่งที่ขาดดุลไป ให้กลับมาสมดุลได้ดั่งเดิม นั่นเองค่ะ

    ทีนี้ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตนด้วยค่ะ ถ้าเราพึ่งแต่ท่าน หรือ มัวพึ่งแต่คนอื่นก็ไม่มีอะไรแน่นอนใช่ไหมค่ะ ที่บอกว่า สามัคคี คือ พลัง ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจร่วมกันทำดีถือศีลสามาธิปฏิบัติธรรมได้ พลังงานของคนส่วนมากก็จะมีกำลังที่มากกว่าอย่างแน่นอนเลยค่ะ แต่ไม่ใช่บุคคลที่กล่าวถึงหรือบุคคลที่มีบุญบารมีทั้งหลายไม่สำคัญนะคะ มีความสำคัญมาก ที่ประเทศอยู่รอดปลอดภัยได้ก็เพราะพลังบุญบารมีเหล่านั้นด้วย แต่ถ้ารวมของคนไทยทั้งชาติหรือครึ่งค่อนประเทศ ประเทศไทยเราจะปลอดภัยมากแค่ไหน ก็ลองคิดดูก็ได้ค่ะ

    สามัคคี คือ พลัง รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย ร่วมแรงร่วมใจ ป้องกันไทยคุ้มภัย คนโบราณกล่าวไว้ค่ะ....
     
  11. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๑๐.๕๘

    แหม..น้อง จะเอาตั้งครึ่งค่อนประเทศเชียวหรือ หวังมากไปป่าว
    เพื่อนต่างมิติที่ห้า ของค่ายท่านประยุตต์ ศิษย์ต่างมิติน่ะ
    เค้าเคยบอกไว้ว่า แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เองล่ะมั้ง นะ
    แค่นั้นก็พอสำหรับการเปลี่ยนแปลงโลกแล้ว

    แต่จะว่าไป หนทางก็พอมีอยู่นะ เคยคิดเรื่อยเปื่อยไว้นานแล้วอ่ะ ว่า
    ต้องเชื่อมระบบสื่อสารมวลชนที่มีทุกระบบเข้าด้วยกันให้ได้น่ะนะ
    ทั้งทางทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ โซเชี่ยล เฟส ไลน์ บลาๆๆ
    ถ้าเสนอสิ่งที่แต่ละสื่อ ต้องการได้ เค้าก็จะทำตาม
    ไม่ยากเท่าไหร่ แค่เข็นครกลงภูเขาล่ะมั้ง นะ

    ๕๕๕


    กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / ดร.ดิเรก ผัวประภาพี่ประไพ

    .
     
  12. kuzawa

    kuzawa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +35
    เข้าใจในเจตนาของเจ้าของกระทู้นะ. แต่มันไม่มีประโยชน์หรอก เราเปลี่ยนอนาคตคนอื่นไม่ได้ เอาเวลาพัฒนาตนเองดีกว่าครับ พวกเขาเลือกทางเดินของตัวเองไว้แล้ว
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/9hoAHuGnf7w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    นำวีดีโอนี้มาให้ดูกันค่ะ...

    เมื่อเช้าได้คำตอบอะไรบางอย่างในสมาธิ "ธรรมย่อมคุ้มครอง"

    ถ้ากรณีอย่างนี้ ใครจะเป็นคนคัดเลือกว่าใคร "ควรรอด" หรือ "ไม่รอด"

    ทำไมบางคนรอดตายโดยฉิวเฉียด เคยดูรายการในทีวีเกี่ยวกับการรอดตายโดยฉิวเฉียดของนายตำรวจที่อยู่ป้อมยามแห่งหนึ่งที่ถนนสี่แยกจุดตัด ณ ขณะนั้นอะไรเป็นเหตุให้เขาต้องตัดสินใจลุกออกไปจากป้อม เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่เขาหนหลัง รถบรรทุกสิบแปดล้อเข้ามาชนป้อมตำรวจเสียหายหมด ถ้าหากตำรวจท่านนั้นไม่ลุกออกไปจากวินาทีนั้น ..จะเป็นอย่างไร... อะไรคือเหตุที่ดลใจให้ต้องลุกไป

    วินาทีเฉียดตาย หลายคน ๆ ประสบมา ซึ่งที่จริงแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้

    ทั้ง ๆ บางคนน่าจะรอดตายแท้ ๆ กลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน...

    สิ่งนี้ต้องมีเหตุและปัจจัยแน่เลยคะ....และคำตอบนั้น " ธรรมย่อมคุ้มครอง"

    พอดีเลยค่ะ....พยายามจะเรียบเรียงคำพูดของตนเองแต่เข้าใจคนเดียว ก็เลยเปิดไปเจอในหนังสือจิตจักรวาลพอดี เลยเรียบเรียงมาให้ตามความเข้าใจของตัวเองค่ะ

    ทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ล้วนเป็นแก่นแท้ทางพลังงานทั้งสิ้น พลังงานของชีวิตแต่ละคนที่เป็นเอกลักษณ์ หรือ สัญญลักษณ์ที่ตนได้กระทำขึ้นทุกหมดถูกล้วนบันทึกไว้เป็นคุณสมบัติเฉพาะตน ซึ่งจะออกมาในมิติคู่ขนานล่องลอยอยู่ในสนามพลังงานจักรวาลโลกติดตามตัวมนุษย์คนนั้น ๆ ไปทุกหนทุกแห่ง พลังงานแห่งธรรมชาติ ล้วนสัมผัสผ่านช่องว่างระหว่างอณูของพลังงานในตัวเขาเองได้อย่างชัดเจน ความสว่างไสวของจิตใจไกล้เคียงธรรมชาติ หรือ ธรรม ก็ย่อมดึงดูดและรักษากันไว้ "ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2016
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างนะคะ

    ที่นำมาลงก็เพื่อทันโลก ทันเหตุการณ์...เองแค่นั้นค่ะ

    ดูแล้ว..อยากจะให้รู้เข้าไปสัมผัสข้างในจิตใจของตัวเองว่าคิดอย่างไรกันบ้างค่ะ? สำหรับตนเองมีคำตอบให้ตนเองทันที ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริง

    ตนเองดูด้วยใจนิ่ง ๆ นิ่งภายในจะมีคำตอบให้ทันทีว่าชีวิตเราควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป?


    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/erS_3rKQK3E" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ส่วนสิ่งนี้ค่ะ...ศตวรรษที่ 20 เกิดอะไรขึ้นกับโลกแล้วบ้าง...

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/5dsI-22j7Z4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ณ ปัจจุบันนี้ใครเคยสังเกตุบ้างไหมค่ะว่าพระอาทิตย์ที่บ้านของตัวเองเบี่ยงเบนไปจากเดิม จุดที่พระอาทิตย์ตกดิน ไม่ใช่องศาเดิม และ พระอาทิตย์ได้เบี่ยงเบนไปจากองศาเดิมขึ้นไปทางเหนือนะคะ

    การปรับย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกเหนือใต้ให้เบี่ยงเบนไปจากเดิม..ใครเคยติดตามศึกษาเรื่องนี้จากนักวิทยาศาสตร์กันบ้างไหมค่ะ...ว่าจริงหรือ! ว่าขณะนี้โลกกำลังปรับย้ายองศาไปจากเดิม

    หากแนวแกนแม่เหล็กโลกเบี่ยงเบนไปจริงตามที่จิตจักรวาลได้สื่อไว้ ว่าจะต้องมีการปรับย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกให้เบี่ยงเบนไปจากเดิมเพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ เมื่อโลกเคลื่อนย้ายตัวไป แสดงว่าต้องมีพลังงานใดที่จะทำให้โลกเคลื่อนย้ายตัวจากเดิมไปได้...พลังงานพายุสุริยะนอกโลกที่ถูกส่งมาจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ และ การเคลื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกของระบบโลกเองด้วย เมื่อมีการเคลื่อน ก็จะต้องมีการสะเทือนเคลื่อนไหวที่หลีกหนีไม่ได้เช่นกันใช่ไหมค่ะ

    แล้วที่จริงเป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน ถ้าจะมองแล้วทุกอย่างต้องมีการถ่วงดุลกัน เพื่อให้ระบบมันสมดุล หรือ ต้องมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

    การชำระโลกด้วยการสร้างความสมดุลใหม่ บนแผ่นดินสยามก็มิอาจละเว้นได้เช่นเดียวกัน ถ้าเสียสมดุลมากการกระทำทางเทคนิคย่อมจริงจังและมากตามไปด้วย ถ้าเสียสมดุลไปเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับที่มันจะเกิดขึ้นกับแผ่นดินอื่นๆ การกระทำทางเทคนิคย่อมน้อยตามลงเช่นกัน ซึ่งผลการกระทำจะปรากฏเป็นภัยธรรมชาติจะรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขนี้ทั้งสิ้น

    มันอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของมนุษย์เท่านั้น ถ้ามั่นสั่นสะเทือนด้านบวกเพิ่มขึ้นมาได้ ความเลวร้ายใด ๆ ย่อมลดทอนลง หรือ อาจไม่เกิดขึ้นตามที่ได้รู้มาล่วงหน้า ดังต่อไปนี้

    1.ทุกภาคของประเทศ จะได้รับเคราะห์ภัยจากน้ำท่วมใหญ่ แม้ในที่ ๆ ไม่เคยท่วม
    2.ในเมืองใหญ่จะต้องผจญภัยปัญหาน้ำท่วมติดต่อกันยาวนานกว่าเดิม จนต้องเผชิญกับปัญหาอื่นๆ ที่สร้างความทุกข์ยากซ้ำซ้อน
    3.การขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มรวมทั้งยารักษาโรคจากภัยธรรมชาติ และจากมนุษย์แผ่นดินอื่นเดินทางเข้ามาพึ่งพาเป็นจำนวนมาก
    4.แผ่นดินชายฝั่งทะเลจะต้องเผชิญกับพายุรุนแรง น้ำทะเลสูงผิดปกติ และคลื่นยักษ์
    5.ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้บางส่วนจะเกิดแผ่นดินไหวให้ตื่นตกใจกว่าครั้งอดีต
    6.เส้นทางน้ำป่าจากภูเขา จะเปลี่ยนทิศทางเข้าสู่เมืองใหญ่บางแห่ง
    7.ไฟป่าจะเกิดขึ้นในป่าสมบูรณ์ ทำลายต้นไม้และชีวิตสัตว์ป่าที่มีอยู่ 1 ใน 3 ส่วน
    8.จะเกิดน้ำพุร้อนหรือบ่อก๊าซในทะเลหรือในป่าบางพื้นที่แห่งใหม่ อันเกิดจากการระเบิดอัดของพลังงานในใจกลางโลกอย่างรุนแรง
    9.อุบัติเหตุร้ายแรงจากความประมาท ในการใช้เครื่องกลไกเป็นพาหนะที่มีความเร็วสูงขณะเกิดพายุแม่เหล็กรุนแรง และในกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีพลาสติกหรือสารพิษของระบบโลก
    10.สถานที่เคยทำเกษตรกรรมได้ จะถูกเปลี่ยนย้ายไปยังที่ใหม่ที่ไม่เคยทำได้ผลมาก่อน

    ผลกระทบที่เกิดกับตัวบุคคล...

    ถ้าใครที่เครียดจัด จะโกรธง่ายหายช้า ปวดศรีษะอย่างรุนแรง ครองสติตนเองอยาก จนตัดสินใจผิดพลาดมากขึ้น จะมีการเผชิญหน้ากับการต่อสู้เพื่อการรู้แจ้งระหว่างกันมากขึ้น ผู้คนจะตื่นกลัวใฝ่หาที่พึ่งทางใจทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม คนชั่วจะปรากฏและเป็นอุปสรรคต่อผู้อื่นด้วยการการกระทำที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน บางคนจะถูกระเบิดจิตสำนึกตนเองครองสติไม่ได้อีกต่อไป คนที่อกตัญญุต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณกระทำผิดคิดชั่วต่อกันจะได้รับผลกรรมโดยไม่ต้องรอชาติหน้า ผู้ที่ทำกรรมกับคนอื่นไว้มากจะได้รับการเจ็บป่วยทางกายหรืออุบัติเหตุ และสังคมไทยจะมีความขัดแย้งทางความคิดกันมากขึ้น เพราะมีสติปัญญาเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ใช้สติปัญญาไม่เป็นเนื่องจากขาดการพัฒนาและทักษะการใช้ความคิด จนสร้างเงื่อนไขขัดแย้งที่รุนแรงได้ง่ายขึ้น

    จงเลิกขลาดกลัวต่อสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น หันมาพึ่งตนเอง หาพลังอำนาจตนเองให้พบ ฝึกสร้างสติฝึกสมาธิแบบธรรมชาติ ตัดสินใจกระทำใด ๆ อย่างถูกต้อง มีความรักบริสุทธิ์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไว้เสมอ แล้วใช้มันเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นเสียตั้งแต่บัดนี้ ...คลื่นความคิดจากจิตจักรวาลค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน 11.44

    ยังไม่เลิกบ้าภัยพิบัติอีกหรือหนู เชยจัง
    เดี๋ยวจะแกว่งพระอาทิตย์กลับมาให้
    โลกนี้ของข้า คอยดูให้ดีละกันนะ


    กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2016
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เชื่อค่ะ..พลังที่ยิ่งใหญ่ของท่านกระต่ายป่า

    แต่ว่า...ใครทำสิ่งใดย่อมได้รับผลในสิ่งนั้น

    คนเราไม่สามารถรับกรรมแทนกันได้..ใครทำกรรมใดไว้ผู้นั้นย่อมได้รับผลเอง

    เผื่อหลาย ๆ คนจะได้ตระหนักหันมาปกปักรักษาตนเองเพิ่มค่ะ นอกจากจะได้แก่ตนเองแล้วยังได้แก่ส่วนรวมด้วยนะคะ

    อยากกระตุ้นเตือนจิตสำนึกของคนส่วนใหญ่เพื่อเป็นน้ำใจหนึ่งเดียวกัน นอกจากจะช่วยประเทศชาติแล้ว พลังงานจิตสำนึกด้านบวกที่โลกต้องการอาจจะช่วยบรรเทาเบาบางให้โลกสั่นสะเทือนลดลงด้วยนะคะ

    แล้วที่นี้พลังด้านบวกที่บริสุทธิ์ที่มีจากผู้มีบุญบารมีอยู่ ถ้าคนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วย แต่กลับทำลายเพิ่มความแตกแยกในสังคม พลังงานบวกที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอ ต่อ พลังด้านลบของคนหมู่มากที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ แล้วไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อาจทำให้พลังงานบวกที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เพราะพลังงานลบของคนหมู่มากไปเพิ่มการเสียสมดุลของโลกมากขึ้นนะคะ

    อยากให้คนไทยตะหนักในสิ่งนี้ค่ะ
     
  19. zipp

    zipp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +141
    พักนี้รู้สึกว่ามีพลังลบมากมาย ทั้งการพูดการกระทํา
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ถ้ายังเป็นอยู่และสร้างเหตุไว้อย่างนี้ เหตุใดสยามไทยจึงไม่พ้น...

    เงื่อนไขการชำระโลก ก็เพื่อต้องการสร้างความสมดุลของระบบที่เสียไปให้คืนสู่ความสมดุลใหม่อีกครั้ง

    สยามประเทศเป็นดินแดนที่่ผูกพันกับดวงอาทิตย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงผู้สูงส่งมาโดยตลอด เป็นดินแดนผู้มากด้วยภูมิรู้ภูมิธรรมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้คอยดูแลช่วยเหลือมาตลอดทั้งการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีทีดีงามเพื่อเป็นแบบอย่างสร้างตำนานตัวอย่างอันยิ่งใหญ่ไว้ให้มนุษย์บนแผ่นดินอื่นซีกโลกอื่นได้ศึกษาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตลอดมา และจิตวิญญาณชั้นสูงก็ได้มีความจงใจที่มาเกิดในแผ่นดิน ณ ที่นี้เป็นจำนวนมาก

    เป้าหมายคือปราถนาให้แผ่นดินนี้เป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณ

    หากย้อนอดีต แผ่นดินนี้คือแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เป็นแผ่นดินที่รุ่งเรืองด้วยศิลปวัฒนธรรมและอารยธรรม อุดมไปด้วยธรรมแห่งศาสนามายาวนาน ซึ่งผู้คนบนแผ่นดินล้วนมีจิตใจรักสงบที่สุด และเคยชินกับอารมณ์รักบริสุทธิ์ ที่จิตวิญญาณถือติดตัวกันมาเกิด โดยพวกเขาได้ถ่ายทอดมันออกมาจากทางสังคมเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวในชุมชน และ ระดับประเทศอย่างมั่นคง และ แน่นแฟ้น ด้วยพลังงานความรักที่ต่างเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันจนยากที่จะแลหาแบบอย่างเช่นนี้จากแผ่นดินไหนได้

    มีรอยยิ้ม มีความจริงใจต่อกันแม้แต่คนแปลกหน้า รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือกันอย่างน่ายกย่อง ดำเนินชีวิตด้วยสติและมีปัญญาเข้าใจกฎธรรมชาติด้วยการรักธรรมชาติและอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เมื่อนำประโยชน์ของธรรมชาติมาใช้ พวกเขาก็จะรู้จักตอบแทนบางสิ่งกลับคืนสู่ธรรมชาติให้สมดุลไว้เสมอ

    ตลอดเวลาอันยาวนาน แผ่นดินนี้ได้สร้างมนุษย์อัจฉริยะและพระอริยะจำนวนมาก และจักรวาลเลือกให้เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของนักรบแสงสว่างมาตลอด และกำหนดการนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง

    น่าเสียดายมีแต่มนุษย์บนแผ่นดินนี้เท่านั้น ที่กำลังเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกตนเองไปในทางต่ำลง จนน่าตกใจ

    แบบดำเนินชีวิตที่ดีงามในอดีต ดังกล่าวไว้โดยย่อ มันกลับเสื่อมสลายลง เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ไปยึดติดและรับเอามายาวัตถุ คือ เทคโนโลยี ที่มันแปลความหมายว่า สุขสบาย ความมีอำนาจเหนือ ต่างพากันละทิ้งสัจธรรมกฎเกณฑ์ของจักรวาลที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ

    สร้างตนเองด้วยการทำลายสรรพสิ่งอื่น
    การสร้างอำนาจ ด้วยการทำลายอำนาจผู้อื่น
    การสร้างชีวิต ด้วยการทำลายชีวิตผู้อื่น
    การกดขี่ข่มเหงผู้อื่น เพื่อการมีอำนาจเหนือกว่า
    การสร้างความสำเร็จ ด้วยการทำลายโอกาสของผู้อื่น
    การสร้างความอยู่รอด ด้วยการทำตนเป็นอุปสรรคผู้อื่น


    บทบาทเหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกของแก่นแท้ในความเป็นมนุษย์เลย มันเกิดจากจิตหยาบที่นับวันถอยสู่ความลงเป็นเดรัจฉานมากขึ้นเท่านั้น มันไม่ได้แสดงออกด้วยความรักบริสุทธิ์ แต่มันแสดงออกด้วยอารมณ์หยาบ ๆ บนพื้นฐานของกิเลสตัณหา ขาดความเป็นหนึ่งเดียวกัน ผู้คนที่เคยมีความดีงามและสุขสงบมีความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีสติปัญญาสร้างวัฒนธรรมอารยธรรมอันงดงามไว้ให้ลูกหลาน มันค่อยๆ แปรเปลียนไปตามกระแสของเทคโนโลยีตะวันตก พาละทิ้งกันปฏิบัติทางจิตวิญญาณทางศาสนาไปเสียสิ้น

    ความสัมพันธ์ทางครอบครัวขาดความเป็นหนึ่งเดียวกัน ผู้คนในสังคมขาดความรักบริสุทธิ์ต่อกันมากขึ้น กระทำโหดร้ายทารุณต่อกัน ทำลายความสมดุลทางธรรมชาติของตนเสียสิ้น พากันคลั่งวัตถุและเทคโนโลยี มากกว่าคลั่งไคล้ความดีงามต่อกัน พากันงมงาย ศรัทธาในสิ่งที่ตนไม่รู้มากกว่าการสร้างแสงสว่างทางปัญญา มองเห็นสัจธรรมศาสนาเป็นเรื่องคร่ำครึโบราณและงมงาย ผู้คนในสังคมกล้าทำชั่วได้ง่ายมากกว่าความดีงาม

    ทุกคนบนแผ่นดินจะต้องยอมรับมัน แม้ตนเองจะไม่ได้มีส่วนกระทำ ปลาเน่าตัวเดียวย่อมเหม็นทั้งข้อง แม้มนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำด้วยตนเอง แต่เป็นการกระทำที่มอบอำนาจให้ตัวแทนของตนแสดงบทบาท (ในความเห็นของตัวเองหมายถึงผู้นำทางสังคมนะคะ) เสมือนหนึ่งว่าตนเองเป็นผู้กระทำ หากพวกเขาทำผิด ผู้มอบอำนาจย่อมได้รับผลการกระทำนั้นด้วยเสมอ ไม่มีข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้คนส่วนใหญ่บนแผ่นดินกระทำไม่ถูกต้อง ผู้คนส่วนน้อยย่อมพลอยเสียภาพพจน์และชื่อเสียงไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

    ความผิดพลาดของผู้คนบนแผ่นดินสยาม...

    มองผ่านบทบาทการดำเนินชีวิตแต่ละคน และสภาพทางสังคม...

    1.ละทิ้งความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ จนทำให้แผ่นดินที่เคยรุ่งเรืองด้วยธรรมะมาตลอด แต่พอความเจริญทางวัตถุและเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นพากันละทิ้งความดีงามของตน หันมายอมรับสิ่งใหม่แทน ไม่พัฒนาจิตใจฝักใฝ่ในการรู้แจ้ง แสวงหาความสุขสบายทางกาย ตกเป็นทาสวัตถุ พัฒนากิเลสตัณหาให้มันมีพลังอำนาจใหม่ขึ้นมา มโนธรรมในจิตใจที่เคยสั่งสมไว้ลดน้อยลง การฝักใฝ่คุณธรรมน้อยกว่าการแสวงหาวัตถุ จนยอมให้มันบงการจิตสำนึกก่อกรรมทำเข็ญกับเพื่อนมนุษย์คนอื่น แทนความรักที่มาแต่เดิมอย่างง่ายดาย

    2.จิตสำนึกบกพร่อง ความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการกระทำไม่ถูกต้องต่อกันในทุกส่วนของสังคมนี้ ผู้คนนับถือศาสนาแต่ไม่เข้าใจสัจธรรมของศาสนา ผู้คนส่วนใหญ่พากันปฏิบัติธรรมน้อยลง ขณะที่ตัวแทนของศาสนาพากันทุศีล

    3.ขาดความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ขาดความเป็นหนึ่งเดียวกันเอง ทำลายชีวิตกัน ตัดฟันต้นไม้ทำลายชีวิตสัตว์ป่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม

    ควาผิดพลาดอย่างคร่าว ๆ ที่จิตจักรวาลชี้ให้เห็นในสังคมประเทศสยามค่ะ ถ้าทุกสิ่งเกิดขึ้นกับประเทศของเราจริง แสดงว่าเรารู้เหตุแล้ว อยู่ที่ว่าจะแก้ที่เหตุได้หรือไม่นะคะ (เรียบเรียงมาจากหนังสือคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล อ.ปริญญา)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...