ผิดมั้ยถ้าคิดจะทิ้งธรรมะ เพราะรู้สึกไม่ได้อะไร ไม่มีกำลังใจไปต่อ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 3 กรกฎาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
  2. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    บ่างช่างยุอยู่ตรงนี้เอง
     
  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เชอะ!
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    เอาว่าโดยสรุปนะครับ คุณ นวล...
    การที่ใครซักคนจะปฏิบัติได้นั้น..
    มันมีวาระของมันอยู่ครับ..
    วาระในที่นี้ ก็คือ ภาระทางสมมุติ
    ของเรามันต้องคลายหรือถึงพร้อมก่อนครับ..
    เพราะฉนั้นตอนนี้เรื่องปฏิบัติเราก็ยังไม่ต้อง
    ไปจริงจังอะไรมากครับ และก็ไม่ใช่ว่าต้องไม่สนเลยเช่นกันครับ...
    เราทำสมมุติของเราให้มันถึงพร้อมก่อนครับ
    รับผิดชอบหน้าที่เราทางสมมุติตามแต่เหตุและปัจจัย
    ของเราให้ถึงพร้อมให้
    เป็นประเด็นสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ก่อนครับ..
    เด่วพอภาระทางสมมุติของเรามันถึงพร้อม
    ณ เวลานั้น เราถึงจะไม่มีความกังวลอะไรครับ
    พอเราไปปฏิบัติมันก็จะไปได้ของมันเองตามลำดับ
    และก็จะพัฒนาไปได้ตามเหตุและปัจจัยของเราเองครับ...
    บางทีของเก่ามันก็เคยผ่านเข้ามา แต่เราไม่รู้ว่า
    มันผ่านไปตอนไหนเพราะเราไม่ได้สนใจ ณ เวลานั้น..
    ..และเราก็มักจะไม่รู้ว่ามันจะมาอีกเมื่อไรครับ
    และเราก็มักพบเจออะไรก็ตามในนิมิต
    ตามแต่ที่ดวงจิตเราเคยสัมผัสสัมพันธ์มาในอดีต
    หรือแม้กระทั่งพบเจอท่านในปัจจุบันต่างๆ
    ซึ่งเรื่องพวกนี้ในทางปฏิบัติถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ...
    ถ้าวาระมาถึง อะไรก็ฉุดไม่อยู่ครับ...
    เพราะฉนั้น ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตามเหตุและปัจจัยนะครับ...
    เพียงแต่การสร้างเหตุที่ดี ก็ทำให้เราถึงวาระได้เร็วขึ้นนั่นเองครับ

    ปล.วิบากกรรมชักนำพาให้เกิด
    ไม่อยากเกิดต้องรู้กรรม นำวิถี
    รู้ละ รู้วาง รู้ว่าง ทุกนาที
    ชีวิตนี้มีแต่สุขทุกข์ไม่มี
    ผู้มีปัญญา ย่อมสะสมบุญ
    เพื่อเอาไว้เป็นทุน
    เพื่อหนุนให้ขึ้นที่สูงวันข้างหน้า..
    พอเข้าใจนะครับ (^_^)
     
  5. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เนี้ย ... ศึกษาธรรม มาก็นานแล้ว ถ้ายังจับประเด็นไม่ได้ว่า พระพุทธเจ้า ท่านสอนอะไร ท่านตรัสรู้อะไร ก็สมควรทิ้งธรรม เพราะตนดันไม่ศึกษาตามครูบาอาจารย์ กลายเป็นว่า ยิ่งศึกษาธรรม ก็ยิ่งทุกข์ เลยโทษธรรม ศึกษาเพื่อ เอา เอาอะไร!! ศึกษาแล้วไม่ได้อะไร
    ศึกษาเพื่อสนองกิเลสตัณหา ตัวเอง มันก็ ศึกษาไปเพื่อทุกข์ ไม่ได้ศึกษาไปเพื่อพ้นทุกข์ ออกจาก ทุกข์ แล้วมันจะได้อะไร นั้นและ ที่ต้องกลับไป คิด ทบทวนดู ว่า จริงๆ แล้ว ศึกษาธรรมไปเพื่ออะไร ถ้าตั้งใจเรียนตามที่ครูบาอาจารย์แนะนำ มี หรือ จะบ่นว่า ทุกข์ อยากทิ้งธรรม เพราะ ศึกษาไปแล้ว ไม่ได้อะไร :cool:
     
  6. bookybomb

    bookybomb สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    ตอนนี้อาจจะสายไปสักหน่อย แต่ว่าผมอยากแสดงความคิดเห็นดู

    ผมคิดว่าตอนนี้พี่ควรจะต้องตั้งสติให้ดีๆ ก่อนครับ แล้วหากิจกรรมหรือวิธีการอะไรก็ได้ทำเพื่อจูงใจให้ออกห่างจากความกังวลก่อน ผมรู้สึกว่าตอนนี้ใจพี่จมกับความคิดความกังวลมากเลย ประสบการณ์ที่ผมเคยเจอยังไม่หนักหนาเท่าไรแต่ผมคิดว่ามีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้างเลยอยากจะพูดให้ฟังสักหน่อย คือว่าช่วงที่ผมทำโปรเจกต์เขียนรายงานตอนอยู่มหาวิทยาลัย ความกังวลที่ว่าจะทำไม่เสร็จ ทำได้ไม่ดีมันมีมากเกินไป ทำให้ช่วงนั้นความคิดมันไม่แล่นเลยแม้แต่นิดเดียว สุดท้ายมันก็เลยกลายเป็นว่าผลงานที่ทำออกมาไม่ได้ตรงตามที่ตั้งใจและอยากให้เป็นเลย หลังจากจบแล้วก็มารู้สึกจิตตกอยู่นานมาก ใช้วิธีอะไรแก้ก็ไม่หาย ยิ่งทำสมาธิยิ่งเตลิดเปิดเปิง ยิ่งกดดันเข้าไปอีก จนวันหนึ่งผมเริ่มหัดกีต้าร์จากที่ไม่เคยเล่นเลย อารมณ์ก็ค่อยดีขึ้นมาเพราะดีใจที่เล่นเพลงได้ หลังจากนั้นใจมันก็เริ่มวางอารมณ์ที่แย่ๆ ไปเอง จากนั้นถึงมาเริ่มทำสมาธิได้อย่างสบายใจ
    จากจุดนี้ผมคิดว่าพี่ควรเริ่มจากหางานอดิเรกอะไรก็ได้ที่
    ๑. ทำให้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว
    ๒. มีความสุข
    ๓. อยู่กับมันได้นาน
    เพื่อที่จะฉุดจิตใจให้ออกมาจากความคิดด้านลบก่อน แล้วค่อยคิดแก้ปัญหาเรื่องงานที่ทำ เพราะเรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่ามาก หากใช้ภาวะจิตตกไปลุยกับปัญหาเรื่องงานไม่ถูกใจแล้วจะยิ่งเครียดกว่าเดิม พอเริ่มสบายใจแล้วค่อยคิดต่อว่าเรื่องงานกับที่บ้านจะทำอย่างไร
    ส่วนหลังจากนี้ผมมองว่าถ้าพี่ได้ทำงานที่ชอบจริงๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ล่ะก็ ลองหางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่จะเป็นจุดยืน เป็นที่พักใจให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้อดทนทำงานที่ไม่ชอบได้มากขึ้น
    อาจเป็นวาดรูป อาจเป็นหัดคัดลายมือ ร้องเพลง เล่นดนตรี แต่ผมแนะนำว่าควรเป็นงานสร้างสรรค์มากกว่ากิจกรรมพวกอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เพราะว่าใจจะไม่ตื่น

    ส่วนประเด็นต่อไป เรื่องหมดศรัทธากับทางธรรม จะมาทางวิทยาศาสตร์ทางจิต
    ตอนนี้ผมมองว่า ทุกอย่างรวมลงมาที่ธรรมไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม ก็ไม่พ้น ยิ่งเรื่องทางจิตใจยิ่งไม่พ้นธรรมและวินัยของพุทธศาสนา เป็นแต่ว่าวิธีการจะทำอย่างไรก็เท่านั้น

    จากคำที่พี่อธิบาย วิทยาศาสตร์ทางจิตที่พี่พูดถึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดกำลังใจ ให้จิตใจจดจ่อกับภาพความสำเร็จเพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง จริงๆ แล้วก็มีคำหนึ่งในทางพุทธศาสนาเรียกว่า การอธิษฐาน หรือการตั้งเป้าหมายของชีวิต ทีนี้ในทางปฏิบัติเราจะทำอย่างไรได้บ้าง
    ผมคิดว่าตามที่พี่กล่าวมา วิธีของครูอ้อยเป็นวิธีที่ดี แต่ผมเห็นว่าวิธีการนี้ไม่ใช่การสะกดจิต แต่เป็นการให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกตัว รู้ว่าตัวเองมีความตั้งใจว่าอย่างไร ให้ระลึกอยู่เสมอว่าตนเองมีศักยภาพที่จะทำได้
    ซึ่งถ้าเกิดว่าพี่ขาดความมั่นใจในตัวเอง คล้ายกับถูกกรอบขังอยู่ ผมว่าวิธีการนี้จะเป็นการกดดันตัวเองยิ่งกว่าเดิม พี่ควรจะหาวิธีสร้างความมั่นใจในตัวเอง โดยกิจกรรมง่ายๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่พี่ทำแล้วรู้ว่าตัวเองทำได้ และไม่เดือดร้อนทั้งตัวเองและคนอื่น ทำไปทีละเล็กทีละน้อย พยายามทีละนิดๆ ความมั่นใจว่าตัวเองทำได้จะค่อยๆ มากขึ้น และผลกระทบจากแรงเสียดทานภายนอกจะลดน้อยลง จนกระทั่งพี่จะไม่ใส่ใจกับมันมากเหมือนอย่างเคย
    ทีนี้เรื่องการปฏิบัติธรรม ผมเห็นว่าพี่อาจจะไม่ชอบวิธีการในรูปแบบจึงทำให้เกิดแรงกดดันร่วมไปด้วย ประกอบกับความคาดหวังว่าทำแล้วต้องดี ทำให้ตั้งใจมากเกินไป ทำให้ยิ่งวุ่นวายใจ ถ้าพี่ไม่ชอบวิธีการปฏิบัติพี่ก็เปลี่ยนไปทำกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองรู้เนื้อรู้ตัว ขนาดการปฏิบัติในรูปแบบพระพุทธเจ้ายังแบ่งประเภทใหญ่ๆ ไว้ตั้ง ๔๐ ประเภทแล้วประเภทย่อยที่เป็นการผสมผสานกันมันจะมากขนาดไหน ดังนั้นพี่ก็แค่ต้องหาวิธีการที่ตัวเองชอบให้เจอไม่จำเป็นว่าจะต้องเหมือนกับที่เรียนมา แค่มีความสุขรู้สึกตัวเป็นใช้ได้ ถ้าอยากเข้าใจเพิ่มเติมลองอ่านหนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านขยายความได้กว้างขวางเข้าใจง่าย
    แต่ถ้าพี่คาดหวังว่าจะต้องได้ดี อันนี้ผมแนะนำว่าพยายามวางความคาดหวังลง เราตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเท่าไรยิ่งดี แต่เราคาดหวังไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่าที่สุดแล้วผลมันจะออกมาตามที่เราต้องการหรือไม่ เราได้แต่พยายามให้ดีที่สุดเท่านั้น

    สรุปก็คือ พี่จะห่างออกจากการปฏิบัติธรรมก็ตาม ไม่ออกก็ตาม มันไม่มีความผิดทั้งสิ้น สำคัญที่ว่าพี่จะต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวของพี่เองเพื่อที่จะทำให้มีสติกับตัว ทำให้มีความสุข ถ้าวิธีการบำบัดตามหลักจิตวิทยาศาสตร์ทำได้ดีสำหรับตัวพี่ก็ลุยเลย เมื่อมีสติและไม่มีทุกข์ทางใจก็จะมีกำลังที่จะคิด แล้วจะค่อยๆ หาทางออกอื่นๆ ได้เอง

    เรื่องการทำทานรักษาศีล อันนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรมาก ส่วนเรื่องการปรับตัวกับที่บ้านคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์มากกว่าผมเป็นคนบอก

    ส่วนเรื่องการสวดมนต์ ถ้าพี่ชอบสวดมนต์ การตั้งใจสวดมนต์เป็นผลดีทำให้เกิดสมาธิจิตตั้งมั่น ถ้ามีสติจิตตั้งมั่นทำให้เกิดความสงบซึ่งเป็นความสุขที่ละเอียดประณีต ถ้าสวดเพราะชอบเพราะต้องการสวดนั้นสวดแล้วดีมาก แต่ถ้าพี่สวดเพราะอยากให้ประสบความสำเร็จแล้ว ผมว่าการสวดมนต์นั้นไม่ได้ผลเต็มร้อย จิตใจจะกังวลกับผลของการสวดมนต์มากกว่าการตั้งใจสวด ส่วนเรื่องการประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ การสวดมนต์ไม่ใช่ปัจจัยหลักแน่นอน ที่เห็นชัดๆก็คือเป็นการช่วยเสริมกำลังใจ ส่วนถ้าจะประสบความสำเร็จอย่างไรนั้น ผมว่าพี่รู้ตัวอยู่แล้วว่าการทำธุรกิจต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง ผมที่ไม่ใช่นักธุรกิจบอกไม่ได้แน่

    การปฏิบัติธรรมกับวิทยาศาสตร์ทางจิตใต้สำนึก ผมเห็นว่ามันไม่ต่างกันมันตั้งแต่ต้น จึงเห็นว่ามันไปด้วยกันได้ แต่การปฏิบัติธรรมเน้นการช่วยตนเองเป็นหลัก ส่วนวิทยาศาสตร์ทางจิตใต้สำนึกเน้นการบำบัด ดังนั้นก็น่าจะพูดถึงสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนมาก ทั้งคนรอบข้าง คนดำเนินการบำบัด ครอบครัว วิทยาศาสตร์ทางจิตน่าจะเน้นทางส่วนนี้มากกว่าการฝึกจิตเพื่อแก่ปัญหาทางจิตด้วยตัวเอง ถ้าคนรอบข้าง ครอบครัวเข้าใจ การแก้ปัญหาจากทั้งสองวิธีปฏิบัติจะยิ่งดี แต่ถ้าไม่แล้วก็คงจะลำบากแน่ๆ ครับ
    หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    หลายๆความเห็นเจตนาดีครับ
    เอาว่าลักษณะอย่าง เจ้าของกระทู้ สามารถและมีโอกาสเกิดขึ้นได้
    กับทุกๆคนเหมือนกันครับ...เพียงแต่ว่าเราควรที่จะต้องเฉยๆเอาไว้
    ณ เวลาที่มันเกิดความคิดลักษณะนี้ขึ้นมาครับ
    อย่าไปสนใจกับความคิดตรงนี้มัน..
    เด่วสติกับปัญญาซึ่งเอกลักษณะตอนนี้
    เค้าจะรวมเป็นตัวเดียวกันนะครับ
    เด่วเค้าจะหาทางออกให้เราได้เอง
    ตามวาระของเรานั้นหละครับ (^_^)
     
  8. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    สิ่งต่างๆมันก็มีของมันอยู่แล้ว เช่น สมุด ปากกา โต๊ะ เก้าอี้ โอ่งน้ำ ต้นไม้ เป็นต้น ของมันมีมันเป็นยังไงมันก็มีก็เป็นอยู่ตามนั้น จะไปอะไรกับมันนักหนา ตอนเช้าเขาพาตื่นนอนเราก็ตื่นสิ เขาพาอาบน้ำแปรงฟันเราก็ทำไปสิ พยายามคิดบวกช่วยสุขภาพจิตให้ดีขึ้น กินอาหารที่มีประโยชน์กินให้อิ่ม นอนหลับพักผ่อนเสียบ้าง มีงานอดิเรกอะไรเราก็ไปทำ ละความอิจฉาริษยา อย่าไปอิจใครเขา เราไม่ต้องไปฆ่าไปแกงเขาเขาก็จะตายเอง รู้จักให้กำลังใจตัวเอง คิดชอบ ทำตนให้มีความสุข อะไรพออลุ้มอล่วยก็น่าจะได้ ไม่หมกมุ่นในกาม ทำตามความต้องการของธาตุขันธ์ ในวัยเรียนก็ควรตั้งใจเรียน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ฝึกละสักกายะทิฏฐิคือความเห็นเหตุว่าเป็นตน เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นของเรา ทำได้สบายเฮ......ตั้งใจปฏิบัติตนให้ดีนะ ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส รู้จักตั้งตนชอบ และสตินะ
     
  9. nai4530

    nai4530 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +60
    ใจอยากทำไร กะทำให้มันสุดๆ จะได้รู้ผลลัพธ์
    ขอเพียง ไม่ลืม เราจะต้องตายทุกลมหายใจเข้าออก กะพอ
    :p
     
  10. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ทุกวันนี้งานการผมก็แย่นะ การเงินก็ไม่ดีมีแต่เอาเงินเก็บมาใช้เป็นมานานละ
    ยิ่งตอนนี้มีลูกขึ้นมาอีกยิ่งกลุ้มเลย
    แต่ ไม่เคยโทษธรรมมะเลย .
    ไม่เคยหวังว่าจะรวยเพราะปฎิบัติธรรมเลยด้วย
    หวังกับการปฎิบัติธรรมอย่างเดียว..คือ จะทำตนให้เป็นที่พึ่งแห่งตนได้
    เมื่อถึงวาระจะต้องจากโลกนี้ไปจะต้องต้องพร้อม..
    การปฏิบัติธรรมไม่เคยเป็นปัญหากับการงานเพราะเราแค่กำหนดรู้ความไม่เที่ยงไปเรื่อยๆ
    อย่างอื่นมันตามมาเอง
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    เขียนครั้งแรกเวลา 12:52 AM
    ล่าสุดแก้ไขรอบที่เท่าไรไม่รู้
    แต่ล่าสุดคือ 02:25 AM

    ขอบคุณที่อ้างอิง
    แต่เจตนาคุยกับจขกท. ที่ใช้ชื่อ
    ว่านวลปรางครับ จะอ้างก็ได้เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ
    ขอบคุณที่เห็นความสำคัญนะครับ (^_^)
    ปล.ไม่ต้องคุยเยอะดีแล้วครับ เอาแค่เขียนสั้นๆ
    ไม่กี่ประโยค ยังหาชาวโลกอ่านแล้วรู้เรื่องยากเลยเลยครับ
    เห็นใจ สมาชิกอื่นๆบ้างครับ ไม่มีกัญชา กับ ใบกระท่อม
    นะครับ จะได้ไปเล่นมาก่อนแล้วถึงจะมาอ่านรู้เรื่อง
    มีแต่คนปกติมาอ่านนะครับ (^_^)

    เขียนครั้งแรก 12: 55 AM ล่าสุดแก้ไขไม่รู้กี่รอบ เวลา 01:00 AM
    งง??? พูดอะไรครับ บ่นหรือเปล่าครับ
    จะคุยกับใคร อะไรอย่างไร หรือคุยกับชาวดาวอังคารหรือเป่าครับ..
    อาการอย่างนี้จะเป็นช่วงวันพระวันโกนหรือเปล่าครับ..*_*
    และก็แก้ไขบ่อยจังเลยอีกเหมือนเดิมนะครับ (^_^)


    เขียนครั้งแรก 01:09 AM. แก้ไขไม่รู้อีกกี่รอบล่าสุด 02:27 AM

    เอ๊าก่อนหน้านั้นลบไปแล้วหรือครับ..
    ขอบคุณที่อุตสาห์ นำมาเล่าให้ชาวโลกได้รับฟังนะครับ
    ที่ว่าโดนวางยาปลุกเซกซ์มาเกือบเอาตัวไม่รอด
    ไม่ทราบว่าเผลอกินยาแก้แพ้
    แล้วอาการกำเริบหรือเปล่าครับ
    มีเรื่องเสน่ห์หาพยาบาทอีกทิ้งเพื่อน....
    เพื่อนพาไปให้ผีเข้า...
    เห็นประกาศตนคุยว่าเก่งเรื่องสมาธิอยู่แม๊บๆ..
    อ่านใจคนไม่ออก หรือว่าบรรยากาศพาไปหรือไงครับ
    แถมผีเข้าได้ด้วยหรือครับ งงว่าผีตนไหน
    ถึงได้คุยกับคุณ Nee653 รู้เรื่องได้ ๕๕
    ..หลักฐานๆๆๆครับ
    ที่พูดตอนแปลงร่างเป็น อ.ปู่ อะครับ
    อยู่ที่ หน้า 9 Rep #173 วันที่ /เวลา 14-07-2016 / 06:26 PM
    ปล.ยังไม่การแก้ไขใดๆ เพราะใช้ชื่อ กลิ่นลำดวน
    ไม่ใช่ อ.ปู่ เห้ย ! ไม่ใช่ Nee653


    ฟังดูคล้ายละครหลังข่าวเลยครับ (^_^)
    ทีหลังบอกข้าพเจ้าก็ได้นะครับ ใครบังอาจเอายาแก้แพ้
    ให้คุณ Nee653 รับประทานเด่วไปดีดหูให้นะครับ
    เป็นห่วงครับ เป็นห่วง
    ใครน้อ ใจร้าย ใจร้าย(เสียงต่ำ).(^_^)
     
  12. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เยสํ เหตุํ ตถาคโต อาห
    เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณติ
    ธรรมทั้งหลายเหล่าใดเกิดแต่เหตุ
    พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
    และความดับแห่งธรรมทั้งหลายเหล่านั้น
    พระมหาสมณะเจ้า ทรงสังสอนอย่างนี้

    ...พระศาสดาตรัสไว้ดีแล้ว...
     
  13. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    นึกว่ากระทู้นี้จบไปตั้งนานแล้วซะอีก
     
  14. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    เรียนถามคุณ ว่าทำไมต้องตอบไม่ยาวมาก หลายๆคำตอบด้วยครับ ด้วยความเคารพส่วนตัวผมไม่เข้าใจ เผื่อว่าดีได้เอาไปทำด้วยครับ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    ยินดีครับ. ป้าดดๆระดับเจ้านางงามดาวอังคาร
    มนุษย์ตนใดก็คงอยากเจอครับ
    หวังว่าตอนนั้นกระผมจะยังหัวไม่ล้านมากนะครับ..(^_^)
    ว่าแต่คุณ. Nee. คิดว่าจะเจอกันในงานอะไรดีครับ
    ๑.งานเลี้ยงเกีษยณผู้สูงอายุของคุณ นี
    ๒.หรืองานเลี้ยงหญิงหมดประจำเดือนก่อนวันอันควร
    ๓.หรือว่างานบวชชีเพราะหนีรัก..
    ๔.หรือว่างานออกจากวัดไปบ้านพักคนชราเพราะชีช้ำ
    เรื่องความรักภายในวัดดีครับ
    ก็บอกแล้วให้มิตรกันตั้งแต่แรก
    แล้วจะไปดีดหูให้ก็ไม่เอา..
    คุณก็คิดแต่ว่า
    คนที่มันทำ
    เก่งหนักเก่งหนาอยู่นั่นหละ
    ถ้ามันเก่งจริงป่านนี้ผมตายไปนานแล้วหละ...
    ว่าไปก็. สม(เสียงสั้นจังหวะเดียว)




    หลายๆคนก็รู้แต่เค้าไม่พูดครับ
    อย่าไปคิดมากเด่วประจำเดือนหมดเร็วครับ
    จะทำดีถ้าคิดว่าดีก็ทำไปครับ...
    แค่นั้นหละ คิดอะไรมาก. ปล่อยวางบ้าง
    เด่วจะหย่อนหยานไปมากกว่านี้นะครับ..(^_^)
    ถ้าจะตึงเฉพาะหูก็พอครับ
    เพราะหน้าและอื่นๆคงไม่ทันแระ.





    โอเค ได้ระบายและคง
    จะสบายใจแล้วเนาะ...
    ส่วนใหญ่โรคแบบนี้มักจะหายนะครับ
    ถ้ามีสามีเป็นตัวเป็นตนนะครับ
    ปัญหาคือ..(((...)))ในวงเล็บเป็นอะไรที่น่ากลัวมากกกสำหรับผู้ชาย. อะจึย !!!

    ทราบว่าไม่อยากมีปัญหาด้วยหรอกนะครับ
    แค่อ้างอิงข้อความที่ผมคุยกับคนอื่นๆเมื่อชาติก่อน(ประชด)
    มาคุยต่อเล่นๆเนาะ เหอะเหอะ




    คำว่าหน้าที่คือต้องได้รับมอบหมายครับ..
    และบุคคลนั้นๆจะทราบตัวเองได้ดีอยู่แล้ว
    และไม่จำเป็นต้องไปบอกใครด้วยครับ
    หรือต้องให้ใครมาบอกหรอกครับ
    ว่าจะต้องทำอะไร เพราะว่าโตๆกันแล้วครับ




    ที่สำคัญเวบพลังจิตในห้องอภิญญาสมาธินั้น
    ไม่ใช่เวบหาคู่ชู้ชื่นสำหรับคนขี้เหงา
    หรือไม่ใช่เวบรักแท้แพ้คนเข้าวัดนะครับ..
    อยากหากิ๊กหรือเพื่อนออกกำลังกายไปห้องอื่นๆครับ


    ถึงจะต้องได้ เอาความสวยความหล่อมาวัด...
    เข้าใจประเด็นนี้นะครับ
    ใครจะสวย ใครจะหล่อมันเรื่องส่วนบุคคลเค้า
    เรื่องพวกนี้มันเป็น รสนิยมครับ เข้าใจไหมครับ
    คือต่างคนต่างชอบไม่เหมือนกันนะครับ
    ก็อาจจะมีบ้าง ที่บางคนอาจจะชอบ
    เจ้ขี้วีนเมาใบกระท่อมหรือใบกัญชา
    และชอบพรากผู้เฒ่าเหี่ยวๆก็เป็นได้ครับเป็น
    ที่มาอันโด่งดังของเรื่องยาแก้แพ้หื่นกาม. ๕๕
    เพราะอาจเป็นรสนิยมส่วนตัวที่ชอบอะไรแปลกๆครับ
    ซึ่งส่วนตัว ไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกครับ
    เพราะไม่ได้เข้ามา หาคู่ชู้ชื่นในนี้
    และไม่ได้พ่ายรักเพราะแอบไปซ้ำรักเพราะแม่ชีหรอกนะครับ..


    และที่สำคัญเค้าคงไม่ใช้หน้าตา
    ไม่ได้ความสวย ไม่ใช้ความหล่อ
    ในการแนะนำนะครับ
    เค้าใช้ความรู้ ใช้ประสบการณ์
    ในการแนะนำนะครับ..
    ในอีกมุม มันทำให้รู้ว่า พวกที่เอาหน้าตาคน
    มาเป็นเกณฑ์ในการวัดบุคคลอื่นๆ
    เป็นคนที่มีจิตใจและหลงตัวเองในระดับใดนั่นหละครับ
    พอเข้าใจนะครับ..




    ถ้าหัวจะล้านก็คงจะห้ามมันไม่ได้หรอกนะครับ
    เหมือนหนังหน้าเหี่ยวๆ. หนังกายเหี่ยวๆ
    และบางอย่างที่มันเคยตึงๆสมัยคุณเริ่มใช้ดันทรง

    ที่เป้าหมายมันดันคล้อยชี้ออกข้างตัว
    แล้วปัจจุบันมันนิ่มๆลงแค่นิ้วจิ้มก็ยุบถึงกระดูกแระ
    คุณไปห้ามมันได้ไหมครับ. ๕๕


    แต่กว่าจะได้ถึงล้านคงยากหน่อยครับ แต่ที่แน่ๆ
    ต่อให้คุณหมดประจำเดือนไปแล้ว หรือหนังเหี่ยวเข้าไปกว่านี้อีก
    ก็คงจะยังมีกระผมอยู่แน่นอนครับ
    เพราะตอนนี้ร่างกายคุณที่ตึงมีแต่หูนะครับ
    หรือจะเถียงผมครับ (^_**). ((ยักคิ้วข้างหนึ่งและก็อิอิ))
    เอาใจช่วย(ย้อนๆ) ๕๕๕๕๕ +
    ปล.เป็นกรณีเฉพาะบุคคลผู้อ่านโปรดพิจารณา... 18+


    หมายเหตุ เด่วนี้การตอบไม่ใช้ลูกดก 9 มม.หลายนัดเหมือนเมื่อก่อน
    แล้วเนาะเด่วนี้มาแม๊กเดียวเพิ่มขนาดเป็น .45 แระ 7 นัดพอดี(^_^)
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    แห๋ม ทำมาพูดเรื่องกรรม ขำจนฟันร่วง
    แปลงร่างไปด่า ไปปรามาส กระผมมา
    มีข้อความเห็นๆ ทำมาแสแสร้งตีหน้าเศร้า
    เล่าความเท็จ ว่าโดนรุ่มรังแก ไปตั้งกระทู้
    ด่า กระทู้แช่งเค้ามา ผลสุดท้ายตัวเองก็รับ
    กรรมไป เกือบโดนซั่มมา เข้ามาบ่นอีกว่า
    ตนเองโดนรังแก ให้คนเค้าขำกันจนฟันร่วง

    และทำมาพูดเรื่องร่างกาย เจอเจาะเข้าตัวถึงรายละเอียด
    ถึงกับเงิบ เปลี่ยนมาเป็นเรื่องกรรมมุขเดิมๆ
    และมั่นใจเหมือนเดิมว่า ตัวเองเก่งกว่าใคร
    และคนที่มาทำร้ายตัวเองเก่งหนักเก่งหนา
    ก็แค่พวกอสูรกายที่เข้ามาแทรกในหัว
    แล้วทำให้ตัวเองเป็นอย่างนั้น ยังไม่รู้ตัว
    ถึงได้บอกว่า อย่างผมแค่เด็กอนุบาล
    คนธรรมดา ถ้าไอ้ที่คุณบอกว่ามันเก่งที่สุด
    ในสามโลก ป่านนี้ผมคงตายไปนานแล้ว
    มันก็คงทำได้ แต่คนที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด
    มั่นใจเรื่องสมาธิว่าเก่งกว่าใครอย่างคุณนั่นหละครับ
    พิสูจน์ไม่ได้ แสดงไม่ได้ ก๊อบคำพูดมาสอน
    แนะก็ไม่ได้ ประหลาดมาก ยังคิดว่าตัวเองเก่ง
    อยู่ได้จน ณ ปัจจุบันนี้ อุบาทว์เกิลมากพึ่งเคยพบเจอ

    ความสามารถอย่างคุณนะหรือครับ
    เพราะคุณทำอะไรเค้าไม่ได้
    คุณก็ว่าเค้าเก่งที่สุดในโลกนั้นหละครับ ๕๕๕๕
    คนอื่นๆเค้าไม่เห็น จะมาว่าตัวเองเก่งอย่างคุณเลย
    ผมก็เห็นเค้าเป็นปกติดีทุกอย่าง ๕๕๕ คิดซะบ้าง

    ผมท้าเลย ผมเด็กอนุบาลนี่หละ
    แต่ผมต่อให้มา ๑๐ ต่อหนึ่งเลยครับ
    แล้วมาดูนะครับ ว่าเด็กอนุบาลกับไอ้ที่คุณบอกว่า
    เก่งระดับโลกเนี่ย ผลจะเป็นอย่างไร ๕๕๕

    ส่วนร่างกายปกติทุกอย่างครับ
    ไม่มีโรคที่รักษายังไงก็ไม่หายหรอกนะครับ อิอิ
    ไม่มีโรคที่เป็นมานานแสนนานแล้วก็ยังไม่หายหรอกนะครับ อิอิ
    และยังใช้งานได้ปกติครับ
    ยกเว้นว่า ถ้าเจอ คนอย่างคุณ เจ้ใบกระท่อมและกัญญาอย่างเจ้ Nee653
    คงทำให้เสื่อมได้ในบัดดลครับ
    เอาไว้พิจารณาปลงอสุภะเนี่ยคงจะดีมากครับ


    ตั้งแต่คุณหายไป ที่เวบสงบมากเลยนะครับ
    พอกลับเข้ามา เอาอีกแระ
    มาบ่น อะไรอีก แระ แบบเดิม
    โดนรังแก คนนั้นคนโน้นเลวอย่างโน้นเลวอย่างนี้
    แล้วก็คอยดูนะผลกรรม เป็นไง
    สุดท้ายก็ไปเข้าตัวเองทั้งนั้น
    มุขอ้างกรรมอ้างอะไรเนี่ย
    แบบคนที่เอาแต่ว่าคนอื่นๆเลวหมด
    พูดซะยังกับว่าพวกเข้าวัดเนี่ยหื่นหมดเลวหมด
    ตัวเองดีคนเดียว มันใช้ไม่ได้หรอกครับเจ้
    ผลที่เกิด กับตัวเองที่ผ่านมา ยังทำให้
    ไม่รู้ตัวอีกหรือครับ ๕๕๕๕


    ผู้หญิงนะครับ ท่าไม่ให้ท่ามาก
    หรือกิริยาท่าทางวาจาไม่ส่อเสียด
    ไปในทางอกุศล
    ผู้ชายยิ่งนักปฏิบัติด้วยแล้ว
    เค้าคงไม่คิดอะไรหรอกครับ
    พูดยังกับว่า คนที่เค้ามาในชีวิตคุณ
    โดยเฉพาะพวกที่พาไปทำบุญ พาไปเข้าวัด
    เค้าอยากจะซั่มตัวคุณหนักหนา

    ประหนึ่งป่านฉันนิหละ สวยเซกซี่หลาย
    ป่านว่า เป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์
    ที่หนังตึงๆ หน้าอกดูเต่งตึง
    พูดประหนึ่งตัวเองเป็นประเภทสาวข้างบนได้
    ประหลาด

    ทำเป็นดัดจริตสร้างภาพไปได้..
    สุดท้ายก็อยากมีสามีเป็นตัวเป็นตน
    คือเก่านั้นหละ พูดยังกับเคยไม่มีสามีก่อน หึยยยย


    ปล.หรือจะเถียงครับ ๕๕๕ (^_^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2016
  17. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ป๋า...

    คำว่า ใจร้าย ใจร้าย หนุจดลิขสิทธิ์นะ อิอิ *@* ห้ามเล่นคำนี้
     
  18. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ป๋า...

    สงสารแกเหอะ อย่าด่าแกมากเลย ในห้องนี้เว้นคุณนีกับคุณนิวรณ์ไว้เหอะ เดี๋ยวคนอื่นเค้ารู้เองแหละว่าใครเป็นยังไง
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,421
    ค่าพลัง:
    +35,036
    ปล.ออกเสียงต่ำนะครับ
    เด่วไม่ได้อารมย์..(^_^)
     
  20. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    เล่นอะไรกันอะ...ไม่เล่นด้วยหรอก...แค่ถามเฉยๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...