อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ทำความสะอาดห้องพระเสร็จแล้ว ดูสดใสงดงามตาขึ้นทันทีครับ เพิ่มความเจริญศรัทธา ทำให้อยากสวดมนต์เจริญภาวนายิ่งขึ้น

เดี๋ยวนี้มีเชิงเทียนไฟฟ้าหลอด LED ออกมาใหม่ดูงดงามเหมือนจริงเปลวไฟพลิ้วไหวไปมาอยากได้มาตั้งประดับ พอไปดูราคาแล้วตกใจเอาไว้ก่อนละกัน ทิ้งไว้ซักพักใหญ่ๆน่าจะถูกลงครับ​

 

นานๆทำความสะอาดสักครั้ง เหนื่อยไหมครับ

 

เอาเรื่องเหมือนกันครับพี่ตี๋ เมื่อยตัวไปหมด อาศัยว่าทำวันละนิดละหน่อยแค่พอไหว พอเห็นผลงานแล้วก็หายเหนื่อย

งานเลี่ยมพระนี่ก็ไม่ได้ทำมาเกือบสองปีแล้ว พอดีได้รูปหล่อหลวงพ่อฤาษีเลยลงมือซะหน่อย ทิ้งไปนานเลยขาดความชำนาญไปเยอะบวกกับลืมวิธีด้วย ด้านหลังเลยเป็นฟองอากาศ(ดูจากรูปขยายเหมือนเยอะแต่ของจริงจะไม่มาก) ก็ไม่เป็นไร เอาแค่เลี่ยมพอห้อยได้ พรุ่งนี้ค่อยแต่งขอบอีกทีครับ







​

 

๑๐๐ ปี ชาตกาลวาระสำคัญเพียงหนึ่งเดียว







หากจะกล่าวถึงวันแข็งที่เหมาะสำหรับการปลุกเสกวัตถุมงคล ทุกๆท่านย่อมต้องนึกถึงวันเสาร์ ๕ ซึ่งถือเป็นวันดีที่สุด แม้การเป่ายันต์เกราะเพชรตามตำรับหลวงพ่อปานก็เลือกวันนี้ ซึ่งแม้นานๆจะ ปรากฏที แต่ก็ยังมีมาเรื่อยเมื่อวันเวลาหมุนเวียนมาบรรจบกันอีก

แต่ยังมีวาระสำคัญวันพิเศษของครูบาอาจารย์องค์หนึ่งๆที่จะมีเพียงครั้งเดียว คือ วันครบรอบ ๑๐๐ ปี





วาระพิเศษที่เหล่าศิษยานุศิษย์จะได้แสดงความกตัญญู สนองคุณครูบาอาจารย์ ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาชี้แนะแนวทาง แสงสว่างให้เหล่าศิษย์ได้ดำเนินตาม และในการนี้ทางวัดท่าซุงภายใต้การนำของหลวงพ่ออนันต์(ท่านเจ้าอาวาส) จึงได้จัดให้มีงานทำบุญเพื่อฉลอง ๑๐๐ ปี ชาตกาลหลวงพ่อฤาษี เมื่อวันที่ ๘-๙ ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเผยแผ่บารมี ประกาศเกียรติคุณของหลวงพ่อ ครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพรัก หัวใจสำคัญของงานคือ การหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี หน้าตัก ๑๘ นิ้ว และ ๙ นิ้ว จำนวน ๒ องค์ ด้วยทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนัก ประมาณ ๑๓๐ กิโลกรัม เป็นการบูชาด้วยทองคำ โลหะธาตุที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก โลหะที่ไม่ว่าใครต่างก็รักและหวงแหน แต่เหล่าศิษย์ยอมสละแล้วเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ผู้มีเมตตาต่อศิษย์อันนับประมาณมิได้






และในการนี้ทางวัดท่าซุงจึงได้ออกวัตถุมงคลมาเพื่อเป็นที่ระลึก เป็นอนุสติ และเป็นปัจจัยใช้ในการหล่อรูปเหมือนทองคำ หนึ่งในนั้นก็คือรูปหล่ออุดมวลสารและเส้นเกศาหลวงพ่อฤาษี กล่าวสำหรับรูปหล่อหลวงพ่อฤาษีที่ทันท่านนั้น มีอยู่สี่ห้ารุ่น ซึ่งก็มีสนนราคาแพงอยู่และมีของปลอมออกมา ถ้าจะเช่าหาก็ต้องระมัดระวังให้มาก

ถ้าไม่อยากเสี่ยงแล้วรูปหล่อรุ่นนี้น่าบูชาเป็นอย่างมาก ด้วยพิถีพิถันในการสร้างทั้งรูปแบบก็งดงาม มีการตอกโค๊ด อุดด้วยมวลสารเก่าและเส้นเกศา ได้ร่วมบุญกับทางวัดในวาระสำคัญ อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ซึ่งความกตัญญูนี้ ผู้รู้ท่านกล่าวว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี "นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา" ย่อมมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เพียงเท่านี้ก็ศักดิ์สิทธิ์สุดๆแล้ว ยังได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก(ตามตำรับวัดท่าซุงที่หลวงพ่อฤาษีท่านได้ครอบครูให้หลวงพ่ออนันต์)ไว้ ในวันนั้นมีพิธีเททองหล่อรูปเหมือนทองคำซึ่งก็มีคนตาดีเห็นปรากฏการณ์พิเศษต่างๆก็เป็นเรื่องปัจจัตตัง ก็เป็นนิมิตหมายอันดี

แม้ว่าทางวัดยังมีให้บูชาอยู่ แต่ใครศรัทธาก็ต้องบอกว่าให้ไว วัตถุมงคลยุคแรกๆที่หลวงพ่ออนัต์สร้างไว้ก็ทยอยหมดไปที่ละรุ่น ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีนับวันก็มีมากขึ้นแต่ละท่านเท่าทีเห็นไม่เพียงเช่าเพื่อตัวเอง ยังเช่าไปเผื่อพี่น้องลูกหลาน บางท่านที่ประกอบกิจการงาน ยังเช่าไปแจกลูกค้าในวาระสำคัญๆก็มี ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ


ปล. ๑ ท่านผู้รู้กล่าวว่าเส้นเกศาพระอริยเจ้าแม้เพียงหนึ่งเส้นก็คุ้มได้ทั้งบ้าน
๒. หลวงปู่สิมเคยกล่าวว่าวัตถุมงคลที่บรรจุเส้นเกศา ไม่ต้องนำมาเสกซ้ำก็ได้ ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเราเสกเอง
๓. รูปเหมือนองค์นี้ห้อยคอวันแรกก็รับตังค์เลยครับ อึ้งไปเหมือนกัน สาธุ!!!






​

 

ปู ท่าพระ
สมาชิก
๓. รูปเหมือนองค์นี้ห้อยคอวันแรกก็รับตังค์เลยครับ อึ้งไปเหมือนกัน สาธุ!!!

ถ้าองค์ไหนห้อยแล้วไม่ได้ตังค์ ก็มอบเป็นมรดกให้ผม... เพื่อความสะบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับ คุณปู... เห็นชอบด้วยไหมครับ

 

ภาพหลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึง กำลังมนต์น้ำมนต์ธรณีสาร

ปัจจุบัน วัตถุมงคลของหลวงปู่ยังเป็นของดีราคาถูก พบเห็นได้ตามสนามพระหรือบางทีอาจพบได้ตามบ้านใกล้วัดหรือบ้านคนที่เคยไปกราบหลวงปู่ ปะเหมาะเคราะห์ดีพูดคุยถูกอัธยาศัยกันอาจได้แบ่งมาฟรีๆก็ได้

ด้วยธรรมเนียมแต่โบราณเวลาไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์ ท่านมักมีวัตถุมงคลแจกให้เป็นที่ระลึก เป็นอนุสติเครื่องเตือนใจ จะทำการสิ่งใดก็ให้มีสติประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในคำสอนของครูบาอาจารย์ ไปทุกครั้งท่านก็แจกให้ทุกครั้ง ท่านที่ไปบ่อยๆก็มีเก็บไว้มาก แม้ปัจจุบันผมขึ้นไปกราบครูบาพรรณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน หรือ ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ท่านก็มีวัตถุมงคลแจกให้ทุกครั้ง

พระที่ได้รับแจกนี้ บางทีอาจไม่มีราคาค่านิยมตามวงการพระ แต่เป็นพระที่น่าบูชามากด้วยไม่มีพุทธพาณิชย์เข้ามาเกี่ยวข้องกวนใจ แจกกันฟรีๆด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ พระผู้เสกท่านก็เสกให้ด้วยความสบายใจ ว่ากันเต็มที่ จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร

แล้วยิ่งผู้เสกมีพลังจิตระดับสุดยอดขนาดนี้ ทั้งยังได้รับการยอมรับจากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อร่วมยุคสมัยมากมาย หากตัดเสียเรื่องกระแสราคาค่านิยมลงเสียแล้ว พระของหลวงปู่หล้าก็เรียกได้ว่าน่าบูชา น่าอาราธนาติดตัวไว้ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง พระของท่านมีพุทธคุณไม่แพ้พระราคาแพงแน่นอนครับ




สหธรรมิกกับหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา





ต้องเป็นพระที่ทรงภูมิจิตภูมิธรรมขนาดไหน ถึงเคยประกอบพิธีสืบพระชะตาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




หลวงปู่กับอริยาบถสบายๆ


เครดิตในภาพครับ



​

 

หลายสิบปีก่อนผมก็เคยได้ไปกราบหลวงปู่หล้า ที่วัดป่าตึง ไปกับญาติๆ เหมารถตู้ในเชียงใหม่ แต่คนขับไม่ค่อยรู้เสันทาง ขับวนหาทางเข้าวัด และเวลานั้นสายมากแล้ว พอไปถึงที่วัดได้เข้าไปที่ศาลาเห็นหลวงปู่กับชาวบ้านนั่งกำลังทำพิธีสวดมนตร์โดยมีสายสิญญ์โยงจากมือของหลวงปู่ขึ้นมาด้านบนเหนือศรีษะชาวบ้านห้อยลงมาเป็นบ่วงแล้วสวมวางบนหัวคนที่นั่งร่วมพิธีไม่แน่ใจว่าเรียกพิธีสืบชะตารึปล่าว พอผมและญาติๆหาที่นั่งแล้วนำสายสิญญ์มาสวมวางที่ศรีษะเรียบร้อย หลวงปู่ก็เริ่มทำพิธี หลังทำพิธีเสร็จ ผมก็ได้หันมาคุยกับคุณป้าที่นั่งข้างๆกับผมและผมก็บอกกับแกว่าผมหลงทาง แกจึงเล่าให้ผมฟังว่าก่อนผมจะมาถึง หลวงปู่ได้บอกกับชาวบ้านที่มารอทำพิธีว่ารอประเดี๋ยว จนป้าบอกว่าเห็นพวกผมมาถึงที่วัดถึงรู้ว่าหลวงปู่ท่านรอพวกผมอยู่ หลังจากเสร็จพิธีผมและญาติๆเข้าไปกราบหลวงปู่ใกล้ๆท่านแจกเหรียญรูปพระพุทธเล็กๆให้ทุกๆคนในวันนั้น เป็นเหตุการณ์ที่ผมจดจำว่าครั้งหนึ่งได้มีโอกาสกราบไหว้พระอริยะเจ้า

 

ขอบคุณคุณบุศรินทร ที่ได้มาเผยแผ่บารมีครูบาอาจารย์มาถ่ายทอดประสพการณ์ดีๆให้เพื่อนสมาชิกได้ฟังกัน เรื่องราวดีๆแบบนี้หากไม่ได้บันทึกไว้วันหน้าก็อาจเลือนลางไปตามกาลเวลาครับ

 

โพสนี้ขอเวิ่นเว่อนิดนึงนะครับ หลังจากที่ได้คุยปรึกษากับเพื่อนเรื่องที่ผมจะซื้อกล้องมาระยะหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็เคยเดินถ่ายรูปกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ตอนนั้นใช้กล้องฟิล์มกัน ถ่ายกันสนุกๆตามอารมณ์มากกว่าไม่ได้จริงจังอะไร แถมสมัยนั้นการถ่ายรูปยังต้องมีค่าฟิล์มค่าล้างค่าอัดรูปอีก ใช้เงินเยอะอยู่เหมือนกัน ก็เลยเริ่มซาๆจนเลิกถ่ายกันไป

พอเพื่อนเห็นเรากลับมาสนใจเรื่องกล้องอีก ก็อยากเอาด้วย เพราะสมัยนี้เป็นกล้องดิจิตอลแล้วเรื่องค่าฟิล์มค่าล้างหมดไปแถมใครเก่งคอมแต่งรูปให้สวยขึ้นไปได้อีกสารพัดรูปแบบ หลังจากศึกษาข้อมูลกันมาซักพักแล้ว เมื่อวานพอไปลงประชามติกันเสร็จ ก็เลยพาเพื่อนไปจัดมา ของเราต้องรอไปก่อนอีกพักใหญ่ๆเลย งานนี้อิจฉาเพื่อนอย่างแรงส์


​

 

"พระอรหันต์ของบุตรธิดา"

" .. ทำไมจึงว่าความคิดที่ว่า "มารดาบิดาครูอาจารย์ไม่มีบุญคุณเป็นบาป" ก็เพราะมารดาบิดาครูอาจารย์ท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมารดาบิดาด้วยแล้วเป็นผู้มีพระคุณต่อบุตรธิดาเป็นที่สุด

จนพระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า "มารดาบิดาเป็นพระอรหันต์ของบุตรธิดา" พระพุทธองค์นั้นก็ทรงเป็นพระอรหันต์พระองค์หนึ่ง คือพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระคุณเหนือท่านผู้ทรงพระคุณทั้งหลาย แต่กระนั้นก็ทรงกล่าวว่า สำหรับบุตรธิดาแล้วมารดาบิดาเปรียบเหมือนพระอรหันต์ทีเดียว คือทรงพระคุณต่อบุตรธิดาเหนือท่านผู้ทรงพระคุณทั้งหลายทีเดียว

เช่นนี้แล้วบุตรธิดาใดคิดหรือพูดว่า "มารดาบิดาไม่มีบุญคุณต่อบุตรธิดาจึงเป็นการทำบาปกรรมเป็นอย่างยิ่ง" เพียงคิดเท่านั้นไม่ต้องพึงปฏิบัติต่อท่านสถานอื่นก็เป็นบาปกรรมหนักหนาแล้ว "ยิ่งถึงกับแสดงออกทางกายกรรมต่อท่านด้วยแล้ว บาปกรรมนั้นก็พ้นประมาณ ถ้าทำให้ท่านถึงกับเสียชีวิต ก็เป็นอนันตริยกรรม"

การพูดก็ตาม การกระทำอื่นใดก็ตาม ที่ไม่สมควรกับมารดาบิดา ล้วนมีเหตุมาจากความคิดที่ว่า "มารดาบิดาไม่มีบุญคุณทั้งสิ้น"

ดังนั้นจึงกล่าวว่า "ความคิดนั้นเป็นบาป เป็นเหตุแห่งบาปอกุศลอย่างยิ่ง" ผลของบาปนั้นก็ดังได้กล่าวแล้ว เริ่มที่จิตใจของผู้เป็นเจ้าของความคิดที่ไม่ประกอบด้วยเหตุผล ไม่เป็นความจริง ไม่เที่ยงตรง เป็นความร้อนความวุ่น "มารดาบิดาทั้งหลายก็เป็นปุถุชน ย่อมมีเวลาที่ทำสิ่งที่อาจไม่ถูกต้อง ที่เป็นการพลาดพลั้งไปได้มากบ้างน้อยบ้าง"

หากบุตรธิดามีความคิดว่า "ท่านไม่มีบุญคุณเพราะไม่ได้ตั้งใจให้บุตรธิดามาเกิด เวลาท่านพลาดพลั้งไปบ้างหนักนิดเบาหน่อย บุตรธิดาก็มีปฏิกิริยาต่อท่านอย่างรุนแรง" แต่ถ้ามีความคิดอยู่ว่า "มารดาบิดาเป็นผู้ทรงพระคุณของบุตรธิดาแล้ว เวลาท่านพลาดพลั้งไปบ้างตามวิสัยปุถุชน ปฏิกิริยาที่รุนแรงก็จะไม่เกิด" จะน้อยใจเสียใจก็จะเป็นไปแบบธรรมดา ที่มีความเคารพรักในมารดาบิดาเป็นเหตุ ความรุนแรงอื่น ๆ จะไม่ตามมา

ทุกวันนี้ มีข่าวบุตรธิดาประทุษร้ายมารดาบิดาบ่อย ๆ จนบางข่าวก็แทบจะเหลือเชื่อ "คือเป็นการแสดงความอกตัญญูจนเหลือเชื่อ" หรือจะกล่าวว่า เป็นการไม่กลัวบาปกลัวกรรมที่หนักหนาจนเหลือเชื่อก็ถูกเช่นกัน

นี่ก็เป็นเพราะทุกวันนี้ "มีการคิดการพูดการชักชวนให้เกิดความเข้าใจว่า มารดาบิดาไม่มีบุญคุณ" ไม่ได้ตั้งใจให้บุตรธิดามาเกิด ชักชวนให้เห็นไปว่า มารดาบิดาเป็นผู้เห็นแก่ตัวเท่านั้น ซึ่งที่จริงจะหาเหตุผลอะไรมายกให้เห็นว่าเป็นความจริงเช่นนั้นก็หามีไม่

ไม่มีผู้ใดอาจหาเหตุผลมายกประกอบได้เลย ตรงกันข้าม มีเหตุผลบริบูรณ์ที่แสดงว่า "มารดาบิดามีความรักความเมตตากรุณาต่อบุตรธิดายิ่งกว่ามีความรักความเมตตากรุณาต่อชีวิตของท่านเอง" .. "


สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
​

 

ทรงพระเจริญ


เหรียญโมเน่ร์ หลวงปู่ทวด หลังพระนามาภิไธย สก. วัดห้วยมงคล​

 

๑๔ สิงหาคม ครบรอบวันละสังขารหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร


ล็อกเก็ต รุ่นจุลกฐิน ๕๔ ด้านหลังอุดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญคืออังคารธาตุหลวงปู่สิม หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน

ล็อกเก็ตรุ่นนี้นับเป็นของดีราคาถูก ที่ออกโดยวัดสันติธรรม วัดที่หลวงปู่สิมเคยเป็นเจ้าอาวาส หลายท่านอาจนึกว่าจะผสมผงอังคารหลวงปู่ซักเท่าไรเชียว เรื่องนี้ผมคงตอบไม่ได้ ว่ามากน้อยเท่าไรแต่เอาเป็นว่าผสมลงไปก็นับเป็นมหามงคลยิ่งแล้ว ลองนึกดูนะครับเชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยได้ยินได้ฟังกันมามากมายมีผู้เลื่อมใสศรัทธานำผ้าเปล่าไปลูบไล้เช็ดเอาคราบเขม่าควันจากเชิงตะกอน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เก็บอัฐิและเถ้าอังคารของครูบาอาจารย์ไปจนหมดแล้ว นำผ้านั้นกลับมาบูชาวันดีคืนดีหยิบมาดูปรากฎพบพระธาตุอยู่ในนั้น บางท่านนำผ้ากลับมาจุ่มน้ำที่บ้านทำเป็นน้ำมนต์ปะพรมบ้านเรือน ที่เหลือเก็บใส่ขวดไว้ มาดูอีกทีพบพระธาตุอยู่ก้นขวดก็มี เรื่องราวแบบนี้มีให้ฟังกันมากมาย

ก็คงไม่ต้องสงสัยสิ่งใดแล้ว ต่อให้ไม่ผสมผงอังคาร หากเป็นรูปครูบาอาจารย์ที่เราเคารพบูชา เพียงแค่รูปของท่านก็เป็นสิริมงคลเป็นอนุสติเตือนใจให้พึงระลึกถึงคำสอนของท่านแล้วครับ​

 

Cr.ภาพจากเพจครูบาอาจาย์สายล้านนา


งดงามเหนือคำบรรยาย หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศากำลังก้มกราบหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร

ภาพที่ดูกี่ครั้งก็แสนประทับใจในจริยาอันแสนงดงามของครูบาอาจารย์ ที่ท่านแสดงให้ดูเป็นแบบอย่างอันควรประพฤติปฏิบัติ งดงามในคุณธรรมของผู้ไหว้และผู้ถูกไหว้​

 

ประสบการณ์พระกริ่งอุดรราชันย์(พระกริ่ง ๓ รอบ) ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง

Cr.คุณ Bank Krub Passakorn Waingbal












โพสต์เพื่อเผยแผ่บารมีของครูบาครับ สำหรับครูบากฤษดานี้ผมเคยไปกราบท่านครั้งนึงท่านใจดีมากๆ จริงๆตอนขึ้นไปกราบท่านไม่ใช่เวลาที่ท่านลงรับแขกขณะที่กำลังยืนตัดสินใจกันว่าจะเอาอย่างไรดี ครูบาท่านก็เมตตาให้ลูกศิษย์มาตามเราเข้าไปพบท่านได้ ท่านยังพูดหยอกผมว่าเป็นนักดนตรีหรือเปล่ายังระลึกถึงครูบาท่านเสมอครับ​

 

พระกริ่งอุดรราชันย์นี้ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย หนึ่งในนั้นคือขวานฟ้า โดยส่วนตัวผมเองก็สนใจเรื่องของขวานฟ้าอยู่แล้ว พอดีลูกศิษย์ครูบากฤษดาท่านนำคำของครูบาท่านมาบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งหาฟังได้ยากผมเลยถือโอกาสนำมาเผยแผ่ต่อ




Cr.ภาพคุณนัท เชฟ ครอสบรีด

(สำหรับขวานฟ้าเนื้อสัมฤทธิ์นี้ เล่มหนึ่งเป็นมรดกจากครูบาชัยยะวงศ์นำมาผสมในพระกริ่งรุ่นนี้)




ขวานฟ้าหินคุณRawut ถวายให้ครูบากฤษดา



​

 

๑๗ สิงหาคม ครบรอบวันละสังขาร

ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า



"ครูบาพรหมจักรน่ะ เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งอีกน๊ะ..!!!???!!!"

(หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)​

 

เมื่อกล่าวถึงวัตถุมงคลที่เป็นเนื้อขวานฟ้าอันดับหนึ่งในวงการ คงต้องยกให้เหรียญขวานฟ้าหลวงปู่หลุย ซึ่งท่านได้เล่าความเป็นมาของโลหะขวานฟ้าแก่ลูกศิษย์ว่าสมัยที่เดินธุดงค์อยู่บนเถือกเขาสูง หากพบว่ามีฟ้าผ่าลงที่ใดเมื่อเดินไปดูจะพบขวานฟ้าตกอยู่ ท่านก็เก็บมาไว้ คณะศิษย์ก็ขออนุญาตหลวงปู่นำไปสร้างเป็นเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ และเหรียญนี้ใช่ว่าใครจะได้มาบูชาง่ายๆ ผู้อยากได้ต้องไปขออนุญาตจากหลวงปู่ท่านจะทำการ "ม้างกาย" พิจารณาดูว่าคนผู้นี้เหมาะที่จะได้รับของสูงค่านี้ไปบูชาหรือไม่

ซึ่งปัจจุบันนี้สนนราคาก็สูงลิ่วจนเกินกว่าคนหาเช้ากินค่ำจะหามาบูชาได้ พระกริ่ง ๓ รอบ ของครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ที่ผสมขวานฟ้าด้วย ปัจจุบันสนนราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ยุคหลังมานี้ก็มีวัตถุมงคลที่ผสมขวานฟ้าของครูบาอาจารย์อีกหลายท่านที่สนนราคายังพอจับต้องได้ แต่ผมไม่มีความรู้ก็จะไม่ขอกล่าวถึง จะขอแนะนำในส่วนที่รู้คือพระกริ่งขวานฟ้าโลกอุดร ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม





สำหรับพระกริ่งขวานฟ้า ของครูบาวงศ์นั้น ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ มีอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว น่าจะเป็นพระกริ่งขวานฟ้ารุ่นแรกหรือรุ่นแรกๆของเมืองเหนือเลยทีเดียว(รอเป็นตำนานต่อไป) จำนวนการสร้างก็ไม่ได้มากมายประมาณ ๑๕๐๐ องค์เท่านั้น ซ้ำเท่าทีเคยผ่านตามาตอนไปเช่าที่วัดประมาณค่อนกล่อง(เป็นกล่องสุดท้ายที่พบตกค้างอยู่ที่กุฏิหลวงปู่ ประมาณ ๘๐ องค์) ผิวพระก็เป็นหลุมเป็นบ่อ หล่อไม่เต็มบ้างตามลักษณะของพระหล่อ ก็หลายองค์ วันหน้าองค์ที่สวยๆคงน่าจะหาได้ยาก




ณ วันนี้พระกริ่งขวานฟ้าครูบาวงศ์ ราคายังพอจับต้องได้ เมื่อดูอายุการสร้าง มวลสารขวานฟ้ายุคแรกๆ ครูบาอาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิต ไม่ว่าครูบาอิน ครูบาดวงดี ครูบาหน้อย หลวงปู่ทองดำ ครูบาดาบส ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกระบี่มือหนึ่งแห่งยุคที่ได้รับการยอมรับ น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง





วัตถุมงคลชุดขวานฟ้าโลกอุดร ครูบาวงศ์นี้มีหลายรายการ ทั้งพระกริ่ง เหรียญหล่อ พระสมเด็จ แต่พระกริ่งคือองค์เอกหรือองค์หลักของรายการ พระกริ่งคือจักรพรรดิของพระหล่อที่สามารถอธิษฐานได้ครอบจักรวาล ผู้รู้จึงกล่าวว่าผู้ที่จะเสกพระกริ่งให้เป็นพระกริ่งได้ต้องเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยบุญบารมี มิฉะนั้นพระกริ่งจะเป็นเพียงพระกระดิ่ง(สำนวนจีนก็คือมีแต่กระบวนท่าแต่ไร้กำลังภายใน)






สำหรับหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา คงไม่ต้องกล่าวสิ่งใดให้มากความ ในบุญบารมีและสรรพวิชาความรู้ที่ท่านได้สั่งสมมาไม่รู้กี่อสงไขย พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญเพียรเพื่อพระโพธิญาณในเบื้องหน้า มหาฤาษีวาสุเทพหนึ่งใน ๖ มหาฤาษี ผู้ทรงฤทธิ์สูงสุด ที่มีหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนาให้ยาวนานครบ ๕๐๐๐ ปี​

 

หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศากับพระบรมสารีริกธาตุ เกิดลำแสงสีทองพาดผ่านเบื้องหน้า

ครูบาชัยยะวงศานี้มีบารมีทางพระธาตุมาก มีพระธาตุเสด็จมาปรากฏแก่ครูบาให้ลูกศิษย์ได้เห็นอยู่เสมอๆ แม้หลวงปู่สิม ถ้ำผาปล่อง ยังเคยยกย่องว่า "ครูบาวงศ์องค์นี้ มีพระธาตุมากจริงๆ"








ครูบาเหยียบศิลาเป็นรอย

รอยเท้าของครูบาวงศ์ ที่ท่านเหยียบประทับไว้เป็นที่ระลึกเป็นที่กราบไหว้แก่ผู้เลื่อมใสศรัทธานั้นมิได้มีเพียง หนึ่งรอย หรือสองรอยเท่านั้น แต่มีนับเป็นสิบๆรอย ต่างวาระต่างสถานที่กัน ท่านทำได้อย่างง่ายดาย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาราวกับเหยียบลงไปบนดินเลนที่อ่อนนุ่ม ทำได้ตั้งแต่เป็นพระภิกษุหนุ่ม น่าอัศจรรย์ใจในจิตานุภาพของท่านยิ่งนัก

แม้ในสมัยที่ไปช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ พลังจิตอันกล้าแข็งของท่านก็เคยสำแดงเบื้องหน้าครูบาศรีวิชัยมาแล้ว กล่าวคือมีทางอยู่ช่วงหนึ่งมีหินก้อนใหญ่ขวางทางอยู่แม้คนงานจะเอาช้างมาผลักดัน หรือเอาไฟเผาหินให้ร้อนแล้วเอาน้ำราดเพื่อให้หินแตกออก ก็ปรากฏว่าไม่มีการขยับหรือสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย จึงนำความไปแจ้งแก่ครูบาศรีวิชัย ท่านให้คนไปตามครูบาวงศ์ที่กำลังแผ้วทางอยู่อีกช่วงหนึ่งไปดู ครูบาวงศ์ท่านยืนพิจารณาอยู่ชั่วครู่แล้วเอามือผลักก้อนหินกลิ้งตกเขาไปอย่างง่ายดาย ท่ามกลางความตกตะลึงและสีหน้าอันพึงพอใจของครูบาศรีวิชัย

ท่านทำได้ตั้งแต่ยังหนุ่ม ทั้งหมดทั้งมวลถูกบรรจุไว้แล้วในวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตไว้ให้เป็นที่ระลึก ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีวาสนาบารมีกับท่าน หากใครเคยศึกษาประวัติครูบาท่าน จะพบว่าท่านชอบลองใจคน การที่ทุกวันนี้วัตถุมงคลของท่านยังถูกอยู่ เสมือนเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาท่านอย่างแท้จริงได้มีโอกาสเช่าหาพระของท่านไว้บูชาในราคาถูก(ส่วนคนที่เล่นพระตามกระแสจะมองข้ามพระของท่านไป อย่างน่าเสียดาย) นับเป็นความเมตตาของครูบาท่านยิ่งนัก

แม้ตัวผมเองก็ประสบมาแล้ว ความเลื่อมใสศรัทธาในครูบาท่านส่งผลให้ช่วงสองปีที่ผ่านมาขึ้นล่องวัดพระพุทธบาทห้วยต้มนับสิบเที่ยว ต้องอดหลับอดนอนเดินทางออกจากบ้านกันแต่ห้าทุ่มเที่ยงคืนเพื่อไปถึงวัดแต่เช้าและเดินทางกลับช่วงบ่าย หนทางก็แสนไกล(สมชื่อ อ.ลี้ จริงๆ ไกลลี้มาก) เดินทางขึ้นเขาอันแสนแคบและคดเคี้ยว ครั้งนึงเกือบเจอรถพ่วงเสยดีที่บารมีครูบาท่านคุ้มครองเลยปลอดภัย ทั้งพระท่านก็ไม่ใช่อยู่ในกระแสความนิยมอะไรแต่เราก็เดินทางไกลไปบูชาด้วยใจศรัทธาครูบาท่านจึงมอบของขวัญสุดพิเศษ ด้วยพระกริ่งขวานฟ้าโลกอุดร และรูปเหมือนรุ่นเมตตามหาลาภ เป็นพระที่หมดไปจากวัดนานแล้ว แต่สุดท้ายก็ไปพบตกค้างอยู่ ไม่ได้อธิษฐานขอเพียงนึกในใจว่าคงต้องไปปิดเอาตามเว็บ เพียงนึกเท่านี้ท่านก็เมตตามอบให้ทันทีได้ทำบุญกับวัดด้วย เพิ่มความอิ่มใจ ได้ทั้งบุญได้ทั้งของดี


พระกริ่งขวานฟ้าองค์นี้เดิมทีใส่อยู่ในตลับ แต่เมื่อเลี่ยมรูปหล่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีแล้ว เลยถอดพระกริ่งจากตลับมาเลี่ยมพลาสติกด้วยเลย ข้อดีของการเลี่ยมพลาสติกก็คือนอกจากจะป้องกันเหงื่อหรีอน้ำมาทำลายผิวพระแล้ว พระกริ่งที่เลี่ยมพลาสติกนี้จะได้ยินเสียงกริ่งที่ดังชัดกังวานกว่าใส่ตลับเพราะมีแผ่นยางดูดซับเอาแรงสั่นสะเทือนเอาไว้ เสียงกริ่งนี้ทางทิเบตหรือมหายานจะทำเพื่ออะไรก็ตามความเชื่อของเขา แต่สำหรับผม พอขยับตัวไปมาจะได้ยินเสียงกริ่ง(กึ กุสโล)ก็เป็นการดึงสติที่ล่องลอยไป หรือความฟุ้งซ่านให้กลับมาอยู่กับองค์พระ นึกถึงพระที่เราแขวนคออยู่ ระลึกถึงคำสอนของครูบาอาจารย์ ผมว่าก็เป็นอุบายที่ดีนะครับ​

 

ประสบการณ์พระสมเด็จองค์ปฐมช่วยชีวิต


ด้วยอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย หากเรายึดมั่นในคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์มีวัตถุมงคลติดตัวเป็นอนุสติ ในยามที่เกิดเหตุเภทภัยอันตรายใดๆ หากไม่เกินกฏแห่งกรรมแล้วไซร้ พระพุทธคุณแห่งองค์พระหรือครูบาอาจารย์ย่อมช่วยปัดเป่าให้มลายหายไปตามเหตุตามปัจจัย ที่ต้องเสียมากก็เสียน้อย ที่ต้องเสียน้อยก็อาจไม่ต้องเสียเลย เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีโพสต์ไว้ในเพจพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี)วัดท่าซุง ขอนำมาเผยแผ่บารมีหลวงพ่อครับ














ขอขอบคุณคุณศักรินทร์ ตระกูลทองอ่อน(ฟ้าใส ฝนซา) ที่นำประสบการณ์มาบอกเล่ากันครับ

ปล.คุณศักรินทร์กับคุณฟ้าใส เป็นคนเดียวกัน แต่ iphone กับsumsung ทำไมขึ้นคนละชื่อก็ไม่ทราบ​