><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$




    612.พร้อมใช้สวยเดิม เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์
    ยอดประสบการณ์ อ.หม่อม จัดสร้างทูลเกล้าถวายพระราชทานทหารชายแดนใต้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    thumb-6A3E_57D2CEFF.jpg thumb-C117_57D2CEFF.jpg thumb-22FA_57D2CEFF.jpg
    เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์สุขาวดีภูมิไตรโลกาโลกนาถ เนื้อผงมหาพุทธคุณสีแดง (สำหรับแจกตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อ วันที่ 24 พฤศจิกายน ปีพ.ศ.2552 โดยอาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ วัตถุประสงค์หลักในการสร้างคือ นำไปแจก ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และ ประชาชน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งแจกผู้ไปร่วมพิธี อีกส่วนหนึ่ง ไม่มีการจำหน่าย พุทธคุณ เน้นทางด้าน มหาอุด คงกระพัน และ แคล้วคลาด

    ประกอบพิธีจักพรรดิ์มหาพุทธา เทวาธิเษก
    : เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ปีพ.ศ.2552 ณ วัดหนองตะเคียน ตำบลบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ( เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นที่ประทับแรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในขณะออกศึกในสมัยนั้น ) บริเวณพระอนุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชภายในวัด


    โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก พระพรหมวชิรญาณ ( ประสิทธิ์ เขมังกโร ) กรรมการมหาเถรสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์

    ส่วนเจ้าพิธีพุทธาภิเษก ฝ่ายสงฆ์นั้น คือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดบ้านโนนแกด และ เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาสนั้นคือ นายจักรพรรดิ โพธิสัตว์ทองคำ ( อาจารย์หม่อม ) และพระคณาจารย์ร่วมพิธีอีกมากมาย

    ซี่งถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของเมืองศรีสะเกษ อีกวันหนึ่ง เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ เสด็จมาเป็นประธานในพระราชพิธี มหาพุทธาภิเษก วัตถุมงคลพระราชทานไปแจก ทหาร ตำรวจ ภาคใต้ ประสบการณ์เหลือกินในพื้นที่

    อาจารย์หม่อม
    เป็นอาจารย์ที่เหล่าคนในวังต่างรู้จักกันดี และเป็นผู้ที่ประกอบพิธีในวัง หรือจะเรียกว่า อาจารย์สายวัง หรือ (นายศุภณัฐ ชัยชนิตย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส. เจ. ทนายความและการบัญชี จำกัด)


    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ใหม่กริ๊บ พร้อมอัดกรอบกันน้ำอย่างดีพร้อมใบูชาค่ากรอบก็ร้อยกว่าบาทแล้วครับ รอยที่เห็นบนกรอบพระคือรอยแสงสะท้อนไม่ใช่รอยเปื้อนนะครับ พระไม่ช้ำไม่ได้ใช้แทบไม่อยากแกะออกให้โดนมือแม้แต่นิดเดียวเลยครับ พุทธคุณครอบครบ คลาดแคล้วปลอดภัย ไม่สวยไม่สวยคืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 370 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2018
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334



    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$




    613.ยอดมวลสารพระอรหันต์(๑) พระผงพระธรรมจักร พระอาจารย์จวน วัดภูทอก
    ลป.ขาว,ลป.เทสก์,ลป.อ่อน ร่วมเมตตาอธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-4D85_5978B29B.jpg

    พระผงพระธรรมจักร พระอาจารย์จวน วัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) จังหวัดหนองคาย เนื้อผงมหาพุทธคุณ สีแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2519 โดย คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ศิษย์ก้นกุฏิของท่านพระอาจารย์จวน และบรรดาคณะศิษย์ เพื่อเป็นที่ระลึกสมทบทุนทอดกฐินและผ้าป่า ในการบูรณะเสริมสร้างสะพานลอยรอบเขา “ภูทอก” ให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น

    จำนวนการสร้าง ทั้งหมดรวม 93,409 องค์
    - เนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จ
    - เนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด
    - เนื้อพิเศษ “นอกวัง” จัดทำเป็น 4 สี สีละ 2,100 องค์ รวม 8,400องค์
    - เนื้อแดง 84,000องค์

    - บรรจุกรุเข้าในพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านอาจารย์ จำนวน 40,000 องค์

    พระผงที่จัดสร้างนี้ ด้านหน้า : สร้างเป็นรูปปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ส่วนด้านหลัง : เป็นรูปเจดีย์ทั้งสามแสดงถึงวาระแห่งการประสูติ ตรัสรู้และนิพพาน

    ข้อมูลประวัติการจัดสร้าง
    คณะกรรมการได้จัดสร้างพระธรรมจักรทั้งหมดรวม 93,409 องค์

    โดยทำเนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ครบทุกพระองค์ และได้จัดทำเนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด นั่นเป็นเนื้อพิเศษ “ในวัง” ทีนี้ก็เป็นเนื้อพิเศษ “นอกวัง” จัดทำเป็น 4 สี สีละ 2,100 องค์ เรียกว่าชุด “จตุรงค์ 4 สี” ประกอบด้วย
    1. สีเขียว แทนวาระประสูติ หมายถึง ความรื่นเริงของ 3 แดนโลกธาตุ ที่ทราบถึงการอุบัติของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

    2. สีขาว แทนวาระตรัสรู้ หมายถึง ความสว่างเจิดจ้าของ “ธรรม” ที่ทรงรู้ทรงเห็น จนสามารถเด็ด “อวิชชา” ออกจากพระทัยได้

    3. สีชมพู แทนวาระปฐมเทศนา หมายถึงอาทิตย์อุทัย เปรียบได้กับการเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา

    4. สีดำ แทนวาระปรินิพพาน หมายถึงความโศกสลดของหมู่มนุษย์ และทวยเทพ ที่อาลัยรักในพระพุทธองค์

    ทุกสีที่ว่ามามีมวลสารอย่างเดียวกันหมดในเนื้อพระ แต่สีที่ต่างกันก็ด้วยเน้นหนักของมงคลบางอย่างลงเป็นพิเศษ คือ

    สีเขียว เน้นด้วยกระเบื้องสีเขียวหลังคาวัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, จันทน์หอมจากภูทอก และที่สำคัญ เตยหอมภูทอก ซึ่งท่านพระอาจารย์จวนได้อธิษฐานจิตให้ว่า “จะแตกไปกี่กอ ทุกต้นทุกกอคือเราเสกไว้แล้ว”

    สีขาว เน้นด้วยเกสรดอกไม้, ผงงาช้าง, กระเบื้องขาววัดบวรนิเวศ และวัดราชบพิธ

    สีชมพู เน้นด้วยชานหมากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปฏิบัติทั้งสิ้น, หินแดงจากภูทอก และที่สำคัญสุดยอด โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ซึ่งเทพที่รักษามาขอให้ท่านอาจารย์นำออกจากถ้ำบูชาภูวัว ไปแจกจ่ายแก่ประชาชน เทพเหล่านั้นจะได้ได้บุญด้วย

    สีดำ เน้นด้วยพระผงงิ้วดำ, เบ้าหล่อพระพุทธรูป ภปร. และข้าวสารดำที่มีอายุถึง 3,000 ปี นี่เป็นมวลสารที่เป็นตัวหลัก ซึ่งใช้เฉพาะเจาะจงลงไปที่พระชุดพิเศษ 4 สี เท่านั้น

    ต่อไปจะเป็นมวลสารทั้งหมดทั้งปวง ที่ใช้ผสมในพระพิเศษ 4 สีด้วย และพระธรรมดาสีแดงที่มีจำนวนจัดสร้างเท่าพระธรรมขันธ์ คือ 84,000 องค์ ด้วย ดังต่อไปนี้

    1. ดิน ใช้ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง คือ ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ดินจากที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์, ดินเชตวันมหาวิหาร, ดินรอบสถูปพระสารีบุตร, ดินสถูปพระโมคคัลลาน์, ดินสถูปพระอานนท์, ดินสถูปพระมหากัสสาปะ, ดินสถูปพระอนุรุทธ, ดินสถูปพระราหุล, ดินสถูปพระกัจจายนะ, ดินสถูปพระองคุลีมาล, ดินในถ้ำสุกรขาตา, ดินจากเขาคิชฌกูฏ และดินในพระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธองค์เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่

    มีเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับดินที่พระคันธกุฏีนี้ กล่าวคือ ครั้งหนึ่งคุณสุรีพันธุ์เป็นหัวหน้าทีมนำคณะพระกรรมฐานอันประกอบด้วยหลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และคณะศิษย์ไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ในอินเดีย

    ขณะที่เดินขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏนั้น ครั้นใกล้ถึงพระคันธกุฎี ท่านพระอาจารย์วันกับท่านพระอาจารย์จวนก็ออกวิ่งเหยาะๆนำไป คุณสุรีพันธุ์ประหลาดใจนัก เพราะปกติพระจะไม่วิ่ง ยิ่งเป็นท่านอาจารย์ทั้งสองแล้ว นับแต่เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันมา ท่านเรียบร้อยที่สุด ลงถ้าท่านวิ่ง ถึงจะช้าๆ แต่เหตุต้องไม่ใช่เรื่อง “ธรรมดา” คุณสุรีพันธุ์จึงตัดสินใจวิ่งตาม

    เมื่อถึงคันธกุฎีก็ทันเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึก ด้วยดินใกล้ๆกับที่ท่านอาจารย์ยืนอยู่เกิดการเต้นกระโดดน้อยๆ ชวนขนลุกขนพอง

    ขณะที่ตะลึงพรึงเพริดอยู่นั่นเอง ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ก้มลงเก็บดินเหล่านั้นขึ้นมาจำนวนหนึ่ง และเก็บอยู่กับท่านเป็นแรมปี จวบจนมีการสร้างพระธรรมจักร ท่านอาจารย์ทั้งสองจึงได้มอบดินอัศจรรย์นั้นมาให้ผสมเนื้อ

    ไม่ขลังคราวนี้จะไปขลังคราวไหน !!

    2. ใบไม้มงคล ใบโพธิ์ที่ประสูติ ลุมพินีวัน, ใบโพธิ์ตรัสรู้ พุทธคยา, ใบสาละที่ปรินิพพาน กุสินารา, ใบโพธิ์ที่หลังพระคันธกุฎี และใบโพธิ์พระอานนท์ ณ เชตวันมหาวิหาร

    3. เส้นเกศา หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    มีเรื่องแปลกอีกเกี่ยวกับเส้นเกศา กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการกำลังรวบรวมเส้นเกศาอยู่นั้น จู่ๆก็มีพระรูปหนึ่งมาหานำเส้นเกศากับชานหมากจำนวนหนึ่งมาให้ พร้อมแจ้งว่า “หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ สั่งให้เอามาให้ เพราะทราบว่าคุณสุรีพันธุ์จะสร้างพระ” คุณสุรีพันธุ์บอกว่าน่าประหลาดนัก การสร้างพระธรรมจักร ดูจะเป็นงานใหญ่ก็จริง แต่ก็ทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในเท่านั้น หลวงปู่คำดีทราบได้อย่างไร เพราะในเวลานั้น

    คุณสุรีพันธุ์ไม่เคยรู้จักท่านเลย !!

    เมื่อสืบเสาะภายหลังจึงทราบความว่า หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย เป็นศิษย์องค์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเมื่อพระราชทานเพลิงศพท่านแล้ว อัฐิหลวงปู่คำดี ก็แปรสภาพเป็นธาตุดุจเดียวกับองค์อาจารย์

    4. ดอกไม้ ผงธูป ทองคำเปลว จากพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช, พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, พระธาตุพนม จ.นครพนม, พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร, พระร่วงโรจนฤทธิ์ จ.นครปฐม, หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา, พระมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดบวรนิเวศ, วัดราชบพิธ, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม

    5. ดอกไม้ ผงธูป จากที่บูชาพระ-สวดมนต์ของสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฒฑโน), หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี), หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระครูญาณทัสสี (คำดี ปภาโส), พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (วัน อุตตโม), ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร, พระครูปลัดสัมพิพัฒเมธาจารย์ (ไพบูลย์ สุมังคโล)

    6. ชานหมาก ข้าวก้นบาตร ก้นบุหรี่ ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระวัน อุตตโม,ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    7. พระชำรุดนำมาบด ได้แก่ พระพุทธรูปอายุ 1,000 กว่าปี ที่ท่านพระอาจารย์จวนธุดงค์ไปพบในถ้ำแถบภูสิงห์ ภูวัว, พระสมเด็จวัดระฆัง และบางขุนพรหม, พระดินเผาสมัยสุโขทัย, พระผงกรุวัดสามปลื้ม, พระผงงิ้วดำ, พระพิมพ์วังหน้า

    8. มวลสารมงคลอื่นๆ ได้แก่ โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหลจากถ้ำบูชา, ผงงาช้าง, เขากวางคุด, แก่นจันทน์หอม นำมาจากถ้ำจันทน์ดินแดนอาถรรพณ์, ไม้มะขามจากถ้ำขาม ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร, กระเบื้องไม้หลังคากุฏิของหลวงปู่ขาว อนาลโย, หินแดงบนภูทอก, ไม้กลายเป็นหิน ซึ่งหลวงปู่ฝั้นเมตตาสกัดให้ด้วยองค์ท่านเอง, ข้าวตอกพระร่วง จ.สุโขทัย

    โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ที่ท่านพระอาจารย์จวนมอบให้นั้น คุณสุรีพันธุ์ได้ให้กองกษาปณ์ป่นเหล็กไหลทั้งหมดให้เป็นผงด้วยเครื่องบดพิเศษ เป็นเหล็กเหนียว ชื่อว่า “ไททาเนี่ยม” ว่ากันว่าเป็นเหล็กที่แข็งที่สุด ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่า กว่าจะหมด 1 กะละมัง เครื่องสึกไปจนใช้อีกแทบไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าใคร “เหล็ก” กว่าใคร

    เมื่อบดมวลสารทุกชนิดพร้อมสรรพ ก็ทำการกดพิมพ์เป็นองค์พระ โดยใช้ระบบอัดแรงสูง นั่นคือความประสงค์ของคณะกรรมการ เพราะไม่ต้องการผสมเนื้อปูน หรือกาวอะไรๆ ลงในพระ ดังนั้นพระทั้งหมดจึงมีแต่มวลสารล้วนๆ

    มาถึงการอธิษฐานจิต คุณสุรีพันธุ์บอกว่า ส่วนใหญ่จะอธิษฐานองค์ละ 1 คืน ทั้งสิ้นมีรายนามดังต่อไปนี้
    1. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    2. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    3. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    4. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    ***
    5. ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    6. ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    7. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


    ***หมายเหตุ: เรื่องรายนามพระเถระที่อธิษฐานจิตพระผงธรรมจักรนี้ คุณ im ได้โพสท์ไว้ในเวบ www.udon108.com เมื่อ: 18 เมษายน 2552 หัวข้อ: พระผงธรรมจักร ระบุว่า "ได้สอบถามไปยังผู้สร้างแล้วยืนยัน หลวงตามหาบัวไม่ได้อธิษฐานด้วยครับ"

    พระมหาเถระผู้ประเสริฐทุกองค์ที่อธิษฐานจิตให้ดังกล่าว เป็นพระที่ผมกล้าออกปากได้โดยไม่เคอะเขินว่า ท่านถึงพร้อมด้วย “วิชชา” และ “วิมุตติ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่จะพูดเอาโก้เก๋ประการใด

    อย่างนี้สิถึงเรียกว่า “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง” ได้เต็มคำ

    ค่าบูชาในตอนนั้นกำหนดว่า 20 บาท จะได้รับพระธรรมจักรแบบธรรมดา 1 องค์ และ 100 บาท จะได้รับพระธรรมจักรชุดพิเศษ จตุรงค์ 4 สี จำนวน 1 ชุด

    จำนวนพระแม้จะดูค่อนข้างมาก แต่หาในสนามไม่เคยพบ เพราะคนที่ได้ไว้ต่างก็หวงแหนสุดแสนจะเอ่ย และก่อนท่านอาจารย์จวนมรณภาพ ท่านเคยปรารภว่าอยากให้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระธรรมจักรจำนวนครึ่งหนึ่งเอาไว้เพื่อสืบพระศาสนา

    ในปัจจุบัน คุณหญิงสุรีพันธุ์ หรือ “เส” ของพระอาจารย์จวนได้สนองดำริของท่าน โดยบรรจุพระธรรมจักรจำนวน 40,000 องค์ เข้าในพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านอาจารย์ ณ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ใครว่าง ใครมีโอกาสขอเชิญไปชมทัศนียภาพที่สุดจะงาม อากาศที่แสนบริสุทธิ์สดชื่นแท้ๆ ที่ภูทอก ไปเดินรอบภูด้วยสะพานอัศจรรย์ อันเกิดจากแนวความคิดและฝีมือขององค์ท่านอาจารย์เอง ไปภาวนาให้เกิดความสงบเย็นใจสักครั้งในชีวิตก็ยังดี เผื่อจะได้พบทางคลี่คลายอุปสรรคบ้าง

    และถ้าอยากได้พระธรรมจักรอันทรงฤทธิ์ ลองไปอธิษฐานดูที่นั่

    จากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ฉบับวันที่ 1 มกราคม 2540

    รายละเอียดทั้งหมดตามลิงค์เลยครับ ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ
    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-juan/lp-juan-hist-11.htm

    สภาพคราบว่านเดิมๆ ผิวหิ้งสวยเดิม กดไม่ติดบ้าง เนื้อลอกบ้างเล็กๆน้อย เนื้อหาสุดเข้มขลังพร้อมคราบไขว่านของดีสุดยอดพิธี เอาไว้เลี่ยมกรอบกันน้ำติดตัวได้สบายเลย ถ้าสภาพสวยๆหลายตังค์ครับ พุทธคุณครอบจักรวาล แบ่งให้บูชา 2,200 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณpromma2481 จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$




    614.สวยเดิมแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์(New1) พระกริ่งปวเรศ-พระชัยวัฒน์ แผ่นดินไหว

    หลวงปู่แว่น วัดถ่ำพระสบาย อธิษฐานจิตเต็มไตรมาสปี38

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-765E_5978E075.jpg

    image-4a29_592127c1-jpg.jpg
    image-e577_592127c1-jpg.jpg
    พระกริ่งปวเรศ-พระชัยวัฒน์ดินไหว รุ่นมหามงคลไตรมาส38 หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ่ำพระสบาย จังหวัดลำปาง เนื้อทองทิพย์ ก้นปิดแผ่นจาร ไตรมาส ๓๘ และปั้มอักขรขอมอ่านว่า “ว” จัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2538 ผู้ที่สร้างถวายหลวงปู่คือ ครูบาแก้ว(พระทวีโชค สัจจวโร ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่) ดำเนินการจัดสร้างและประกอบพิธีโดย คุณชินพร สุขสถิตย์ (ลูกศิษย์คนสนิทและผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร อันโด่งดังให้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) แบบพิมพ์พระใช้วิธีการถอดแบบ จากพระกริ่งปวเรศปี30 ของวัดบวรนิเวศฯ 60ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวนการจัดสร้าง 3,989ชุด มูลนิธิให้บูชาชุดละ 2,500บาท

    พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์แผ่นดินไหว
    ใช้กรรมวิธีเททองหล่อช่อตัดทีลองค์แบบโบราณ ตะไบก้นปิดฝา ขั้นตอนและวิธีการทั้งหมดทุกขั้นตอนดำเนินการตามโบราณกาล โดยหลวงปู่ท่านเมตตาตรวจดูความเรียบร้อยของพระกริ่ง รวมถึงท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตใหอย่างเต็มเปี่ยมตลอดไตรมาสในปี พ.ศ.2538โดยไม่ขาดแท้แแต่วันเดียว พิธีของพระกริ่งปวเรศเป็นพิธีใหญ่ที่สุดของวัดถ้ำพระสบาย แม้แต่หลวงปู่หลวง ฯ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ก็มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก ในวันออกพรรษาที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2538 หลังจากที่หลวงปู่นั้งภาวนาทุกวันวันละ 3ชั่วโมง ตลอด 3เดือน

    ก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน นำพระกริ่งธนปาโลทั้งหมดทุกเนื้อไปส่งถึงวัดเมื่อประมาณ 2 ทุ่มเศษนำพระกริ่งทั้งหมดเข้าไปไว้ในกุฏิ หลวงปุ่แว่นในคืนนั้นเพื่อท่านจะได้ทำพิธีตอนเช้ามืดวันแรกของพรรษาปี พ.ศ.2538 เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วภาคเหนือ ความสั่นสะเทือนเกือบ 7 ริกเตอร์ และเวลาเดียวกับพี่หลวงปู่แว่นท่านทำพิธีปลุกเสกพระกริ่งธนะปาโล

    แสดงว่าฟ้าดินรับรู้ว่าของวิเศษบังเกิดขึ้นแล้วหลวงปู่แว่นท่านปลุกเสกพระกริ่งธนะปาโล ตลอดพรรษา พ.ศ.2538 และทำพิธีพุทธาภิเษก เดี่ยวอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2538



    ขอมูลโดยละเอียด จากเว็บอิทธิญาโณ
    เขียนโดย ชินพร สุขสถิตย์
    อังคาร, 15 มกราคม 2008

    พระกริ่งแผ่นดินไหว สุดยอดสิ่งศักดิ์สิทธิเกิดขึ้นในโลกแล้ว หลวงปู่แว่น ธนปาโล

    ก่อนเข้าพรรษาปี ๒๕๓๘ ครูบาแก้ว ศิษย์ผู้ใกล้ชิดองค์หนึ่งของหลวงปู่แว่น ธนาปาโล วัดถ้ำเขาพระสบาย ให้คุณธรรมโชติ ลังกาวี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าแม่เมาะ มาตามผมไปหาที่วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง ขอให้ผมช่วยสร้างพระกริ่งให้หลวงปู่แว่น ธนะปาโล ศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตเถระ พระอาจารย์ใหญ่สายพระป่า เพื่อหาปัจจัยมาก่อสร้างเพิ่มเติมเสนาสนะที่ยังค้างอยู่ หลวงปู่แว่น ถามผมเป็นประโยคแรกเมื่อผมกราบท่านแล้ว “จะมาสร้างพระให้อาตมาพระที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง” ผมตอบท่านว่า พ่อผม แม่ผม พ่อตาผม แม่ยายผม ทั้ง ๔ ท่าน ตายที่บ้านผมทุกคน หลวงปู่แว่น ท่านบอกใช้ได้ ให้ผมช่วยสร้างพระกริ่งให้ท่านๆ จะปลุกเสกตลอดพรรษาทำให้เสร็จก่อนเfข้าพรรษา ส่วนรูปแบบ ชื่อ แล้วแต่ผม แม้แต่ฤกษ์ยามการเท ท่านก็ให้ผมจัดการทั้งหมด
    ผมเสนอครูบาแก้วผู้มาชักนำผมว่า ผมจะถอดแบบพระกริ่งปวเรศของวัดบวรนิเวศฯ เพราะเป็นพระสายธรรมยุทธ ด้วยกันและตั้งชื่อพระกริ่งธนปาโล ตามฉายาของหลวงปู่แว่น ส่วนฤกษ์ยามเททองนั้นหลวงปู่แว่นท่านพ้นแล้วไม่ยึดติดเรื่องเวลาเททองเทเมื่อไรก็ได้ตามแต่ผมจะสะดวกประการสำคัญพระกริ่งทุกองค์ต้องสร้างเพื่อปลุกเสกตลอดพรรษา

    ผมนำพระกริ่งธนปาโลขึ้นไปเททองที่วัดเขาถ้ำพระสบาย ระหว่าง สุมทองสำรอกหุ่น นายเล็ก แซ่แต้ น้องเมีย ช่างถนอม นครอินทร์ (ช่างหล่อพระกริ่งปวเรศ ๖๐ ปีในหลวง) สุ่มหุ่นอยู่คนเดียวประมาณตีสาม ผมเดินลงมานายเล็ก บอกผมด้วยเนื้อตัวสั่นว่า เมื่อกี้นี้มีผู้หญิงสาวสวยนุ่งขาวห่มขาวผมยาวมาจากไหนไม่รู้เอาน้ำมาพรมหุ่น คิดว่าผีหลอกโคดหลบมาแอบหลังรถ ไปเทพระมาไม่รู้กี่วัดไม่เคยพบแบบนี้เลย เมื่อผมไปนิมนต์หลวงปู่แว่นออกมาเททองหล่อ พระกริ่งธนะปาโล ประมาณ ๐๘.๑๙ น. แล้วกราบเรียนท่านถึงเรื่องนี้ ท่านบอกว่า เขาเอาเงินเอาทองมาช่วยสร้างวัด ผมสงสัยถามว่าใครครับ ท่านบอกว่า เจ้าแม่จามเทวีและผู้เป็นใหญ๋ในสยาม เขาอยู่ที่นี้มาแล้ว ๗๐๐ ปี พูดพลางท่านก็ชี้มือไปที่ภูเขา ขณะหลวงปู่แว่นเททองหล่อพระกริ่งผมอธิฐานไปด้วยว่า ถ้าเรื่องที่ช่างเล็กเห็นผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวผมยาวปะบามาพรหมน้ำมนต์ และที่หลวงปู่แว่น บอกเจ้าแม่จามเทวีเอาเงินเอาทองมาให้เป็นเรื่องจริงขอให้มีปรากฏการณ์พิเศษให้เห็น เมื่อเททองเสร็จผมขนพระกริ่งกลับกรุงเทพเพื่อดำเนินการต่อ สองวันต่อมามีจดหมายมาถึงผมพร้อมภาพถ่ายขณะที่หลวงปู่แว่นกำลังเททอง กลางเปลวไฟบนเบ้าหล่อมทองมีภาพผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวนั่งพนมมืออยู่กลางเปลวไฟ ทางวัดถ้ำพระสบายโดยครูบาแก้วและคุณธรรมโชตินำภาพนี้มาทำโบว์ชัวร์ เพียงเท่านนี้พระกริ่งธนะปาโลก็มีผู้จองอย่างเหลือเชื่อได้ปัจจัยทะลุเป้า ผมรีบเร่งควบคุมสร้างพระกริ่งให้เสร็จตามกำหนดเพื่อนำไปยังวัดถ้ำพระสบายให้หลวงปู่แว่น ธนะปาโล ปลุกเสกตั้งแต่วันแรกของพรรษาปี ๒๕๓๘ เพื่อให้เต็มพรรษาจริงๆ ไม่ขาดไม่เกินแม้เพียงวันเดียว

    ก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวันผมนำพระกริ่งธนปาโลทั้งหมดทุกเนื้อไปส่งถึงวัดเมื่อประมาณ ๒ ทุ่มเศษนำพระกริ่งทั้งหมดเข้าไปไว้ในกุฏิ หลวงปุ่แว่นในคืนนั้นเพื่อท่านจะได้ทำพิธีตอนเช้ามืดวันแรกของพรรษาปี ๒๕๓๘ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วภาคเหนือ ความสั่นสะเทือนเกือบ ๗ ริกเตอร์ และเวลาเดียวกับพี่หลวงปู่แว่นท่านทำพิธีปลุกเสกพระกริ่งธนะปาโล

    แสดงว่าฟ้าดินรับรู้ว่าของวิเศษบังเกิดขึ้นแล้วหลวงปู่แว่นท่านปลุกเสกพระกริ่งธนะปาโล ตลอดพรรษา ๒๕๓๘ และทำพิธีพุทธาภิเษก เดี่ยวอีกครั้งเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๓๘ ผมได้รับหน้าที่เป็นผู้นำไฟชนวนให้ท่านจุดเทียนชัยเมื่อภาพถ่ายปรากฏ (ภาพจริง) มีเพลิงไฟสีแดงสว่างไปทั้งตู้เทียนแล้วแผ่ไปทั่วบริเวณแสดงว่าท่านใช้ เตโชกสิน เต็มที่เพื่อให้พลังทั่วจักรวาลแผ่ไปทั่วทุกอนูในพิธีนั้นตามการอธิฐานจิตของพระอรหันต์ของดีได้เกิดขึ้นแล้วในโลกตั้งแต่วันเริ่มพิธีปลุกเสกในเวลาเช้ามืดของวันแรกเข้าพรรษาปี ๒๕๓๘
    การสร้างพระกริ่งชุดธนะปาโล หรือกริ่งแผ่นดินไหว ได้ปัจจัยถวายวัดถ้ำพระสบายสมตามความมุ่งหมาย เมื่อหลวงปู่แว่นมรณะภาพ ครูบาแก้วและคุณธรรมโชติส่งพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ที่เหลืออยู่มาให้ผม ส่วนใหญ่เป็นเนื้อทองทิพย์พร้อมเหรียญทั้งสองแบบและพระรูปเหมือนเนื้อผงของหลวงปู่แว่น อีกจำนวนหนึ่ง

    ดังนั้นพระชุดกริ่งแผ่นดินไหวจึงยังพอมีให้บูชาที่ผม ส่วนหนึ่ง ดังนี้
    - พระกริ่งแผ่นดินไหว พิเศษอุดผงพราย ขี้เหล็กไหล จีวรและด้ายสายสิญน์ บูชาองค์ละ ๕,๐๐๐ ยาท (มีน้อย)
    - พระกริ่งแผ่นไหวเนื้อทองทิพย์ ปิดก้น พร้อมพระชัยวัฒน์ บูชาชุดละ ๒,๕๐๐ บาท
    - เหรียญ และพระผง บูชาองค์ละ ๓๐๐ บาท ( ระบุแบบเหรียญที่ต้องการให้ชัดเจน ,พระผงมีน้อย)
    สนใจติดต่อบูชา ได้ที่สำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก หรือ ทางไปรษณีย์ (เพื่มค่าจัดส่ง ๕๐ บาท)

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก อิทธิญาโณ
    : http://www.ittiyano.com/index.php?option=com_content&task=view&id=35&Itemid=4



    ประวัติโดยย่อของหลวงปู่
    หลวงปู่แว่น ธนปาโล เป็นศิษย์ในสายหลวงปู่มั่น เป็นชาวสกลนคร โดยกำเนิด เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2453 ที่บ้านบัว อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร บวชตั้งแต่เป็นสามเณรอายุได้ 18 ปีที่ วัดศรีรัตนาราม อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์สีทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้พบหลวงปู่สิม พฺทธาจาโร ซึ่งเป็นญาติ(ลูกพี่ลูกน้องกัน) เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงได้สนใจการปฏิบัติทางสายธุดงค์กัมมัฏฐานในแนวทางหลวงปู่มั่น ได้บวชเป็นพระ เมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม จังหวัดนครพนม โดยพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาจากท่านพ่อลี ที่วัดป่าคลองกุ้ง จังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น หลวงปู่แว่น เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาสอยู่ 6 ปี ก่อนที่จะมาอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำพระสบาย อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง จนกระทั่งมรณภาพ วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2541 สิริรวมอายุได้ 88 ปี ตำแหน่งสมณศักดิ์ที่พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ เมื่อมรณภาพอัฏฐิของท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุ

    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมจากวัด ไม่ผ่านการใช้งาน พระกริ่งและวัตถุมงคลรุ่นนี้ของหลวงปู่ ผมขอออนุญาตแนะนำให้เก็บ ทั้งเจตนาการสร้างที่บริสุทธิ์, หลวงปู่อธิษฐานจิตเต็มเปี่ยม พุทธคุณสูงส่งดั่ง องค์ท่านหลวงปู่แว่น ผู้ทรงไว้ซึ่งอรหันตเถรจารย์ แบ่งให้บูชา 1,200 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$




    615.คุณคือคนแรกที่สัมผัส(๑) เหรียญพระพุทธญาณเรศวร์ รุ่นแรกปี27
    องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เมตตาอธิษฐานจิตไตรมาสเต็ม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-064D_5978E1EB.jpg

    thumb-5798_58497445.jpg
    https://www.uppic.org/share-5798_58497445.html

    เหรียญพระพุทธญาณเรศวร์ ดำริจัดสร้างโดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เพื่อนำไปแจกประชาชนเพื่อเป็นที่ระลึกในรร่วมสร้างวัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี เนื้อทองแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2527 ออกแบบโดยสำนักพระราชวัง กองกษาปณ์เป็นผู้ผลิต

    ลักษณะที่สำคัญของเหรียญ
    ด้านหน้า
    อัญเชิญพระพุทธญาณเรศวร์ประทับฐานสิงห์รองรับ ผ้าทิพย์รองรับพระพุทธบาท ดอกบัวล้อมใต้ฐาน ด้านล่างจารึกอักษรไทยว่า "วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี 2527"

    ด้านหลัง
    อัญเชิญพระฉัตรของพระองค์ อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. และ ส.ก. ด้านล่างจารึกอักษรไทยว่า "พระพุทธญาณเรศวร์"

    วาระอธิษฐานจิต
    หลังจากได้ทำการพิมพ์เหรียญแล้วเสร็จได้นำเข้าพิธีพุทธภิเษกหลายวาระ จนวาระสุดท้ายได้รับการอธิษฐานจิต โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงแผ่เมตตาจิตจนครบไตรมาส 3เดือน จึงได้นำมาแจกจ่ายสาธุทั่วไป

    ความสำคัญของเหรียญนี้
    เป็นเหรียญรุ่นแรกของพระองค์ สร้างไว้เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์รองพระสังฆราช เป็นเหรียญที่มีความเรียบร้อยสมบูรณ์สวยงมาก อีกทั้งมีความวิจิตรพิสดาร ความปราณีตทางด้านการออกแบบ ยังเปี่ยมด้วย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณอันสูงส่ง ซึ่งยังไม่มีเหรียญใดเทียบเท่าเหรียญรุ่นแรกของพระองค์ได้

    สภาพสวยซองเดิมๆไม่เคยถูกสัมผัส ผิวไฟแดงแป๊ด พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครบครอบ เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต เหรียญดีปีลึก สร้างก่อนเหรียญรุ่นแรกของท่านเสียอีก และที่สำคัญพระองค์ท่านดำริสร้างและตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อแจกแก่สาธุชนผู้ช่วยสร้างวัด แบ่งให้บูชา 500 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณLivelight จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$


    616.สวยเดิมปลุกเสกจนไฟลุก(๑) เหรียญสมเด็จพระบรมครู

    ลพ.กวย,ลพ.เชื้อ,ลพ.จวน,ลพ.ชื้น,ลพ.ชม ร่วมปลุกเสกทั้งคืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-19FF_59796EFF.jpg

    image-f852_595eff7f-jpg.jpg

    เหรียญสมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา สร้างโดย หลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง จังหวัดชัยนาท เนื้อกะไหล่ทอง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518

    วัตถุประสงค์ เพื่อหาปัจจัยในการจัดสร้างพระอุโบสถวัดเขาพลอง, ขยายทางขึ้นเขา และ ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่


    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก
    ประกอบพิธี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ย. 2518 ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 10 เวลา 19:10 น. ณ ศาลาการเปรียญบนเขาพลอง โดยอัญเชิญดวงจิต สมเด็จพระบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา (หลวงพ่อกบ) หลวงพ่อโอภาสี และเหล่าทวยเทพทั่วแสนโกฏจักวาลมาเป็นสักขีพยานและอวยพร

    รายนามพระเกจิมาร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
    - หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อกล่อม วัดเขาแก้ว
    - หลวงพ่อประเทือง วัดโพธาราม
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    - หลวงพ่อพุฒ วัดศรีวิชัยวัฒนาราม
    - หลวงพ่อชม วัดอินทาราม (ตลุก)
    - หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดเขาพลอง
    - พระอาจารย์บุญยัง และพระสงฆ์ศิษย์ในสายหลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น

    วัตถุมงคลหลวงพ่อชื้น อริยธัมโม รุ่นนี้พระเกจิปลุกเสกกันทั้งคืนจนไฟลุก พุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล


    หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) อ.เมือง จ.ชัยนาท ผู้สร้างตำนาน “ฟ้าผ่าไม่ตาย ปืนยิงไม่ระคาย” อันลือลั่น ศิษย์ของ สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ปรมาจารย์กสิณไฟและเป็นศิษย์ผู้น้อง หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี สุดยอกเกจิ มรรภาพเมื่อปี21 หลังมรณภาพเกศากลายเป็นพระธาตุ

    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้งานแม้แต่นิดเดียว พิมพ์สวยคมชัด พระผงดีดีปีลึกที่ราคายังสบายกระเป๋า ดูจากรายนามพระเกจิที่ปลุกเสกก็จบแล้วครับ อัดกันจนไฟลุกเลย แบ่งให้บูชา 499 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณวิชัย จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334
    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###




    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งสัปดาห์นี้ครับ

    Scheduled to be delivered this week



    รอบที่ : 1
    Round : 1
    มีรอบการจัดส่งวันที่ 27/07/2560 ครับ
    แพ็คของถึงวันที่ 27/07/2560 เวลา 15:30น. ครับผม


    รอบที่ : 2
    Round : 2
    มีรอบการจัดส่งวันที่ 04/08/2560 ครับ
    แพ็คของถึงวันที่ 06/08/2560 เวลา 15:30น. ครับผม



    :cool::cool: จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ ขอบพระคุณมากครับ :cool::cool:

    image-e9e0_577bc63d-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2017
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    27/07/2560



    กดที่รูปภาพที่แนบไฟล์ไว้
    ด้านล่างได้เลยครับ
    [ ]
    [ ]
    [ ]
    \/



    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com

    image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,945
    ค่าพลัง:
    +6,860
    ขอนิมนต์รายการที่ 614ครับ
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,599
    ค่าพลัง:
    +30,884
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$



    617.สภาพขลังเก่าถึงยุคตัวจริง(๑) เหรียญพระพุทธหลังยันต์ห้า หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
    สุดยอดพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-0057_597D927E.jpg

    เหรียญพระพุทธหลังยันต์ห้า พิมพ์มีห่วง หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง(วัดอภัยสุพรรณภูมิ) ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื้อทองแดงรมดำ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.249x จำนวนการสร้างน้อยมาก

    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อยี
    หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง
    จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป


    สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรที เดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

    ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

    การแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ของท่าน ช่วง 2500 - 2512
    ถูกนักเขียน นสพ.โจมตีอย่างหนัก หาว่าท่านเล่นกล หลอกลวงประชาชน แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ประสบเหตุมีอันเป็นไป ต่างๆ นาๆ ตายก็มี ไม่ตายแต่ป่วย ทนทุกข์ทรมานก็มี
    ผลจากการโจมตีในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้หลวงพ่อยีต้องอธิกรณ์ ถูกบังคับข่มขู่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจึงนุ่งห่มขาว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ส่งหลวงพ่อโฮมไปสอบ แต่ไม่มีข้อที่จะต้องอธิกรณ์ และได้บวชกลับคืน แปรญัตติเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุติกาย
    นับเป็นเรี่องน่าสังเวชที่เราท่านทั้งหลาย ควรถือเป็นคติว่า ถ้าฆราวาสไม่รู้จริง อย่าพึ่งไปกล่าวโทษให้ร้ายพระสงฆ์ ถึงอย่างไรท่านก็ถือศีล ปฎิบัติดีกว่าฆราวาส


    คุณวิเศษของหลวงพ่อยี ที่เห็นเป็นที่ประจักษ์
    - ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุตกลายเป็นคำบริสุทธิ์
    - เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใลละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ซื้ออะไรก็ได้
    - เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา
    - เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม
    - ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดวๆ มากมาย
    - บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อนๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว
    - ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้
    - เรียกตะกรุดทองคำ 3-5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์
    - เรียกพระเครื่องจากอากาศแจกจ่ายญาติโยม
    - มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัติ
    - แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่
    - สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้
    - ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบังหรือความมืด
    - ทำผ้าสีต่างๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน
    - ข้ามห้วย-แม่น้ำ โดยไม่ใช้เรือข้ามฟาก
    - รักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา
    - เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้วๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา
    - ใช้หม้อใบเล็กๆ 2ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักที
    - มีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่างๆ จากร้ายกลายป็นดี
    - บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้งๆที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็น จืดสนิท มีกลิ่นหอมๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี
    - วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม



    เรื่องเล่าจากปากคำผู้ประสบเหตุ
    - จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา
    คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อปี ๒๕๐๘ หลังจากไปสอบสวนกรณีหลวงตายีถูกหนังสือพิมพ์โจมตี ว่า "หลวงพ่อยีได้นำบาตรมาให้ตนดู และตนได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองทีเดียว หลวงพ่อยี อุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฏิห่างจากผู้สังเกตการณ์ ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง"
    แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาบาตรดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตร มีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู กันบาตรมีลูกประคำทองอยู่ 2 ก้อน ขนาดโตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
    นอกจากจะพิสูจน์เรื่องนี้แล้วหลวงพ่อยียังเสกเหรียญเงินให้เป็นทองก็ได้ด้วย หลวงพ่อท่านแบ่งให้อธิบดีกรมการศาสนาครึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาครึ่งหนึ่ง ครั้งเมื่อนำไปพิสูจน์ที่ร้านทองก็ปรากฏว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ เช่นเดียวกัน
    จากการที่ท่านสร้างอุโบสถ์นี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ บ่อยๆ สถานที่พักของท่านก็คือที่โรงเรียนตะละภัฎศึกษา การแสดงฤทธิ์อภิญญาของท่านก็กระทำเป็นประจำจนถึงบั้นปลายชีวิต หลวงพ่อถูพวกมิจฉาทิฎฐิ กล่าวหาว่าท่านหลอกลวง แต่ด้วยสัจจะบารมีของท่าน อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่ท่านแสดงให้ปรากฏก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลสำคัญๆ ระดับประเทศในขณะนั้น เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานศาลฎีกา พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาและนายประกอบ หุตะสิงห์ อธิบดีศาลอุทธรณ์ เป็นต้น


    - โยม ผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้าง อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วย ท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตร ข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

    - พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่ และจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมนุมชน
    โยมผวนขนลุกซู่ด้วยความยินดี ยกมือท่วมหัวว่าลูกรอดตายแล้ว หลวงพ่อมาโปรดลูกแล้ว ด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่มั่นคง และจริยวัตรที่งดงามของหลวงพ่อถาวร ทำให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่โยมผวนเป็นล้นพ้น ดังนั้นสมบัติต่างๆ ของหลวงพ่อยีที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ของท่าน มีเก็บรักษาไว้มากมายเพียงใด โยมผวนนำมาน้อมถวายให้แก่หลวงพ่อถาวร จนหมอสิ้น แม้กระทั่งข้าวทิพย์แห้ง ที่นางได้เก็บรวบรวมไว้นับสิบปี
    ก็นำมาถวายด้วย วันหนึ่งหลวงพ่อถาวร ท่านได้ทดลองอะไรบางอย่าง ด้วยการนำข้าวทิพย์มาหุงผสมกับข้าวธรรมดาวันนั้นปรากฏว่า กุฏิสุวรรณเนตรหอมตระลบอบอวลไปทั้งกุฏิ เพราะกลิ่นข้าวทิพย์โชยขจรขจายไปทั่ว ทำความแปลกประหลาดมหัสจรรย์แก่ผู้ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อถาวรย้ำว่า “ของแท้ ของจริง พิสูจน์ได้ตลอดเวลา”



    กาลมรณภาพ
    หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้น เกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่


    ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ


    พระคาถาหลวงพ่อยี (ควรสวดภาวนาก่อนนอน)
    จุดธูป 9 ดอก
    ตั้งนะโม 3จบ


    บทที่ 1.
    มหาปัญโญ มหาเตโช อุกาสะวันทามิ
    ภันเต อาจาริโย ปุณนะยีติ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 2.
    นะภันทะลัง กัมมัง อะโหสิภุมิมาเต
    นะภันเต จะตุนะ ปัจจะ นะมามิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 3.
    โอมพระเจ้าอยู่เบื้องตา พระธรรมเจ้าอยู่เบื้องปาก
    ตัวกูขอฝากไว้ในดวงจิต เอหิมามะ กะรินิติ พรหมมัสสามิ
    จิตกูนิ่งอยู่ที่พุทธัง ตัวกูอยู่ที่พระอรหัง เอหิมามะ
    {ภาวนา 108 จบ}


    บทที่ 4.
    มะธะนะ ภันธะนัง นิมิตตัง เตมหาภันธะนัง
    นะนิมิต ตัสสะ ปุณนะมิ นังกะโรมิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูล และไฟล์ภาพด้วยนะครับ

    สภาพผ่านการใช้มาเห็นหลังยันต์ลางๆ พระแขวนบูชามามากด้วยประสบการณ์ เก่าแท้ขลังแน่นอน ปัจจุบันหายากแล้วเพราะมีแต่คนเก็บของเริ่มหมดไปทุกวัน เอาไว้ใช้ติดตัวอุ่นใจแน่นอน ถ้าสภาะสวยๆหลายตังค์ครับ เก่าเก็บเนื้อหาเก่าถึงยุค พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ประจุด้วยอิทธิ์ที่ยอดยิ่งเหนือสิ่งใด ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 1,099 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณtik จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$




    618.สวยกล่องเดิมสมบูรณ์(๑) พระสมเด็จทรงนิยมเมตตาบารมี วัดสัมพันธวงศ์
    มหาพิธี3วาระ ลป.แหวน,ลต.มหาบัว,ลป.อ่อน,ลป.โต๊ะ อธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    ภาพรวมชุดอของพระรุ่นนี้
    image-a702_591be50b-jpg.jpg

    พระสมเด็จ พิมพ์คะแนนทรงนิยมเมตตาบารมี หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ จัดสร้างโดย วัดสัมพันธวงศ์ กทม. เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516
    ## หากต้องการบูชาจำนวนหลายองค์ สอบถามมานะครับผมมีราคาพิเศษให้ครับ ##


    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
    1.เพื่อหาทุนสมทบสร้างพระอุโบสถของวัดวัดสัมพันธวงศ์ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่
    2.เพื่อจัดตั้งเป็นมูลนิธิบูรณะปฏิสังขรณ์พระอาราม


    มหาพิธีพุทธาภิเษก 3วาระ
    วัตถุมงคลชุดนี้มี พระพุทธรูปบูชาจำลอง ขนาด 5 นิ้ว 9 นิ้ว รวมพระเครื่องของหลวงปู่แหวน สุจินโณ ซึ่งได้อนุญาตให้ทางวัดเกาะจัดสร้างหลายชนิด เมื่อปีพ.ศ.2516


    วาระที่ : 1
    => ในวันมาฆะบูชา วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2516 หลวงปู่แหวน เมตตาอธิษฐานจิตให้


    วาระที่ : 2
    => เมื่อวันที่ 7 มกราคม ปีพ.ศ.2517 ในวระหลวงปู่แหวน อายุครบ 7 รอบ 16 หลวงปู่แหวน เมตตาอธิษฐานจิตให้


    วาระที่ : 3
    => พิธีมหาพุทธาภิเษกวาระที่ 3นี้ มีหมายกำหนดการทั้งหมด ไว้ 3 วัน
    -ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธปฏิมาปรานประจำพระอุโบสถสร้างใหม่ ของวัดสัมพันธวงศ์, พระพุทธรูปบูชาจำลองหน้าตัก 5 นิ้ว 9 นิ้ว และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเกศพระพุทธปฏิมาประธาน โดยกราบทูลอาราธนา เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นประธานประกอบพิธี


    กับได้ทูลเชิญพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล เป็นประธานอำนวยการจัดงาน และทูลเชิญ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ องค์อุปถัมภ์ของวัด เป็นประธานที่ปรึกษา ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์(วัดเกาะ) กรุงเทพมหานครวันที่ 29, 30, 31 ธันวาคม พ.ศ. 2517

    กำหนดมหาพุทธาภิเษกเฉพาะวันที่ 30 ธ.ค. 2517
    -มีพิธีในวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2517 สมเด็จพระสังฆราช ทรงประกอบ พิธีจุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก เวลา 20.36 นาฬิกา มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ จากภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวม 60 รูป มานั่งปรกบริกรรมภาวนาปลุกเสกตลอดคืน มีดังนี้


    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธี อาทิ
    1.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี (ชรามาก จะแผ่พลังเมตตาจิตมาในวันพิธี)

    2.หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ (ชรามาก จะแผ่นพลังเมตตาจิตมาให้ในวันพิธี)
    3.พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต วัดสิริสาลวัน อุดรธานี
    4.พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม อุดรธานี
    5.พระอาจารย์บุญ ชินวโส วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
    6.พระอาจารย์จันทร์ เขมปปตโต วัดจันทาราม หนองคาย
    7.พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    8.พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดภูทอก หนองคาย
    9.พระอาจารย์ลี ฐิตธมโม วัดศรีชมพู สกลนคร
    10.พระอาจารย์แว่น ธนปาโล วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
    11.พระอาจารย์อุ่น กลยาณธมโม วัดป่าบ้านโคก สกลนคร
    12.พระอาจารย์สุภาพ ธมมปญโญ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร
    13.พระอาจารย์คล้าย ทานรโต วัดสุจินต์ประชาราม สกลนคร
    14.พระอาจารย์เตรียม ธมมธโร วัดสามัคคีธรรม สกลนคร
    15.พระอาจารย์เคน เขมาสโย วัดป่าบ้านหนองหว้า สกลนคร
    16.พระอาจารย์บุญมี ฐิตปุญโญ วัดประชานิยม สกลนคร
    17.พระอาจารย์ประสาร ปญญาพโล วัดคามวาสี สกลนคร
    18.พระอาจารย์บัว วัดป่าบ้านเสาเส้า อุดรธานี
    19.พระอาจารย์ปั่น ญาณวโร วัดพุฒาราม สกลนคร
    20.พระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก วัดโนนแสงทอง สกลนคร
    21.พระอาจารย์เกิ่ง วิทิโต วัดสามัคคีบำเพ็ญผล สกลนคร
    22.พระสังวรวิมลเถร (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    23.พระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    24.พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพะอง สมุทรสาคร
    25.พระครูวิจารณ์สมถกิจ (จรัญ เขมจารี) วัดประชารังสรรค์ ศรีสะเกษ
    26.พระครูพิเนตสมณกิจ วัดประชารังสฤษฎ์ ศรีสะเกษ
    27.พระครูพิพิธพัชรศาสน์ (หลวงพ่อจ้วน) วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี
    28.พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
    29.พระครูญาณจักษ์(ปรมาจารย์ผ่อง จินดา) วัดจักรวรรดิ กรุงเทพฯ
    30.พระศีลขันธโสภณ (หลวงพ่อสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
    31.พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต กรุงเทพฯ
    32.พระอุดมสารโสภณ (ผาสุก) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
    33.พระญาณโพธิ (หลวงพ่อเข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    34.พระครูวรพรตศีลขันธ์ (หลวงพ่อแฟ้ม) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    35.พระสิรินันทมุนี (สนั่น) วัดพิตรพิมุข กรุงเทพฯ
    36.หลวงปู่ฟัก วัดวังไทรติ่ง ประจวบคีรีขันธ์
    37.พระครูประจักษ์ตันตยาคม (เฉลา) วัดคีรีภาวนาราม ระยอง
    38.พระอาจารย์พวง สุวีโร วัดป่าบ้านปูลู อุดรธานี
    39.พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
    40.พระอาจารย์ศรีนวล สิริปญโญ วัดศรีไตรรัตนนิมิต อุดรธานี
    41.พระอาจารย์บุญมี วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    42.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    43.พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อหิน) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    44.พระปัญญาพิศาลเถร (สงวน) วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
    45.พระธรรมภาณโศภน (สวัสดิ์) วัดปลดสัตว์ อ่างทอง
    46.พระพ่อสาม อภิญจโน วัดไตรวิเวการาม สุรินทร์
    47.พระพ่อศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
    48.พระสุทธิสารโสภณ(โสภณ) วัดศรีโพนแท่น เลย
    49.พระอาจารย์เปลี่ยน วัดบ้านปง เชียงใหม่
    50.พระชินวงศาจารย์(พุธ) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
    51.หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา ระยอง
    52.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหน้า ระยอง
    53.พระครูวิจิตรธรรมภาณี(สิงห์) วัดหนองบัว อุบลฯ
    54.พระอาจารย์เมือง พลวฑฺโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส กาฬสินธุ์ เป็นต้น
    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก :
    - https://www.web-pra.com/shop/ray2550/show/1193866

    - https://www.web-pra.com/amulet/หลวงปู่แหวน-วัดดอยแม่ปั๋ง/item/show/8190
    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก : เว็บพระดอทคอม


    สภาพสวยคราบปลวกเก่าเก็บเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก สุดยอดพระผงที่ดีนอกดีใน พิธีที่รวมพ่อแม่ครูอาจารย์ไว้มากมาย เจตนาการจัดสร้างบริสุทธิ์ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2018
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$



    619.สวยเดิมปลุกเสกจนไฟลุก เหรียญหลวงพ่อโอภาสี

    ลพ.กวย,ลพ.เชื้อ,ลพ.จวน,ลพ.ชื้น,ลพ.ชม ร่วมปลุกเสกทั้งคืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-3EDC_597DEDBC.jpg

    image-f852_595eff7f-jpg-jpg.jpg

    เหรียญหลวงพ่อโอภาสี ออกวัดเขาพลอง สร้างโดย หลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง จังหวัดชัยนาท เนื้อืองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518

    วัตถุประสงค์ เพื่อหาปัจจัยในการจัดสร้างพระอุโบสถวัดเขาพลอง, ขยายทางขึ้นเขา และ ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่


    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก
    ประกอบพิธี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ย. 2518 ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 10 เวลา 19:10 น. ณ ศาลาการเปรียญบนเขาพลอง โดยอัญเชิญดวงจิต สมเด็จพระบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา (หลวงพ่อกบ) หลวงพ่อโอภาสี และเหล่าทวยเทพทั่วแสนโกฏจักวาลมาเป็นสักขีพยานและอวยพร

    รายนามพระเกจิมาร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
    - หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อกล่อม วัดเขาแก้ว
    - หลวงพ่อประเทือง วัดโพธาราม
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    - หลวงพ่อพุฒ วัดศรีวิชัยวัฒนาราม
    - หลวงพ่อชม วัดอินทาราม (ตลุก)
    - หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดเขาพลอง
    - พระอาจารย์บุญยัง และพระสงฆ์ศิษย์ในสายหลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น
    วัตถุมงคลหลวงพ่อชื้น อริยธัมโม รุ่นนี้พระเกจิปลุกเสกกันทั้งคืนจนไฟลุก พุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล

    หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) อ.เมือง จ.ชัยนาท ผู้สร้างตำนาน “ฟ้าผ่าไม่ตาย ปืนยิงไม่ระคาย” อันลือลั่น ศิษย์ของ สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ปรมาจารย์กสิณไฟและเป็นศิษย์ผู้น้อง หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี สุดยอกเกจิ มรรภาพเมื่อปี21 หลังมรณภาพเกศากลายเป็นพระธาตุ

    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้งานแม้แต่นิดเดียว พิมพ์สวยคมชัด พระผงดีดีปีลึกที่ราคายังสบายกระเป๋า ดูจากรายนามพระเกจิที่ปลุกเสกก็จบแล้วครับ อัดกันจนไฟลุกเลย แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณamarin1978 จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,599
    ค่าพลัง:
    +30,884
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334

    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663



    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334




    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$






    620.พระอริยะแห่งเมืองยโส พระปิดตาสมปรารถนา หลวงตาพวง สุขินทริโย

    ทายาทธรรม ลป.มั่น ศิษย์ยุคบุกเบิกถ้ำขามของ ลป.ฝั้น

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-56D1_597EDAFB.jpg
    พระปิดตา รุ่นสมปรารถนา หลวงตาพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมมาราม จังหวัดยโสธร เนื้อผงพุทธคุณผสมว่านมงคลและเกศา บรรจุตะกรุดสมปรารถนา ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2537 เพื่อมอบเป็นที่ระลึกในงาน "ฉลองศาลาการเปรียญ" โดยท่านเมตตาอธิาฐานจิตเดี่ยวให้อย่างเต็มกำลัง

    ประวัติโดยย่อหลวงตาพวง
    หลวงตาพวง สุขินทริโย ถือกำเนิดที่ บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเดิมคือ ตำบลกระจาย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ มีนามเดิมว่า ด.ช.พวง ลุล่วง เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายเนียม และนางบัพพา ลุล่วง มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา จำนวน 6 คน เป็นชาย 3 คนและหญิง 3 คน ดังต่อไปนี้
    1) นายจันทา ลุล่วง อดีตกำนันตำบลกระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร (ถึงแก่กรรม)
    2) นางผา ละม่อม (ถึงแก่กรรม)
    3) นางสา วันเที่ยง (ถึงแก่กรรม)
    4) หลวงตาพวง สุขินทริโย
    5) หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ เจ้าอาวาสวัดจำปาศิลาวาส ต.นาซอ อ. วานรนิวาส จ.สกลนคร
    6) นางจำปา ป้องกัน
    ต้นตระกูลเดิมของหลวงตาพวง สุขินทริโย เป็นชาวนา นับถือศาสนาพุทธมาแต่ดั้งเดิม โยมบิดา มารดา มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทำบุญตักบาตรหรือถวายภัตตาหารเป็นประจำทุกวันไม่ได้ขาด ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีมาโดยตลอด มีบุตรชายก็ต้องให้บวชพระเสียก่อนทุกคน ทั้งหลวงตาและน้องชายคือหลวงปู่สรวง สิริปุญโญหลังจากบวชตามประเพณีแล้วได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงครองสมณเพศมาจนถึงปัจจุบัน

    พรรษาที่ 1 (พ.ศ. 2491) อุปสมบท ณ โบสถ์น้ำ วัดป่าบ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจาร์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจาร์ฝั้น อาจาโร เป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ไปจำพรรษาที่วัดป่าท่าสองคอน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 2 (พ.ศ. 2492) ย้ายไปจำพรรษาร่วมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นพรรษาสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    พรรษาที่ 3 (พ.ศ. 2493) หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มรณภาพ และเสร็จงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มั่นแล้ว ไปจำพรรษากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 4-5 (พ.ศ. 2594-2495) จำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร ร่วมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    พรรษาที่ 6 (พ.ศ. 2496) หลวงปู่ฝั้น อาจาโรเกิดนิมิตระหว่างนั่งสมาธิในกลางพรรษาว่าเห็นถ้ำที่สว่างไสว เหมาะแก่การปฏิบัติ จึงได้ไปค้นหาจนพบถ้ำขาม แล้วได้บุกเบิกจนเป็นวัดถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จ.สกลนครในปัจจุบัน ในพรรษานั้น หลวงตาพวง สุขินทริโยได้ไปบุกเบิกถ้ำขามและจำพรรษาที่นั่น
    พรรษาที่ 7-8 (พ.ศ. 2497 - 2498) กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 9 (พ.ศ. 2499) กลับบ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพราะโยมบิดาเสียชีวิต ประกอบกับพระอาจารย์บุญช่วย ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในใน ที่เคยเป็นพระอาจารย์สมัยบวชเป็นเณร เกิดอาพาธ จึงอยู่ดูแลรับใช้ปรนนิบัติ
    พรรษาที่ 10 (พ.ศ. 2500) พระอาจารย์บุญช่วย ธัมวโร เจ้าอาวาสวัดศรีฐานในใน อ.ป่าติ้ว จ.อุบลราชธานี มรณภาพ ไม่มีพระภิกษุดูแลวัด ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในใน เพื่อดูแลวัด
    พรรษาที่ 11 (พ.ศ. 2501) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในในอย่างเป็นทางการ
    พรรษาที่ 12-18 (พ.ศ. 2502-2508) จำพรรษาที่วัดศรีฐานใน บูรณะปฏิสังขรณ์วัดศรีฐานในจนมีความเจริญรุ่งเรือง
    พรรษาที่ 19 (พ.ศ. 2509) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรม ที่ราชทินนาม (พระครูใบฎีกา พวง สุขินทริโย)
    พรรษาที่ 20 (พ.ศ. 2510) จำพรรษาที่วัดศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.อุบลราชธานี
    พรรษาที่ 21 (พ.ศ. 2511) เนื่องจากวัดศรีธรรมาราม อ.ยโสธร จ.อุบลาชธานี ไม่มีเจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัดและชาวบ้านไปนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี
    พรรษาที่ 22 (พ.ศ. 2512) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลในเมือง อ.ยโสธร
    พรรษาที่ 23 (พ.ศ. 2513) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ราชทินนาม พระครูอมรวิสุทธิ์
    พรรษาที่ 24 (พ.ศ. 2514) พัฒนาวัดศรีธรรมาราม อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี
    พรรษาที่ 25 (พ.ศ. 2515) อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี ยกฐานะเป็นจังหวัด ได้รับแต่งตั้งให้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดยโสธร (โดยไม่ได้เป็นเจ้าคณะอำเภอมาก่อน)
    พรรษาที่ 26 (พ.ศ. 2516) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ราชทินนาม พระสุนทรธรรมภาณ และได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดยโสธรอย่างเป็นทางการ
    พรรษาที่ 27-33 (พ.ศ. 2516-2523) จำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    พรรษาที่ 34 (พ.ศ. 2524) หลังจากบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถวัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร เสร็จเรียบร้อย ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัด กม.3 ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร
    พรรษาที่ 35-46 (พ.ศ. 2525-2536) กลับมาจำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธรโดยตลอด พัฒนาวัดศรีธรรมาราม จนเจริญก้าวหน้าและได้รับจนได้รับยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างในปี พ.ศ. 2528 และยกระดับเป็นพระอารามหลวง ในปี พ.ศ. 2532
    พรรษาที่ 47 (พ.ศ. 2537) ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ราชทินนาม พระราชธรรมและได้รับพระราชทานธรรมจักรทองคำ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในปี พ.ศ. 2537
    พรรษาที่ 51 (พ.ศ. 2541) ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต)
    พรรษาที่ 52 - ปัจจุบัน (พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน) สร้างวัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม บ้านนิคม ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และจำพรรษาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน

    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กล่าวถึง หลวงตาพวง ชื่อ เสียงของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในสายวงวัตถุมงคลโชคลาภ ของคนไทยทั่วประเทศเพราะด้วยปฏิปทาที่เรียบง่าย สมถะและเมตตาแก่ทุก ๆ คนที่ไปหา มิใช่แต่ชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เลื่อมใสและศรัทธาท่าน ชาวยโสธรเองก็เช่นเดียวกันที่เลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติ และพากันไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งขอวัตถุมงคลเพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่าง ๆมิได้ขาด
    แต่ทุก ๆ ครั้งที่ชาวยโสธรไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณนั้น หากท่านทราบว่าเป็นชาวยโสธรแล้วหลวงพ่อคูณท่านจะไม่ยอมให้วัตถุมงคล และบอกว่าให้กลับไปเอาที่ยโสธร ท่านมักจะพูดว่า "ที่ ยโสธรมีคนเก่งกว่ากูมีอีก ผมหงอก ๆ ขาว ๆ ที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำชีนั่นแหละ ท่านหมดกิเลสแล้ว ท่านไม่แสดงเฉยๆ กูยังไม่ถึงเท่าท่านเลย ไป"
    เมื่อสัมภาษณ์หลวงตาพวง ถึงเรื่องนี้ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า "ก็เคยได้ยินมาจากญาติโยมหลายสิบคนแล้ว ที่เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเมื่อชาวยโสธรไปกราบหลวงพ่อคูณ ท่านมักจะไล่กลับมาหาหลวงตา"
    "หลวงตาเองก็ ไม่เคยได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณสักครั้งเดียว หลวงตาก็เคยไปวัดบ้านไร่มาสองครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสพูดคุยกับท่านเพราะมีญาติโยมเป็นจำนวนมากจึงไม่มีโอกาสพูด คุยกัน หลวงพ่อคูณจะทราบได้อย่างไรก็ไม่ทราบหรืออาจเป็นเพราะมีลูกศิษย์เล่าให้ฟัง ถึงประวัติหลวงตากระมัง"

    ปาฏิหาริย์หลวงตาพวง เดินข้ามบิณฑบาตรแม่น้ำชี
    มีเรื่องเล่าขานกันใน หมู่ชาวบ้านแถบลำน้ำชีอันเป็นที่ตั้งของ วัดศรีธรรมารามซึ่งหลวงตาพวงเคยจำพรรษาอยู่ ฝั่งตรงข้ามของวัดศรีธรรมารามเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตของอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ชาวบ้านเล่ากันว่ามีคนออกไปเก็บกับดักหนูที่ดักไว้ในช่วงเช้ามืดได้เห็นหลวง ตาพวงออกเดินบิณฑบาตโดยเดินบนแม่น้ำชีจากวัดศรีธรรมารามไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ฝั่งอำเภอพนมไพร
    คุณสมจันทร์ โพธิศรี อยู่บ้านเลขที่ 68 บ้านกุดกุง (คุ้มหนองแสง) ต. เขื่อนคำ อ.เมือง จ. ยโสธร เล่าให้ฟังเป็นภาษาอิสานว่า "เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538- 2539 เช้าวันหนึ่งข่อยไปดักหนูป่าแมะ ได้เห็นหลวงตาพวงเพิ่นเดินข้ามแม่น้ำชีไปแมะ ข่อยนี้แหละเป็นผู้เห็นท่านเองเลย" (คัดจากหนังสือโลกทิพย์)
    เมื่อถามเรื่องนี้กับหลวงตา หลวงตาก็ตอบว่า "เป็นเรื่องของเขาเห็นปรากฏในสายตา หลวงตาไม่ค้าน ไม่ได้ปฏิเสธ เขาคงเห็นด้วยสายตาของเขา จะเล่าลืออย่างไร หลวงตาไม่ได้พูด ไม่ได้อวดอะไร" แล้วหลวงตาก็เปลี่ยนเรื่องพูดถึงเรื่องหมู่บ้านในฝั่งอำเภอพนมไพรว่า " หลวงตาก็รับนิมนต์ไปสวดหรือไม่ก็ฉันที่หมู่บ้านฝั่งนี้เป็นประจำทุกวันออกพรรษาชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ก็พากันมามอบกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์ มากราบขอพรเพราะพวกเขาไม่มีที่พึ่งในหมู่บ้าน เขาจึงมาพึ่งหลวงตา เมื่อมีการงานอะไรพวกเขาก็มาช่วยเสมอ ๆ แม้แต่มาอยู่ที่วัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม พวกเขาก็ยังมา"

    สิ้นพระปฏิบัติดีอีกรูป 'หลวงตาพวง' ยโสธร [2 เม.ย. 52 - 14:02]
    เมื่อเวลา 10.54 น. วันนี้ (2 เม.ย.) พระเทพสังวรญาณ หรือหลวงตาพวง สุขินทริโย รองเจ้าคณะภาค 10(ธ) ได้ละสังขารแล้ว อายุ 82 ปี พรรษา 57 พรรษา ที่โรงพยาบาลยโสธร หลังจากอาพาธด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีระยะสุดท้าย ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2550 และรับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะมาพักรักษาต่อที่โรงพยาบาลยโสธร จนมรณภาพ
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.gejisiam.com/shop/0890022780/product-27080

    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้งานแม้แต่นิดเดียว กรอบพระเก่าเป็นลายแต่องค์พระสมบูรร์ใหม่กริ๊บครับ เจ้าของเก่าเลี่ยมพลาสสติกกันน้ำจับขอบทองใช้มาแต่เดิม พิมพ์สวยคมชัด แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2018
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334
    621.พระขุนแผนน้ำมันช้างพราย
    หลวงปู่พระมหาโส วัดป่าคำแคนเหนือ พระเถรจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-9295_576E9E94.jpg


    thumb-089B_576031AE.jpg
    พระขุนแผนน้ำมันช้างพราย รุ่นมหากฐิน หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จังหวัดขอนแก่น พิมพ์ใหญ่ เนื้อโซนชมพู ฝังโค้ดศาลา ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2541 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในงานทอดกฐินประจำปี พ.ศ.2541

    ประวัติปู่พระมหาโส กัสสโป
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ 8 พ.ย.2458 เวลาตี 2 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ) ปัจจุบันสิริอายุ 99 ปี

    **สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน

    บรรพชา
    **ในปี พ.ศ.2477 เมื่อมีอายุ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ(บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาก จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ

    อุปสมบท
    **ถึงปี พ.ศ.2478 อายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัฌชาอ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น

    ญัตติเป็นธรรมยุติ
    **ล่วงเข้าปี พ.ศ.2480 ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ 17 ก.ค.2480 ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อยัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์

    เป็นมหาเปรียญ
    **หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ(แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ(แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ(แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ 12 ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรฯ ด้วย
    **แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า"พ้นจากวัฏสงสาร"อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป


    ประวัติอื่นๆ
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 20 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่

    **ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่งสังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบันท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    **หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.2472 -2475 พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

    **หลวงปู่มหาโส ขณะนี้อายุได้ 99 กว่าปีแล้ว นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จซ.ขอนแก่น , เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต(หลวงปู่ผาง) จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี(ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ หลวงปู่มหาโสชราภาพมาก ๆ แต่สุขภาพแข็งแรงดี ความจำดีอยู่ และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององคืหลวงปู่เอง

    วัตถุมงคล
    **ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาติจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่ก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น

    ปัจจุบัน :
    หลวงปู่ได้ละสังขารแล้วที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือ หมู่ 2 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา 12.20 น.ของวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา สิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน


    สภาพสวยเดิมผิวๆ พิมพ์คมชัดลึก เนื้อดีมวลสารเข้มขลังผสมของอาถรรพ์น้ำมันช้างพราย พุทธคุณเมตตา แลโภคทรพัย์อย่างสูงสุด และศิริมงคลเป็นที่ประจักษ์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 250บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณburin16 จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2023
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334
    622.สุดยอดอลังการงานพุทธศิลป์(นวะ) เหรียญเสมาฉลุพุทธปวเรศ
    ยอดชนวนโลหะ และมวลสารศักดิ์สิทธิ์ เจตนาการสร้างบริสุทธิ์

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-C22E_597EDAFB.jpg

    image-DBD6_597EDAFB.jpg
    image-9BF3_597EDAFB.jpg

    เหรียญเสมาฉลุพุทธปวเรศ รุ่นพุทธปวเรศ เนื้อนวโลหะ บรรจุตะกรุดทองคำอุดผงวิเศษ ตอก 2โค้ด รันหมายเลข 814 มหาพุทธาภิเษก ณ.วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร จำนวนการสร้าง 999เหรียญ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 โดยโครงการพระสังฆราชาพระชันษา 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร

    มวลสารสำคัญแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
    ส่วนที่ 1 ผงพุทธคุณ จะนำไปฝังตะกรุดทองคำแท้ และนำไปใส่ไว้ในช่องด้านหลังเหรียญปวเรศทุกองค์ครับ
    ส่วนที่ 2 เนื้อโลหะ นำมาเป็นมวลสารจัดสร้างเนื้อโลหะ ทั้งเหรียญปวเรศ และพระกริ่งปวเรศชินบัญชรครับ
    ส่วนที่ 3 เนื้อโลหะที่ต้องใช้ทองคำ เป็นมวลสารครับ ...
    ..................................................................

    ส่วนที่ 1
    - มีมวลสารที่สุดยอดพระเครื่องเมืองไทยหลายเกจิหลายอาจารย์ ที่ทุกท่านทราบ และเสาะแสวงหากันทุกคน ประกอบด้วย
    1.1 สมเด็จวัดระฆัง ... จักรพรรดิพระเครื่องเมืองไทย
    1.2 สมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509 ... ซึ่งมีมวลสารสมเด็จบางขุนพรหมเป็นมวลสารหลักครับ
    1.3 เนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ รุ่นแรก ปี 2497
    1.4 ลูกอม อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ซึ่งหายากมากครับ สายหลวงปู่ทวดทราบกันดีครับ
    1.5 จีวร อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ...
    1.6 เกศาหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ครับ
    1.7 ผงยาจินดามณี ลป.บุญอยู่ ท่านมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว
    มวล สารที่กล่าวมาทั้งหมดครับ จะเป็นผงพุทธคุณ ที่จะนำไปห่อด้วยตะกรุดทองคำแท้ และนำไปใส่ไว้ในช่องด้านบน ด้านหลังเหรียญปวเรศ ทุกเหรียญครับ
    ...................................................................

    ส่วนที่ 2
    - มีมวลสารสำคัญ ครอบจักรวาล ทั้งด้านเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง แคล้วคลาด มหานิยม และทุกๆด้านครับ ประกอบด้วย
    2.1 เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี2508
    2.2 เหรียญพุฒซ้อน หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี2509
    2.3 เหรียญพุฒซ้อน หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี2511
    2.4 เหรียญเจริญพร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    2.5 เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ปี 2517
    2.6 เหรียญเสมาฉลุ ยกองค์ เลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    มวลสารทั้งหมดที่เอ่ยมา จะนำมาจัดสร้างมวลสารที่เป็นเนื้อโลหะ ทั้งเหรียญปวเรศ และพระกริ่งปวเรศชินบัญชรครับ
    ...................................................................

    ส่วนที่ 3
    - เนื้อโลหะ ที่ต้องใช้ทองคำเป็นมวลสาร จะมีวัตถุมงคลเนื้อทองคำ นำมาหล่อหลอมรวมเป็นมวลสารครับ ประกอบด้วย
    3.1 รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์ สมเด็จโต เนื้อทองคำ
    3.2 รูปหล่อหลวงปู่ทวด เนื้อทองคำ
    3.3 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เนื้อทองคำ

    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ที่สำคัญพิธีมหาพุทธาภิเษกที่นับได้ว่าเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลาย สิบปีของวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
    มีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย 118 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต และพระภิกษุสงฆ์ 199 รูป อาทิเช่น

    - หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี
    - หลวงปู่เกลี้ยง มนญโญ วัดเนินสุทธาวาส จ.ชลบุรี
    - หลวงพ่อผอง ธมมธีโร วัดพรหมยาม จ.เพชรบูรณ์
    - พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
    - หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี
    - ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ สำนักสงฆ์เวฬุวัน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
    - หลวงพ่ออุดม อุตตมปญฺโญ วัดพิชัยสงคราม จ.พระนครศรีอยุธยา
    - หลวงพ่อฟู อติภทโท วัดบางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
    - หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    - ครูบาอริยะชาติ วัดแสงแก้ว อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
    เป็นต้น


    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้งานแม้แต่นิดเดียว อุปกรณ์ครบชุดเดิม พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 2,345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334
    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###




    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งสัปดาห์นี้ครับ

    Scheduled to be delivered this week



    รอบที่ : 1
    Round : 1
    มีรอบการจัดส่งวันที่ 02/08/2560 ครับ
    แพ็คของถึงวันที่ 02/08/2560 เวลา 15:30น. ครับผม



    :cool::cool: จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ ขอบพระคุณมากครับ :cool::cool:

    image-e9e0_577bc63d-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,253
    ค่าพลัง:
    +14,334


    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$




    623.ผิวหิ้งเก่าจัด พระผงวิเศษพิธีจตุรพิธพรชัย พระสมเด็จทรงนิยม
    ลป.ดู่,ลพ.กวย,ลป.โต๊ะ ร่วมเศกพิธีใหญ่2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระสมเด็จทรงนิยม เนื้อผงวิเศษ ประกอบไปด้วย ผงเกสรปูชนียวัตถุนำมาจากปูชนียสถานต่างๆ, ว่าน 108, ผงอิทธิเจ ปะถะมัง และตรีนิสิงเหของพระอาจารย์ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.อยุธยา (จากเอกสารของวัดสุวรรณดาราราม) ดำเนินการจัดสร้างโดย นายเรียน นุ่มดี และ พระครูปริยัติสุกิจ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และพระเณรสมัยนั้นเป็นผู้สร้างกันที่วัดสุวรรณฯ #### ( องค์จริงสีออกขาวอมเหลืองนิดๆนะครับ พอดีถ่ายรูปเองไม่ค่อยสวยครับ ) ####

    ปูชนียวัตถุมงคลพระเนื้อผงในพิธี
    - พระ 3 สมัย (เชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง), พระสมเด็จทรงนิยม(หลังสมเด็จโต), พระภควัมบดี และพระสมเด็จไกรเซอร์


    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อธิฐานจิตเดี่ยว 1เดือนเต็ม หลังจากได้จัดพิธีนั่งปรกปลุกเสก โดยพระคณาจารย์ 16 รูป ณ วัดสุวรรณดาราราม พิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2517
    พระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีฯมีรายนามดังนี้
    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

    นี่คือรายชื่อพระที่ร่วมปลุกเสกตามเอกสาร ของวัดสุวรรณดาราราม ดังนั้นพิธีนี้ถือว่าเป็นต้นกำเนิดเดิมแท้ ของพระเนื้อผงมาจากวัดสุวรรณดาราราม ส่วนเหรียญถูกสร้างมาภายหลัง (และได้จัดพิธีที่วัดหอรัตนชัย) ตามเอกสารของวัดรัตนชัยต่อไป ส่วนพระที่ปรากฏและเป็นเอกสารตามรูป นายเรียน นุ่มดี ได้แบ่งเอาพระสามสมัย เชียงแสน สุโขทัย และอู่ทอง, พระสมเด็จทรงนิยม, พระภควัมบดี(พระปิดตามหาลาภ) และพระพุทธศรีมณฑป(บางส่วน) ไปเข้ารวมพิธีอีกครั้ง เพราะพระในส่วนนี้นายเรียน นุ่มดี ที่จะนำไปสร้างกุศลที่วัดบ้านเกิดวัดเขาใหญ่ สุพรรณบุรี รวม พระเนื้อผง เข้าพิธีถึง 2 ครั้ง 2 วาระ

    พิธีจตุรพิธพรชัย วัดรัตนชัย
    พิธีพุทธาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ จ.ศ. 1337
    เวลา 15.09 น. โหรประกอบพิธีบูชาฤกษ์
    เวลา 16.03 น. – 16.21 น.มหามงคลฤกษ์ ประกอบพิธีจุดเทียนชัย
    เวลา 16.30 น. พระสงฆ์เถระ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ( ในพระอุโบสถวัดรัตนชัย)
    เวลา 19.09 น. พระพิธีธรรม 4 รูปเจริญพระคาถาพุทธาภิเษกพระคณาจารย์ 16 รูป เข้าประจำอาสนะปรก
    ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ
    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

    รายนามพระคณาจารย์ทั้ง 2วาระคือ พระคณาจารย์ชุดเดียวกัน แต่มีวาระกันปลุกเสกห่างกัน ประมาณ1ปี
    เชิญอ่านสำเนาสูจิบัตรเพิ่มเติมครับ :
    พระชุดศรีมณฑปของวัดสุวรรณดาราราม…พิธีเดียวกับพิธีจตุรพิธพรชัย � พระเครื่องศักดิ์สิทธ


    สภาพสวยเดิม พิมพ์คมชัดลึกมีหูมีตา เนื้อหามวลสารพิมพ์มีกดไม่ติดไม่เต็มบ้างเล็กๆน้อยๆตามขอบตามมุมดังรูป เพราะพระองค์นี้แก่มวลสารอ่อนตัวประสาน มีคราบปลวกจากการเก่าเก็บเดิมๆจากวัด พระชุดนี้ใครๆก็รู้ว่าดีแค่ไหน ทั้งเจตานาการจัดสร้างอันบริสุทธิ์,พิธีที่ดีรวมถึงฤกษ์ยามต่างๆ,มวลสาร และพระคณาจารย์ที่ปรกล้วนไม่เป็นรองใคร ปัจจุบันวัตุมงคลพิธีนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และหากเป็นชุดนี้แล้วด้วยยิ่งหายากครับ มีเก๊ออกมาแล้วเช่าบูชาศึกษาก่อนนะครับ จะหาว่าไม่เตือน ไม่แท้ไม่ทันคืนเต็ม แบ่งให้บูชา 1,234 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2018
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,599
    ค่าพลัง:
    +30,884
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     

แชร์หน้านี้

Loading...