กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

*คุยกันสบายๆระหว่างทางครับ*

“กระทู้กระแสพญานาค”
เหมือนเป็นกระทู้รวมมิตร
ลัดเลาะท่องเที่ยวไปทั่ว
พบเรื่องราวหลากหลายรสชาติ
...หลายอารมณ์กลมกล่อม
...99 in one แซบหลาย


จากพญานาคที่วัดป่า...

*ท่านอาจารย์นพ*ผู้ให้แรงบันดาลใจ

...พาไปแอ่วสกลนคร
พบเรื่องราวพญานาค
และสิ่งลี้ลับมากมาย
ทำให้หลายคนรู้จัก “เกาะดอนสวรรค์”

จากนั่นเหาะข้ามไปปท.เพื่อนบ้าน
ขะแมร์ดินแดนปาฎิหาริย์
ร่วมกันสำรวจสามเหลี่ยมปริศนา
พาผ่านนครวัต ผ่าครึ่งเขาพระวิหาร
...พบอู่อารยธรรมแห่งปราสาทหิน

...รวมทั้งเรื่องซับซ้อน จานบิน จานผี
แล้วกลับคืนสู่หมวดหมู่โหมด “พญานาค”

พร้อมรูปเหมือนภาพวาดพญานาคบนท้องฟ้า
แปลกตาเพราะเกล็ดทองรอบๆตัวจากริ้วเมฆ
ที่สะท้อนแสงสีตะวันเช้าด้วย”ความบังเอิญ”
...พร้อมภาพปริศนาต่างๆจากท่านสช.ส่งมา


จากนั่น....เรื่องราวข้ามไปสู่แดนฝัน
เลขเด็ดชวนพิศ และวิธีสังเกตที่น่าสนใจ
แล้วนำสู่มิติแห่งวิญญาณหลอกหลอน

....ตามด้วยประสบการณ์มหัศจรรย์มากมาย

และเรื่องเล่าแปลกๆจากน้องพี่ลุงป้าที่ร่วมแจม

ที่สำคัญระหว่างทางจะมีเนื้อหา*พญานาค*
เข้ามาสอดแทรกเพิ่มสีสันเป็นระยะๆ

ทำให้เนื้อหาอุดมไปด้วยโปรตีน

และวิตามินabc(ถึงz)ที่หลากหลาย

เบื้องต้นนี้บอกได้คำเดียวว่า “ม่วนหลาย”

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 3 ลำดับที่ # 42


กำลังจะให้เณรถ่ายรูปให้
เจอท่านสีแดงมาพันรอบตัวตั้งแต่ขา
แล้วไปแผ่เศียรอยู่บนศรีษะ ๕๕๕
รับรู้ได้ถึงฤทธิ์ที่ท่านมี ยืนตัวเกร๊งเลย
(ในใจหนาวๆเสียวๆ ตายแน่ตรู ๕๕)
แต่ท้ายสุด ไม่มีอะไร เป็นการเข้ามาทักทาย
วิธีการหนึ่ง ไม่ยอมให้ถ่ายรูป
ถ่ายได้เฉพาะเป็น วงกลมเหนือศรีษะ
ตามจำนวนเศียรท่าน
ปล รูปมีแต่ไม่เอามาลงหรอก ๕๕๕
จบนิทาน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเปรี้ยว หรือหลงตนเอง
การฝึกแล้วเกิดมีนั้น
ยังไงก็สู้ที่เค้ามีเป็นธรรมชาติ
ตั้งแต่เกิดไม่ได้หรอก( แพ้กันที่ความเร็ว
ยิ่งกว่าเสี้ยววิของเสี้ยววิ)
หน้าที่เราทำได้แค่ ทำตัวอย่างไร
ให้เค้าเห็นเราเป็นมิตรและ
มีความเคารพ เกรงใจ ซึ่งกันและกัน

------------------------------------------------

(หมายเหตุ)
ท่านอ.นพ มักจะลงท้ายว่า"นิทานนะ"
แต่ผมขออนุญาตเอาคำนี้ออก
...ด้วยผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 3 (ลำดับที่# 56)

"nopphakan, post:
ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอก คนปกตินี่หละ
และก็นอนในเต๊นท์คนเดียวนี่หละ
เพียง แต่ว่า ตอนที่ฝึกเค้าจะแยกเดี่ยว
ให้ไปนั่งใครนั่งมัน เป้าหมายก็เพื่อ
ที่จะฝึกแก้เรื่องความกลัว เรื่องการปรุงแต่งจิต
เป็นประเด็นหลักนั่นหละ...........
.........ช่วงนั้นไปศึกษาความรู้
เกี่ยวกับวิชาเดินธาตุโบราณ
ถึงหลักในการตั้งธาตุ
คืออยากไปดูเฉยๆ ว่าเค้าฝึกอะไรกัน
ทำอย่างไร ทำอะไรกัน
ถ้าลองไปทำดู จะพอทำได้บ้างไหม...
เอาไว้ เพื่อมีคนมาถาม จะได้โม้ได้ไง.....
.......... พอดีช่วงหนึ่ง
จิตมันดันไปทางปรอทธาตุ
แต่ถูกท่านผู้ไร้ร่องรอยท่านหนึ่ง
ใช้คำว่า ห้าม ถึง ๓ ครั้ง
บอกว่า ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว
แต่ก็ยังแอบแสดงกล้าม
ไปใช้เรียก พระธาตุแทน
(เพื่อมีคนถามจะได้โม้ได้อีกไง ว่าทำอย่างไร)
มีหลักฐานยืนยันนะ
แต่ไม่อยากเอามาลงหรอก
เด่วมีบางคนมาพูดไม่ดี..

เชื่อกันว่า
วิชานี้ผู้เป็นเลิศที่ได้รับการยอมรับทั้ง ๓ ภพ
คือ ท่านปู่พยานาคท่านหนึ่ง สีขาวปนทอง
ชื่อท่านปู่อะไร จำไม่ได้แล้วครับ

 

รบกวนถามท่านอาจารย์นพ...ดังนี้
*ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรครับ*

"วิธีการหนึ่ง ไม่ยอมให้ถ่ายรูป
ถ่ายได้เฉพาะเป็น วงกลมเหนือศรีษะ
ตามจำนวนเศียรท่าน
ปล รูปมีแต่ไม่เอามาลงหรอก ๕๕๕"

...ถ้าอาจารย์ค้นรูปเจอ
อยากดูเป็นบุญตาครับ
*แต่ถ้าไม่เหมาะสมก็ไม่เป็นไรครับ*

--------------------------------

"เชื่อกันว่า
วิชานี้ผู้เป็นเลิศที่ได้รับการยอมรับทั้ง ๓ ภพ
คือ ท่านปู่พยานาคท่านหนึ่ง สีขาวปนทอง
ชื่อท่านปู่อะไร จำไม่ได้แล้วครับ"

...แสดงว่าปู่พญานาคมีชื่อเรียกต่างกัน
อย่างเช่นที่คำชะโนดคือปู่ศรีสุทโธนาคราช
..แล้วคงมีปู่พญานาคเรียกตามท้องที่อื่นๆใช่ไหม

---------------------------------------

"พอดีช่วงหนึ่ง
จิตมันดันไปทางปรอทธาตุ
แต่ถูกท่านผู้ไร้ร่องรอยท่านหนึ่ง
ใช้คำว่า ห้าม ถึง ๓ ครั้ง
บอกว่า ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว
แต่ก็ยังแอบแสดงกล้าม
ไปใช้เรียก พระธาตุแทน
(เพื่อมีคนถามจะได้โม้ได้อีกไง ว่าทำอย่างไร)
มีหลักฐานยืนยันนะ
แต่ไม่อยากเอามาลงหรอก"

...อิอิ ผมขอถามทั้งประโยคเลยครับ
เอาเท่าที่ท่านอ.นพเห็นสมควรนะครับ
ถ้าบางอย่างไม่สมควรเล่า
...ก็ไม่ต้องเล่าครับ
//เล่าเรื่องอื่นแทนก็ได้ครับ//
*ขอบคุณมากครับ*

 

๑. รูปมีแต่ขอตัดคนออกเพราะวงขึ้นเรียง
อยู่เหรือบนศรีษะ

๒.ชื่อเรียกคงมีปกติที่ต่างกัน
แต่ที่ดังๆ นอกจากท่านปู่ศรี
ก็องค์ที่ส่วนตัวกล่าวถึงนั้นหละ
เดาว่าท่านอาจจะเป็นท่านแรกที่ทำได้
ปล.โบราณตั้ง ๔ ธาตุกลางอากาศ
ใช้หน้าอกบังคับดึงเข้ามา หลังจากที่ปั่นรวมกันแล้ว
สายสมเด็จตั้ง ๑๒ จริงๆ๑๐ อีก ๒ มาเอง
ใช้เหนือสะดือดึงเข้ามาหลังจากที่ปั่นรวมกันแล้ว
ในดง ใช้หน้าฝากดึงเข้ามา
ทริคคือใช้หน้าตั้งทุกวิธี แล้วค่อยย้ายจุดบังคับ
ควรมีพื้นฐานกสิณ ๑๐ ระดับพลังงานเป็นทุน

๓ เรียกพระธาตุ แต่วงการเรียกภูตอากาศ
ทั่วไปเข้าโหมดอรูปพลังงาน ๑๕ นาทีก็เกิดขึ้นได้
ที่เลิกเพราะกำลัง มันส่งผลกระทบกับร่างกายคนอื่นๆได้
๕ ปีก่อนเคยกำหนดบางอย่างผิดแบบไม่โดนตัว
พอดีเพื่อนที่โดนร้องเสียงหลง นั้นแค่ช่วงเริ่มต้นใหม่ๆ
ซึ่งอาจเผลอใช้ในทางไม่ดี และส่วนตัวยังสอบไม่ผ่าน
เรื่องการยกระดับใช้งานไปขั้นที่ตั้งปธิทานไว้
ตอนนี้มาได้อีก ๒ ระดับเพราะเปลี่ยนมาใช้ในทาง
ที่มีประโยชน์ ซึ่งท่านที่ห้ามนั้นหละ
แนะเทคนิคคอลเทอมให้
ยังอยู่ในช่วงพัฒนาอีกเยอะ
และถือว่า เป็นเด็กน้อยอยู่สำหรับท่านที่เคยแนะต่างๆ
และตอนนี้เป็นคนธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ
ยังไม่ถึงปธิทานที่ตั้งไว้ มีภาระทางโลก
ยังไม่เรียบร้อยอยู่

ปล.นิทาน พอขำๆ

 

ช่วงนี้ไม่มีอะไรมาเล่าให้อาจารย์ฟังเลย
ตื่นมาลืม ลืมก็ไม่คิดตาม เพราะอาจารย์นพบอก ให้ปล่อยวางไปเลย
เจนก็ลืมตลอด 5555
มีแค่จำได้ว่า ฝัน2-3วันก่อน
ฝันถึง ตัวใหญ่เหมือนมังกรฝรั่ง
สีขาวเผือก เหมือนสีหมอก
มีปีกใหญ่ มีหางใหญ่เหมือนหางปลา
บินแอบๆบนก้อนเฆก

 

ผมตื่นเต้นมากที่อาจารย์นพ
...จะส่งภาพตามที่กล่าวไว้
ให้มวลสช.ได้เห็นทั่วกัน
...ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ระหว่างรอ...ผมขอคั่นรายการนี่ครับ


Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 4 (ลำดับที่ # 61)


nopphakan post:
ลองไปดู แผนที่ประเทศไทยนะครับ
แล้วลองลากเส้นตรง
จุดที่ ๑ จากวัดชื่อดังนั้น
โยงไปยังเกาะผีดุนี้เป็นจุดที่ ๒
แล้วกลับไปที่จุด ๑ และ จุดที่ ๒
ลากเส้นออกมาจากทั้งสองจุดนี้
ให้เป็นรูป สามเหลี่ยม
มุมภายในประมาณ หกสิบองศา
แล้วให้ดูว่า จุดตัดหรือจุดที่ ๓
ที่ลากจากจุดที่ ๑ จากวัด
และจุดที่ ๒ จากเกาะผีดุนั้น มันไปชนกัน
ณ บริเวณใด สถานที่ใดในประเทศนี้
.....และสถานที่นั้น
ตอนนี้เป็นของใครครอบครองอยู่....?
เป็นสถานที่สำคัญอะไรไหม ?
และทำไมถึงต้องเป็นสามเหลี่ยม ?
เกี่ยวข้องกับการหนุนอะไร ?
ทำแล้วเพื่ออะไร ส่งเสริมอะไร ?
.....................................
...................
ปล. คนเราจะฝึกอะไรสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้น
มันอยู่ที่เจตนาว่า ฝึกเพื่ออะไร
ฝึกแล้วคุณจะไปทำอะไร
และจะใช้ประโยชน์อะไร
เน้นเพื่อประโยชน์ทางธรรมและผู้อื่น
หาใช่เพื่อลาภ ยศ สุข สรรเสริญแห่งตน
ถึงจะมีโอกาสเข้าถึงความสำเร็จได้
ส่วนจะช้าหรือเร็ว
ขึ้นอยู่กับความเฉลียวส่วนบุคคล
ตรงนี้จะมีฐานมาจากการเจริญสติ
ในชีวิตประจำวัน
และเดินปัญญามาก่อนซักระยะหนึ่ง

 

เรื่องภาพรอซักพัก น่าจะเก็บไว้ใน
External drive
ดูภาพ ที่ถ่ายวันสำคัญทางพุทธไปก่อน
ข้าพเจ้าอยู่ใต้ภาพ แต่ตัดออก
ณ วัดแห่งหนึ่ง เวลา ๐๒.๓๐ น.
หรือตีสองครึ่ง
ไปคนเดียวตั้งกล้องวิ่งเอา ๕๕๕
เข้าใจว่า ไม่เหมือนภาพใด
ในประเทศนี้แน่ ^_^
พอขำๆ

 

ขอบคุณ

...ภาพบนที่ท่านอาจารย์นพส่งมาให้ดู
**แปลกมาก และน่าจะเป็นแสงลึกลับอะไรสักอย่าง**
...เกิดขึ้นในวันสำคัญทางพุทธด้วย
...ซึ่งมักจะมีเรื่องศักดิ์สิทธิ์ปรากฏให้เห็นเสมอ

เพราะถ้าเป็นแสงไฟ หรือแสงอื่นๆ
....ก็น่าจะเป็นดวงไฟกลมๆ
แต่นี่เป็นแสง 6 แฉกชัดเจน

...ส่วนภาพที่เก็บไว้ตรง External drive
*ถ้าค้นหายาก ก็ไม่เป็นไรครับ*
เพราะหลายครั้งผมเคยพยายาม...
...ค้นหาภาพแปลกๆ
ที่เก็บไว้ในคลังภาพ...
หาอยู่หลายวันก็หาไม่เจอ
จึงต้องหยุดเพราะท้อและเหนื่อยใจ
...ยังแอบคิดในใจเลยว่า
"นี่แหละคือความเร้นลับในบางสิ่ง
ที่ต้องการให้ผมเห็นแค่คนเดียว"

 

...เมื่อ 4-5 วันก่อน
ผมบังเอิญไปเจอรูปแผนภูมิ
*นักกษัตร 12 ปราสาท*
ของท่านดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

ผมจึงขออนุญาตนำมาลงไว้ที่นี่

เพราะผมมีข้อสงสัยว่า...
ทำไมนครวัด และบายน
มีสัญญลักษณ์เป็น "รูปพญานาค"

จึงอยากให้ท่านที่พอรู้บ้าง
ช่วยลงรายละเอียดเท่าที่ทราบครับ
โดยผมมีความรู้สึกว่า...
นครวัดหรือนครธม และปราสาทบายน
ณ ดินแดนเขมร ประเทศเพื่อนบ้าน
ต้องมีเรื่องราวพญานาคมากมาย
...ขอบคุณครับ

(หมายเหตุ...เรื่องแปลกใจ)
ปกติผมเป็นคนตื่นเช้าตี4-ตี5
เช้าวันที่ผมอ่านเจอแผนภูมิ
นักษัตร12ประสาทหิน
แล้วไปหาข้อมูลอื่นๆของท่านดร.ชาญวิทย์
(แต่ไม่พบรายละเอียดพญานาค)
ช่วงหนึ่ง ผมรู้สึกง่วง
จึงเดินไปงีบหลับลงตรงโซฟายาว
สักครู่ ปรากฏว่าเหมือนผมฝัน
...คล้ายมีเสียงกระซิบทางด้านขวาว่า

“นครวัดนครธมและบ่อน้ำ
ต้องใช้แรงงาน 2 ล้านเที่ยว”

ผมฝันสั้นๆแค่นี้ผมก็ตื่นขึ้นมา
แล้วทบทวนคำพูดเพื่อกันหลงลืม
จากนั่นก็ส่งบุญให้ท่านที่เข้ามาฝัน
...จากนั่นผมก็จดไว้กันลืม
(ตามที่ท่านอ.นพชี้แนะ)

 

เหมือนผมจะเดาถูกนะคืออะไร แต่ให้พี่มาเฉลยดีกว่า.
ปล.ผมไม่กล้าฝึกทำครับ กลัวสายใยขาดถ้าเขียนไม่จบ โดนดูดพลัง

 

เล่าให้ฟังเป็นนิทานเล่นๆ ที่เล่าคือแบบหยาบๆนะ
ก็ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงาน
เรื่องสร้างบารมี เรื่องอยู่เบื้องหลัง อะไรทำนองนี้
ยังไงก็มีภูมินี้อยู่เบื้องหลังอยู่แล้วหละครับ
ส่วนพยานาคในยุคนี้กับยุคก่อนก็ต่าง
ที่รูปทรงหน้าตา ที่สมัยก่อนจะออกเหลี่ยมหน่อย
เท่านั้นเอง เห็นหน้าออกเหลี่ยมจะอยู่ในยุค
สมัยพระเจ้าวรมันทั้งนั้นหละครับ....
และก็พยานาคที่นครวัด ก็มีไม่ต่ำกว่า ๗ เศียร
ส่วนยุคพระเจ้าวรมันที่ ๗ เหลือประมาณ ๕ เศียร..
...สงสัยไหมว่า ทำไมตามกำแพง ถึงอาจจะไม่ค่อย
เห็นพยานาค....จริงๆนะมีอยุ่ แต่คนทั่วไปดูไม่ออกเอง
สัญลักษณ์ที่แสดงว่าเป็นพยานาค หรือมีพยานาคอยู่
เบื้องหลัง ก็ทรงผมที่เป็นศรีษะเทวดาต่างๆนั่นหละ
ที่เป็นคล้ายยอดฉัตร หรือ บางทีก็ทรงสูงๆนั้นหละ
ซึ่งการแยกว่า เป็น ช อีกวิธีการหนึ่งคือ ช ท่านจะมี
เครื่องประดับที่เรียกว่า บ่า แต่รูปร่างหน้าตา
ก็ออกเหลี่ยมกันหมด. (ลองยืนจ้องที่รูปดีๆ เพื่อจะเห็นอะไร)
จะยังไงก็ตาม ทางนั้นเค้าจะมี พยานาค ๗ เศียรเป็นแบ๊ก
หรือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอยู่แล้วเป็นปกติ....
และถ้าไม่มีคลาดเคลื่อน จะมีสัญลักษณ์ของพระศิวะ
อยู่ตรงบริเวณตรงกลางของพระนครด้วยครับ....
นั่นหละมันบอกว่า ทางนั้นเค้าเกี่ยวข้องกับเรื่องทางนี้
โดยตรงซึ่งสมัยก่อน ในเมืองที่มีอำนาจ เจริญรุ่งเรื่อง
เค้าก็ประมาณนี้กันทั้งนั้นหละครับ......
ถ้าเรามองพระนครวัดนี้ เป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้านะ
พลังงานก็จะออกทางด้านยาวของสี่เหลี่ยมพื้นผ้า
ในขณะที่ตรงกลางก็จะมีก้อนกลมๆใหญ่ๆ
ซึ่งพลังงานที่ออกทางด้านยาวส่วนใหญ่
มันก็จะคล้ายกลีบดอกบัว ในขณะที่ตรงกลาง
ก็จะเป็นคล้ายๆลูกแก้วกลมๆที่วางบนดอดบัวนั่นหละ
เพียงแต่ว่า หน้าตาก่อนที่จะปรากฏในยุคนี้กับยุค
ก่อนไม่เหมือนกันเฉยๆ แต่แนวๆวิถีพลังงานจะเหมือนๆกัน
แต่ต่อไปแล้วลูกกลมๆที่ว่าที่ ก็จะกลายเป็นท่อพลังงาน
ที่วิ่งขึ้นไปข้านบนนั้นหละ แล้วขึ้นตรงต่อแล้วมันอย่างไร
มันก็จะส่งผลให้บริเวณรอบนครวัดนั้น เหมือนมีพลังงาน
ที่ขึ้นตรงๆจากผิวดินขึ้นมา ขยายอนาเขตออกไป
ตามแต่ต้นกำลังนั้น ไอ้พลังงานตรงๆที่ขึ้นมานี้
พอขึ้นไปข้างบน มันก็จะกลายเป็นคล้ายๆ ครอบแก้ว
ทีคอยป้องกันอันตรายให้เมืองนั้นหละครับ
เคยดูหนัง ที่เค้ามีชั้นป้องกันเมืองจากการโดมโจมตี
จากทางอากาศใหม่ ที่ทรงคล้ายๆโดมนั่นหละ
ที่นี้ ในการใช้งานทางด้านพลังงานทั่วไป
ปกติเค้าจะมีต้นกำลังสนับสนุนจากดิน
หรือบ้านเราเรียกง่ายๆ ว่ากำลังพระแม่ธรณีนั่นหละครับ
ซึ่งก็ถือว่า อยู่ในระดับที่โปรซีรีย์แล้ว...
แต่ว่า ในยุคนครวัดนั้น เค้าจะมีแต่ระดับโปรซีรีย์
ต้นกำลังของเค้านั้น อยู่ยั่งลึกลงไปถึงใน
ระดับใต้ท้องสมุทรเลย เรียกว่า รวมแต่ที่สุดของ
ที่สุดในแต่ละด้านนั้นหละ...ถ้ามีต้นกำลังสนับอย่างนี้
มันจะง่ายๆมากในสายพลังงานที่จะบอกว่า
ต้องเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรื่องแบบสุดๆมาก่อนนั่นเองครับ
แต่ก็ต้องเข้าใจว่า แม้จะเจริญรุ่งเรื่องมาสุดๆ
แต่ถ้ายุคไหนที่ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง กิน กาม เกียตริ์
แล้วละก็จะค่อยๆ เสื่อมลงได้ในที่สุดนั่นเองครับ
เรื่องธรรมดาของทางโลก.......และด้วยฐานพลังงาน
แบบนี้ยุคนั้น เราน่าจะพบคนที่เหาะเหิรเดินอากาศ
ได้ตามปกติครับ.....

อาจจะส่งว่า สัญลักษณ์ ๑๒ นักกบัตร์คืออะไรใช่ไหม ??
๕๕๕๕. ย้อนอ่านวิธีพลังงานที่เป็นแท่งๆข้างบนก่อนนะถ้าลืม
สัญลักษณ์ที่เป็นรูปคล้ายสัตว์ต่างๆ ก็เป็นลักษณะพลังงานอย่าง
หนึ่งที่จะมีทิศทางการหมุนเป็นเอกลักษณ์ในตัวมันเอง
ถามว่าทำไปต้องเรียงอย่างนั้น เพราะถ้าสลับกัน
เอกลักษณ์ของพลังงานมันจะวิ่งตีกันเอง
(จะว่าไปมันคล้ายกับการตั้งธาตุโบราณ
ของสายอดีตสมเด็จพระสังฆราชจังเลยเนาะ อันนี้
พูดคนเดียวในใจนะ)
แล้วพอวางครบทุกเอกลักษณ์ พลังงานเหล่านั้น
ก็จะมาหมุนรวมกันเข้า เพื่อสนับสนุน พลังงาน
ที่เป็นท่อกลมๆ ให้มีความหนาแน่นมากขึ้น
เหมือนการคล้ายๆลูกแก้วที่อยู่ตรงดอกบัว
ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และสัญลักษณ์ที่มารวมๆกัน
ก็เลยทำให้ พลังงานที่ว่าเป็นท่อมีความหนาแน่น
มากยิ่งขึ้นและขนาดท่อใหญ่ขึ้นนั่นหละ...


ตรงนี้มันก็คือ วิถีในการ
ใช้งานทางด้านพลังงาน หรือ คนที่ใช้งานทางจิตได้
น่าจะเข้าใจกันได้ปกติทุกคน....เพียงแต่ว่า ที่นครวัด
มีต้นกำเนิด โดยรวมเอาระดับพรหมชั้นโปรซีรีย์
และยังมีแบ๊กระดับ ๗ เศียร์เป็นฐานกำลังครับ...
ในแต่ละยุคต่างๆกันที่ว่า ใครสนับสนุนบ้าง แต่ที่แน่ๆ
ยังไงก็มีภูมิพยานาค เปรียบเสมือนโยมอุปฐาก
ที่มีมาทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน
เอาแค่นี้หละครับ ไม่รู้จะพูดมุมไหนแระ ๕๕๕๕


ส่วนรูปภาพเมื่อวานลองหาแล้วแต่ไม่เจอ
เคยลงในเฟส แต่มีช่วงหนึ่งมาไล่ลบออกไปเอง
รูปที่ใส่เสื้อแจ๊กเก๊ท ในท่ายืนนั่นหละ...บอกไว้เฉยๆ...

 

...ตามที่เมื่อวานเช้าตรู่
ผมได้ลงแผนภูมิเกี่ยวกับ
*นักษัตร12ประสาทหิน*

ด้วยผมสงสัย “นครวัด-บายน”

*ทำไมต้องใช้สัญลักษณ์พญานาค*


.....ช่วงหนึ่งที่ผมงีบหลับ
ได้ยินเสียงแผ่วเบา
ดังมาทางด้านขวาชัดเจนว่า

"นครวัด-นครธม-บ่อน้ำ-ใช้แรงงาน2 ล้านเที่ยว"


เท่าที่ผมเคยรู้มีบ่อน้ำหรือสระน้ำ
อยู่รอบๆบริเวณนครวัดกว้างใหญ่
...ผมไม่เคยไปนครวัด-นครธม
เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร


...แต่เสียงนิรนามที่ดังเข้าหู
ทำให้ผมต้องสนใจ “นครวัด-นครธม”
และรวมทั้งปราสาทอื่นๆขึ้นมาทันที

...แต่ผมจะเน้นที่ “แผนภูมินี้”เป็นหลัก
และต้องมี*พญานาค*เข้ามาเกี่ยวโยงด้วย

...อย่างเมื่อวานเย็นยันเที่ยงคืน
เช้านี้อีกนิดหน่อย...

...ได้อะไรไปพอสมควร
แต่น่าจะไม่เกิน 10% นะ

...เรื่องราวนครวัดมีมากมาย
...เน้นท่องเที่ยวเป็นหลัก
มีแบบบันทึกประวัติบ้าง
เรื่องราวพญานาคบ้าง

**แต่ส่วนใหญ่จะซ้ำซาก**

ที่พอน่าสนใจก็มีบ้าง
"ซึ่งผมได้เซฟเก็บไว้"
...ว่างๆจะเอามาลงไว้ที่นี่




*ต่างกับที่อาจารย์นพเขียนไว้ข้างบน*
ผมอ่านมาแล้ว 3 รอบ
....สุดยอดครับ

....ผมขอคารวะด้วยใจ

*เป็นภูมิความรู้ด้านนี้ของท่านจริงๆ*

...อ่านเพลิน-ไม่รู้เบื่อ...ทึ่งด้วย



///แต่ผมมีเรื่องแปลกใจ///
ว่า...ที่ท่านอาจารย์นพเขียนมา

ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ถามเลย
(คือเป็นคำถามที่ยังอยู่ในใจผม)
ซึ่งผมตั้งใจว่าจะถามภายหลัง

*เหตุไฉนท่านชิงตอบผมก่อน*
*เหมือนอ่านใจผมล่วงหน้า*

....ที่ผมตจะถามคือ

1.ทำไมแผนภูมิปราสาทหินต้องใช้12นักษัตร
และเอามาใช้เพื่ออะไร

2.ทำไมคนจัดทำต้องเรียงปราสาทหินเช่นนี้(ตามแผนภูมิ)
หรือแค่เป็นการจัดเอาตามอำเภอใจ



แต่...ท่านอ.นพ ตอบมาโดยที่ผมยังไม่ได้ถามเลย
(ตามข้างล่างนี้)


"อาจจะสงสัยว่า สัญลักษณ์ ๑๒ นักกบัตร์
คืออะไรใช่ไหม ?? ๕๕๕๕

ย้อนอ่านวิธีพลังงานที่เป็นแท่งๆข้างบนก่อนนะถ้าลืม
สัญลักษณ์ที่เป็นรูปคล้ายสัตว์ต่างๆ
ก็เป็นลักษณะพลังงานอย่างหนึ่ง
ที่จะมีทิศทางการหมุนเป็นเอกลักษณ์ในตัวมันเอง

ถามว่าทำไมต้องเรียงอย่างนั้น

เพราะถ้าสลับกัน
เอกลักษณ์ของพลังงานมันจะวิ่งตีกันเอง"



Wow !! ทั้ง 2 ข้อข้างบน

อาจารย์นพ...
เล่นแซงคิวชิงตอบไปก่อนแล้ว

 

...ช่วงที่ผ่านมา
ได้ยิน*เจน*ฝันถึงพญานาคบ่อยๆ

...แล้วทำไมตลอดชีวิตผม
ไม่เคยฝันถึงเลยสักครั้ง
อย่างดีแค่...ฝันเห็นงูเหลือมเท่านั่น

แต่...เมื่อคืนผมฝันเห็นพญานาคพร้อมกัน 2 ตน

ที่ทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง มีคลองมีน้ำ
ไม่เห็นหงอน ไม่เห็นเกล็ด

ตัวใหญ่มากๆ...ใหญ่กว่าต้นมะพร้าว
ตัวหนึ่งสีเขียวมรกตอ่อน
เลื้อยมาหาผม
พอเข้าใกล้ๆ..แล้ววกกลับทางเดิม

จากนั่นพญานาคสีดำก็เลื้อยหาผมอีกทาง
พอใกล้ๆตัวผม ก็วกกลับทางเดิม
ช่วงที่เลื้อยกลับลำตัวทับไขว้ลำตัว
....เพราะยาวมากๆ
ในความฝันผมไม่รู้สึกเกรงกลัวเลย
เพราะรู้สึกว่าพญานาคมาเป็นมิตร

ผมฝันสั้นๆเพียงแค่นี้...
..เป็นครั้งแรกที่ผมฝันถึงพญานาค
ไม่รู้ว่าจะมาสื่อสารอะไร

...น่าจะเกี่ยวกับโชคลาภมั่ง(ผมเดา)

 

ช่วงนี้ ที่ร้าน เริ่มขายดี แต่ก็ต้องจ่ายออกไปกับรายจ่ายหลักๆที่จำเป็น
เลยทำให้ไม่ได้เข้ามาคุยกับอาจารย์ ทั้งสองเลยคะ
ค่ำปุ๊บ หลับปั๊บ
พอมีวันนี้แหละคะ ที่ร่างกายมันบอกว่า
“ไม่ไหวแล้ว พักได้แล้ว”
เจนเลยปิดร้านไว อาการมันแบบว่า เพลียจัด
แต่พอหลับ เพียงแค่ 5นาทีได้ ถ้ารู้สึก
ตื่นมา สดชื่นทันที เหมือนว่า
ร่างกายได้พักแล้ว แค่5นาทีกว่า ที่หลับสนิท
แถมตื่นมา กินเยอะอีกต่างหาก คะ 5555
(ไม่อ้วนจะไปไหนได้)

แต่เมื่อคืนนี้ เจนจำฝันได้แม่นยำมากคะ
มีกลุ่มคน ชายหญิง ล้อมวง เตรียมจะกินข้าว
ชายสองคนที่ทำอาหาร ดีใจใหญ่
เพราะมีงูสีดำตัวใหญ่ เลื้อยลงหม้อ
ยอมเป็นอาหาร ให้คนพวกนั้นกิน
เขาดีใจมากเลยพูดขึ้นมา “งูเลื้อยลงหมอทองเหลืองพอดีเลย”
เขาก็จัดแจง ถาดใบใหญ่
เทหม้อต้มงูออกมา
เท่าที่ภาพเจนเห็น งูตัวใหญ่สีดำ ยอมสละตัว เพื่อเป็นอาหาร
ท้องเหมือนมีไข่ด้วย มันสีเหลืองๆ ไขมันหรือไข่ ไม่แน่ใจคะ
แต่เจนก็จ้องมากเลย คือเจนชอบดู พวกคนทำอาหาร
เจนไปจ้องดูเขากินกัน อย่างอร่อยเลย
ผู้หญิงคนหนึ่ง ชวนเจน “มามากินข้าวด้วยกัน”
เจนปฏิเสธทันที แถมเห็นแล้ว แบบ สงสารงู
แต่ก็งง ทำไมต้องยอมเลื้อยลงหม้อ

ตื่นมา ภาพงูที่กลายเป็นอาหาร เครื่องในงู
ยังติดตาเลยคะอาจารย์

 

เคยมีฝันครั้งหนึ่ง แต่เจนจำไม่ได้ว่าฝันเมื่อไหร่
แต่เท่าที่รู้ ว่า ขึ้นไปบนเขาสูง แต่เป็นเขาที่มีป่าไผ่แห้ง
ไม่รู้ที่ไหนคะ แต่มีต้นไผ่เต็มไปหมด
มีโขดหินแซมๆ มาเล็กใหญ่จัดจายไป
เดินๆไป เจอ เจดีย์ ทรงระฆังคว่ำ ใหญ่ ตั้งเลยโขดหินไป
สีทอง ไม่อร่ามเท่าไหร่เพราะเก่า
ที่เจดีย์ มี12นักษัตร ล้อมรอบ เจดีย์
มีป้ายชื่อวัดนี้ แต่จำได้ที่อ่านคือ “วัดป่าเขาบ่อสร้าง”
ตรงป้ายชื้อเป็นตู้กระจก มี12นักษัตร.ด้วยเล็กๆ เป็นรูปปั้นในตู้กระจก
ลองหาข้อมูล ไม่มีเลยคะ แต่ตีความไปว่า
วัดนี้เป็นวัดในป่าที่คนไม่สร้าง 55555
แต่จำได้ว่า ช่วงนี้ จะฝันถึง ชื่อเกตุๆ บ่อยๆ

และ ชอบฝันเห็น ปราสาทเก่าแก่ คล้ายปราสาทพนมรุ้ง
ลวดลายของรูปปั้นคน เหมือนของขอม หรือเปล่าไม่แน่ใจถ้าเรียกผิด
ขออภัยนะคะอาจารย์
จะฝันถึง เป็นช่วงๆ เหมือนเดินๆดู รอบสถานที่ มีคนพาไป

และมีครั้งหนึ่ง ที่ฝันว่า ตัวเอง ตัวหดเล็กลง เท่าฝ่ามือคนคนหนึ่ง
ไม่รู้เป็นใครคะ เจนหดเป็นพญานาคตัวน้อย มี5เศียร เล็กกว่าฝ่ามือคนคนนี้
ซึ่งเจนไม่รู้ว่าใคร แต่เจนเล็กกว่าฝ่ามือเขา ลอยได้บนฝ่ามือคนนี้

ช่วงนั้น ที่ฝันบ่อย พยายามหาคำตอบคะ
แต่ไม่ได้ เจนก็ถอดใจเลยปล่อยไปเลย

 

และเจนจะชอบฝันเห็น
ธรรมจักร ไม่รู้ว่าเรียกถูกมั้ย
กลมๆเหมือน กงล้อ ที่อยู่คู่ พระพุทธศาสนา

ภาพเหตุการณ์ ในความฝันนี้จำได้ดีเลยคะ
เหมือนอยู่ป่า ดิบชื้น เพราะทุกส่วนที่เหยียบเดิน ดินจะแฉะๆ
มีไอของความชื้นตลอดเวลา
ต้นไม้ ก็เขียวขจีแต่ใบใหญ่ มากๆๆๆๆ
เดินๆไปทางไหน ใบไม้ก็ตบๆ ใส่หน้าตลอด คือต้นไม้เยอะ
จากนั้นจำได้ว่าตัวเองยืนบนที่สูง เหมือนปราสาท เก่า
มองออกไป เห็นเงาที่กระทบแสงแดด
เป็นพญานาค เก้าเศียร แผ่ผังออก แล้วม้วนตัวเข้าเป็น กงล้อธรรมจักร
ขนาดใหญ่ เจนตกใจก็ตื่น แต่จำได้แม่น ว่าเป็น กงล้อธรรมจักร ชัวร์

 

ค่ำคืนนี้ ส่งท้ายด้วย ฝันเมื่อ 3-4วันก่อน
ฝันเห็น ผี ปอ ออ ปอบ
ยึ่ย แค่ชื่อคือเจนกลัวเลย
ผีปอบใส่ชุดสีแดง น่ากลัว มันตามเจนในฝันทั้งคืนเลย
เจนก็ ไปแอบในศาล สีแดง ไม่รู้ศาลอะไร เล็กๆพอดีตัวเจนให้หลบ

ก่อนเจอปอบ ไปเจอคนก่อนคะ
แบบไปวัด เข้าไปในวัด คนนุ่งขาวห่มขาว ชายหญิง
อยู่กันเพียบ ที่หน้าพระประธาน
แต่ทุกคน คือคนอื่นๆ นอกจากเจน
คุยกันนินทาสนุกสนาน
มีเพลงเปิดในวัด ร้องเพลง ฟังเพลง
คือดูไม่เหมือนคนมาปฏิบัติธรรมในวัด
เจนก็ถอดใจ อยากหลบมาที่สงบก็มาเจอพวกคนเสียงดัง
เลยหันหน้าจะก้มลงกราบพระ และขอกลับออกไป
เจนก็เจอ ถาดทองสีเหลี่ยมผืนผ้า มีหนังสือสวดมนต์เล่มใหญ่สีเหลือง
มีดอกพวกมาลัยมะลิ เป็นพวงที่รอยเรียบๆ ยาวๆ
เหมือนที่คนเอาไปแก้บนที่วัดหลวงพ่อทันใจ อ่ะคะ แบบนี้ละ 1พวง
เทียน หลายเล่ม ไม่ยักกะมีธูป
และเด็ดสุดคือ มี ที่ห้อยๆ เหมือนโมบาย
แบบในหนังสมัยก่อน ที่เขาชอบห้อยตามบ้าน หน้าต่างบ้าน
ห้อยตามวัด ที่สวยๆ เจนไม่รู้จักชื่อ
เจนเห็น ทั้งหมดนี้ วางบนถาดทอง
อาจารย์ว่า จะเป็นการบอกอะไรมั้ยคะ
แบบว่า ไปหาทำบุญเด้อ เอาแบบนี้เด้อ
อาจารย์คิดว่าจะใช่มั้ยคะ

 

เอาพอขำๆเน้อ ถือว่าเป็นนิทาน.....
ความจริงวัดที่ฝันเห็นนั้น ในอดูดที่ผ่านมานั้น.....
พระมารดาในอดีต เราเองนั่นหละ ที่เอา ดญ. น้อย
นางหนึ่งไปฝากไว้ กับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่วัดนั้น
ก็น่าจะเป็นท่านที่ไม่ทำธรรมดานะ เพราะตอนเอาไปฝาก
พระมารดาในอดีตนั่งนอบน้อมในขณะที่พระอาจารย์
ท่านยืนอุ้ม ดญ. น้อย อยู่
ตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก แต่ยุคนั้นคนแต่งตัวประมาณว่า
ญ จะใส่ชุดคลุมนะ ส่วนเด็กก็ไว้จุกกัน ดูตลกดี..
เราก็ลอยอยู่ในมือ อาจารย์ท่านนี้นี่หละ...

กงล้อธรรมจักรนั้นสืบมาจาก พระที่เอาเราไปเลี้ยงดูนั่นหละ
เป็นบารมีขององค์ท่าน..และ
บริเวณป่านั้น ความจริงด้านหลังมันเป็นหน้าฝาสูงชันด้วย
เป็นบริเวณ ที่เวลาพอเราโตเป็นสาว สมัยนั้นถือว่า
หุ่นป่านว่า นางแบบ พอดี ชอบไปนั่งกินลมชมวิว
ยังมีอีกท่านที่เป็นหญิงนะ ที่ชอบเอาเราไปเลี้ยงบริเวณนั่นหละ
ญ ท่านนี้เวลาไปไหน จะมี คนแต่งกายเป็น ญ อีกสองคน
คอยติดตามไปด้วยตลอดเวลา แต่งตัวเป็นทางจีนๆหน่อย...


ฝันสุดท้าย ทำบุญไว้ก็ดีไม่เสียหาย...
เอ่อ ได้คิดวางแผนว่าจะมีบุตร ๓ คนหรือเปล่าหละ ?
ปล. นิทาน พอขำๆ

 

อาจารย์คะ เจนคิดไว้อยู่คะอยากมีลูก3คน
แต่ว่า เจนเป็นพาหะ ทารัสสิเมีย เรียกถูกอยู่เนาะ 555
แฟนเจนก็เป็น หมอว่า คนที่3อาจไม่สมบูรณ์
เจนถอดใจ เลยบอกแฟนว่า แค่สองคนก็พอ
ตอนท้องสเน็ก เจนร้องไห้ทุกวัน กลัวลูกผิดปกติ แต่ดีใจที่ออกมาครบสมบูรณ์
ตอนนี้ ดื้อมึนมากคะ
คนที่สอง เจ้าสตัง คนนี้ ตอนท้อง 1เดือน เจนตกเลือก ร้องไห้หนัก กลัวลูกไม่อยู่
เดือนแรกไปส่องอุลต้าแมนดู ไม่เจอเขา ยิ่งร้องหนักไปใหญ่
หมอบอก ใจเย็นคุณแม่ แต่มีถุงน้อยๆอยู่ น้องอาจยังอยู่นะ
เจนก็สวดมนต์ทุกวัน พอไปตรวจเดือนถัดมา เขาตัวใหญ่เหมือนเด็ก3-4เดือนในท้อง คือแบบว่าดิ้นๆได้ด้วยคะ
ช่วงที่ท้องสตัง ชีวิตเจอแต่ความลำบาก ต้องทนสอบใจว่า
เจนกับสามี จะไปต่อได้มั้ย เพราะหนีออกจากบ้านแม่แฟน
อยู่ไม่ได้คะ ลำบากใจ ถูกด่าตลอด คือแม่แฟน (ชอบบ่น )
บ้านแฟนเจนมีพี่น้องทั้งหมด4คน พวกเขาเถียงกันตลอด
เจนอยู่ไม่ได้ เลยหนีออกมากับแฟน
ดีใจ ที่แฟนเจนเลือกเจนกับลูก

เหมือนนิยายเรื่องหนึ่งเลยละคะ
สตัง เกินกำหนดคลอด ตั้ง1สัปดาห์
คลอดตรงกับ วันมาฆะบูชา พอดี เลยคะ
เจนได้ใส่บาตรพระ1รูป แล้วไปคลอดทันที

เล่ามานี้ นิยายชัดๆ