กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

..
ชื่อวัดเหมือนตำราพิชัยสงครามเรยค่ะ ^^

 

ช่ายๆครับ เผลอๆ ที่วัดอาจจะซ่อนตำราพิชัยสงครามไว้ด้วยก็ได้นะครับ

 

จะไปดู เจนก็คิดว่า ถ้าไปดู ต้องมีขนม น้ำ
ร่วมแล้ว คง เกือบ500 บาท (เจนกินจุ แถวในโรงขนมแพง)
ตัดสินใจ ซื้อเลย์ โค้กขวดใหญ่ เปิดเว็บดูที่บ้าน
ตบท้าย ถือจานข้าวขาหมู มานั่งดู
อดกัน ทริปดูหนังในโรง
เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยคะพี่ 55555

 

ตอนนี้ ตาซ้ายเจนเคืองมาก
พึ่งเป็นวันนี้วันแรกคะ
มันเหมือนมีก้อนๆ ตรงรูน้ำตา
เจนว่า 2วันคงปูดขึ้นมาเยอะแน่ๆเลย

 

เด่วจะไล่ตามลำดับ
ปกติพยานาคที่เด่นไปทาง
สีแดงเรื่องฤิทธิจะเก่งที่สุดอยู่แล้ว
ถ้าเทียบเป็นสีเดียวโดดๆใส่กันนะ....
(แต่ละท่านไม่ค่อยมีสีเดียว มีหลายๆสีปนกันไป
ยกเว้นทาง สีดำที่ทำหน้าที่ทหาร สีขาวล้วน
ที่เหมือนเราๆเป็นคนปฏิบัติธรรม หรือสีเขียวล้วน
ที่อยู่ตามวัด ก็จะยังมีสีอื่นๆ ปนๆกันเช่น ม่วง ฟ้า
ทอง น้ำตาล ฯลฯ)
แม้ว่า จะมีเมตตามากๆ แต่ด้วยบารมีทางด้านฤิทธิ์
ที่ได้สร้างสะสมมานั้น ก็จะทำให้ดวงจิตอื่นๆ
รู้สึกได้ ถึงความน่าเกรงขาม

ส่วนการบำเพ็ญตบะ เป็นเวลานานๆ เป็นปกติ
วิสัยอย่างหนึ่งของพยานาค จริงๆแล้วมันเป็นวิบากอย่างหนึ่ง
(คือ เหตุที่ทำให้ไปเกิดเป็นพยานาค)
ไม่ใช่แบบที่มีพยานาคเห็นพยานาคมาตาม
ในเรื่องเชิงความรัก เพราะความรักนี้
มันล่อหลวงมนุษย์ทั่วไปได้ง่ายให้ติดภพติดชาติ

พวกนี้เป็นปกติที่ภูมิไหน
ก็ทำได้ เพียงแต่จะแสดงออกทางด้านไหนเท่านั้นเอง
เมื่อภูมิไหน แสดงทางด้านไหน ถ้าคนนั้นยึดติด
จิตก็จะไปเกิดเป็นภูมินั้นๆได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ก็คือสัญญามันชัด เหมือนเวลาปกติเราฝัน
เรานั่งสมาธิเห็นโน้นนี่นั้น สัญญาไหนที่ชัด
เราก็เห็นก่อนนั้นหละ ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพียงแต่ไม่ยึด เราก็จะเข้าใจตรงนี้


คือ ติดในสมาธิ ตบะ. มนุษย์หลายๆคน
ที่บ้านั่งสมาธิ ทั้งหลาย พอตายก็มักจะไปเกิด
เป็นภูมิพยานาค มีให้เห็นเยอะแยะมากมาก..

เรียกว่า ถ้าในเมืองนั้น
ใครไม่นั่งสมาธิ เรียกว่า เพื่อนไม่คบ
เหมือนเป็นอะไรที่ประหลาด
เทียบกับสังคมเรา ประมาณว่า
อยู่ดีๆ เห็นคนเดินแก้ผ้าโตงเตงไปมา อะไรประมาณนั้น
นั่งจนมีลูกแก้วบารมีประจำตน ที่มักจะห้อยเป็นสังวาล
อยู่ที่ตรงหน้าอก
เวลาปรากฏร่างคล้ายคนนั้น


ส่วนหลวงพ่อชื่อดังในอดีตที่ จ.อุทัยธานี นั้น
ในวงการผู้โปรดจะรู้ๆกันว่า ท่านเป็นพระที่มากบารมี
ท่านมีพันธมิตร ทางภพภูมิมากมาย
คล้ายๆถ้าเปรียบกับคน คล้ายๆคนเวลาไปไหนก็มี
แต่คนรู้จัก เคารพนับถือนั่นหละ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหน
ตำบลใด ตรงนี้เป็นบารมีเฉพาะตน....

ส่วนในวงการปฏิบัติ ท่านถือว่า เป็นพระสงฆ์
ที่เป็นเลิศในเรื่องของความเฉลียวฉลาด
ในการสอนเทคนิคทางด้านกรรมฐานต่างๆ
ด้วยจริตที่ละเอียด และมีต้นทุนที่สูง
มีความสามารถเข้าสมาธิระดับสูงได้ตั้งแต่
สมัยยังเป็นเด็ก เป็นเอกลักษณ์ของดวงจิต
ที่ทางโลกเราเรียกว่า ปฏิสัมภิทาญาน
และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเฉลียวฉลาด
และความสามารถทางจิตที่สูง
แต่มักจะถ่อมตัวถ่อมตน......
เปรียบเหมือนคนมีเงินพันล้านบาท
แต่พูดจาธรรมดา แต่งตัวธรรมดา
เดินไปคุยได้กับทุกคน
และทุกคนที่คุยด้วย ก็จะเคารพนับถือท่าน
เป็นเรื่องปกติประมาณนี้.......


และด้วยที่ท่านมีบารมีมากมายทางภพภูมิ
ลูกศิษย์ท่านบางกลุ่ม ย้ำว่าแค่บางกลุ่มและส่วนน้อย
ก็มักจะได้ไปต่อยอด กลับครูบาร์อาจารย์
ทางภพภูมิที่มีชื่อเสียงในอดีตต่างๆอีกมากมาย
ถ้าผ่านด่านด้านนิสัย และอื่นๆได้.....



ส่วนพยาครุฑ ย้ำอีกรอบว่า ปกติจะไม่ลงมายุ่ง
หรือไม่ถ้าจะลงมา บริเวณนั้นจะต้องมีพระเกจิ
ที่เหล่าบรรดาพยาครุฑท่านให้ความเคารพ
ซึ่งแน่นอนว่า มักจะเป็นท่านที่เต็มไปด้วยความสามารถพิเศษ

และในบรรดาพระมากความสามารถพิเศษเหล่านั้น
ก็บ่อยครั้ง ท่านมักจะทำเครื่องราง ในลักษณะที่
เป็นรูปพยาครุฑ เป็นอย่างน้อย...

ต้องขยายความเพิ่มอีกนิดหนึ่ง เพื่อว่า ไอ้ ดาวลอง
อ่านแล้วจะไปตีความแบบคลาดเคลื่อน
ต้องเสียเวลามานั่งอธิบายให้ฟังอีก......


****** ปกติในระดับท่านที่ทำเครื่องราง เครื่องบูชานั้น
ทั่วไปแล้ว ๑. จะใช้การเชื่อมกับต้นกระแสในระดับสูงก่อน
เชื่อมเสร็จแล้วก็ตัด (เวลาใครห้อย แค่ระลึก
ก็จะเข้าถึงต้นกระแสทันที คล้ายๆว่า กระแสที่ถูกตัด
จากการเชื่อมครั้งแรกเหมือนการเตรียมคลื่นความถี่
เอาไว้สำหรับติดต่อสื่อสาร พอระลึกถึง ก็เหมือนเปิดเครื่อง
วิทยุที่ได้รับการจูนคลื่นความถี่ไว้แล้ว)
การเชื่อมอาจจะทำด้วยตนเอง
หรือแบบพิธีกรรมก็ได้ ตามความเหมาะสม.......
ซึ่งเป็นพื้นฐานที่รู้กันปกติ ในระดับดวงจิตที่ทำได้

ที่นี้ ๒.ในขณะที่เชื่อมกระแสนั้น ก็จะมีสิ่งหนึ่งที่จะติด
เข้าไปอยู่ในวัตถุนั้นๆร่วมด้วยเช่นกัน...
ซึ่งสิ่งที่จะติดเข้าไป มีทั้ง วิชาเฉพาะทางต่างๆ
ที่ได้ร่ำเรียนมา ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของจิตท่าน
นั้นๆ เช่น ท่าน ก ชำนาญเมตตา ด้านการอฐิษฐานขอ
และ ท่าน ข ชำนาญกสิณ
เวลาเพิ่มกำลังในวัตถุมงคลจากข้อ ที่ ๑ มาแล้ว
. เวลาท่าน ก ปลุกเสก
นอกจากต้นกระแสที่เชื่อมแล้ว ก็จะติดวิชาเมตตา และลักษณะพลังงานในการอฐิษฐานขอ จากท่าน ก
ไปอยู่ในวัตถุนั้นๆ ท่าน ก อาจจะดังในหมู่ฆารวาสว่า
ขอให้ช่วยอะไรมักจะประสบความสำเร็จ
และถ้าเป็นท่าน ข ก็จะติดพลังงานของ
กสิณเข้าไปเช่นกัน.. ท่าน ข ก็มักจะดังในเรื่อง
ของการป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ การแคล้วคลาดปลอดภัย
อะไรมานนี้....

และที่สำคัญเลย ที่ท่านเหล่านั้นมีเป็นปกตืคือ
๓.เหล่าพันธมิตรทางภพภูมิ ที่เคารพนับถือท่าน
เนื่องจากการที่ท่านได้สร้างสมบารมีต่างๆมา..
เหล่าพันธมิตรเหล่านี้
ที่อยู่ในช่วงสร้างบารมี ก็จะมีจิตญาน ของเหล่าพันธมิตร
ที่เคารพนับถือท่าน เข้าไปในวัตถุในลักษณะของพลังงาน
อย่างหนึ่งเช่นกัน.....
เช่น หลวงปู่ท่านหนึ่ง มีวิชาเฉพาะเรียกว่า เขาควาย
ท่านนี้เคยทำวัตถุมงคล เป็นรูปพยาครุฑ. ในรูปนั้น
ก็จะมีจิตวิญญานพยาครุฑที่ยังสร้างบารมีเป็นปกติ.....
เมื่อเต๊มแล้วก็จะยกระดับต่อไป แล้วก็มีใหม่เข้ามาเป็นปกติ
และวันดีคืนดี มีลูกศิษย์ไปขอให้ท่านไปทำรูป
กุมารทองบ้าง ท่านก็ทำ ตามศรัทธา
เราก็จะยังพบเห็นได้อีกว่า ในรูปกุมารทองที่ท่าน
ปลุกเสกนั้น ก็จะ มีพลังงานของพยาครุฑอยู่ได้เช่นกัน
ให้บางคนได้งงกันเล่นๆ

ตรงนี้ที่เล่าให้ฟังไม่ใช่เรื่องแปลก

ดังนั้นที่สถิตย์ของเหล่าพยาครุฑนั้น
จะไม่อยู่ในระดับชั้นความสูงเดียวกันกับโลกเรา
ยกเว้นที่แวะเวียนลงมาหาท่านที่เคารพ
หรือไม่ก็มาในลักษณะของจิตญาน
ดังที่เล่าให้ฟังมานั่นหละ.......

จบแระนิทานช่วงนี้


ปล. เสียงดังฟังชัดกังวาล
จะเป็นท่านที่มากบารมี ดังนั้นจะวัดกันที่
ระดับชั้นความสูงที่อยู่เป็นเกณฑ์ไม่ได้
อย่างเช่น ท่านที่เป็น ดูแลทิศต่างๆ บารมีระดับพรหม
แต่อยู่ระดับเทพ เสียงท่านจึงเบานิ่ม เป็นต้น
พูดพอให้เห็นภาพ


เสียงเบานิ่มเป็นเอกลักษณ์ระดับพรหมทั่วไป....
เสียงระดับพระพุทธฯเบา นิ่ม แต่มีความกังวาล
ไพเราะ พูดทั้งประโยคจนจบ แต่เราจะรู้สึกว่า
เป็นแค่พยางค์เดียว.
ระดับโพธิสัตว์มาไม่ค่อยพูด แต่จะเป็นรอยยิ้มแทน

เสียงชัดพูดแจ๋วๆคล้ายคนมาทางหูซ้าย
เป็นวิญญานมีฤิทธิ์อาจจะมีทั้งที่กำลังสร้างบารมี
และที่ไม่ดีก็ได้...

มาทางหูขวา เสียงคล้ายมนุษย์ เป็นวิญญานมีบุญบ้าง
มีฤิทธิ์บ้าง อยู่มานานได้รับบุญบ้าง อะไรมาณนี้
เอาแค่นี้หละ เรื่องเสียง....โม้ไว้หลายรอบมากแล้ว
ในพลังจิตเนี่ย....

ส่วนตัวไม่ทันยุคพระยาพิชัย
พอดีทันยุคพระนเรศฯ อยู่ใกล้ๆตัวท่านนั้นหละ
ช่วงปลายบวชเป็นพระหายเข้าป่าไปก่อน แล้วย้ายนิวาศสถาน
ไปเป็นพระอยู่ทางประเทศจีนโน้น
จะวกกลับมา เมดอินไทยแลนด์อีกที
ในช่วง รัชกาลที่ ๒ , ๕ แล้วมา ๘ เกิดไม่นาน
แล้วเป็นโรคตายก่อนตั้งแต่แบเบาะ
แล้วค่อย เกิดมาเท่ห์ในยุคปัจจุบัน...นั้นแล ๕๕
โม้จิหาย...

เจ้าแอมนะทัน ท่านพระยาพิชัยอยู่ ท่านพระยาพิชัย
ตอนนั้นก็ดูประมาณที่เห็นในฝันนั่นหละ
เจ้าแอม .. อายุ ๑๕ ถึง ๑๖ ปี
โตเป็นสาวแล้ว ดูผิวพรรณดี
คงอยู่ในตะกูล มียศมีศักดิ์นั่นหละ
และ.....ไม่ใช่สาวที่ทรงโต เหมือนพริตตี้
มอเตอร์โชว์ที่หมดเป็นล้านค่าศัลย์กรรมนะ และ
ก็แบบเรียบแบนแบบทอมนะ พูดให้พอเห็นภาพนะ
คือ..หุ่นพอดี แต่ว่าดูมีน้ำมีนวลหน่อย
ไม่ดูผอม และไม่อ้วน.....

สมัยก่อนหน้านางจะออกกลมๆ ซึ่งสมัยนั้น
สาวๆส่วนมากหน้าตาจะมีเหลี่ยมเล็กน้อย..
ผมทรงเด็กประถม ที่ตัดผมมาอยู่ประมาณแก้ม
แล้วมีผมปิดหน้าฝากเล็กน้อย ใส่จงกระเบน ใส่เสื้อ
แบบที่มันมีเกาะไหล่ดูคล้ายๆเป็นกลีบนูนๆ
ที่คนมีอายุสมัยก่อนชอบใส่กัน
แต่เปิดยาวตรงช่วงต่ำกว่าคอ
ลงมาหน่อย ชุดสีโปรดคือ เสื้อสีออกชมพูอ่อน
จงกระเบน สีเขียวแป๊ดดดดด ๕๕๕
ยกเว้นเวลาออกงาน
จะใส่สะใบสีเขียวอ่อนๆ แต่ว่า ว่าช่วงล่างก็เขียวแป๊ดดด
คือเก่านั่นหละ ๕๕๕๕๕๕๕๕

จบแระนิทาน ขี้โม้.....พอขำๆเด้อ

 

..
..
โอ้ยย กรีดร้อง คือ อ่าน 3 รอบ วนไป 555
ชาตินี้หนูก็ชอบสีเขียวกะสีชมพูเหมือนเดิมเรยย
ตอนเด็กๆเวลารำไทย ครูให้เลือกชุดไทย
หนูจะเลือกสลับอยู่ 2 สี คือ เขียวกะชมพู 5555
..
เฮียไปท่องยุทธภพแถบเมืองจีนแล้วเคยรู้จักหรือบวชในวัดเส้าหลินบ้างเป่า หนูปลื้มวัดเส้าหลินมากเรย บอกตรงจากใจ อิอิ

 

๕๕๕ ทางจีนไปบ้าง เป็นนักบวช แต่วัดอะไร บอกตามตรง
ไม่เคยคิดจะไปดูอะไรแบบนี้เลย...
เอาว่าที่จะพอรู้จักและทัน
จะเป็น ท่าน ๘ เซียนหรือ ๘ เทพนี่หละ
ที่ว่า มีภาพตามวัดจีน ตามมูลนิธิ ที่จะมี
เจ้าแม่กวนอิมด้วย
คือ จะทัน ๔ ในแปดท่าน. อีก ๔ ท่านไม่มีสัญญาเลย
ทันท่าน ช มีอายุ ที่ชอบไปกับเทพที่เป็น ญ
และ ช อีก ๒ ท่าน บอกตามตรงว่า บ่ ฮู้จักดอก
ชื่ออะไรก็จำไม่ได้เลย เคยไปอ่านอยู่ นานแล้ว
เกือบสิบปีมาแล้วมั่ง และไม่ได้รู้ว่า หรือจะสนใจว่า
ว่าไปทันท่านเพราะอะไร และ ตนเองเป็นอะไร
เพราะว่า เอาจริงๆไม่เคยสนใจเรื่องแนวนี้เลย
เพราะไม่เคยเก็บมาคิดเลยด้วยซ้ำ
..ขี้เกียจคิดบอกตรงๆ...
แต่ถ้าเอาไว้แซวคน พอขำๆได้อยู๋.....
๕๕๕๕

เอ้าลืมนี่ลิงค์

https://www.movie2free.com/thong-dee-fun-khao-ทองดี-ฟันขาว/

 

..
8 เซียนฮ้ะ กราบบบ


..
..
พรุ่งนี้หนูจะรีบดูนายทองดีฟันขาวเรยย555

 

**ขอบคุณมากๆครับ**

ตั้งใจหยุดไป 1 วัน
...กะว่าเข้ามาตี 4 เช้านี้
อาจจะเข้ามาทางตรงได้

...พอคลิ๊ก...แอบดีใจเลยครับ
ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ขอบคุณอีกครั้งครับ...
ท่านที่เข้ามาช่วยแก้ไขให้เพื่อนสช.

...แต่ไม่ทราบว่าเจ้น้ำรู้ได้ไง ?
อย่างงี้น่าจะ...โดนเหมือนกัน

 

เออ....เพิ่งเห็น
น่าจะคล้ายๆกันนะ

...แต่ของผมใช้ pc คอม
และก่อนเกิดไม่ได้อัพเดทโปรแกรมอะไร

โอเคครับ...ทุกอย่างผ่านเรียบร้อย

 

บางทีน้องเจนต้องลองปรึกษาคุณวงกรตน้ำดูครับ ว่าต้องทำยังไง ถึงจะได้ดูหนังในโรงมั่ง
คุณวงกรตน้ำเพิ่งมีประสบการณ์ครับ หากพี่ให้คำปรึกษา น่าจะได้ดูหนังในทีวีต่อไปเหมือนเดิมครับ 55555

แต่จะว่าไป พี่ก็เพิ่งรู้ว่า นาคี 2 เป็นหนังโรง พี่นึกว่าเป็นหนังทีวีเหมือนภาคแรก 55555

 

ขอให้หายไวไวนะครับน้องเจน

 

เด็ดมากครับอาจารย์นพ ไม่ได้ยึดติดกับอดีต แต่ก็อยากรู้ประวัติศาสตร์ในอดีตเด้อครับ 55555
คือเวลาอ่าน หรือเรียนประวัติศาสตร์ บางทีก็เกิดความสงสัยครับว่า ที่เรียนๆ อ่านๆอยู่นี่ มันเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะขนาดประวัติศาสตร์ ที่เขียนเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ หลายๆเรื่องยังไม่ใช่เรื่องจริงเลยครับ 55555

 

โห ดึกขนาดนี้ น้องแอมยังไม่หลับไม่นอน ตาเป็นช่วง ช่วง กะหลินหุ้ยแล้วมั๊งเนี่ย 55555

 

หลังจากถูกขัง
กลับมาไล่อ่านป้าน้าอาและญาติมิตรที่เขียนมา
เป็นเวลากว่าชั่วโมงครึ่ง
*ส่วนใหญ่พูดเกี่ยวกับเรื่องงูๆ*

เช้าวันนี้ผมเลยได้โอกาสมาคุยเรื่อง*งู*
ตามที่เคยรับปากว่าจะเล่าให้ฟัง

"....เจนเลยตั้งใจ เหยียบหัวงูตัวนี้ตายเลย
สรุป งูตาย บาปมั้ยละเนี้ย...."

"....เนื่องจากงูเป็นสัตว์ที่อาฆาตเเรง
เค้าคงมีบุพกรรมร่วมกันมาหลายชาติ...."


ลองอ่านเรื่องที่เกิดขึ้นจริง...นะครับ
เผื่อมีอะไรที่ตรงกัน หรืออาจไม่ตรงกัน

"ไม่ตรงกับที่ใจเคยคิดไว้"
...โดยเฉพาะเรื่องงูอาฆาต

9 ก็เคยคิดเช่นนั่นเหมือนกัน
แต่ปัจจุบันไม่อยากเชื่อแล้ว
แต่กลับคิดว่า*งู*เป็นสัตว์
ที่มีจิตสำนึกที่อาจดีกว่าคน


เช้านี้จะมาเล่าเรื่องงู
งูที่หลายท่านพูดถึง
โดยเฉพาะความอาฆาตของงูชนิดต่างๆ
ที่มักจะตามล้างแค้นคนที่เคยทำร้ายพวกมัน

...ว่าเป็นเรื่องจริงไหม ?


กาลครั้งหนึ่ง...น่าจะประมาณ 1 ปี
และกาลครั้งหนึ่งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

....ภายในรั้วบ้านผม
เคยเห็นงูเขียวหางไหม้อยู่ 2 ตัว
ตัวหนึ่งถูกหลานชายผมตีตาย
โดยผมเป็นคนเรียกหลานชายที่บ้านอยู่ติดกัน
ให้มาจับเป็น...ห้ามทำร้ายมันนะ

โดยมีอุปกรณ์ห่วงติดกับปลายไม้
...ที่ผมทำเตรียมไว้แล้ว

...ขณะที่ช่วยกันค่อยๆต้อนเพื่อจับเป็น
แต่...หัวงูไม่ยอมรอดเข้าบ่วงง่ายๆ
หลานชายรำคาญ จึงบ่นพึมพำ...

ประมาณว่างูมีพิษทำไมไม่ตีให้ตาย
ปล่อยไว้ในบ้านเดี๋ยวอากู๋โดนกัดเอง

....พอวินาทีที่ละจากสายตาผม

หลานชายใช้ไม้หวดตีเลย...ตีจนตาย

วันนั่นผมโกรธมาก แต่พูดอะไรไม่ออก


ผ่านไปเป็นปีน่าจะได้
ได้เกิดเหตุการณ์ *เฉียดตาย*
เกิดขึ้นกับผมถึง 2 ครั้ง

....วันนั่น
ขณะที่ผมโน้มตัว(ก้ม)ลงไปหยิบถุงหินเกล็ดเล็กๆ
ที่วางอยู่ข้างๆขอบกำแพงรั้ว
โดยมีต้นไม้ 1 ต้นสูงเท่าหน้าท้องขวางอยู่
ขณะที่โน้มตัวค่อมตัวไปเงื้อมหยิบ
บริเวณท้องต้องไปแตะกับปลายยอดต้นไม้นี้
พอหยิบถุงหินขึ้นมายืน

ผม...สะดุ้งเฮือก ใจหายสุดๆ
เมื่อเห็นงูเขียวหางไหม้กำลัง
...เลื้อยลงมาจากต้นไม้นี้
แล้วค่อยๆเลื้อยหายไปในมุมกำแพงรั้ว

โดยที่มันไม่ฉกกัดตรงบริเวณท้อง
ตรงใบหน้าผมก็ยังได้เลย
หรือมือขณะเอื้อมลงไปหยิบ
เป็นรัศมีใกล้ๆแค่คืบ...
...ที่สามารถฉกกัดได้ทุกส่วนของร่างกาย
เพราะต้นไม้นี้สูงแค่หน้าท้องเท่านั่น
และมันต้องขดอยู่บนต้นไม้นี้ก่อนแล้ว


...แล้วทำไมงูเขียวหางไหม้ตัวนี้มันจึงละเว้น
ซึ่งผิดกับสัญชาตญาณจวนตัวของมัน

หรืองูพิษตัวนี้...มันอยู่จนเชื่องแล้ว
ประมาณว่า...
"เรากลัวมัน แต่จิตลึกๆมันเป็นมิตรกับเรา"


(ต่อครับ...เฉียดตายครั้งที่ 2)

 

อยากเห็นๆเจ้ใส่ชุดไทย อันนี้อยากเห็นจริงๆนะเจ้แอมจ้า

เหมือนกันคะพี่ เจนนึกว่าเป็นละคร พอมาฟรอมยักษ์ เลยรอดูที่เว็บ อิอิ

ขอบคุณค่า เจนเริ่มปวดขึ้นมานิสๆ

 

เจนใส่ติดตัวแบบถอดไม่ได้เลยคะอาจารย์9
เพราะว่า เชือกถัก มีเท่าที่ถักแบบ ผูกตาย
ลยใส่ได้แต่ถอดไม่ได้เลย
สวยงามมากคะ เหลือ3เม็ด ที่ร้อยเข้าไม่ได้
เก็บใส่กล่องอย่างดี

 

..
..
อ่านที่เฮียนภตอบแบ้วตื่นเรยคร้าาา
อ่านจบสลบต่อ 5555

 

..
..
หนูก็คิดเหมือนเฮีย 9 นะคะ หนูว่างูมันออกจะกลัวคนด้วยซ้ำ
ถ้าเจอในระยะประชิด เราไม่ทำไรเค้า เค้าก็ไม่ทำไรเราค่ะ
ตอนเด็กๆ ที่บ้านหนูงูเข้าบ้านบ่อยมากกกก
..
แค่เคยอ่านหนังสือกรรมตามทันตอนสมัยเรียนประถมกะฟังเว็บธรรมะที่เค้ามักจะลงเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่มีเจ้ากรรมนายเวรเป็นงูอ้ะค่ะ เเล้วตอนท้ายจะสอนเราว่างูเป็นสัตว์ที่มีแรงอาฆาตสูง และหวงที่ทาง หวงไข่ อะไรประมาณนี้ หนูว่าคงต้องดูเป็นเคสๆไป
..
บ้านหนูเเต่ก่อนสมัยเด็กๆ งูเขียวหางไหม้ งูสิง งูไรต่อมิไร เข้าบ้านบ่อยมากกกก เพราะข้างบ้านเป็นป่า มีเเนวรั้วปูนกั้นเป็นกำเเพง แต่ที่บ้านไม่เคยตีงูเรยค่ะ จับไปปล่อยตลอด บางทีแค่ไล่หน่อยเค้าเห็นเราก็เลื้อยเผ่นแน้บล้อฟรีแว้ววว555
..
เคยเห็นพ่อจับงูไปปล่อยด้วยค่ะ งูตัวเท่าเเขนเด็ก พ่อจับหัวมัน แล้วมันก็พันแขนพ่อแน่นเรย พ่อก็ปล่อยให้มันพันแขนเฉย555 แล้วเอาไปปล่อยลงแม่น้ำท่าจีน
คือ พี่งูว่ายน้ำเก่งมากก แต่พ่อหนูเค้าดูงูเป็นค่ะ อันไหนมีพิษ ไม่มีพิษ จับงูเก่งด้วย จับเสร็จชอบเอามาหลอกเเม่ หลอกหนู ก็กรี้ดกร้าดบ้านเเตกกันไป 5555
สงสัยว่าพ่ออาจจะเคยเป็นพวกเดียวกันกะพี่งูมาก่อน เรยเป็นมิตรกัน555555
..
หนูเคยฝันเห็นงูสีดำเเบบเป็นกองทัพนับร้อยตัว คือกองทัพงูอยู่ในรถ แล้วหนูนอนอยู่บนเบาะหลังรถ แบบหนีออกนอกรถไม่ได้ ไปไหนไม่ได้เรย เหมือนต้องอยู่ด้วยกัน555 แต่ก็ไม่ได้อะไรเค้า ไม่ไล่ ไม่ตี เค้าอยู่ของเค้า เราอยู่ของเรา เค้าก็ไม่ได้เลื้อยเข้ามาทำอะไร ตอนนั้นใจมันยอมรับสภาพว่าคงต้องโดนขังอยู่ด้วยกันในรถนะพี่นะ555 มันเป็นอารมณ์กลัวแต่เข้าใจ แค่สงสัยว่างูดำมาจากไหนเยอะจุง เหมือนจะเป็นงูเห่าด้วยอ่าา ><''
..
กองทัพงูเห่า เรามาช่วยกัน บรื้ออออ ><

 

(ต่อครับ)

ผ่านไปหลายเดือน
เหตุการณ์คล้ายๆกันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง

...หลังจากครั้งแรก
ผมจึงเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น
เพราะปกติเป็นคนทำอะไรรีบร้อนและรน
คือเวลาจะเข้าไปหยิบอะไรก็จะหยิบเลย
...คิดได้ เตือนในใจได้
แต่ก็ยังประมาท"ทุกครั้ง"

...วันนั่นขณะที่ผมนั่งย่องๆก้มลงไป
เพื่อเอื้อมมือไปหยิบกระถางเปล่า
...ที่วางกองอยู่ข้างในๆบนพื้น
หยิบใบที่ 1-2 ไม่มีอะไร
พอหยิบใบที่ 3 ขึ้นมา...ได้เรื่องเลย

...สะดุ้งเฮือก ตกใจสุดๆ
งูเขียวหางไหม้น่าจะตัวเดิมนะ(ผมคาด)
เลื้อยขึ้นมาฉับไว...เหมือนมันตกใจ
แทนที่มันจะเลื้อยหนีไป
แต่ลำตัวมันกลับเกาะกับขอบกระถาง
...ชูคอส่ายเล็กน้อย จ้องมาที่ผม

เป็นขณะเดียวกันที่ผมตกใจวางกระถาง
พร้อมก้นกระแทก...นั่งลงกับพื้น
เจ้างูชูคอ...มองมาสักพัก
...จึงค่อยๆเลื้อยไปหลบที่มุมกำแพง

พอผมได้สติ..จึงรีบไปหยิบไม้ยาวเขี่ยตรงมุม
จากนั่นมันค่อยๆเลื้อยออกมาจากที่ซ่อน

*เกิดภาพที่เหลือเชื่อ*
(ถ้ามีกล้องติดตัว ผมถ่ายไว้แล้ว)

เจ้างูเขียวหางไหม้ตัวนี้
มันทอดลำตัวพาดกับขอบปูน..อยู่นิ่งๆ
ส่วนหัวหันมาที่ผม
แล้วทำคอตกตรงระดับขอบปูนที่สูงต่ำ
(แบบเดียวกับสุนัขทำคอตก)
...พอนึกภาพออกนะครับ

ช่วงนั่นผมมั่นใจว่ามันคงไม่เลื้อยหนีไปไหน
ผมจึงรีบย่องเข้าบ้านไปเอามือถือเพื่อจะถ่ายรูป
เพราะท่าคอตกมัน "น่ารักมาก"

พอเดินกลับมาอีกครั้ง
...มันเลื้อยหายไปแล้ว
(คาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่ผมลุกขึ้น)

***แปลกแต่จริงครับ***
(ทุกถ้อยคำที่เขียนเกิดขึ้นจริง)
*โดยไม่มีการแต่งเสริมใดๆ*

คงไม่ตรงกับที่ใคร รวมทั้งผมที่เคยคิดไว้
พวกงู...ชอบอาฆาตเพื่อล้างแค้น

แต่หลังจากวันนั่น
ผมกลับคิดว่า.....

"มนุษย์ต่างหากที่ชอบเคียดแค้น อาฆาต พยาบาท"

**ตัวอย่างเกิดขึ้นให้เห็นกันมากมาย**

อภัยทานมีไว้แค่ประดับไว้ในใจ
...แต่ลืมนำมาใช้