เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ขึ้นชื่อว่าผู้ปฏิบัติชอบไม่มีความทะยานอยากใดๆ55555

 

http://www.xn--42c1bcbc5asou1lpab7c...มเด็จพระพุฒาจารย์-(-โต-พรหมรังสี-)-49-th.html

 

คนเรียนจบสูงตกงานอยู่บ้านกับคนเรียนมาน้อยตกงานเหมือนกัน

คนนึงอยู่เมืองใหญ่อีกคนอยู่ต่างจังหวัดท่ามกลางธรรมชาติ

ในความเหมือนที่แตกต่าง55555

 

**ปล่อย**

22.."จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

จิยิ้ม เหน คลี่เมฆ เป่า

 

ลามปามศิษย์คลอง10..

ว่างงานไม่มีไรทำเหมือนกัน5555

 

**ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รักผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์**

ดูกรนางวิสาขา

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓
ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑
ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่มีความโศกปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า..ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดีมากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไรและความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี

เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ ฯ

วิสาขาสูตร..

 

หงบ มึงไปอธิบาย พร้อมแหล่งอ้างอิงด้วย ว่าลิ้นปี่คือที่ตั้งอวิชชา

 

จะเอาที่ไหนอ้างอิง...นอกจากปัญญาเห็นแจ้งด้วยตนเอง..

 

ปฏิบัติเข้า ภาวนาเข้า เร่งความเพียรเข้าก็มีปัญญาเห็นแจ้งเองนั่นแหละ..

 

อ๋อ มาจากปัญญามึงนี่เอง แล้วมันมีอวิชชาตัวไหนอยู่มั่งวะ ไหนมึงบอกดิ

 

เรามาคุยเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ

มหาสติ ธรรมชาติสมาธิยุคพลังงานใหม่...

เป็นรางวัลจากพลังงานความรักสูงสุดของพระยาธรรมมิกราชา ที่ประทานให้ได้เข้าถึงความหมายของคำว่า "สติ" กับ "สมาธิ" ในวิถีปฏิบัติที่ถูกต้องแท้จริงเข้าถึงธรรมชาติแห่งจิตตนเอง พร้อม ๆ กับกลวิธีชำระจิตในชีวิตประจำวัน ผ่านความมีสติที่เรียกว่า ธรรมชาติสมาธิ เพื่อการถอดรหัสของจิตหยาบอันมากมีด้วยประจุลบ ซึ่งเป็นรหัสพันธสัญญากรรมของตนกับผู้อื่น ที่สั่งสมสร้างไว้หลายภพชาติแล้ว ให้มีประจุบวกเพิ่มมากขึ้นเพื่อเข้าไปเบียดแทรกประจุลบที่ไม่พึงประสงค์ที่ยังคงมีอยู่ทั้งหมด ให้เกิดความเป็นกลางโดยมีประจุบวกที่สร้างใหม่ ผ่านความมีสติจากธรรมชาติสมาธิในชีวิตประจำวันหรือในยามตื่น เพื่อทำให้จิตตนคืนสู่ความเป็นสุญญตา หรือ จิตเดิมแท้ ซึ่งมีเพียงประจุบวกที่เป็นคลื่นพลังงานความถี่ด้านบวกที่มนุษย์เรียกว่า จิตซึ่งเปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตา ให้มันมีคุณสมบัติของจิตเดิม

คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก จากแก่นแท้ภายในเปลือกนอกของสรรพสิ่งนั้นๆ ก็คือ พลังงานแห่งความรัก และพลังงานแห่งความรัก ก็คือ ความเป็น "สุญญตา" ที่ว่านี้คือ

จากข้อความข้างต้นถ้าจะเป็นหลักศาสนาพุทธแล้ว จิตยิ้มเคยได้ทราบมาว่า การตรวจสอบการใช้มรรค จะใช้ สัมมาวายามะ เป็นตัวสอบในการดำเนินตามมรรคแปดค่ะ ว่าได้ดำเนินการสมบูรณ์และถึงพร้อมแล้วนะค่ะ

 

หั่นแน่ ไป อบรมมาใหม่ หรอ

คราวนี้ เดาะ หยอดคำ

"พันธสัญญา"

เมื่อไหร่จะ เดาะ อเมกาโดน

ระวัง เทพพลูโต แซงหน้า พฤหัส
วีดสุกกะทิปันยา

 

อวิชชาก็เปรียบเหมือนเมฆหมอกนี่แหละ

อวิชชาก็เปรียบเหมือนท่านเอามือบังแดดไม่ให้ส่องตาตัวเองนั้นแหละ

 

ท่านลามปามศิษย์คลอง10...ทำไมไม่ไปเล่นห้องอภิญญาโน่น


55555555...

 

กุถามว่ามีตัวไหนมั่ง ก้อมึงไปเขียนเองว่าที่จุดนี้คือที่ตั้งอวิชชา
กุไม่ได้ถามว่าลักษณะการปิดบังมันเป็นยังไง มึงอย่าแถ

 

มือปิดพระอาทิตย์ได้ฉันใด...อวิชชาก็ปิดบังใจได้ฉันนั้น..

 

ทำไมท่านโง่อย่างนี้...อวิชชาก็มีอันเดียวตัวเดียวนั้นแหละ

ปั๊ดโธ่!!!!

 

ก้อใช่ไง กุถึงถามมึงว่ามันมีอะไรมั่ง