ปรียนันท์ธรรมสถาน เพื่อปฏิบัติและหลบภัย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย thavornsiripat, 8 มิถุนายน 2007.

  1. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    เจ้าด่างร่วมอนุโมทนาบุญ

    มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ได้ออกบินฑบาตร เพียงรูปเดียวเนื่องจากพระท่านอื่นๆไปทำภารกิจต่างจังหวัดหลายวัน

    มีอยู่ประมาณ 4 วันที่มีเจ้าด่างขาวแดงได้มาแวะทักทายและวิ่งนำหน้าไป
    เจ้าด่างที่ว่าเขาได้วิ่งออกมานำหน้าแล้วก็หันมองซ้ายมองขวาเหมือนจะคอยระวังภัยอะไรให้แล้วก็วิ่งต่อไปอีกระยะแล้วก็มองซ้ายมองขวา แล้วก็วิ่งนำต่อไปอีก เป็นระยะทางร่วม ครึ่งโลได้ พอถึงจุดที่เขาเจอพวกเขา ก็แวะไปตามเรื่องตามราวต่อไป นับว่าหมาตัวนี้ ได้ร่วมสร้างกุศล แล้วพอเลย4วันก็ได้มาส่งถึงประตูวัด แล้วจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลยเพราะว่าเราไม่ได้มาเดี่ยวเหมือนเคย เขาเลยเกรงใจเพราะว่ามีบางท่านที่ไปด้วยกันชอบเตะหมา เขาก็เลยหลบ อิอิ
    อย่างไรก็ตามก็ขออนุโมทนาบุญเจ้าด่างขาวแดงตัวนั้นด้วย สาธุ
     
  2. ชัยมงคล

    ชัยมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2007
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +2,473
    พูดได้คมจริงๆครับท่านสุเชษฐ์ นับถือ นับถือ
     
  3. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    วันนี้ธรขอเอาคำแนะนำเล็กน้อยมาแทรกไว้นะคะ...

    ช่วงนี้รู้สึกเป็นกังวลหน่อยๆ... เพราะมีบางท่านที่ปฏิบัติธรรมไปแล้ว จิตเริ่มเป็นทิพย์ สัญญาความจำเก่าๆ จากอดีตชาติเริ่มมาปรากฏในดวงจิต...

    บางท่านก็เป็นเรื่องดี ในขณะที่บางท่านไม่ใช่...

    จึงอยากจะเตือนทุกๆ ท่านสักนิดนะคะ... ว่าการที่เราปฏิบัติธรรม ฝึกจิตฝึกใจเรานี้... เราทำเพื่อละ เลิก วาง ซึ่งอวิชชา ความเลวทั้งหลาย... เมื่อได้รู้ได้เห็นสิ่งใดๆ แล้ว ขออย่าให้ยึด อย่าให้ติดกับสิ่งเหล่านั้นเลยนะคะ... ขอให้ทั้งสิ่งที่พอใจ และไม่พอใจเหล่านั้น... จบลงไปในอดีตอย่างที่มันเป็นจริงๆ เถอะค่ะ... อย่าไปรื้อฟื้นให้มันมารบกวนชีวิตของพวกเราอีกเลย...

    ถ้าสิ่งที่รับรู้ได้เหล่านั้น เป็นเรื่องที่ดี ที่น่าพอใจ... ขอแค่ให้รับรู้... รู้สักแต่ว่ารู้... รู้แล้วก็ปล่อยเสีย... คิดว่าทุกชีวิตที่เกิดมานี้ล้วนเคยได้พบสิ่งดีๆ เหล่านี้กันมาแล้วทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องธรรมดา... เพราะทุกชีวิตเกิดกันมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน ย่อมมีโอกาสเกิดมาในทุกสถานะ ทุกระดับของชาติตระกูล... อย่าไปยึด ไปติดว่า... ข้าเคยเป็นเจ้า เป็นนาย เป็นคนเหนือคน มีข้าทาสบริวาร มีคนในปกครองนับหมื่นนับแสน... มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และจบไปแล้ว... อย่าไปพยายามดึงมันกลับมาพัวพันกับชีวิตในชาติปัจจุบัน... มันจะทำให้ชีวิตเราวุ่นวายไม่จบไม่สิ่น... เพราะถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ... คนที่จะทุกข์ที่สุด คือตัวเราเองและคนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา

    สำหรับท่านที่เห็นว่าตัวเองเคยลำบากมาด้วยวิบากกรรมใดๆ ก็ตาม... ขอให้จำไว้เป็นประสบการณ์ชีวิต... ถ้าเราเคยลำบากเพราะเคยผิดศีลผิดธรรม ก็ขอให้ถือศีลเสีย... ถ้าเคยลำบากเพราะเคยเบียดเบียนชีวิตอื่น ก็หยุดเสีย อย่ากระทำอีก...

    แล้วถ้าสิ่งที่เราได้รู้ได้เห็นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่พึงปรารถนา... เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดแรงอาฆาตพยาบาทซึ่งกันและกัน... ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่โดนกระทำ หรือเป็นผู้ลงมือกระทำกรรมนั้นๆ ด้วยตัวของเราเอง...

    ขอเถอะค่ะ... ขอให้อโหสิกรรมให้แก่กันและกันเสีย... สิ่งนี้มันผ่านไปแล้ว... ตอนนั้นๆ เราโดนอวิชชา โดนกิเลสมันครอบงำ สิงใจอยู่ทำให้เราพลาดไปแบบนั้น...

    ในชาตินี้... เรารู้แล้ว เห็นแล้ว ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี... เราเลือกได้
    ขอให้เลือกที่จะเริ่มวงจรชีวิตใหม่ที่ดีๆ เลือกในทางที่เป็นกุศล เป็นสัมมาทิฐิ... ฝังความรู้สึกเคียดแค้น ชิงชัง หวาดระแวงซึ่งกันและกันไปกับอดีตที่มันผ่านไปแล้ว...

    แล้วรอรับสิ่งใหม่ๆ ที่ดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตแทน...

    ตอนนี้ธรขอให้ทุกคนเลยนะคะ ช่วยกรุณาปฏิบัติตามที่ธรกำลังจะแนะนำนี้ตามไปพร้อมๆ กันด้วยนะคะ...

    ๑. ขอให้ทุกคนจับลมสบายตามวิธีที่แต่ละคนถนัด

    ๒. จับภาพพระให้ใสสว่างเป็นประกายพรึกให้ได้สว่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้... แล้วอธิษฐานขอให้พระบารมีขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมาสถิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธรูปในจิตของเรา...
    ทรงอารมณ์ใจนี้ไว้สักระยะ... พร้อมกับน้อมจิตยอมรับนับถือองค์พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด ไม่มีที่พึ่งอื่นใดจะประเสริฐไปกว่านี้อีกแล้ว... เสร็จแล้วนึกให้เห็นภาพตัวเองก้มลงกราบที่พระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา... มีองค์หลวงปู่ปาน และองค์หลวงพ่อฤาษีเป็นที่สุด... พร้อมๆ กัน

    ๓. จากนั้นอธิษฐานต่อไปว่า ขอให้องค์พระพิชิตมารทรงเมตตามาเป็นประธาน และเป็นพยานให้แก่ข้าพเจ้าในการอธิษฐานดังต่อไปนี้...

    แล้วน้อมนึกถึงศีลที่คุณเองถือปฏิบัติอยู่... ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ก็ตาม... โดยน้อมนึกว่า...
    "ณ ขณะนี้ ศีล ๕ (๘) ของข้าพเจ้าสมบูรณ์ บริบูรณ์ดีทุกประการ... ข้าพเจ้าไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ได้ลักขโมยผู้ใด ไม่ได้ผิดลูกผัว - เมียใคร ไม่ได้พูดโกหกมดเท็จใดๆ ไม่ได้เสพสุราของมึนเมา หรือเล่นการพนันแต่อย่างใด... (ไม่ได้ทานอาหารหลังเที่ยง, ไม่ได้ใช้เครื่องไล้ของหอม เว้นจากการฟ้อนรำ ดูสิ่งบันเทิงเริงรมย์ ไม่ได้ใช้เครื่องประดับตกแต่งใดๆ, ไม่ได้นอนบนที่นอนสูงใหญ่)"

    ๔. กราบขอขมากรรมต่อองค์พระรัตนตรัย โดยการอธิษฐานว่า...
    "- ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ หากข้าพระพุทธเจ้าได้เคยคิดประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อองค์พระรัตนตรัย อันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระธรรม องค์พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พรหมเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี หรือในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...
    - ขอองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน... ได้โปรดอดโทษทั้งหลายเหล่านั้นให้แก่ข้าพเจ้านับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"
    ก้มลงกราบพระบาทพระองค์ท่านอีกครั้ง

    ๕. เสร็จแล้วจับภาพพระให้ใสสว่างเป็นประกายพรึก... แล้วเพิกภาพพระนั้นออกเสีย... ให้เห็นแต่สภาวะที่เป็นอากาศที่เวิ้งว้าง ว่างเปล่า เป็นที่ที่โล่งขาว ว่างเปล่าไปหมด แล้วกำหนดจิตอธิษฐานว่า...
    "ความเวิ้งว้างว่างเปล่านี้ไม่มีสาระแก่นสารใดๆ ข้าพเจ้าไม่ขอยึดถือ ยึดติดกับความว่างเปล่านี้" เสร็จแล้วทรงอารมณ์นี้ไว้สักพัก...

    ๖. เสร็จแล้วจับภาพพระให้ใสสว่างเป็นประกายพรึกอีกครั้ง... แล้วเพิกภาพพระนั้นออกเสีย... ให้เห็นว่าจิตของเราลอยอยู่ในจักรวาลที่มีดาวเคราะห์น้อยใหญ่มากมาย แล้วดึงภาพของดาวโลกเข้ามาใกล้ๆ ให้เห็นตึกรามบ้านช่อง วัตถุสิ่งของต่างๆ... แล้วนึกให้เห็นว่าทั้งดวงจิตของเรา ดาวเคราะห์น้อยใหญ่นั้น และวัตถุธาตุทั้งหลาย สลายตัวลงเป็นฝุ่นผง จนมลายหายไปในที่สุด... จนเหลือแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของจักรวาลที่ขาวโพลนไปหมด โดยหาขอบจักรวาลไม่ได้... แล้วกำหนดจิตว่า...
    "วัตถุธาตุทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งดวงจิตของเราเองล้วนไม่เที่ยงแท้แท้แน่นอน... หาสาระใดๆ ไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่ขอยึดถือวัตถุธาตุทั้งหลายเหล่านี้เป็นสาระแก่นสารใดๆ ทั้งสิ้น" ทรงอารมณ์นี้ไว้สักพัก...

    ๗. กลับมาจับภาพพระให้ใสสว่างเป็นประกายพรึก... แล้วเพิกภาพพระนั้นออกเสีย... ให้เห็นว่าอายตนะทั้ง 6 นั้นล้วนไม่เที่ยงแท้แน่นอน... ไม่ว่าจะเป็นตาที่เห็นรูป จมูกที่ได้กลิ่น หูที่ได้ยินเสียง ลิ้นที่รับรสอาหาร กายที่รับสัมผัสต่างๆ และใจที่ต้องกระทบกระทั่งกับสิ่งทั้งปวง... แล้วนึกให้สัมผัสอันเกิดจากอายตนะทั้ง 6 นั้นสลายตัวไปเหลือแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า... แล้วกำหนดจิตว่า...
    "อายตนะทั้ง 6 ล้วนไม่เที่ยงแท้แน่นอน เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เปลี่ยนแปล รวนเรไปมา หาสาระแก่นสารใดๆ ไม่ได้สักอย่าง ข้าพเจ้าไม่ขอยึดถือ ยึดติดกับสิ่งทั้งปวงที่เกิดจากอายตนะทั้ง 6 นี้อีกต่อไป" ทรงอารมณ์นี้ไว้สักพัก...

    ๘. จับภาพพระให้ใสสว่างเป็นประกายพรึกอีกครั้ง... แล้วเพิกภาพพระนั้นออกเสีย... ให้เห็นว่าสัญญาความจำได้หมายรู้ ความรัก โลภ โกรธ หลง ความอาฆาตแค้นพยาบาท ชิงชัง ความหวาดระแวง หวาดกลัวสิ่งต่างๆ ความทุกข์ และความสุขต่างๆ ที่เป็นสัญญาความจำทั้งในอดีตชาติ ตั้งแต่ปฐมชาติ มาจนกระทั่งในชาติปัจจุบันนี้... ล้วนนำมาซึ่งความทุกข์กาย ทุกข์ใจ เป็นสิ่งที่หาประโยชน์ใดๆ ไม่ได้... แล้วนึกให้สัญญาความจำทั้งหลายทั้งมวลนั้นสลายตัวไปไม่เหลืออะไรติดค้างอยู่ในดวงจิตอีกเลย มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น... กำหนดจิตอธิษฐานว่า...
    "ข้าพเจ้าขอน้อมจิตสลายสัญญาความจำได้หมายรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปฐมชาติมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ความรัก โลภ โกรธ หลง ความอาฆาตแค้นพยาบาท ชิงชัง ความหวาดระแวง หวาดกลัวสิ่งต่างๆ ความทุกข์ และความสุขต่างๆ ที่เป็นสัญญาความจำทั้งหลายทั้งมวลนั้น... สัญญาความจำเหล่านั้นล้วนหาสาระแก่นสารใดๆ ไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่ขอยึด ขอติดอีกต่อไปนับแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน" แล้วประคองจิตนั้นไว้สักพัก...

    ๙. อธิษฐานต่อว่า... "ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาการเวียนว่ายตายเกิดใดๆ อีกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในอบายภูมิก็ดี มนุษย์ภูมิก็ดี เทวภูมิ รูปพรหมภูมิ หรืออรูปพรหมภูมิก็ดี... ทุกภพภูมินั้นมีทั้งความทุกข์และความสุข... ถึงจะมีความสุข แต่ก็เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น หมดบุญหมดวาสนาเมื่อใดก็ต้องลงมาพบกับความทุกข์โศกอีกไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นตายจากชาตินี้ ภพนี้เมื่อใด ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าพุ่งตรงสู่พระนิพพาน เพื่อจะได้กราบพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บนพระนิพพานนั้นในทันทีด้วยเถิด" ทรงอารมณ์นี้ไว้จนกว่าจะพอใจ ตอนนี้อารมณ์ใจของท่านจะสว่าง โล่ง โปร่ง เบา สบาย ไร้ความทุกข์ ความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น...

    ให้ท่านอธิษฐานกำกับอีกครั้งว่า...
    "ขอให้ข้าพเจ้าประสบพบ และเข้าถึงซึ่งอารมณ์จิตนี้ได้ทุกที่ทุกสถาน ทุกกาลเวลา ทั้งยามหลับ ยามตื่น ทั้งยามที่รู้สึก และไม่รู้สึกตัว ตามแต่ที่ข้าพเจ้าปรารถนา นับแต่บัดเดี๋ยวนี้ไปตราบจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"

    ๑๐. จากบนพระนิพพานนั้น... ให้น้อมนึกถึงกุศลผลบุญ อีกทั้งความดีงามทั้งหลายที่เคยสร้างมาดีแล้วให้มารวมตัวกันที่ดวงจิต (นึกให้เห็นดวงจิตของคุณสว่างไสวแพรวพราว) พร้อมกับอธิษฐานขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรดังนี้...
    "- ข้าพเจ้าขอน้อมอุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำมาตั้งแต่ต้นกัปต้นกัลป์ จนมาถึงปัจจุบันนี้ และที่จะทำต่อไปในอนาคต... ให้แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย... ขอให้ทุกๆ ท่านมาร่วมกันอนุโมทนาและได้รับซึ่งกุศลผลบุญเหล่านี้นับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน...
    (ตอนนี้ให้นึกเห็นรัศมีความสว่างของกุศลผลบุญ ความดีงามทั้งหลายจากดวงจิตของเราแผ่ออกไปคลุมร่างของเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา)
    - และข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินพวกท่านไปด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี หรือในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...
    - ขอให้พวกท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมทั้งหลายเหล่านั้นให้แก่ข้าพเจ้านับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ"

    ๑๑. ขอให้ทุกคนประคองจิตจับภาพพระด้วยใจที่เบาสบาย โล่งโปร่งต่อไป... หลังจากนั้นให้น้อมนึก อโหสิกรรม - ให้อภัย -ให้แก่ผู้ที่เคยล่วงเกินทุกๆ ท่านมา อธิษฐานว่า...
    "- นับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะมีแต่จิตใจที่ใสสะอาด บริสุทธิ์ เต็มไปด้วยความดีงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย... ข้าพเจ้าอโหสิกรรม ยกโทษให้แก่ พรหม-เทพเทวา สรรพสัตว์สิ่งมีชีวิต มนุษย์ อมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน ภูติผีปีศาจ ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายที่เคยล่วงเกินข้าพเจ้ามาด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี หรือในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...
    - ข้าพเจ้าไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใด และขอให้พวกท่านทั้งหลายมีความสุขกาย สุขใจ เป็นสัมมาทิฐิ พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงที่สุดแห่งธรรม และมีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ"



    ๑๒. ท้ายที่สุดให้คุณน้อมนึกถึงความสุข สดชื่น ความอิ่มเอม เปรมปรีด์ ความชุ่มชื่นใจ... ความรักที่บริสุทธิ์ที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน... ความสุขที่สุดที่เมื่อเรานึกถึงครั้งใดก็ตามจะสามารถเรียกรอยยิ้มให้เราได้ ทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้ยิ้มไปกับเราด้วย ทำให้โลกนี้สว่างไสวมีแต่ความเบิกบาน ... ความดีงามทั้งหลายที่เคยสร้างมาดีแล้ว อีกทั้งกุศลผลบุญทั้งหลาย พรหมวิหารสี่ และอภัยทานที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในดวงจิตของคุณให้มารวมตัวกัน (นึกให้เห็นดวงจิตของคุณสว่างไสวแพรวพราว) พร้อมกับอธิษฐานแผ่เมตตาอัปปมาณฌานว่า...
    "- บุญ คือ ความสุขที่ปรากฏ ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมถวาย ความสุข ส่วนกุศลผลบุญ อีกทั้งพรหมวิหารสี่ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมอภัยทาน แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ องค์พระธรรม องค์พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ ต่อกันมาโดยมีองค์หลวงปู่ปาน และองค์หลวงพ่อฤาษีเป็นที่สุด อีกทั้งท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย บูรพกษัตริย์ไทย บรรพชนไทย นักรบไทยทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน... พรหมเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โดยมีท่านท้าวจตุมหาราช และท่านพญายมราชเป็นที่สุด...
    - ขอทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน ได้โปรดมาร่วมกัน รับและอนุโมทนาในส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายเหล่านี้ และขอได้โปรดมาเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลผลบุญในครั้งนี้ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ...
    (น้อมนึกให้เห็นว่าในมือคุณมีดอกบัวแก้วสว่างไสวแพรวพราว ซึ่งเกิดจากกุศลผลบุญของคุณมารวมตัวกันเป็นดอกบัวนั้น... แล้วน้อมถวายแด่ทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน) พร้อมกับอธิษฐานต่อว่า...
    - และข้าพเจ้าขอน้อมอุทิศความสุข ส่วนกุศลผลบุญ อีกทั้งพรหมวิหารสี่ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมอภัยทานนี้ ให้แก่เหล่าสรรพสัตว์สิ่งมีชีวิต มนุษย์ อมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน ภูติผีปีศาจ ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายทั่วสากลจักรวาล อนันตจักรวาลนี้... ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี... ขอให้ทุกๆ ท่านจงมาร่วมกันอนุโมทนาและรับซึ่งส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายเหล่านี้เฉกเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับนับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน... ขอให้ทุกๆ ท่าน เป็นสัมมาทิฐิ ประสบแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงที่สุดแห่งธรรมโดยฉับพลัน ได้สัมผัสและมีพระนิพพานอันเป็นบรมสุขเป็นหลักชัยโดยถ้วนทั่วกันด้วยเทอญ"

    แล้วน้อมนึกให้เห็น หรือให้รู้สึกว่าตัวของเราเองสว่างไสวมีแสงรัศมีสีทองเป็นประกาย อันเป็นรัศมีแห่งความรัก ความสุข ความเมตตา ที่เรามีให้แก่สรรพสัตว์ไม่มีวันจบวันสิ้น ไม่มีประมาณ... นึกให้แสงแห่งความเมตตานี้ค่อยๆ แผ่ปกคลุมอาณาบริเวณที่เราอยู่ให้สว่างไสวเรืองรอง เมื่อจิตของสรรพสัตว์ดวงใดได้สัมผัสกับรัศมีนี้ก็ขอให้มีความสุข ความสงบ ความชุ่มเย็นไปด้วย จิตเรายิ่งเปล่งรัศมีมากเท่าไหร่ จิตเราก็จะยิ่งมีความชุ่มเย็นมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น... ขยายอาณาเขตของการแผ่รัศมีสีทองเป็นประกายระยิบระยับนี้ให้ค่อยๆ ขยายวงกว้างออกเรื่อยๆ ให้ปกคลุมไปทั่วสากลจักรวาล อนันตจักรวาลนี้โดยไม่มีประมาณ ไม่มีขอบ ไม่มีที่สุด... เมื่อจิตเรายิ่งแผ่รัศมีออกไปได้กว้างไกลและครอบคลุมมากเท่าไหร่ จิตของเราก็จะยิ่งอิ่มเอิบ แย้มยิ้มมากเท่านั้น...
    ยิ่งให้มากเท่าไหร่ จิตเราก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปเท่านั้น ประคองอารมณ์ใจที่แสนจะปิตินี้เอาไว้ให้นานที่สุดจนกว่าจิตจะพอใจ...

    เสร็จแล้วให้น้อมนึกเอาอทิสมานกายของเราเองไปกราบองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่าน และถอนจิตออกจากสมาธิช้าๆ โดยการหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ 3 ครั้ง พร้อมภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ...


    ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระรัตนตรัย และกุศลผลบุญที่บังเกิดขึ้นนี้... ขอได้โปรดมารวมตัวกันและส่งผลให้ทุกๆ ท่านมีดวงจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อภัยทาน มีความสุขทั้งทางโลก ทางธรรม เป็นสัมมาทิฐิ... มีดวงตาเห็นธรรม... เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป... เข้าถึงที่สุดแห่งธรรมโดยฉับพลัน... และมีพระนิพพานเป็นหลักชัยโดยถ้วนทั่วกันด้วยเทอญ
     
  4. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    ตอนนี้เห็นว่ากำลังข้าวยากหมากแพงไปทั่ว... จึงขอนำเอาพระคาถาที่หลวงพ่อฤาษีท่านมอบไว้ให้ท่อง เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของลูกหลานของท่านในเรื่องนี้มาลงไว้ให้ใช้นำไปสวดกันค่ะ...

    จับภาพพระให้ใสปิ๊งก่อน... จับลมสบาย... แล้วค่อยๆ สวดไปเรื่อยๆ ค่ะ...


    คาถาเงินล้าน
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ( ๓ จบ )

    สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มะหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ ,
    พรหมา จะ มะหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม ,
    มะหาปุญโญ มะหาลาโภ ภะวันตุ เม ,
    มิเตพาหุหะติ,
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะติจฉามิ
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ ๆ
     
  5. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ขอร่วมทำบุญสร้างปรียนันท์ธรรมสถาน

    ผมได้เข้าร่วมส่งผลงานโลโก้เข้าประกวดเพื่อใช้เป็นโลโก้อย่างเป็นทางการของบัณฑิตวิทยาลัย (Graduate School) ของ University of the Philippines Los Banos (UPLB) โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า หากได้รับรางวัลชนะเลิศ (10,000 เปโซ) จะนำเงินทั้งจำนวนมอบให้แก่ทางกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยฯ

    ผลการตัดสินปรากฏว่า ผลงานของผมได้รับรางวัลชนะเลิศ

    เมื่อผมกลับมาเมืองไทยเพื่อทำวิจัย คุณพ่อ คุณแม่ พร้อมพี่สาว ร่วมทำบุญสมทบ เพื่อให้ได้ยอดเงินเมื่อคิดเป็นเงินบาทได้ 10,000 บาท

    ภายในวันนี้(หากโอนเงินทัน) จะทำการโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีโครงการจัดสร้างปรียนันท์ธรรมสถาน บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาลาดกระบัง ชื่อบัญชีจินดา จตุวงษ์ เลขที่ 264-1-28141-2

    ดังนั้น...

    นายวิวรรธน์ จีรพัฒน์ธนธร
    นางจอมจิตต์ จีรพัฒน์ธนธร
    นางสาวอาจารีย์ จีรพัฒน์ธนธร และ
    นายภัทรวรรธน์ จีรพัฒน์ธนธร

    จึงขอร่วมทำบุญ 10,000 บาท สร้างสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าหรืองานอื่นใดภายใต้โครงการจัดสร้างปรียนันท์ธรรมสถานตามที่เห็นสมควร ขอเพื่อนธรรมทั้งหลายโมทนาด้วยเถิด

    เอ็มครับ

    (หากโอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02894.JPG
      DSC02894.JPG
      ขนาดไฟล์:
      549.1 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSC02897.JPG
      DSC02897.JPG
      ขนาดไฟล์:
      590.7 KB
      เปิดดู:
      29
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    เห็นผลงานและฝีมือออกแบบของน้องMแล้ว แปลกแหวกแนวดี
    แถมคว้ารางวัลมาได้สำเร็จตามที่ใจตั้งมั่นปรารถนาอีกด้วย
    ขออนุโมทนาและชื่นชมความสามารถของน้องเอ็มด้วยครับ เยื่ยมจริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • M win.jpg
      M win.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.1 KB
      เปิดดู:
      306
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2008
  7. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ท่านที่เขียนข้อความทั้งหลาย
    ท่านได้ให้อภัยหรือยัง
    ผมเองให้อภัยทุกคนที่ผมเกลียดผมไม่ได้คิดจะเกลียดอีกต่อไป
    บอกคนอื่นแล้วย้อนกลับมองตัวท่านเองว่าในใจท่านให้อภัยหรือยัง
    หากยังแล้วไม่ต้องไปคิดสอนใคร
     
  8. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ไม่ต้องมาคิดต่อต้านผมหรอก ผมก็เพียงดวงจิตเล็กๆดวงเดียวไม่ทำอะไรที่ผิดศีลธรรม ไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน สิ่งนั้นไม่ทำอยู่แล้ว
    เพียงแต่ขอย้ำว่า ท่านที่พยายามเตือนคนอื่นแล้วท่านให้อภัยเขาหรือยัง
    หากว่ายังก็ไม่ต้องไปนัดประชุมกันให้เสียเวลาเปล่าหรอก
     
  9. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ผมให้อภัยไปหมดทุกคนแล้ว และก็ส่งความปราถณาดีไปยังเขาเหล่านั้นเผื่อสักวันหนึ่งเขาจะให้อภัยผมและคนอื่นๆได้ เขาจะได้ก้าวหน้าต่อไปในเส้นทางธรรมนี้ ผมเชื่อมั่นเต็มร้อยครับว่าทุกๆคนให้อภัยกันได้หมดทุกคน
     
  10. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    เห็นด้วยกับการ...อภัยทาน...ขอให้ระลึกไว้เสมอๆ...ครับ

    เราพึงเตือนตนด้วยตนเอง...นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2008
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ผมว่าพวกเราทุกคนก็คือญาติมิตรทางจิตวิญญาณ ณ.จุดนัดพบพิเศษบนเวปไซท์นี้กันทุกคนครับ ดังนั้นไม่ว่าเราแต่ละคนจะเลือกเส้นทางใดๆในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของจิตวิญญาณ บนเส้นทางสายกลางที่เรียกว่า "เส้นทางแห่งความรัก" ซึ่งตัดผ่านเส้นทางทุกๆเส้นเสมอ ทำให้เราสามารถแลกเปลื่ยนข้อมูลความรู้จากเส้นทางอื่นได้ทุกๆขณะ

    บนเส้นทางสายนี้จะทำให้เราตระหนักว่า หากมนุษย์ขาดความรัก เราจะขาดความเห็นพ้องต้องกัน และขาดความสามัคคี ดังที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ (ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน) บางทีเรามักจะยึดถือเอาเส้นทางของตนเองเป็นสายหลัก และมองเห็นบุคคลอื่นๆที่เลือกเส้นทางอื่นๆ เป็นเสมือนผู้ที่เดินผิดเส้นทางได้เช่นเดียวกัน

    จุดนัดพบนี้ที่เราต่างก็รับกันและกันเป็นญาติมิตรทางจิตวิญญาณ โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เราควรใช้เวลาสำรวจกันอีกสักนิด ใช้ความรักที่ไร้เงื่อนไขเป็นเสมือนกุณแจครับ เพื่อการสนับสนุนและช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันฉันท์ญาติมิตรทางจิตวิญญาณ-เสมอไป-ไม่เป็นอื่น ด้วย ความรักอันไร้เงื่อนไข บนทางสายกลางที่กล่าวถึง ส่งมาพร้อมกับกุหลาบอีกหนึ่งโหลให้ทุกๆท่านครับ รับไปคนละดอก ( ถ้าไม่พอไปบอกคุณเล็ก อิอิ)

    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    อดทน+อดกลั้น+ให้อภัย = พลังแห่งความรัก
    ไม่ต่อสู้+ไม่ตอบโต้+ไม่ต่อต้าน และที่สำคัญไม่หลีกเลี่ยงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2008
  12. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ภาพ....ปรียนันท์ธรรมสถาน.... 13 เมษายน 2551


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ขอโมทนากับความดีของทุกท่านครับ
    พี่สาวผมได้โอนเงินเข้าบัญชีคุณจินดาแล้วนะครับเมื่อวันพุธที่ 16 เม.ย. 51 เวลาประมาณ 13:49 น. ลองเช็คยอดดูนะครับผม

    ภาพที่แนบมาไม่ค่อยชัดนะครับ ถ่ายจากมือถือครับผม

    ขอบคุณพี่มีดนะครับ ขยายภาพซะใหญ่เชียว เลยเห็นเหงื่อเอ็มเต็มๆ อิอิ ก็อากาศมันร้อนอ่ะครับ (^_^)

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ดีใจจังที่จะได้เห็นศาลาหลังใหม่ที่มั่นคงแข็งแรงมาแทนศาลาไม้ไผ่หลังคามุงจากที่พังลงไปเพราะโดนมอดกัดในเร็ววันนี้

    นอกจากจะใช้ศาลานี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมและพระพุทธไตรโลกนาถเป็นการชั่วคราวแล้ว (จนกว่าจะรวบรวมปัจจัยและสร้างอาคารทรงโดมได้) ก็ยังสามารถใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมและกิจกรรมงานบุญงานกุศลต่างๆ แถมยังใช้เป็นที่หลบแดดหลบฝนในยามกลางวันและใช้เป็นที่นอนในยามค่ำคืนได้อีกด้วย



    .
     
  15. ksuchet

    ksuchet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +6,060
    ผมกลับบ้านเกิด ไปกราบคุณแม่วันปีใหม่ไทย และไปพักผ่อน

    เวลาเดียวกัน จานคลิก และบางท่านยังคงไม่ได้หยุด ที่ปรียนันท์

    เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญมาก

    ขออนุโมทนากับ จานคลิก และบางท่าน และทุกท่าน ที่ก้าวไปพร้อมกัน สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2008
  16. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    รับทราบครับ...ขออนุโมทนาบุญ...นะครับ
     
  17. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,761
    ค่าพลัง:
    +83,933
    โมทนาสาธุครับ ได้เห็นศาลาเริ่มก่อสร้าง ปิติยินดีครับ
     
  18. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    พี่คลิก พี่สุเชษฐ์ และคุณสนั่นครับ

    ศาลาหลังนี้ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างเท่าไร ปัจจุบันเรามีเงินที่ได้รับบริจาคอยู่เท่าไร (ในส่วนของคุณสนั่น สำหรับบัญชีร่วมระหว่างผมกับน้องคมน์ ผมจะขอให้น้องคมน์ up date ให้ทราบว่าตอนนี้มีเงินในบัญชีเท่าไรแล้วหลังจากปิดบัญชีร่วมเดิมระหว่างผมกับดร.สุธาทิพและโอนเงินมาแล้ว) จะได้ทราบว่า ขาดเหลือเท่าไร และจะได้บอกบุญแก่ผู้มีจิตศรัทธาต่อไปครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2008
  19. ksuchet

    ksuchet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +6,060
    เงินทุนสำรองที่มีอยู่แล้ว ข้อมูลน่าจะอยู่ที่ หนูกิ๊ก ส่วนงบการสร้างคร่าวๆเบื้องต้น รายละเอียดอยู่ที่ จานคลิกครับ

    คุณตั้ม ลองโทร.คุยกับจานคลิกอีกทีก็ได้นะครับ
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โทรคุยกับพี่ tamsak และพี่ Desire แล้วครับ เย็นนี้จะแวะไปรับเอกสารมอบอำนาจเพื่อทำการปิดอีกบัญชีครับ และจะส่งมอบเอกสารให้พี่ tamsak วันเสาร์ครับ

    อย่างช้าวันอังคารหน้า จะจัดการให้นะครับ เรื่องการอับเดทบัญชีเงินล่าสุด และรายรับ-รายจ่ายครับ จะแจกอย่างละเอียดให้อีกครั้งครับ

    แล้วจะหาโอกาสนัดพี่ตั้มไปธนาคาร เพื่อขอใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตครับ จะได้เช็คง่ายหน่อยครับ

    ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...