><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334



    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$





    1670.เหรียญดีแห่งปี(ซองเดิมๆ) เหรียญพระพุทธชนะมาร

    สร้างนาน2ปี มหาพิธี 9วาระ เสกเดี่ยวมากกว่า 68 รูป

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    9bqdoy-jpg.jpg
    9bqzvb-jpg.jpg
    9bq1ez-jpg.jpg
    9bqkvi-jpg.jpg
    9bqgrt-jpg.jpg
    เหรียญพระพุทธชนะมาร เนื้อนิกเกิ้ล ผลิตจากกองกษาปณ์กรมธนารักษ์ ดำเนินการจัดสร้างโดย คุณสุธันย์ สุนทรเสวี ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเข้าพิธีปลุกเสกกว่า 2 ปี ตั้งแต่ พศ.2538-2540 โดยนำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดต่างๆ 9 ครั้ง เช่น วัดพระแก้ว ,วัดบวรนิเวศ,วัดนางพญา,วัดสุทัศน์ ฯลฯ และยังได้นำเหรียญไปให้พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศปลุกเสกเดี่ยวให้อีก จำนวน 68 รูป จำนวนการสร้าง 3,500เหรียญ
    *** มีของปลอมออกมาแล้วนะครับ ระวังให้ดีจำพิมพ์ กับขอบตัดให้แม่นๆ ตอนนี้ที่เห็นหน้าพระจะเพี้ยนๆยังดูง่ายอยู่สำหรับคนเคยเห็นของจริง แต่ต่อไปฝีมือการปลอมอาจจะดีขึ้นแน่นอน ***

    การสร้างเหรียญพระชนะมารนี้ สร้างตามแบบและขั้นตอนของการสร้างเหรียญกษาปณ์โดยทั่วไป โดยนายช่างศิลป์จากกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบ และปฏิมากรของกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ เป็นผู้ปั้นแบบ

    วัตถุประสงค์
    - เพื่อเป็นพุทธานุสสติหนึ่งในกรรมฐาน 40 กอง ตามพุทธฎีกาและเป็นมหากุศลสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตและเพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทำบุญ “กองทุนพัฒนาสถานีอนามัยจังหวัดสมุทรสงคราม”

    พุทธศิลป์
    เป็นเหรียญรูปไข่ กว้าง 2.2 ซม. สูง 3.2 ซม.
    ด้านหน้า : เป็นรูปจำลองพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับนั่งรัตนบัลลังก์ เหนือแม่พระธรณีใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

    ด้านหลัง : เป็นยันต์เกราะเพชร(อิติปิโสเกราะเพชร) ของท่านพระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข)วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และ หมายเลข 2538 คือปีที่สร้าง และ “นกวายุภักต์” อันเป็นเครื่องหมายของ กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์

    จำนวนการสร้าง
    - เนื้อนิกเกิ้ล (ปัจจุบันเรียกอัลปาก้า) 3,500 เหรียญ
    - เนื้อบรอนซ์(ปัจจุบันเรียกทองโบราณ, ทองฝาบาตร,ทองระฆังฯลฯ) 3,500 เหรียญ
    - เนื้อนวะโลหะ 600 เหรียญ
    - เนื้อเงิน 100 เหรียญ
    - เนื้อทองคำ 9 เหรียญ

    ข้อมูลการจัดสร้างและพิธีพุทธาภิเษกโดยละเอียดจากสูติบัตร :

    **** รับชมได้ที่ไฟล์ภาพที่แนบมาด้านล่างเลยครับ ****
    *** จึงมั่นใจได้ว่าเหรียญนี้ทรงมหิทธานุภาพ และเข้มขลังในพุทธคุณอย่างเต็มเปี่ยม ***

    การบรรจุพุทธานุภาพ
    ได้ผ่านการบรรจุพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นขั้นตอนดังนี้
    พิธีมหาพุทธาภิเษก
    1. วัดเลา กรุงเทพฯ พิธี “พระกริ่งอุดมมงคลสุข” 19 พฤศจิกายน 2538
    2.วัดบวรนิเวศนวิหาร กรุงเทพฯ “พิธีพระนาคปรก 40 พรรษา” 25 พฤศจิกายน 2538
    3.วัดช้างเผือก สมุทรสงคราม พิธี “เหรียญหลวงพ่อหรุ่น” 13 กุมภาพันธ์ 2539
    4. วัดเพชรสมุทร สมุทรสงคราม พิธี “เหรียญใบสาเก” 23 มีนาคม 2539
    5. วัดนางพญา พิษณุโลก พิธี “พระนางพญา” 25 มิถุนายน 2539
    6. วัดบวรนิเวศนวิหาร กรุงเทพฯ พิธี “เหรียญจับโป้ยหล่ออึ่น” 27 พฤศจิกายน 2539
    7. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ พิธี “รูปหล่อสมเด็จย่า”17 ธันวาคม 2539
    8. วัดเลา กรุงเทพฯ พิธี “พระพุทธพิทักษ์ชน” 21 กุมภาพันธ์ 2540
    9. วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ พิธีพระพุทธชินราชย้อนยุค 17-18-19 เมษายน 2540

    การปลุกเสก และอธิษฐานจิตเดี่ยว
    1.หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง 12 สิงหาคม 2538
    2. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา 28 พฤศจิกายน 2538
    3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม 28 พฤศจิกายน 2538, 13 มกราคม 2539, 4 มีนาคม
    2539
    4. หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม 10-21 มีนาคม 2539
    5. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี 6 เมษายน 2539, 12 เมษายน 2540
    6.พระครูสุวรรณวิสุทธิ์ วัดธัญญวารี สุพรรณบุรี 6 เมษายน 2539, 12 เมษายน 2540
    7. หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา 6 เมษายน 2539
    8. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา 6 เมษายน 2539
    9. หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี 5 พฤษภาคม 2539, 2 พฤษภาคม 2540
    10. หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักร อ่างทอง 5 พฤษภาคม 2539, 2 พฤษภาคม 2540
    11. หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย นนทบุรี 5 พฤษภาคม 2539
    12. หลวงพ่อแปลก วัดลำน้ำ ราชบุรี 18-30 พฤษภาคม 2539
    13. หลวงพ่อบุญธรรม วัดหลักสี่ สมุทรสาคร 1-12 มิถุนายน 2539
    14. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม นครปฐม 22 มิถุนายน 2539
    15. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร 25 มิถุนายน 2539
    16. หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางุ นครสวรรค์ 25 มิถุนายน 2539
    17. หลวงพ่อนิตย์ วัดกำแพงแลง เพชรบุรี 16 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2539
    18. หลวงปู่ทอง วัดป่ากอสุวรรณาราม สงขลา 8 สิงหาคม 2539
    19. หลวงปู่สุข วัดมุจลินทรวาปี ปัตตานี 8 สิงหาคม 2539
    20. หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ พัทลุง 9 สิงหาคม 2539
    21.พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา พัทลุง 9 สิงหาคม 2539
    22. พ่อท่านศรีเงิน วัดดอนศาลา พัทลุง 9 สิงหาคม 2539
    23. พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง 10 สิงหาคม 2539
    24. พ่อท่านสังข์ วัดเทพมงคล นครศรีธรรมราช 10 สิงหาคม 2539
    25. พ่อท่านนอง วัดทรายขาว ปัตตานี 10 สิงหาคม 2539
    26. หลวงปู่แร่ วัดเชิดสำราญ ชลบุรี 24 สิงหาคม 2539
    27. หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี 24 สิงหาคม 2539
    28. หลวงพ่อชื่น วัดตึกมหาชยาราม สมุรทรสาคร 24 สิงหาคม – 3 กันยายน 2539
    29. หลวงพ่ออุตตมะ วังวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี 5 กันยายน 2539
    30. หลวงพ่อเบี่ยง วัดทุ่งสมอ กาญจนบุรี 6 กันยายน 2539
    31. หลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุ ลพบุรี 16 พฤศจิกายน 2539
    32. หลวงพ่อทวน วัดหนองพังตรุ กาญจนบุรี 18 พฤศจิกายน 2539
    33. หลวงพ่อแสง วัดวรรณาราม นครราชสีมา 5 ธันวาคม 2539
    34. หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ นคราชสีมา 5 ธันวาคม 2539
    35. พระมหาโส กสสโป วัดป่าคีรีวัน ขอนแก่น 6 ธันวาคม 2539
    36. หลวงปู่คำพอง วัดถ้ำกกดู่ อุดรธานี 7 ธันวาคม 2539
    37. หลวงปู่แสน ปัญญาธโร วัดราษฎร์สงเคราะห์ อุดรธานี 7 ธันวาคม 2539
    38. หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโม วัดประชาชุมพล อุดรธานี 7 ธันวาคม 2539
    39. หลวงปู่หนูอินทร์ วัดพุทธมงคล กาฬสินธุ์ 8 ธันวาคม 2539
    40. หลวงปู่นนท์ วัดเหนือวน ราชบุรี 24 ธันวาคม 2539
    41. หลวงพ่อแม้น วัดพิชิตปิตยราม ปทุมธานี 29 ธันวาคม 2539
    42. หลวงพ่อชม วัดนางในธัมมิการาม อ่างทอง 29 ธันวาคม 2539
    43. หลวงพ่อใส สติปัญโญ วัดคานหาม อยุธยา 29 ธันวาคม 2539
    44. หลวงพ่อพัฒน์ วัดแสนเกษม กรุงเทพฯ 29 ธันวาคม 2539
    45. หลวงพ่อเหล็ง วัดโคกเพลาะ ชลบุรี 12 มกราคม 2540
    46. หลวงพ่อเย็น วัดดอนสีนนท์ ฉะเชิงเทรา 12 มกราคม 2540
    47. หลวงพ่อสง่า วัดใหม่เจริญราษฎร์ กรุงเทพฯ 12 มกราคม 2540
    48. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม 16-22 มกราคม 2540
    49. หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร เพชรบุรี 16-20 กุมภาพันธ์ 2540
    50. หลวงปู่ทองเบิ้ม วัดวังยาว ประจวบคีรีขันธ์ 1-8 มีนาคม 2540
    51. หลวงปู่เกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ 9 มีนาคม 2540
    52. หลวงพ่อหมู วัดวังศาลา กาญจนบุรี 15 มีนาคม 2540
    53. หลวงพ่อชอบ วัดเขารังเสือ ราชบุรี 15-17 มีนาคม 2540
    54. หลวงพ่อช่อ วัดโคกเกตุ สมุทรสงคราม 18 มีนาคม-11 เมษายน 2540
    55. หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ราชบุรี 20-30 เมษายน 2540
    56. พระมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดคลองมอญ ชัยนาท 1 พฤษภาคม 2540…
    57.พระวิสุทธิญาณเถร หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม 9 มิย.-17 ตค. 2540 ไตรมาส 2540
    58.หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม สมุทรสงคราม 15 เม.ย.-4 พค.2541
    59.หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์ 5 พค.2541 60.พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์(วงศา)
    วัดพระพุทธบาทท้ายบ้าน ลำพูน 6 พค.2541
    61.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง 7 พค.2541
    62.พระครูชัยยะวงศวิวัฒน์(หน้อย) วัดบ้านปง เชียงใหม่ 7 พค.2541
    63.ครูบาเทือง นากสีโล วัดบ้านเด่น เชียงใหม่ 7 พค.2541
    64.ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง เชียงใหม่ 8 พค.2541
    65.ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ 8 พค.2541
    66.ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ 8 พค.2541
    67.พระครูสีลสารสัมปัน(อ่อน) วัดเนินมะเกลือ เชียงใหม่ 8 พค.-3 มิย.2541
    68.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม 13 เม.ย. 2542

    และได้นำถวายหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้าระยอง เมื่อ 5-7 ธค.2538

    ยังมีพระเกจิพระสุปฏิปันโนอีกหลายองค์ ซึ่งผู้สร้างได้นำไปให้อธิฐานจิตเพิ่มเติมอีกตามที่มีโอกาส อาทิเช่น ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา , หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า , ครูบาอิน , หลวงปู่คำพันธ์, หลวงพ่อทองคำ วัดท่าทอง ,ครูบาเทือง


    และที่สำคัญคือการได้รับการอธิษฐานพรจากหลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี ถึง ” 3 เดือน ” เต็มๆ และยังได้รับเมตตาให้นำเหรียญไปวางไว้ข้าง ” หัวนอน” ของท่านด้วยครับ


    และในการปลุกเสกของหลวงพ่อชม วัดนางใน ก็ได้เห็นการเสกที่สามารถเปลี่ยนนัยน์ตาเป็นสีฟ้าได้ ซึ่งการเสกแบบนี้ในอดีตที่ตัวคุณสุธันย์เคยเห็นก็มีแต่ครูบาพรหมจักรสังวรณ์ วัดพระพุทธบาทตากผ้า องค์เดียวเท่านั้นเอง


    สภาพสวยเดิม เหรียญไม่ผ่านการบูชา ซองเดิมไม่เคยถูกสัมผัสคุณคือคนแรก สุดยอดเหรียญแห่งปีที่ยอดเยี่ยมศักดิ์สิทธิ์และมหาพิธีการประจุพลังอธิษฐานจิต ไม่สดไม่ใหม่คืนเต็ม แบ่งให้บูชา 2,400 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9bxlf8-jpg.jpg
      9bxlf8-jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      373.9 KB
      เปิดดู:
      380
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2021
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,595
    ค่าพลัง:
    +30,884
    ยามบ่าย2.png
     
  3. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,700
    ค่าพลัง:
    +5,783
    - 1650.ของดีที่ถูกลืมพิมพ์นิยม พระสมเด็จประภามณฑล วัดดาวเรือง ลพ.กวย,ลพ.จวน,ลพ.ทอง ร่วมเศกพระเครื่องเจตนาบริสุทธิ์
    - 1653.ยอดมวลสารตามบัญชา(๑) พระปิดทวารสำเร็จลุน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ทายาทพุทธคมสมเด็จลุน มหาพิธี 14วาระเต็มเปี่ยมพุทธคุณ
    - 1663.ยอดผงวิเศษเนื้อแก่ผงพุทธคุณหายาก หลวงปู่ทวด หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ลป.ทิม,ลพ.ทาบ,ลป.เย็น,ลป.ลัด,ลป.หอม ร่วมเสกมหาพิธี2วาระ
    รวมทั้งหมด 1,494 บาท
    ขออภัยที่ช้าครับ
    โอนแล้วครับ วันนี้ เวลา 15.57pm จำนวน 1494 บาท ผ่าน KTB ครับ
    ที่อยู่ในการจัดส่ง PM ครับ
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334



    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ 4$$$$$$





    1671.สวยผิวเขม่าเดิมๆ เหรียญพระแก้วมรกต 3ฤดู ธนาคารกรุงไทย
    พระสังฆราชเป็นประธาน,ลป.ดู่,ลป.สิม,ลพ.คง,ลพ.เนื่อง ร่วมประจุพลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    เหรียญพระแก้วมรกต 3ฤดู ธนาคารกรุงไทย เนื้อทองแดงผิวรมน้ำตาล สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในพิธีเปิดที่ทำการสำนักงานใหญ่ เมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2525 จำนวนสร้าง 99,999 ชุด รวมเป็นจำนวน 299,997 เหรียญ

    พิธีการสร้าง
    โดยส่งแผ่นเงินและแผ่นทอง ถวายสมเด้จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะ ลงอักขระมงคลร้อยแปดและบริกรรมแผ่เมตตา
    บารมี ส่งแผ่นทองแดง ให้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปให้พระภิกษุสงฆ์ที่ทรงคุณวุฒิ มีพุทธคุณสูงเป็นที่เคารพสักการะของ
    พุทธศาสนิกชนทั่วไป ลงอักขระมงคลร้อยแปดและปลุเสกแผ่นวัตถุมงคล พระเกจิอาจารย์ที่ลงแผ่นวัตถุมงคลทั่วประเทศรวม 359 รูป
    จำนวนแผ่นวัตถุมงคลรวม 456 แผ่น

    พิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต ของธนาคารกรุงไทย
    ประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2525 โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธี และมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังจากทั่วทุกภูมิภาค เข้าร่วมมากมาย อาทิเช่น
    - สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธาน
    - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    - หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    - หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    - พระราชญาณดิลก(หลวงพ่อชิด) วัดเขาเต่า
    - หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์
    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    - หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
    - หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์
    - หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    - หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    - หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    - หลวงพ่อเปลื้อง วัดใหญ่ชัยมงคล
    - หลวงพ่อปกาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม
    - หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    - หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    - พระครูประดิษฐนวการ(หลวงพ่อบุญ) ราชบุรี
    - หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ
    - พระมหาศิริพงศ์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    - พระปัญญาภิมณฑ์มุนี กรุงเทพ
    - หลวงตาละมัย วัดอรัญญิการาม พิษณุโลก
    - สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พระเทพกวี
    เป็นต้น

    พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ เป็นพระพุทธรูปที่ทำมาจากมรกตซึ่งเป็นตระกูลหินหยกชั้นดีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีค่าประมาณมิได้ในปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนตอนต้น ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 43 ซม. สูง 55 ซม.ประวัติการสร้างพระแก้วมรกตไม่ชัดเจน มีหลายตำนานเช่น บางตำนานกล่าวว่าพระแก้วมรกตสร้างโดยพระอรหันต์ชื่อ พระนาคะเสนเถระ (น่าจะเป็นองค์เดียวกันกับผู้ที่ตอบปัญหาในเรื่องพระเจ้ามิลินท์)สร้างพระแก้วมรกตที่เมืองนครปาตาลีบุตร เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว 500 ปีปัจจุบันพระแก้วมรกต ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต

    สภาพสวยเดิม พิธีดีเจตนาการสร้างบริสุทธิ์ พุทธคุณครอบครบ พระเก็บไม่ได้ใช้ครับ พิมพ์คมชัดลึก ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 63Xt.jpg
      63Xt.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.5 KB
      เปิดดู:
      301
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2021
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334
    1672.ของดีที่ถูกลืมพิมพ์นิยม พระสมเด็จประภามณฑล วัดดาวเรือง
    ลพ.กวย,ลพ.จวน,ลพ.ทอง ร่วมเศกพระเครื่องเจตนาบริสุทธิ์


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    63Yw.jpg

    5jNM.jpg
    พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์ใหญ่ ประภามณฑล วัดดาวเรือง จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ หลังดาว จัดสร้างปี พ.ศ.2510-2515 จัดสร้างโดย หลวงพ่อเเป๋ว วัดดาวเรือง (ศิษย์หลวงพ่อกวยอีกท่านนึง) มีการจัดสร้างขึ้นมาหลายพิมพ์ด้วยกัน

    วัตถุประสงค์ :
    - ของการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นนี้ก็เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้าง พระอุโบสถ วัดดาวเรือง


    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษก อาทิ
    - หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    - หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา
    - หลวงพ่อดวง วัดทอง เป็นต้น

    หลังจากเสร็จวาระพุทธาภิเษกหมู่แล้ว ทางวัดดาวเรืองก็ได้นำพระเครื่องใส่กล่องลังนำไปถวายให้ หลวงพ่อกวย และหลวงพ่อจวน ท่านเศกอีกวาระหนึ่ง แล้วเสร็จสิ้นทั้ง2วาระแล้ว ได้นำออกมาให้บูชาและแจกบรรดาลูกศิษย์ จนสร้างพระอุโบสถแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2523
    รูปภาพจาก : หนังสือหลวงพ่อกวย โดยมงคลทิพย์ เล่มล่าสุด

    สภาพสวยเดิมไม่หักไม่ซ่อม พิมพ์คมชัดลึก สมเด็จรุ่นนี้จัดว่าเป็นชุดนอกวัดที่เล่นหากันไม่แพง แต่พุทธคุณเกินตัว แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,595
    ค่าพลัง:
    +30,884
    หวัดดีครับ.jpg
     
  7. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,700
    ค่าพลัง:
    +5,783
    จองครับ
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334


    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ 4$$$$$$






    1673.ของดีเมืองสุพรรณ พระขุนแผน หลังพระอาจารย์ธรรมโชติ
    เนื้อดีพิธีใหญ่ ลป.โต๊ะ,ลพ.จวน,ลพ.สนิท,ลพ.แพ ร่วมเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระพิมพ์ขุนแผน หลังพระอาจารย์ธรรมโชติ วัดเขานางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พิมพ์เล็ก ปางมารวิชัยซุ้มลูกแก้ว เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2520

    ผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ประกอบด้วย
    - ผงพุทธคุณ, ดินบริเวณวิหารที่พระอาจารย์ธรรมโชตินั่งวิปัสสนา, ดินใจกลางเมืองซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ขอไปที่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งดินทุกวัดในจังหวัดสุพรรณบุรี, แร่ธาตุต่างๆที่ปะปนอยู่ในเนื้อดิน

    ลักษณะ
    เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณผสมดินที่มีแร่ปะปน อยู่บางองค์แร่ธาตุที่ปะปนอยู่ได้ละลายออกมาคลือบผิวขององค์พระคล้ายกับผิวเคลือบของโอ่งมังกรเคลือบ

    วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
    เมื่อปี 2520 ผู้ว่าราชการจัหวัดสุพรรณบุรีในขณะนั้น เพื่อบูรณะวิหาร ด้านหลังโบสถ์วัดเขานางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสันนิฐานเชื่อกันว่า เป็นวิหารที่พระอาจารย์ธรรมโชติ พระเกจิอาจารย์ยุคปลายกรุงศรีอยุธยา ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบางระจัน ได้เคยมาใช้เป็นที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ดังนั้นคณะกรรมการจึงได้มีความเห็น ให้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อมอบให้กับผู้ร่วมบริจาคทำบุญ โดยได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบเป็นที่ระลึก แก่ผู้รวมทำบุญ คือเหรียญ และพระพิมพ์เนื้อดินเผา

    กำหนดการต่างๆในการจัดสร้าง
    วันที่ 29 มกราคม พศ.2520 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีพร้อมคณะกรรมการ ได้เดินทางไปประกอบพิธีบวงสรวงและขออนุญาตต่อดวงวิญญาณของพระอาจารย์ธรรมโชติ ณ วัดเขานางบวช พร้อมทั้งยังขอขมาและขออนุญาตพระอาจารย์ธรรมโชติเพื่อขุดดินในวิหารที่พระอาจารย์ธรรมโชตินั่งวิปัสสนา เอาไปเป็นมวลสารด้วย

    วันที่ 7 พ.ค. ฑ.ศ.2520 จัดพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเขานางบวช
    โดยพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีมีดังต่อไปนี้
    1.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    3.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    4.หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก
    5.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    6.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    7.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
    8.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    9.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    10.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    11.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ (ตั้งแต่ ลำดับที่ 11- 20 อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี)
    12.หลวงพ่อสำราญ วัดปราสาททอง
    13.หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง
    14.หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี
    15.หลวงพ่อทองหยด วัดชีสุขเกษม
    16.หลวงพ่อทองหยด วัดวังจิก
    17.หลวงพ่อสม วัดดอนบุพผาราม
    18.หลวงพ่อสุบิน วัดท่าช้าง
    19.หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย
    20.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
    21.หลวงพ่อเพียว วัดโพธิ์ทองเจริญ
    22.หลวงพ่อไสว วัดเขาพระ เป็นต้น
    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ องค์นี้แร่เยอะครับผุดออกมาตอนเผาเคลือบผิวไว้เต็มเลย ไม่ผ่านการใช้งาน พิมพ์คมชัดลึกพุทธศิลป์ล้ำเลิศ พุทธคุณดีครอบครบเจตนาการสร้างบริสุทธิ์ แบ่งให้บูชา 450 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)


    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6uJH.jpg
      6uJH.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.9 KB
      เปิดดู:
      269
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2021
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334
    1674.มงคลวัตถุเจตนาบริสุทธิ์ ทองระฆัง (๑)
    รูปเหมือนปั้มพิมพ์เตารีด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รุ่นสรงน้ำ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    wmgeyi-jpg.jpg

    wmxnav-jpg.jpg

    wmjgwq-jpg.jpg

    wmjids-jpg.jpg

    wmjrjn-jpg.jpg
    เหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รุ่นสรงน้ำ พิมพ์เตารีด วัดป่าเลิงจาน จังหวัดมหาสารคาม เนื้อทองระฆัง ตอกโค้ด "กาน้ำ" ดำเนินการจัดสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2553 โดย “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต” หรือ หลวงเตี่ยสุรเสียง เจ้าอาวาสวัดป่าเลิงจาน (ธ) (ทายาทธรรมของ หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี วัดหินหมากเป้ง) จำนวนการสร้าง 600 เหรียญ

    มูลเหตุการสร้าง
    - เนื่องจากเมื่อ ปี 2548 ท่านได้ร่วมมือกับญาติโยมก่อสร้างอุโบสถ 3 ชั้น พร้อมทั้งศาลาและเจดีย์เทสก์รังสี แต่การก่อสร้างไม่คืบหน้าจนถึงปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ด้วยยังขาดทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก เพื่อให้โครงการก่อสร้างเดินหน้า ต่อไป ในปี 2553 จึงได้ดำริจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รุ่นสรงน้ำ ย้อนยุคพิมพ์ ป. เพื่อหาจตุปัจจัยสมทบทุนสร้างเจดีย์เทสก์รังสีรำลึก

    พระคณาจารย์ที่เมตตาลงอักขระแผ่นชนวน อาทิ
    1. หลวงปู่มหาโส วัดป่าคำแคนเหนือ จ.ขอนแก่น
    2. หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี
    3. หลวงปู่ผ่าน วัดป่าประทีปบุญญาราม จ.สกลนคร
    4. หลวงปู่สิงห์ วัดศรีสุข จ.มหาสารคาม
    5. หลวงปู่ประสาน วัดป่าห้วยไคร้ จ.ยโสธร
    6. หลวงปู่หนูอินทร์ วัดป่าพุทธมงคล จ.กาฬสินธุ์
    7. หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร
    8. หลวงปู่ญาครูล้วน วัดสระบัว จ.มหาสารคาม
    9. หลวงปู่เจียม วัดเทพวิสุทธาราม จ.สกลนคร

    จัดสร้างรวม 3 พิมพ์ ประกอบด้วย
    1.รูปเหมือนปั้มพิมพ์ตัดชิด กรรมการ 69 เหรียญ

    2.รูปเหมือนปั้มพิมพ์เตารีด
    - เนื้อเงิน โค้ดกรรมการ สร้าง 69 เหรียญ
    - เนื้ออัลปาก้าหลังเรียบ โค้ดกรรมการ สร้าง 99 เหรียญ
    - เนื้อตะกั่วนำฤกษ์ หลังเรียบ สร้าง 169 เหรียญ
    - เนื้อนวโลหะ สร้าง 169 เหรียญ
    - เนื้อทองระฆัง สร้าง 600 เหรียญ
    - เนื้ออัลปาก้า สร้าง 250 เหรียญ

    3.เหรียญ ป.
    - เนื้อเงิน โค้ดกรรมการ สร้าง 99 เหรียญ
    - เนื้ออัลปาก้าไม่ตัดปีกโค้ดกรรมการ สร้าง 169 เหรียญ
    - เนื้อตะกั่วนำฤกษ์ หลังเรียบ สร้าง 200 เหรียญ
    - เนื้อนวโลหะ สร้าง 269 เหรียญ
    - เนื้อทองระฆัง สร้าง 2,000 เหรียญ
    - เนื้ออัลปาก้า สร้าง 400 เหรียญ


    พิธีพุทธาภิเษก
    ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ ศาลาปฏิบัติธรรมวัดป่าเลิงจาน
    วาระที่ 1
    : วันที่ 8 เมษายน 2553 โดยมีหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู จ.อุบลราชธานี นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว เป็นองค์ปฐมฤกษ์

    วาระที่ 2
    : วันที่ 11 เมษายน 2553 จัดพิธีพุทธาภิเษกโดยพระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาหลายรูปนั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ
    - หลวงพ่อหนูอินทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทมงคล จ.กาฬสินธุ์
    ศิษย์ หลวงปู่สีทน ถ้ำปิ้ง, หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรี
    - หลวงเตี่ยสุรเสียง เจ้าอาวาสวัดป่าเลิงจาน
    ทายาทธรรมของ หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี วัดหินหมากเป้ง
    - หลวงพ่อพระครูสุทธิพรหมคุณ วัดป่าวังเลิง เจ้าคณะอำเภอเมือง (ธ) จ.มหาสารคาม
    ศิษย์เอก หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง
    - พระอาจารย์สุริยัน เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม
    ศิษย์เอกหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เป็นต้น

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - เพจวัดป่าเลิงจาน - วัดโพธิไชยาราม หลวงเตี่ย สุรเสียง ปัญญาวชิโร


    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆเก่าเก็บ พิมพ์คมโค้ดชัดลึก อีกหนึ่งของดีเจตนาบริสุทธิ์ ชนวนโลหะและพิธีประจุพลังเต็มเปี่ยม แบ่งให้บูชา 350 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  11. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,700
    ค่าพลัง:
    +5,783
    ขออภัยที่ช้าครับ โอนแล้วครับ รายละเอียด PM ครับ
     
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,595
    ค่าพลัง:
    +30,884
    ยามเช้ากาแฟ.jpg
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,595
    ค่าพลัง:
    +30,884
    5485.gif
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334

    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###


    https://palungjit.org/threads/กระทู...ามกระทู้ไว้จะไม่ผิดหวัง.661373/#post-10867359


    #############




    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663

    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    05/05/2563



    คุณสักการะ
    - EMS เลขที่ EW870982951TH
    ---------------------------------------



    #############################


    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    07/05/2563


    คุณPeterbn
    - EMS เลขที่ EW870982965TH
    ---------------------------------------


    คุณpasit_99
    - EMS เลขที่ EW870982934TH
    ---------------------------------------



    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com


    3vblji-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334


    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$




    1675.
    สวยแชมป์!!! สุดยอดคำเดียว พระฤาษีแก้วสารพัดนึก

    อาจารย์เบิ้ม สุดยอดชนวนศักดิ์สิทธิ์และมหาพิธีมากกว่า 300 อาจารย์

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    image-537f_59410e2e-jpg-jpg-jpg.jpg image-cb9b_59410e2e-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระฤาษีแก้วสารพัดนึก อาจารย์เบิ้ม (คุณสุวัฒน์ พบร่มเย็น) ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เนื้อโลหะผสมมหาชนวนศักดิ์สิทธิ์ ใต้ฐานตอก 2 โค้ด บรรจุกริ่ง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534 จำนวนการสร้างประมาณ 1,400 องค์เศษ

    ประวัติการจัดสร้าง
    ก่อนหลวงปู่โต๊ะมรณภาพ มีชายหนุ่มหน้าตาหมดจดคอยตามรับใช้ใกล้ชิด ใช่เพียงอุปัฎฐากครูบาอาจารย์อย่างเดียว หากขอรับการถ่ายทอดวิทยาการด้านขลังสืบต่อจากหลวงปู่มากมายหลายหมวดวิชา แต่จบลงที่หลวงปู่สอนถึงการทำจิตอย่างเดียว จิตนี้เท่านั้นที่เป็นใหญ่ เป็นประธานสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าใจไม่ปรากฏสมาธิธรรม ท่องบ่นคาถาร้อยจบ พันจบ หมื่นจบ มันก็ไม่ขลัง ให้น่าเชื่อว่าหนุ่มคนนี้ ‘ผ่าน’ จริง หลวงปู่จึงมอบเหล็กจารคู่บารมีที่ท่านใช้มาตลอดชีวิตให้ถึง 2 ด้าม นับเป็นมรดกที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจได้ถ้าไม่แน่จริง…..อาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น…
    อาจารย์เบิ้มไม่เคยอวดว่าเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ แต่เราพอใจจะกล่าวเอง แม้ไม่ยกตนว่าเชี่ยวชาญในเรื่องเวทย์ แต่เราก็พบเอง


    พิสูจน์ จากพุทธาภิเษกของหลวงพ่ออุตตมะทุกคราว ท่านผูกขาดอาจารย์เบิ้มเพียงผู้เดียว ทั้งคำนวณฤกษ์และบวงสรวงครูบาอาจารย์ ฤษี โยคี เทพ พรหม ทุกชั้นฟ้า ขาดอาจารย์เบิ้มไม่ได้เด็ดขาด คล้ายขาดอาจารย์แล้วจะเสกไม่ขลัง ถามหลวงพ่อ ท่านก็ตอบเรียบ ๆ
    “อาจารย์เบิ้มเชิญแล้วมาจริงๆ”
    คำประกาศของหลวงพ่ออุตตมะมหาเถระ วัย 93 ปี


    ปี พ.ศ. 2534 เป็นปีที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินฯ ภูกระเจียว เริ่มอุ่นเครื่องเรื่องชื่อเสียง ข่าวขลังของท่านแพร่กระจายไปในหมู่ผู้นิยมพระ ดังไฟลามทุ่งบนวัดที่แสนกันดารปราศจากไฟฟ้า และน้ำประปา แทบไม่มีแม้ศาลาให้สานุศิษย์อาศัยนอนพักหลบแดดฝนใด ๆ เมื่อยามบากบั่นขึ้นไปหาท่านประสาศิษย์ที่ดีมีกตเวทิตา อาจารย์เบิ้มจึงคิดทำพระถวายหลวงปู่พรหมา เพื่อสร้างเสนาสนะอย่างเป็นทางการ
    อาศัยที่อยู่กับหลวงปู่โต๊ะมา นาน และเรียนรู้วิทยาคุณกับท่านอาจารย์รอด สุขเจริญ ฆราวาสผู้ขลังสุดขีดในไสยเวทพุทธาคม ด้วยอาจารย์รอด เป็นศิษย์แท้ๆ ของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ทว่าท่านบวชอยู่กับหลวงปู่ศุขได้เพียง 30 พรรษา ก็จำต้องลาสิกขามาครองขาว หากยังเป็นพระอยู่คงไม่แคล้วดังสนั่น


    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์
    เมื่อมีครูดี การทำของก็ต้องทำให้ดี อาจารย์เบิ้มจึงเน้นเรื่องชนวนมวลสารมาก และไม่ต้องไปหาไกลเท่าใดนัก ค้น ๆ เอาในบ้านก็มากมาย เพราะเก็บสะสมไว้แต่หนุ่มแต่น้อย อาจารย์เคยบอกผมว่าไม่จดเรื่องชนวน เกรงคนจะหาว่าโม้ เชื่อก็เอา ไม่เชื่อก็อย่าเอาไป หากสุดท้ายอาจารย์ก็ใจอ่อน ยอมปรารภให้ฟังถึง ‘บางส่วน’ ของมวลสารดังนี้
    1. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี กรุงเทพฯ
    2. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
    3. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร


    และ จะไม่กล่าวถึงแผ่นยันต์ต่าง ๆ มากมายหลายร้อยแผ่นที่พระเถรานุเถระในสายอีสานอันเป็นศิษย์ของท่านพระ อาจารย์มั่นได้เมตตาลงให้ไว้แต่นานเน ทั้งยังพระยันต์เก่าเก็บจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศอีกเป็นกุรุสโกดัง ถึงขนาดอาจารย์ออกปากว่า “เสร็จงานนี้บ้านโล่งไปเยอะ”
    ที่สำคัญยิ่ง คือ แผ่นทองแดงลงอักขระยันต์ และคาถาต่างๆ นับพันบท ซึ่งจารโดยมือของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร อิสีขลังผู้ชาญพระเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง ได้ลงไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 1 ปิ๊บเต็ม ๆ ทองแดงบางอย่างกระดาษวางลงในปีบจนเต็ม มันจะมีกี่แผ่น? หลวงปู่พรหมาเสกปีบยันต์บน ‘คาย’ ในถ้ำอยู่นานมาก แล้วมอบให้ประสมกับชนวนพระกริ่งปวเรศ (ปี 2530) ซึ่งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเททองโดยพระหัตถ์เอง สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานพิธี, ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่มีจำนวนพอสมควร มิใช่นิดหน่อยแล้วเขียนเอา , ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์, ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง, ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่,ชนวน พระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ , ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.เชียงราย, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา เรื่องชนวนถ้าต้องเขียนจริง ๆ อาจต้อง 5 เล่มจบ


    ยังมีเหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ, เหรียญหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร, เหรียญหลวงปู่เกษม เขมโก, เหรียญหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แต่ละองค์นับร้อยเหรียญ ถ้ารวมพระคณาจารย์ต่าง ๆ ก็นับพันเหรียญ
    ยังปรากฏชนวนศักดิ์สิทธิ์อาถรรพ์ต่าง ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยที่มาได้ อาทิ พระเกศ และนิ้วพระหัตถ์ชำรุดของพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย ตะกรุดชินตะกั่วโบราณ อายุ 200 ปี ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดปราสาท โลหะธาตุวิเศษนานาที่เป็นทนสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองถูกเชิญมาสู่เบ้าหลอมสร้างเป็นพระทั้ง 3 พิมพ์


    ที่สำคัญสุดยอดคือ พระ ยันต์บังคับทั้ง 108 ดวงและนะปถมัง 14 นะ อันเป็นสูตรโบราณในการเทพระสำคัญ ถูกจารลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์แท้จนครบตำรา มีน้ำหนักทั้งสิ้นถึง 50 บาท

    การเทพระวาระนี้ไม่มีโลหะเปล่าอันมิใช่ของวิเศษเจือปนลงไปให้เป็นที่ครหาเลย แม้แต่น้อย ชนวนน้ำหนักมากมายหลายสิบกิโล ถูกนำมาวางเรียงรายบนโต๊ะยาวปูผ้าขาว แล้วทำการบันทึกภาพพร้อมถ่ายวีดีโอเป็นหลักฐานก่อน ต่อเนื่องไปถึงการหลอมเป็นเนื้อเดียว แล้วเททอง

    องค์เททอง อาจารย์เบิ้มกำหนดที่ หลวงปู่ดี วัดสุวรรณการาม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่อาจไม่ปรากฏชื่อเสียงแพร่หลายนัก เพราะท่านเก็บตัว เนื่องจากอาพาธด้วยโรคตา โดย เหตุที่ท่านเป็นศิษย์มือซ้ายของ พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่บุญจะใช้ท่านจารคัมภีร์คัดลอกตำราต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพราะท่านมีลายมือในการเขียนขอมได้อย่างสวยงามยิ่ง กระทั่งหลวงปู่ดีอายุได้ราว 80 ปี สายตาท่านก็เริ่มเสื่อมเรื่อยมาจนมองไม่เห็นในที่สุด ท่านจึงงดรับนิมนต์ใดๆ และแขกเหรื่อท่านก็ไม่สะดวกรับ

    แม้ในวันที่ อาจารย์เบิ้มท่านไปกราบอาราธนา ศิษย์ท่านยังพูดอย่างหวังดีว่า อย่านิมนต์ให้ยากเลย เสียเวลาเปล่า ครั้นได้เข้ากราบและเล่าความ ท่านกลับแสดงความกระตือรือร้นที่จะไปสอบถามวันเวลา สถานที่เป็นอย่างดีแล้วก็รับนิมนต์การณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้ศิษย์ของท่านยิ่งนัก ยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อหลวงปู่บอกว่า “รอเขาอยู่นาน” เมื่อพระเถระผู้เฒ่า ชนมายุ 90 ปี ไปเททองให้ตามวันเวลากำหนดแล้ว ท่านพูดในพิธีว่า วันนี้ดีมาก เทพ พรหม ลงมาอนุโมทนากันมากของในพิธีนี้ดีจริงๆ แล้วท่านก็ลากลับวัดไป เพียงไม่ถึงเดือน ท่านก็มรณภาพ
    ดังคำที่ว่า “รอเขาอยู่”


    วาระพิธีพุทธาภิเษก ไม่ต่ำกว่า 30 พิธี ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์
    อาจารย์เบิ้มได้นำพระทั้ง 3 พิมพ์ เข้าพุทธาภิเษกในวาระต่าง ๆ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้วฯ, วัดสุทัศน์ฯ, วัดราชบพิตรฯ, วัดบวรนิเวศน์ฯ, วัดอินทารามฯ, เป็นต้น เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 พิธี


    หากจะนับคณาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์ และการนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว อาจารย์เบิ้มนำไปด้วยตนเอง จนคร้านจะไป เหตุที่พระนี้สร้างในปี พ.ศ. 2534 ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษยังปรากฏอยู่มากมาย การนำเสกจึงเป็นไปอย่างสนุกใจคนทำ
    หลวงปู่เกษม เขมโก, หลวงปู่แช่ม ฐานุสโก, หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ, หลวงปู่พรหมา เขมจาโร, หลวงปู่คำพัน โฆษะปัญโญ ดูจะเป็นองค์เสกชุดนี้อย่างบ่อยที่สุด นอกนั้นทั่วประเทศอาจารย์บอกผมอย่างเหนื่อยใจจะอธิบายว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2538 ชอบใจหลวงพ่ออะไร นับถือใครเอ่ยชื่อมาเลย…เอ่ยมาเถอะ… เสกแล้วทั้งนั้น!

    ให้บอกว่าใครบ้างที่เสกมันเหนื่อย พูดชื่อออกมาแล้วให้บอกว่าองค์นี้ไม่ได้เสกมันง่ายกว่า อหังการดีไหม?
    **** ซึ่งแต่ละพิธีมีครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐานมานั่งปรก อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่ศรี มหาวีโร, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย, หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ

    ผมเชื่ออาจารย์เบิ้ม เพราะพระนี้เคยแสดงอภินิหารให้คนใกล้ตัวผมได้ประจักษ์มาแล้วมากราย ผมเองก็ทำตลับใส่ปู่ฤษีแก้วสารพัดนึก แขวนคออยู่เป็นประจำ ด้วยท่านเป็นพรหมาฤษีที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดในหมู่ฤษีทั้งปวง การครองผ้าขาวอย่างโยคีแสดงถึงพรตแห่งพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ ไม่อาจครองหนังเสือเยี่ยงฤษีทั่วไป และโดยบุญบารมีที่ไพศาล จึงปรากฏดวงแก้วสารพัดนึกเป็นของคู่บารมีเฉกเช่นหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

    พระทุกแบบ พิมพ์ปิดตาหายากที่สุด ยากจนไม่มีรูปจะลงให้ดู ขอเป็นโอกาสต่อไปแล้วกัน คงมีเพียงปิดตานพเก้ากับปู่ฤษี พระทุกเนื้อเป็นนวโลหะแท้กลับดำ


    เกร็ดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเททองหล่อ
    เมื่อเททองเสร็จกำลังรอให้โลหะเย็นตัวเพื่อทุบเบ้า ตรวจนับพระ ได้มีคณะบุคคลหนึ่งเข้ามาในโรงหล่อ เพื่อประกอบพิธีเททองเช่นกัน บุรุษอาวุโสในกลุ่มนึกอย่างไรไม่ทราบตรงเข้ามาขอดูพระบางช่อที่ทุบเบ้าออก แล้ว ครั้นจับสัมผัสเข้าก็สะดุ้งสุดตัวเรียกร้องให้พระภิกษุวัยกลางคนมาพิจารณา
    เมื่อพระรูปนั้นถือท่านก็หลับตาลงอย่างตั้งใจ ทำอาการดุจตรวจสอบอะไรบางอย่าง แล้วลืมตาอย่างตื่นเต้น พลางว่า “นี่พระอะไรศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ อาตมาขอชนวนไปหล่อพระบ้างได้ไหม” อาจารย์เบิ้มเรียนตอบว่า ยังไม่อาจถวายได้ เพราะยังไม่ได้ตัดออกจากช่อ และยังไม่ได้นับจำนวน ท่านจึงถามว่า พระนี้ขอบูชาไปบ้างได้ไหม อาจารย์ว่า ยังไม่ได้ปลุกเสกเลย ท่านสวนตูม พระนี้ดีอยู่แล้วไม่ต้องทำพิธีอะไร แขวนได้เลย กลุ่มบุคคลนั้น จึงขออนุญาตเดินเก็บเศษทองที่หล่นอยู่รอบๆ เบ้าไปแทน.เมื่อสอบถามภายหลังจึงทราบว่า คณะนั้นมาเพื่อเทหล่อรูปเหมือนบูชาของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา ถ้าอย่างนั้นผมขอเดาว่าบุรุษภูมิฐานท่านนั้นคงเป็นคุณหมอเสรี วรรณไกรโรจน์ ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อพุธ และพระเถระรูปนั้นต้องเป็นท่านพระอาจารย์ชู วัดเขากะป่อม อ.เมือง จ.ชลบุรี ไม่สงสัย เพราะท่านอาจารย์ชูรูปนี้ สามารถสัมผัสพลังพระเครื่องได้แม่นยำน่ามหัศจรรย์ แม้หลวงพ่อพุธก็ยอมรับในข้อนี้ และคุณหมอเสรีเองก็เป็นศิษย์ท่านอาจารย์ชูที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามาด้วย เช่นกัน

    ขอขอบพระคุณข้อมูล
    : http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic387.html :
    https://prasaksit.wordpress.com/2008/11/16/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A4%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B8%81/


    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์คมโค้ดชัดลึก สุดยอดชนวนศักดิ์สอทธิ์และพิธี ดีนอกดีใน องค์จริงสวยคราบเบ้าน้ำทองเดิมๆ ชนวนโลหะเข้มขลังกว่าในรูปนะครับ พอดีผมถ่ายไม่ชัดเองกล้องไม่ยอมโฟกัสเฉยเลยครับ พุทธคุณหายห่วงทุกท่านต่างรู้กันดีว่าพิธีนี้สุดยอดขนาดไหน แบ่งให้บูชา 3,999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6Dsm.jpg
      6Dsm.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      480
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2021
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334
    1676.The last ยอดมวลสารตามบัญชา พระปิดทวารสำเร็จลุน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร
    ทายาทพุทธคมสมเด็จลุน มหาพิธี 14วาระเต็มเปี่ยมพุทธคุณ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6Dso.jpg
    พระปิดทวารสำเร็จลุน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย จังหวัดอุบลราชธานี แบบลอยองค์ เนื้อผงพุทธคุณ มวล สาร-เป็นเช่นเดียวกับพระมหาฤาษีรุ่น 7 และรุ่น 8 ทุกประการ มีผงสำคัญมากมายสุดพรรณนา ใต้ฐานปั้มยันต์ฝังพลอยเสก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2537 จำนวนสร้างประมาณ 8 พันกว่าองค์ นำขึ้นถวายท่านทั้งหมด

    พระปิดทวารสำเร็จลุนนั้น เป็นการสร้างขึ้นถวายหลวงปู่พรหมา เขมจาโร ตามคำบัญชาของท่านในวันที่ 10 ธ.ค. 2537 คราวนำพระมหาฤาษีรุ่น 8 ขึ้นเสก ท่านสั่งให้ผมทำพระปิดทวารพิมพ์นี้ขึ้น " ของหลักๆที่ท่านดำริสร้างด้วยตัวท่านเองน้อยรุ่นมาก เพราะส่วนใหญ่ศิษย์สร้างถวายแทบทั้งสิ้น "

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้างบางส่วน
    - ผงงาช้าง, ผงนิลกาฬ, ผงไม้จันทน์หอม ผงว่านของหลวงพ่ออุตตมะ (เสกผงแล้ว)
    - ผงเกสรดอกไม้ของอาจารย์ตึง วัดสมเด็จ กาญจนบุรี
    - ผงดินพุทธคยาและวัดต่างๆในอินเดีย
    - ผงลบกระดานของอาจารย์ตึง
    - ผงดินรัตนะของหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง โพธาราม ราชบุรี
    - ผง 108 คณาจารย์ของผู้ว่าฯ ณัฐ กาญจนบุรี มอบให้
    - ผง 108 อาจารย์ของ อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์ มอบให้
    - ผงพุทธคุณของอาจารย์โอภาสะ
    - ผงไม้ว่านของหลวงพี่มะแฮ จากพม่า
    - ผงอิทธิเจมหาลาภ ปี 2534 ของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
    - ผงพระฤาษีรุ่นแรก-รุ่น 6 ของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
    - ผงมณฑปพระธาตุจอมทอง เชียงใหม่
    - ผงดินพระธาตุพนม และพระธาตุท่าอุเทน นครพนม
    - ผงไม้โพธิ์ตายพราย กิ่งที่ชี้ทางทิศตะวันออก
    - ผงดินก้นกรุเจดีย์บางขุนพรหม ที่บรรจุพระสมเด็จบางขุนพรหม คุณวรพร ทองดีเลิศ มอบให้
    - ผงพระบุเรงนองหลังกบ เป็นต้น


    การบรรจุอิทธิคุณ-ได้ดำเนินการไปด้วย ความพากเพียรจริงจัง เป็นเวลาเนิ่นนาน และเป็นระยะทางไม่น้อย เพื่อขอรับการบรรจุอิทธิคุณ ฤทธิคุณจากคณาจารย์ที่เชื่อมั่นว่าสมบูรณ์ด้วยพระเวทย์และรัตนคุณดังต่อไปนี้

    ครั้งที่ 1
    - ประเดิมฤกษ์ในวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 พ.ย. 2537 โดยการอธิษฐานจิตเดี่ยวบนมือ (วางบนตัก) โดยหลวงปู่จาม วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร (13.49 น.)

    ครั้งที่ 2
    - พระอาจารย์หนูอินทร์ กิตติสาโร วัดพุทธมงคล จ.กาฬสินธุ์ ปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2537 (12.19 น.)

    ครั้งที่ 3
    - หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ อธิษฐานจิตเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2537 (14.49 น.)

    ครั้งที่ 4
    - หลวงปู่ธรรมรังษี วัดเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ ปลุกเสกเดี่ยววันที่ 7 ธ.ค. 2537 (12.09 น.)

    ครั้ง ที่ 5
    - หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ ปลุกเสกเดี่ยวเป็นวาระที่ 2 ในวันที่ 7 ธ.ค. 2537 (14.49 น. เวลาตรงกันกับครั้งแรกโดยบังเอิญ)

    ครั้งที่ 6
    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ปลุกเสกตลอดคืนวันที่ 10 ธ.ค. 2537 พร้อมกับพระมหาฤาษีรุ่น 8

    ครั้ง ที่ 7
    - หลวงพ่ออุตตมะ อุตตโม วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี ปลุกเสกเดี่ยวพร้อมพระมหาฤาษีรุ่น 8 ในคืนวันที่ 29 ธ.ค. 2537 (เวลา 22.18 น. รวม 45 นาที)

    ครั้งที่ 8
    - หลวงพ่อคำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี อธิษฐานจิตเดี่ยวในวันที่ 14 ม.ค. 2538 (10.10 น.)

    ครั้งที่ 9
    - หลวงพ่อบุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี อธิษฐานจิตเดี่ยว วันที่ 14 ม.ค. 2538 (11.15 น.)

    ครั้งที่ 10
    -หลวงพ่อเสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี อธิษฐานจิตเดี่ยว วันที่ 14 ม.ค. 2538 (13.32น.)

    ครั้งที่ 11
    - หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี อธิษฐานจิตเดี่ยว วันที่ 14 ม.ค. 2538 (17.19 น.)

    ครั้งที่ 12
    - หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ ปลุกเสกเดี่ยวในวันที่ 1 ก.พ. 2538 เป็นมหาพิธีพุทธาภิเษกวัดโนนใหญ่ จ.อุบลราชธานี (21.09 น.)

    ครั้ง ที่ 13
    - หลวงพ่อฤทธิ์ รัตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ ปลุกเสกเดี่ยว วันที่ 9 ก.พ. 2538 เวลาตรงกันกับหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ทั้ง 2 วาระ คือ 14.49 น. โดยบังเอิญ

    ครั้งที่ 14
    - นำเข้ามหาพิธีพุทธาภิเษกที่ภูปอ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีหลวงปู่พรหมา เขมจาโร กับหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เป็นองค์หลักตลอด ในวันที่ 18 ม.ค. 2538 (พระอาจารย์หนูอินทร์ กิตติสาโร เป็นประธานพิธี)



    ประวัติโดยสังเขปหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร
    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 12 ปี อยู่กับสมเด็จลุนที่เวินไซ นครจำปาสัก ประเทศลาวเป็นเวลา 6 ปี สมเด็จลุนก็มรณภาพ จากนั้นหลวงปู่พรหมมา ก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นคณะพระธุดงค์ก็แยกย้ายกันไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนาหาวิเวกกันต่อไป และได้แสวงหาความวิเวกปฎิบัติธรรมในสถานที่สงบทั้ง ลาว เขมร และไทย ชอบช่วยเหลือชาวชนบทที่แร้นแค้นตามป่าเขาลำเนาไพร มีความเมตตากรุณาต่อมวลมนุษยชาติที่ด้อยโอกาสเพื่อนำความรุ่งเรืองไปให้

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร นามเดิม แก้ว เป็นบุตรของพ่อแก้ว อ่อนจันทึก กับ แม่สีดา อ่อนจันทึก เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2440 ที่บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี

    ในปี พ.ศ. 2452 อายุได้ 11 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่กับหลวงปู่สมเด็จลุน เป็นลูกศิษย์หลวงปู่สมเด็จลุน ศึกษาวิชาอาคมต่างๆอยู่ 6 พรรษาเมื่อปี 2458 หลวงปู่สมเด็จลนถึงแก่มรณภาพหลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลเก็บอัฐิหลวงปู่สมเด็จลุนเรียบร้อยแล้วได้ออกเดินทางไปยังจ.สกลนคร

    พ.ศ. 2460 อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่พระบาโพนสัน อ.ท่าพระบาท บริคำไชย ประเทศลาว และได้สร้างวัดอยู่ที่นั่น

    พ.ศ. 2461 ไปสร้างวัดป่า สอนวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่บ้านหินบักเปงร่วมสำนักเดียวกันกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์วิโจน์ รันโนบล และพ่อแม่ศรีทัศ ท่าอุเทน หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์ไปประเทศลาว ไปธุดงค์ตามป่าตามภูเขาและพำนักอยู่ที่ภูเขาควาย ได้ศึกษาศาสตร์และศิลป์ กับปู่ฤาษีอาจารย์ใหญ่ที่นั่น เป็นเวลา 45 พรรษา จึงได้ออกวิเวกรุกขมูลเพียงลำพังไปจำพรรษาอยู่ที่ภูเห็ดละโงก ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นเรียกว่า สามเหลี่ยมนกแขก จำพรรษาอยู่ที่นั่นประมาณ 9 พรรษา ก็ออกธุดงค์ไปตามเขตชายแดนประเทศไทย-ลาว เข้าไปจนถึงประเทศพม่า ไปจำพรรษาอยู่ภูเขาพนมฉัฐ(สามเหลี่ยมทองคำ) เป็นเวลา 3 พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา และประเทศอินเดีย

    พ.ศ. 2518 ได้มาปักกลดชั่วคราวอยู่ที่วัดบุปผาวัลย์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้สร้างเหรียญรุ่นแรก ชื่อเหรียญ สำเร็จพรหมมา

    พ.ศ. 2519 ได้เดินทางจาก อ.โขงเจยมไปตั้งสำนักสงฆ์อยู่ที่เวินเพาะ ปากห้วยไร่ บ้านสำโรง ได้ออกโปรดสัตว์แผ่เมตตาให้แก่พวกลาวอพยพที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

    พ.ศ. 2526 เดินทางออกจากเวินเพาะ ปากห้วยไร่ ออกธุดงค์ไปปักกลดที่บ้านม่วง สร้างโบสถ์

    พ.ศ.2529 เมื่อช่วยสร้างโบสถ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ออกวิเวกรุกขมูลไปอยู่วัดถ้ำแสงธรมพรหมมาวาส บ้านแก้งปลาปก อ.ปากชม จ.เลย

    พ.ศ. 2531 ออกเดินทางจาก จ.เลย มาจำพรรษาที่บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้สร้างวัดถ้ำสวนหินผานางคอย และบำเพ็ญธรรมอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยกุศลแห่งธรรมแผ่ไพศาลไปทั่ว มีพุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถือและศรัทธาจนมีศิษยานุศิษย์มากมาย เป็นมี่รู้จักไปทั่วประเทศ

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เดินธุดงควัตรมาอยู่ถ้ำสวนหินภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เมื่อต้นปี2531 หลวงปู่บอกว่าเป็นคืนเดือนหงายคืนพระจันทร์เต็มดวง คืนวันนั้น สัตว์ป่านานาชนิดออกวิ่งขวักไขว่ประหนึ่งว่า “เจ้าที่ต้อนรบหรือขับไส” เพราะชาวบ้านบอกว่าเจ้าที่ของเขาลูกนี้แรงมาก ไม่มีพระธุดงค์รูปใดหรือใครมาอยู่ได้ แต่หลวงปู่บอกว่าเขาออกมาแสดงความชื่นชมยินดี ท่านยังนั่งสมาธิพบว่า เจ้าที่ อาราธนา “ให้พักที่เขาลูกนี้เถิด ท่านต้องการอะไร ท่านจะได้ พวกเขาจะจัดหามาถวาย” จากนั้นหลวงปู่ก็ออกบิณฑบาต แผ่ส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง และได้นำความผาสุกมาสู่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงมีความรมเยนเป็นสุขกว่าแต่ก่อน แม้แต่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเสด็จเพื่อนมัสการหลวงปู่พรหมมาเขมจาโร มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในขณะนั้นหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มีสุขภาแข็งแรง ปฎิบัติธรรมเป็นนิจ โปรดญาติโยมสม่ำเสมอ และช่วยดูแลชาวบ้านดงนาและหมู่บ้านใกล้เคียง

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำสวนหินแก้ว ( ผานางคอย ) ภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจเมื่อเวลา 22 นาฬิกา 11 นาที 31 วินาที ของวันที่ 23 ส.ค.2545 สิริอายุ105 ปี โดยมรณภาพ ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย ปัจจุบัน สรีะร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย บรรจุไว้ในโลงแก้วประดับมุก ประดิษฐานที่ พระธาตุเจดีย์ อนุสรณ์สถานหลวงปู่พรหมมา ณ วัดสวนหินผานางคอย

    หลวงปู่พรหมมา เป็นพระอริยสงฆ์ที่พึ่งของชาวไทยและชาวลาวที่แท้จริง มีชื่อเสียงขจรขจายโดยมิต้องมีประชาสัมพันธ์ใดๆ วัตถุมงคลทุกรูปแบบที่สร้างแจกจ่ายแก่ศิษย์และผู้ใกล้ชิดสร้างปาฏิหาริย์มากมาย ส่วนมากที่สร้างมักเป็นรูปฤๅษี เพราะหลวงปู่ศรัทธาฤๅษีเป็นอย่างมาก และฤาษีที่สร้างนั้นมักจะเป็นเนื้อว่าน

    ประสบการณ์ ของพระฤาษีของท่าน
    เคยลงข่าวหน้า 1 ไทยรัฐ โดย ส.จ.ชื่อดังโดนถล่มด้วยอาวุธสงครามระยะเผาขนแต่กระสุนไม่ถูกตัวเลยสักนัด รอดตายปาฏิหารย์ และตำรวจที่ไปช่วยงานที่วัด ลป.แจกฤาษีให้คนละองค์เลยนำไปลองยิงใกล้วัดๆ กระสุนด้าน ยิงไม่ออกและบางคนก็มีโชคมีลาภเข้ามาเสมอ ๆ ครับ คุณอำพล เจน ผู้เขียนประวัติและพระเครื่องพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) ที่ได้รับความนิยมและหมดไปจากแผงหนังสือเมื่อเร็ว ๆ นี้ เคยติดตามหลวงพ่อชาตั้งแต่อายุ 12 – 13 ขวบ ได้ยินกิตติศัพท์พระภิกษุรูปหนึ่ง จำพรรษาอยู่บนภูเขาเหนือหมู่บ้านดงนา ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี จึงดั้นด้นไปหาและเกิดความประทับใจในวัตรปฏิบัติและอภิญญาของท่าน จึงได้มาเล่าให้อาจารย์เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) ศิษย์ฆราวาสผู้เคยติดตามรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และนายชินพร สุขสถิต ศิษย์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผู้สร้างพระเครื่องหลวงปู่ทิมชุดชินบัณชร จนมีชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อชวนบุคคลทั้งสองไปสัมผัสหลวงปู่พรหมา

    คุณชินพร กล่าวว่า "เมื่อผมได้ยินอำพล บอกว่าหลวงปู่มีอายุ 93 ปี ฟันยังอยู่ครบทุกซี่ ไม่มีหักหรือผุกร่อน ซ้ำหน้าตาก็ดูหนุ่มกว่าอายุจริงหลายปี ดูแล้วคล้ายมีอายุราว ๆ 60 กว่าก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อ จนงานปลุกเสกพระที่วัดบวรนิเวศเมื่อเร็วๆนี้ พวกเราได้เอาภาพถ่ายหลวงปู่พรหมาให้หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ดู ท่านเห็นภาพถ่ายก็บอกว่าจำได้ ไม่พบกันมานานกว่า 40 ปีแล้ว รู้สึกคิดถึงกันอยู่ อยากจะได้พบ ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกันก็ตั้งแต่สมัยยังมีแรงธุดงค์ไหวอยู่ในเมืองลาว หลวงปู่คำพันธ์ยังบอกอีกว่าหลวงปู่พรหมามีอายุเลยท่านไปหลายปี และท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางธุดงควัตร มีความรู้ในการเดินป่า สามารถให้ความรู้แก่พระเณรได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันหลวงปู่คำพันธ์อายุ 78 ปี จึงทำให้เชื่อได้ว่าหลวงปู่พรหมามีอายุ 93 ปีจริง ๆ"

    สภาพสวยแบบผิวหิ้ง พิมพ์คมชัดลึกมีกดไม่ติดบ้างเล็กๆน้อย " ของหลักๆที่ท่านดำริสร้างด้วยตัวท่านเองน้อยรุ่นมาก เพราะส่วนใหญ่ศิษย์สร้างถวายแทบทั้งสิ้น " พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย รุ่นมาตรฐานเล่นหาเป็นสากล ประสบการณ์มากมาย แบ่งให้บูชา 444 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2020
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,231
    ค่าพลัง:
    +14,334
    1677.สมปรารถนากันนิวเคลียร์(G) เหรียญพระพิฆเนศร์
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระอรหันต์เจ้าผู้สำเร็จวิชารัตนจักร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6Dsc.jpg
    เหรียญพระพิฆเนศร์ เทพแห่งความสำเร็จ หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.อยุธยา เนื้อทองทิพย์ ตอกโค้ดกำกับ จำนวนการสร้าง 233 เหรียญ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 โดยคณะชมรมศิษย์เก่าดนตรีไทย ร่วมกับทางคณะศิษย์ขอร่วมสร้างไว้เพื่อบูชากันในกลุ่มลูกศิษย์ทางชมรม จึงมีจำนวนสร้างไม่มากนัก

    จำนวนการสร้าง
    - เหรียญเนื้อทองคำ 9 เหรียญ
    - เหรียญเงินลงยา 159 เหรียญ โดยแบ่งออกมีทั้งหมด 3 สี คือ ลงยาสีเขียว 39 เหรียญ, ลงยาสีน้ำเงิน 50 เหรียญ, ลงยาสีแดง 70 เหรียญ
    - เหรียญเนื้อทองแดงเนื้อทองฝาบาตรและเนื้อทองทิพย์สร้างรวม 699 เหรียญ ( เนื้อละ 233 เหรียญเท่านั้น )


    พุทธคุณ
    - วัตถุมงคลที่หลวงปู่ชื้นอธิษฐานจิต ท่านประกาศไว้ว่า สามารถป้องกันได้ถึงจรวดปรมณู และรังสี และเปี่ยมด้วยพุทธคุณในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และเจริญก้าวหน้า

    คำอาราธนาพระเครื่อง
    ให้อาราธนาว่าดังนี้ ข้าพเจ้าขอพระบารมีคุณ
    พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่ง......... หรือ
    พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง
    เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ


    ให้ท่านอาราธนาทุกเช้าค่ำแล้วท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาตามที่ท่านอธิษฐาน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ชื้น พุทธสโร
    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร มีนามเดิมว่า "ชื้น" เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 เป็นบุตรของนายจัน และนางหงิม นามสกุล “ยอดฉิม” เป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยครอบครัวได้ประกอบอาชีพด้านกสิกรรม เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปี จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ แล้วเบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอย ซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้

    ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้น จึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯ พร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สาย ได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไป ต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน จึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม ทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม

    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทอง มีญาติโยมขึ้นกันมากมาย ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้น มารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ “พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว” พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น จึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสน จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้น ชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา“รัตนจักร” พร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปราม หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ จะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่า การตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้น ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลาย ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน หลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ

    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรม ต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิด หลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546

    เล่นแร่แปรธาตุ
    ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

    พระธุดงค์มาสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้น
    ต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

    อาจารย์ต้องการศิษย์….ศิษย์ต้องการอาจารย์
    พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์หลวงพ่อชื้น จึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้น ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

    ความสำเร็จ
    จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถาม พระธุดงค์ พี่เลี้ยงว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว” คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

    พระอาจารย์มรณภาพ
    หลังจากวันนั้นแล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นี้ ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุดหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

    - หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

    - หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น

    - หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

    - ผมเคยถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ (เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้) ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!

    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2020
  20. Peterbn

    Peterbn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +295
    จอง 1676, 1677
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...