เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

วันนี้ ฝันร้ายอีกแล้วหละคับ เฮ่อ น่ากลุ่มใจเสียจริงๆ ในความฝัน ผมฝันว่า
ผมกับเพื่อนที่ไม่รู้จักถูกผู้ชายคนหนึ่งตามทำร้าย พวกเรา2 คน ต้องหนีหัวซุกหัวซุนชายคนนั้นมีมีดแหลมคมในมือ และพยายาวิ้งไล่แทงเรา ผมจำต้องหนี และเมื่อมาถึงทางตันไม่มีทางให้วิ้งแล้วผมกับเพื่อนคนนั้นต้องหันกลับไปเพื่อที่จะสู้กับชายคนนั้นการต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดและแล้วเพื่อนผมก็แย่งมีดจากชายคนนั้นได้ เขากหันมาทางผมและพุ้งเข้ามาทำร้ายผมแทน ผมต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิตและแล้วเพื่อนอีกคนเอาเชือกมาจากไหนไม่รู้รัดเข้าที่คอชายคน นั้น ส่วนผมหยิบมีดได้ยืนงงอยู่ว่าจะแทงดีหมัย แต่เพื่อนก็ได้รัดคอชายคนนั้นจนสิ้นใจไปแล้วผมบอกกับเพื่อนว่า มันยังไม่ตายเราต้องแทงมันอีกนะ
และภาพก้เปลี่ยนมาอยู่ที่ป่าช้าที่ไหนสักแห่งมีนคมากมายกำลลังทำพิธีฝังศพอยู่ ผมก็ยืนอยู่ที่นั้นด้วยในหลุมศพนั้นเป็นศพผู้หญิง และภาพก้เปลี่ยนมาอีกตอนนี้ผมก็มายืนที่ริมน้ำกำลังก้มลงล้างมืออยุ่จู่ๆก็มองเห็นเลือดเต็มขาของตัวเองตกใจมากเอามือลูบเท่าไหร่ก็ออกไม่หมดเลือดนี้แดงเต็มมือเลย ตรงที่แผลมีเลือดออกนั้นมันมีปลิงตัวใหญ่จับอยู่ด้วยผมตกใจมากจนสะดุ้งตื้นขึ้นมา และโมโหตัวเองว่าทำไม่ต้องฝันร้ายอีกแล้วที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ ผมเสียใจที่ได้ร่วมกันกับเพื่อนฆ่าชายคนนั้น นี้มันไม่ใช้ความฝันครั้งแรกของผมกับการได้ฝันว่าได้ฆ่าคน แต่ฝันบ่อยมาก กลุ่มใจจริงๆเลย

 

เพลงวอลท์นาวี เพลงที่ผมโปรดปรานมากที่สุดเพลงหนึ่ง
คงมีเวลาและโอกาสได้ฟังคุณจินตวดี สีไวโอลิน ให้ฟังนะครับ
จะชวนเพื่อนร่วมห้องเรียนไปฟังกันให้หมดทุกคนเลยครับ

 

จำฝันไม่ได้ จำได้แต่ฝันร้าย

ทำอย่างไรจึงจะจะจำความฝันได้
ทำอย่างไรกับฝันร้าย

วันนี้พี่นักเขียนขอถือโอกาสแนะนำคุณลุงชาลีและคุณจีนทาร่อนเกี่ยวกับ ปัญหาจำความฝันไม่ได้ และ ปัญหาฝันร้าย ซึ่งหลายๆท่านที่มีประสบการณ์คล้ายคุณลุงชาลีคือ จำความฝันไม่ได้ หรือฝันร้ายเช่นคุณจีนทาร่อน จะได้ลองนำไปพิจารณา ตรวจสอบและทดลองด้วยตนเอง

ทำอย่างไรจึงจะจะจำความฝันได้
ก่อนจะล้มตัวลงนอน ให้ฝึกนั่งสมาธิสัก 10-15 นาทีหรือนานกว่านั้นหากยังไม่ง่วง ด้วยการจดจ่อ ณ ศูนย์กลางกาย จุดใดจุดหนึ่ง เช่น ณ หว่างคิ้ว กลางอก ฯลฯ ให้หลับตาลงแล้วกำหนดจิต ณ จุดใดจุดหนึ่ง หากใครเคยชินกับการสวดมนต์ แทนที่จะจดจ่อกับลมหายใจ ให้จดจ่อกับการสวดมนต์ จากนั้นอยู่ในความเงียบ หลับตากำหนดจิตไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอตั้งจิตที่จะจดจำความฝัน บอกตนเองซ้ำๆราวกับสะกดจิตตนเองว่าจะจดจำให้ได้ จนกว่าจะรู้สึกง่วง ก็ให้ล้มตัวลงนอน กำหนดจิตอีกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ขอเผชิญกับความฝันที่ดี เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณ ขอรู้เห็นและเข้าใจ และขอจดจำประสบการณ์เหล่านั้น

เมื่อเราหลับและฝัน จิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่โลกของความฝัน สู่มิติต่างๆ หากปราศจากการตั้งจิต จิตวิญญาณจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่ออย่างเป็นธรรมชาติเสมอๆ โดยพุ่งไปสู่ทิศทางต่างๆพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันด้วยความเร็วกว่าแสง หากปราศจาการตั้งจิต เราจะไม่สามารถจดจ่อกับประสบการณ์ใดประสบการณ์หนึ่ง หรือหลายประสบการณ์ได้อย่างคมชัด ทำให้จดจำประสบการณ์มากมายไม่ได้ การตั้งจิตจดจ่อ ขอจำ เปรียบเสมือนการตั้งเข็มว่าจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปในทิศทางใดที่จำเพาะเจาะจง ทำให้การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ มีเป้าหมาย แทนที่จะเป็นไปอย่างสะเปะสะปะหรือพุ่งออกไปทุกทิศทางพร้อมกันหมด

พี่นักเขียนเคยบอกพวกเราว่า การตั้งจิตให้จดจำความฝันได้ก็ดี หรือการตั้งจิตให้ฝันดี เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ต่างไปจากการตัั้งใจที่จะจำทิศทางเวลาเรานั่งรถหรือเดินทางไกล หากเรามัวเหม่อลอย รถเลี้ยวไปสองสามครั้งเราก็ไม่รู้เส้นทางเสียแล้ว หากวันหน้าจะต้องขับรถเองหรือบอกทางให้ผู้ใดก็ทำไม่ได้

การตั้งจิตของจดจำความฝัน หรือตั้งจิตขอฝันดี ตั้งจิตขอเรียนรู้ เป็นการวางจิต หรือกำหนดให้สติสัมปชัญญะของเราทำหน้าที่คล้ายคลึงกับการตั้งสติเพื่อจะจดจำเส้นทางเวลานั่งรถ เพราะเป็นการกำหนดให้ตนเองระแวดระวังโดยไม่ขาดตอน แม้เราจะนอนหลับ แต่สติสัมปชัญญะของเราไม่ได้หยุดทำงาน มันสามารถระแวดระวัง รู้เห็น และตื่นตัวต่อไปได้โดยไม่ขาดตอน หากเรากำหนดให้มันเป็นเช่นนั้น-มันย่อมจะเป็นไปตามกำหนดไม่ต่างจากยามตื่น และเราก็กำหนดได้ไม่ต่างไปจากที่เรากำหนดเสมอๆ หรือลืมกำหนดเสมอๆในยามตื่น


ทำอย่างไรกับฝันร้าย
ผู้ที่ฝันร้ายบ่อยๆ ไม่ว่าความฝันจะดูเสมือนจริงเพียงใด หากสิ่งที่ปรากฏในความฝันไม่ได้เหมือนหรือคล้องจองกับประสบการณ์ยามตื่น ทุกสิ่งที่ปรากฏในความฝันเป็นเพียงสัญญลักษณ์ทดแทนภาวะจิตของเราเสมอ

ก่อนอื่นพี่นักเขียนขอแนะนำให้ผู้ที่ฝันร้าย ศึกษาสัญญลักษณ์ที่ปรากฏในความฝันเหล่านั้น และค้นให้พบว่า มันทดแทนอะไรในภาวะจิตของตนเอง เพราะทุกสิ่งที่ปรากฏในความฝัน เป็นสัญญลักษณ์ทดแทนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เรามีต่อตนเองเสมอ ซึ่งครอบคลุมถึงทัศนคติและมุมมอง ที่เรามีต่อประสบการณ์ชีวิตและต่อผู้อื่นด้วย

เลือด มีความหมายอย่างไรต่อคุณจีนทาร่อน
รู้สึกอย่างไรกับเลือด? รังเกียจการเปื้อนเลือด? กลัว? รู้สึกผิด? หรือ มีความรู้สึกในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ตนเองคิดว่า ควรจะรู้สึก?

บุคคลที่ถูกฆ่า มีบุคลิกภาพ หรือ คุณสมบัติอย่างไร?
คุณจีนทาร่อนรู้สึกอย่างไรกับบุคลิกภาพและคุณสมบัติเหล่านั้น?
เพื่อนที่ร่วมประสบการณ์ในความฝันมีบุคลิกภาพอย่างไร? เป็นบุคคลตัวตนจริงที่เรารู้จักยามตื่นหรือไม่?

แม้จะมีตัวตนจริง แต่บุคคลตัวตนทั้งหลายที่ปรากฏในความฝันก็เป็นสัญญลักษณ์ทดแทนภาวะจิตของเราไม่น้อยไปกว่าสิ่งอื่นๆที่ปรากฏในความฝัน สิ่งสำคัญของบุคคลทั้งหลายที่ปรากฏในความฝันคือ บุคลิกภาพของเขา เรารู้จักบุคคลต่างๆในชีวิตจริง หรือความฝัน และจดจำการเป็นตัวตนเรา-เขาได้ จากบุคลิกภาพจำเพาะของบุคคลตัวตนนั้นๆ

ดังนั้นให้สังเกตว่า บุคลิกภาพของผู้ที่ปรากฏในความฝันนั้น มีอะไรเป็นเอกลักษณ์จำเพาะ เอกลักษณ์จำเพาะของบุคลิกภาพส่วนนั้น คือ บุคลิกภาพจำเพาะที่ซ่อนเร้นอยู่ในภาวะจิตของเรา ไม่ว่าบุคลิกภาพนั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อเขาปรากฏขึ้นในความฝัน มันจะทำให้เราเรียนรู้ว่า บุคลิกภาพดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของภาวะจิตของเรา ซึ่งเราอาจไม่ได้ตระหนักเลยว่า เรามีบุคลิกภาพและคุณสมบัติเช่นนั้นซ่อนเร้นอยู่ ความฝันแสดงให้เราเห็นได้ว่า เราสนองตอบหรือมีทัศนคดิต่อบุคลิกภาพและคุณสมบัติส่วนนั้นๆของตนเองอย่างไร มันอาจเป็นบุคลิกภาพหรือคุณสมบัติส่วนที่จิตวิญญาณหรือตัวตนภายในไม่พึงปรารถนาเพราะขัดกับความปรารถนาของจิตวิญญาณ

เราอาจมีความปรารถนาในยามตื่นที่อยากจะมี อยากจะได้ อยากจะเป็น บุคลิกภาพอื่นๆบางส่วนที่เรายังไม่ได้มี ไม่ได้ ไม่เป็น แต่จิตวิญญาณของเราก็ไม่ได้เลือกที่จะเป็นเช่นนั้น แต่เลือกที่จะเผชิญกับความท้าทายและเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ในทิศทางอื่นๆ หากความปรารถนายามตื่นของเรา ซึ่งเป็นความปรารถนาของตัวตนภายนอก ของตัวตนที่จดจ่อกับโลกภายนอก ขัดแย้งกับทางเลือกของจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นความปรารถนาของตัวตนภายใน ของตัวตนที่จดจ่อกับโลกภายใน ความขัดแแย้งดังกล่าวจะปรากฏในความฝันเป็นการฆ่า การทำลาย เพื่อยุดิความขัดแย้งบางอย่างที่ซ่อนเร้นในภาวะจิต หรือจิตสำนึกของตนเอง

ความฝัน มีข้อมูลซับซ้อน หลายชั้น หลายมิติ ข้อมูลหลักของความฝันคือ การแสดงให้เห็นภาวะจิตของตนเองอย่างเปลือยเปล่าที่สุด หรือกล่าวได้ว่า แสดงให้เห็นภาวะที่แท้จริง ที่ปราศจากการเสแสร้ง ปราศจากการครอบงำบิดเบือนด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆ แต่เราต้องตระหนักว่า การรู้เห็นภาวะจิตอันแท้จริงของตนเอง ไม่ได้หมายถึงการรู้เห็นส่วนที่เลวร้ายที่สุด เพราะหากเราเชื่อเช่นนั้น นอกจากเราจะไม่อยากจดจำความฝันแล้ว เรายังจะเผชิญกับฝันร้ายเสมอๆ เพราะโลกแห่งความฝันเป็นโลกที่ปราศจากการโกหกหลอกลวง เป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่ซื่อสัตย์ต่อตนเองที่สุด

จิตวิญญาณไม่ได้มีธรรมชาติอันเลวร้้าย แต่จิตวิญญาณแสวงหาความท้าทายในรูปแบบต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำแบบใคร
ความฝันปรากฏให้เรารู้เห็นทางเลือกมากมายที่จิตวิญญาณนำมาตีแผ่ เพื่อพิจารณา แก้ไข ปรับเปลี่ยน เลือกสรร เสมิือนการสร้างสรรค์และแก้ไขแบบพิมพ์เขียว ก่อนที่จะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงยามตื่น

การฆ่า เป็นสัญญลักษณ์ของอะไรสำหรับคุณจีนทาร่อน?
มันหมายถึงจุดจบ? การทำลาย? การยุติบางสิ่งบางอย่างที่ไม่พึงปรารถนา?
หรือการสิ้นสุดของคุณสมบัติที่ไม่พึงปรารถนาบางอย่าง ?

เมื่อคุณจีนทาร่อน เผชิญกับการไล่ล่าในความฝัน
ต้องถามตนเองว่า บุคลิกภาพที่ไล่ล่าเราในความฝันนั้น มีอะไรที่น่าสะพึงกลัว? มีพลังอำนาจมากกว่า? มีกำลังมากกว่า? มีความรู้มากกว่า? หรือมีอะไรที่ทำให้เรากลัว และเหตุใดเราจึงต้องกลัว? เหตุใดจึงเลือกการฆ่าเป็นทางออก เพราะเรามีทางออกมากมายกว่านั้น แม้เขาจะตายแล้ว คุณจีนทาร่อนยังคิดว่าน่าจะต้องให้แน่ใจว่าเขาตายสนิท อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณจีนทาร่อนกลัวว่า หากมันไม่สิ้นสุด มันไม่ถึงจุดจบ มันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเอง?

ฝันร้าย มักแสดงให้เห็นถึงภาวะจิตส่วนที่เราพยายามจะแก้ไขเสมอๆ หากเราตื่นขึ้นมาด้วยความกลัว และยังไม่พบทางแก้ไขหรือการปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่าง เราควรสำรวจตนเองว่า เรามีความเชื่ออย่างไรต่อตนเองในแง่ลบ เช่น เชื่อในการขาดพลังอำนาจ ขาดความรู้ ขาดคุณสมบัติบางอย่าง เชื่อในการมีสัมพันภาพในแง่ลบหรือความขัดแย้ง ที่ทำให้เรารู้สึกว่า หากต้องเผชิญกับผู้ที่มีพลังอำนาจ มีความรู้ มีคุณสมบัติเหล่านั้น จะทำให้เรารู้สึกว่าตกอยู่ในอันตราย?

การแก้ไขฝันร้ายเริ่มต้นได้ด้วยการหาความหมายที่แท้จริงให้พบ เมื่อพบแล้ว เราจะพบจุดอ่อน ข้อบกพร่อง หรือทัศนคติที่เรามีต่อตนเอง และจะทำให้เราตระหนักได้ว่า เรามีทางเลือกมากมายที่จะแก้ไขตนเอง เช่น แก้ไขด้วยการเพิ่มความรู้ และทักษะ ให้กับตนเอง เพื่อทำให้เราไม่ต้องตกอยู่ในภาวะที่หวาดกลัว และหมิ่นเหม่ต่อการสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่เราหวงแหนยิ่งชีวิต ซึ่งในชีวิตจริงอาจเป็นการหวงแหนตำแหน่ง หน้าที่การงาน หรือแม้แต่เกียรติหรือศักดิ์ศรีของตนเอง หรือแม้แต่เพียงแก้ไขทัศนคดิที่มีต่อตนเองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในชีวิตเลย

ฝันร้ายจะสลายตัวไปได้ต่อเมื่อเราเผชิญกับความเป็นจริง ด้วยการมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองด้วยการค้นให้พบความหมายที่แท้จริงของภาวะจิตที่ปรากฏความฝัน หากมันปรากฏเป็นฝันร้ายซ้ำๆ มันแสดงให้เราเห็นว่า เรายังค้นไม่พบบางสิ่งบางอย่างที่ขัดแย้งระหว่างตัวตนภายในและตัวตนภายนอก

ในกรณีของคุณจีนทาร่อน หากการฆ่าปรากฎในความฝันบ่อยๆ ย่อมเป็นสัญญลักษณ์ที่ตัวตนภายในพยายามแสดงให้เห็นว่า ตัวตนภายนอกจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขด้วยการยุติบางสิ่งบางอย่าง และในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นทางเลือกที่เลวร้ายที่สุด เพื่อให้ตัวตนภายนอกตระหนักได้ว่า ทางเลือกที่ดีกว่านั้นมีมากมาย

ฝันร้าย ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป อย่างน้อยที่สุดคุณจีนทาร่อนก็ได้เรียนรู้จากฝันร้ายว่า ทางเลือกที่ที่ไม่ถูกต้องหรือรุนแรงโดยใช่เหตุ จะยุติบางส่ิงบางอย่างได้ แต่ผลสืบเนื่องที่ได้รับจะทำให้เราต้องเผชิญกับควาวมรู้สึกเช่นใด เมิื่อเผชิญกับภาวะที่ต้องตัดสินใจบางอย่างในยามตื่น ความรู้ดังกล่าวนี้จะผุดขึ้นในจิตสำนึกโดยอัตโนมัติและย่อมทำให้คุณจีนทาร่อนเลือกตัดสินใจในทิศทางที่ดีกว่าเดิม

หากค้นหาความหมายของความฝันไม่พบ ให้ทดลองตั้งจิตก่อนนอนว่า ขอเผชิญกับความฝันร้ายเหล่านั้นอีกครั้ง จากมุมมองของผู้สังเกตการณ์ ที่ได้รู้เห็น และเข้าใจความฝันได้อย่างถ่องแท้ พร้อมกับขอรู้ทางแก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องทั้งหลาย โดยไม่ต้องเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของฝันร้าย(rose)

 

ถ้าตื่นมาแล้วอ่านแบบตาไม่ลาย
พี่นักเขียนจะมาเมืองไทยใช่ไหมคะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นดีใจมาก ๆ เลย
พวกเราในห้องวิทย์นี้คงตั้งหน้าตั้งตารอกันเต็มที่
สงสัยต้องให้พี่meadส่งสัญญาณไปหาพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ในห้องวิทย์ที่หายไปให้รีบกลับมาแล้วสิ
จะตั้งตารอ วันไหน ยังไง เมื่อไหร่ จะแว้บเข้ามาดูนะคะ

 

ธรรมชาติที่ผันแปรไปจากฤดูหนาวอันแสนนาน พร้อมกับต้นไม้ที่ไร้ใบมายาวนานหลายเดือน ทำให้พี่นักเขียนตระหนักเสมอๆว่า ธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้เสมอ เมื่อ Spring มาถึง ต้นไม้ที่ไร้ใบมายาวนานจนดูเสมือนจะไร้ชีวิต ก็กลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ความสุขสดชื่น งดงาม ที่ดูเสมือนจะไม่มีวันมาถึงเมื่อเราอยู่ท่ามกลางฤดูหนาว

ภาพของธรรมชาติน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เราทั้งหลายตระหนักได้ว่า สิ่งที่ดูเสมือนจะเลวร้าย ไร้อนาคต มืดมิด หรือแห้งแล้ง เช่น ต้นไม้ไร้ใบในฤดูหนาว ในที่สุดก็ย่อมจะเริ่มต้นไปสู่วงจรใหม่ ไม่มีสิ่งใดยืนยาวถาวร แต่ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน ก็ไม่ได้นำเราไปสู่จดจบที่เศร้าหมอง ทุกสิ่งล้วนผันแปร หมุนเวียนเปลี่ยนไป เพื่อให้จิตวิญญาณได้ชื่นชมกับความสุขสมหวัง ความงดงาม ความสมบูรณ์พูนสุข และตระหนักได้ว่า มันสุข มันงดงาม และสมบูรณ์พูนสุขเพียงใด

หากเราไม่เคยเผชิญกับความทุกข์ยาก ความลำบากยากไร้ หรืออุปสรรคใดๆในชีวิต เราก็คงจะชื่นชมกับความสุข ความงดงาม ความสมบูรณ์พูนสุข ไม่ได้ลุ่มลึก เช่นเดียวกับที่เราคงไม่เห็นความงามของ Spring ได้ลุ่มลึกเท่าที่เป็นอยู่นี้ หากปราศจากฤดูหนาวกันแสนนาน(rose)



ขอบคุณมากค่ะ

 

ธรรมชาติในบ้านพี่นักเขียน งดงามตามจิตใจของเจ้าของบ้านเลยนะครับ
น่าจะหมายถึงสิ่งแวดล้อมตอบรับสภาวะจิตวิญญาณผู้อยู่ เห็นแล้วชื่นใจจังครับ (ต้องsaveไว้)

 

ใช่อ่ะครับ ต้องไปตามกลับมาให้หมดเลย (eek)

 

นักเรียนห้องวิทย์ ทยอยมารายงานตัวแล้วครับ

 

คิดถึงที่คุณ ซิบเปอร์เคยโพสต์เอาไว้ เลยเอามาให้ดูอีกครั้ง เพราะสามารถตอบข้างบนได้เลย

ขอบคุณพี่นักเขียนที่นำเอาข้อความของอ.โนวา มาโพสขยายความให้อ่านกัน จากคลิปนั้นพอดูถึงตอนท้าย อดคิดไม่ได้ว่าจากจุดในมิติที่ 10 มันก็จะไปเชื่อมต่อกับจุดอื่น แล้วก็ขยายตัวไปมิติ 11 12 13 14 ไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จักหมดสิ้นหรือเปล่าเนี่ย

และก็ไปเจอที่มีคนอธิบายคลิปอันนั้นเป็นภาษาไทย เลยก็อปมาให้อ่านกันเผื่อคนดูแล้วไม่รู้เรื่อง

<HR>
เค้าเปรียบง่ายๆ มิติที่ 1-2-3 กว้าง ยาว สูง อันนี้ทุกคนรู้ดีแล้ว
มิติที่ 4 คือเวลา หมายถึง ณ ตำแหน่งเดียวกัน แต่คนละเวลา ก็เกิดความแตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้ของเรา ตอนนี้เรานั่งอยู่ แต่ผ่านไปสิบนาที เราลุกไปแล้ว เป็นต้น มิตินี้บางคนคงเข้าใจ

มิติที่ 5 เขาบอกว่ามันคือ Chance หรือทางแยก หมายถึงในมิติที่ 4 ที่คนละเวลา ในตำแหน่งเดิม ถือว่าเป็นคนละวัตถุกัน มิติที่ 5 นี่ก็คือ โอกาสที่จะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นในตำแหน่งนั้น ซึ่งขึั้นอยู่กับปัจจัยต่างๆรอบกาย

มิติที่ 6 เขาบอกว่ามันคือมิติที่คล้ายๆกับมิติที่ 5 แต่ต่างไปแบบสุดขั้วเลย เขาเปรียบเทียบกับคนเราที่ตอนเป้นเด็ก แล้วโตขึ้นมีอาชีพเป็นกรรมกร ถ้าเกิดกรรมกรคนนั้นย้อนเวลาไปหาตัวเองวัยเด็กได้ รู้สึกไม่อยากเป็นกรรมกร เขาก็บอกให้เด็กคนนั้น(คือตัวเองในอดีต) ตั้งใจเรียน แต่ทีนี้ไม่ว่าตั้งใจเรียนยังไง ก็ยังไม่หลุดพ้นเส้นทางกรรมกรอยู่ดี กรณีนี้ มิติที่ 6 คืออนาคตของเด็กที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง อาจได้เป็นนักร้อง ทีนี้วิธีจะไปถึงมิตินั้นก็มีสองวิธีคือ
1.เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของเด็ก ให้เขาสามารถเติบโตขึ้นเป้นนักร้องได้ (เช่นอาจพาไปเข้าเรียนดนตรี หรือให้เงินเด็กคนนั้นล้านนึง ฯลฯ)
2.ทางลัดกว่า คือแทนที่จะย้อนเวลาไปเปลี่ยนตัวเองในอดีต ก็ข้ามมิติไปยังอนาคตที่ตัวเองจะได้เป้นนักร้องแล้วเลย

มิติที่ 7 เขาต่อยอดมาจากมิติที่ 6 นั่นคือ อนาคตที่ต่างไปโดยสิ้นเชิงนั้นไม่ได้มีแค่สิ่งเดียว แต่มีอยู่หลากหลาย เส้นทางหลากหลายของมิติที่ 6 นี่แหละคือมิติที่ 7

มิติที่ 8 ก็ต่อยอดมาจากมิติที่ 7 คือแทนที่จะมีอยู่หลากหลายเส้นทาง มันกลับมีอยู่นับไม่ถ้วน (เรียกได้ว่าเป้นอนันต์) แตกยอดไปจากจุดเริ่มต้นเดียวกัน ไอ้เจ้ามิติอนาคตนับไม่ถ้วนนั้นรวมอยู่ในวัฒจักรเดียวกัน คือมิติที่ 8 (งงไหม? บอกตามตรงผมก็งงนิดๆเหมือนกัน)

มิติที่ 9 ต่อยอดมาจากมิติที่ 8 อีกที คือ ไอ้เจ้าวัฒจักรนับไม่ถ้วนที่รวมเป็นมิติที่ 8 อันเดียวนั้น มันอาจไปเชื่อมกับวัฒจักรอื่นก็ได้ (คือต่อยอดมาจากมิติที่ 8 แรก กับมิติที่ 8 อันที่สอง) ผมเข้าใจว่ามันคล้ายๆกับ เรามีทางแยกนับไม่ถ้วนอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไร ไอ้ทางแยกนับไม่ถ้วนนั้นมันก็คือ 1 ชุด ซึ่งจะพาเราไปรวมกับทางแยกนับไม่ถ้วนอีกชุดหนึ่ง

มิติที่ 10 คล้ายกับมิติที่ 8 อีกแล้ว คือไอ้วัฒจักรนับไม่ถ้วนที่มาต่อเชื่อมกันนั้น มันไม่ได้มีแค่เส้นเดียว แต่มีนับไม่ถ้วนอีกเหมือนกัน คือเป็นวัฒจักรนับไม่ถ้วนของนับไม่ถ้วนของนับไม่ถ้วน ทั้งหมดล้วนรวมอยู่ในวัฒจักรเดียวกันนั่นคือ มิติที่ 10

ซ่งมิติที่ 10 นี้ เขาเขียนให้รวมเป้นจุดเล็กๆจุดหนึ่ง เหมือนกับตอนเริ่มต้นที่เริ่มจากจุด เส้น ระนาบ ต่อเพิ่มมิติไปเรื่อยๆ เรียกว่ามิติที่เล็กที่สุดก็คือมิติที่ใหญ่ที่สุดนั่นแหละ

นี่คือธรรมขาติของจักรวาล

จากคุณ : CARAGIO - [ 17 มี.ค. 51 23:02:44 ]

ส่วนอันนี้เป็นคลิปอีกอันนึงที่อธิบายเกี่ยวกับ 2 มิติ และ 3 มิติ มีพูดถึงมิติที่ 4 ตอนท้ายๆ โดย Carl Sagan, World famous astronomer and astrophysicist

 

ภาพของธรรมชาติน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เราทั้งหลายตระหนักได้ว่า สิ่งที่ดูเสมือนจะเลวร้าย ไร้อนาคต มืดมิด หรือแห้งแล้ง เช่น ต้นไม้ไร้ใบในฤดูหนาว ในที่สุดก็ย่อมจะเริ่มต้นไปสู่วงจรใหม่ ไม่มีสิ่งใดยืนยาวถาวร แต่ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน ก็ไม่ได้นำเราไปสู่จดจบที่เศร้าหมอง ทุกสิ่งล้วนผันแปร หมุนเวียนเปลี่ยนไป เพื่อให้จิตวิญญาณได้ชื่นชมกับความสุขสมหวัง ความงดงาม ความสมบูรณ์พูนสุข และตระหนักได้ว่า มันสุข มันงดงาม และสมบูรณ์พูนสุขเพียงใด

หากเราไม่เคยเผชิญกับความทุกข์ยาก ความลำบากยากไร้ หรืออุปสรรคใดๆในชีวิต เราก็คงจะชื่นชมกับความสุข ความงดงาม ความสมบูรณ์พูนสุข ไม่ได้ลุ่มลึก เช่นเดียวกับที่เราคงไม่เห็นความงามของ Spring ได้ลุ่มลึกเท่าที่เป็นอยู่นี้ หากปราศจากฤดูหนาวอันแสนนาน(rose)



อ่านแล้วนึกถึงชายหาดแถวบ้านขึ้นมาทันทีครับ

ไม่ว่า แดด จะออก ฟ้าครึ้ม ฝนตก ทะเลก้ยังสวยงาม ชายหาดนี้ไปเดินเล่นตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเบื่อเลยครับ ธรรมชาตินี่ เปลี่ยนแปลงตลอดแล้วก้มีความรักให้เราตลอดเลยครับ


ปล. รักเธอไม่เบื่อเลย.

(สงสัยช่วงนี้ดูละครมากไปหน่อย อิอิอิ)

 

ขอบคุณพี่นักเขียนมากนะคับที่ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ผมไม่เคยคิดถึงแง่นี้เลยคับเวลาตื่นมาผมไม่ได้กังวลอะไรมากหรอกคับเพราะว่าบางครั้งคนที่ผมฆ่าในความฝันนั้นเป็นคนที่ไม่ดี หรือ พวกปีศาจ และ ผมก็มีพลังอำนาจเกินจริงนะครับพูดไปแล้วก็อายไม่ค่อยกล้าเล่าให้ใครฟังกลัวเขาว่าเราไร้สาระนะครับ นอกจากผมจะเหอะเหินเดินอากาศได้ยิ่งกว่าในหนังเสียอีกในความฝันบางครั้งแล้วผมยังมีแม้แต่พลังบังคับสภาพดินฟ้าอากาศได้ เรื่องไร้สาระแบบเด็กๆ ที่ฝันเป็นประจำอยู่เนืองนิตย์พวกนี้ก็เป็นกลไกลทางจิตหรอคับ ! ที่โล่งอกหน่อยก็เพราะว่าถ้าฝันเรื่องพวกนี้ถ้าไม่ช่วยเหลือคนอื่น ก็ กำจัดศัตรู แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฝันว่ามีพลังอำนาจพวกนี้การฆ่าคนผมก็ไม่รู้สึกกลัวกลับกลายเป็นความสะใจและคิดว่ามันสาสม แต่ว่าวันไหนที่ฝันว่าเป็นคนปกติเมื่อไหร่จะรู้สึกกลัวกับการที่ต้องเผช็ญหน้ากับคนที่น่ากลัวหรือไม่ก็สัตว์แปลกๆเช่นงูตัวใหญ่ถ้าไม่ตื่นก่อน ความฝันก็จะเปลี่ยนเรื่องทันที
เรื่องการจดจำความฝันผมยอมรับว่าสามารถจดจำความฝันได้ดีกว่าคนปกติทั่วไปแบบชนิดชัดเจนมากครับ บางครั้งสามารถบอกกับตัวเองและรู้สึกตัวได้ด้วยว่า ตอนนี้กำลังฝันอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้ตื่นนะครับ ความฝันยังดำเนินต่อไป แต่ซับซ้อนไม่เข้าใจนะครับเพราะว่าบาง สถานที่ผมก็ไม่เคยเห็นแต่ในความฝันกลับรู้จักที่นั้นเป็นอย่างดี

 

มาจริงๆ น๊าาาา....


วันนี้ได้เข้ามาอ่านเจอว่าพี่นักเขียนจะมา....พี่นักเขียนจะมาจริงๆ เหรอค๊าาา....
ว๊าววว!!!อยากเจอ อยากเจอ!!!!....จะเฝ้ารออย่างมีความหวังนะคะ..รอ รอ รอ....

แต่ตอนนี้ขอตามอ่านหน้าเก่าๆ ก่อนอ่ะค่ะ เยอะมากๆๆๆๆๆๆ เลย อ่านค้างไว้หน้าไหนก็จำไม่ได้อีกต่างหากแน่ะ เอ๊อ!!!...

 

ต้นไม้อะไรอ่ะ?????น่ารัก น่าชัง ซะไม่มี

ต้นไม้ประหลาด</A">http://video.mthai.com/player.php?id=2M1209377133M0">ต้นไม้ประหลาด กดที่นี่
(ping) (ping) (ping)

 

เมื่อคืนก่อนพอนั่งสมาธิเสร็จตั้งจิตอธิษฐานขอให้จำความฝันได้ดีและตั้งจิตขอเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ รอให้ง่วง ก็ไม่ง่วงตาตื่นซะอย่างนั้น แต่สภาพจิตเป็นสมาธิมาก สักพักเหมือนฝันกลางวันเลย เห็นภาพกระดาษขนาดเอสี่ที่บรรจุไปด้วยข้อมูลของคุณนักเขียนที่เราโหลดจากห้องวิทย์ไว้อ่านเมื่อตอนเช้า ไหลมาอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายแผ่น ที่จำได้เป็นของคุณนักเขียนเพราะ สีสันชองตัวพิมพ์ที่ใช้ และ รูปดอกไม้ที่คุณนักเขียนมักจะใส่ไว้ในตอนจบเสมอ รวมถึงข้อมูลในเว็บไซด์ ไหลมาจนลืมตาแล้วปวดหัวเล็กน้อย เลยคิดว่าเรานีแย่จัง ข้อมูลที่อยู่ในมือตัวเอง อุตส่าห์เซพ และก็พริ้นท์ออกมาแล้ว ยังไม่ทันได้อ่านละเอียดก็ไปขอเรียนในฝันซะแล้ว น่าตำหนิตัวเองซะจริง ๆ หุ หุ อันนี้หัวข้อปัญญากับจิตวิญญาณ น่าจะเหมาะกับเราซะจริง ๆ

 

นักเรียนทุกรุ่นมารายงานตัวกันครับ เห็นหลายคนดีใจกันมาก
เรื่องพี่นักเขียนฯบินมาเมืองไทยน่าจะจะเป็นจริงในไม่ช้าแล้วครับ
มหาวิทยาลัย on line แห่งนี้นับวันสัญญาณถ่ายทอดสดจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ​

วันนี้สบายและโล่งใจมากครับ ปัญหาของกลุ่มที่ทำงานด้วยได้ถูกแก้ไขแล้ว
ด้วยความรักที่ปราศจากเงื่อนไขที่ตัดผ่านทุกๆเส้นทางของทุกๆคนครับ
ขอบคุณพี่นักเขียนที่ส่งคำตอบมาให้ทำให้ตัดสินใจถูกต้องเสมอมาครับ​

วันนี้เรามาพักฟัง Music VDO ชุดพิเศษ
(รับรองว่าหาชมยากที่สุด ใครเป็นใครทายกันดูครับ อิอิ)
พร้อมกับดนตรีที่ Download จากความฝันของพี่นักเขียนกันอีกครั้งคร๊าบ:-​

[vdo]http://palungjit.org/attachments/a.317823/[/vdo]​

Resemble The Moon​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์แรม อ่อนแสงจนดับลับนภา
กายฉันนั้นเป็นเช่นไร ต้องดับลับไป ใยเช่นจันทร์แรม​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์เรื่องรอง สว่างละอองผ่องอำไพ
เหตุใด จันทร์เจ้าจึงศรัทธา หวลสู่ฟ้าสว่างไสว​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์แรม อ่อนแสงจนดับลับนภา
กายฉันนั้นเป็นเช่นไร ต้องดับลับไป ใยเช่นจันทร์แรม​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์เรื่องรอง สว่างละอองผ่องอำไพ
เหตุใด จันทร์เจ้าจึงศรัทธา หวลสู่ฟ้าสว่างไสว​

จันทร์ จันทร์หรือจันทร์จะเตือน ว่าดวงเดือนย่อมอยู่คู่นภา
จิตฉัน นั้นเป็นเหมือนเดือน ไม่ดับลับเลือนคงอยู่คู่เธอ
ไม่ดับลับเลือนคงอยู่คู่เธอ​

ทำนอง เนื้อร้อง เรียบเรียงเสียงประสาน บรรเลงเดี่ยว โดยนักเขียน
พวกเราก็หัดร้องกันเอาไว้นะครับ
วันไหนคุณพี่นักเขียนกลับเมืองไทยจะชวนมาร้องเพลงครับ​

(ping)(ping)(ping)​

 

Good Job!

ยอดเยี่ยมชุบแป้งทอดเลยครับ
ขอบคุณที่ผลิตผลิตวิดีโอเพลงนี้ออกมาแบ่งปันความสุขให้กับทุกๆ คนในห้อง
(หาชมที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น)

ขอบคุณเจ้าของผลงานเพลงด้วยครับ
(y) (y) (y) (y) (y) (y) (y) (y)

 

Music VDO ชุดพิเศษ สุดยอดเยี่ยมกระเทียมดองมากๆครับ
ขอปรบมือให้หัวหน้าmead ให้ดังๆก้องกังวานไปถึงแคนซัส เลยครับ

 

(||)
กรี๊ดดดดดดด!!!
ที่คุณน้านักเขียนจะมาแว้ว ด้วยคนค้า

พี่มี้ดทำมิวสิคได้น่ารักสุดๆ ว่าแต่ห้องนี้มี ไอสไตน์ เป็นนักเรียนด้วยหยอคะ

 

มีครับ..ไอสไตน์ซิปเปอร์ไงล่ะครับ พี่นักเขียนเค้าเคยหยอกเล่น
ลูกเกดไม่โผล่มานานเลยนะครับ อิอิ
ชุดนี้มือใหม่หัดทำครับ..กำลังสะหนุกอยู่เลย !



(ping)+ ขอบคุณคร๊าบ+