พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    509. สุดยอดมวลสาร ธาตุศักดิ์สิทธิ์ พระปิดตาฝังปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่ ปี 2554 ให้บูชา 650 บาท ปิดรายการครับ


    upload_2022-7-17_18-2-57.png

    upload_2022-7-17_18-3-32.png


    พระปิดตามหาลาภฝังปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่ ปี 2554 เข้าพิธีอธิษฐานจิตโดยองค์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ณ วัดศรีมุงเมือง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มหาวิหารไทลื้อปุญญมากโร

    มวลสารพระปิดตา ฝังปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
    1. ปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
    2. ผงพุทธคุณ พระธาตุเจดีย์นพีสีพิศาลมงคล - ผงเบ้าหลอมพระเจ้าเพชรเงินล้าน
    3. ผงธูปพุทธคุณ เสาร์ 5
    4. ผงดอกไม้ บูชาพระเจ้าเพชรเงินล้าน ตั้งแต่ปี2550-2552 หลวงพ่อประสิทธิ์ เสกทุกวาระที่มีการปลุกเสกพระ
    - งานเสกมวลสารพระเจ้าเพชรศรีมุงเมือง รุ่นแรก และหล่อพระเจ้าเพชรเงินล้าน วิสาขะ 2550
    - งานเสกพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และเสกพระเจ้าเพชรเงินล้าน 5 ธ.ค. 2550
    - งานเสกรูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ 16 ม.ค. 2552
    - งานกฐินมหากุศล และเสกประเจ้าเพชรเงินล้าน รุ่นแรก 22 ต.ค. 2552
    - งานเสกพระสิวลี (ต่ออายุ) 15 เม.ย.2553
    - งานบรรจุหัวใจ พระสิวลี (ต่ออายุ) 25 ก.ค. 2553 (เป็นองค์พระแล้ว)
    5. ทรายเสก เสาร์ 5
    6. กล้วยน้ำหว้า เสาร์ 5
    7. ข้าวก้นบาตร เสาร์ 5
    8. น้ำมนต์ เสาร์ 5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2022
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    510. ของดีของพระอริยะ พระผงเจ้าสัว รุ่น 100 ปี ฝังตะกรุด 1 ดอก หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี จ.สิงห์บุรี ปี 2536 ให้บูชา 600 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-17_18-13-17.png

    upload_2022-7-17_18-13-23.png


    ฉลองอายุวัฒนะมงคล 100 ปี รุ่นมหามงคลทอง เสาร์ 5 พระของหลวงปู่บุดดานั้น เป็นที่เชื่อกันว่า เด่นทางเมตตา พุทธคุณครอบจักรวาล

    องค์พระเนื้อผงแป้งเสก
    แป้งเสกของหลวงปู่ถือเป็นเอกลักษณ์ ที่หาใครเลียนแบบไม่ได้ แป้งเสกของท่านช่วยคนให้สมปรารถนามากมายทั้งเรื่องโรคภัยไข้เจ็บการบนบานอธิษฐานเมตตามหานิยม หรือแม้แต่คงกระพันชาตรีก็มีคนประสบมาแล้วมากมาย
    บารมีธรรมหลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอรหันต์ผู้มีกายเดียวจิตเดียว หลวงปู่บุดดา ถาวโรในสายของเหล่ากองทัพธรรมนั้น ท่านคือ พระอรหันต์
    โดยหลวงปู่บุดดา เป็นพระอรหันต์ผู้ประเสริฐอย่างยิ่งองค์หนึ่งในยุคกึ่งพุทธกาล ท่านเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลาจารวัตรที่ งดงาม และยังมีจิตตานุภาพที่สูงเยี่ยม เมื่ออธิษฐานจิตลงวัตถุมงคลแม้ใช้เวลาเพียง 2-3 นาที แต่กลับมีพุทธคุณสูงส่งราวกับประกอบพุทธาภิเษกนับสิบครั้ง

    ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดา ได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที " หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ" ท่านตอบทันที "ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ" และที่สำคัญในพิธีเปิดโลกที่แสนสะโด่งดังนั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปุ่บุดดามาร่วมเสกด้วย (ทางญาณ)
    แม้แต่องค์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริฐพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยุ่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า "ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง" แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า " รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ " และยกย่องหลวงปู่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้
    ซึ่งแม้แต่หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า " หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน" หากท่านสงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระแล้ว
    ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก็ส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของผู้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยุ่ที่นั้นบอก " พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม " เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว และเมื่อมีคนนำพระไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคงคีรีเขต จ.ตาก พระอาคมขลัง คงรู้จักกันดี ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า "เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว" แม้แต่องค์หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก "จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ

    Tel. 0652696697

    Line : himhirose
    เพิ่มค่าจัดส่ง 50 บาท
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    511. พระผงยมกปาฏิหาริย์ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือวิปัสสนา จ.กระบี่ ปี 2525 สร้างจำนวน 10,000 องค์ ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-7-18_12-47-29.png


    หลวงพ่อจำเนียร หรือพระอาจารย์จำเนียร เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง จึงทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจำเนียร ล้วนแต่มีพุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล และเกิดประสบการณ์ ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ให้เห็นประจักษ์แก่บันดาศิษยานุศิษย์ และผู้เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    512. พระดีพิธีใหญ่แห่งแดนใต้ เหรียญพระประธานวัดโคกเมรุ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ปี 2517 ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-7-18_12-58-51.png

    เหรียญเสมา เนื้อทองเหลือง พระประธาน วัดโคกเมรุ นครศรีธรรมราช ปี 2517
    สร้างเป็นที่ระลึกเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปยังพระอุโบสถวัดโคกเมรุ
    ทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๗

    มวลสาร
    ที่นำมาสร้างเททองหล่อพระ ผ่านการปลุกเสกจาก
    หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน
    หลวงพ่อท่านขาว
    วัดโคกเมรุได้จัดทำพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายใต้ร่วมนั่งปลุกเสก เช่น
    หลวงพ่อท่านเขียว วัดหรงบล
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง
    พ่อท่านขาว วัดโคกเมรุ เป็นต้น


     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    513. เนื้อผงรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่อดำ พระผงเนื้อว่านพิมพ์ใบจิกรุ่นแรก หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี ปี พ.ศ.2523 ให้บูชา 1350 บาท

    upload_2022-7-18_13-7-34.png


    หลวงพ่อดำ มีนามเดิมว่า ดำ นามสกุล จันทรักษ์ เกิดวันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๗ ที่ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา บิดามีนามว่า หลวงจรานุรักษ์เขตร (พลับ จันทรักษ์) มารดามีนามว่า นางพ่วนเหนี่ยว จันทรักษ์ เด็กชายดำ จันทรักษ์ เริ่มการศึกษาที่บ้าน โดยเรียนกับบิดาจนอ่านออกเขียนได้ จนถึงอายุได้ ๑๙ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดนาทับ ได้ศึกษาหนังสือขอม ทั้งขอมไทยและขอมบาลีจนเชี่ยวชาญ ระหว่างที่เป็นสามเณรได้เกิดอาพาธจึงได้ลาสิกขาชั่วคราว เหตุผลเพราะยาโบราณต้องผสมสุรา

    เมื่อหายอาพาธแล้วจึงได้กลับมาอุปสมบทในขณะที่มีอายุ ๒๒ ปี ได้นามฉายาครั้งแรกว่า "นนฺทิยมาโน" ต่อมาได้เดินทางไปกรุงเทพฯ โดยได้ไปจำวัดที่วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์) วัดราชบพิธ ได้ทรงเปลี่ยนนามฉายาให้ใหม่เป็น "นนฺทิโย" ซึ่งเป็นคำนาม แปลว่า "ผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเพลิดเพลิน" แล้วทรงฝากให้ศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกสามัญและแผนกบาลีที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมิได้เข้าสอบสนามหลวง โดยท่านได้เดินทางกลับปัตตานีอีกครั้ง

    มาประจำอยู่ที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และได้เปิดสอนนักเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ขึ้นที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร โดยท่านสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ซึ่งข้อสอบทุกวิชาจะมีวิชาละ ๑๔ ข้อ (ต่อมา พ.ศ. ๒๔๘๐ เปลี่ยนข้อสอบเหลือเพียง ๗ ข้อเท่านั้น) ใครสอบผ่านได้จะต้องใช้ความเพียรและใข้สติปัญญาอย่างมาก หลวงพ่อดำ จำพรรษาที่วัดมุจลินทวาปีวิหารตลอดมา จนถึงวาระมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ รวมอายุได้ ๙๐ ปี พุทธศาสนิกชนส่วนมากเรียกท่านว่า "หลวงพ่อดำ" ชาวพุทธจากที่ต่างๆ เมื่อเดินทางมาจังหวัดปัตตานี มักแวะมาเคารพสักการะรูปเหมือนหลวงพ่อดำที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ด้วยความรู้สึกที่เลื่อมใสศรัทธาตลอดมา
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    514. ท่านเป็น สหธรรมิกกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีครับ พระพิมพ์สมเด็จ หลังเสือ รุ่นแรก หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ปี 2516 ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-7-18_20-24-40.png


    upload_2022-7-18_20-31-6.png


    หลวงพ่อทองอยู่ หรือ พระครูสุตาธิการี อดีตเจ้าอาวาส วัดใหม่หนองพระอง จ.สมุทรสาคร ท่านเป็นพระเถระ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ที่แก่กล้าด้วยอาคม ท่านเกิดในตระกูล “สิงหเสนี” ซึ่งเป็นตระกูลทหารชาตินักรบ อุปสมบทเมื่ออายุประมาณ ๓๐ ปี ที่วัดใหม่หนองพะอง ครั้นพอพรรษาแรก จิตใจรู้สึกสงบ และทราบซึ้งในรสพระธรรม จึงได้อุปสมบทตลอดเรื่อยมา

    ในสมัยที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรกว่า ๓๐ ปี ไปในที่ทุรกันดารต่าง ๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือ เก่งทางด้านปฏิบัติธรรม ก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ โดยหลวงพ่อทองอยู่นี้ ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มอยู่ ท่านจะเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่ภาคเหนือเป็นประจำทุกปี ซึ่งหลวงพ่อท่านก็มีโอกาสได้กราบนมัสการท่าน พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างใกล้ชิดด้วย อีกทั้งยังเป็นศิษย์ในกรรมฐานของครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยชักชวน หลวงพ่อทองอยู่ ให้อยู่กับท่านด้วยกัน แต่หลวงพ่อทองอยู่ยังติดภาระที่ต้องดูแลทางวัดอยู่ จึงเดินทางกลับมา ซึ่งครูบาศรีวิชัย ท่านจะถวายปัจจัยสำหรับค่าเดินทางกลับให้อยู่เสมอมิได้ขาด

    มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อทองอยู่ ได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ว่า ปฏิบัติอย่างไรจึงมีเมตตามีบารมี และมีคนนับถือมากมายขนาดนี้ ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ตอบแก่หลวงพ่อทองอยู่อย่างเมตตา

    "พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้แหละ ที่เฮาภาวนาเสมอ มิได้ขาด” และ หลวงพ่อทองอยู่ ได้เคยกล่าวถึงท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า

    “ครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านมีญาณสูงมาก ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีผู้ตั้งอธิกรณ์ ฟ้องท่านว่าเป็นผีบุญ เพราะไปไหน ก็มีคนติดตามไปเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็เดินไปเหนือยอดหญ้า ฝนตกจีวรก็ไม่เปียก ทั้ง ๆ ที่เดินฝ่าฝนไป แต่ สุดท้าย ผู้ที่กล่าวหาท่าน ก็ถูกบาปกรรมตามสนองอย่างน่าสยดสยองที่สุด”

    หลวงพ่อทองอยู่ ท่านได้ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมาก ๆ ในสมัยก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธานี้ ท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน ที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี และ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ

    จะ เห็นว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่เอ่ยนามมานี้ ล้วนเก่งกล้าวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมของสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ดังนั้น หลวงพ่อทองอยู่ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้อง หรือ รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

    จะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน เพราะท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่าต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันที ราวกับปาฏิหารย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันที

    ท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ โดยเรียนวิชายันต์ตรีนิสิงเห มาจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร มาด้วยกัน งานไหนมีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือ วัตถุมงคล ที่นั่นจะมี หลวงปู่โต๊ะกับ หลวงพ่อทองอยู่ ด้วยเสมอ

    วิชาที่สุดยอดของท่านอีกอย่างคือ ลงกระหม่อมด้วยน้ำมันจันทร์หอม ใครได้ลงครบสามครั้ง รับรองได้ว่า ไม่มีตายโหง และไม่อดไม่อยาก เป็นที่รักใคร่ของคนโดยทั่วไป ท่าน เจริญเมตตา จนมีฝูงปลาสวายมาอยู่หน้าวัดเต็มไปหมดเลย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ ใน ๔ องค์ ที่หลวงปู่โต๊ะนิมนต์มาในงานครบรอบวันเกิดของท่านทุกปี อีกสามองค์ที่เหลือ องค์แรก คือ หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงทพฯ องค์ที่สอง หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี สุพรรณบุรี องค์ที่สามเป็น พระจีน (ไม่ทราบชื่อ) สำหรับงานวันเกิดหลวงปู่โต๊ะนั้น จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อทั้ง ๔ องค์นี้เป็นประจำ มานั่งสี่มุม ส่วนหลวงปู่โต๊ะท่านจะนั่งที่หน้าพระประธานเป็นองค์ที่ห้า

    คำสั่งเสียของหลวงปู่โต๊ะ ก่อนมรณภาพ

    ในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า "หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้" และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๔ โดยหลวงปู่เป็นประธานในพิธี และมีเกจิอาจารย์อีก ๙ ท่าน ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

    ในขณะที่พระกริ่งพระชัยวัฒน์ พุทโธ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หลวงปู่โต๊ะก็ได้มรณภาพเสียก่อน ในวันที่ ๕ มี.ค ๒๕๒๔ (แสดงให้เห็นถึงอนาคตังสญาณของหลวงปู่โต๊ะ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมรณภาพในปีนั้น) เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อทองอยู่ ได้ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อน ๑ ครั้ง และ ต่อมา เมื่อทางวัดได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ พร้อมกับ รูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองหล่อขึ้น ทางวัดได้นำ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "พุทโธ" เข้า ร่วมในพิธี โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน และ หลวงพ่อทองอยู่นั่งปรกปลุกเสกด้วย จำนวนสร้างพระกริ่ง ๑,๕๐๐ องค์ พระชัยวัฒน์ ๓,๐๐๐ องค์ ทั้ง ๒ พิมพ์ ตอกโค้ด "ต" สำหรับพระชัยวัฒน์นั้นใต้ฐานอุดด้วยเทียนชัย และเส้นเกศาของหลวงปู่โต๊ะไว้ด้วย

    สองเกจิร่วมสมัย ร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๐๐ กว่า ๆ เป็นเหตุการณ์ที่พระอริยะเจ้าสองรูป ได้โปรดวิญญาณ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ในคลองภาษีเจริญ บริเวณประตูน้ำหน้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอริยะเจ้าสองรูปนั้น องค์แรกท่าน คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตรอกดอกไม้ และ หลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุในขณะนี้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี

    วัตถุ มงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ฯลฯ แล้ว ถือว่า น้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เท่าที่ทราบมี เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๕๐๙ จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่าง ๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่งสุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน ฯลฯ เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวก พระปิดตา, ล็อกเก็ต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) ฯลฯ เป็นต้น

    พระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คือ พระสมเด็จ มีพระสมเด็จเนื้อผงขาว และ พระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลายพิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น “สมเด็จหลังเสือเผ่น” ซึ่งสร้างมา ๒ – ๓ รุ่น หลายรูปแบบ (เสือเล็ก – เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง

    พระ สมเด็จเนื้อผงของท่าน ท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมไว้ และทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้อย่างเข้มขลัง โดยผสมน้ำมันจันทร์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้น มีพุทธคุณโดดเด่นไปด้วยเมตตามหานิยม อุดมลาภผล แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี

    เรียก ว่าสมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้น มีมวลสารสุดยอดจริง ๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่า ๆ ที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้น ในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อย และมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสียชื่อสำนัก และครูบาอาจารย์ก็ว่าได้
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    515.พระพิมพ์พระท่ากระดาน เนื้อผงพุทธคุณ (เนื้อจัด) หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี ยุคแรก ให้บูชา 1550 บาท


    upload_2022-7-19_11-32-31.png

    พระพิมพ์พระท่ากระดาน หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี หลวงพ่อเที่ยงนี้ท่านเป็นหลานหลวงพ่อวัดใต้ หรือหลวงปู่เปลี่ยน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาจากหลวงปู่เปลี่ยน และท่านยังเคยไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม หลวงพ่อเที่ยงท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของ จ.กาญจนบุรี ท่านจะได้รับนิมนต์ไปงานพิธีพุทธาภิเษกไม่เคยขาด จนได้เจอกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีบ่อย ๆ และได้กลายเป็นสหธรรมิกกัน วัตถุมงคลของหลวงพ่อเที่ยงนั้น เป็นที่นิยมกันในหมู่นักสะสม เพราะมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์กันโดยทั่วไป
     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    516.พระผงเกศาโพธิสัตว์ ครูบาบุญชุ่ม อายุ 50ปี สร้างเพื่อถวายวันเกิดท่านครูบาบุญชุ่ม ออกปี57 แจกวันเกิดวันที่ 5 มค 58 จำนวนการสร้างจำนวน 2000 องค์ มีเนื้อออกโท แดง ดำ ฝั่งเม็ดแร่ ทุกองค์ ให้บูชา 1150 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-19_11-37-20.png

    upload_2022-7-19_11-41-9.png

    upload_2022-7-19_11-37-26.png

    มวลสารในการจัดสร้าง
    1.เนื้อสมเด็จหลวงปู่ใหญ่
    2.ผงจิตลัดดา
    3.ผงพระธาตุหลวงปู่ดู่
    4.ผงพระธาตุผนม ผงเกษรดอกบัว 84000 ดอก
    5.เกศาพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร
    6.เกษา ปู่พรมมา
    7.เกษาพระน้อย 2ขวบ นครพนม
    8.ผงดอกพิกุล
    9.ชนำถ้ำ จากถ้ำผาแดง อ.พร้าว
    10.ผงพญางิ้วดำ
    11.ผงวานสาวหลง ผงสบุ่เลือด
    12.ผงหินแก้วใต้ฐานพระ
    13.เม็ดเหล็กไหล หัวใจน้ำ เหล็กไหลธรณี
    14.ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ขาว ถ้ำผาแดง เชียงใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    517. รูปเหมือนรุ่นนี้หลวงปู่ยังแนะนำให้ลูกศิษย์หาบูชาไว้ติดตัว พระผงรูปเหมือนนั่งรุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ 2514 หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ให้บูชา 1950 บาท

    upload_2022-7-19_12-18-20.png

    เกร็ดประวัติ อภินิหาร ครูบาวงศ์ (๔) โดย อ.เล็ก พลูโต

    เรื่องที่ ๒๒ พระรอดเนื้อดิน ครูบาวงศ์ คือ ว่าพระรอดรุ่นนี้ หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ท่านสร้างขึ้น เป็นพระรอดที่ดังมาก จนกระทั่งเป็นเบญจภาคีในจำนวนพระเครื่องสุดยอด ๕ องค์ ก็จะมีสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พระซุ้มกอกำแพงเพชร พระนางพญาพิษณุโลก แล้วก็ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพระผงสุพรรณ ใช่มั้ย ๕ องค์?พระรอดลำพูน สร้างขึ้นโดยฤๅษีวาสุเทพ ผู้เป็นอาจารย์ของพระนางเจ้าจามเทวี ปรากฏว่าหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ ท่านหลับๆ ตื่น นึกขึ้นมาได้ว่า ท่านเคยเกิดเป็นฤๅษีวาสุเทพ ท่านก็เลยสร้างพระใหม่ซะอีกยกหนึ่ง อย่าลืมว่าดินลำพูนแพงที่สุดนะ แค่นิ้วมือแค่นี้ตั้งหลายล้าน นั่นแหละดินที่สร้างพระรอด ตอนนี้พระรอดองค์หนึ่งหลายล้าน สมัยโน้นอาจจะไม่เก่งพอ สมัยนี้สะสมบารมีต่อมาเก่งกว่าเดิม สร้างของใหม่ก็คงจะดีกว่าเดิม

    เรื่องที่ ๒๓ ครูบาแจกพระรอด มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมอีกหนึ่งเรื่องครับ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๖ เป็นวันเสาร์ ๕ ผมได้นั่งรถตู้จากวัดพระบาทห้วยต้ม ไปวัดมหาวันกับหลวงปู่ด้วย หลวงปู่ไปปลุกเสกพระรอด กับพระนางจามเทวี ในวันนั้นเมื่อหลวงปู่ปลุกเสกเสร็จ หลวงปู่ก็เดินออกจากโบสถ์ไปที่รถตู้ โดยหลวงปู่ถือไม้เท้าโดยใช้มือทั้งสองจับไม้เท้าทั้งสองข้าง ตามแบบฉบับของหลวงปู่ ดังที่เราเห็นกันจนชินตา โดยมีลูกศิษย์ติดตามมาส่งหลวงปู่ถึงรถกันจำนวนหนึ่ง เมื่อหลวงปู่เข้าไปนั่งในรถ ก็ปล่อยมือที่ถือไม้เท้าทั้งสองข้างออก โดยเอาไม้เท้าวางไว้ข้างๆ ขณะนั้นลูกศิษย์ต่างก็กราบหลวงปู่กัน

    มีคนหนึ่งเอ่ยปากขอพระรอดกับหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยื่นมาให้องค์หนึ่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ขอพระรอดกับหลวงปู่บ้าง หลวงปู่ซึ่งขณะนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็ใช้มือไปเอาพระรอดที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายท่าน ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ซึ่งก็ไม่ทราบว่าหลวงปู่ไปนำพระรอดมาได้อย่างไร เพราะที่ๆ หลวงปู่เอามือไปแตะไม่น่าจะเก็บพระรอดได้ และหลวงปู่ก็ไม่ได้กำพระมาจากไหนแน่นอน เพราะหลวงปู่ท่านกำไม้เท้ามา บริเวณส่วนของร่างกายที่ท่านเอามือไปแตะ ก็ไม่มีที่ใส่ของ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ผมก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน จำภาพได้ติดตาว่า เห็นมือหลวงปู่อยู่ตรงหน้า ผมมองหน้าหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยิ้มแล้วแบมือออก ปรากฏว่ามีพระรอดหล่นมาจากมือหลวงปู่หนึ่งองค์ วันนั้นหลวงปู่คงต้องเรียกพระรอดมาหลายองค์เลยครับ เรื่องแบบนี้ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ทราบกันดีครับ

    ตอนที่ไปวัดบ้านปาง เพื่อไปหารอยเท้าท่านบนหิน ว่าจะยกกลับมาวัดห้วยต้ม เพราะไม่มีคนสนใจ ครูบาให้ไปแจ้งเจ้าอาวาสก่อน ตอนนั้นหลวงพ่อมหาจรูญ เป็นเจ้าอาวาส นั่งคุยกันเรื่องพระรอดครูบา มหาจรูญบอก...มีนายธนาคารคนนึง มาขอพระรอดจากครูบา แต่ท่านก็ไม่ได้ให้ไว้...

    อย่างที่ทราบ บางคนท่านก็ให้ บางคนท่านก็ไม่ได้ให้

    มีลูกศิษย์อีกคน มาเล่าเรื่องให้ฟัง ตอนประมาณปี ๒๕๒...กว่า เค้าบอกว่า ครูบารับนิมนต์ไปวัดที่ชลบุรี ถ้าจำไม่ผิด วัดนอก?? ไปงานพุทธาภิเษก เค้าบอกว่า หลังงานเสร็จ มีคนมาขอวัตถุมงคลจากท่าน ครูบาล้วงเอาพระเนื้อผงในย่ามแจก มีอยู่คนนึงมาขอ แต่พระของครูบาหมด ท่านหยิบส้มให้แทน เค้าเล่าว่า ครูบาบอก ลองดูซิ พระอาจจะอยู่ในส้ม โยมคนนั้นแกะส้มออกมา เจอพระรอดข้างในจริงๆ

    ครูบาวงศ์ ท่านได้สร้างพระรอดทั้งเนื้อดิน และเนื้อว่านไว้ ๒-๓ รุ่น ซึ่งผมก็พอจะแบ่งปันให้ได้ คือ รุ่นพิเศษ ปี ๒๕๔๐ (ดังภาพ) ซึ่งถอดพิมพ์มาจากพระรอดวัดมหาวันของเก่า อีกทั้งยังมีมวลสารที่เป็นพระรอดกรุมหาวันแตกหักมากมายผสมในเนื้อพระ โดยแบ่งปันให้บูชาองค์ละ ๙๙ เหรียญ และ พระรอดเนื้อดิน ปี ๒๕๔๓ (รุ่นสุดท้าย ปลุกเสกก่อนมรณภาพ) ด้านหลังฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ บูชาองค์ละ ๑๐๙ เหรียญ (มีน้อย เพราะหาสวยๆ ยาก) สนใจ โทร.ติดต่อผมด่วนที่เบอร์โทร. (909) 525-6041 ว่ายังมีอยู่ไหม? แล้วค่อยส่งเช็คสั่งจ่าย Boonsom Corhiran ตามที่อยู่หัวคอลัมน์ พระทุกองค์ใส่ตลับแสตนเลสแกะลายอย่างดี พร้อมอาราธนาขึ้นคอได้ทันที

    เรื่องที่ ๒๔ ประทับรอยเท้าเป็นอนุสรณ์ ขณะที่ท่านช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ท่านได้ประทับรอยเท้า ลึกลงไปในหินประมาณ ๑ ซ.ม. ข้างน้ำตกห้วยแก้ว (ช่วงตอนกลางๆ ของทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้มาช่วย ครูบาศรีวิชัยสร้างทาง

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ หลวงพ่อขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ขากลับท่านได้พาไปนมัสการวัดอนาคามี (ซึ่งเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยได้มอบให้ท่านเป็นผู้ควบคุมการสร้าง ปัจจุบันทรุดโทรมหมดแล้ว) ระหว่างทาง ท่านได้พาพวกเราไปดูรอยเท้าที่ท่านประทับไว้ รอยเท้านั้นลึกลงไปในหินประมาณ ครึ่งเซนติเมตร มีรอยถูกน้ำกัดเซาะ พวกเราแปลกใจมากที่เห็นรอยเท้านั้น พอดีกับเท้าของท่านเมื่อท่านเหยียบลงไป (การประทับรอยเท้า เช่นนี้ ท่านเคยไปประทับรอยเท้า และรอยมือ ไว้บนแผ่นหิน ณ ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นอนุสรณ์ เช่นกัน เป็นที่ประจักษ์สายตาของคณะศิษย์ที่ร่วมเดินทางไปทุกครั้ง)

    รอยเท้าที่น้ำตกห้วยแก้ว ดอยสุเทพ อยู่ข้างๆ รอยเท้า ของครูบาศรึวิชัย เหยียบไว้กลางลำห้วย จะเห็นชัดเวลาหน้าแล้ง (เคยมีลูกศิษย์ได้ทำที่ครอบไว้ แต่คนใจบาปได้ทุบทำลายไป) น้ำที่ผ่านลำห้วยนี้ ก็เป็นเสมือนน้ำมนต์ที่ผ่านรอยเท้าของพระอาจารย์ทั้ง ๒ องค์ ได้อธิษฐานไว้ ส่วนรอย อื่นๆ ของครูบา ผมรวบรวมจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด และที่ผมทราบมีประมาณ ๙ แห่ง ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยชอบเล่า หรือเขียนเรื่องทำนองนี้ ไว้ในที่สาธารณะ แต่เห็นว่าไหนๆ ก็มีคนกล่าวกันมามากแล้ว ก็ เขียนไว้กับเค้าด้วย

    หมายเหตุ. รอยเท้าของครูบาที่ท่านเหยียบไว้ บางแห่งก็อยู่ในที่ไปมาลำบาก ผมเข้าใจว่า เทวดาคงขอท่านไว้ ตอนท่านยังดำรงขันธ์อยู่ ผมแทบจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เชื่อก็ดีไป ไม่เชื่อก็ลำบาก ครูบาท่านก็ไม่เคยอวดตัว แต่ละวันท่านก็สอนลูกศิษย์ทำบุญทำทาน นั่งกรรมฐาน และสวดมนต์ เท่านั้นเอง

    เรื่องที่ ๒๕ ครูบา สอนลูกศิษย์ ลูกศิษย์คนไหนที่เคยได้รับใช้ท่าน คงจะคุ้นเคย ครูบาท่านจะเอาเงินที่ญาติโยมถวายมาจัดเรียงอย่างดี บางแบงค์ที่ยับๆ หรือไม่สะอาด ท่านจะเอามาใส่ขันน้ำเพื่อล้าง และตากให้แห้ง แล้วเอามารีดให้เรียบ พวกลูกศิษย์คงได้ช่วยท่านทำกันบ่อยๆ เคยถามท่านว่า...ทำไปทำไม ครูบาท่านว่า "คนไม่รู้จักค่าของเงิน คนไม่เคารพพระเจ้าอยู่หัว" ส่วนตัวผมก็จะติดนิสัยตามท่าน ต้องเอาธนบัตรที่ยับๆ มารีดให้เรียบเสมอ เดี๋ยวครูบาท่านจะตำหนิเราได้ว่า ไม่เคารพค่าของเงิน เดี๋ยวจะค้าขายไม่เจริญ

    จำได้ว่าครั้งหนึ่ง เมื่อได้อยู่อุปฐากท่าน มีโยมส่งพัสดุไปรษณีย์มาถวาย ท่านบอกให้เปิดกล่อง เราเองด้วยความคุ้นเคย มักง่ายจึงหยิบกรรไกรจะตัดเชือกที่มัดพัสดุ ท่านห้ามไว้โดยบอกว่า "อย่าตัด ค่อยๆ แก้...ถ้าไม่ตัด พอแก้เสร็จก็ใช้มัดอย่างอื่นได้อีก...คนไม่รู้จักแก้เชือก..ก็จะไม่รู้จักแก้ปัญหา" และ เต่าสำลีที่ท่านพับ โดยบรรจุพระธาตุข้าว และเกศานั้น เป็นสำลีที่ท่านเช็ดตาเมื่อเปลี่ยนคอนแท็คเลนส์ หรือบางทีท่านนำมาฝั้นเป็นเชือกไว้มัดคัมภีร์ธรรมใบลาน ท่านจะสอนให้พวกเรามัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย

    เรื่องที่ ๒๖ พระธาตุข้าวบิณฑ์ ความเป็นมา หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เล่าไว้ว่า..ท่านเห็นในนิมิตว่า มีถ้ำแห่งหนึ่งในเขตอำเภอดอยเต่า มีพระธาตุสำคัญเกิดขึ้น สืบเนื่องจากในอดีตที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เทข้าวที่เหลือจากการฉันไว้ ณ บริเวณนั้น ด้วยพุทธานุภาพ ข้าวดังกล่าว ได้กลายเป็น พระธาตุข้าวบิณฑ์ หลวงปู่ฯ จึงอธิบายถึงบริเวณ และลักษณะพระธาตุข้าวบิณฑ์ ให้ชาวเขาไปค้นหา และก็เป็นไปตามที่ท่านได้บอกกล่าวจริงๆ ท่านจึงอธิษฐานจิต และ แจกจ่ายให้แก่ลูกหลานเก็บไว้ สักการะ

    อานุภาพพระธาตุข้าวบิณฑ์ ท่านบอกไว้ว่า สามารถอาราธนาใส่น้ำเป็นน้ำมนต์ รักษาโรคภัยที่ไม่เหนือวิสัยได้ ใครที่มีไว้บูชา จะมีความคล่องตัว ไม่อดอยาก พระธาตุข้าวบิณฑ์ มีผลต่อผู้ที่เป็น สัมมาทิฐิบุคคล จะเสด็จมาเพิ่มเติม และลดจำนวนลงได้ รวมทั้งจะแตกหักเสียได้ เช่นกัน

    เรื่องที่ ๒๗ ทิฆัจฉา ปรมะโรคา โรคหิวเป็นโรคอย่างยอด ในแต่ละวัน โรคหิว ปรากฏแก่เราอย่างน้อยๆ ก็ ๓ ครั้ง ๓ ครา อาหาร ช่วยประทังความหิว ไม่ให้ขันธ์ ๕ คือ ร่างกายสลาย.. ตายไป..การตั้งมั่น ตรงต่อพระนิพพาน ก็เช่นกัน จะหยุดยั้งในเรื่องทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้เกิดปัญญา นั้น เราคงยังไม่สามารถก้าวเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเป็นแน่ หากคิดว่าเราสร้างบุญใหญ่ยิ่งไว้แล้ว สร้างไว้มากแล้ว พอแล้ว อย่างนั้น ก็อาจจะเป็นการประมาทเกินไป กินข้าวมื้อหนึ่งอิ่มไปได้แค่ไหน บุญในทานศีลภาวนาก็เช่นกัน ต้องเติมพลังบุญ พลังอานิสงส์ตลอดเวลา หากเราคิดได้ดังนี้ ก็ได้ชื่อว่า ไม่ประมาท ใช่ไหมครับ

    บุญบารมีแต่ละคนมีเพียงใดก็จะเข้าถึงได้ตามเกณฑ์นั้นๆ บารมีต้น บารมีกลาง (อุปปะ) ปรมัตถบารมี ย่อมแตกต่างกันไป บารมีต้น.. ก็ "ต้องเข็น" ก็นาน ยากหน่อย บารมีกลาง.. ก็เข้าเขตง่าย เพียงแค่บอกก็เกิดศรัทธา ปรมัตถ์.. ก็ยิ่งง่ายใหญ่ แค่ได้ข่าว มองเห็น ก็ทำเอง

    หลวงปู่วงศ์ฯ ท่านเปรียบเทียบให้ฟัง ว่า....บารมีกลาง นี่.. มี บาท.. อยากทำ ๓ บาทคล้ายกันกับองค์หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านก็กล่าว ไว้ว่า...."บารมี" มัน เร่งรัด กันได้.. ไม่ใช่มา นั่งรอ ตามบุญบารมีเดิมๆ หากเดินทางเท้าจาก กทม. ไป เชียงใหม่ มันก็นานเป็นเดือน หากหาทางเร่งบารมี "ซื้อ" (เร่งทำบุญ ทาน ศีล ภาวนา) ซื้อรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง หรือนั่งเครื่องบินไป อย่างนี้ก็เร็วกว่า ตรงกับ หลวงปู่วงศ์ฯ ที่ท่านกล่าว ว่า.. "บุญ" ต้องใช้ "เงิน" ซื้อ (ใช้กำลังใจ ตัด ความโลภ ของตนเอง)

    คำตรัสสอนสุดท้าย ของ องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พระพุทธองค์ ก็ทรงตรัสสอนให้พวกเรา "ไม่ประมาท" นั่นเอง เมื่อใดที่ "พวกเรา" ยังไม่ถึง "พระนิพพาน" เพียงใดก็ตาม ขอคำว่า "ประมาท" อย่าได้บังเกิดแก่ "พวกเรา" ด้วยเทอญ.
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    518. พระหูยาน หลัง จปร. รุ่นปืนแตก วัดราชบพิธ ปี ๒๕๑๓ พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ในหลวงเสด็จทรงเททอง เกจิดังแห่งยุคร่วมปลุกเสก ให้บูชา 1450 บาท


    upload_2022-7-19_15-50-54.png

    พระะหูยาน จปร. ปืนแตก เป็นพระเครื่องที่ สร้างล้อพิมพ์จาก “พระหูยานศิลปะลพบุรี” ได้จัดสร้างเพื่อเป็นการ ฉลอง ๑๐๐ ปีวัดราชบพิธฯ โดยมีการสร้างเป็นเนื้อ นวโลหะ และเนื้อทองแดง ซึ่งทั้งสองเนื้อ นายช่างเกษม มงคลเจริญ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เล่าว่า ได้ทำการเจือ โลหะ ที่ได้จาก พิธีเททอง ที่
    *พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯเททอง ผสมกับ ชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ของวัดราชบพิธฯ รวมกับ แผ่นยันต์ลงอักขระของพระเกจิ ผู้ทรงพุทธาคม จากทั่วประเทศ ๑๐๘รูป ในวัตถุมงคล ทั้งเนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดงโดยทั่วถึงกันอย่างพิถีพิถัน

    พิธีพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืน ณ.พระอุโบสถวัดราชบพิธ ระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 โดยทางวัดได้อาราธนา พระเกจิ ผู้ทรงวิทยาคุณ ล้วนเเต่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้น โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน ทั้ง 108 รูป อาทิ

    ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม
    ลป.เทศก์ เทศก์รังษี
    หลวงตา มหาบัว
    ลพ.เทียม วัดกษัตริยาธิราข
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    ลป.หิน วัดระฆัง
    ลพ.ทูรย์ วัดโพธิ์นิมิต
    ลพ.ทองอยู่
    ลพ.กี๋ วัดหูช้าง
    ลพ.ขอม วัดไผ่โรงวัว
    ลพ.โชติ ระลึกชาติ
    ลพ.นอ วัดท่าเรือ เป็นต้น

    หลังพิธีพุทธาภิเษก ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาไปเป็นจำนวนมาก โดยนายทหารที่บูชาไปในสมัยนั้น ได้มีการนำพระรุ่นนี้ไป เลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ ธงชาติ จากนั้นจึงได้ชักธงชาติระดับเหนือศีรษะ แล้วทำการ “ทดลองยิง”

    ปรากฏว่า ปืนยิงไม่ออกในนัดแรก บรรดาผู้ทดลอง จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วยิงอีกนัด คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิด ดังขึ้น และพอสิ้นเสียงระเบิด ปรากฏ ปากกระบอกปืนที่ใช้ทดลองยิงแตกเป็นรอยร้าว จึงเรียก พระรุ่นนี้ว่ารุ่น “ปืนแตก” เหลือ บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบ ในสมรภูมิเวียดนามรอดชีวิตกลับมาเป็นที่ร่ำลือว่า บรรดาเซียนพระหลายราย ก็มีการบอกเล่ากันต่อ ๆ มาว่า พระหูยาน จ.ป.ร. นี้ มีพุทธคุณเข้มขลัง มาก


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2022
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    ##### สุดยอดพระดี แดนใต้ครับ พระปิดตา ท่านพ่อกล่อม หรือ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา

    upload_2022-7-19_14-8-6.png
    โดยพระอาจารย์กล่อม ชื่อเต็ม " พระภควันเพชรหลีก" มวลสารนอกจากผงวิเศษแล้ว ยังมีเกสรดอกไม้,ว่านอีกหลายชนิด ที่สำคัญคือผสมผงเถ้าถ่านของการเผาแบงค์หลายชนิดของธนาคารชาติ สาขาภาคใต้หาดใหญ่ จนได้รับฉายา" พระปิดตาเงินล้านแห่งแดนทักษิณ พระปิดตาวัดหูแร่ หลวงพ่อกล่อม โกวิโท หาดใหญ่ สงขลา ๒๕๑๔ เนื้อผงผสมเถ้าธนบัตรเป็นพระเครื่องที่ "..คนใต้นิยมขูดผงใส่ของให้สาวกินคับ..."

    พระปิดตา"พระภควันเพชรหลีก"ที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ มวลสารที่นำมาสร้างนอกจากผงวิเศษดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเกสรดอกไม้และว่านอีกหลายชนิดเช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านลูกไก่ทอง ว่านช้างประสมโขลง ว่านนางกวัก ว่านหลงรัง ว่านขุนแผน ว่านมหาลาภ ฯลฯ นอกจากนี้หลวงพ่อกล่อมยังให้ลูกศิษย์ไปขอผงเถ้าถ่านจากการเผาแบงก์ของธนาคาร มาผสมอีกด้วย เพื่อเป็นการถือเคล็ดทางโชคลาภและโภคทรัพย์ มีสร้าง ๓ พิมพ์คือพิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลางกับพิมพ์เล็ก เนื้อผงใบลานผสมผงธนบัตรซึ่งได้ได้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ ท่านก็ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวโดยท่านลำพังผู้เดียว จากนั้นก็แจกให้ชาวบ้านไปใช้กันคนละองค์ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไหร่ แต่พอพระมีประสบการณ์มากขึ้น จึงมีคนมาขอพระปิดตากันจนหมดจากวัดไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว พระปิดตารุ่นนี้นอกจากจะดีทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ทางเมตตามหานิยม ก็เยี่ยมสุดเหมือนกัน ตอนแรกเลยนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งเอาพระปิดตาไปขูดผงใส่อาหารให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงเกิดหลงจนได้อยู่เป็นสามี-ภรรยากัน พอหนุ่มคนอื่นๆรู้ข่าวก็ทำตามบ้าง และสำเร็จผลกันหลายคน แต่มีบางคนเมื่อได้ผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว กลับทิ้งๆ ขว้างๆ เสียกลางคัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเล่าให้หลวงพ่อกล่อมฟังพอทราบท่านจึง สั่งไม่ให้ใครทำอีก ถ้าทำแล้วต้องรับเลี้ยงตลอดจนตายไปกันข้างใดข้างหนึ่ง ห้ามทิ้งกลางคันเด็ดขาด ถ้าผิดจากที่สั่งท่านแช่งเอาไว้ ว่าทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครแอบขูดผงพระปิดตาใส่ อาหารให้ผู้หญิงกินอีก เพราะกลัวว่าหากเกิดเบื่อแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ จะทำกินไม่ขึ้นเหมือนท่านแช่งไว้ พระปิดตาสำนักนี้เลยมีสร้อยห้อยท้ายเรียกกันว่า… ขูดผงต้องรับเลี้ยง

    พระปิดตา วัดหูแร่นี้สร้างรุ่นเดียวในปี ๒๕๑๔ สร้างและแจกไปประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุไหฝังกรุไว้ประมาณ ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ องค์ แตกกรุในปี ๒๕๕๑ มีพระแตกหักเสียหายอยู่ในไหไม่ใช่น้อย พระที่เราพบจึงมีทั้งแบบลงกรุ และไม่ลงกรุรวมกันแล้วจะมีพระทั้งหมดน่าจะไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ องค์ พระไม่ลงกรุจะสวยงามกว่าผิวใสสะอาด แห้งมีคราบน้ำว่านพอประมาณ ส่วนที่ลงกรุจะมีคราบกรุติดมาด้วย มากบ้างน้อยบ้าง พระรุ่นนี้มี ๓ พิมพ์ ๒ เนื้อ คือ เป็นเนื้อเทา กับเนื้อสีเทาเข้มจนเกือบดำ บางคนบอกผสมผงใบลาน แต่ท่านอาจจะใส่เถ้าธนบัตรจากธนาคารแห่งประเทศไทยมากเป็นพิเศษ ผิวจึงออกดำมากกว่า มีน้อยหายากประมาณว่าเนื้อเทา ๑๐๐ องค์จะมีเนื้อแก่ธนบัตรนี้เพียงองค์เดียว ส่วนที่ว่ามี ๓ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กนั้น ประกอบด้วยพิมพ์ใหญ่ บ้างก็เรียกพิมพ์กรรมการมีมือสามคู่ หรือหกมือ หาชมยาก ส่วนพิมพ์กลางเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันมากที่สุด และพิมพ์เล็ก ๆ ประมาณเหรียญห้าสิบตังเท่านั้น พระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระเมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยเป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่สายใต้จะเน้นด้านบู้คือพวกคงกระพัน มหาอุด แต่พระหลวงพ่อกล่อมโดดเด่นมากด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แบบไม่แพ้ขุนแผนเลยครับ ผมเคยถามคนใต้หลายคนแล้วว่าหลวงพ่ออะไรเก่งเรื่องเมตตาที่สุด ทุกคนจะตอบไปทางเดียวกันว่ามี ๒ รูป คือ หลวงพ่อจันทร์ วัดโฉลกหลำ กับหลวงพ่อกล่อมวัดหูแร่ นี่แหละครับ
    พระครูมนูญ ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดหูแร่ (๑๔ ม.ค.๕๒) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวัดหูแร่เป็นวัดภายในชุมชนสร้างมานานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว สิ่งก่อสร้างภายในวัดโดยเฉพาะพระอุโบสถของวัดหูแร่ที่สร้างด้วยไม้ใช้มือฝื มือช่างไม้โบราณแบบการตอกลิ่ม ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้น ทางวัดและคณะกรรมการของวัดหูแร่ เห็นพ้องกันว่าจะจัดงานทอดกฐินและทอดผ้าป่า เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ แต่ช่างได้มาประเมินราคาซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ต้องใช้ทุนทรัพย์กว่า ๕ ล้านบาท และปรากฏว่าหลังจากงานทอดกฐิน และทอดผ้าป่าปีนั้นแล้วได้ทุนทรัพย์มาเพียงแค่ ๑ ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการบูรณะพระอุโบสถดังกล่าว แต่ด้วยบารมีของบูรพคณาจารย์ ทำให้ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง พระครูมนูญได้นิมิตรว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านนึง บอกให้ไปขุดค้นบริเวณหน้าสถูปของอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ แล้วจะพบพระของเก่าให้นำมาหาทุนบูรณะโบสถ์ ท่านเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด จึงได้หาฤกษ์มงคลทำการขุดค้นตามนิมิตร ปรากฏว่าพบไหผักกาดดองใบใหญ่ ๒ ไห ฝั่งอยู่ใต้ดินบริเวณหน้าสถูปนั้นจริงๆ เมื่อเปิดออกดูพบพระปิดตาเพชรหลีกที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้ต้งแต่ปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่พระอาจารย์กล่อมกดพิมพ์เองและทำการปลุกเสกแต่เพียงลำพัง ท่านตั้งชื่อไว้ว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่ท่านแจกไปไม่มากทำให้พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งทางวัดไปขุดค้นพบฝั่งอยู่อีกสองไห มีพระปิดตาภควัมเพชรหลีกอยู่ ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก คะเนดูว่าน่าจะมีพระอยู่ประมาณเกือบหมื่นองค์ แต่บางส่วนชำรุดไปตามกาลเวลา หากองค์ไหนยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็ได้นำออกมาให้ประชาชนที่สนใจเช่าบูชา โดยทางวัดเปิดให้เช่าเองตั้งแต่วันที่๑๓-๑๔ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบันพระปิดตาหูแร่ได้หมดไปจากวัดแล้ว พระปิดตา"เพชรหลีก"หลวงพ่อกล่อม โกวิโท วัดหูแร่....เป็นอีกหนึ่งสุดยอดพระปิดตามหาลาภจากดินแดนทักษิณ........... โดดเด่นอย่างเอกอุทางโชคลาภค้าขาย.............สร้างน้อย หายาก ของแท้นั้นแข้งและเข่าพระต้องหนาสูงชัน ขอบพระจะบางคม หลังกระดานไม่มีรอยปาด แต่เหมือนกดลงกับแผ่นกระดานเรียบๆ ใต้ฐานมีรูไม้แบน เสียบแคะพระออกจากแม่พิมพ์ เนื้อค่อนข้างแห้ง กรอบ ขึ้นไขว่าน สร้างจากธนบัตรที่แบงค์ชาตินำมาเป็นส่วนผสมเพื่อเอาเคล็ด ทำให้เด่นทางด้านการเงินโดยเฉพาะ ลองซะให้ได้ แล้วจะติดใจ..... คิก ๆ พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ ธนบัตรชำรุด และคาถาพุทธคุณหลายชนิดที่พระอาจารย์กล่อม เขียนขึ้นเองและผงพุทธคุณจากพระอาจารย์บุญ ชินวาโร อดีตเจ้าอาวาสที่เก็บรักษาไว้ เป็นมวลสารในการจัดสร้าง พระอาจารย์กล่อมทำการปลุกเสกและกดพิมพ์เอง โดยพระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า พระภควันเพชรหลีก แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก เป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เมตตาอันดับสอง รองจาก หลวงพ่อจันทร์ เกาะโฉลกหลำ เป็นพระปิดตาที่เป็นที่สุดทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภและค้าขาย เพราะพระของท่านมีส่วนผสมของว่าน ๑๐๙ ครบถ้วน เถ้าจากการเผาทำลายธนบัตรเก่าๆ ที่ชำรุด ได้รับบริจาคจากกรมธนารักษ์ สาขาหาดใหญ่นำมาผสมผสาน และผงพุทธคุณล้วนๆ จัดว่าเป็นพระปิดตาที่ขึ้นชื่อเปรียบประดุจดั่งพระของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ก็ไม่ปาน (ตำราระบุไว้อย่างนั้น) ถ้านำผงที่ขูดจากพระปิดตาวัดหูแร่ ไปผสมหรือใส่น้ำให้ผู้หญิงรับประทานก็ไม่ต่างกับเสน่ห์ยาแฝด(ในหนังสือพระ เครื่องเมืองใต้ฉบับโบราณระบุไว้ไว้อย่างนี้ ไม่มีเสริมไม่มีแต่ง หรือจะบดทำเป็นยารักษาโรคได้สารพัดชนิดโดยเฉพาะแมลง หรือ อสรพิษกัดต่อย ใช้ดีมากๆ พระของท่านจึงเหลือน้อย) ส่วนใหญ่ผู้ที่ทราบกิติคุณจะนำไปขูดใช้กัน ลองดูไม่ลองแล้วจะรู้จะทราบว่าจริงเท็จประการใด แต่ถ้าทำแล้วช่วยรายงานถึงผล..ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงจ้า พุทธคุณตามชื่อครับ '''สาวหลง''' เป็นที่ประจักชัดเจน เคยมีคนลองของขูดเอาผง ไปป้ายสาวก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ "ถึงกับต้องมีวลีต่อท้ายกันเลย หลังจากที่หลวงพ่อกล่อมท่านได้กำชับไว้ คือขูดผงแล้วต้องรับเลี้ยง" พระปิดตารุ่นนี้คนหาดใหญ่หวงมาก เพื่อนๆมีหลายคนแต่ผมบุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกัน จึงได้มาแบ่งให้ท่านพี่น้องแค่องค์เดียวครับ พระปิดตารุ่นนี้มวลสารที่ใช้สร้างน่าสนใจมาก เช่นธนบัตรเก่า ว่านที่คุณวิเศษอีกหลายชนิดฯลฯ มีประสบการณ์มากมาย ยังเป็นของดีภาคใต้ หากจะเปรียบให้ท่านเข้าใจง่ายๆก็คือ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ของชาวชลบุรี หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของชาวเมืองกาญจน์ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ ของชาวหาดใหญ่ ครับ
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    519. พระดีพิธีใหญ่ พระผงพิชิตมาร จัดสร้างโดยมูลนิธิธรรมธัช ปี2514(หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปลุกเสก) ให้บูชา 850 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-19_15-54-29.png
    พระผงพิชิตมาร ออกวัดท่าเกวียน จังหวัดฉะเชิงเทรา ปี 2514 จัดสร้างโดยมูลนิธิธรรมรัช หลวงปู่ทิมปลุกเสก
    รายนามพระคณาจารย์นั่งปรกวัตถุมงคล 108 รูป วัดท่าเกวียน ตำบลพนม อำเภอพนมสารคาม ฉะเชิงเทรา 14 มีนาคม พ.ศ.2514
    1.หลวงปู่คำมี ถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    2.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    4.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    5.หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค นครสวรรค์
    6.หลวงปู่ศรี วัดสะแก อยุธยา
    7.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    8.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าศาลาลอย ชุมพร
    9.หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม บุรีรัมย์
    10.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ระยอง
    11.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    12.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    13.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    14.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
    15.พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา นครศรีธรรมราช
    16.หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์
    17.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    18.หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ ร้อยเอ็ด
    19.หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม สมุทรสาคร
    20.หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    21.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
    22.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    23.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    24.หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    25.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    26.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    27.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี
    28.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    29.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพน
    30.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    31.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
    32.หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ นครพนม
    33.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
    34.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
    35.หลวงปู่ธูป วัดแค กทม.
    36.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    37.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    38.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    39.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา
    40.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช
    41.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่(อธิษฐานจิตมา)
    42.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    43.หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ราชบุรี
    44.หลวงพ่อนาถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    45.หลวงพ่อมี วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    46.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    47.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่
    48.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    49.หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
    50.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    51.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    52.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    53.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    54.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี
    55.หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงห์หาร อุดรธานี
    56.หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    57.พระครูเมตยานุรักษ์ วัดวชิราลงกรณ์ นครราชสีมา
    58.พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    59.พระวิบูลเมธาจารย์(เก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    60.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    61.พระครูกาญจโนปมคุณ(ลำไย) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    62.หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    63.พระครูไพศาลคณารักษ์ วัดไร่ขิง นครปฐม
    64.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
    65.หลวงพ่อสีหมอก วัดเขาวังตะโก ชลบุรี
    66.พระครูศรีสัตตคุณ วัดสัต***บ ชลบุรี
    67.หลวงปู่บุญทัน วัดประดู่ศรี ปราจีนบุรี
    68.พระวิสุทธาจารคุณ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    69.พระอาจารย์สุบิน วัดถ้ำไก่แก้ว นครราชสีมา
    70.หลวงพ่อมิ วัดสะพาน ธนบุรี
    71.พระครูพิชัยณรงค์ฤทธิ์ วัดคอกหมู กทม.
    72.พระอาจารย์บำเรอ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    73.พระญาณวิริยาจารย์ วัดธรรมมงคล กทม.
    74.พระครูพิทักษ์เขมากร วัดท่าเกวียน ฉะเชิงเทรา
    75.หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ฉะเชิงเทรา
    76.หลวงพ่อเม็ด วัดบึงกระจับ ฉะเชิงเทรา
    77.หลวงพ่อผิว วัดหนองบัว ฉะเชิงเทรา
    78.หลวงพ่อสาย วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    79.หลวงพ่อเฮง วัดอ่าวสีเสียด ฉะเชิงเทรา
    80.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
    81.หลวงปู่จันทร์ โฆสโก อุตรดิตถ์
    82.หลวงพ่ออินเทวดา วัดลาดท่าใหม่ จันทบุรี
    83.หลวงพ่ออินทร์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    84.หลวงพ่อกลั่น วัดอินทาราม อ่างทอง
    85.หลวงพ่อสาย วัดจันทรเจริญสุข
    86.หลวงพ่อไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี
    87.หลวงพ่อแดง วัดดอนยอ นครปฐม
    88.หลวงพ่อเพชร วัดดงยาง ฉะเชิงเทรา
    พระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสก นับว่าสุดยอดในยุคนั้นจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    520. พระแก้วมรกต เนื้อผงปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี 2534 ให้บูชา 550 บาท

    upload_2022-7-19_17-1-7.png

    upload_2022-7-19_17-1-13.png
    รวมสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์และการปลุกเสก หลวงปู่เกษม - หลวงปู่สิม – หลวงปู่หงษ์ร่วมเสกอาจารย์อนันต์ เป็นคนจัดสร้าง

    ปฐวีธาตุ ของดีที่ต้องมีไว้บูชา
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีพลังอิทธิฤิทธิ์ในตัวมันเองตามธรรมชาติ แบ่งออกเป็นตามธาตุต่างๆในธรรมชาติได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่รู้จักและเป็นข่าวกันอย่างหนาหูในช่วงนี้ได้แก่เหล็กไหลที่มีการเรียกตามถ้ำต่างๆนั้นก็คือธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งเช่นกัน ธาตุกายสิทธิ์นี้มีแบบให้คุณและให้โทษแก่ผู้ครอบครองนั้นๆล้วนแล้วแต่ว่าเป็นแบบไหน
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มาในลักษณะของหินที่อยู่ในแม่น้ำผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยหรือพันปีมาแล้ว ปฐวีธาตุมีความใสมาก หากเอามือไปรองจะเห็นมือผ่านหิน เมื่อได้หินนี้มาแล้วต้องผ่านการอธิษฐานจิตจากผู้บรรลุธรรมชั้นสูงจากสายปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น สายอาคมเวทย์มนต์เสกปฐวีธาตุไม่ได้ ปัจจุบันหากจะหาปฐวีธาตุมาบูชาไม่ง่ายนักเพราะมีคนหลอกหากินบนความศรัทธาเอาหินกรวดธรรมดามาหลอกขายเป็นปฐวีธาตุ ดังนั้นจึงไม่เกิดผลอันใดแก่ผู้บูชาเสียเงินเสียทองไปเป็นจำนวนมาก
    ข้อควรรู้เกี่ยวกับปฐวีธาตุ
    - เป็นหินแม่น้ำที่ต้องอยู่ในแม่น้ำที่มีน้ำไหลเท่านั้น มีความโปร่งแสง ค่อนข้างใส
    - เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม
    - ปลุกเสกจากพระปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น ไม่ใช่สายวิชาอาคมแต่อย่างใด เช่น หลวงปู่คำพันธ์ , หลวงพ่อประสิทธิ์ , เจ้าคุณนร

    วิธีบูชาปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นของมีฤทธิ์ในตัว บางตำราว่าเป็นหินที่เกี่ยวพันกับพญานาคราช พญานาคได้เตรียมหินเหล่านี้แก่พระอภิญญาเพื่อสร้างเป็นปฐวีธาตุ พระเกจิจึงนำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นพระเครื่องรุ่นต่างๆ เช่น หลวงปู่คำพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นของมงคลให้ใส่น้ำหรือเอาแช่น้ำ ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมเป็นการบูชาไว้ในที่สูง หรือ ห้องพระเพื่อการกราบไหว้สักการะในแต่ละวัน ขอโชคขอลาภก็ดีทั้งนั้น

    พุทธคุณของปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นธาตุกายสิทธิ์ซึ่งจะมีธาตุทั้ง 4 ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ในก้อนเดียวโดยการประจุเสกเข้าไปโดยพระเกจิเมื่อนำปฐวีธาตุมาใช้ให้อธิษฐานจิตเอาตามสุดจะปรารถนา สามารถกันภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติก็ดี เกิดจากมนุษย์ก็ดี ทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต (หลวงปู่คำพันธ์บอกว่าสามารถกันกันมันตภาพรังสีได้ทุกชนิด โปรดใช้วิจารณาญานด้วยนะคะ) ปฐวีธาตุที่จะเป็นก้อนเดี่ยวๆเลี่ยมห้อยคอหรือเป็นเม็ดเล็กๆโรยในพระเครื่องก็มีอานุภาพเท่ากัน หากจะหาของแท้ๆมาบูชาต้องหาจากที่มาดีๆจริงๆเท่านั้น
    หากได้ปฐวีธาตุมาบูชาให้แนะนำเลี่ยมแบบเปิดหน้าและหลังให้ปฐวีธาตุให้โดนสัมผัสกับไอร่างกายของผู้ที่บูชาซึ่งจะทำให้เชื่อมจิตและสื่อจิตไปถึงปฐวีธาตุง่ายขึ้น

    คาถาบูชาปฐวีธาตุ
    จุดธูป 7 ดอก
    "นะโม 3 จบ"
    "หิตะรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนคะเน 3 จบ"
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    521.พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ ยุคต้น (หายาก) เนื้อว่านสิริมหากาฬ พระอาจารย์นก เทพเจ้าแห่ง วัดเขาบังเหย จ.ชัยภูมิ ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-7-19_17-21-3.png
    พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย ท่านเป็นพระสายกรรมฐาน วัตถุมงคลของท่านประสบการณ์ มหาอุตม์ คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตาครบทุกด้าน พระสมเด็จเนื้อว่านสิริมหากาฬ ต้องหาว่านจากบนเขา และนำมาทำเองท่านจึงไม่ได้แจกใครง่ายๆครับ แจกฟรี แต่ต้องทำงานแลก คนที่ได้มา คนที่มีอยู่มักจะเก็บไว้กับตัว และหวงแหนมาก

    ติดตามอ่าน ประสบการณ์มากมายจากวัตถุมงคล หลวงพ่อนก ได้ตาม link นี้

    http://www.kaobanghoey.com
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    522. พระเนื้อดินบารมีสิบทัศน์ หลังยันต์ หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด จ.นครปฐม ยุคต้น ปี 2497 พิมพ์ใหญ่ ลงรักแดงทาทอง หายาก ให้บูชา 2850 บาท

    upload_2022-7-19_17-29-27.png

    พระสิบทัศน์ของหลวงพ่อวงศ์แห่งวัดทุ่งผักกูดนั้นสร้างก่อนพระสิบทัศน์ของหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม เนื้อหาก็ต่างกันเพราะของหลวงพ่อวงศ์เนื้อหาเป็นใบลานเก่าที่เป็นคัมภีร์โบราณแต่ชำรุดจนยากเกินบูรณะท่านได้นำมาเผาแล้วผงผงวิเศษที่ท่านเตรียมเอาไว้ ด้านหลังส่วนใหญ่จะมียันต์ มีขนาดใหญ่และเล็ก

    ท่านพระครูพรหมวิสุทธิ์ หรือ หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และในอดีตท่านยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ กำแพงแสน จ.นครปฐม ด้วย หลวงพ่อวงษ์ ท่านเป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมในสายของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก อีกทั้งยังได้รับคำยกย่อง จาก หลวงพ่อทา องค์อาจารย์ว่า หลวงพ่อวงษ์ ท่านนี้ ทำอะไรก็ขลังนัก ไม่แพ้ท่านแต่อย่างใด เสียดายที่อายุ ท่านยังไม่มากท่านมา มรณภาพก่อน เมื่ออายุท่านเพียง 60 กว่าปีเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้น ชื่อเสียงของท่าน คงจะโด่งดังไม่แพ้ องค์อาจารย์ของท่านอย่างแน่นอน.
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    523. เรื่องประสบการณ์ไม่เป็นรองที่ไหน คนพื้นที่หวงแหนเป็นที่สุด พระเนื้อดินพิมพ์ “สุคโต” หลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง จ.สิงห์บุรี พิมพ์ใหญ่ หลังจาร ให้บูชา 1850 บาท

    upload_2022-7-19_19-30-23.png


    แต่ก่อนพระของหลวงปู่โต๊ะ ที่เมืองอินทร์บุรี มีให้เห็นมาก ราคาไม่สูง เพราะ ที่วัดกำแพง หลวงปู่ฯท่านแจกฟรี (เนื้อดิน) เวลาผ่านมานี้ กลับมีให้เห็นน้อย และราคาเริ่มแพง คนเริ่มได้ยินประสบการณ์ ก็เริ่มเสาะแสวงหา แต่ที่เมืองอินทร์บุรีเค้ารู้กันมานานว่าพระหลวงปู่โต๊ะมีพุทธคุณทางนิรันตรายสูง ถ้าเห็นพระพุทธรัตนปราการ(สามพี่น้อง) ตั้งอยู่หน้ารถ ก็เดาได้ว่าไม่รถคนเมืองอินทร์ ก็รถคนตาคลี
    สมัยหนึ่งมีเรื่องเขาเล่าว่าตำรวจอ่างทอง มาถามหาเช่าพระหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง ที่อินทร์บุรี สอบถามไปได้ความว่า เพราะตำรวจไปล้อมจับโจร แล้วอยู่ๆ โจรก็หายตัวไปจากวงล้อม ตำรวจเลยตั้งจิตอธิษฐานว่าหากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษาโจรอยู่ จงปล่อยให้โจรได้ชดใช้กรรมชั่วที่ได้ก่อเอาไว้ ทันใดนั้นจึงเห็นแสงสะท้อนจากดงหญ้า ไปค้นดูเลยเจอโจรนั่งซุ่มจับกอหญ้าอยู่ เลยจับโจรได้ ซักไซร้ดูเลยรู้ว่าพระที่ห้อยคอ เป็นพระหลวงพ่อโต๊ะ วัดกำแพง อินทร์บุรี ตำรวจเลยตามมาหาเช่าพระเนื้อดิน หลวงพ่อโต๊ะ เพราะมีพุทธคุณด้านกำบัง
    .... นอกจากนี้ ยังมีเรื่องพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี ที่พูดกันปากต่อปาก ว่าพระหลวงปู่โต๊ะนั้น เหนียวมาก สมัยตอนหลวงปู่ฯอยู่ท่านเคยให้ลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งไปคล้องพระพิมพ์ลีลา ลูกศิษย์ท่านไปซื้อข้าวโดนยิงด้วยลูกซองเต็มหลัง แต่ไม่เข้า หน้าทิ่ม พอยิงอีกทีปืนแตกใส่หน้าคนยิ่ง หลวงปู่ฯท่านอยู่ที่วัด ท่านพูดกับเณรที่อยู่ด้วยว่าศิษย์ท่านถูกยิง เณรถามว่าเป็นไรไหม หลวงปู่ท่านพูดไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มา สักพักมาเสื้อข้างหลังพรุนหมดแต่ไม่เป็นไรเลย หลวงปู่ฯท่านเอาพุทธลีลาที่คอศิษย์มาลูบคลำแล้วคืนให้ แล้วบอกว่าเก็บไว้ให้ดี
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    524. พระหายาก เนื้อเก่าจัดจ้าน สุดยอดพระดีแห่งเมืองกรุงเก่า สมเด็จปรกโพธิ์เข่าตัด รุ่นแรก (นิยม) หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง จ.อยุธยา ปี 2495 ให้บูชา 2500 บาท


    upload_2022-7-19_19-36-48.png

    upload_2022-7-19_19-44-34.png

    พระผงของหลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง ที่ท่านได้สร้างไว้ มี 4 รุ่น รุ่นแรก สร้างปี 2495 เป็นพระสมเด็จองค์ขนาดย่อมเนื้อพระออกเหลืองอมขาวแห้งแกร่งพระบางองค์เนื้อจัด พิมพ์พระ มีทั้งสมเด็จปรกโพธิ์พิมพ์เข่าบ่วง สมเด็จปรกโพธิ์เข่าตัด (หรือที่คนพื้นที่เรียกว่า เข่าขาด) บางองค์จัดทำพิเศษโดยฝั่งตะกรุดทองไว้ที่ฐานทั้งสามชั้นของพระซึ่งมีจำนวนน้อยมาก

    มีเรื่องอัศจรรย์เล่ากันว่าท่านแผ่เมตตาจนกระทั่งกายังเชื่องกับท่านซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่หลวงพ่อทำให้คนเชื่อได้ทำให้ประชาชนในละแวกวัดบ้านช้าง ละแวกใกล้เคียงและต่างจังหวัดมีความเลื่อมใสและศรัทธาเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งเรื่องเล่าว่ากันว่าหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เคยได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังหลังกลับจากการร่วมพิธีปลุกเสกมหาพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลจตุรพิธพรชัย ที่วัดรัตนชัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ว่า พระวัดกลาง อ.ท่าเรือ (หลวงพ่อนอ)มีคุณวิเศษในทางมหาอุตม์เป็นเลิศพระวัดบ้านช้าง อ.วังน้อยฯ (หลวงพ่อออด) มีความเข้มขลังทางคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะว์จะหลุดลอยออกมาจากในปาก พระวัดโบสถ์ ลพบุรี(หลวงพ่อพริ้ง) มีดีทางแคล้วคลาด กำบังภัยอย่างยอดเยี่ยม
     

แชร์หน้านี้

Loading...