พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    525.พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ รุ่นฉลอง 700 ปี ลายสือไทย หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักณ์ จังหวัดลำปาง ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-7-19_19-54-22.png

    upload_2022-7-19_19-54-49.png


    พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ รุ่นฉลอง 700 ปี ลายสือไทย หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักณ์ จังหวัดลำปาง เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ หลังหลักศิลาจารึก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2526 เนื่องในงานฉลองที่ประเทศไทยมีตัวหนังสือใช้เป็นของตนเองมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วาระครบ 700 ปี

    ผู้จัดสร้างนำความขึ้นกราบเรียนขออนุญาตจัดสร้างกับหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น 700 ปี ลายสือไทย หลวงพ่อเกษมจึงอนุมัติอนุญาตให้สร้างในทันทีด้วยความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็น ที่สุดและท่านยังได้พูดกับคนใกล้ชิดก่อนอีกด้วยว่า “พิธีนี้ เราจะเบ่ง(พลังปลุกเสก)ให้เป็นพิเศษ

    ด้านพิธีพุทธาภิเษกนับได้ว่าเป็นพิธีใหญ่ มีเกจิร่วมสมัยมาปลุกเสกหลายรูป อาธิเช่น หลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อจวน หลวงพ่ออุตตมะ หลวงพ่อไพฑูรย์ และอีกหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกนั้นก็มี หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

    พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 3 วาระ
    ครั้งที่ : 1

    - เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2526 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม

    ครั้งที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2527 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม อีกวาระ

    ครั้งที่ : 3
    - เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2527 ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปลุกเสกโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก

    พุทธคุณ
    - เด่นครบเครื่องทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย และทางด้านแคล้วคลาดจากภัยอันตรายอีกด้วย

    หลวงพ่อเกษม เขมโก
    เดิมมีนามว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง ประสูติ เมื่อ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 เป็นบุตรใน เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ) รับราชการเป็นปลัดอำเภอ กับ เจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง และเป็นราชปนัดดาในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

    หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป

    หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ ติดยึดในกิเลสทั้งปวง หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ถึงแก่พิราลัย ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่สานุศิษย์ทั่วประเทศ
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    526. พระสมเด็จเงินล้าน วัดพรหมรังษี บางขุนเทียน รุ่นสามเหล่าทัพ ปี 2522 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-7-19_21-14-2.png

    พระสมเด็จเงินล้าน พิมพ์พระประธาน วัดพรหมรังษี บางขุนเทียน รุ่นสามเหล่าทัพ ปี 2522
    พลโท อำนาจ ดำริกาญจน์ แม่ทัพภาค1 เป็นประธานกรรมการจัดสร้าง โดยประกอบพิธีพุทธาภิเศก ณ.วัดพรหมรังสี 2 ครั้ง คือ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2521 ซึ่งตรงกับวันจักรี และ ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2521 ซึ่งตรงกับวันฉัตรมงคล โดยมีเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นร่วมประกอบพีธีด้วยเป็นจำนวนมาก อาทิ
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงปู่ดี วัดพระรูป
    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เป็นต้น

    เนื้อพระมีส่วนผสมของผงธนบัตรชำรุดที่จ่ายคืนคลังแล้วจำนวนหลายสิบล้านบาทนำมาเผาบดผสมกับผงว่านต่างๆกว่านับร้อยชนิด ไคลพระเจดีย์ที่สำคัญทั่วทุกภาค ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและปรินิพาน และผงวิเศษจากคณาจารย์ต่างๆที่มีชื่อเสียงในขณะนั้นทั่วประเทศ นำมากดพิมพ์สร้างเป็นพระรุ่นนี้ขึ้น เนื่องจากเนื้อพระมีส่วนประกอบเป็นเถ้าถ่านของธนบัตรจำนวนมากจึงทำให้มีสีดำสนิทและเป็นที่มาของชื่อพระชุดนี้ที่เรียกว่า “สมเด็จเงินล้าน
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    527.พระสมเด็จวัดพระพุทธบาท เนื้อผงน้ำมัน จ.สระบุรี ปี 2519 พิธีใหญ่ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ปลุกเสก ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-7-19_21-18-35.png
    พระสมเด็จวัดพระพุทธบาท สระบุรี ปี 2519 เนื้อผงน้ำมัน พระรุ่นนี้มีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกัน เมื่อทำการกดพิมพ์พระเป็นจำนวนพอแก่ความต้องการแล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเศกที่ศาลาหอเย็นใกล้รอยพระพุทธบาทในปี พ.ศ.๒๕๑๙ ได้ทำพิธีใหญ่มากเกจิอาจารย์ที่มาร่วมในพิธีเท่าที่ทราบมีดังนี้

    1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2. หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    3. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    4. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ฯลฯ และคณาจารย์ดัง ๆในยุคสมัยนั้น ร่วมปลุกเสกกันมากมาย พิธีใหญ่ พุทธคุณยอดเยี่ยม
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    528.สุดยอดของดี!!! พระผงของขวัญ ขุนแผนสะกดทัพ หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี ปี 2525 ให้บูชา 1150 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-19_21-41-9.png


    upload_2022-7-19_21-47-1.png

    ขุนแผนสะกดทัพ หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี ปี พ.ศ.2525 พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังประทับรูปเหมือนหลวงพ่อ เนื้อโทนสีม่วง โทนสีดำ โทนสีชมพู โทนสีน้ำตาล และ อีกหลากหลายโทนสี.
    ขุนแผนสะกดทัพของหลวงพ่อยงยุทธ เป็นเอกลักษณ์วัตถุมงคลของวัดเขาไม้แดง มีการจัดสร้างออกมาหลายครั้งหลายวาระ และได้รับความนิยมมากในหมู่ลูกศิษย์และนักสะสมตลอดจนประชาชนทั่วไป ซึ่งที่นิยมและรู้จักแพร่หลายจะมีด้วยกัน 3 รุ่นหลัก ๆ คือ ยุคแรกราวปี 2507-09 ได้รับความนิยมสุดและหาตัวจริงได้ยากมาก รุ่นที่สร้างในปี 2521 (รุ่นนี้ได้ฤกษ์กดพิมพ์พระตอนจันทรุปราคาเต็มดวง) และ รุ่นที่สร้างในปี 2525 แล้วยังมีรุ่นหลัง ๆ ที่สร้างออกมาอีกหลายครั้งเนื่องจากขุนแผนสะกดทัพเป็นวัตถุมงคลที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของสำนักวัดเขาไม้แดง.
    ขุนแผนสะกดทัพ ที่จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2525 จัดเป็นของดีราคาเบา และ เป็นรุ่นที่มีจำนวนการจัดสร้างมากที่สุด เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อความต้องการของศิษยานุศิษย์ และ เพื่อแจกจ่ายเป็นของที่ระลึกตามงานบุญวาระต่าง ๆ ของทางวัดให้แก่ประชาชนทั่วไปที่เคารพและศรัทธาต่อหลวงพ่อ ทั้งนี้จึงได้มีการจัดสร้างด้วยกันหลายแบบหลายเนื้อ มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก แบบสามเหลี่ยม และ พระผงของขวัญ แบบสี่เหลี่ยม ด้านหลังมีทั้งแบบประทับรูปเหมือนหลวงพ่อ , แบบหลังประทับยันต์จม , แบบหลังเรียบ และ แบบหลังจารก็มีพบเจอ อีกทั้งเนื้อหามวลสารก็จะมีด้วยกันหลายโทนสี เช่น โทนเนื้อสีดำ , สีขาว , สีม่วง , สีเขียว , สีแดง , สีชมพู และ สีน้ำตาล ซึ่งในโทนสีของแต่ละเนื้อก็ยังมีความแตกต่างกันออกไป เข้มบ้าง อ่อนบ้าง ตามแต่มวลสารของแต่ละครกที่ผสมโดยไม่ได้มีสูตรตายตัว เนื่องจากได้ทำการผสมมวลสารและกดพิมพ์กันเองภายในวัดโดยมีพระเณรลูกวัดช่วยกันดำเนินการ โดยมีหลวงพ่อคอยควบคุมดูแลและให้คำแนะนำอยู่ตลอด.
    พุทธคุณของขุนแผนสะกดทัพนี้นอกเหนือจากจะเป็นมหาเสน่ห์แก่เพศตรงข้ามแล้ว ยังมีพุทธคุณที่โดดเด่นเป็นเลิศทางด้านเมตตามหานิยมและเป็นเลิศด้านการต่อสู้ การศึก (ยุคนี้ใช้ต่อสู้การศึกในธุรกิจและค้าขาย) โดยได้สร้างเป็นรูปทหารโบราณ แต่งองค์ทรงเครื่อง สะพายดาบฟ้าฟื้น ในท่านั่งปางมารวิชัยบนฐานบัวหงาย โดยมีนางพิมพ์พิลาไลยและนางบัวคลี่ขณะตั้งครรภ์นั่งพนมมือสยบให้อยู่ทั้งสองข้าง (ทั้งสองคือเมียขุนแผน) มีตำนานที่มาจากตำนานของขุนแผนหรือพระยากาญจน์บุรี ขุนศึกผู้เป็นนักรบและนักรักในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีตำนานเล่าขานมาช้านาน.
    ขุนแผนสะกดทัพมิใช่เป็นเพียงชื่อเรียกของรูปเคารพขุนแผนเท่านั้น แต่ยังเป็นวิทยาคุณที่มีเคล็ดลับในการลงการเสกอย่างแยบยล มีอานุภาพขลังขนาดที่ทำให้คนหลับใหลได้ทั้งกองทัพแม้จะมีนับร้อยหรือนับพันก็ตาม ซึ่งการปลุกเสกวัตถุมงคลตามแบบฉบับของหลวงพ่อนั้นศิษย์ในสายจะทราบกันดีว่าท่านจะขอบุญบารมีและอัญเชิญเจ้าของวิทยายุทธของวัตถุมงคลนั้น ๆ มาช่วยปลุกเสกให้ ซึ่งขุนแผนสะกดทัพนี้ก็เช่นกัน โดยหลวงพ่อยงยุทธท่านได้ทำพิธีอธิษฐานจิตด้วยการดึงเอาฤทธาของขุนแผนรูปงามในกาลนั้นลงมาประจุในรูปเคารพขุนแผนนี้ เพื่อให้พุทธคุณขององค์ขุนแผนสะกดทัพที่ปรากฏนั้นมุ่งเน้นความเป็นเลิศในด้านเมตตามหานิยมและความอยู่ยงคงกระพัน แฝงไว้ด้วยมหาอำนาจบารมี ตามความหมายของสะกดทัพ คือระงับได้ในทุก ๆ เรื่องราว สะกดได้ในทุก ๆ สิ่ง จะประกอบกิจการ การค้าหรือการงานใด ๆ ที่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน จักต้องเป็นผู้ชนะเฉกเช่นขุนแผน!!
    อุปมาอุปไมย...ดั่งเมื่อครั้งที่ขุนแผนออกรบแล้วได้ร่ายเวทย์มนต์สะกดกองทัพพลพรรคของศัตรูให้หลับไหลไม่สมประดี จะทำอะไร ๆ ก็ได้ตามใจชอบ ไม่มีผู้ใดสามารถสู้รบต่อกรได้เลย โดยขุนแผนท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านพระเวทย์วิทยาคม มีความชำนาญในด้านการรบ ทั้งในการผูกหุ่นพยนต์สู้ศึก วิชาเสกมนต์ควบคุมเลี้ยงเหล่าโหงพรายและการเสกกุมารทองอันเลื่องชื่อ ออกรบคราใดมีแต่ชัยชนะ จึงเป็นที่มาของคำว่า "ขุนแผนสะกดทัพ" แล้วหลวงพ่อท่านยังได้บอกกับศิษย์ใกล้ชิดว่า..." ครัวเรือนใดที่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัวและอยู่กันไม่มีความสุข (เปรียบเสมือนศึกภายใน) ให้นำขุนแผนสะกดทัพนี้ไปติดไปแขวนไว้ในบ้าน จักสะกดเรื่องราวที่เดือดเนื้อร้อนใจเหล่านี้ลงได้ " และ ท่านยังเคยบอกกับลูกบุญธรรม (เณรตู่ ขออนุญาติที่เอ่ยนาม) ว่า..." ขุนแผนสะกดทัพนี้สามารถอธิษฐานขอพรจาก #กุมารทอง ที่อยู่ในท้องนางบัวคลี่ได้อีกด้วย " (บูชาหนึ่งได้ถึงสี่ พร้อมหน้าพร้อมตา อิอิ)
    พระเหนียวยังหาได้ พระเมตตาโชคลาภยังพอมี แต่ครัวเรือนใดมีปัญหาภายในถึงมั่งมีทรัพย์สินเพียงใดย่อมหาความสุขมิได้เลย และนี่จึงเป็นที่มาของพุทธคุณอันเป็นเลิศ.....หนึ่งในวัตถุมงคลของสำนักวัดเขาไม้แดงที่ต้องมีไว้ในครอบครอง!!
    คาถาบูชาขุนแผนสะกดทัพ นะโม3จบ
    ขุนแผนอิมัง ตะถังคาถัง ขุนแผนเมตตาคุนัง
    เอหิมะมะโต มะมะโต



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    529. สมเด็จหน้าทอง รุ่นแรก หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ (วัดศรีสวรรค์สังฆาราม) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปี 2516 ให้บูชา 1000 บาท


    upload_2022-7-20_12-19-40.png
    พระครูนิมิตนวกรรม" หรือ "หลวงพ่อสมควร วิชชาวิสาโล" วัดศรีสวรรค์สังฆาราม (วัดถือน้ำ) ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นพระเถระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ผู้มีเมตตาจิตสูง รักสันโดษ มีความเชี่ยวชาญในการวิปัสสนากรรมฐานและศาสตร์ต่างๆ ชาวนครสวรรค์ต่างเคารพในวัตรปฏิบัติของท่าน ถึงกับให้สมญานามว่า "เทพเจ้าแห่งค่ายจิรประวัติ"

    "หลวงพ่อสมควร วิชชาวิสาโล" เจ้าอาวาสวัดศรีสวรรค์สังฆาราม (วัดถือน้ำ) นามเดิม สมควร สุริยประภา เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2459 ตรงกับวันเสาร์ แรม 11 ค่ำ ปีมะโรง ณ บ้านเลขที่ 42 หมู่ 5 ต.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา บิดาชื่อนายเซ็นแนน มาราดชื่อนางสุพันธ์ สุริยประภา

    บรรพชา และอุปสมบท เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2479 ณ อุโบสถวัดลำดวน ต.ในเมือง อ.พระตะบอง จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังจากบรรพชา-อุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาบาลี สอบได้นักธรรมโท และศึกษาปฏิบัติธรรมแล้วออกเดินธุดงค์นานกว่า 30 ปี ทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศไทย

    พ.ศ.2492 เป็นเจ้าอาวาสวัดสาละวัน จ.นครปฐม พ.ศ.2507 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสวรรค์สังฆาราม สร้างโรงเรียนวัดศรีสวรรค์สังฆาราม สร้างโรงเรียนวัดเขาพระยาพายเรือ จ.อุทัยธานี บูรณะก่อสร้างวัดเขาหินเทิน จ.อุทัยธานี สร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลค่ายจิระประวัติ

    ท่านได้ ศึกษาพระธรรม คาถาอาคม และปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์คิมออม วัดโพนโด่ง พระอาจารย์ถังฮาย วัดจงโกรม ประเทศเวียดนาม ศึกษาคาถาอาคมจากพระครูแลน วัดมะถัก จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา และศึกษาการทำตะกรุด ผ้ายันต์กับพระอาจารย์ซิว วัดลำดวน ศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพระธรรมจริยาพฤติ เจ้าคณะจังหวัดพระตะบอง

    นอก จากนี้ยังได้ศึกษาปฏิบัติจิต ทำสมาธิและคาถาอาคมกับอีกหลายอาจารย์ในช่วงระหว่างเดินธุดงค์

    หลวง พ่อสมควรเดินทางเข้าประเทศไทย พ.ศ.2487 ออกเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศไทยได้พบพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมาย ได้ศึกษาแลกเปลี่ยนวิชาอาคมและเคยเรียนวิชากับหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมายเพื่อแจกจ่ายให้ทหารไปรบ ให้ประชาชนไปบูชา
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    530. สมเด็จพระธรรมจักร เนื้อผงน้ำมัน รุ่นแรก หลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ ปีพ.ศ.๒๔๙๒ หายาก ให้บูชา 999 บาท

    upload_2022-7-20_12-30-50.png


    สมเด็จพระธรรมจักร เนื้อผงน้ำมัน รุ่นแรก หลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ ปีพ.ศ.๒๔๙๒ หายาก หลวงพ่อโบ ฐิติญาโณ วัดโคกหิรัญ จ.อยุธยา (เจ้าตำรับ น้ำมนต์เดือด) คือน้ำมนต์จินดามณี เด่นทางเมตตาต้าขาย

    "เจ้าตำรับน้ำมนต์เดือดเมืองกรุงเก่า" หลวงพ่อโบ ฐิติญาโณ วัดโคกหิรัญ จ.อยุธยา พระผงน้ำมันของท่าน จัดสร้างขึ้นใน ปีพ.ศ.๒๔๙๒ เป็นพระแบบกดพิมพ์ด้วยมือ องค์พระส่วนใหญ่จะเกิดการแตกร้าวจากการรัดตัวของเนื้อมวลสาร ผิวด้านนอกแลดูชุ่มช่ำน้ำมันแต่แห้งสนิด เนื้อในค่อนข้างแกร่ง หลวงพ่อโบ ท่านเก่งทางด้านเมตตา มหานิยม วิชาที่ขึ้นชื่อของท่านคือ การทำน้ำมนต์ ที่ชื่อว่า "น้ำมนต์จินดามณี " ให้คุณทางเมตตาค้าขายดีนัก เป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าสมัยนั้นอีกวิชา คือ การทำผงแป้งผัดหน้า เป็นเมตตา มหานิยม ซึ่งท่านใช้ผงนี้ใส่ลงในพระผงของท่านอีกด้วย เชื่อกันว่า ใครได้ผงแป้ง หลวงพ่อโบ หรือ มีพระผงหลวงพ่อโบ จะมีเมตตา มหานิยม เป็นที่รักใคร่ เมตตา ของคนทั้งหลาย ทั้งหญิงชาย ทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ ไปไหนก็มีคนรักใคร่เมตตา ซึ่งเป็นวิชาเด่นของท่าน
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    531.พระดีพิธีใหญ่ พระเนื้อดิน พิมพ์พระรอด ค่ายอดิศร สระบุรี ปี ๒๕๑๔ ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-7-20_12-35-3.png

    พิธีค่ายอดิศร การจัดสร้างปี 2514 วัตถุประสงค์เพื่อมอบให้แก่ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินร่วมสมทบทุน สร้างโรงพยาบาลอดิศร จ.สระบุรี การดำเนินการจัดสร้างครั้งนี้ได้ทำการรวบรวมแผ่นยันต์ชนวนมวลสารโลหะจาก คณาจารย์ทั่วประเทศ ออกแบบวัตถุมงคลโดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ ผู้ควบคุมและเป็นเจ้าพิธีในการหล่อพระกริ่งคือ พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา

    นับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกอันยิ่งใหญ่มากๆ พิธีหนึ่งแห่งยุคนั้น ที่ไม่เป็นรองใคร โดยมีพิธีพุทธาภิเษกเดียวกันกับพระกริ่งตากสินเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2514 เริ่มปลุกเสก 19.30 น. ถึง 06.10 น. (ปลุกเสกข้ามคืน) โดยมี พล.อ เปรม ติณสูลานนท์ (ยศ ขณะนั้นยังเป็นพลตรี ตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดทหารบก สระบุรี)เป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส ได้มีการผสมเนื้อชนวนมวลสารโลหะจากบรรดาคณาจารย์ต่างๆทั่วประเทศเพื่อสร้าง พระเทริดขนนก อีกทั้งยังได้ผสมผงมวลสารวิเศษต่างๆจากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างพระเนื้อผงนางพญา และพระสมเด็จในคราวนี้ด้วย บรรดาครูบาอาจารย์มากันทั่วประเทศถึง 79 รูป ดังต่อไปนี้

    สมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์
    หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
    หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
    หลวงปู่สาม วัดไตรวิเวก
    หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
    หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย
    หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
    หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
    หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ
    หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
    หลวงพ่อ คร้าม วัดกุ่มหัก
    หลวงพ่อเกษม เขมโก
    ฯลฯ

    เรื่องเล่าพิเศษจากพิธีปลุกเสก

    เรื่องมีอยู่ว่าคนรุ่นเก่ารวมทั้งอนุศาสนาจารย์ประจำค่ายอดิศรบอกว่าเรื่องที่น่าแปลก คือ หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปางเมตตารับนิมนต์มา "มนต์"พระให้ด้วยครับ แต่พอสอบถามไปทางเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง และคณะศิษย์รับใช้ ปรากฏว่า หลวงปู่อยู่ประจำที่สุสานไม่ได้ออกไปที่ไหนเลยโดยเฉพาะวันที่ประกอบพิธีพุทธาภิเษกนั้นหลวงปู่ยังรับแขกอยู่ที่สุสานเลย คนเป็นพยานกันนับร้อย แต่ที่งานค่ายอดิศร คนก็เป็นพยานได้นับร้อยเช่นกันว่าหลวงปู่เกษมมาเรื่องจึงกลายเป็นว่า "ต่างคนต่างจริง" ไปได้อย่างน่าประหลาด..."
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    532. ยุคแรกๆของหลวงพ่อคูณครับ พระปิดตา หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ยุคแรก หลังพระสิวลี ปี 2517 อุดกริ่งตะกรุด สร้างน้อย พระทุกองค์หลวงพ่อคูณจะจารตะกรุด แล้วม้วนบรรจุกริ่งก่อนม้วนปิด บรรจุอยู่ภายใน จำนวนการสร้างแค่ 400 องค์ ให้บูชา 2,000 บาท

    upload_2022-7-20_12-52-53.png

    upload_2022-7-20_12-53-8.png

    upload_2022-7-20_12-53-16.png
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    533. พระยุคต้นของท่าน สมเด็จสาวหลง เนื้อขาว หลังยันต์ วัดเภตราสุขารมณ์ ระยอง ผสมผงบางขุนพรหม และผงของ หลวงปูทิม วัดละหารไร่ หลวงปูทิม ท่านร่วม ปลุกเสก ปี 2508 แก่ผงเก่าบางขุนพรหม ให้บูชา 3,000 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-20_13-30-13.png

    upload_2022-7-20_13-30-19.png

    สมเด็จสาวหลง วัดเภตราสุขารมณ์ ระยอง ผสมผงบางขุนพรหม และผงของ หลวงปูทิม วัดละหารไร่ หลวงปูทิม ท่านร่วม ปลุกเสกอย่างเอกอุจนมืดค่ำท่านกลับวัดเป็นองค์สุดท้าย ท่านกลับวัดยังไงไม่รู้ ไม่มีใครไปส่งอยู่ๆท่านกลับเอง หลายๆสิบกิโลเกือบ40 กิโล พระวัดเภตรา เริ่มสร้างพระเครื่อง มาตั้งแต่ปี 2508 นิมนต์หลวงปู่ทิมปลุกเสก 2 ครั้ง คือปี 2508 กับปี 2511 ตอนนั้นหลวงพ่อโต่ง ท่านเป็นเจ้าอาวาส

    สมเด็จ สาวหลง ของวัด เภตราสุขารมย์ ต.เพ จ.ระยอง สร้างโดย หลวงพ่อโต่ง (พระครูภาวนาวิมล) เจ้าอาวาสวัดเภฯ นะครับ ที่ว่า ชื่อสาวหลง นี้เพราะเหตุผลดังนี้ครับ
    1 สมัยก่อนนั้นที่เขา ปากทางเข้าบ้านเพ มี ว่านสาวหลง เยอะมาก ๆ หลวงพ่อท่านเลย เอามาผสม สร้างพระและผสมเยอะ เหตุผล พระหลวงพ่อท่าน เคยมีพระเก่าเยอะ แต่มีคนมาขอ ท่านก็ให้ไป จนหมด ไปที่ไหน ถ้ามีพระเก่ง ๆ ให้พระมา ท่านก็แจกคนที่มาขอไปจนหมดอีก หาให้คนมาขอไม่ได้ จึงคิดว่า ควรจะสร้างเอง แต่ตอนนั้นท่านยังพรรษาไม่มากนัก และยังเสกพระเองไม่ค่อยได้ จึงได้สร้างพระสมเด็จนี้ขึ้น แล้วนิมนต์พระในละแวกนั้นมาปลุกเสก เพื่อแจกฟรี กับคนที่มาขอ



    2 คนพื้นที่ได้ไปบูชาแล้วก็ดี ทางด้านเมตตา ตามชื่อว่าน จริง ๆ คนที่นั้นก็เลยเรียก สมเด็จนี้ว่า สาวหลง กันอย่างเต็มปาก และนิยมกันในหมู่ คนเถ้าคนแก่ ที่นั่น
    เรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น เมื่อหลายปีก่อนผมไปที่ บ้านเพ บ่อยมาก ๆ (เล่นดนตรีที่นั่น) ก็ได้ยินคนที่นั่นเค้าพูดกันว่า สมเด็จสาวหลง ๆ ก็รู้สึก งง ๆ และตลก คิดว่าเค้าพูดเล่นกัน จะได้ยินคนแก่ ๆ ที่นั้นพูดจึงได้ลองถาม ๆ ดู ปรากฏว่า เป็นเรื่องจิง และพระผู้สร้างก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มากแล้ว ประมาณ 80 กว่า ๆ ได้ จึงได้แวะเข้าไปกราบท่านที่วัด ไปกันสามคน รู้สึกประทับใจมาก กับหลวงพ่อองค์นี้ ท่านสอน ท่านเมตตา ใจดี (แต่หน้าและเสียงดูดุมาก ๆ ) พูดคุย ท่านสอนธรรมมะ รู้สึกประทับใจท่านอยู่ลึก ๆ ท่านไม่เห็นแก่เงิน เลย และเมตตาต่อคนแปลกหน้าอย่างผมและเพื่อน ๆ อย่างอบอุ่น กันเอง ทั้งที่ท่านป่วยอยู่และก็แก่มากแล้ว ยังยิ้มแย้ม ก่อนเข้าไปกราบท่านก็ได้เข้าไปดูในวิหาร เห็นมีสมเด็จองค์นี้อยู่ 7 องค์ (เหลืออยู่ในขณะนั้น) ราคา องค์ ละ 1000 บาท ทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะ เต็มตู้ที่ ล็อกกุญแจไว้ ผมก็ได้แต่ ยืนมอง พอกราบท่านเสร็จ ก็เอ่ยปากขอท่านตรง ๆ เลย บอกว่าผมอยากได้ไว้บูชา แต่ยังเรียนอยู่ ฐานะก็ไม่ดี ท่านบอกว่า อันนั้นไม่ใช่ของท่านแล้ว กรรมการเค้าดูแลอยู่ ไม่อยากไปก้าวก่าย เราก็คิดว่า แห้ว ก็กราบลาแล้วเดินออกมาจากวัด ระหว่างที่เดินกลับนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ก็ร้องเรียก และกวักมือให้เดินกลับไปหา พอไปถึง ผู้ช่วยฯ ได้หยิบพระ สมเด็จมาให้ สามองค์ คนละองค์ และบอกว่า หลวงพ่อ ท่านบอกให้เอามาให้ จะได้ไม่ผิดหวังแต่ รุ่นนี้ไม่ใช่ รุ่นในวิหารนะ (ในวิหารเป็นรุ่นแรก) เป็นรุ่น 3 เสกอีก 253…กว่า ๆ ผมจึงเดินกลับไปดูเมื่อได้รู้ว่า นั่นคือรุ่นแรก ที่คนเถ้าคนแก่ แถบนั่น ล่ำลือ และคิดในใจว่า วันนึงจะได้หาให้ได้ และสุดท้ายก็ได้มา (คือองค์ในรูปที่โพสไว้) หลังจากนั้นเวลาไปเล่นดนตรีที่นั่น ก็จะไปกราบท่านประจำ จนท่านและ ผู้ช่วยจำผมได้ เคยนั่งคุยกะท่านหลายครั้ง จนได้รับคำยืนยันจากปากท่านว่า สมเด็จสาวหลงรุ่นแรก นี้ สร้างเมื่อปี 2507 อันเนื่องมาจาก เหตุผลที่ 1 โดยได้นิมนต์ พระเก่ง ๆ ในสมัยนั้นมากเสก10 รูป 1 ในนั้นมีหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาด้วย และก็มี ลพ.กัน วัดเขาแก้ว ลป.***ง ฯ มาเสกในครั้งแรก ณ ปีนั้น จากนั้นก็ได้แจกให้คนละแวกนั้นไป เหลือบางส่วน เก็บใส่กรุ หลังคาโบสถ์ วัดนั้นเอง ต่อมา ในปี 2511 ก็มีการสร้างพระในวัด ก็นิมนต์พระมาเสกอีก และในครั้งนี้หลวงปู่ทิมก็มาด้วย การเสกในครั้งนี้ไม่ได้เอา พระสมเด็จรุ่นนี้ลงมา แต่มีการโยงสายสิญ ขึ้นไปบนนั่น ในการเสกครั้งนี้ หลวงพ่อโต่ง เล่าให้ผมฟังว่า มีพระมาเสกหลายรูป ตั้งแต่บ่าย บ่ายแก่ ๆ ก็กลับกันหมด เหลืออยู่เพียงรูปเดียวเท่านั้นที่ยัง นั่งนิ่งอยู่ในโบสถ์ ก็คือ หลวงปู่ทิม นั่นเอง หลวงพ่อโต่ง บอกว่า ตอนสมัยนั้นก็สงสัย และได้ยินมาว่าหลวงปู่ทิม เก่งมาก ก็อยากจะสัมผัสแต่ก็ไม่กล้ารบกวน ก็รอด้วยตัวเอง เพื่อจะปิดโบสถ์ (ใกล้มืดแล้ว) และจะได้พูดคุยกะท่าน ลป.ทิม (ท่านว่า ลป.ทิมเป็นพระที่พูดน้อย) รออยู่จนนานแล้วนานเล่า ลป.ทิม ก็ไม่ออกมาซักที ยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเลย เป็นอย่างนั้นตั้งแต่ บ่าย ที่นั่งลง ตรงนั้น จน ลพ.โต่ง บอกกับผมว่า ท่านคิดว่า ลป.ทิม อาจ มรณะภาพ แล้วในนั้นจึงได้เข้าไป สัมผัสตัวท่านดู ก็แข็งแต่ยังอุ่นอยู่ จึงได้แอบค้น ย่ามของ ลป.ทิม ดู ท่าน บอกว่า พบของ แค่ สองอย่างอยู่ในนั่น คือ ช้อนซ้อม และ แปรงสี ฟันเท่านั่น อย่างอื่นไม่มีเลย เงินก็ไม่มี เห็นอย่างนั้น ลพ.โต่ง ก็ได้ กลับมาหน้าโบสถ์ นั่งรอต่อ คิดว่า ลป.ทิม คงจะลุกในอีกไม่นาน เพราะอาจรู้ว่าท่านไปสัมผัส ตัว แต่ก็ยังนิ่งอยู่อีกนาน จน ลพ.โต่ง ได้ตามพระลูกวัด มาอุ้ม ลป.ทิม ออกจาก โบสถ์ เพื่อพาไปหาหมอ เพราะคิดว่า คงหมดสติไปแล้วในท่านั่งนั้น ปรากฏว่า พระลูกวัด หนุ่ม ๆ หลายรูปมาช่วยกันอุ้มท่านขึ้นมา เห็นเลยว่า แข็งอย่างกับรูปปั้น มือและเท้าก็ยังนั่งอยู่ในท่าสมาธิ ไม่เปลี่ยนท่า ไม่ขยับ เลยแต่ท่านยังหายใจอยู่ และตัว ลป.หนักมาก แทบยกไม่ขึ้น ลพ.โต่ง เห็นดังนั้นก็เลยสั่งพระลูกวัดให้ วางท่านลงที่เดิม แล้วท่านก็กลับมาที่กุฏิ จากนั้นอีกไม่นาน ท่านก็เห็น ลป.ทิม เดิน ออกมาจากโบสถ์ และกลับวัดยังไง ก็ไม่ทราบไม่ได้บอกใคร มืดแล้วไม่รู้ว่า กลับได้ยังไง เรื่องคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้



    ส่วนเรื่องประสบการณ์ของพระ สมเด็จ นี้ ก็มีมากไม่แพ้ พระของที่อื่น ๆ เลย เพียงแต่คนรู้จักน้อย เพราะท่าน ลพ.โต่ง ไม่ชอบ พาณิชย์ ถ้าใครอ่านสนใจ ผมจะเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระรุ่นนี้เท่าที่รู้ จากปาก ของ ลพ.โต่ง ให้ฟังอีกครับ มามีพอควร
    มวลสารรุ่นแรก ที่ ลพ.โต่ง พอจำได้และ บอกกับผมมาก็คือ ดอกไม้ และพวงมาลัย ของ ลพ.อี๋ ที่ใช้ถวายพระ จำนวน 4 กระสอบ , ผงจากคนในวัง นำมาถวาย บอกว่า ของกรมหลวงชุมพรฯ เป็นต้นครับ
    พระสมเด็จสาวหลง ของวัด นี้ มีทั้งหมด 3 รุ่น มีรุ่นแรกรุ่นเดียวเท่านั้นที่ ลป.ทิม เสกให้ 2 ครั้ง ส่วนรุ่น 2-3 ไม่ทันท่านครับ รุ่น 2 สร้างปี 2522 รุ่น 3 สร้างปี 2537 ครับ ดีและมีประสบการณ์ทุกรุ่นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    534.พระพุทธชินราช เนื้อดิน พิมพ์กลีบบัว หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน พิษณุโลก สร้างราวๆปี 2512-2514 หายาก ประสบการณ์มากมาย ให้บูชา 800 บาท


    upload_2022-7-20_14-31-39.png

    พระเครื่อง พระเกจิอาจารย์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองพิษณุโลก แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนประวัติศาสตร์ ราชธานีสองแผ่นดิน คือ เหรียญและรูปหล่อ พระครูประพันธ์ศีลคุณ หรือหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ๑ ในพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก
    หลวงพ่อพันธ์ เกิดเมื่อเดือนกันยายน ๒๔๓๖ ที่บ้านโพนหนอง ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ภายหลังครอบครัวได้อพยพมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดน้อย ชอบศึกษาคาถาอาคมและสมุนไพรว่านยามาตั้งแต่เด็ก พออายุได้ ๑๘ ปี ได้เข้ารับราชการเป็นพลตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอนครไทย เมื่อ พ.ศ. ๔๕๔ ซึ่งขณะนั้นมีหลวงปู่หุย วัดหัวร้อง นครไทย และหลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง ชาติตระการ เป็นผู้เรืองอาคม เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปยิ่งนัก ท่านชอบเข้าป่าหาว่านยาและแร่ธาตุต่างๆ กับศึกษาอาคม เพื่อป้องกันตัว และไข้ป่า

    เนื่องจากอำเภอนครไทย หรือเมืองบางยาง ของพ่อขุนบางกลางท่าว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ร้ายชุกชุม ในสมัยนั้นหากข้าราชการผู้ใดถูกย้ายไปนครไทยก็เท่ากับเขาใช้ให้ไปตาย จนอายุครบ ๒๑ ปี จึงลาออกจากราชการตำรวจ อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดราชบูรณะ มีพระครูอนุโยคศาสนกิจ (รอด) วัดนางพญา (เจ้าคณะแขวง และเจ้าของเหรียญพระเกจิอาจารย์เหรียญของเมืองพิษณุโลก พ.ศ.๒๔๖๐) เป็นพระอุปัชฌาย์ ใน พ.ศ.๒๔๕๗ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธาคม เพิ่มเติมจากพระอุปัชฌาย์ และตำราโบราณ จนเชี่ยวชาญแตกฉาน

    ภายหลังได้ลาสิกขาเพื่อดูแลบิดามารดาที่ป่วย มิได้มีผู้ดูแลอยู่สักพักหนึ่ง ท่านรู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตฆราวาส หาความสงบได้ยากยิ่ง จึงขออนุญาตบิดามารดาอุปสมบทใหม่ ที่พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีพระวรญาณมุนี (พร้อม พุทธสโร) เจ้าคณะมณฑลพิษณุโลก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า "สุสิโม" แปลว่า ผู้มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์ จนได้ ๕ พรรษา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลดอนทอง และใน พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูประพันธ์ศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะอำเภอวังทอง (เจ้าคณะแขวงนครป่าหมาก เดิม) จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดตลาดชุม หรือวัดวังทองวราราม ในปัจจุบัน

    หลวงพ่อพันธ์ เริ่มนำว่านยา แร่ธาตุต่างๆ มาผสมบดรวมกับชานหมาก และมหาอุด ทำจากไม้ไผ่รวกยอดด้วน ชี้ไปทางทิศตะวันขึ้น บรรจุเศษไม้สากแม่ม่าย ชานหมาก อุดด้วยดินขี้สูตดินราบ บวชพระ ๑ ครั้ง ทำได้ไม่เกิน ๒-๓ ดอก เมื่อพระสวดถึงมิ ก็ภาวนาอุด แล้วเอามีดปาดทันที นำลงอักขระเสกกำกับที่กุฏิ ๓ คืน ตลอดจนชายจีวรที่ท่านนำไปห่มต้นโพธิ์ และมีเด็กมาเลี้ยงวัวในวัดเอานำจีวรที่ต้นโพธิ์ไปทำหางว่าว แล้วเกิดทะเลากับเพื่อน จึงถูกเพื่อนฟันด้วยมีด แต่ไม่เข้าไม่ระคายผิว จึงลือลั่นไปทั่ว และมีเกียรติศัพท์ด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย ในสงครามอินโดจีน จึงมีผู้คนไปขอชานหมากและชายจีวร ตะกรุด ปลอกลูกปืน ลงอักขระ รูปอัดกระจก จนท่านเคี้ยวและเสกแจกให้เกือบไม่ทัน

    ในยุคแรก ทหารพิษณุโลกที่ไปราชการสงคราม มาขอของดีจากท่าน อาทิ พลทหารบุญเลิศ มีศิลป์ อาสาสมัครไปรบสมรภูมิเวียดนามและลาว ถูกยิงหลายครั้ง แต่กระสุนปืนไม่ระคายผิวหนังแต่ประการใด

    หลวงพ่อต้องรับธุระพระพุทธศาสนา ในฐานะเจ้าคณะปกครอง ปฏิบัติศาสนกิจมาหลายปี ไม่มีเวลาที่จะแสวงหาความสงบได้ โดยปกติหลังออกพรรษาท่านจะเดินเท้าเข้าป่า เขตวังทอง นครไทย ชาติตระการ ด่านซ้าย เลย และเพชรบูรณ์ แสวงหาว่านยา แร่ธาตุ และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน บางครั้งท่านหายไปเป็นสิบๆ วัน ชาวบ้านคิดว่าท่านคงถูกเสือหรือสัตว์ป่าทำร้าย หรือเป็นไข้ป่าเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อท่านกลับออกมาอย่างปลอดภัยพร้อมว่านยา เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก

    ด้วยความสมถะสันโดษ ในลาภยศ ท่านจึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอวังทอง แล้วย้ายมาอยู่ที่วัดบางสะพาน คณะศิษย์ได้ทำแม่พิมพ์พระเครื่อง พิมพ์ต่างๆ หลายแบบ มาถวายให้ท่านนำชานหมากและว่านยามากดพระพิมพ์ด้วยมือของท่าน ซึ่งท่านก็มีเมตตาแจกอย่างทั่วถึง และยังไม่เคยปรากฏพบว่าบุคคลที่รับของจากท่านไปแล้วนำติดตัวไปจะตายโหง หรือถูกอาวุธตายสักรายเดียว

    คณะศิษย์ได้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนมาถวายให้ท่านปลุกเสก ประกอบด้วย เหรียญรุ่นแรก รูปพัดยศ ฉลองพัดยศ เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราว พ.ศ.๒๔๙๐ นิยมเรียกว่า เหรียญจักร, เหรียญรุ่น ๒ เหรียญสองหน้า พ.ศ.๒๕๑๒

    เหรียญรุ่น ๓ ฉลองอายุ ๘๐ ปี พ.ศ.๒๕๑๖ นิยมเรียกว่า เหรียญขวาน เนื่องจากมีประสบการณ์คล้องเหรียญรุ่นนี้ไปเที่ยวงานเขาสมอแคลงแล้วถูกฟันด้วยขวานไม่เข้า ไม่ระคายผิว หรือไม่มีเลือดตกยางออกแต่ประการใด และเหรียญรูปเหมือนรูปไข่ พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อทองคำ เท่าอายุ ๘๑ เหรียญ พิมพ์หลังยันต์ครู (๒๕ เหรียญ) และพิมพ์หลังพระพุทธชินราช (๕๖ เหรียญ) และเนื้อเงินและทองแดง ตลอดจนรูปหล่อโบราณหลวงพ่อพันธ์ รุ่นแรก, พระพิมพ์พระพุทธชินราช และพระนางพญาเนื้อโลหะหล่อโบราณ เทดินไทย โดยฝีมือ จ.ส.อ.ดร.ทวี บูรณะเขตต์ เป็นช่างหล่อ ปลุกเสกหารายได้สร้างบันไดวัดเขาสมอแคลง ใน พ.ศ.๒๕๑๐ เป็นต้น

    พระเครื่องวัตถุมงคลชนิดต่างๆ ของหลวงพ่อพันธ์ มีพุทธคุณสูงส่ง จนเป็นที่ประจักษ์ในด้านแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นเอกอุ จึงเป็นพระเครื่องพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมเมืองพิษณุโลก เป็นที่นิยมแสวงหาหวงแหนกันมากเป็นยิ่งนักในปัจจุบัน

    หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ได้ละสังขารเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๘ สิริอายุได้ ๘๒ ปี ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อพันธ์ที่มรณภาพมากว่า ๓๖ ปี ยังไม่เน่าสลายไปตามหลักธรรมชาติ เป็นรูปแรกของเมืองพิษณุโลกด้วยบุญฤทธิ์ จิตตานุภาพที่หลวงพ่อได้บำเพ็ญเพียรมาตลอดระยะเวลาในสมณเพศ สมดังฉายาที่ว่า "สุสิโม" ผู้มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์อย่างแท้จริง
     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    535.ยุคแรกครับ พระสมเด็จวัดระฆังปี ๒๕๐๗ เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ทันหลวงปู่นาค หลวงปู่หิน ร่วมปลุกเสก ให้บูชา 800 บาท


    upload_2022-7-20_15-26-14.png


    "ผงวิเศษ" (เช่น ผงอิทธิเจ ผงปัถมัง ผงมหาราช และผงวิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ เป็นต้น) ที่ได้รวบรวมมาจากพระเกจิคณาจารย์ดังๆ ในสมัยนั้น ทั่วฟ้าเมืองไทย
    "เกสรดอกไม้แห้ง" ที่นำมาจากวัดทั่วประเทศไทย "ผงปูน" ที่ได้มาจากการกระเทาะจากพระอุโบสถวัดระฆัง
    "พระสมเด็จวัดระฆัง" กรุเก่า
    "พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม" กรุเก่า
    "สมเด็จพระปิลัทน์" ที่ชำรุดแตกหัก
    "พระกรุต่างๆ" ที่แตกหักอีกมากมาย เช่น พระกรุวัดสามปลื้ม ฯลฯ

    พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดระฆังโฆสิตาราม โดย พระเกจิอาจารย์สายวัดระฆัง หลวงปู่นาค, หลวงปู่หิน, เจ้าคุณเที่ยง และเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคที่มาร่วมพิธีหลายท่าน
    พระสมเด็จวัดระฆังรุ่นนี้ ตามข้อเท็จจริงแล้ว มีส่วนผงเก่าสมเด็จวัดระฆัง ผสมในมวลสารมากกว่าสมเด็จรุ่น 100 วัดระฆัง ซะอีก เจตนาในการสร้างดี วัตุประสงหลัก คือ สร้างเพื่อ แจกให้กับลูกเสือชาวบ้านในยุคนั้น ผู้มีไว้ครอบครองมักหวงแหนนยิ่งนัก เรื่องประสบการณ์ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ ฯลฯ ไม่ด้อยกว่าสมเด็จวัดระฆังรุ่นใดๆ เพียงแต่จำนวนการสร้างพระเครื่องไม่มากมายเหมือนรุ่นอื่นๆ และการแจกบูชา สมเด็จวัดระฆังรุ่นนี้ค่อนข้างจำเพาะเจาะจง ไม่ได้เป็นการเปิดเช่าบูชาแบบทางการอย่าง สมเด็จวัดระฆัง 100 ปี หรือ 118 ปี ทำให้เซียนพระไม่สามารถปั่นราคาได้ เพราะของหมุนเวียนมีอยู่น้อยกว่าหลายเท่า จึงเป็นของดีราคาถูกที่ราคายังไม่วิ่งไปไหน แต่ถึงกระนั้นคนที่อยากได้ซิครับต้องตามเก็บกันเหนื่อยเลย เพราะหาไม่ง่ายเป็นของดีราคาถูกที่ซ่อนเร่นในสายสมเด็จวัดระฆัง ที่นับวันคนจะรู้จักกันมากขึ้น

     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    536.ศิษย์ผู้สำเร็จวิชา ผง 12 นักษัตริย์ (ดีด้านค้ำคูณดวงชะตา)เท่าที่ทราบมามีเพียง 2 องค์ที่สำเร็จวิชานี้ครับ
    สมเด็จพิมพ์ฐาน 3 ชั้น หูบายศรี พิมพ์ใหญ่ หลังรูปเหมือน พระครูลมูล (ส.พัฒนกิจ) วัดเสด็จ จ. ปทุมธานี ให้บูชา 1450 บาท

    upload_2022-7-20_16-29-33.png

    สมเด็จพิมพ์ฐาน 3 ชั้น หูบายศรี พิมพ์ใหญ่ หลังรูปเหมือน พระครูลมูล (ส.พัฒนกิจ) วัดเสด็จ จ. ปทุมธานี ตะกรุด 2 ดอก ยุคแรกๆ ปี 2509 (รุ่นนี้น่าจะทันหลวงปู่เทียน เสกด้วยครับ)

    พระครูสาทรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ อำเภอเมือง จ.ปทุมธานี ศิษย์เอกของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ พระเกจิดังแห่งเมืองปทุมธานี ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกในพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ปี2515 หลวงพ่อลมูล ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆ พลังจิตของท่านดีมาก จนชาวบ้านยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งสวนพริกไทย หลวงพ่อละมูล ท่านเองก็ชอบสร้างพระสมเด็จเช่นกันครับ เหมือนอาจารย์ท่าน คือหลวงปู่เทียน โดยหลวงปู่เทียน นอกจากท่านจะสำเร็จวิชาการทำผงวิเศษ ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และ ผงพุทธคุณ แล้ว ท่านยังเป็นพระที่สำเร็จวิชา “ผง ๑๒ นักษัตร์” ซึ่งเป็นผงที่เขียนลบมาจากยันต์ ๑๒ นักษัตร์ ทั้ง ๑๒ ปี ดังนั้น พระเนื้อผงของท่านจึงดีเด่นสูงค่าไปด้วยพระพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม อุดมโชคลาภ มีกินมีใช้ทุกปี ไม่ขัดสน เข้าได้กับทุกผู้คน ทุกปีเกิด สามารถป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลาที่มีพระเครื่องของท่านพกพาอาราธนาติดตัวอยู่ เวลาดวงชะตาตกต่ำ ก็จะค้ำจุนไม่ตกอับจนเกินไป เวลาดวงชะตารุ่งโรจน์ ก็จะเสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น หลวงปู่เทียนท่านได้ถ่ายทอดวิชาผง ๑๒ นักษัตร์นี้ให้แก่ศิษย์ คือ หลวงพ่อลมูล โดยหลวงพ่อลมูลท่านจะทำพิมพ์ให้ต่างจากหลวงปู่เทียน และท่านก็ลบผงพุทธคุณเองด้วยเช่นกัน พระท่านน่าแขวน รุ่นเก่าๆหาก็ไม่ค่อยง่ายเช่นกัน ทางพื้นที่นิยมกันมากครับ จำไว้ว่าตะกรุดที่ฝังจะไม่เรียบร้อยเช่นกัน ม้วนไม่ค่อยกลมนะครับ วัตถุมงคลของท่านนั้นสามารถใช้ป้องกันภัยอันตราย จากสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ที่มีมากมายในสวนสมัยก่อนได้อย่างน่ามห้ศจรรย์ อีกทั้งยังมีพุทธคุณครบเครื่อง ไม่เป็นรองอาจารย์ของท่าน ทั้งคงกระพัน มหาอุด มหานิยม เมตตา โชคลาภ ลูกศิษย์ทั้งหลายล้วนทราบกันดี
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    537. พระสมเด็จยุคแรก หลวงปู่เส็ง จันทฺรังสี เทพเจ้าชาวรามัญ วัดบางนา อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ปี 2511 หายากมาก ใหบูชา 1500 บาท

    upload_2022-7-20_17-1-8.png

    หลวงปู่เส็ง จันทฺรังสี เทพเจ้าชาวรามัญ วัดบางนา อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
    ดินแดนย่านอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ในอดีตเป็นแหล่งพำนักพักพิงของชาวรามัญ ที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ไทย เมื่อครั้งเกิดศึกสงครามรบพุ่งกันระหว่างไทยกับพม่า ทำให้ชาวรามัญส่วนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพม่าต้องหลบลี้หนีภัยสงครามเข้ามาในประเทศไทย มาลงหลักปักฐานอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะย่านอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันยังมีร่องรอยโบราณวัตถุและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็น ฝีมือของชาวรามัญหลงเหลือให้ได้ศึกษากันหลายแห่ง
    วัดบางนา ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีอายุเก่าแก่ร่วม 300 ปีมาแล้ว เป็นวัดที่ชาวรามัญสร้างขึ้นมาใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจตามประเพณี และเป็นสถานศึกษาแก่บรรดาลูกหลานของชาวรามัญในย่านนั้น ชาวรามัญอพยพจากเมืองหงสาวดีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ไทย มาตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ตามสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้นเมื่ออยู่ดีมีสุขทำมาหากินอุดมสมบูรณ์ดีแล้ว มักจะสร้างวัดขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานได้บวชเรียนศึกษาพระธรรมวินัย ในการสร้าวัดของชาวรามัญนั้น เมื่อสร้างเสร็จจะทำเสาหงส์ไว้หน้าวัด เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบกันว่าวัดนั้นเป็นวัดที่ชาวรามัญสร้างขึ้นถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา
    วัดบางนาเดิมอยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางทิศตะวันตก ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดบางนา ต่อมาย้ายร่นลงไปอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อความสะดวกในการสัญจรไปมา ประวัติความเป็นมาเดิมของวัดบางนา จากหลักฐานที่ได้พบทราบว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2310 และจากการคาดการณ์ตามอายุของสิ่งต่างๆ ตลอดจนอายุการก่อสร้างอุโบสถ มีหลักฐานยืนยันการสร้างอุโบสถมาแล้วถึง 4 หลังด้วยกัน กล่าวคือ พอโบสถ์หลังเก่าพังลงก็ทุบทิ้ง แล้วสร้างขึ้นมาใหม่เป็นอย่างนี้ถึง 4 หลัง อายุกาลของวัดจึงน่าจะอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และจากลำดับสมภารปกครองวัดเท่าที่ทราบจากการบอกเล่าสืบต่อกันมา
    สมภารองค์แรกของวัดบางนาคือ หลวงพ่อแดง
    ต่อจากหลวงพ่อแดงก็คือ หลวงปู่แร่ว,
    หลวงปู่ทัด ลาหุโล,
    หลวงปู่เส็ง จันทฺรังสี หรือพระครูธรรมสุนทร,
    หลวงพ่อแสวง หรือท่านพระครูอนุกูลศาสนกิจ
    จนกระทั่งมาถึงพระอธิการยงยุทธ ยโสธโร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

    ในอดีตสมัยก่อนย่านอำเภอสามโคก วัดบางนามีชื่อเสียงมากมีคนไปทำบุญที่วัดมากที่สุด ก็เนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่มีพระไปบวชศึกษาเล่าเรียนมาก พระที่วัดต่างก็ถือปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด ชาวบ้านจึงศรัทธาเลื่อมใสเข้าไปทำบุญกันมาก จนกระทั่งมาถึงยุคของหลวงปู่เส็ง ซึ่งถือว่าเป็นพระที่ได้รับสมณศักดิ์รูปแรกของวัดบางนาจากทางคณะสงฆ์ และท่านเป็นผู้เริ่มทำพระเครื่องวัตถุมงคลของวัดบางนาจนมีผู้รู้จักนิยมไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้าหลวงปู่เส็งไม่มีสมภารองค์ใดทำพระเครื่องมาก่อนเลย
    ชาติภูมิหลวงปู่เส็งนั้น ท่านเป็นคนพื้นเพละแวกวัดบางนานั่นเอง บ้านท่านอยู่ทางใต้วัดติดคลองบางนา โยมพ่อชื่อจู เป็นชาวจีนล่องเรือสำเภาจากเมืองจีนมาอยู่ที่สามโคกใช้สกุล “แซ่บุญเซ็ง” โยมแม่ชื่อเข็มเป็นชาวรามัญ
    สมัยก่อนชาวบ้านย่านวัดบางนาต่างก็มีอาชีพทำนาเป็นส่วนใหญ่ จนได้รับขนานนามหมู่บ้านว่า “บางนา” อาชีพรองลงมาของชาวรามัญสมัยนั้นก็คือการทำอิฐ ทำตาล และค้าขาย ซึ่งทางบ้านของหลวงปู่เส็งทำการค้าขายของชำเล็กๆ น้อยๆ ในหมู่บ้านและส่วนหนึ่งก็ทำนา สำหรับประวัติส่วนตัวของหลวงปู่เส็งท่านไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ทราบแต่เพียงว่าท่านเกิดเมื่อ ปี พ.ศ. 2444 มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน พี่น้องของท่านเสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษด้วยกันหมด เหลือเพียงท่านเท่านั้น
    ครั้นเมื่ออายุครบบวชโยมพ่อและโยม แม่ก็ให้ท่านบวชที่วัดบางนา เมื่อปี พ.ศ.2465 โดย มีท่านเจ้าคุณรามัญมุนี หรือพระครูนันทมุนี วัดบางหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบวรธรรมกิจ หรือหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ เป็นพระ-กรรมวาจาจารย์ และหลวงปู่ทัด ลาหุโล เจ้าอาวาสวัดบางนา มีศักดิ์เป็นน้าชายของท่าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จันทฺรังสี” ภายหลังที่เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว หลวงปู่เส็งก็ศึกษาเล่าเรียนอักขระเลขยันต์จากพระอาจารย์ต่างๆ และมีการเรียนภาษาขอมและภาษารามัญ ท่านก็ศึกษาเล่าเรียนทั้งสองภาษาจนแตกฉาน นอกจากนี้ท่านยังไปศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงปู่เทียน ที่วัดโบสถ์อีกด้วย หลวงปู่เส็งท่านมีปฏิปทาในการใฝ่หาวิชาความรู้มาก ใครแนะนำสั่งสอนท่านก็จดจำไว้เป็นอย่างดี หลวงปู่ท่านเชี่ยวชาญด้านภาษาขอมเป็นพิเศษ เรื่องอักขระเลขยันต์ต่างๆ ท่านเก่งมากจนกระทั่งปี พ.ศ.2486 หลวงปู่ทัด เจ้าอาวาสวัดบางนามรณภาพลง หลวงปู่เส็งก็ได้รับแต่งตั้งให้รักษาการณ์เจ้าอาวาสไปก่อน ในปี พ.ศ.2487 หลวงปู่สอบนักธรรมชั้นเอกได้ และปี พ.ศ.2489 ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบางนาอย่างเป็นทางการ หลวงปู่ให้การศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันท่านก็บูรณะปฏิสังขรณ์วัดจนรุ่งเรือง รับงานการสร้างโบสถ์ต่อจากหลวงปู่ทัด เจ้าอาวาสองค์ก่อนที่ทำคั่งค้างไว้จนสำเร็จลุล่วงลงด้วยดี
    หลวงปู่เส็ง เป็นพระปฏิบัติท่านมักจะออกธุดงค์ไปปริวาสกรรมทุกปีมิได้ขาด มีปฏิปทาในทางสมถะหมั่นบริกรรมภาวนาเจริญพระคาถาวิชาต่างๆ เล่ากันว่าเวลาว่างจากงานที่ต้องกระทำ ท่านจะนั่งนับลูกประคำที่คล้องคออยู่ บริกรรมพระคาถาตลอดเวลา หลวงปู่เป็นคนพูดน้อยไม่ค่อยพูดว่ากล่าวผู้ใด หลวงปู่เส็งเป็นสมภารปกครองวัดเรื่อยมาจนกระทั่งอายุ 65 ปี ท่านจึงเริ่มทำวัตถุมงคล
    การทำวัตถุมงคล ครั้งแรกนั้นท่านสร้างพระผงสมเด็จ 3 ชั้น รุ่นแรกของวัดบางนา ในปี พ.ศ.2510 หลังจากสร้างพระผงสมเด็จ 3 ชั้นออก มาแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหาแล้ว ในปีนั้นเองหลวงปู่ก็ทำเหรียญรูปอาร์มหรือใบเสมาคว่ำเป็นรุ่นแรกออกมาอีก และนับแต่ปี พ.ศ.2510 เป็นต้นมาหลวงปู่เส็งก็สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆ ออกมามากมายแทบจะนับรุ่นกันไม่ได้เลยทีเดียว หลวงปู่สร้างวัตถุมงคลทุกปีๆ หนึ่งสร้าง 2-3 แบบ จนกระทั่งท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2530 รวมระยะเวลาการทำวัตถุของหลวงปู่เส็ง 20 ปี และวัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกรุ่นทุกแบบก็มีผู้เลื่อมใสหามาพกติดตัว และบูชากันมากมาย วัตถุมงคลของหลวงปู่เส็งนั้น ออกไปในทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยมและการค้าขายดีเยี่ยม วัตถุมงคลของหลวงปู่เส็ง รุ่นนิยมเท่าที่พอลำดับความได้มีดังนี้
    พระผงสมเด็จ 3 ชั้น รุ่นแรกจัดสร้างปี 2510 ผงที่นำมาสร้างเป็นผงอิทธิเจ ซึ่งจะโน้มไปในทางเมตตามหานิยมและค้าขาย พระผงสมเด็จ 3 ชั้นรุ่นแรกด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธรูปพระประธานนั่งสมาธิ มีซุ้มครอบแก้ว ด้านหลังเป็นลายมือเขียนว่า “พระครูเส็ง” บางองค์เขียนว่า “เส็ง” และบางองค์ ก็เขียนว่า “พระครูเส็ง จันทฺรังสี” แล้วแต่ว่าหลวงปู่จะเขียนอะไรคำไหน แต่ส่วนใหญ่จะทำเป็นแบบพิมพ์เป็นบล็อค ใช้กดลงไปบนหลังพระเวลากดพิมพ์
    เนื้อพระมีทั้งเนื้อน้ำมัน ลักษณะพระจะออกแกร่งมัน กับสูตรผสมเนื้อกล้วยพิมพ์ออกมามีทั้งหมด 5 สี คือ สีดำ เหลือง เขียว แดง และ ขาว พอทำเสร็จหลวงปู่ก็ปลุกเสกเดี่ยวแล้วออกแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่ไปหาท่าน บางรายนำพระพกติดตัวไปประสบอุบัติเหตุเกิดแคล้วคลาดอย่างเหลือเชื่อ กิตติศัพท์พกพระหลวงปู่เส็งแล้วแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุมีบ่อยครั้งมากจนกระทั่งเลื่องลือไปทั่ว
    พุทธคุณพระผงสมเด็จ 3 ชั้น รุ่นแรกของหลวงปู่เส็ง เรื่องแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ หลังทำพระผงรุ่นแรกทิ้งช่วงปลายปี ท่านก็ทำเหรียญรุ่นแรกออกมาเป็นเหรียญใบเสมาคว่ำมีทั้งเนื้อกะไหล่ทอง เงินและทองแดง ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงปู่ครึ่งองค์มีอักษรเขียนว่า “อาจารย์เส็ง” ด้านหลังเป็นยันต์ ใต้ยันต์มีอักษรระบุชื่อวัดบางนา พ.ศ.2510 ปีที่จัดสร้าง และพระผงที่ทำออกมานั้นส่วนใหญ่จะบรรจุตะกรุดสาริกาดอกเล็กๆ ไว้ที่ฐานด้วย เพื่อเสริมพุทธคุณ

    การทำพระเครื่องของหลวงปู่เส็ง จนถึงปี 2512 หลวงปู่จะเอาพระเครื่อง ที่ทำออกมาไปปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถ ถ้าเป็นเหรียญ ท่านจะทำพิธีพุทธาภิเษกนิมนต์พระระดับเจ้าอาวาสละแวกวัดบางนามาเจริญพุทธมนต์ด้วย หลังจากปี 2512 การทำวัตถุมงคลหลวงปู่จะจัดพิธีพุทธาภิเษกในอุโบสถตลอด พระผงรุ่นที่โด่งดังมากก็คือ รุ่นขี่หมู ซึ่งรุ่นนี้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่เป็นคนจัดสร้างขึ้นมานำไปให้หลวงปู่ทำพิธีพุทธภิเษก แล้วก็มอบพระให้หลวงปู่ไว้จำนวนหนึ่ง บรรดานักเล่น พระนิยมกันมาก
    สำหรับวัตถุมงคลรูปแบบต่างๆ นั้น ครั้งแรกหลวงปู่จัดสร้างหมูทองแดงในปี 2522 สาเหตุ การจัดทำหมูทองแดงของหลวงปู่เส็งนั้นสืบเนื่องมาจากในตำนานกล่าวกันว่า หมูทองแดงตามป่าเขาที่เป็นหมูเขี้ยวตันนั้นปืนยิงไม่เข้า หลวงปู่ก็เลยคิดทำวัตถุมงคลเป็นหมูทองแดงเขี้ยวตันขึ้นมา เล่ากันว่าระหว่างที่หลวงปู่ปลุกเสกหมูทองแดงร่วมกับพระที่นิมนต์มาเจริญพุทธมนต์อยู่ในโบสถ์นั้น มีชาวบ้านเห็นหมูวิ่งเข้าไปในโบสถ์ขณะที่พระสงฆ์กำลังปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่ทั้งๆ ที่รอบโบสถ์ด้านนอกปิดกั้นอย่างดีไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนสมาธิ ขณะที่พระสงฆ์กำลังเจริญพระพุทธมนต์และบริกรรมปลุกเสกวัตถุมงคล หลังเสร็จพิธีคนที่พบเห็นเข้าไปบอกหลวงปู่ ท่านก็เฉยๆ แถมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ท่านไม่ได้พูดอะไรแต่รับฟังเอาไว้
    ครั้นเมื่อทำหมูทองแดงออกมาแจกกันเป็นที่ฮือฮาพอสมควร หมูทองแดงที่สร้างนั้นเป็นเนื้อทองแดงผสมโลหะ มีหมูทองแดงตัวใหญ่และเล็ก ข้างลำตัวซ้ายมีอักษรเขียนว่า “วัดบางนา ปทุมธานี 2522” ข้างลำตัวด้านขวาเป็นอักขระขอมมียันต์ที่โคนขาทั้ง 4 ลักษณะเป็นหมูป่าเขี้ยวตัน และในปี 2524 หลวงปู่เส็งได้จัดสร้าง ทำหมู 7 หัวขึ้นมา เป็นลักษณะหมูป่าเขี้ยวตัน คู้ขาหมอบที่เรียกว่า 7หัวนั้น หมายถึงหัวของปลัดขิกที่ทำไว้ตามลำตัวมี 7 แห่ง คือที่หัว หาง ที่เพศ และที่ปลายเท้าทั้งสี่ข้าง เป็นเนื้อทองแดงผสมโลหะ ข้างลำตัวด้านซ้ายระบุปี พ.ศ.ที่จัดสร้างคือปี 2524 นอกจากนี้หลวงปู่เส็งได้ทำหมูจัมโบ้ ขนาดใหญ่ออกมาอีก 1 รุ่น หมูทองแดงรุ่นแรกทำออกมาแค่ 2,500 ตัวเท่านั้น พุทธคุณไปในทางแคล้วคลาดและค้าขาย
    หลังจากทำหมูทองแดงออกมาหลวงปู่ก็จัดทำครุฑทองแดง ซึ่งครุฑเป็นสัตว์ที่มีอำนาจจัดทำพิธีพุทธาภิเษกในโบสถ์มีพระอาจารย์มาร่วมบริกรรมพุทธคุณอีก 10 รูป ครุฑทองแดงด้านหลังเขียนว่า “หลวงปู่เส็ง วัดบางนา ปทุมธานี 2522” สลับกับอักขระขอม ประสบการณ์มีผู้นำติดตัวไปแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทางรถและทางเรือ อีกทั้งยังป้องกันภัย จากงูเงี้ยวเขี้ยวขอดีนัก ต่อมาหลวงปู่จัดสร้างรูปเหมือนหนุมาน เหตุผลที่จัดทำนั้นท่านถือว่าหนุมานเป็นลิงประจำปีวอกและด้วยหนุมานเองก็เป็นศิษย์ของพระนารายณ์ มีอานุภาพฤทธิ์เดชมากมาย ที่จัดทำไว้มีเนื้อกะไหล่เงินและทองแดง ไม่ระบุปีจัดสร้าง จาก หมู ครุฑ หนุมาน ต่อมาท่านก็สร้างพญาเต่าเลือนเนื้อทองแดงผสมโลหะ แล้วจัดสร้างหงส์ทอง หงส์เงิน อีก 1 ชุด เนื้อกะไหล่ทองและกะไหล่เงิน ทำเพื่อเป็นที่ระลึกว่าวัดบางนานั้นเป็นวัดที่ชาวรามัญสร้างขึ้นมา

    นอกจากวัตถุมงคลรูปแปลกๆ แล้ว หลวงปู่ยังสร้างพระกริ่งรูปเหมือนท่าน มีทั้งแบบหลังตรงและหลังค่อม เนื้อทองแดงผสม สร้างพระปิดตาเนื้อทองเหลืองผสม สร้างเหรียญรูปไข่ รุ่นขี่วัวเนื้อทองแดงผสม สร้างเหรียญจอบรูปหลวงปู่มีทั้งจอบเล็กและจอบใหญ่ สร้างเหรียญหยดน้ำเนื้อทองแดงผสม สร้างรูปหล่อเนื้อผงปิดทอง ที่กล่าวมานี้เป็นวัตถุมงคลรุ่นเก่าๆ ที่หลวงปู่สร้างขึ้นมา ส่วนรุ่นใหม่ๆ ก็มีหลายสิบแบบ มีทั้งนางกวักพระผงพิมพ์สมเด็จ พระผงปิดตา เรียกว่าการจัดทำวัตถุมงคลของหลวงปู่เส็งนั้นมากมายจริงๆ ถ้าหากวัตถุ มงคลใดไม่ระบุ พ.ศ. เอาไว้ แทบจะไม่ทราบกันเลยว่าหลวงปู่จัดสร้างในพ.ศ. อะไร เพราะไม่มีการบันทึกเอาไว้และก็ทำออกมามากแบบ สำหรับเงินรายได้ที่ มีผู้นำมาบริจาค หรือเช่าวัตถุมงคลนั้น หลวงปู่นำเงินไปสร้างวัดวังหิน อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งท่านก็ทำนุบำรุงหมู่กุฏิเสนาสนะวัดบางนาที่ชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    538. พระผงของขวัญ พิมพ์พระแก้วมรกตรัตนฤทธิ์ หลังยันต์อิสวาสุ เนื้อผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดย ท่านอาจารย์สุธันย์ สุนทรเสวี ให้บูชา 700 บาท จองแล้วครับ

    upload_2022-7-20_17-13-23.png

    เนื้อมวลสารในการจัดสร้าง
    - ผงชันเพชรจากองค์มหาบุษบกที่ประทับพระแก้วมรกต
    - ผงกระเบื้องหลังคา ผงโมเสส และกระจกหน้าบันพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    - พวงมาลัย ดอกไม้ และธูปจากที่บูชาพระแก้วมรกต หน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    - น้ำพระสุคนธสาคร ที่ใช้สรงพระแก้วมรกต ในพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงประจำฤดู
    - ผงพระสมเด็จจิตรลดา
    - ผงดินสังเวชนียสถานสำคัญ
    - ผงว่านมงคล
    - ผงปฐวีธาตุ และทรายเสก
    - เส้นเกษา พระเกจิอาจารย์ 108 ท่าน
    - ผงใบโพธิ์ ดินพุทธคยา ประเทศอินเดีย
    - ผงพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม นครพนม
    - ผงพระธาตุเจดีย์ วัดพระศรีมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช
    - ผงพระสมเด็จวัดระฆัง กทม.
    - ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม กทม.
    - ผงอิทธิเจ วัดใหม่บางขุนพรหม กทม.
    - ผงพระสมเด็จวัดเกศไชโย อ่างทอง
    - ผงพระพุทธคุณโบราณ วัดอรุณราชวราราม กทม.
    - ผงพระสมเด็จปิลันท์ วัดระฆังฯ กทม.
    - ผงพระสมเด็จวัดสามปลื้ม กทม.
    - ผงพระนางกำแพง กำแพงเพชร
    - ผงพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา
    - ผงพระขุนแผนใบพุทรา กรุวัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา
    - ผงพระกรุวัดท้ายตลาด กทม.
    - ผงพุทธคุณ ลป.แก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี
    - ผงกรุพระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร
    - ผงพระหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี
    - ผงพระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    - ผงพระหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์
    - ผงรัก สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( มา ) วัดสามปลื้ม กทม.
    - ผงพุทธคุณหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
    - ผงทรายเสกหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
    - ผงลูกอม ลป.ทอง วัดราชโยธา กทม.
    - พลอยเสก โดย พระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว หลวงพ่อเกษม หลวงปู่ดู่ หลวงปู่บุดดา หลวงปู่สิม เป็นต้น

    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก หลายวาระ
    วาระร่วมพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ :
    - พิธีปลุกเสก ในวัดพระแก้ว
    - พิธีเหรียญพระพุทธรูปเขาชีจันทร์ ชลบุรี 2538
    - พิธีพระแก้วกรมทหารราบที่ 7 ร้อยเอ็ด
    - พิธีพระพุทธนวราชบพิตร
    - พิธีพีบรมรูป ร.9 วัดศรีสุดาราม
    - พิธีปลุกเสก ในวัดสุทัศน์
    - พิธีพระพุทธชินราชย้อนยุค
    - พิธีพระกริ่ง ทรัพย์เพิ่มพูน

    วาระพิธีปลุกเสกเดี่ยว :
    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่อแร่ วัดเชิดสำราญ ชลบุรี
    - หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก
    - หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ
    - หลวงพ่อนนท์ วัดเหนือวน
    - หลวงพ่อพัฒน์ วัดแสนเกษม
    - หลวงพ่อชม วัดนางใน
    - หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี
    - หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจัก
    - หลวงพ่อทองเบิ้ม วัดวังยาว
    - หลวงพ่อชอบ วัดเขารังเสือ
    - หลวงพ่อม่วง วัดยางงาม
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    - หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง
    - ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    - ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
    - หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2022
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    539. พระสมเด็จพิมพ์ใบโพธิ์ งิ้วดำ รุ่นทูลเกล้า หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ออกที่วัดใหม่อัมพร(ปลุกเสกในไตรมาส)ปี 2520 ให้บูชา 800 บาท

    upload_2022-7-20_19-28-6.png

    ยุคต้นๆ เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่หายาก จำนวนสร้างน้อย องค์นี้สวยเก่าเดิมๆเส้นเกศาหลวงพ่อฯชัดเจนมาก

    พระผงงิ้วดำ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปลุกเสกให้กับวัดใหม่อัมพร จ.นครราชสีมา เมื่อพ.ศ.2520 (ปลุกเสกในไตรมาส)รุ่นแรก รุ่นเดียว รุ่นพิเศษ (สร้างเขื่อนและมูลนิธิ) สร้างพระพร้อมกันสามพิมพ์
    1 สมเด็จปรกโพธิ์
    2พระพุทธรูปใบโพธิ์
    3 ปิดตารูปใบโพธิ์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  16. thitiwatyu

    thitiwatyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +341
    ขอจอง 538 พระผงของขวัญพิมพ์พระแก้วมรกต

    รบกวนขอชื่อบัญชีเป็นภาษาอังกฤษ, อีเมล์แอดเดรส กับที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ
    ผมอยู่ต่างประเทศต้องโอนผ่านแอป เลยต้องกรอกรายละเอียดผู้รับตามนั้น เช่าแล้วเก็บไว้ให้ผมก่อน ตอนเดือนสิงหาคม ค่อยส่งให้ผมที่บ้านในเมืองไทยครับ
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    ตอบทางpm แล้วครับ
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    540. สุดยอดผงวิเศษของหลวงปู่ปาน พระผงพิมพ์ใหญ่ หลังจารยันต์ หลวงปู่หวล วัดพิกุล ผงวิเศษ,ผงพุทธคุณผสมผงยันต์เกราะเพชรหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ให้บูชา 3,500 บาท

    upload_2022-7-21_12-37-30.png
    พระผงสมเด็จ หลวงปู่หวล วัดพิกุล สร้างจากผงพุทธคุณ ผสมผงยันต์เกาะเพชรหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งท่านได้รับมาเป็นจำนวนมาก หลวงปู่หวล ทำพระสมเด็จยันต์เกาะเพชร และพระพิมพ์อื่นๆ เป็นลูกศิษย์ที่ได้เรียนวิชา จากหลวงปาน วัดบางนมโค และ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก องค์นี้เป็นพระสมเด็จที่จารอักขระในขณะที่พระยังไม่แห้ง ซึ่งต้องมีความชำนาญในอักขระเลขยันต์มาก ถึงจะลงยันต์ได้อย่างรวดเร็ว ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สืบทอดยันต์เกราะเพชรอันคุณวิเศษ เก่งเรื่องเมตตา ค้าขาย แถวฝั่นธนฯ นับถือและศรัทธาท่านมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    541. พระอริยเจ้าองค์หนึ่ง ที่เจ้าคุณนร เคารพนับถือยิ่งเป็นอย่างยิ่ง พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่หลวงปู่หลุย พาหิยเถร ปี 2516 ให้บูชา 1250 บาท


    upload_2022-7-21_13-11-18.png

    หลวงปู่หลุย ท่านเป็นศิษย์ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญญาณวรเถร) ซึ่งท่านเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ ๒๓และเป็นศิษย์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่มีอายุยืนยาวที่สุด ทั้งยังเป็นพระเถราจารย์องค์สำคัญซึ่งเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ อีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    542. สุดยอดพระดีแดนใต้ พระประธานพร ภูทราวดี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เพื่อแจกจ่ายให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการของ พล.ต.ท.ประชา บูรณธนิต และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ให้บูชา 750 บาท ปิดครับ


    upload_2022-7-21_14-51-55.png

    upload_2022-7-21_14-52-23.png

    มวลสารที่ ใช้สร้างเป็น ดิน ผง และว่านศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมกันมาจากทั่วประเทศ และทำพิธีปลุกเสกครั้งแรกที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช(วัดพระบรมธาตุ) โดยคณาจารย์สายใต้และเกจิสายเขาอ้อ เช่น อ.นำ วัดดอนศาลา, อ.ปาล วัดเขาอ้อ, อ.คง วัดบ้านสวน, อ.หมุน วัดเขาแดงตะวันออก

    พิธีปลุกเสกครั้ง 2 ที่องค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2506 โดยคณาจารย์สายภาคกลาง เช่น หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลาฯลฯ โดยหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และโยงสายสิญจน์มาจากองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ด้วย

    พระเนื้อดินสีน้ำตาล ปางประทานพรยกพระหัตถ์ขวา มีขนาดประมาณ 1.2 X 3.5 ซม. ด้านหลังประทับยันต์อุณาโลม

    พระเครื่องชุดภูธราวดี ปี 2506 พุทธลักษณะเป็นพระปางห้ามญาติซึ่งเลียนแบบพุทธลักษณะมาจากพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ที่วัดพระปฐมเจดีย์ ด้านหลังมียันต์ตัว "นะ"ขึ้นยอดเป็นอุนาโลมอยู่ในกรอบรูปสามเหลี่ยมลักษณะคล้ายพระเจดีย์มีขนาดกว้างประมาณ1 ซม. สูงประมาณ 2.3 ซม. มีทั้งสีน้ำตาลแบบเนื้อดินผสมว่านและสีดำแบบว่านผสมผงซึ่งส่วนผสม สำคัญ ๆ ของพระเครื่องเนื้อดินผสมผงชุดภูธราวดี ได้แก่
    1. ดินจากสังเวชนียสถาน ทั้ง 4 แห่งในประเทศอินเดีย,
    2.ว่านสำคัญ ทั้งว่านยา ว่านไสยศาสตร์ ยาแก้ยากันต่าง ๆ และว่านหายากชนิดต่าง ๆ ประมาณ 400 ชนิด,
    3.ดินจากหลักเมืองและจากภูเขา หรือสถานที่ชื่อเป็นมงคลทั่วราชอาณาจักร,
    4.ตะไคร่จากพระเจดีย์องค์สำคัญ ๆ เช่นจากพระปฐมเจดีย์จังหวัดนครปฐม , จากวัดบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ฯลฯ,
    5.พระผงแตกหักจากพระสมเด็จฯ ผงแตกหักจากพระนางตรา , ผงจากพระ๕ณาจารย์ทั่งราชอาณาจักรที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น(พศ.2505-2506 ) ตลอดจนน้ำพระพุทธมนต์จากพิธีสำคัญ ต่าง ๆ ในการจัดสร้างพระพิมพ์พระร่วงโรจน์ฤทธิ์,
    จำนวนการสร้างทั้งหมดประมาณ 168,000 องค์ ทุก ๆ 100 องค์จะมีพระคะแนนที่เป็นพิมพ์พิเศษแตกต่างออกอีกไป 1 องค์ เช่น พระพิมพ์พระนางตรา , พระพิมพ์ทวารวดี, พระพิมพ์วัดประตูทอง เป็นต้น รวมจำนวนพระพิมพ์คะแนนพิมพ์ละประมาณไม่เกิน 1,680 องค์ นอกจากนี้ยังมีพิมพ์พิเศษที่มีจำนวนน้อยยิ่งกว่า พิมพ์คะแนน อันได้แก่ พิมพ์พระสังกัจจายน์ ซึ่งไม่ถูกระบุในประวัติการจัดสร้าง ตลอดจนพระกริ่ง และ พระบูชาภูธราวดี หน้าตัก 5 นิ้ว ที่ไม่สามารถระบุจำนวนการสร้างที่แน่ชัดได้ ส่วนผสมที่สำคัญสำหรับการหล่อพระกริ่งและพระบูชาธวารวดีซึ่งเท่าที่ปรากฏหลักฐานมีเฉพาะเนื้อนวะโลหะได้แก่ 1.ทองคำ, 2. เงิน, 3. ทองแดง, 4.ดีบุก, 5.พลวง, 6.สังกะสี, 7.เจ้าน้ำเงิน, 8.เหล็กละลายตัว, 9.เหล็กธรรมดาและเหล็กไหล, ซึ่งก่อนการจัดสร้างพระเนื้อโลหะได้มีการจัดส่งทั้งแผ่นเงิน,ทอง,นาค,เงิน,ดีบุก ให้คณาจารย์ต่าง ๆ ทั้งที่มาเข้าร่วมในพิธีด้วยตนเอง และไม่ได้เข้าร่วมพิธีลงจารอักขระมาด้วย พิธีพุทธาภิเศกของพระชุดภูทราวดี มีทั้งสิ้น 3 ครั้งด้วยกันได้แก่ -ครั้งที่1 และครั้งที่2 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชโดยทั้งการกดพิมพ์พระเนื้อดิน และหล่อพระเนื้อโลหะต้องเตรียมการและจัดทำกันอยู่เป็นเดือน ๆ โดยผู้ที่กดพิมพ์ มีทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชการ ผู้ที่กดพิมพ์และช่วยหล่อพระจะต้องนุ่งห่มขาว รับศีลสมาทานทุกวัน หากผู้ใดออกนอกปะรำพิธี ก่อนกลับเข้าในพิธี ต้องประพรมน้ำพระพุทธมนต์ก่อน รวมถึงต้องรับศีลใหม่ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องถือพรมจรรย์ ห้ามรับของต่อจากมือผู้หญิงรวมถึงห้ามคนนอกและผู้หญิงเข้าใกล้ในเขตพิธีด้วย เมื่อเข้าที่เป็นที่เรียบร้อย จึงใช้ไม้ที่มีนามเป็นมงคลลงเลขอักขระเป็นเชื้อเพลิง เมื่อสุมไฟได้ที่ จะต้องมีพระสวดชัยมงคลคาถา 9 รูป เมื่อนำพระขึ้นมาจะต้องประพรมด้วยน้ำมันจันทร์หอมอย่างดีจึงจะนำไปเข้าพิธีพุทธาภิเศกต่อไป( เป็นเรื่องแปลกที่ขณะที่จัดสร้างพระชุดนี้ได้เกิดมหาวาตภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก วิหารทั่วไปในวัดล้วนได้รับความเสียหายแต่ภายในเขตพิธีอันได้แก่ วิหารหลวง ไม่มีสิ่งใดได้รับความเสียหายเลยแม้แต่กระเบื้องมุงหลังคาสักแผ่นเดียว ครั้งที่ 3 ทำพิธีพุทธาภิเศกที่จังหวัดนครปฐม มีทั้งพราหมณ์ พระไทย พระจีน พระญวน ในนิกายต่าง ๆ รายนามพระคณาจารย์ต่าง ๆ เท่าที่รวบรวมได้ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเศกของพระเครื่องชุดภูธราวดีได้แก่
    1.สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานพิธีที่หน้าองค์พระปฐม เมื่อ 24 เมษายน 2506,
    2.พระมหาวีรวงศ์-พิธีเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช,
    3.พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ,
    4.พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน,
    5.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก,
    6.อาจารย์นำ วัดดอนศาลา ( ขณะเข้าพิธียังเป็นฆราวาสอยู่และมีรูปถ่ายปรากฏเป็นหลักฐาน), 7.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม,
    8.หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา,
    9.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลาบางแก้ว,

    10. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ฯลฯ
    นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...