ได้ไปเจอ "ซัน" ผู้มีญาณทิพย์

จะให้แบนทั้งหมดคงไม่ไหวครับ คนใช้บริการ 3 หมื่นคน ทีมงานมี 20 คน

ก็อยากฝากถึงเพื่อนๆทุกท่านว่า

คนที่ขาดความรับผิดชอบต่อตนเอง มักโยนภาระให้แก่คนอื่น
แต่คนที่รับผิดชอบต่อตนเอง มักจะดูแลตนเอง

หากทุกคนรู้จักหน้าที่ รู้จักขอบเขต และมีมารยาทในการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคม คนผู้นั้นก็จะดูแลตนเอง และรู้จักควบคุมตนเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของสังคม

 

ขออภัยครับ อาจจะพิมพ์ไม่ครบ คือ ผมหมายถึงยอดสมาชิกขาประจำที่เข้าบ่อยๆสิครับ ประมาณ 30,000 - 50,000 คนครับ ส่วนอีกแสนกว่านั้นจะเข้ามาไม่บ่อยครับ

ส่วนที่สมัครเป็นทีมงาน เพื่อแบนทั้งเว็บ ผมแนะนำว่า ไปสมัครเป็นเว็บมาสเตอร์ดีกว่าครับจ่ายเงินปีละ 5,000 บาท แล้วสร้างเว็บเองได้ครับ หุหุ

ปล.ว่าแต่จะแบนตัวท่านเองด้วยเหรอครับ จรรยาบรรณสูงส่งจริงๆครับ

 

ถึงสมาชิกน้องใหม่ทั้งหลาย

อ่านแล้ววางครับ คนเรามีหลายอารมณ์ครับ อ่านเพื่อฝึกใจตนเอง อย่าไปคดิมากครับ

ยินดีต้อนรับสู่เว็บพลังจิตนะครับ

 

กัลยาณมิตรย่อมตักเตือนกันไปในทางที่ดีครับ

อะไรที่เตือนได้เราก็ต้องเตือนกัน จะรับฟังหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่เราได้เตือนเพื่อยุติความขัดแย้งแล้วต่างหากครับ

 

พรหมวิหาร ๔ ภาคที่ 2



ความเมตตา ความรัก ใจเขา ใจเรา

เรารักตัวเอง............................คนอื่นก็รักตัวเอง


เราอยากมีความสุข.....................คนอื่นอยากมีความสุข


เราไม่อยากรู้สึกอับอายต่อหน้ามหาชน.............คนอื่นไม่อยากรู้สึกอับอายต่อหน้ามหาชน

เราไม่อยากมีความทุกข์..................คนอื่นไม่อยากมีความทุกข์


เมตตา เป็นปัจจัย ให้เรารักษาศิลได้๕ข้อและอกุศลกรรมบท๑๐ (ละชั่ว)
เป็นบันใดไปสู่โสดาบันได้

พรหมวิหาร 4 นี้เป็นพื้นฐานของ ความเป็นพระอริยเจ้า

ถ้าเราเมตตาต่อคนอื่น เรารักคนอื่น เราไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นทุกข์ เราก็ไม่ผิดศิล
เมื่อเรามีความรักที่ไหน ต่างคนต่างรักกันใจก็เย็น ทำให้เป็นสุข

ยกตัวอย่าง 2 ข้อ

1). เรามีเมตตาต่อสัตว์ เราไม่อยากให้สัตว์ต้องเจ็บปวดทรมาน เราก็จะไม่ฆ่าสัตว์ ไม่รังแกสัตว์ สัตว์ก็รักตัวเอง เหมือนเรารักตัวเราเอง

2). เรามีเมตตาต่อคนอื่น เราไม่อยากให้คนอื่นอับอายต่อสาธารณะชน
เราก็ไม่ทำให้เขาอับอาย

-------------------------

วิธีการทรงฌาน ในพรหมวิหาร ๔
จิตของเรามีสองอารมณ์ บางอารมณ์มันเป็น อารมณ์ชอบคิด บางคราวชอบคิด และบางคราวชอบสงบ เวลาที่จิตของเรา ต้องการความสงบเรา ก็ยึดอานาปานุสสติกรรมฐาน เป็นพื้นฐาน ให้จิตทรงตัว

------------------------------

ศาสนาคริสก็สอนเรื่องเมตตา ของพุทธต่างกับคริส ตรงที่พุทธสอน อุเบกขา

-------------------------------


เมตตา โดยใช้ปัญญาควบคู่

สุมมุติว่า เราคิดว่าใครทำผิด หรือมีความคิดเห็นที่ผิด
เรามีเมตตากับเขา เราอยากให้เขาได้ดี มีสัมมาทิฐิ เราไม่อยากให้เขาต้องเสียหายอับอายเสียหน้าต่อมหาชน

เราก็ใช้ ปัญญา พิจารณาว่าจะทำอย่างไรดี ในการแนะนำเขา
บางทีการแนะนำคนโดยขาดปัญญาทำให้เกิดโทษและเกิดทุกข์ก็มี

 

แนวทางการปฏิบัติในพระพทุธศาสนา เปิดกว้าง แบ่งได้หลายอย่าง

แบ่งตามความชอบ ความถนัด อุปนิสัยของผู้ปฎิบัติ เช่น
จริต ๖, กรรมฐาน ๔๐ กอง, แนวทางปฎิบัติเพื่อบรรลุอรหันต์ ๔ สาย
แล้วไปรวมกันที่เดียว ที่วิปัสสนา

ในพระสูตร ลูกชายนายช่างทอง

มีลูกชายนายช่างทอง มีฝึกกรรมฐานกับพระสารีบุตร
พระสารีบุตรเป็นพระอรหันต์สาวกที่เป็นเลิศที่สุด ทางด้านปัญญา

พระสารีบุตร เลือกกรรมฐานบางกองให้กับ ลูกชายนายช่างทอง ฝึกอยู่ตั้งนานก็ไม่ก้าวหน้า เพราะว่าเลือกกรรมฐานไม่ตรงกับจริต

พระพุทธเจ้าเลยเรียกเข้าไป แล้วเลือกกรรมฐานตรงกับจริต ต่อมาไม่นานลูกชายนายช่างทองก็บรรุลธรรม

 

การทำบุญ และความเมตตา

การทำบุญ ทำบาป (ทำกรรม) ทำได้ 3 ทาง
คือ ทาง กาย วาจา และใจ

ในพุทธศาสนา แบ่งทำบุญได้เป็น ๑๐ อย่าง คือ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
ย่อได้ ๓ อย่าง คือ ทาน ศิล ภาวนา

ทาน ทำบุญต่างๆ การให้ทานชนิดต่างๆ รวมถึงธรรมทาน
ศิล รักษาศิล
ภาวนา สมถะ วิปัสสนา เป็นบุญสูงสุดทำให้นิพพานได้

---------------------

ได้บุญมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ
วัตถุที่ทำทาน จิตของผู้ทำทาน และผู้รับ

ถึงวัตถุที่ทำทานน้อย แต่ผู้ทำบุญมีจิตศรัทธามากและผู้รับมีศิลธรรม แบบนี้ได้บุญมาก

คนจนก็สามารถได้บุญมากได้

----------------------

ความมีเมตตา

เราเห็นคนจนทำบุญน้อย

คนจนมีเงิน 100 บาท
เขาทำบุญ 60 บาท

เรามีเมตตากับเขา เราคิดว่าเขามีกำลังทำบุญเท่านั้น เขาไม่สามารถทำได้มากกว่านี้ เราไม่ว่าดูถูกเขาว่าเขาทำบุญน้อย
ถึงเขาจะทำน้อย เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยงานบุญ
เขาได้สร้างความดีให้กับตัวเองและงานบุญ


เราเห็นเด็กทำดีกับสังคม
เด็กคนหนึ่งช่วยสังคมเก็บขยะตามริมทะล เพื่อให้ชายหาดสะอาด
เรามีเมตตากับเขา เราไม่ไปว่าเขา ทำไมไม่ไปทำไปขับรถใหญ่ๆเพื่อมาตักขยะ
เขาทำได้แค่นั้น เขาเป็นเด็ก เขามีใจที่จะช่วยเหลือสังคมตามความสามารถที่เขามี ถือว่าทำดีตามกำลังและปัญญาตอนนั้นเขามี


เราเห็นเด็กสอนการบ้านเพื่อนๆ
เราเห็นเด็ก ป.5 คนหนึ่ง สอน วิชาคณิตศาสตร์กับกลุ่มเพื่อน

พื้นฐานจิตใจเด็กคนนั้น เขามีจิตใจที่อยากจะช่วยเพื่อนๆโดยการสอนคณิตศาสตร์ เขามีความรู้เท่านั้นเขาสอนเท่านั้น จะให้เขาไปสอนคณิตศาสตร์ระดับปริญญาเอกเขาก็ทำไม่ได้
แต่เมื่อเขาโตไปในอนาคตเขาอาจจะทำได้ก็ได้

เราเป็นผู้ใหญ่ เรามีเมตตากับเขา เราไม่ไปต่อว่าเขา ทำไมน้องไม่สอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับงานวิจัยปริญญาเอก

แต่ถ้าเราเห็นว่าสิ่งที่เขาสอนวิชาระดับ ป.5 เห็นว่าเขาสอนผิดตรงไหน เราก็แนะนำตรงส่วนที่เขาสอนผิด ทั้งให้กำลังใจและแก้ผิด.....

 

อีกประการหนึ่ง คนพูดมากปากพล่อย ทำลายศรัทธาของคน พระก็มี คนก็มีเหมือนกัน มีบ้างไหม พระของเราที่มีปากเลว เลวไม่ได้ใช้ปัญญาคือ พูดก่อนคิด ใครเขาทำอะไรผิด ใครเขาทำอะไรถูกต้องคิดว่า


ถ้าเขาทำด้วยเจตนาดี อันนี้เราก็ควรจะให้อภัย การพลั้งพลาดเป็นของธรรมดา

การมีความรู้สึกให้อภัยซึ่งกันและกันรู้สึกสงสารในการพลั้งพลาด ทั้งทั้งที่เขาทำด้วยเจตนาดีแต่ว่ามันผิดไปบ้างอันนี้ก็ต้องมีจิต ให้อภัยอย่างดีที่สุด ก็ควรจะปลอบกำลังใจว่า เราทำผิดไปแล้ว วันหน้าความดียังมีอยู่ ถ้าเราเป็นสาวกขององค์สมเด็จ พระบรมครู เราก็ควรจะยับยั้งตั้งต้นใช้ปัญญาเสียใหม่


http://palungjit.org/showpost.php?p=1184699&postcount=734