ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๗

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย phumiput, 1 มกราคม 2024.

  1. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๔๗
    ให้บูชามีดหมอเหล็กน้ำพี้ ขนาด 5 นิ้ว (ใบมีดยาว 3 นิ้ว) สำหรับ มีดหมอชุดนี้ผมได้ซื้อไปเข้าพิธีโสฬสที่วัดท่าขนุนเอง(ขอผู้ที่จะบูชาเป็นคนที่ไว้ใจในผมครับ จะได้ไม่ลังเลสงสัยในการบูชามีดครับ)ปลุกเสกเมื่อปี 52

    สำหรับข้อมูลของพิธีนี้มีดังนี้
    ถาม : หลวงพ่อคะ พิธีโสฬสนี่สำคัญอย่างไรคะ?
    ตอบ : สำคัญชนิดที่ว่าอาตมายังทำไม่เป็นเลย ถ้าท่านไม่อนุญาตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
    จริง ๆ แล้วเรื่องของพิธีของโสฬส สมัยก่อนถือว่าสูงสุด เป็นพิธีสำหรับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทั้งนั้น ครูบาอาจารย์ที่ทำพิธีในสมัยก่อน ก็เห็นมีหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง (พระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยมราคาเป็นล้าน ๆ) มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ส่วนใหญ่แล้วท่านจะทำเป็นเครื่องคาดราชศาสตรา สำหรับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อย่างตะกรุดโสฬส เป็นต้น แต่พอมาสมัยหลวงปู่ศุขท่านทำเป็นอาวุธ คือ พระขรรค์โสฬส ทำขึ้นมาโดยใช้โลหะอาถรรพณ์ต่าง ๆ ตีขึ้นมาเป็นพระขรรค์แล้วทำพิธีปลุกเสกตามตำรา
    อาตมาจริง ๆ ทำไม่เป็น ต้องอาศัยหลวงปู่ศุขท่านสงเคราะห์ให้ สมัยนั้นที่ท่านทำพระขรรค์โสฬส ท่านทำไม่กี่เล่ม โดยเฉพาะเล่มหนึ่งในจำนวนนั้นคืออาวุธคู่พระหัตถ์ของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    ในเมื่อเป็นดังนั้น หลวงปู่ท่านก็สงเคราะห์ให้ อาตมาเคยได้คืบก็เอาศอก แรก ๆ ก็ไม่มีปัญญาสร้างตามวัสดุ ในเมื่อท่านอนุญาตว่าอย่างไรก็ได้ ก็เลยไปเรื่อย จะเอาวัตถุมงคลทุกอย่างเข้าพิธี ลักษณะเลยกลายเป็นผีถึงป่าช้า ไม่เผาก็ต้องฝัง ท้ายสุดก็เลยต้องมีกระทั่งน้ำมนต์ แต่ว่าน้ำมนต์นี่ได้ยินว่าจำหน่ายขวดละสิบบาท ที่เหลือทั้งหมดอาตมายึด ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรถึงจะได้ทำอีก หรืออาจจะได้ทำครั้งเดียวในชีวิต
    เนื่องจากฤกษ์ปลุกพระขรรค์โสฬสต้องเป็นวันเสาร์หรือวันอังคารขึ้น ๑๕ ค่ำเท่านั้น และถ้าตามฤกษ์ดั้งเดิม ท่านใช้เวลาเที่ยงตรง บังเอิญว่าฤกษ์วันอังคารขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีนี้ตรงกับวันอาสาฬหบูชาพอดี อาตมาเองก็คิดไม่ถึง ก็เลยกลายเป็นฤกษ์พิลึกพิลั่นว่า ไม่รู้อีกนานเท่าไรวันอาสาฬหบูชาจะตรงกับฤกษ์โสฬสอย่างนี้อีก หรือว่าไม่รู้อีกนานเท่าไรที่ฤกษ์โสฬสจะไปตรงกับวันอาสาฬหบูชา ที่เป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนา ดังนั้น บางคนก็พูดว่าร้อยปีมีหนเดียว จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ต้องไปเปิดปฏิทินร้อยปีดู
    รอหน่อยนะจ๊ะ..ใครจะเอาของเข้าพิธี อาตมารับไม่อั้น เพราะอาตมาเองไม่เคยหวง ใครเอาวัตถุมงคลมาเข้าพิธีมากเท่าไร ก็เหนื่อยน้อยเท่านั้น สมัยอยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านมีวิชาอะไรท่านไม่เคยหวง อาตมาเองก็มาเห็นประโยชน์เอาตอนหลัง อย่างเช่นการทำบายศรี ใครมาก็จับขึ้นครูทำ บายศรีวัดท่าขนุนก็เลยเสร็จเร็วขึ้นทุกงาน เพราะคนเป็นกันมากขึ้น ถ้าคนเป็นกันทั่ว เราก็จะเหนื่อยน้อย ดังนั้นวิชาไม่ควรจะหวง สมัยก่อนหวงวิชาแล้วตายไปกับตัวก็เยอะ บรรดาไม้ตายต่าง ๆ ก็จะตายฟรี ตายไปกับตัว ทำให้วิชาการรุ่นหลัง ๆ เสื่อมไปเรื่อย จนกว่าจะมีลูกศิษย์ประเภทอัจฉริยะ บัญญัติขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้เท่ากับของเดิม
    เทศน์หลังทำวัตรค่ำ บนศาลาวัดท่าขนุน
    ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒


    เรื่องของพระขรรค์โสฬสใครจะเอาวัตถุมงคลอะไรมาเข้าพิธีก็ได้ แต่ว่าในกาลต่อไปข้างหน้า ถ้าหากว่าที่มาไม่ชัดเจน ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือของพวกเราเอง เนื่องจากพระขรรค์โสฬสที่ทำนั้น มีที่มาชัดเจนและตรวจสอบได้เป็นบางอย่างเท่านั้น
    อย่างแรกคือพระขรรค์โสฬสที่คณะของท่านรัตน์ กับคุณชัยรัตน์ ธรรมทัตโต ช่วยกันทำขึ้นมา จะมีจำนวนที่แน่นอน มีขนาดและน้ำหนักที่แน่นอน ส่วนอีกอย่างก็คือ พระขรรค์โสฬสประมาณ ๓ ขนาด ที่สร้างจากบ้านจ่าตุ่ม อันนั้นคือฝีมือการทำและเนื้อเหล็ก สามารถที่จะตรวจสอบได้ เป็นที่จดจำได้
    นอกจากนั้นท่านจะขนครกสากกะเบืออะไรก็ตามเข้าพิธี แต่ถ้านานไปถึงเวลาบอกว่าอันนี้เข้าพิธีโสฬสมา คนเขาจะเชื่อก็ต่อเมื่อความน่าเชื่อถือของท่านมีมากพอ ถ้ามีไม่มากพอก็ควรจะไปหาของที่มีที่มาชัดเจนแทน

    ตำราการสร้างพระขรรค์โสฬส เริ่มมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งได้รวบรวมเอาโลหะอาถรรพณ์ต่าง ๆ มาหลอม ปลุกเสก หาฤกษ์ที่เหมาะสม ตีเป็นพระขรรค์ โดยการคาดคะเนแล้วไม่เกิน ๗ เล่ม ๑ ใน ๗ นั้นเป็นอาวุธคู่พระหัตถ์ของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    อานุภาพของพระขรรค์โสฬส ทั้งป้องกันไสยศาสตร์และวัตถุอาถรรพณ์ ทั้งคุณผี คุณคนทุกชนิด และท่านใดที่โดนวัตถุอาถรรพณ์ คุณผี คุณคนใด ๆ มา สามารถใช้พระขรรค์โสฬสถอนสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นได้
    ถ้าตามตำราท่านบอกว่า ให้นั่งหันหน้าเหยียดเท้าไปทางทิศตะวันตก หรือถ้าหากว่ามีแม่น้ำลำคลอง ให้หันหน้าไปทางท้ายน้ำ คือ หันหน้าไปตามลำน้ำไหล อาราธนาแล้วใช้พระขรรค์โสฬสแตะไล่ตั้งแต่ศีรษะไปจนกระทั่งถึงปลายเท้า แต่อย่าให้ใครไปอยู่ทางปลายเท้า ของที่ไล่มาอาจจะไปเข้าคนนั้นแทน
    คาถาที่ใช้ ถ้าหากเป็นมหาอำนาจหรือป้องกันภัย ให้อาราธนาด้วยคาถาอาวุธพระเจ้า คือ
    สักกัสสะ วะชิราวุธัง ยะมัสสะ นะยะนาวุธัง อาฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง
    จัตตาโรวา อาวุธา สัพพะศัตรูวินาศสันติ
    ถ้าหากว่าจะใช้ในการถอนคุณไสยต่าง ๆ ให้ใช้คาถาบารมี ๓๐ ทัศต่อด้วยนะโมพุทธายะ ให้ว่า

    อิติปาระมิตา ติงสา อิติสัพพัญญู มาคะตา อิติโพธิ มะนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม นะโมพุทธายะ
    ขอบารมีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ให้ช่วยทำลายไสยศาสตร์ วัตถุอาถรรพณ์ หรือคุณผี คุณคน ทั้งหลายเหล่านี้ด้วย


    มีอยู่ 2 ด้าม ให้บูชาด้ามละ 700 บาทจัดส่ง 50
    ปล.2 เล่มนี้ผมได้ไปซื้อจากงานโอท๊อปที่เมืองทองธานีปี 51 ตอนนั้นซื้อมาหลายตังค์อยู่ครับ
    IMG_8585.jpg IMG_8586.JPG IMG_8587.JPG IMG_8588.JPG
     
  2. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๔๘
    รายการฝาก
    ให้บูชาตะกรุดงาช้าง รุ่น 1 ดอกเล็ก ขนาดประมาณ 3.5 เซ็นติเมตร หัวท้ายหุ้มเงิน(แต่เดิมของวัดเลยครับ) ของหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ปี 2539 ตะกรุดงาช้างมีรอยจารตลอดครับ ตะกรุดดอกเล็กนี้จัดสร้างเพียง 500 ดอกเท่านั้นครับ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นนิยมอีกรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง และมีประสบการณ์สูง
    หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทองเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุขเมื่อครั้งท่านยังเป็นสามฌร และเรียนกรรมฐานจากหลวงปู่จงวัดหน้าต่างนอกและหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ(เมื่อครั้งหลวงปู่เชิญยังเป็นสามเณร) และยังได้มาเรียนวิชากับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคอีกด้วยครับ ท่านมรณภาพเมื่อปี 2543 ครับ

    ฝากมาที่ 2000 จัดส่ง 50 รายการนี้จองได้ 1 วันครับ เนื่องจากเจ้าของต้องการปัจจัย
    ปล. ท้องตลาดเล่นหาบูชากันเกิน2000 ครับ

    IMG_8544.jpg IMG_8545.jpg IMG_8546.jpg IMG_8547.jpg
     
  3. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๔๙
    บูชาแบบครบชุด รายการฝาก

    ให้บูชาปลาตะเพียน (งับทรัพย์) จิ๋ว สามสี ประกอบด้วย สีเหลือง สีเขียว และสีแดง (ท่านทำมาแค่ 3 สีเท่านั้นครับ) ของ หลวงพ่อเอ บ้านสุมโน จัดสร้างโดยใช้สุดยอดมวลสารที่ท่านเก็บไว้นานมากนั่นคือ ผงว่าน ๑๑๑ ชนิด ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า ณ วิหารร้อยเมตร วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อฤๅษี เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕
    หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตเสกวาระเเรกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๖๔ ท่านใช้เวลาเสกอยู่เกือบ ๑ ชั่วโมง ในระหว่างที่ท่านเสกอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เเปลกมากคือมีเเมวจากไหนก็ไม่รู้มาร้องอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองบ้านสุมโนใกล้ๆบริเวณที่หลวงพ่อเสกอยู่ ปกติก็ไม่มี คำถามคือทำไมต้องมาร้องตอนหลวงพ่อเสกปลาตะเพียน… หลวงพ่อท่านเลยเฉลยว่า จำได้ไหมตอนเสกจตุราวุธกับเสกเหรียญนกฮูกก็มีนิมิตให้เห็นลักษณะนี้
    เเอดเลยถึงบางอ้อทันที เลยพูดเล่นๆว่า สงสัยหลวงพ่อเสกปลาตะเพียนให้มีชีวิตจริงๆขั้นเเมวยังอดใจไม่ไหวเลยนะครับ…
    วาระที่ ๒ หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตในวันสวดพระคาถาเงินล้านของบ้านสุมโน ทั้งวันเสาร์เเละอาทิตย์
    วาระที่ ๓ ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ซึ่งหลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้พระที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว จะไม่ให้มีอาการคล้ายได้อย่างไรล่ะครับ มวลสารที่สร้างก็ขลังซะขนาดนั้น…
    เพิ่มเติม
    เรื่องเล่าข้างเก้าอี้ ปลาตะเพียน (งับทรัพย์)
    สวัสดีผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ ช่วงนี้ฝนตกอากาศเย็นเลยมีอารมณ์อยากเล่าเรื่องสนุกๆ ตื่นเต้นให้ทุกท่านได้อ่านกัน เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลวงพ่อท่านสั่งว่าให้เตรียมดอกไม้บายศรี ท่านจะเสกวัตถุมงคล ผู้เขียนก็งง ไม่มีอะไรให้เสกนี่นา หรือจะเป็นตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๒ เเต่ก็เสกมาตั้งหลายวาระเเล้วทั้งหลวงพ่อเอเสกเดี่ยว พิธีที่พระอาจารย์บ๊ะมาเสกพอร์ซเลนมังกรกับนกฮูกก็นำเข้าไปเสกด้วย เเล้วจะเสกอะไรหว่า…
    คิดยังไม่ทันจบ ท่านก็เรียกให้เข้าไปดูกล่องที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ของที่อยู่ในกล่องคือ ปลาตะเพียน ตัวเล็กน่ารักเต็มไปหมด ผู้เขียนจึงได้คำตอบว่าท่านจะเสกอะไร
    ตั้งเครื่องบวงสรวงเรียบร้อยได้เวลาตามฤกษ์ยามหลวงพ่อท่านก็เริ่มบูชาพระรัตนตรัยเเล้วนั่งประจำที่อันสมควรเริ่มอธิษฐานจิตเสกปลาตะเพียน (งับทรัพย์) เเละ ตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๒ ท่านใช้เวลาเสกอยู่ ๑ ชั่วโมงเต็มๆ หลังจากเสร็จท่านก็เล่าให้ฟัง หลวงปู่จงท่านน่ารักมากเลย ท่านมานั่งกระหย่งๆเสกปลาตะเพียนให้อยู่พักใหญ่ๆ ต่อด้วยหลวงพ่อพระสีวลีก็มายืนทับวัตถุมงคลสีทองสว่างจ้าไปหมด ท่านเเม่ก็มาช่วยเสกให้ลูกหลานอีกเเล้ว ปิดท้ายด้วยฉัพพรรณรังสีสว่างวาบลงมากลางกองวัตถุมงคล
    “ช่วงที่หลวงพ่อเสกมีเเมวมาร้องอยู่ตรงหน้าต่างด้วยครับ มาได้ไงก็ไม่รู้”
    เจ้าหน้าที่อีกคนนึงก็พูดเสริมว่า “ตอนหลวงพ่อเสก โต๊ะที่วางกระถางธูปเชิงเทียนสั่นด้วยครับ”
    หลวงพ่อท่านพูดว่า “ตอนเสกหลวงพ่อไม่ได้ยินอะไรเลย เเต่ก็คงเป็นนิมิตให้รู้เหมือนที่พระอาจารย์บ๊ะท่านบอกน่ะ”
    “สงสัยหลวงพ่อเสกจนเเมวได้กลิ่นปลาตะเพียน มันเลยจะมากินปลา” ผู้เขียนพูดเเต่หลวงพ่อท่านตอบเเค่ว่าเดี๋ยวจะเสกวันสวดคาถาเงินล้านเสาร์อาทิตย์นี้เเละวันวิสาขบูชาจะพุทธาภิเษกอีกรอบ
    พอถึงวันวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ตะกรุดฉุดเงินล้าน รุ่น ๒ เเละวัตถุมงคลของบ้านสุมโนอีกหลายรายการได้เข้าพิธีนี้ งานนี้หลวงพ่อไหลมาเทมาเมตตาเทบาตรลงมากลางกองวัตถุมงคลอีกเเล้ว หลวงพ่อพระสีวลีก็มายืนทับเหมือนเดิม หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงเมตตามาเสกให้ด้วย สงสัยงานนี้จะรวยกันใหญ่
    หลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ
    ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้คนที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว คงไม่เเปลกเพราะปลาตะเพียนทำจากมวลสารที่เข้าพิธีปี ๓๕ ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง
    แค่สองสามพิธีนี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้เขียนอยากได้ปลาตะเพียน (งับทรัพย์)มาติดตัวเเล้ว เเต่หลวงพ่อท่านยังไม่เเล้วใจ เพราะท่านจะทำอะไรญาติโยมต้องได้ของที่ดีที่สุด ท่านจึงสั่งให้นำปลาตะเพียนไปที่อินทร์บุรี เดินทางฝ่าพายุฝนที่ตกหนักไปตลอดทางน้ำท่วมหลายจุด ประหนึ่งเอาปลาตะเพียนมาเล่นน้ำ… พอไปถึงหลวงพ่อสั่งว่าอย่าเพิ่งเอาปลาตะเพียนลงไปนะ… หลังจากที่หลวงพ่อได้กราบเเละพูดคุยทักทายพระอาจารย์บ๊ะสักพักพระอาจารย์บ๊ะก็หยิบปลาตะเพียนของหลวงพ่อจง ที่เพิ่งเลี่ยมเสร็จใหม่ๆออกมาให้หลวงพ่อเอดู พวกเราที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันมามองหน้ากัน
    อะไรจะพอดีขนาดนั้นงานนี้สบายเเล้ว มีสื่อของระดับปรมาจารย์อย่างหลวงพ่อจงเเบบนี้… พอมีจังหวะหลวงพ่อก็สั่งให้ไปยกลังปลาตะเพียนลงมา จังหวะที่พระอาจารย์บ๊ะเห็นก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับพูดว่า “เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก” ท่านหยิบปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ขึ้นมาดู “น่ารัก โอเคเลยนะ จะเสกอะไรเพิ่มดี” ท่านก็หลับตาเอามือจับที่กล่องปลาตะเพียน (งับทรัพย์) พร้อมกับวางปลาตะเพียนเงินตะเพียนทองของหลวงพ่อจง ไว้บนกล่องด้วย พอลืมตาท่านบอกว่า “ รวยเเล้ว ขายของดีเดี๋ยวมีคนหมั่นไส้ เลยเติมความปลอดภัย ใครทำร้ายเราเเต่เราไม่เจ็บไม่เป็นไร รอดไปได้เเบบสบายๆ”
    น่าเเปลกที่ท่านไม่อัดเรื่องลาภเข้าไปเลย หรือท่านจะรู้ว่าปลาตะเพียนนี้อัดเเน่นเต็มไปด้วยลาภผลเเล้ว จึงเติมด้านอื่นให้ โชคดีของคนที่จะได้ปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ไปพกติดตัวจริงๆ… พิมพ์มาก็ยาวพอสมควร ถือซะว่ามาเเบ่งปันประสบการณ์ที่ได้พบเจอให้ผู้อ่านได้ทราบไปด้วยกัน ชอบก็กดไลค์ ถูกใจก็กดเเชร์ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ ตอนนี้เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีกเเล้ว ฝนตกทีไรผู้เขียนง่วงทุกทีขอตัวไปนอนก่อนครับ
    สวัสดี
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    ที่มาเเละประวัติการจัดสร้าง
    ปลาตะเพียนสีเเดง (งับทรัพย์) หลวงพ่อเอจัดสร้างโดยใช้สุดยอดมวลสารที่ท่านเก็บไว้นานมากนั่นคือ ผงว่าน ๑๑๑ ชนิด ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า ณ วิหารร้อยเมตร วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อฤๅษี เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕
    หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตเสกวาระเเรกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๖๔ ท่านใช้เวลาเสกอยู่เกือบ ๑ ชั่วโมง ในระหว่างที่ท่านเสกอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เเปลกมากคือมีเเมวจากไหนก็ไม่รู้มาร้องอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองบ้านสุมโนใกล้ๆบริเวณที่หลวงพ่อเสกอยู่ ปกติก็ไม่มี คำถามคือทำไมต้องมาร้องตอนหลวงพ่อเสกปลาตะเพียน… หลวงพ่อท่านเลยเฉลยว่า จำได้ไหมตอนเสกจตุราวุธกับเสกเหรียญนกฮูกก็มีนิมิตให้เห็นลักษณะนี้
    เเอดเลยถึงบางอ้อทันที เลยพูดเล่นๆว่า สงสัยหลวงพ่อเสกปลาตะเพียนให้มีชีวิตจริงๆขั้นเเมวยังอดใจไม่ไหวเลยนะครับ…
    วาระที่ ๒ หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตในวันสวดพระคาถาเงินล้านของบ้านสุมโน ทั้งวันเสาร์เเละอาทิตย์
    วาระที่ ๓ ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ซึ่งหลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้พระที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว จะไม่ให้มีอาการคล้ายได้อย่างไรล่ะครับ มวลสารที่สร้างก็ขลังซะขนาดนั้น…
    วาระที่ ๔ เข้าพิธีพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังการ์ อธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน
    วาระที่ ๕ เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่โบสถ์เก่าวัดท่ามะขาม โดยมีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เป็นองค์ประธานในการอธิษฐานจิตปลุกเสก
    ข้อมูลจากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ
    ปลาตะเพียนเเดงชุดนี้ได้ผ่านการเข้าพิธีสำคัญๆเพิ่มเติมอีก ๒ พิธี คือ พิธีพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา อธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน เเละ พิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่ามะขามโดยมีหลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุนเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตเสก ครูบาอาจารย์เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกหลวงพ่อสีวลี, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, องค์แม่กวนอิม (เมตตามาประสิทธิให้ในพิธี)
    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาสำหรับสีแดงนี้

    (เนื้อรุ่นนี้เปราะเนื่องจากเล็กและแก่มวลสาร เวลาเลี่ยมต้องให้ช่างระวังหน่อยครับ)

    มีอยูชุดเดียวเท่านั้นครับ ให้บูชาชุดละ 550 จัดส่ง 50 บาท

    ปล. ปกติให้บูชาที่ตัวละ 200 บาท
    IMG_8551.JPG IMG_8552.JPG IMG_8553.JPG

     
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๐
    ให้บูชาเหรียญเต่ามังกรพิมพ์จิ๋ว รุ่น รวมพุทธคุณเจริญพร ๑๖๘ ของ วัดสี่แยกเจริญพร นครปฐม ปี 62 เนื้อเขียวเหล็กไหล
    สำหรับรุ่นนี้เข้าพิธีใหญ่นิมนต์พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาร่วมเสกหลายองค์
    มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2562 ณ อุโบสถวัดสี่แยกเจริญพร พระเกจิอาจารย์ดังนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกประกอบด้วย เจ้าคุณพระภาวนาวิสุทธโสภณ (พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่พระอารามหลวง) พระครูปฐมวราจารย์(หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม) พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ (พระอาจารย์อิฎฐ์ วัดจุฬามณี) พระครูโกศลนวการ (หลวงปู่ปั่นวัดหนองกระทุ่ม) พระครูปฐมจินดากร(พระอาจารย์สายชล วัดไร่แตงทอง) พระครูวรพรตธาดา (หลวงพ่อทองสุข วัดหนองปลาดุก) พระครูวิมลชัยสิทธิ (หลวงพ่อล้อม วัดไผ่รื่นรมย์) หลวงปู่สิทธิชัยตาทิพย์วาจาสิทธิ์ วัดสี่แยกเจริญพร พระครูวิลาศกาญจนธรรม วัดท่าขนุน พระครูสุวรรณกิตติธาดา วัดเขาตะเภาทอง และพระครูไพโรจน์ ภัทรคุณ วัดสระพัง
    ที่สำคัญเนื้อนี้เป็นเนื้อโลหะที่ผ่านการชุบของโรงงานซึ่งเป็นน้ำยาเฉพาะไม่มีที่ไหนทำได้ หายากครับ
    ผมขอยกข้อความจากเว็บวัดท่าขนุนในเก็บตกบ้านวิริยบารมี ที่พระอาจารย์เล็กกล่าวถึงสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหลซึ่งเป็นเนื้อเดียวกันกับเหรียญเต่ามังกรรุ่นนี้มาให้อ่านกันครับ
    พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กำลังให้ท่านอาจารย์เทพติดต่อโรงงานเขาว่าขอแทรกคิวได้ไหม โรงงานนี้เขาทำเนื้อเขียวเหล็กไหลได้ ว่าจะขอทำเหรียญสมเด็จองค์ปฐมสักรุ่นหนึ่ง มีหลายโรงงานพยายามที่จะเลียนแบบ ปั๊มเสร็จแล้วเอาไปแช่น้ำ สนิมขึ้นหมดเลย ต้องเป็นน้ำบ่อนั้นของโรงงานนั้นเท่านั้น ไม่ว่ารู้มีสารเคมีอะไร
    เหรียญทองแดงธรรมดา ๆ เอาไปแช่ไว้ ๔๘ ชั่วโมง ออกมาเป็นสีเขียวปีกแมลงทับเลย เปลี่ยนสีได้เอง ตอนแรกเขาก็ไม่รู้ ของท่านอาจารย์เทพพอปั๊มเสร็จ เอาลงไปล้างน้ำ ทำความสะอาดเพื่อเตรียมที่จะเอาขึ้นมาบรรจุซองแล้วส่งให้ทางวัด ปรากฏหายไป ๒ เหรียญ วิ่งลงไปดูก็แช่น้ำไป ๒ วันแล้ว กลายเป็นเหรียญเขียวปี๋เป็นปีกแมลงทับเลย เขาก็แปลกใจ เอาเหรียญที่เหลือไปแช่ใหม่ เฮ้ย...เขียวจริง ๆ คาดว่าน่าจะมีสารพวกกำมะถันอยู่ แต่ความเป็นกรดต้องแรงมาก เพราะว่าถ้าไม่แรงก็ไม่กัดผิวขนาดนั้น
    น้ำตรงนั้นน่าจะผ่านพวกลาวาใต้ดินมา สวยมาก นึกถึงแมลงทับ ปีกสวยอย่างไร เหรียญก็หน้าตาอย่างนั้นเลย"
    อีกหน่อยเนื้อนี้จะหายากครับ เพราะคนทำเนื้อแบบนี้ได้เสียชีวิตแล้ว ผมขอยกข้อความจากเก็บตกบ้านวิริยบารมีมาให้อ่านกันครับ
    พระอาจารย์เล่าว่า "ช่างที่ทำสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหลเสียชีวิตแล้ว ทำงานให้วัดท่าขนุนเสร็จก็ตาย สูตรเขียวเหล็กไหลสาบสูญไปจากโลกเลย
    ทางสายลูกศิษย์วัดสี่แยกเจริญพรเรียกเนื้อนี้ว่า เขียวมังกรหยก
    ที่สำคัญทางวัดได้นำเข้าพิธีต่าง ๆ 10 กว่าวาระรวมถึงพิธีพลิกชีวิต


    พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาลุ้นลูกสาว ยื่นเข้าเรียนปริญญาโทที่ London Business School ที่ลุ้นไม่ได้ลุ้นเรื่องภาษาเพราะว่าลูกเขาเก่งอยู่แล้ว แต่ลุ้นว่าจะรอดจากโควิดไหม ? ...(หัวเราะ)...

    ตอนนี้กำลังเงี่ยหูฟังข่าวทั่วโลก ว่าใครพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วติดโควิดบ้าง ? ติดขึ้นมาเมื่อไรอาตมาจะอาละวาด..! ในเมื่อรับปากว่าจะช่วยก็ต้องช่วยกันสิ คือความจริงเรื่องของพระเรื่องของเทวดาท่านพูดครั้งเดียว แต่ด้วยความที่อาตมาเป็นโรคหวาดระแวงก็ต้องคอยเช็คข่าว ว่าใครพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วมีติดโรคบ้าง

    พิเศษสำหรับองค์นี้เป็นชุดที่พระอาจารย์เทพ วัดสี่แยกเจริญพรถวาย ซึ่งได้เข้าพิธีพลิกชีวิต และได้เข้าพิธีกรรมฐาน 3 วัน ปี 63 (สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์สงเคราะห์ซึ่งหลวงพ่อเล็กท่านว่าจะหาพิธีแบบนี้ได้ยากมากและเด่นด้านลาภมากสุด) ซึ่งจะมีชุดแรกที่ทางวัดสี่แยกเจริญพรออกให้บูชา แบบนั้นจะไม่ได้เข้าพิธีกรรมฐาน 3 วันปี 63 แต่เหรียญนี้มั่นใจได้เลยครับ ว่าผมบูชามาจากเว็บวัดท่าขนุนเมื่อหลายปีแล้ว ปัจจุบันหมดนานแล้ว

    ผมให้บูชาราคาเดียวกับเว็บวัดท่าขนุนครับ 300 บาท ปิดรายการ จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_8600.jpg IMG_8601.jpg IMG_8602.jpg 131924682_1320627018298054_2696924750162025605_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2024
  5. พลังกสิณ

    พลังกสิณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +95
    ขอจองรายการที่ 184ครับ
     
  6. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,510
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  7. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองรายการที่ ๒๕๐ เหรียญเต่าจิ๋วเขียวเหล็กไหลครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  9. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๑
    ให้บูชาผ้ายันต์พระเวสสันดรคืนเมือง สีเหลือง ขนาด 14.5x21.5นิ้ว ของสำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม จ.ชลบุรี
    ผ้ายันต์ชุดนี้เป็นชุดที่อยู่ในพิธีหล่อพระปางไสยาสน์ของสำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา(2566) ซึ่งผ้ายันต์ชุดนี้ผ่านพิธีปลุกเสกมา 2 วาระแล้วครับ
    ท่านพ่อมนัสท่านกล่าวว่า"วัตถุมงคลเมตตาดีแล้วเดี๋ยวเสกมหาอำนาจใส่ให้เพิ่มสักหน่อย"
    ตอนอธิฐานจิต ปรากฏว่า เสกจนเทียนชัยหัก ตู้เทียนชัยแตกกันเลยซะทีเดียว วัตถุมงคลรุ่นนี้เเรงมากนะจะบอกให้ (พิธีเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา)
    สำหรับผ้ายันต์พระเวสสันดรคืนเมืองนั้น ปลุกเสกเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕
    รายชื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาอฐิษฐานจิต
    ท่านเจ้าคุณหลวงตา พระราชภาวนาพัชรญาณ วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    พระครูสันติบูรพาทิศ (หลวงพ่อบุญเสริม) เจ้าคณะอำเภอบ้านฉาง วัดชากหมาก ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
    พระครูวินัยธรอดิศร กันตสาโล สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม
    พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม วัดเขาแร่ในสังฆราชูปถัมภ์ สุโขทัย
    ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนจากเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕ (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวัตถุมงคลรุ่นนี้มาให้อ่านกันครับ)
    พระครูโก้ (พระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล) เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม ท่านก็ยึดหลักตามแบบของหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คืออาศัยคุณพระรัตนตรัยเป็นหลัก จึงได้นำญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมพิธี เจริญบทสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณตามกำลังวัน แล้วต่อด้วยพระคาถาเงินล้าน

    ส่วนกระผม/อาตมภาพเมื่อเข้าสู่อาสนะที่เขาจัดไว้ ก็กำหนดจิตขึ้นไปกราบขอบารมีพระ เห็นภาพพระพุทธนิมิตหน้าตักใหญ่ถึง ๒๐ วา ครอบลงมาบริเวณพิธี เป็นอันว่าศาลาทั้งหลังอยู่ตรงกลางองค์พระพอดิบพอดี เมื่อกระผม/อาตมภาพกำหนดใจต่อไปอีก ก็เห็นพระรัศมีสีทองสว่างไสว พุ่งเป็นลำลงมาเต็มบริเวณพิธี

    ก่อนหน้านี้บางทีกระผม/อาตมภาพก็เห็นเป็นรูปองค์พระบ้าง บางทีก็เห็นเป็นแสงสว่างบ้าง แต่ว่าไม่ได้สงสัยอะไร แต่ว่าพอดีวันนี้นั่งอยู่ข้างพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางด้านขวานั้นท่านปู่ท่านย่า พร้อมกับพี่ ๆ หลายท่านนั่งอยู่ กระผม/อาตมภาพจึงได้กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า "ทำไมบางทีกระผมถึงเห็นเป็นภาพพระพุทธนิมิต ทำไมบางทีถึงเป็นแสงสว่างครับ ?"

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านหัวเราะ แล้วเมตตาตอบว่า "แกมันโง่เอง..! เรียกง่าย ๆ ว่า "มีของ..ใช้เป็น" แต่ไม่เข้าใจว่าตนเองใช้อะไร การที่แกเห็นเป็นภาพพระพุทธนิมิตเป็นการใช้ทิพจักขุญาณทั่วไป แต่การที่แกเห็นเป็นแสงสว่างนั้น เป็นทิพจักขุญาณในเจโตปริยญาณ ซึ่งแกเคยใช้ดูสีดูจิตทั้งของตนเองและผู้อื่น"
    อีกข้อความว่า
    เมื่อพระท่านตรัสว่า "เต็มแล้ว ให้กลับลงไปได้" กระผม/อาตมภาพก็กราบลาทุกท่าน ลงมาทำน้ำมนต์พรมรอบพิธี โปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา นั่งรับศรัทธาญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมบุญด้วย แล้วก็มอบคืนให้ท่านพระครูโก้ เพื่อนำเอาไว้ใช้จ่ายในสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามแห่งนี้ แต่ว่าพระครูโก้รวบถวายกลับคืนมาทั้งหมด บอกว่า "ร่วมสร้างวิทยาลัยสงฆ์กับหลวงพ่อครับ"

    และพิธีล่าสุดคือวันที่ 2 เมษายน 66
    ประธานบวงสรวง และ จุดเทียนชัย โดย
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก ) วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    ดับเทียนชัย โดย
    พระราชภาวนาพัชรญาณ (ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย) วัดเขาวงถ้ำนารายณ์ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
    ร่วมอธิษฐานจิตโดย
    -ท่านพ่อมนัส มันตชาโต สำนักฝึกกัมมัฏฐานฟื้นฟูจิตบ้านคลองโป่ง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    - พระครูวินัยธรอดิศร กันตสาโล สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม
    -ตุ๊พ่อมหาสิงห์ วิสุทโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
    -พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม วัดพุทธพรหมยาน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
    สำหรับวัตถุมงคลที่เกี่ยวข้องกับพระเวสสันดรนั้น (เป็นพระผง)มีประสบการณ์แล้วนะครับ มีคนขอให้ได้เงินแสนจนต้องมาขอบวชที่สำนักสงฆ์อนันต์บูรพารามมาแล้วครับ
    คาถาบูชาพระมหาเวสสันดรคืนเมือง
    ชาตะรูปะมะยัง วัสสัง เทโว ปาวัสสิ ตาวะเท ตะโต เวสสันตะโร ราชา ทานัง ทัตตวานะ ขัตติโย

    เมื่อพระเวสสันดรคืนสู่เมืองสีพีแล้ว ปริวิตกว่าจะมีสิ่งใดแจกจ่ายแก่ประชาชน องค์อินทราเทวราชได้ทราบจึงบันดาลฝนเงิน ฝนทองให้ตกลงมาทั่วเมืองสีพี ท่วมพื้นถึงหัวเข่า ในพระราชวังสูงถึงเอว พระเวสสันดรรับสั่งให้ประชาชนทั้งหลายเก็บเอาตามใจชอบ ที่เหลือจากนั้นเก็บเข้าท้องพระคลัง และพระเวสสันดรราชานำเงินทองเหล่านั้นแจกจ่ายสร้างประโยชน์แก่ชนทั้งหลายไปตลอดอายุขัยของท่าน แล้วไปอุบัติเสวยผลบุญ ณ ดุสิตสวรรค์ รอการเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะสืบไป

    ดังนั้นอานุภาพจะเด่นด้านขอโชคขอลาภ เป็นอย่างยิ่ง ผู้บูชาจะรู้เองดีที่สุดครับ
    (พระเวสสันดร เป็นพระโพธิสัตว์ชาติสุดท้ายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญด้านทานบารมีก่อนที่พระองค์ท่านจะเกิดมาในชาติปัจจุบันเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าครับ) ดังนั้นเรื่องลาภผลไม่ต้องบอกเลยครับว่าดีเพียงใด

    ให้บูชาผืน 400 จัดส่ง 40 บาทจองได้สามวันครับ
    20241019_234542.jpg
     
  10. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองรายการที่ ๒๕๑ ผ้ายันต์พระเวสสันดรคืนเมืองครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๒
    ให้บูชาเป็นคู่ ของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค พระอรหันต์ 7 แผ่นดิน

    องค์แรก พระปิดตานะมิปี 17 ของหลวงปู่สีวัดเขาถ้ำบุญนาค สำหรับพระปิดตานะมิรุ่นนี้เป็นชุดเดียวกับพระผงวัดโพธิ์ โดยพระครูนุ่มเป็นคนจัดสร้างครับ เป็นชุดเดียวกันกับลูกอมมหาลาภ พระปิดตามัดข้าวต้ม พระผงอายุยืน พระรอด พระกลีบบัว รุ่นนี้จะมีทั้งน้ำหมาก ชานหมาก น้ำมนต์ผสมอยู่ด้วยครับ แล้วมีผงวิเศษที่หลวงปู่ลบผงเองผสมอยู่ด้วยครับนอกจากผสมมวลสาร ผงวิเศษ ชานหมาก น้ำหมากและเกศาของหลวงปู่แล้ว พระครูวิศิษฎ์สมโพธิ์ ได้นำส่วนผสมที่สำคัญของท่านมาเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ผงว่าน 108 ดอกบัวบูชาหลวงพ่อโสธร ขี้ธูปจากที่บูชา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม วัดชนะสงคราม วัดอรุณราชวราราม ขี้ธูปและดอกไม้จากศาลหลักเมือง ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์ และศาลหลักเมืองที่สำคัญ เป็นต้น
    สำหรับหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคท่านเป็นลูกศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง ท่านเป็นสหธรรมิกที่สนิทที่สุดของพระเถระอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ถึง2 องค์คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ซึ่งพระเครื่องของทั้งสององค์นี้ ก็ติดอยู่ในเบญจภาคีเหรียญซึ่งมีมูลค่านับล้านบาทและอีกองค์ก็คือ หลวงปู่ปาน วัดคลองด่าน ผู้ที่สร้างเขี้ยวเสือ ซึ่งมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย ท่านอายุยืนถึง128 ปี และที่สำคัญท่านอยู่มาถึง7 แผ่นดิน คือตั้งแต่รัชกาลที่3 ถึงรัชกาลที่ 9 ท่านยังเป็นองค์อาจารย์ของพระอรหันต์หลายองค์เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือพระเครื่องของท่านโดยเฉพาะชานหมากของท่านมีอภินิหารมากมายเกินที่จะกล่าวได้หมด ศักดิ์สิทธิ์มากๆชนิดที่ว่า มีคนนำชานหมากไปผูกคอไก่ แล้วนำระเบิดมือขว้างใส่ไก่ แต่ไก่ไม่เป็นไรเลย เพียงแต่ขนร่วงอย่างเดียว แต่สามารถหากินต่อไปได้ แม้ปัจจุบันประสบการณ์พระเครื่องของท่านก็มีให้เห็นมากมาย ล้วนแต่แคล้วคลาดโดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุทางรถยนต์
    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้กล่าวถึงหลวงปู่สี ไว้ในเก็บตกบ้านเติมบุญดังนี้ครับ
    ถาม : หลวงปู่ท่านมรณภาพปีไหนครับ ?
    ตอบ : จำไม่ได้ น่าจะปี ๒๕๒๐ ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้เศษ ๆ ๒๘ ปีของท่านเลย อย่าว่าแต่ร้อยปี จำได้แต่ว่าพระน้องชายตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยกัน พาไปตามหาเหรียญหลวงปู่ เพราะว่าของหลวงปู่ท่านเหนียวชนิดเชื่อขนมกินได้ ขนาดชานหมากท่านเคี้ยวอยู่ในปาก คายออกมาเดี๋ยวนั้น ทหารชักปืนลองยิง ไม่ออกสักนัดเดียว..!
    ไปหาเหรียญหลวงปู่กัน ตอนนั้นเหรียญนวโลหะของท่านราคา ๘๐ บาท ในความรู้สึกของอาตมาคือ โคตรแพงเลย..! เพราะว่าช่วงวัยรุ่นนั้นทำงานเป็นลูกจ้างรายวัน วันละ ๒๕ บาท เหรียญหลวงปู่ราคา ๘๐ บาท เท่ากับค่าแรงสามวันกว่า
    ด้วยความที่เป็นเด็ก เงินทองก็ไม่ได้มีมาก จ่ายค่ารถไปกลับแล้ว เหลือเงินบูชาเหรียญท่านได้เหรียญเดียว ...(หัวเราะ)... ตอนหลังเก็บเงินได้ใหม่ก็ไปใหม่ ไปบูชาพระปิดตาท่านมา ปรากฏว่าใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตอนซ่อมรถ ตอนถอดเสื้อทำงาน เอาเสื้อพาดประตูรถไว้ ถึงเวลาเปิดปิดประตูรถเพื่อเข้าออกทำงาน ดันไปหนีบพระของท่านแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แตกเป็นชิ้น ๆ แล้ว จึงกลืนลงท้องไปเลย ...(หัวเราะ)...
    สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านรวมพระสุปฏิปันโน เพื่อให้ลูกหลานได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญชั้นสุดยอด พี่อรรณพตอนนั้นมียศร้อยตำรวจโท ยังเป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ ตอนหลังพี่อรรณพย้ายจาก ตชด. มาอยู่ส่วนกลาง พี่อรรณพเป็นคนไปนิมนต์หลวงปู่ หลวงปู่ท่านบอกว่า “ตัวไปไม่ได้” คำว่าตัวไปไม่ได้ก็คือ ร่างกายไปไม่ไหว เพราะว่าท่านอายุเป็นร้อยปีแล้ว ท่านอั้นปัสสาวะไม่ได้ ถ้าปวดนี่ต้องเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนั้นเลย จึงไปงานเขาลำบาก แต่ท่านก็มอบสังฆาฏิของท่านมาให้ทำวัตถุมงคล
    หลวงปู่สีท่านเล่าว่าที่ท่านอายุยืนมาก เพราะว่าช่วงธุดงค์ตอนอยู่รอยต่อไทย–พม่า ท่านไปเจอชาวลับแล เขาทำยาอายุวัฒนะกินกัน หลวงปู่ไปถึง เขากินกันเสร็จแล้ว เขาก็เลยรวบรวมเศษ ๆ ที่หกติดใบไม้อยู่ให้หลวงปู่ฉันเข้าไป นั่นขนาดกินเศษนิดเดียว อายุถึง ๑๒๘ ปี ถ้ากินเต็มที่ตามสูตรเขา ไม่รู้ว่าจะอายุเท่าไร..!?
    รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มือประสบการณ์แคล้วคลาดด้านอุบัติเหตุมากที่สุดในบรรดาพระผงชุดวัดโพธิ์


    องค์ที่ 2 พระปิดตามัดข้าวต้ม หรือที่เรียกกันว่าพระปิดทวาร หรือบางแห่งเรียกว่าพระปิดตาคลุกฝุ่น (ตามประสบการณ์ความเหนียวตีกันจนตัวคลุกฝุ่นแต่ไม่เป็นอะไร) มวลสารและพิธีเดียวกันกับพระปิดตานะมิปี 17 ครับ


    ให้บูชาชุดนี้ 700 ค่าจัดส่ง 50 จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ

    IMG_8607.jpg IMG_8608.jpg
     
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๓
    ให้บูชาเป็นคู่ สมเด็จคะแนนจิ๋ว ของพระอรหันต์ 2 องค์
    รายการแรก สมเด็จคะแนนจิ่ว ของ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค นครสวรรค์ หลวงปู่ปลุกเสกปี 2519
    สำหรับหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคท่านเป็นลูกศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง ท่านเป็นสหธรรมิกที่สนิทที่สุดของพระเถระอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ถึง2 องค์คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ซึ่งพระเครื่องของทั้งสององค์นี้ ก็ติดอยู่ในเบญจภาคีเหรียญซึ่งมีมูลค่านับล้านบาทและอีกองค์ก็คือ หลวงปู่ปาน วัดคลองด่าน ผู้ที่สร้างเขี้ยวเสือ ซึ่งมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย ท่านอายุยืนถึง128 ปี และที่สำคัญท่านอยู่มาถึง7 แผ่นดิน คือตั้งแต่รัชกาลที่3 ถึงรัชกาลที่ 9 ท่านยังเป็นองค์อาจารย์ของพระอรหันต์หลายองค์เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือพระเครื่องของท่านโดยเฉพาะชานหมากของท่านมีอภินิหารมากมายเกินที่จะกล่าวได้หมด ศักดิ์สิทธิ์มากๆชนิดที่ว่า มีคนนำชานหมากไปผูกคอไก่ แล้วนำระเบิดมือขว้างใส่ไก่ แต่ไก่ไม่เป็นไรเลย เพียงแต่ขนร่วงอย่างเดียว แต่สามารถหากินต่อไปได้ แม้ปัจจุบันประสบการณ์พระเครื่องของท่านก็มีให้เห็นมากมาย ล้วนแต่แคล้วคลาดโดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุทางรถยนต์
    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้กล่าวถึงหลวงปู่สี ไว้ในเก็บตกบ้านเติมบุญดังนี้ครับ
    ถาม : หลวงปู่ท่านมรณภาพปีไหนครับ ?
    ตอบ : จำไม่ได้ น่าจะปี ๒๕๒๐ ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้เศษ ๆ ๒๘ ปีของท่านเลย อย่าว่าแต่ร้อยปี จำได้แต่ว่าพระน้องชายตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยกัน พาไปตามหาเหรียญหลวงปู่ เพราะว่าของหลวงปู่ท่านเหนียวชนิดเชื่อขนมกินได้ ขนาดชานหมากท่านเคี้ยวอยู่ในปาก คายออกมาเดี๋ยวนั้น ทหารชักปืนลองยิง ไม่ออกสักนัดเดียว..!
    ไปหาเหรียญหลวงปู่กัน ตอนนั้นเหรียญนวโลหะของท่านราคา ๘๐ บาท ในความรู้สึกของอาตมาคือ โคตรแพงเลย..! เพราะว่าช่วงวัยรุ่นนั้นทำงานเป็นลูกจ้างรายวัน วันละ ๒๕ บาท เหรียญหลวงปู่ราคา ๘๐ บาท เท่ากับค่าแรงสามวันกว่า
    ด้วยความที่เป็นเด็ก เงินทองก็ไม่ได้มีมาก จ่ายค่ารถไปกลับแล้ว เหลือเงินบูชาเหรียญท่านได้เหรียญเดียว ...(หัวเราะ)... ตอนหลังเก็บเงินได้ใหม่ก็ไปใหม่ ไปบูชาพระปิดตาท่านมา ปรากฏว่าใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตอนซ่อมรถ ตอนถอดเสื้อทำงาน เอาเสื้อพาดประตูรถไว้ ถึงเวลาเปิดปิดประตูรถเพื่อเข้าออกทำงาน ดันไปหนีบพระของท่านแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แตกเป็นชิ้น ๆ แล้ว จึงกลืนลงท้องไปเลย ...(หัวเราะ)...
    สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านรวมพระสุปฏิปันโน เพื่อให้ลูกหลานได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญชั้นสุดยอด พี่อรรณพตอนนั้นมียศร้อยตำรวจโท ยังเป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ ตอนหลังพี่อรรณพย้ายจาก ตชด. มาอยู่ส่วนกลาง พี่อรรณพเป็นคนไปนิมนต์หลวงปู่ หลวงปู่ท่านบอกว่า “ตัวไปไม่ได้” คำว่าตัวไปไม่ได้ก็คือ ร่างกายไปไม่ไหว เพราะว่าท่านอายุเป็นร้อยปีแล้ว ท่านอั้นปัสสาวะไม่ได้ ถ้าปวดนี่ต้องเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนั้นเลย จึงไปงานเขาลำบาก แต่ท่านก็มอบสังฆาฏิของท่านมาให้ทำวัตถุมงคล
    หลวงปู่สีท่านเล่าว่าที่ท่านอายุยืนมาก เพราะว่าช่วงธุดงค์ตอนอยู่รอยต่อไทย–พม่า ท่านไปเจอชาวลับแล เขาทำยาอายุวัฒนะกินกัน หลวงปู่ไปถึง เขากินกันเสร็จแล้ว เขาก็เลยรวบรวมเศษ ๆ ที่หกติดใบไม้อยู่ให้หลวงปู่ฉันเข้าไป นั่นขนาดกินเศษนิดเดียว อายุถึง ๑๒๘ ปี ถ้ากินเต็มที่ตามสูตรเขา ไม่รู้ว่าจะอายุเท่าไร..!?
    สำหรับหลวงปู่บุดดา ท่านบอกว่า หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคเป็นครูบาอาจารย์ของท่านอีกองค์นึงครับ ถ้าหลวงปู่บุดดาแข็งแรงถ้ามีเวลาจะไปกราบหลวงปู่สีทุกครั้งครับ

    รายการที่ 2 สมเด็จคะแนนจิ๋ว ของหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี ปี 33
    พระเครื่องของหลวงปู่บุดดา ราคาไม่แรง เรียกว่าราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านครับ ท่านเป็นพระอรหันต์ที่องค์หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยอมรับ องค์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก องค์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง องค์หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หรือกระทั่งหลวงพ่อคูณเอง ก็ล้วนให้การยอมรับนับถือครับ พระเครื่องของท่านกลับไม่เป็นที่นิยมของในตลาดพระเครื่อง ทำให้ราคาพระเครื่องของท่านไม่แรง แต่กลับเป็นผลดีสำหรับผู้ที่จะหาพระเครื่องที่มีอานุภาพสูงมาไว้ติดตัว ถ้าเทียบกับพระเครื่องบางรุ่นของบางอาจารย์ที่มีราคาแรงเพราะมีการเชียร์แล้ว พระเครื่องของหลวงปู่บุดดาน่าห้อยติดตัวแบบแขวนเดี่ยวได้เลยครับ เพราะมีประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเด่นด้านเมตตา ไม่ว่าเป็นเรื่องโชคลาภ แม้กระทั่งโดนยิงจนตกรถมอเตอร์ไซค์แล้วไม่เป็นอะไรก็มีมาแล้ว หลวงปู่บุดดาท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงท่านยืนยันว่า หลวงปู่บุดดา เป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณครับ


    มีเพียง 1 คู่ ให้บูชาคู่นี้ 500 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    ปล.ขนาดใกล้เคียงกันครับ เลี่ยมประกบได้เลยครับ พกพาง่าย สตรีก็ห้อยได้ เด็กก็ห้อยได้ครับ ขนาดกะทัดรัด
    IMG_8609.jpg IMG_8610.jpg IMG_8611.JPG 32312.jpg

     
  13. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๔
    ให้บูชาเป็นคู่ ขององค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ท่านเสก
    รายการแรก เหรียญรูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร สำหรับรุ่นนี้หลวงพ่อฤาษีท่านได้เสกกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2526
    มีสองแบบคือ เนื้อโลหะชุบทอง และเนื้อโลหะชุบเงิน พุทธคุณเด่นทางด้านแคล้วคลาดและคุ้มครองตามแบบฉบับของยันต์เกราะเพชรของหลวงปู่ปาน
    เหรียญนี้อาราธนาติตตัวไว้ จะป้องกันไสยศาสตร์ได้ และจะไม่ตายโหง
    สำหรับตัวผมคิดว่า องค์หลวงปู่ปานนั้นท่านเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็ม บารมีท่านมาก ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะขอท่านก็มักจะประสบความสำเร็จ เพราะพระโพธิสัตว์จะฝืนกฏของกรรมได้(ถ้าไม่หนักมากและมีบุญบารมีของเราเพียงพอที่ท่านจะพึงสงเคราะห์ได้ เพราะบางเรื่องพระท่านจะปล่อยวางตามกฏของกรรมแต่พระโพธิสัตว์จะฝืนได้ไม่มากก็น้อย)

    รายการที่สอง ให้บูชาแหนบ ของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง สำหรับแหนบของวัดท่าซุงท่าน องค์หลวงพ่อฤาษี ท่านได้จัดสร้างหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 20 เรื่อยมาจนกระทั่งองค์หลวงพ่อมรณภาพ ท่านสร้างทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งหลวงพ่อท่านจะแจกแหนบให้กับทุกคนที่ไปกราบท่านไม่ว่าจะทำบุญกับท่านหรือไม่ก็ตาม หลวงพ่อท่านควักทุนส่วนตัวของท่านเองในการจัดสร้างแต่ละครั้งถือได้ว่าเป็นวัตถุมงคลส่วนองค์ของท่านเองเลยครับ
    อานุภาพของแหนบ องค์หลวงพ่อฤาษี ท่านได้บอกว่าป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวง รวมทั้งนิวเคลียร์ ฝนเหลือง โชคลาภ เมตตามหานิยม และอธิษฐานขอพรอื่นๆได้ตามปรารถนา พุทธคุณครอบจักรวาล จะมีแจ้งบอกในหนังสือสมบัติพ่อให้อยู่แล้วครับ เป็นวัตถุมงคลราคาเบาแต่อานุภาพเกินล้าน ส่วนใหญ่คนมักจะมองข้ามกันไม่ค่อยได้เก็บ เป็นวัตถุมงคลที่สามารห้อยเดี่ยวได้เลยครับ จะติดกับเสื้อหรือจะไปเลี่ยมติดตัวก็ได้ครับ ประสบการณ์ก็มีมากแต่ไม่ค่อยมีใครได้บอกกล่าวให้รับรู้ก้น
    ผมใส่กรอบสำเร็จรูปเรียบร้อยแล้วครับ

    ให้บูชาคู่นี้ 380 จัดส่ง 50 รายการนี้จองได้สามวันครับ
    IMG_8614.JPG IMG_8615.jpg
     
  14. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๕
    ให้บูชาเป็นคู่ พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    รายการแรก พระนางพญา ปี ๒๕๒๐ สร้างด้วยเนื้อดินผสมผงพุทธคุณต่างๆ ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระพุทธประทับนั่งปางมารวิชัย ด้านหลังจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ 1. ด้านหลังปั๊ม วัดท่าซุง ตัวอักษรปี 2520 (ตัวเลขอารบิก) รุ่นนี้องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ท่านได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ปี 20 ครับ

    รายการที่สอง พระเนื้อดินผสมผงพิมพ์นางพญา พิมพ์เล็ก หลวงปู่บุดดา ด้านหลัง บุดดา ๑๐๐ ปี สำหรับรุ่นนี้ปลุกเสกพร้อมเหรียญเจ้าสัว รุ่นนี้เด่นด้านลาภปลดหนี้แน่นอน มีคนได้ยินครูบาอาจารย์องค์นึงบอกว่าถ้าบูชาดี ๆ รุ่นนี้ปลดหนี้ปลดสินครับ พระเครื่องของหลวงปู่บุดดา ราคาไม่แรง เรียกว่าราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านครับ ท่านเป็นพระอรหันต์ที่องค์หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยอมรับ องค์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก องค์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง องค์หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หรือกระทั่งหลวงพ่อคูณเอง ก็ล้วนให้การยอมรับนับถือครับ พระเครื่องของท่านกลับไม่เป็นที่นิยมของในตลาดพระเครื่อง ทำให้ราคาพระเครื่องของท่านไม่แรง แต่กลับเป็นผลดีสำหรับผู้ที่จะหาพระเครื่องที่มีอานุภาพสูงมาไว้ติดตัว ถ้าเทียบกับพระเครื่องบางรุ่นของบางอาจารย์ที่มีราคาแรงเพราะมีการเชียร์แล้ว พระเครื่องของหลวงปู่บุดดาน่าห้อยติดตัวแบบแขวนเดี่ยวได้เลยครับ เพราะมีประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเด่นด้านเมตตา ไม่ว่าเป็นเรื่องโชคลาภ แม้กระทั่งโดนยิงจนตกรถมอเตอร์ไซค์แล้วไม่เป็นอะไรก็มีมาแล้ว หลวงปู่บุดดาท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงท่านยืนยันว่า หลวงปู่บุดดา เป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณครับ

    มีอยู่คู่เดียว ให้บูชาคู่นี้ 550 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_8603.JPG IMG_8604.jpg 37349370_1515310048574889_1223981712749363200_n.jpg
     
  15. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๖
    รายการฝาก
    ให้บูชาเหรียญท้าวเวสสุวรรณ เนื้อทองแดง
    ผมรวบรวมคำพูดของพระอาจารย์ที่พูดถึงเหรียญท้าวเวสสุวรรณจากเก็บตกบ้านเติมบุญมาให้อ่านครับ
    พูดถึงผ้ายันต์กับเหรียญท้าวเวสสุวรรณ "ไม่ต้องไปหาอะไรแล้ว ที่น่าสงสารที่สุดก็คือพวกขับรถมาจากที่ไกล ๆ ไปจะเอาผ้ายันต์กับเหรียญท้าวเวสสุวรรณที่วัด รายสุดท้ายมาจากพัทยา ท้ายสุดน้องเล็กก็เลยต้องตัดของตัวเองให้เขาไป ที่จองไว้ในเว็บ ๕ ชุดก็ต้องแบ่งให้เขาไป เพราะว่าเขามากันไกล เขาอยากได้มาก
    เรื่องผ้ายันต์และเหรียญท้าวเวสสุวรรณต้องบอกว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ เพราะว่าวัดท่าขนุนสร้างพระเครื่องปกติก็มากเกินชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ครูบาอาจารย์มีชื่อระดับรู้จักกันทั้งประเทศ เขาสร้างเหรียญทีหนึ่งก็ ๑,๕๐๐ เหรียญบ้าง ๑,๙๙๙ เหรียญบ้าง วัดท่าขนุนสร้าง ๓,๐๐๐ เหรียญเป็นประจำ นี่ก็เกินชาวบ้านเขาอยู่แล้ว งวดนี้ท่านบอกให้ทำ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ อาตมาก็อึ้งไปพักใหญ่ ตั้ง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ กูจะขายกี่ปีหมดวะนี่ ? ปรากฏว่ายกเดียวจอด...!
    คราวนี้เรามาพิจารณาอยู่ ๒ จุดด้วยกัน จุดแรกก็คือพรที่ท่านให้ว่า ป้องกันพวกไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ คุณผี คุณคนทุกประเภท ถ้าใครตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะให้บริวารตามคุ้มครองตลอดชีวิต นี่คือจุดหนึ่ง
    อีกจุดหนึ่งก็คือราคาถูก ซึ่งปกติแล้วเหรียญลักษณะนี้ท้องตลาดเขาจำหน่าย ๕๐๐ บาทขึ้นไปทั้งนั้น บางทีก็ไปเจอ ๙๙๙ บาท เจอ ๑,๐๐๐ กว่าบาท แต่ท่านให้จำหน่าย ๒๐๐ บาทเกือบจะไม่ได้ทุนคืน
    เราดูลักษณะนี้หมายความว่า ท่านคงตั้งใจจะให้กระจายออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะตอนเปิดจอง ขนาดบอกแล้วบอกอีกบอกว่าหมดแล้ว ไม่มีใครฟังเสียงหรอก จองกันตะบันราดเลย จองจนเกินกว่าที่มีเป็นเท่าตัว ในเมื่อเรานึกถึงพรที่ท่านให้ นึกถึงราคาที่ท่านกำหนด แล้วก็จำนวนคนที่จอง เหมือนอย่างกับท่านตั้งใจจะกระจายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็เลยสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้านในเมืองของเรา ?"
    ถาม : หลานอายุจะ ๓ ขวบ ตอนกลางคืนจะผวาตื่นมาแผดเสียงร้องไห้ ฟาดมือฟาดขาตีไปทั่ว บางคืนร้องไห้ถึง ๒ ชั่วโมง หนูจะสวดมนต์กรวดน้ำให้เจ้าที่ เทวดา พรหม เจ้าเกณฑ์ชะตา และแม่ซื้อที่ดูแลกายสังขารของหลานทุกวัน ให้ช่วยดูแลหลานให้เลี้ยงง่ายอย่าร้องงอแง ในขณะที่หลานร้องไห้หนูก็แผ่บุญให้อีก แต่ทำไมหลานถึงยังร้องไห้คะ หนูเคยคิดว่าขอแค่นี้เอง ทำไมช่วยไม่ได้ จนตอนหลังหนูก็คิดว่าเป็นกรรมของทุกคน ของข้างบ้านด้วย หนูก็ปล่อยวางปล่อยให้หลานร้องต่อไป หนูอยากทราบว่าอาการของหลานเกิดจากอะไร และที่หนูขอให้แม่ซื้อช่วยท่านช่วยได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ถ้าช่วยได้ก็ไม่เป็นแล้วสิวะ..! ให้ไปหาผ้ายันต์หรือรูปเหรียญท้าวเวสสุวรรณมาให้หลานติดตัวไว้ ก่อนนอนเราก็อาราธนาขอบารมีท่านให้ช่วยสงเคราะห์ ขับไล่สิ่งไม่ดีอย่าให้มารบกวนหลานได้อีก

    พระอาจารย์กล่าวว่า "ตั้งแต่เหรียญท้าวเวสสุวรรณดังขึ้นมา คนก็แทบจะแขวนเหรียญท่านจนลืมไปว่า ด้านหน้าคือรอยพระพุทธบาท อย่างไรก็นึกถึงพระไว้ก่อนนะ แล้วค่อยนึกถึงท่านท้าวเวสสุวรรณ
    คาถาบูชาที่ว่า เวสสะ ภุสสะ นั่นเป็นหัวใจพระคาถา มีบางคนไปหาอาจารย์บ๊ะแล้วท่านบอกว่าไม่มีคำนี้อยู่ ท่านก็จารลงให้ในเหรียญ ขอบอกว่าโปรดระวังไว้...ตัวคาถานี่ถ้าเราภาวนาหรืออาราธนาจะเป็นการเติมเต็มพอดี ก็เหมือนกับเตรียมพร้อมที่จะใช้งาน แต่ถ้าไปจารใส่เหรียญเหมือนกับปืนขึ้นลำอยู่ตลอดเวลา เผลอเมื่อไรเดี๋ยวก็ทำปืนลั่น เพราะฉะนั้น..มีคาถากำกับอยู่แล้ว แต่คราวนี้ท่านดูในเหรียญเห็นว่าไม่มีอักขระตัวนี้ ท่านก็เลยจารให้แทน
    ลูกศิษย์ครูบาหน่อแก้วฟ้าเอารถไปลงข้างทาง เละทั้งคัน ปรากฏว่าคนขับไม่เป็นอะไร รอยขีดข่วนสักนิดก็ไม่มี ถ่ายรูปเหรียญท้าวเวสสุวรรณมาโชว์เพื่อน คราวนี้ก็แย่งกันเข้าไปสิ พอดีมีเรื่องของนักฟุตบอลทีมหมูป่าเชียงรายไปติดในถ้ำ ท่านผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ก็พกท้าวเวสสุวรรณไปเพื่อที่จะค้นหาทีมหมูป่า ก็เลยยิ่งดังกันเข้าไปใหญ่ อย่าลืมที่ท่านให้พรไว้นะ ถ้าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบันจริง ๆ ท่านจะให้บริวารตามคุ้มครองตลอดชีวิต"
    พระอาจารย์กล่าวกับโยม “แขวนท้าวเวสสุวรรณหรือ ? จริง ๆ แล้วก็น่าจะดีนะ เพราะว่าเทวดาที่ดูแลเรื่องโรคระบาดเป็นลูกน้องของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ เราแขวนรูปเจ้านายเอาไว้บอกว่าพวกเดียวกัน...อย่ามายุ่ง เสียดายเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณของวัดท่าขนุนหมดไปแล้ว
    ท่านใดบูชาเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณก็ดี ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณก็ดี ท่านให้สวด อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา วันละ ๓ จบ แล้วอธิษฐานขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอบารมีพรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ รักษาตัวเราและครอบครัว ให้อยู่รอดปลอดภัยในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ
    ท่านบอกว่าโดยเฉพาะบรรดาไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ คุณผีคุณคนทั้งหลาย ไม่สามารถที่จะเข้าสู่ตัวตนหรือว่าสถานที่ซึ่งมีวัตถุมงคลรุ่นนี้อยู่ได้ และโดยเฉพาะถ้าท่านใดตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท้าวเวสสุวรรณท่านจะให้บริวารตามดูแลรักษาตลอดชีวิต อันนี้ยิ่งกว่าทำประกันชั้น ๑ เสียอีก
    มีคาถาปลุกพิเศษต่างหาก คือ เวสสะ ภุสสะ นะโมพุทธายะ”
    ฝากมา 3 องค์
    ให้บูชาองค์ละ 900 ค่าจัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    20241106_140503.jpg 20241106_140449.jpg
     
  16. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๗
    ให้บูชาเหรียญไตรภาค เนื้อทองแดง ของหลวงพ่อเจิม วัดปรกสุธรรมาราม สมุทรสงคราม
    สำหรับข้อมูลของเหรียญรุ่นนี้มีดังนี้(ขอขอบพระคุณข้อมูลจากวัดปรกสุธรรมาราม)
    เหรียญไตรภาค เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ หลวงพ่อเจิม ท่านบรรจงสร้างด้วยความตั้งใจใช้ทั้งศาสตร์ และ ศิลป์ คือก่อนที่จะเริ่มทำการสร้าง หลวงพ่อท่านได้เดินทางไปวัดช้างไห้ จ. ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อทวด เดินทางไปที่เชิงดอยสุเทพ ซึ่งประดิษฐานรูปหล่อท่านครูบาศรีวิชัย และเดินทางไปที่วัดระฆังโฆสิตาราม ทั้งนี้เพื่อไปบวงสรวงสักการะอธิษฐานจิตขออนุญาต นำเอารูปของท่านทั้งสามไปสร้างวัตถุมงคล ขอบารมีช่วยสร้างวัดปรก ฯ ซึ่งขณะนั้นสิ่งก่อสร้างกุฏิ วิหารการเปรียญ ล้วนทรุดโทรม เพราะความเก่าตามอายุการก่อสร้าง ภาษานักสร้างเขาบอกอย่างนี้ว่า มีเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุประสงค์ชัดเจน พิธีปลุกเศก ครั้งแรก ที่วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2519 โดยมีหลวงพ่อครูบาคำแสนใหญ่ เจ้าอาวาสวัดสวนดอก เป็นประธานจุดเทียนชัย และคุมปรกภายในพระวิหารหลวงวัดสวนดอก มีพระเกจิอาจารย์ ร่วมปลุกเสกอีก 8 รูป คือ ครูบาคำแสนน้อย ครูบาอินทรจักรสังวร หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ครูบาชุ่ม โพธิโก ครูบาธรรมาชัย ครูบาคำตัน ครูบาไฝ ครูบาอินถา ฯลฯ ปลุกเศก ครั้งที่ 2 วันที่ 15 พฤษภาคม 2519 ที่อุโบสถวัดปรกสุธรรมาราม โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานจุดเทียนชัย และประธานคุมปรก มีพระเกจิร่วมปลุกเศก อีก 8 รูป คือ หลวงพ่อเจริญ วัดอัมพวัน หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อคลี วัดประชาโฆสิตาราม หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์ หลวงพ่อนวม วัดเขาสมอระบัง หลวงพ่อหนู วัดภุมรินทร์ หลวงพ่อแดง วัดบางเกาะ ฯ ออกให้บูชาครั้งแรก ตอนวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
    2519
    ให้บูชา 350 ส่ง 40 จองได้สามวัน
    20241115_012208.jpg 20241115_012215.jpg FB_IMG_1731243355705.jpg FB_IMG_1731243360708.jpg FB_IMG_1731243368369.jpg FB_IMG_1731243373646.jpg FB_IMG_1731243383906.jpg FB_IMG_1731243391268.jpg FB_IMG_1731243394898.jpg
     
  17. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๘
    ให้บูชาตะกรุดมหาชนะ(พสุธากัมปนาท) ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
    สำหรับข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้ (จากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)
    เริ่มต้นปีด้วยวัตถุมงคลเเห่งชัยชนะ ไม่ว่าจะชนะความจน ชนะศัตรูที่มุ่งร้าย รวมถึงชนะภัยอันตรายทั้งหลาย เพราะต่อจากนี้มีเเนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอย ภัยธรรมชาติจะรุนเเรงมากขึ้น ภาวะสงครามก็จะตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้ หลวงพ่อเอท่านจึง จัดสร้างตะกรุดมหาชนะขึ้น ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านได้สอนวิชาเฉพาะกิจลงมา แบบปัจจุบันทันด่วนเพื่อการณ์นี้ ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหลาน จะได้นำไปใช้ปกป้องคุ้มครองตัวเอง จากสิ่งไม่ดีทั้งหลายได้ทันเวลา
    โดยด้านในของตะกรุด หลวงพ่อได้ใส่อักขระยันต์ฉุดเงินล้านที่ท่านชำนาญเเละเชี่ยวชาญที่สุดลงไป เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยหนุนเสริม ต่อสู้กับความยากจนจากภายใน ยิ่งคนที่สวดพระคาถาเงินล้านเป็นประจำสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยเพิ่มอานุภาพเเห่งตะกรุดให้สัมฤทธิ์ผลได้อย่างรวดเร็ว
    นอกจากนั้นท่านยังใส่อักขระหัวใจพุทธชัยมงคลคาถาหรือที่เรารู้จักกันว่า คาถาพาหุงมหากาฯ ที่กล่าวสรรเสริญชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระคาถาเเห่งการชนะต่ออุปสรรค ศัตรูหมู่มารทั้งหลาย พร้อมทั้งกำกับอักขระต่างๆตามสูตรที่ท่านสอนลงไป เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย ราบรื่นคล่องตัวและมีชัย ใครที่คิดร้ายก็จะเเพ้ภัยไปในที่สุด…
    ซึ่งวันที่ทำตะกรุดมหาชนะเสร็จ หลวงพ่อสั่งให้พันสายสิญจน์จากพระหัตถ์ขององค์สมเด็จพระพุทธลีลาประทานพร เข้ากับตะกรุดมหาชนะ เพื่อขอรับพลังแห่งพุทธานุภาพ ทันทีที่พันสายสิญจน์ เสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องกึกก้องกัมปนาท ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาณาเขตโดยรอบบ้านสุมโน ทั้งๆที่ท้องฟ้าก็ปกติ ไม่มีวี่เเววใดๆเลย ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ จะเรียกว่าบังเอิญก็อาจใช่ เเต่มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า..?
    และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อตะกรุดมหาชนะพสุธากัมปนาท หลวงพ่อเอท่านว่า ไม่น่าเชื่อที่ครูบาอาจารย์ได้แสดงนิมิตยืนยัน ให้พวกเรารับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์แบบไม่ต้องเกรงใจกัน แอดได้ยินชื่อนี้ทีไร หัวใจมันสั่นหวั่นไหว ลุกลามลงไปถึงกระเป๋าสตางค์ทุกที ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนกันหรือเปล่า...
    จะว่าไปนิมิตลักษณะนี้ เเอดประสบพบเจอมาก็หลายครั้งจนหายสงสัย เพราะสุดท้ายคำเฉลยมักจะมาตอนที่วัตถุมงคล ได้ไปอยู่ในมือเจ้าของเรียบร้อยเเล้ว แอดเจอด้วยตัวเองจนพูดได้เต็มปากว่า วัตถุมงคลนั้นเลือกเจ้าของ เพียงเเต่เราต้องจองให้ทันด้วยนะ…เพราะสร้างได้จำนวนจำกัด โดยหลวงพ่อท่านได้อธิษฐานจิตเสกเดี่ยวอยู่หลายวาระ เรียกว่าพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์เเล้ว เเต่เพื่อความพิเศษที่เพิ่มขึ้น หลวงพ่อเอจึงนิมนต์พระอาจารย์บะ แห่งอินทร์บุรี มาเสกเพิ่มเติม และท้ายสุดหลวงพ่อท่านจะนำตะกรุดมหาชนะพสุธากัมปนาท เข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดท่ามะขาม โดยมีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เมตตาเป็นประธานอธิษฐานจิตเสกปิดท้าย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อเข้าพิธีปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว แอดจะทำการจัดส่งให้กับคนที่จองร่วมบุญทุกท่าน เพื่อจะได้ใช้วัตถุมงคลที่ดีแล้วดีอีก ดีทั้งนอกดีทั้งใน ดีไม่ไหว ยังไงก็ดี ขอให้อดใจรออีกสักนิดนะครับ….

    มีอยู่ 1 ดอก ให้บูชาดอกละ 800
    ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    20241115_012121.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2024
  18. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๕๙
    ให้บูชานกคุ่มหรือนกคุ้มเนื้อปูนปลาสเตอร์ทาสีทอง ของ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม รุ่นผูกพัทสีมา วัดพระยาญาติ ปี 2525 รุ่นนี้ หลวงปู่ทองอดีตเจ้าอาวาส วัดพระยาญาติได้จัดสร้างขึ้นเนื่องในผูกพัทสีมาวัดพระยาญาติ และได้นิมนต์พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นร่วมปลุกเสก ได้แก่ หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์ หลวงพ่อช่อ วัดโคกเกตุ หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว หลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ หลวงพ่อบุญมา วัดนางตะเคียน หลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลวงปู่เก๋ วัดแม่น้ำ หลวงปู่คลี่ วัดประชาสรรค์ หลวงปู่ง้อ วัดดาวดึงษ์ หลวงปู่หนู วัดภุมรินทร์ หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ รวมทั้งหมด 15 องค์
    สำหรับนกคุ่มนั้นในสมัยโบราณ จะจัดสร้างขึ้นเพื่อป้องกันเกี่ยวกับเรื่องไฟทั้งคุ่มครองตัวบ้านและยุ้งฉาง ถือเคล็ดตามประวัตินกคุ่มพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตพระชาติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ติดไว้ในบ้านเรือนเป็นศิริมงคล
    ยิ่งกว่านั้นเสกในงานผูกพัทธสีมาซึ่งถือว่าเป็นพิธีศักสิทธิ์เข้มขลัง ล้างอาถรรพ์ได้ป้องกันสิ่งไม่ดีได้
    นกคุ่มจะมีทั้งตัวผู้ตัวเมัย ส่วนใหญ่ต้องบูชาเป็นคู่ สำหรับคู่นี้มีทั้งตัวผู้ตัวเมียครับ เพราะด้านหน้าจะมียันต์ต่างกัน(ตามภาพ)
    ปล.ภายหลังทางวัดไ้นำนกคุ่มที่เหลือจาก ปี 25 มาให้หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติได้จารยันต์ที่ฐานเพิ่ม
    เนื่องจากทางวัดเก็บใส่ลังอาจจะเก็บได้ไม่ดีอาจจะมีกระเทาะบ้างครับ(ตามถาพ)
    นกคุ่มของทางวัดพระยาญาติ นั้นเปผ็นที่เลื่องลือ (ทางวัดหมดไปนานแล้วครับ) ไม่ค่อยได้พบเจอในท้องตลาดครับ ถือว่ามีน้อย
    มีอยู่คู่เดียว ให้บูชา 500 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    20241121_104328.jpg 20241121_104341.jpg 20241121_104355.jpg 20241121_104424.jpg 20241121_104437.jpg 20241121_104447.jpg 20241121_104514.jpg 20241121_104523.jpg 20241121_104528.jpg 20241121_104538.jpg 20241121_104546.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2024
  19. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๒๖๐
    ให้บูชาผ้ายันต์รองหมวก ของ วัดอุทยาน
    ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
    ในปีนี้พระอาจารย์ได้ปรึกษาพระอาจารย์นิลได้ลงมาทอดกฐินสามัคคีใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจอพี่ๆ ทหาร ตำรวจตะเวรชายแดนในชายแดนภาคใต้
    ในวาระนี้ที่พระอาจารย์จัดสร้างผ้ายันต์รองหมวกได้นำอักขระเลขยันต์จากผ้ายันต์รองหมวกของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบมาเป็นแบบเพื่อจัดสร้างผ้ายันต์รองหมวกเพื่อนำไปแจกแก่ทหารและชาวบ้านส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อหาทุนทรัพย์ในการแจกสิ่งของที่จำเป็นแก่พี่ทหารกล้า ในการลงมาครั้งนี่ได้ปรึกษาพี่ๆ ทหารตะเวนชายแดน ว่าช่วงนี้ต้องการอะไรในการใช้ต่างๆ พี่ๆ ทหารได้ให้แจกว่าต้องการคอมพิวเตอร์ในการประชุม ดูแผนที่และงานต่างๆ ในการลงพื้นที่ เพราะ ขาดทุนทรัพย์ในการเปลี่ยนเครื่องใหม่ เครื่องเก่าใช้มาหลายปี
    ผ้ายันต์รองหมวก ป้องกันคุ้มภัย พุทธาภิเษก โดยหลวงพ่อเล็กเมตตาดูฤกษ์พุทธาภิเษก และพระอาจารย์บ๊ะ พระอาจารย์นิล และพระครูวิโรจน์กาญจนเขต ณ อุโบสถวัดอุทยานในวันพฤหัสบดีที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    ********************
    เมื่อได้เวลากระผม/อาตมภาพก็ไปยังมณฑลพิธีอุโบสถวัดอุทยาน ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
    งานนี้หลวงพ่อนิลท่านได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบให้กับตำรวจทหารทาง ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะมีโอกาสในการมอบวัตถุมงคลให้กับตำรวจทหารทางภาคใต้ ก็ไม่ได้เป็นจำนวนมากมายนัก ส่วนใหญ่แล้วก็มอบให้เป็นการส่วนตัวเสียมากกว่า แต่ว่าหลวงพ่อนิลท่านลงไปดูแลพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ด้วยเพราะว่าท่านเป็นคนใต้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือ ตั้งใจจะช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนา ตามที่ได้ปฏิญาณตนร่วมกันมาตั้งแต่สมัยที่ยังบวชใหม่ ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ บุคคลที่ปฏิญาณตนร่วมกันในงานนั้น ก็เหลืออยู่แค่ ๒ รูป คือกระผม/อาตมภาพกับหลวงพ่อนิลเท่านั้น
    งานนี้ในเมื่อถามแล้ว ปรากฏว่าวัตถุมงคลเป็นรูปหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ กระผม/อาตมภาพก็สบายใจเป็นอย่างยิ่ง กราบขอบารมีหลวงปู่ทวด ท่านเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ จากที่มีนิรันตราย ก็คือปลอดภัยในทุกที่แบบของท่าน ก็ขอให้เพิ่มในส่วนของคงกระพัน มหาอุตม์ ซุกเอาไว้ด้านในให้ด้วย เนื่องเพราะว่าเป็นห่วงตำรวจ ทหาร
    ความจริงแล้วในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ถือว่าดีที่สุด แปลว่าปลอดภัยในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะตำรวจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนหรือพื้นที่อันตราย ก็มักอยากจะให้มีประสบการณ์ที่ปรากฏชัดคาตา เพื่อความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ว่าสามารถป้องกันอันตรายได้จริง
    กระผม/อาตมภาพจึงต้องกราบขอร้องหลวงปู่ทวด และคณะของท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพระโพธิสัตว์ สามารถฝืนกฎของกรรมได้ โดยเฉพาะหลวงปู่ทวดหนอน ซึ่งปกติแล้วท่านก็คือพระมหาเถระผู้เป็นหลักชัยในกรุงศรีอยุธยาอีกรูปหนึ่ง แต่ด้วยความที่ท่านเองเบื่อหน่ายในเรื่องของยศตำแหน่ง จึงได้ลาออกจากยศตำแหน่ง ถวายคืนสมณศักดิ์ แล้วธุดงค์ลงไปยังปักษ์ใต้
    เมื่ออาศัยเรือสำเภาเดินทางลงใต้ ด้วยความสงสารฝูงปลาที่ว่ายตามเรือ ท่านจึงเชือดเนื้อตัวเองโยนให้เป็นอาหารแก่ฝูงปลา ลักษณะของการเชือดเนื้อ มอบเลือด หรือว่าควักหัวใจ ตัดแขนขา กระทั่งตัดศีรษะ เป็นการสละออกของพระโพธิสัตว์ที่เห็นได้ชัดเป็นอย่างยิ่ง
    แต่ว่าหลวงปู่ทวดหนอนนั้น เมื่อท่านขึ้นพักยังวัดในปักษ์ใต้แล้ว ปรากฏว่าบาดแผลของท่านโดนแมลงวันวางไข่จนกระทั่งเกิดเป็นตัวหนอน ท่านเองก็ยังเมตตา ไม่ยอมรักษาแผล เพราะเกรงว่าหนอนนั้นจะตาย ไหน ๆ ก็ตั้งใจมอบเลือดเนื้อเป็นอาหารแก่สรรพสัตว์เพื่อสร้างบารมีแล้ว ท่านจึงยอมทนให้บาดแผลนั้นเน่าเปื่อย จนกระทั่งท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลง ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า "ทวดขี้หนอน" หรือ "หลวงปู่ทวดหนอน" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน

    มีจำนวน 2 ผืน ให้บูชาผืนละ 250 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    20241125_181803.jpg
     
  20. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการ ๒๖๑
    ให้บูชาตะกรุดโทน ขนาด 6 นิ้ว (ซองเดิม) รุ่นเสาร์ห้ามหาเศรษฐี ปี 36 ของหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี ถือเป็นรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อจวนครับ รุ่นนี้ถือว่ามีประสบการณ์มากรุ่นนึงครับ สำหรับรุ่นนี้สร้างเนื่องในฉลองครบรอบอายุ 79 ปี พอหลังจากเสกรุ่นนี้ได้ไม่นาน ท่านก็มรณภาพ เหมือนเป็นรุ่นทิ้งทวน จริง ๆ สำหรับพระเครื่องของรุ่นนี้มีประสบการณ์กันมากครับ คนแถววัดเจอกันบ่อยโดยเฉพาะมหาอุตม์ มีข่าวเล่าให้ฟังที่วัดเสมอว่า มีคนห้อยพระรุ่นนี้แล้วโดยยิงปืนไม่ลั่นบ้าง ถึงยิงออกแต่ไม่เข้าเป็นเรื่องปกติ ถ้าไปวัดหนองสุ่ม ลองสอบถามดูได้ครับ
    สำหรับภาพนี้ทันท่านปลุกเสกแน่นอนครับ เป็นมหามงคลอย่างยิ่งมีบูชาไว้ติดบ้าน ขนาดภาพประมาณ 10x14 นิ้ว เป็นกระดาษ
    สำหรับหลวงพ่อจวน นั้น ท่านเป็นสหธรรมิกและศิษย์ร่วมสำนักที่สนิทที่สุดองค์นึง ของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค และยังเป็นองค์เดียวกันกับที่องค์หลวงพ่อฤๅษีเจอบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยกายเนื้อไม่ใช่กายทิพย์ และยังบอกอีกว่า หลวงพ่อจวนนั้น ท่านเป็นพระอรหันต์
    ตอนที่ท่านมรณภาพก่อนที่จะทำการหลายปี ได้ตั้งสรีระของท่านไว้ปรากฏว่า สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย ตอนหลังได้มีการเผาสรีระของท่าน แต่มีเรื่องเล่าว่า ตอนที่เผาสรีระของท่านนั้นใช้เวลาเผาหลายชั่วโมงมาก แต่ปรากฏว่า ไหม้แค่ช่วงศรีษะของท่านและช่วงขาเท่านั้น ช่วงลำตัวเผาอย่างไรก็ไม่ไหม้ไฟ ตอนหลังทางวัดทางวัดได้นำสรีระที่เผาไม่ไหม้ไฟบรรจุไว้ใต้รูปหล่อของท่านในมณฑป ณ ปัจจุบัน ถ้าใครไปวัดหนองสุ่ม ไปไหว้รูปหล่อของท่าน จะเห็นว่าจะมีฐานสูง ๆ ขึ้นมา นั่นแหละครับ สรีระสังขารที่ไม่ไหม้ไฟ และยังมีเรื่องเล่าอีกว่าประชาชนได้แย่งกันเก็บเศษเถ้ากระดูกของท่าน สุดท้ายต้องนำใส่พานมาถวายคืนวัดทุกคน และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาไปแล้วรู้สึกร้อนรุ่มมาก อยู่ไม่ได้ต้องนำมาถวายคืนวัน ถึงจะสงบ พระเครื่องของท่านราคาไม่แรง เนื่องจากเซียนพระไม่ปั่น ทำให้เก็บกันได้สบายครับ ห้อยเดี่ยวก็ได้ พระอรหันต์ท่านเสกไว้ดีแน่ ๆ ครับ
    ตะกรุดโทนสร้างเพียงหลักร้อยเท่านั้นครับ อยู่ในซองเดิมไม่ผ่านบูชา
    มีเพียง 1 ดอกเท่านั้น ให้บูชา 1000 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    20241127_164429.jpg 20241127_164420.jpg 20241127_164411.jpg 20240922_134608.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...