เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    พูดถึงเรื่องวัตถุธาตุที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตประจำวันได้ มีอยู่อย่างนึงครับ ที่บ้านก็จะใช้เป็นประจำ เป็นผลึกเกลือที่นำมาทำเป็นโคมไฟครับ โดยคุณสมบัติของผลึกเกลือที่นำมาจากภูเข้าแถบประเทศจีน(เทือกเขาหิมาลัย) เมื่อโดนความร้อนจากหลอดไฟ ไอออนลบก็จะถูกปล่อยออกมาครับ เหมือนกับที่เวลาเราไปป่าเขา แล้วอากาศสดชื่นครับ เหมือนกับเป็นเครื่องฟอกอากาศจากธรรมชาติครับ
    หากท่านที่รับสัมผัสพลังงานได้ ก็จะทราบเองว่าจะมี vibration ที่จะออกมา และทำให้บรรยากาศรอบๆสดชื่นครับ
     
  2. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ที่บ้านก็มีเหมือนกันโคมไฟหินเกลือจากหิมาลัย ไปซื้อมาตอนที่ไปดูงานที่เมืองทอง รูปร่างประมาณนี้แหล่ะ

    [​IMG]

    น่าจะใช่ร้านในเวปนี้ที่่ไปขายที่เมืองทองตอนนั้น http://www.dbdmart.com/mothersalt/
     
  3. aonlin

    aonlin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2006
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +1,608
    เล่นมั่ง

    [​IMG]
     
  4. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    คนเยอะดีจังนะครับ อิอิ
     
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดีฝันเห็นคุณนักเขียนมาประเทศไทย หน้าตาดูแล้วไม่ใข่คุณนักเขียนแน่ แต่ในใจบอกว่าใช่ จินตวดีรู้สึกดีใจ ไปรอรับด้วยความดีใจ คุณนักเขียนมีคนมารอรับเยอะแยะไปหมด จินตวดีถอยมายืนดูห่าง ๆ แล้วเดินออกไป สักพักได้ยินเสียงดนตรีเป็นเสียงเปียนโน ในใจบอกว่าคุณนักเขียนมาแสดงคอนเสิร์ต จึงแวะไปชม เสียงเปียนโนกลายเป็นเสียงออร์แกนแทน แต่จนแล้วจนรอด คุณนักเขียนไม่เห็นจินตวดีซักที เราก็ลุ้น คุณนักเขียนจะจำเราได้ไหม ถ้าคุณนักเขียนมาประเทศไทยจริง ๆ ขออนุญาติไปยืนแถวหน้าเลยนะคะ ไม่อยากเหมือนในฝันอะค่ะ

    น้องซิปเปอร์ พี่จินต์ว่าแว้บ ๆเห็นเครื่องหมายน้องซิปเปอร์บ่อย ๆนะ ยังว่าจะถามอยู่เลยมันมีนัยยะอะไร พอดีคุณมี้ดถามซะก่อน หุ หุ
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ยังไงมนุษย์กับธรรมชาติก็ขาดกันไม่ได้นะครับ
    มีการแลกเปลี่ยนคุณสมบัติและเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ
    ถ้าจดจ่อด้วยความช่างสังเกตด้วยความละเอียดของจิตจะสัมผัสพลังพิเศษจากธรรมชาติเหล่านี้ได้จริงๆ
    โดยเฉพาะพวกหินนี่จะชัดมากๆ ถ้าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำเลียนแบบก็จะไม่ค่อยมีผลแบบนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอเฉลยเรื่องบาร์โค้ดที่แนบกับลายเซ็นละกัน อันนั้นถ้าเอามาถอดรหัสจะได้คำว่า zipper ครับ

    2D barcode ที่ต่างประเทศก็มีใช้กันเยอะครับ อย่างในรูปนี้

    [​IMG]
    อันนี้เอามาติดที่ป้ายเสื้อ

    [​IMG]
    ลายเสื้อ ตรายาง นามบัตร

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ป้ายโฆษณา

    [​IMG]
    ป้ายสุสาน

    ถ้าจำไม่ผิดสามารถเอา 2D barcode ไปเชื่อมกับ google map ได้ด้วย แบบว่าเมื่ออ่าน barcode แล้วจะไปแสดงตำแหน่งใน google map ได้

    ก็อยู่ที่ว่าจะเอาไปประยุกต์ทำอะไร

    จะมีอีกแบบที่เป็นวงกลมเรียกว่า shotcode แต่อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นที่นิยมกันมากหรือเปล่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    แต่ก็มีหลายยี่ห้อที่นำเอา shotcode นี่ไปใช้ครับ

    http://www.flickr.com/photos/shotcodedemos

    เวปที่ทำ shotcode รวมถึงให้ download โปรแกรมอ่าน shotcode http://shotcode.com

    Ref: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sanrio&month=12-2007&date=21&group=13&gblog=16
    http://2d-code.co.uk/qr-code-grave/
    http://adverlab.blogspot.com/2007/03/shotcode-tattoo.html


    ช่วงนี้ทำสมาธิไม่ค่อยได้เลย จิตมันฟุ้งซ่านไปหมด เมื่อคืนก่อนนอนทำสมาธิจิตก็ฟุ้งไปหมด กำลังคิดอยู่ว่าจะลองมาเจริญสติในระหว่างวันด้วย น่าจะดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    shotcode แบบกลมๆนั่นก็น่าสนใจครับคุณซิปฯ
    แสดงว่า code พวกนี้ใช้งานเฉพาะกลุ่มได้ดีนะครับ
    ผมยังไม่ได้สมัครและโหลดโปรแกรมมาอ่านเลยครับ
    แต่ก็เดาคำว่า ZIPPER ไว้เหมือนกัน ! อิอิ

    เรื่องปิรามิดที่ส่งผลการทดลองมาให้ดูแต่ไม่ได้ผลเรื่องพลังนั่น
    ผมว่าเราต้องทำการทดลองขึ้นเองดีกว่านะครับคุณซิปฯ ว่าจะออกมาต่างกันมั๊ย
    อาจจะเกี่ยวกับค่าสนามแม่เหล็กที่เปลื่ยนค่าไปก็ได้?
     
  9. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เวปที่ให้โหลดโปรแกรมนั้นไม่ต้องสมัครสมาชิกครับโหลดมาได้เลยเพียงแต่ต้องเลือกข้อมูลมือถือให้ตรงกับที่ใช้อยู่เท่านั้น เอ หรือว่าตอนนี้ต้องสมัครสมาชิกแล้ว

    เห็นคุณ Mead ปั้นปิรามิดได้ คิดว่าถ้าให้คุณ Mead ทำผลคงออกมาดีแน่เลย เพราะน่าจะเชี่ยวชาญในสัดส่วนของปิรามิดในระดับนึง

    มีคำถามนิดหน่อยที่อยากจะถามพี่นักเขียนครับ

    กายเทียมที่จิตของเราสร้างเมื่อเราคิดถึงสถานที่ใดสถานที่หนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งนั้น จะคงอยู่ได้นานแค่ไหนครับ ถ้ากายเทียมไม่มีวันหายแล้ว ก็คงจะมีกายเทียมลอยหนาแน่นอยู่เต็มไปหมดแน่เลย
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เรื่องกายเทียม หรือการ copy ร่างนี่เมื่อวานเห็นมีคนพูดถึงอยู่พอดีเลยครับ
    น้องเค้าเล่าว่า เห็นตัวของน้องชายลุกมาปิดสวิทซ์ไฟตอนตี 4
    แต่เช้าคุยกัน กลายเป็นว่าตอนนั้นน้องชายกำลังฝันว่าเดินไปเข้าห้องน้ำ
    แต่ตัวน้องชายก็ยืนยันว่าไม่ได้ลุกเดินออกไปจากห้องอย่างแน่นอน

    มีอีกตัวอย่างนึงคือคุณ Falkman มองลงมาเจอกับร่างพี่สุดใจเดินอยู่ที่ The mall
    แต่วันเดียวกันนั้นพี่สุดใจเค้าไม่ได้ไปที่นั่นจริงๆ อันนี้เกิดขึ้นเวลาตื่นนอนมาแล้วซะด้วยสิครับ
    ถ้าไม่ใช่ว่าจำคนผิด.. Falkman ยืนยันว่าใช่!..อันนี้เล่นเอาเจ้าตัวก็งงไปด้วยครับ

    อาจารย์ที่สอนพลังเอกภพยูเรอัส พาลูกทัวร์ไปอียิปต์
    ก็ชาวอียิปต์คนนึงมาทักว่าอ้าว..มาอีกแล้ว..เพิ่งเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อน..แบบนี้ก็มี

    เหตุการณ์แนวนี้ เกิดกับคนรู้จักบ่อยขึ้นครับ
    ยังคิดว่าถ้าวันหนึ่งเห็นพี่นักเขียนกลับมาล่วงหน้าจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานซะเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2008
  11. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เมื่อคืนมีประสบการณ์แปลก ๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ..

    รับรู้ว่าร่างกายอันเป็นจินตภาพของเราล่องลอยอยู่ในจักรวาล เห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มไปหมด ความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

    และฝันว่าเรากำลังมองดูเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เปิดหน้าต่างที่อยู่ชั้นสูงสุดของตึกด้วยความตื่นเต้นดีใจ แต่พอก้มลงมองลงไปข้างล่างกับรู้สึกตกใจที่เห็นสภาพแวดล้อมเละเทะไปหมด เหมือนถูกน้ำซัดพัดพาไปจนระเกะระกะไปหมด แล้วภาพก็ตัดไปเห็นว่าเราอยู่กับเด็กผู้ชายหลาย ๆ คน กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง แต่ก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้มาก่อนแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ก็รู้สึกแปลกใจมาก

    อีกทีนึงมารู้สึกตัวตอนเช้า ในสภาวะกายหลับจิตตื่น ได้ยินเสียงผู้ชายพูดอยู่ข้าง ๆ หูอย่างอ่อนโยน และเมตตามาก ๆ เสียงนั้นบอกว่า " เธอปฏิบัติธรรมมานาน ถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้รับการทดสอบ แบบฝึกหัดของเธอคือแบบฝึกหัดที่ 24 จำไว้ " พูดแบบนี้อยู่ซ้ำ ๆ กันประมาณ 2 ครั้งแน่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่หูของเราได้ยินเสียง แต่กลับไม่รู้สึกกลัวบททดสอบที่เราจะต้องเจอเลย เพราะเข้าใจมาตลอดว่ายังงัยเราก็จะต้องเจอบททดสอบนั้น..

    เอามาเล่าให้อ่านกันเล่น ๆ ค่ะ..[Embarrass
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ไม่ใช่ฝันแต่เป็นภาพที่เห็นเมื่อเช้านี้ คือ มีภาพตอนเราตื่นแต่ยังหลับตาอยู่ (ตื่นตอนเช้ารู้สึกตัวแล้ว บางทีมีภาพหรือมีเสียง เป็นช่วงสั้นๆ) เห็นแล้วแปลกใจเพราะเป็นภาพมุมบน เหมือนมองลงมาข้างล่างรู้สึกเป็นเมืองใหญ่ บ้านติดๆกัน ไม่รู้มีภาพทำไม หมายความว่าอะไร (เห็นภาพแล้วแปลกใจ) ในใจคิดไปว่าอาจจะเป็นที่ไหนน้ำท่วมอีก
    <!-- / message --><!-- sig -->

    __________________________________________
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ JINTAWADEE [​IMG]
    ตอนนี้คลื่นสนามแม่เหล็กโลกคงเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว หลายท่านเริ่มใช้ความสามารถดั้งเดิมของจิตวิญญาณได้ การรับข้อมูลทางจินตภาพที่หลายท่านได้รับโดยไม่ได้ฝันจึงเกิดขึ้นสม่ำเสมอ เขาเรียกเป็นการ "แว้บรู้ หรือ แว้บเห็น" โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน ช่วงนี้มักจะเรียกว่า "กายหลับ จิตตื่น" ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อกับความฝันหลังตื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ลุกขึ้น ลักษณะช่วงนี้จึง มีสภาพคล้าย ๆกับ "ญาณ" ระดับหนึ่ง ช่วงลักษณะนี้หลายท่านจึงรับข้อมูลได้โดยง่าย แต่เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ถ้าฝึกสมาธิบ่อย ๆ จดจ่อกับภาพที่เห็นจะสามารถกำหนดให้เข้าไปดู ไปอ่าน สิ่งที่เห็นได้ ชัดเจนขึ้น ขอเน้น ช่วงนี้ให้นั่งสมาธิก่อนนอนทุกวัน ก่อนนอนให้ตั้งสมาธิไว้ที่จักระ 6 หรือจุดใดจุดหนึ่งในร่างกาย หรือจับที่ลมหายใจก็ได้ ให้เป็นสมาธิ แล้วหลับไปพร้อมกับสมาธินั้น จะสามารถทำให้การรับรู้ทางจินตภาพนั้นคมชัดขึ้น หลังจากนี้เมื่อน้องตื่นขึ้นจงอย่าเพิ่งขยับตัวแต่ให้กำหนดจิตไว้ที่หน้าผากจะทำให้สามารถเห็นภาพแว้บ ๆนั้น บ่อยขึ้น แรก ๆอาจจะไม่มีความหมาย ต่อไปจะเริ่มเห็นเป็นข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กับเราชัดเจนขึ้น เมื่อรู้ได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ให้พึงมีสติระลึกไว้อยู่เสมอ ว่า นี่เป็นความสามาถทางจิตวิญญาณที่ทุกคนสามารถมีได้เป็นได้เสมอเหมือนกันหมดทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น และไม่มีใครพิเศษกว่าใคร ชัดเจนแค่ไหนขึ้นอยู่กับการประพฤติและการปฏิบัติ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตามมาหนับหนุนพี่ใหญ่ค๊า.. เมื่อคืนมีประสบการณ์แปลก ๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ..

    รับรู้ว่าร่างกายอันเป็นจินตภาพของเราล่องลอยอยู่ในจักรวาล เห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มไปหมด ความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

    และฝันว่าเรากำลังมองดูเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เปิดหน้าต่างที่อยู่ชั้นสูงสุดของตึกด้วยความตื่นเต้นดีใจ แต่พอก้มลงมองลงไปข้างล่างกับรู้สึกตกใจที่เห็นสภาพแวดล้อมเละเทะไปหมด เหมือนถูกน้ำซัดพัดพาไปจนระเกะระกะไปหมด แล้วภาพก็ตัดไปเห็นว่าเราอยู่กับเด็กผู้ชายหลาย ๆ คน กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง แต่ก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้มาก่อนแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ก็รู้สึกแปลกใจมาก

    อีกทีนึงมารู้สึกตัวตอนเช้า ในสภาวะกายหลับจิตตื่น ได้ยินเสียงผู้ชายพูดอยู่ข้าง ๆ หูอย่างอ่อนโยน และเมตตามาก ๆ เสียงนั้นบอกว่า " เธอปฏิบัติธรรมมานาน ถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้รับการทดสอบ แบบฝึกหัดของเธอคือแบบฝึกหัดที่ 24 จำไว้ " พูดแบบนี้อยู่ซ้ำ ๆ กันประมาณ 2 ครั้งแน่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่หูของเราได้ยินเสียง แต่กลับไม่รู้สึกกลัวบททดสอบที่เราจะต้องเจอเลย เพราะเข้าใจมาตลอดว่ายังงัยเราก็จะต้องเจอบททดสอบนั้น..

    เอามาเล่าให้อ่านกันเล่น ๆ ค่ะ..[Embarrass

    ข้างบนนั้นเป็นการตอกย้ำคำสอนที่คุณนักเขียนพยายามเน้นนักหนา พร้อมทั้งเคยสอนเอาไว้ถึงภาวะ "กายหลับ จิตตื่น" พร้อมทั้งย้ำให้พวกเราปฏิบัติสมาธิกันเป็นประจำ หลายครั้งที่บางท่านตั้งคำถามกับจินตวดีว่า ทำไมพวกเขาไม่เห็นหรือรับรู้อะไรบ้างเลย บางครั้งพวกเราเองก็ลืมไปว่า ข้อมูลทั้งหลายนั้นอยู่ในหนังสือชุดนี้ "ธรรมชาติชาติภพ" เพียงแต่เราลืมเลือนที่จะใส่ใจเท่านั้น
    จากหนังสือธรรมชาติชาติภพ หน้าที่ 37
    เมื่อสติของเธอรับรู้ในขณะที่เธอนอนหลับหรือจุดจ่อกับความนึกคิดจนกระทั่งเธอลืมรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า เธอก็สามารถปรับสภาพสติให้กลายเป็นวงจรเปิดได้ หากแต่ว่าสิ่งที่ได้รับในขณะนั้นมักเกินขอบเขตที่เธอคุ้นเคย เธอจึงไม่เชื่อถือและไม่ใส่ใจกับมันเท่าที่ควร เธอกลับเรียกสภาวะที่สติของเธอกลายเป็นวงจรเปิดว่า ความฝันเฟื่อง ภาพหลอน หรือจินตนาการ เมื่อเธอตั้งสติ เธอทำให้จิตวิญญาณตื่นตัวและจดจ่อกับ ณ ที่นี้และในขณะนี้ เสมือนการปรับเครื่องรับทีวีให้ได้เสียงและภาพที่คมชัดจากสถานีที่เธอต้องการ

    บางคนกล่าวว่าพี่จินต์ไปไกลกว่าคนอื่นแล้ว คำตอบคือไม่ใช่ ทุกคนต่างเป็นผู้ที่เรียนรู้ไปพร้อมกัน เปรียบเสมือนเราอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เป้าหมายของทุกคนก็คือที่เดียวกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร บางครั้งบางคนอาจเดินนำไปบ้าง แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่ก้าวขึ้นมาเสมอกัน หรือนำหน้า แต่คนเดินนำหน้านั้นก็พร้อมที่จะเดินกลับมายื่นมือแบ่งปันความรู้ และความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังที่อ.อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า (เอาไว้ต่อ)

    <!-- / message -->
     
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    (ต่อ)ตามที่ อ.อนาลัยได้กล่าวไว้ในธรรมชาติชาติภพ หน้าที่ 18
    พวกเธอจำนวนมากมักเข้าใจธรรมชาติของการมีชีวิตอยู่ เป็นอยู่ ดำเนินไปในทิศทางที่ว่า ความเหนือชั้นส่วนบุคคลคือกลไกของการอยู่รอดและความสำเร็จ หากผู้ใดมีความก้าวหน้าเหนือชั้นกว่าผู้อื่นทางด้านอาชีพการงานหรือตั้งตนเป็นครูหรือผู้รู้ พวกเขาก็อยู่ในภาวะของการเป็นผู้ที่เหนือชั้น และมีความสำเร็จสูงกว่าผู้อื่น ซึ่งเป็นหลักประกันของการอยู่รอด ความเชื่อและความเข้าใจในทางที่ผิดเช่นนี้เป็นไปในทุกแขนงรวมถึงความพัฒนาก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ เธอไม่ได้เข้าใจในธรรมชาติของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของจิตวิญญาณและความสำเร็จอันเกิดจากการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน"

    ดังนั้นการแบ่งปันความรู้ให้กันและกันจึงสำคัญ พอ ๆกับการมีจิตศรัทธาในจิตวิญญาณของตนเอง และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอตามบทฝึกฝนที่อ.อนาลัย และ คุณนักเขียนได้แนะนำไว้ในหนังสือชุดนี้ หรือแม้แต่ในเว็บที่ผ่านมา เพียงแต่ถ้าทุกคนใส่ใจ ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแตกต่างกันไป ดัง ที่อ. อนาลัยได้กล่าวไว้ใน หน้าที่ 14 ธรรมชาติชาติภพ

    แต่ทั้งนี้ฉันขอเตือนว่า ประสบการณ์ทางจิตเป็นประสบการณ์ส่วนตน ความเป็นเอกลักษณ์ของจิตวิญญาณที่มีถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังไม่อาจก่อให้เกิดประสบการณ์ที่เสมอเหมือนกันได้ แต่จะมีแนวทางบางอย่างที่คล้องจองกันและทำให้เธอตระหนักถึงความเป็นจริงที่เธอต่างคนต่างก็ได้ประสพ
    เมื่อถึงจุดที่เธอทั้งหลายสัมผัสกับธรรมชาติแห่งความเป็นจริง ได้อย่างแท้จริง เธอจะพบว่า เธอปราศจากคำพูด เธอมีแต่ความรู้สึก ความรู้ในธรรมชาติแห่งความเป็นจริงจะทำให้เธออิ่มและเต็ม
    เธอจะตระหนักว่าเธอไม่จำเป็นต้องจินตนาการและสรรหาคำพูดมากมายที่จะถ่ายทอดความรู้ภายในของเธอแก่ผู้อื่น เพราะเธอจะตระหนักได้ว่า ความรู้เหล่านี้มีค่ามากมายเหลือคณานับ แต่มันกลับกลายเป็นของกลางที่ทุกคนสัมผัสได้ เอาได้ มีได้ เป็นได้ เสมอเหมือนกันทุกคน

    หลังจากที่มีหลายคน (ไม่ใช่ทุกคน) คิดว่าทำไมจินตวดีจึงรับรู้ได้มากกว่าคนอื่น ทำไมตัวเองจึงไม่เห็นหรือรับรู้ได้บ้าง จินตวดีจึงกลับมาโพสต์เพื่อแนะนำและตอกย้ำถึงบทฝึกฝนหรือข้อความที่ อ.อนาลัยได้ให้ไว้ในหนังสือทุกเล่มในชุดนี้ และที่คุณนักเขียนเคยแนะนำเอาไว้ในเว็บบอร์ด ว่าถ้าท่านฝึกฝนโดยสม่ำเสมอ พร้อมศรัทธาในจิตวิญญาณตัวเอง ท่านก็สามารถเป็นได้ มีได้ เสมอเหมือนกัน บางครั้งตัวเราเองก็มัวแต่ใส่ใจค้นหาจากที่อื่นจนลืมเลือนไปว่าเรานั้นมีของล้ำค่าอยู่ในมืออยู่แล้ว แต่ถ้าจินตวดีเงียบเฉยไว้ก็จะเปรียบเสมือนคนที่โลภในความรู้ ดังเช่นที่อ.อนาลัยกล่าวไว้ว่า

    "ฉันปรารถนาที่จะถ่ายทอดความรู้ในธรรมชาติความเป็นจริงให้กับเธอทั้งหลาย แต่ความเชื่อของมนุษย์ก็มักขัดขวางการถ่ายทอดเหล่านี้เสมอ จิตวิญญาณอันเป็นร่างกายเนื้อหนังที่ลืมเลือนเป้าหมายดั้งเดิมก่อนหน้าที่จะมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์มักให้คุณค่าของเงินและวัตถุธาตุมากกว่าความรู้ ความโลภของมนุษย์เพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวมีพลังอำนาจที่จะขวางกั้นไม่ให้คนจำนวนมากได้รับความรู้ได้อย่างเหลือเชื่อ มันเป็นความหลงทางของจิตวิญญาณที่น่าสมเพศยิ่ง แต่เมื่อใดที่จิตวิญญาณของเธอปรารถนาความรู้เหล่านี้อย่างแท้จริง ขุนเขาและทะเลกว้างก็ไม่อาจขวางกันเธอได้

    ถ้าสิ่งที่จินตวดีกล่าวถึงข้างบนนี้จะผิดพลาดประการใด ต้องขอโทษพร้อมขอคำชี้แนะมา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2008
  14. ronnie07

    ronnie07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +193
    หวัดดีครับคุณพี่ JINTAWADEE
    วันนี้
    จินตวดีเขียนได้ดีมากเลยๆถูกใจผมมากเลยนะ(good)(||)

     
  15. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    นานๆมาทีมีเรื่องแปลกๆที่ไม่แปลกจากฝันมาเล่าให้ฝังครับ ไม่รู้จะโพสห้องไหนดี(ห้องพี่สุดใจกะพี่นักเขียน)

    ช่วงนี้ฝันบ่อยๆซ้ำเนื้อหาเดียวกันแต่ คือ ส่งข้อสอบช้า ส่งการบ้านช้า ค้างส่งข้อสอบ ทำให้เพื่อนๆต้องมารอเราคนเดียว บวกกับ งงกับตัวเองในฝันว่า แอะฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ประมาณว่ารู้ว่าตัวเองฝันอยู่ แต่อีกความคิดรู้สึกว่ามันจริงแล้วฉันมาทำอะไรที่นี่ แล้วช่วงนี้มีความฝันที่ซำเรื่องราวเดี่ยวกันหลายครั้ง (เนื้อหาเดิม)

    ฝันอีกอย่างหนึ่งคือ มีเพื่อนๆจากต่างมิติมาเยี่ยมบ่อยๆในฝัน ในฝันไม่ได้เห็นตัวแต่รู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆ ส่วนมากจะมาหาที่ห้องนอน (เมื่อคืนมา 2 คน)
    รู้สึกว่าเหมือนรู้จักกันแต่จำไม่ได้ ถามคนหนึ่ง บอกว่ามาหา 2ครั้งแล้ว อีกคนบอกมา 3ครั้ง แล้วช่วงนี้ก้มีอะไรให้ประหลาดใจเล็กน้อย คือ ช่วงต้นเดือนพฤษภา ฝันเห็นราชวงที่สิ้นพระชนไป ในชุดข้าราชการ ในฝันเข้าในว่าท่านเป็นครูของเรา มาบอกว่า "วันที่ 15 น่ะ ไม่ใช่ วันที่ 12" ก้ไม่ได้เอะใจ จดสัปดาน์ที่แล้ว เดินออกไปนอกบ้านตอนดึกๆ ออกไปมองท้องฟ้า วันนั้นดาวสวยดี สักก้เห็นจานบิน (เหมือนดาวแว็บน่ะ) นับครั้งนี้ก้ 8 ครั้งแร้วที่เห็น วันที่เห็นวันที่ 15 ครับ ทุกครั้งที่เห็นคือกลางคืนดึกๆ แล้วเราอยากออกไปดูดาวเอง

    ไม่รู้ว่าเขาจะมาบอกอะไร แต่ในฝันถามเขา เขาไม่ตอบอะไร แต่รู้สึกว่าเขาเป็นมิตรน่ะรู้สึว่าเขาใจดีมากๆ มาครั้งนี้ที่เพิ่งบอกว่ามากี่ครั้งแล้ว หรือเขามาเตือนเราหว่า (สับสนทางความคิดจังช่วงนี้ มึนๆ)

    axzon ก้ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดีที่บ้านเขาไม่สนใจกัน ก้เลยมาโพสในบอร์ดนี้เผื่อใครมีความรู้บ้างครับ
     
  16. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    ขอบคุณครับ คุณKhajornwarn ที่เชิญร่วมเสวนา
    ตอนนี้ ผมรู้สึกดีใจมาก ปนความปลาบปลื้มใจ ที่กระแสการศึกษาเรียนรู้ พุทธปรัชญา-เชิงวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ กำลังเป็นที่สนใจแพร่หลายในสังคม ไม่ว่าในเว็บนี้(ที่เริ่มต้นของผม) ในแผงหนังสือ ในสื่อต่างๆ ทั้งทีวี ฯลฯ ทั้งในไทยเอง และต่างประเทศ
    อีกทั้งยังมีสินค้าแนวนี้ เริ่มเปิดเผยมากขึ้น เช่น หมวกอ่านความคิด ของ ฮิตาชิ ญี่ปุ่น หรือเครื่องอ่านความคิดสำหรับเกมส์ ตลอดจนการทดลองทางจิตของฝรั่ง ในรายการ Beyond tomorrow รายการคนชอบกล ช่อง3 ฯลฯ
    การค้นพบเทคโนโลยี่ใหม่ๆราคาถูก อีกมากมาย เช่น รถวิ่งด้วยพลังงานลม ลงตลาดอเมริกาปีหน้า
    การทดลอง CERN ครั้งสำคัญของมนุษยชาติ เพื่อพิสูจน์ Bigbang
    ภัยจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะเหตุการ์ณใน พม่า และ จีน เร็วๆนี้ ซึ่งจะนำไปสู่
    การปฎิวัติพลังงาน ครั้งใหญ่ ของมนุษยชาติ
    การปฎิวัติความคิด อุดมการณ์ ของมนุษยชาติ ที่ยิ่งใหญ่

    ในที่สุด ไม่รู้จะนานเท่าใดน่ะ ผมเชื่อเหลือเกินว่า

    ที่สุดแล้ว มนุษย์ ต่างก็ต้องกลับมา ค้นหา ในตัวตนของ มนุษย์เอง นั่นคือ จิต...

    และวิธีที่ดีที่สุด น่าจะเป็น ทางสายเอก ของพระพุทธเจ้า นั่นคือ "สติเป็นฐาน 4"เท่านั้น
    (ห่วงแต่ว่า จะเอาไปใช้ในทางที่ผิด เพื่อ ฤทธิ์ ลาภ อำนาจ สักการะ อันไม่มีสิ้นสุด เพราะธรรมชาติของ จิตมนุษย์ มักใหลจาก สูง ไป ต่ำ เสมอ)
    ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;)
    ผมยังฝัน(เชื่อ)ไปอีกว่า
    คงไม่นานเกินชีวิตนี้ คงได้เห็นยุค ที่สื่อกันด้วยจิต ความคิด แน่นอน
    ซึ่ง มนุษย์คงจะโกหกกันไม่ได้เลย ด้วยการกระทำและคำพูด เพื่อการใดๆ
    ซึ่งหมายถึง คนยุคนั้นจะนับถือกันที่ "จิตใจ" ว่า ใคร บริสุทธิ์กว่า ใคร
    (||) (||) (||)
    ไม่แน่...อาจจะเริ่มจากผู้คนในเว็บนี้ก็ได้น๊า??????อิ อิ อิ
    งั้นเราลองมาจินตนาการ "โลกในฝันที่อยากเห็น อยากให้เป็น" กันดูดีมั้ย...ติ๊กต็อกๆๆๆๆเชิญเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2008
  17. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    กายเทียม กับ โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ

    ความคิด คือ ส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ
    ความคิด เป็น พลังงาน
    ความคิด มี คุณสมบัติเป็นประจุแม่เหล็กไฟฟ้า

    ความคิดทุกความคิด เมื่อถูกส่งออกไปแล้ว ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้
    ความคิดทุกความคิด ก่อเกิดหรือแปลงสภาวะเป็นสสาร
    สสารจะมีความหนาแน่นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกระแสความคิดที่หนุนเนืื่อง ซึ่งก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน จนกระทั่งทำให้พลังงานแปลงสภาวะเป็นสสาร

    กายเทียมทั้งหลายเกิดจากความคิด หรือเกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด

    ทุกขณะจิตที่เราคิดว่า เราจะไปทำอะไร ที่ไหน เราส่งความคิด หรือส่งอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด หรือกล่าวได้ว่า ส่งส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของเราไปยังสถานที่นั้นๆ ไปทำสิ่งนั้นๆ

    กายเทียมจะปรากฏให้ผู้อื่นเห็นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสองทิศทางด้วยกันคือ:
    1. ทิศทางของผู้ส่ง หากผู้ส่งมีกระแสของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอันรุนแรง จอจ่อกับความคิดนั้นๆได้อย่างคมชัด กระแสความคิดที่ถูกส่งออกไปจะมีการสั่นสะเทือนสูง เกิดความหนาแน่นสูง ก่อเกิดกายเทียมที่ทำให้ผู้อื่นแลเห็นได้ชัดเจนกว่ากระแสความคิดอื่นๆที่มีการสั่นสะเทือนต่ำ หรือมีความหนาแน่นต่ำ


    2. ทิศทางของผู้รับ แม้ว่ากระแสที่ส่งมาอาจมีการสั่นสะเทือนต่ำ ความหนาแน่นต่ำ แต่หากผู้รับ มีสติสัมปชัญญะที่คมชัด ก็อาจรับสัญญาณสั่นสะเทือนอันแผ่วเบา หรือ แลเห็นกายเทียมที่มีความหนาแน่นต่ำนั้นได้
    [​IMG]
    คำกล่าวที่ว่า กายเทียมลอยหนาแน่นอยู่เต็มไปหมด เป็นคำกล่าวจากมุมมองทางกายภาพเพียงมิติเดียว ซึ่งเป็นมิติอันจำกัดที่เราทั้งหลายรู้เห็นได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าเท่านั้น

    กายเทียมที่เกิดขึ้น เกิดจากความคิดทุกขณะจิต มันผุดขึ้นบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใดเส้นหนึ่ง ในโลกใดโลกหนึ่ง มิติใดมิติหนึ่งเสมอ กายเทียมไม่สูญสลาย เมื่อถูกส่งออกไปแล้ว มันจะมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปต่อไป บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนั้น โลกนั้น มิตินั้น

    แต่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ มีมากมายหลากหลาย-เป็นอนันต์
    โลกแห่งความเป็นไปได้โลกอื่นๆ มีมากมายหลากหลาย-เป็นอนันต์
    มิติอื่นๆ มีมากมายหลากหลาย-เป็นอนันต์


    จักรวาลแตกแขนงออกไปพร้อมกับทุกขณะจิตที่เราทั้งหลายเกิดความคิดขึ้น
    จักรวาลจึงปราศจากขอบเขตอันจำกัด และไม่มีวันถึงจุดที่เรียกว่า หนาแน่น

    แม้แต่โลกมนุษย์เพียงโลกเดียวที่เราทั้งหลายรู้จัก
    ก็เป็นไปตามกฏการแตกแขนงของจักรวาลอันปราศจากขีดจำกัด


    เมื่อมนุษย์โลกมีความเชื่อว่า ประชากรล้นโลก โลกกำลังหนาแน่นเกินกว่าที่มันเคยเป็นไป มนุษย์ผู้ที่เชื่อในทิศทางดังกล่าวมักมีความเชื่ออื่นๆที่สนับสนุนความเชื่อแรกตามมา เช่น เชื่อว่าภัยพิบัติและการตายหมู่ เป็นหนทางเดียวที่ปัญหาประชากรล้นโลกจะได้รับการแก้ไข หรือเป็นหนทางเดียวที่โลกจะกลับคืนสู่ภาวะอันสมดุลย์ได้ พวกเขาจะดำเนินชีวิตอยู่ในภูมิประเทศของโลกที่มีสภาพแวดล้อมแออัด เต็มไปด้วยผู้คน ปราศจากที่ว่าง จำนวนประชากรต่อพื้นที่หนาแน่น เต็มไปด้วยความแออัด และ พวกเขาก็อาจจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่ก่อให้เกิดการตายหมู่

    ผู้ที่ตระหนักในธรรมชาติความเป็นจริงอันปราศจากขีดจำกัดของจักรวาล จะมีความเชื่อว่า ประชากรไม่มีวันล้นโลก และจะเหนี่ยวนำให้พวกเขามีความเชื่ออื่นๆต่อไปอีก เช่น เชื่อว่าสังคมโลกปราศจากการแก่งแย่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีเหลือเฟือ พวกเขาก็จะใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พูนสุข ดำเนินชีวิตอยู่ในภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยที่ว่างอันกว้างขวาง จำนวนประชากรต่อพื้นที่เบาบาง ปราศจากความแออัด แมัจะเผชิญกับภัยพิบัติ มันกลับทำลายแต่เพียงสิ่งอื่นๆในธรรมชาติที่มีอยู่เหลือเฟือ เช่น พืชพันธุ์ แต่ไม่ทำลายชีวิตมนุษย์จำนวนมาก

    คำว่า หนาแน่น หรือ เต็มไปหมด จึงปราศจากความหมายที่แท้จริง
    แต่มันก็กลายเป็นความหนาแน่นหรือโลกแห่งความเป็นจริง ของผู้ที่มีความเชื่อในทิศทางนั้นๆ ดังคำกล่าวของท่านอาจารย์อนาลัยที่ว่า

    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง (rose)
     
  18. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    โลกของความฝัน

    การจดจำความฝันได้แม่นยำขึ้นเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญ หลายๆคนจดจำฝันได้ดีขึ้น ให้ความสนใจในความฝันมากขึ้น และที่สำคัญก็คือ นอกจากจำความฝันได้แล้วยังตระหนักในประเด็นหรือสาระสำคัญที่ปรากฏในความฝันอีกต้วย

    ก้าวต่อไปที่พวกเราจะต้องเรียนรู้ คือ การถอดรหัสความฝัน หรือตีความหมายสัญญลักษณ์ต่างๆที่ปรากฏในความฝัน เพราะหากเราถอดรหัสความฝันไม่ได้ ตีความหมายไม่ถูกต้อง ความฝันทั้งหลายจะปราศจากความหมาย อย่างมากก็ทำให้เรารู้สึกว่า มันสำคัญ แต่ก็เข้าไม่ถึงสาระที่แท้จริงของความฝัน ทำให้พลาดข้อมูลที่ได้รับมาแล้วไปอย่างน่าเสียดาย

    คุณ axzon47 เผชิญกับความฝันที่เข้าใจไม่ได้ แม้สติสัมปชัญญะจะคมชัดพอที่จะตระหนักได้ว่า กำลังฝัน

    ประเด็นสำคัญที่สุด ที่ทำให้เราถอดรหัสความฝันไม่ได้ คือ การที่เราไม่รู้ว่า ความฝันกำลังตอบคำถามอะไร? หรือกำลังแสดงสาระเกี่ยวกับอะไร? เปรียบได้กับการที่เราได้รับคำตอบจากใครบางคน โดยที่เราจำไม่ได้ว่าเราถามอะไรเขาไปบ้าง? กี่คำถาม? และ เขากำลังตอบคำถามใดของเราอยู่? เราจะจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ได้ว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร แม้จะพอจับประเด็นได้ ก็อาจจะจับแพะชนแกะ ทำให้ถอดรหัสความฝันคลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนไปได้ทั้งหมด

    ความฝันทุกความฝัน - ตอบคำถามเราเสมอ ดังนั้นเราจะต้องตั้งสติว่าจะถามอะไรและจำคำถามให้ได้ในยามฝัน

    ความฝันทุกความฝัน - เปิดเผยให้เรารู้เห็นในสิ่งที่เราปรารถนาจะรู้ ปรารถนาที่จะเห็น หรือเข้าใจความเป็นจริงเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ เราจึงต้องมีสติตามรู้ ตามเห็นว่า และตระหนักได้ว่า เราปรารถนาจะรู้อะไร ปรารถนาจะเห็นอะไร เมื่อมันปรากฏก็จะตระหนักได้

    หากเราจดจำได้ว่า เราปรารถนาจะรู้สิ่งใด เห็นสิ่งใด เข้าใจสิ่งใด เมื่อมันเฉลยขึ้นในความฝัน เราจะรู้สึกสนเท่ห์และเข้าใจคำตอบทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติ แม้ว่ามันจะปรากฏเป็นสัญญลักษณ์ หรือรหัสที่ต้องถอดความ เราก็จะตระหนักได้อย่างเป็นอัตโนมัติว่า สัญญลักษณ์เหล่านั้นทดแทนอะไร รหัสเหล่านั้นถอดอย่างไร เพราะมันกำลังตอบคำถามเราโดยตรง การถอดรหัสจะเกิดจากประสบการณ์ หากเราถอดผิดครั้งหนึ่ง เราจะเรียนรู้ได้ว่าเราผิดอะไร เหมือนผู้ที่หมุนรหัสผิด อย่างน้อยที่สุดก็จะจำได้ว่า อันที่ผิดคืออันไหน ต่อไปเมื่อพบรหัสที่ถูกจะไม่มีวันลืม

    พี่นักเขียนได้แนะนำไว้ว่า ให้เราทำสมาธิก่อนนอน ตั้งจิตให้มั่นว่า เราปรารถนาจะเรียนรู้สิ่งใด เมื่อล้มตัวลงนอนอย่าให้สมาธิขาด และพยายามประคองสมาธิไว้จนหลับไปในสมาธินั้น ซึ่งภาวะดังกล่าวจะเหนี่ยวนำให้เรามีสติอันคมชัดในความฝัน จดจำความฝันได้ดีขึ้น และตระหนักได้ในความฝันนั้นๆว่า "ฉันกำลังฝัน"

    ทุกครั้งที่เผชิญกับความฝัน และพบว่าเราไม่เข้าใจในประสบการณ์ความฝันนั้นๆ หากเรามีสติสัมปชัญญะที่ระลึกได้ว่า เราได้ตั้งจิตปรารถนาที่จะรู้อะไรก่อนที่เราจะล้มตัวลงนอน เราจะตระหนักได้ทันทีว่า ความฝันที่กำลังเป็นไปน้ันกำลังเปิดเผยคำตอบส่วนใดให้เรา หากเรายังไม่เข้าใจในประสบการณ์ความฝันที่กำลังเผชิญอยู่ เราจะต้องก้าวออกจากประสบการณ์ความฝัน หรือเปลี่ยนสถานภาพจากผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ความฝัน ก้าวออกมาเป็นผู้สังเกตการณ์ความฝันนั้นๆ

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นในภาวะดังกล่าวคือ สติสัมปชัญญะจะขยายตัว และเปลี่ยนแบบแผนการทำงาน เราจะกลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่แลเห็นมุมมองของเหตุการณ์ความฝันนั้นๆได้กว้างขึ้น เหมือนผู้ชมภาพยนต์ที่ได้เห็นฉากอื่นของเหตุการณ์ ซึ่งตัวละครในฉากหนึ่งๆยังไม่รู้เห็น ทำให้เราเข้าใจเหตุการณ์ในภาพรวมทั้งหมดได้มากกว่าตัวละครในฉากใดเพีียงฉากหนึ่ง และอาจทำได้แม้แต่คาดการณ์ของฉากต่อไป หรือเขียนบทละครฉากต่อไปได้ดังปรารถนา

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่คุณน้อง amsomegal และคุณน้อง Jintawadee ขอให้พี่นักเขียนฝัน เพื่อดูบุคลิกภาพว่าแต่ละคนเป็นคนอย่างไร และมีจุดอ่อนอะไรที่ต้องแก้ไข หากพี่นักเขียนนำบันทึกความฝันมา post ให้พวกเราอ่าน พวกเราอาจจะประหลาดใจว่า บันทึกความฝันของพี่นักเขียนไม่ได้ต่างไปจากความฝันของ - คุณจีนทาร่อน คุณ axzon47 คุณน้องจินตวดี และหลายๆคนที่นำความฝันมา post ตรงๆโดยไม่ได้ถอดรหัสหรือสัญญลักษณ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์-ความเป็นไปเป็นเรื่องราวต่างๆ แต่เหตุใดพี่นักเขียนจึงอ่านบุคลิกภาพออกมาจากความฝันเหล่านั้นได้ หรือนำความฝันเหล่านั้นไปเขียนหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย ซึ่งปราศจากเรื่องราวที่เหมือนความฝัน ?

    กระทู้ห้องวิทย์ฯดำเนินมาได้ยาวนานกว่า 9 เดือนแล้ว พี่นักเขียนรู้สึกประหลาดใจที่ยังไม่เคยได้รับคำถามว่า พี่นักเขียนฝันเห็นอะไร ? และถอดรหัสความฝันอย่างไรจึงกลายมาเป็นหนังสือ? ทำให้พี่นักเขียนตระหนักว่า คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่า การรับสารยามฝัน เป็นการรับมาตรงๆเหมือนจดชวเลขหรือจดตามคำบอก โดยไม่ต้องตีความหมาย แม้พี่นักเขียนจะเขียนไว้ใน บันทึกของนักเขียน ว่าความฝันทั้งหมดจดไว้เป็นภาษาอังกฤษและนำมาถอดรหัสภายหลัง เพื่อเขียนเป็นหนังสือภาษาไทย หลายๆคนก็เข้าใจผิดว่าการถอดรหัสที่ว่า หมายถึงการแปลเป็นไทย

    ความฝันทั้งหลายปรากฏเสมือนความสับสน ความซับซ้อน เพราะมันอัดแน่นไปด้วยสัญญลักษณ์และความหมายหลายชั้น
    ความฝันเพียงหนึ่งเรื่องอาจตอบคำถามทั้งหมด หลายคำถามได้ด้วยสัญญลักษณ์เพียงสัญญลักษณ์เดียว แต่ตีความหมายได้มากกว่าหนึ่งความหมาย


    ไม่ว่าพี่นักเขียนจะยินดีตอบคำถาม และยินดีที่จะเปิดเผยวิธีการถอดรหัสความฝัน หรือตีความหมายสัญญลักษณ์ในความฝันเท่าไรก็ตาม พี่นักเขียนก็ไม่อาจรวบรวมสัญญลักษณ์ หรือ รหัสความฝัน มาเขียนให้พวกเราอ่านได้ เพราะทุกสัญญลักษณ์ ทุกรหัส มีความหมายเฉพาะบุคคล และทุกประสบการณ์ในความฝัน ผันแปรไปเสมอ ไม่มีสิ่งใดคงที่ นอกจากสติสัมปชัญญะอันคมชัดที่หากได้รับการฝึกฝนแล้ว จะทำหน้าที่อย่างสม่ำเสมอและซื่อตรงทึ่สุด

    คำว่า ต่างมิติ หรือ ตายไปแล้ว ในโลกของความฝัน ปราศจากความหมาย
    [​IMG]
    ธรรมชาติของโลกของความฝัน คือ โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    โลกของความฝัน คือ? โลกอิสระที่สิ่งมีชีวิตจากทุกมิติ ทุกช่องว่าง ระยะทาง และทุกกาลเวลา หรือ ต่างภพภูมิ ต่างกาลเวลา มาพบปะกันเพิื่อถ่ายทอด แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้กันได้เสมอ


    โลกของความฝัน คือ โลกอิสระที่ปราศจากช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา มันจึงปราศจากความตาย ทุกจิตวิญญาณล้วนกำลังมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นปัจจุบัน ณ ที่นี่ - เดี๋ยวนี้

    แต่ถ้าหากเราปราศจากความเข้าใจในธรรมชาติความเป็นไปในระดับจิตสำนึก ที่ทำให้สติสัมปชัญญะของเราระแวดระวังต่อการรับรู้เหล่านั้น เราจะแบ่งแยกมิติ แบ่งแยกเรา-เขา แบ่งแยกภพภูมิ ดวงดาวหรือถิ่นฐานต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นถิ่นฐานที่มาของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ทำให้การสื่อสาร รับและถ่ายทอดข้อมูลทั้งหลายเป็นไปไม่ได้ เพราะความเชื่อของเราที่ว่า สิ่งมีชีวิตต่างภพภูมิ ต่างดาว ต่างถิ่นฐาน ต่างกาลเวลา - สื่อสารกันได้ยาก หรือสื่อสารกันไม่ได้

    ความรู้ทั้งหลายที่ปรากฏในหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย เป็นข้อมูลความรู้ที่จำเป็นต้องศึกษาจนกว่าจะสถิตย์อยู่ในจิตสำนึก หรือสถิตย์อยู่ในสติสัมชปัญญะทั้งยามตื่นและยามฝัน หากข้อมูลความรู้เหล่านี้สถิตย์อยู่ในสติสัมปชัญญะของเราได้อย่างแท้จริง เราจะพบว่า เราจะเข้าใจโลกของความฝันได้อย่างเป็นอัตโนมัติ(rose)
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ธรรมชาติของจิตวิญญาณ

    [​IMG]
    แก่นแท้ของจิตวิญญาณตระหนักในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และตระหนักในการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไขเสมอ จิตวิญญาณปราศจากการใช้พลังอำนาจผิดทางได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    หากปราศจากเจตนาอันบริสุทธิ์ที่จะเรียนรู้ ย่อมเรียนรู้ไม่ได้ ด้วยปราศจากปัญญา
    หากปราศจากปรารถนาอันเป็นคุณต่อมวลมนุษย์ ย่อมใช้พลังอำนาจไม่ได้อย่างแท้จริง ด้วยปราศจากพลังเมตตา


    จิตวิญญาณ ปราศจากการแบ่งแยก แม้จะเป็นจิตวิญญาณในร่างมนุษย์ ก็เสมอเหมือนจิตวิญญาณของต้นกำเนิดเสมอ

    แม้มนุษย์จะเรียกจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังว่า จิตมนุษย์ และกำหนดคุณค่าของจิตวิญญาณในร่างมนุษย์ให้ต่ำลง จิตวิญญาณก็ไม่ได้ต่ำลงไปกว่าธรรมชาติที่มันควรจะเป็น แต่คงพลังอำนาจและคุณสมบัติทั้งหลายตามธรรมชาติของมันต่อไปเสมอ หากแต่ว่ามันจะใช้การไม่ได้ก็ด้วยความเชื่อที่ว่า มันหมดพลังอำนาจและตกต่ำลงไปกว่าที่มันเคยเป็น

    จิตวิญญาณไม่เคยไหลจาก-สูงไปต่ำ
    จิตวิญญาณมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะปราศจากส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ จิตวิญญาณจึงเป็นทุกส่วนที่มนุษย์เรียกว่า สูง-ต่ำ ดำ-ขาว ดี-ชั่ว บริสุทธิ์-มัวหมอง จิตวิญญาณคือความสมบูรณ์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอันเป็นเลิศ จิตวิญญาณจึงมีทุกส่วนซึ่งสนับสนุนและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • clematis.jpg
      clematis.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.7 KB
      เปิดดู:
      432
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    โลกยามตื่นของพี่นักเขียนในวันนี้กำลังเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และนกหลากสี
    เก็บมาฝากจากสวนหลังบ้านค่ะ เมื่อไรจะมาเก็บกันเองบ้างล่ะคะ?(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4198.jpg
      IMG_4198.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.5 KB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_4270.jpg
      IMG_4270.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.2 KB
      เปิดดู:
      33
    • IMG_4312.jpg
      IMG_4312.jpg
      ขนาดไฟล์:
      263.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_4347.jpg
      IMG_4347.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.7 KB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_4360.jpg
      IMG_4360.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.4 KB
      เปิดดู:
      34
    • IMG_4368.jpg
      IMG_4368.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.7 KB
      เปิดดู:
      41
    • IMG_4376.jpg
      IMG_4376.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.9 KB
      เปิดดู:
      31
    • IMG_4394_2.jpg
      IMG_4394_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      34
    • IMG_4440.jpg
      IMG_4440.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.4 KB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_4538.jpg
      IMG_4538.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.6 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_4547_2.jpg
      IMG_4547_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_4127.jpg
      IMG_4127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      216.3 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...