เดียวนี้คนเสื่อมศัทธาในศาสนากันมาก

เช่นนั้นท่านก็ไม่มีกิเลสแล้วสิ คุณติดปีก

 

แสดงว่าเราคือเงาของท่าน
แสงสว่างและความมืดย่อมไม่บังเกิดพร้อมกัน

 

คุณผีเสื้อถามคุณติดปีก
คุณติดปีกต้องตอบเองสิ
มาโยนให้ผมทำไม

 

ตราบใดขันธ์ห้ายังคงธาตุอยู่ ขึ้นต้นว่าด้วยมนุษย์
ความต้องการอันหลากหลาย อันไม่รู้จักเพียงพอ
กิเลส หนอ กิเลส
อย่างนี้ ต้องถอนรากถอนโคนให้สิ้นเชื้อนะ

 

ใครบอกหละว่าแสงสว่างและมืดไม่บังเกิดพร้อมกัน เมื่อมีอีกสิ่งจึงมีอีกสิ่งของสองอย่างนี้แยกกันไม่ได้

 

คุณวิมุตติ ก็สงเคราะห์หน่อยจะเป็นไรไป
ถือว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

 

ก็แล้วแต่จะมอง
เกิดกลางวันและก็เกิดกลางคืน จะให้พร้อมกันหรือ

 

ไปละ ไว้ค่อยคุยกันต่อ

 

ท่านทราบเหตุของการเกิดกิเลส
และวิธีถอดถอนกิเลส หรือยัง
ถ้าทราบแล้วโปรดชี้แนะ เป็นธรรมทาน
ด้วยเถิด

 

ถูกต้องแล้วกลางวันและกลางคืนเกิดพร้อมกัน ท่านว่าเวลาบนโลกเหมือนกันเช่นนั้นหรือ

 

กำลังสงเคราะห์อยู่นี่ไง
จะได้ปรับทิฏฐิให้เข้าที่เข้าทาง
ที่ทำงานผม มีเทพอยู่องค์หนึ่ง
ผ่านไปมาผมก็ไหว้ทุกวัน
เคารพตามสมควร
หาใช่ยึดมาเป็นสรณะไม่
ความเชื่อว่าเทพดลบันดาลได้
เป็นสีลัพพตปรามาส ท่านทราบหรือไม่
หรือว่าอ่านมาเพียงในตำรา รู้เพียงความหมาย
แต่ไม่แจ้งในวิปัสสนาญาณเพียงพอที่จะเข้าใจ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>สมาชิก 2 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วิมุตติ ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29> k.kwan (วันนี้), ผีเสื้อราตรี (วันนี้) </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>บุคคลทั่วไป 3 คน, วิมุตติ, ติดปีก </TD></TR></TBODY></TABLE>

ดอกไม้...ดอกไม้จะบาน บริสุทธิกล้าหาญ

จะบานในใจ....สีขาว...หนุ่มสาวจะใฝ่

แน่วแน่แก้ไข จุดไฟศรัทธา......



ชิมิ ชิมิ

 

เรียนรู้ ต่อสู้มายา
ก้าวไปข้างหน้า เข้าหามวลชน
ชีวิต อุทิศยอมตน ฝ่าความสับสน เพื่อผลประชา...ชิมิ ชิมิ

ใกล้รับน้องแล้ว ว่าจะไปแจมสักหน่อย อิอิ ในฐานะรุ่นพี่แก่ๆคนหนึ่ง หุๆๆๆ

 

พี่เเซน ละก็...งุบ...งิบ

 

แสงสว่างและความมืดย่อมเกิดพร้อมกันในใจ

 

การที่มีความสว่างได้ นั่นเพราะมีความมืด
การที่มีความมืดได้ นั่นเพราะมีความสว่าง
เพราะมีอย่างหนึ่งจึงมีอีกอย่างหนึ่ง
ถ้าไม่มีอย่างหนึ่งก็ไม่มีอีกอย่างหนึ่ง
เรากล่าวว่า ช้างตัวใหญ่ นั่นเพราะเทียบกับสิ่งที่เล็กกว่า
ถ้าเทียบกับภูเขา ช้างก็ตัวเล็กนิดเดียว

การเข้าถึงปรมัตถ์ธรรม จึงต้องพ้นจากการปรุงแต่งว่ามีของคู่อยู่
นั่นคือ มองโลกตามความเป็นจริงของมัน
ไม่มีใหญ่ ไม่มีเล็ก ไม่มีมืด ไม่มีสว่าง
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นแต่เพียงสมมติอย่างหนึ่งเท่านั้น
ใจที่ไม่ลำเอียง จะมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน...นั่นแหล่ะ เข้าใกล้นิพพานแล้ว

 

ภายนอกไม่ยึดติดลักษณะ
ภายในไม่ยึดติดความว่าง
ย่อมไหลลื่นไม่ติดขัด

 

ภายนอกไม่ยึดติดลักษณะ
ภายในไม่ยึดติดความว่าง
ย่อมเข้าถึง 1 สภาวะ

 

ผู้รู้บอกศาสนาพุทธไม่เคยเสื่อม
แต่คนเองน่ะแหละเสื่อม
ดีแล้วที่ใช้คำว่าคนเสื่อมไปจากศาสนา
จำตัวเลขไม่ได้ ทางการว่าแต่ก่อนคนไทยนับถือพุทธมี90กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันเหลือ85เปอร์เซ็นต์หรืออย่างไรนี่แหละ
แสดงว่า คนราวๆ5เปอร์เซ็นต์หันไปนับถือศาสนาอื่นๆ คือเสื่อมไปจากพุทธ
อีกประเด็นคือการวิจัยว่าเด็กไทยไม่ค่อยรู้เรื่องวันสำคัญทางศาสนา50กว่าเปอร์เซ็นต์ อันนี้น่าตกใจ เพราะจะเสื่อมถอยออกไป เหลือเพียงการระบุไว้ในทะเบียนบ้านว่านับถือพุทธ แต่ไม่รู้ไม่เคยปฏิบัติว่าพุทธนั้นเป็นอย่างใด
ความเห็นหลักคือผู้รับผิดชอบของภาครัฐในหน่วยต่างๆ มักทำงานเชิงตั้งรับ ไม่ทำเชิงรุก ตัวอย่าง เมื่อเด็กพลาดจากการอบรมของครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลาพาไปวัดแล้ว
เด็กยังมาพลาดทางการศึกษาอีก ไม่ค่อยสอนจริยะธรรมศีลธรรมกันแล้ว มุ่งแต่องค์ความรู้ทางโลกเป็นหลัก นี่ก็เสื่อมแล้ว
ได้ข่าวกระทรวงศึกษากำลังตื่นจะให้โรงเรียนทุกแห่งนำพระมาเทศน์มาสอนกันแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อยนึง

 

หากมองให้ถูกกาละ เมื่อไม่มีมิติ ย่อมไม่มีกาลเวลา
บนโลกนี้จะเหมือนกันก็แค่ธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดา