เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณเซลล์ครับ ที่ถามถึงความหมายของแป๊ปซี่ในความรู้สึกของคุณก็เพราะว่า จิตเมื่อได้รับข้อมูลมา จะแปลความโดยใช้สัญลักษณ์ ซึ่งความหมายของสัญลักษณ์นั้นก็อยู่กับเจ้าตัวคนที่ฝันว่ารู้สึกอย่างไรกับสัญลักษณ์นั้น

    ก็เลยคิดว่าความหมายของแป๊ปซี่นั้น คงไม่ใช่ความหมายแบบของผมหรอก น่าจะเป็นแบบของคุณเซลล์มากกว่า

    ความฝันของคุณจิน ก็น่าสนใจมากเลย แว๊บแรกที่เห็นทางเขาวงกตมีความรู้สึกยังไงครับ?

    เรื่องการฝึกของคุณ mead กับเหรียญนั่นก็ดูน่าสนนะครับ ตอนเด็กๆ เคยหัดแต่จะทายจะให้ถูกว่าขึ้นหน้าไหน ไม่ได้ตั้งใจกำหนดหน้าที่ขึ้น

    คุณเซลล์ก็เลยฝึกกับโยคะมาก่อน คงเจออะไรมาเยอะเลยสิครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  2. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อาจารย์สุวินัย ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวครับ แต่อาจารย์เคยไปฝึกที่เดียวกันกับผม ถือเป็นศิษย์รุ่นพี่ครับ มาก่อนแป๊ปนึงครับ เลยสวนทางกัน อิอิ
    ที่เคยไปพบ คือ คุรุมาตาจีครับ
    จะสอนให้เข้าถึงคุณสมบัติของจักระต่างๆครับ โดยนำมาผูกไว้กับพลังงานเด่นๆของเทพแต่ละองค์ครับ
     
  3. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อาจจะเป็นไปได้ครับ คุณ zip ผมอาจจะตีความตามสัญลักษณ์ จากฐานข้อมูลที่ได้มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็เป็นได้ครับ

    ส่วนที่เคยฝึกมาแบบต่างๆ ก็ถือว่าประสบการณ์ยังน้อยอยู่มากครับ ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ :d
     
  4. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    คุณเซลล์พูดถึงคุรุโยคะ น่าสนใจค่ะ โซลก็เคยหาหนังสือมาศึกษาบ้าง ได้อ่านหนังสือของ ดร.สุวินัย เหมือนกันค่ะ แรกเริ่มเจากโซลมีประสบการณ์เวลาปฎิบัตินั่งสมาธิแล้วตัวเองจะลุกขึ้นทำท่าโยคะเอง ตัวอ่อนมากๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้อ่อนขนาดนั้น แต่ถ้าอยู่ในสมาธิถึงระดับหนึ่ง จะลุกขึ้นทำท่าโยค่ะ จิตตอนนั้นบ่งบอกว่า โยคะมีอยู่ทุกลมหายใจ อะไรประมาณนี้ค่ะ ... แล้วก็สิ่งที่เกี่ยวข้องอีกศาสตร์เกี่ยวกับตัวเองคือ จะไหว้ท่าไหว้ของทิเบต คือไหว้ ทั้งตัว ... ตอนอยู่ห้องพระ ถ้าจิตเป็นสมาธิ น่าจะมีอะไรเชื่อมโยงกับ จิตวิญญาณโซลมากทีเดียว ไม่ทราบว่า คุณเซลล์ รู้เรื่องศาสตร์ ทั้งสองของทิเบตและโยคะ มากแค่ไหน อยากได้ความรู้ค่ะ อยากหาคุรุ และผู้ชี้แนะด้วยค่ะคุณเซลล์
     
  5. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ถ้าพูดถึงเรื่องศาสตร์ต่างๆ ต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่ได้รู้เยอะครับ
    เป็นแค่นักเรียนเหมือนกันครับ ;)
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจจุดร่วมของศาสตร์ต่างๆก่อนครับว่า โยคะ คืออะไร ศาสตร์ของธิเบต ที่เราฝึกคืออะไร และฝึกไปเพื่ออะไร
    เท่าที่ผมศึกษา และที่เคยปฎิบัติอยู่ จะมีจุดร่วมกันก็คือ การควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านการฝึกสมาธิ
    การเรียนรู้เรื่องพลังงานเป็นการฝึกประสาทสัมผัสให้เร็วต่อการรับรู้ครับ ซึ่งปกติแล้วพลังงานมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ เพียงแต่เราฝึกตัวรู้ให้เข้าไปรับรู้กับตัวตนในระดับที่ละเอียดขึ้นครับ ซึ่งภายในของพลังงานก็จะมีข้อมูลอยู่ในนั้นเป็นระดับที่ลึกเข้าไปอีกชั้นครับ และในข้อมูลก็จะมีที่ลึกลงไปอีกเรื่อยๆครับ
    แต่ถ้าหากจะถามถึงอาการที่คุณโซลเป็นข้างต้น ผมเคยไปนั่งสมาธิที่หนึ่งแล้วมีเพื่อนที่นั่งไปด้วยกัน รำมือเป็นรูปต่างๆระหว่างสมาธิครับ ซึ่งมีสาเหตุอยู่หลายอย่างครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปตอบให้ทาง pm ละกันนะครับ :d
     
  6. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    ขอบคุณค่ะ คุณเซลล์
     
  7. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    วันนี้axzon47 เอาสารที่ขอให้พี่นักเขียนฝันให้มาโพสให้เพื่อนๆในห้องดูกันคับ


    สวัสดีค่ะ คุณ axzon47
    ตามที่ขอให้ฝันเพื่อหาคำตอบว่า "ฉันมาทำอะไรในชาตินี้"
    พี่นักเขียนได้ฝันให้แล้ว จากความฝันพบว่า:
    คุณ axzon47 มีความสามารถและแนวโน้มมากมายหลายด้าน และเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะลงมือทำ สัญญลักษณ์ที่ปรากฏในความฝัน บ่งบอกถึงความสามารถทั้งทางด้านความคิด การเข้าถึงภาวะจิตที่แน่วแน่ มีสติพร้อม ไม่ต่างจากช่างภาพที่สามารถจับ magic moment ได้ผ่านกล้องของเขา ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผ่านไปชั่วพริบตาก็สามารถจับภาพไว้ได้

    แต่ปัญหาของคุณ axzon47 อยู่ตรงที่ว่า ไม่ยอมตัดสินใจที่จะนำความสามารถของตนเองออกมาใช้ พี่นักเขียนฝันเห็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับเด็กเล็ก เช่น การผลิตสื่อ หนังสือเด็ก หรือสิ่งที่ทำให้เด็กๆได้ลับสมอง หรือพัฒนาความคิด เป็นงานที่คล้ายหนังสือเด็ก แต่ก็คล้ายเกมส์มากกว่าจะเป็นหนังสือจริงๆ คุณ axzon47 อาจเห็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตนเองสามารถผลิตได้ด้วยตนเองในท้องตลาดบ่อยๆ และมักคิดว่าตนเองสามารถทำได้ดีกว่านั้น แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำจริงๆเสียที

    คุณ axzon47 มีความพร้อมที่จะผลิตหลายสิ่งหลายอย่างได้อย่างดีเลิศ แต่กลับไม่มั่นใจว่า ตนเองจะยอมสละเวลาส่วนตนไปทำสิ่งเหล่านี้ให้ผู้อื่นดีหรือไม่? เด็กๆในความฝันอาจเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่แสดงออกถึงผู้ที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ หรือขาดความรู้ความสามารถที่คุณ axzon47 มีอย่างเหลือเฟือ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หรืออาจเป็นหน้าที่ที่เกี่ยวกับเด็กๆจริงๆ อันนี้คุณ axzon47 คงต้องเฉลยให้พี่ทราบ แต่ประเด็นสำคัญคือ คุณ axzon47 ไม่ตัดสินใจและลังเลที่จะสละเวลาส่วนตนไปทำหน้าที่เพื่อพวกเขา

    ตามความฝัน คุณ axzon47 มีหน้าที่ซึ่งคล้ายคลึงกับพี่่่นักเขียนมาก เรียกได้ว่า ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คล้ายคลึงกัน ปรากฏเป็นสัญญลักษณ์ในความฝันคือ การที่มีบ้านอยู่บนถนนสายเดียวกัน บ้านตั้งอยู่ซีกเดียวกันของถนน และหันหน้าบ้านไปทิศเดียวกัน คุณ axzon47 มีพลังสนับสนุนมากมาย ทั้งความสามารถ ปัญญา และน่าจะมีพลังทรัพย์ที่ทำให้สามารถลงมือทำหรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ตามความฝัน แต่กลับคิดไม่ตกว่า การตัดสินใจทำสิ่งใดๆเพื่อผู้อื่นจะทำให้ตนเองต้องสูญเสียเวลาส่วนตนไปโดยไม่คุ้มค่าหรือเปล่า?

    ต่อคำถามที่ว่า ฉันมาทำอะไรในชาตินี้ ตอบได้ว่า มาทำหน้าที่ที่ช่วยเหลือผู้ที่ช่วยตนเองไม่ได้ หรือขาดความรู้และทักษะที่คุณ axzon47 มีอย่างเหลือเฟือ แม้คำตอบนี้อาจจะฟังดู plain มากๆเพราะมันน่าจะเป็นความเป็นจริงสำหรบคนทุกคน แต่มันก็ไม่ได้เป็นความเป็นไปได้สำหรับทุกคน เพราะคนจำนวนไม่น้อย นอกจากไม่มีความคิดที่จะช่วยหลือผู้อื่นแล้ว บางคนมีความคิด แต่ขาดทั้งความสามารถและกำลังทรัพย์

    แต่สำหรับคุณ axzon47 แล้ว กล่าวได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงสุด เป็นปรารถนาของจิตวิญญาณที่คุณเลือกมาเกิด แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็เกิดจากการที่ไม่ยอมตัดสินใจ หรือตัดสินใจไม่ได้ ด้วยความข้องใจว่า หากยื่นมือเข้าไปแล้วจะถอนตัวได้หรือไม่ หรือจะทำให้สูญเสียเวลาและความสุขส่วนตัวไปหรือเปล่า? ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นไปไม่ได้ด้วยปัจจัยใดๆเลย

    สัญญลักษณ์ในความฝันปรากฏเป็น Pharmacy, Hair Expert, Photo Studio ซึ่งถ้าหากชีวิตจริงคุณ axzon47 ไม่ได้ทำธุรกิจหลายด้าน หรือเป็นเจ้าของกิจการหลายอย่าง ก็ต้องตีความหมายว่า เป็นบุคคลที่มีความสามารถหลายด้าน และไม่ใช่เพียงแต่สามารถปานกลาง แต่เป็น expert ด้วย

    สรุปได้ว่า คุณ axzon47 กำลังเผชิญกับหน้าที่ที่ตนเองเลือกมาเกิดโดยตรง มันอยู่แค่ปลายจมูก และคุณก็มีความพร้อมและความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะลงมือทำในวันนี้ แต่กลับไม่ตัดสินใจที่จะทำเสียที

    ขอคำเฉลยบางส่วนเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่ปรากฏในความฝันว่า:
    1. คุณ axzon47 มีชื่อที่ขึ้นต้นด้วยตัว ต เช่น ตุ้ม หรือเปล่า ?
    2. สีโปรดของคุณ axzon47 คือ สีเขียวมะกอกอ่อนๆ ใช่ไหม
    3. คุณ axzon47 ชอบรถแพงๆ (หรือ Vintage Car) หรือชอบชีวิตที่มีความหรูหรามั่งคั่ง หรือค่อนข้างยึดติดกับความเป็นผู้ดีเก่า ใช่หรือไม่?

    ในความฝันเห็นคุณ axzon47 ขับรถสีเขียวมะกอกอ่อนๆ และเห็นว่าเป็น vintage car หากไม่ได้มีรถหน้าตาสีสันอย่างในความฝันจริงๆ ก็เป็นสัญญลักษณ์ของความพร้อมทางกายภาพ ทั้งความสามารถทางกายและกำลังทรัพย์

    หวังว่าคงจะหายป่วยในเร็ววันนี้ค่ะ จะได้เอา chocolate มาฝากอีกกล่อง
    ด้วยความปรารถนาดี
    พี่นักเขียน [​IMG]
     
  8. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    สวัสดีค่ะ คุณ axzon47
    ตามที่ขอให้ฝันเพื่อหาคำตอบว่า "ฉันมาทำอะไรในชาตินี้"
    พี่นักเขียนได้ฝันให้แล้ว จากความฝันพบว่า:
    คุณ axzon47 มีความสามารถและแนวโน้มมากมายหลายด้าน และเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะลงมือทำ สัญญลักษณ์ที่ปรากฏในความฝัน บ่งบอกถึงความสามารถทั้งทางด้านความคิด การเข้าถึงภาวะจิตที่แน่วแน่ มีสติพร้อม ไม่ต่างจากช่างภาพที่สามารถจับ magic moment ได้ผ่านกล้องของเขา ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผ่านไปชั่วพริบตาก็สามารถจับภาพไว้ได้

    axzon47 เป็นคนที่ชอบสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว ชอบจำเหตุการณ์เป็นภาพๆ แล้วก็ชอบมองดูอะไรที่เล็กๆน้อยๆ เวลามองดูวิวทิวทัศน์ เมื่อดูแบบโดยรวมแล้วมักมองดูรายละเอียดของวิวนั้น หรือบางทีถ่ายรูปมาก็ชอบขยายภาพให้ใหญ่โตแล้วมองหารายละเอียดที่เล็กๆ ประมาณว่าเป็นนักสืบแกะรอย

    แต่ปัญหาของคุณ axzon47 อยู่ตรงที่ว่า ไม่ยอมตัดสินใจที่จะนำความสามารถของตนเองออกมาใช้ พี่นักเขียนฝันเห็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับเด็กเล็ก เช่น การผลิตสื่อ หนังสือเด็ก หรือสิ่งที่ทำให้เด็กๆได้ลับสมอง หรือพัฒนาความคิด เป็นงานที่คล้ายหนังสือเด็ก แต่ก็คล้ายเกมส์มากกว่าจะเป็นหนังสือจริงๆ คุณ axzon47 อาจเห็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตนเองสามารถผลิตได้ด้วยตนเองในท้องตลาดบ่อยๆ และมักคิดว่าตนเองสามารถทำได้ดีกว่านั้น แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำจริงๆเสียที
    ตอนนี้ก็สับสนกับความคิดของตัวเองว่า จะทำงานอะไรดี มีความลังเลสงสัยว่าตัวเองนั้นถนัด หรือมีความสามารถพอที่จะทำงานอะไรได้บ้าง และตอนนี้อยู่ในช่วงหางานใหม่ครับ และเมื่อสองคืนก่อนลองตั้งคำถามก่อนฝันว่าเราถนัดอะไร แต่ในฝันนั้น ฝันว่า ตนเองจะเป็นนักแสดง หรือ ให้แสดงความสามารถออกมา และมีอีกหลายฝันที่บอกว่าให้ทำลงมือทำเลย ไม่ต้องคิดมาก เช่น ฝันว่ากำลังเล่นยิมนาสติก ระบำใต้น้ำ เล่น ฟุตบอล เล่นกีฬาต่างๆซึ่งในชีวิตจริงไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่น

    ส่วนกิจกรรมที่เกี่ยวกับเด็กๆนั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับคุณแม่ด้วยครับ คือแม่เคยเป็นครูเด็กอนุบาล สอนชั้นเด็กเล็กมาก่อน ตอนนี้เกษียณแล้วครับและตอนเด็กๆ axzon47 เห็นแม่ชอบทำ สื่อการสอนให้เด็กๆหลายอย่าง และผมเองก็ชอบเอามาเล่นด้วย ชอบอ่านหนังนิทานที่เป็น pop up ชอบของเล่นของเด็ก หลายครั้งมักจะแกะของเล่นว่าข้างใน มีมอเตอร์อยู่ตรงไหน มีเฟืองต่อกันอย่างไร พอแกะแล้วก้ต่อกลับเข้าตามเดิม ถ้าอันไหนเสียแล้วจะแกะเอามอเตอร์ออกมาใช้ ต่อเล่นกับถ่านไฟฉาย บางทีแอบเอานาฬิกา ไขลานมาแกะดู หรือถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียแล้วก็จะเอามาแกะเล่นว่าข้างในมีอะไรบ้าง ส่วนที่เกี่ยวกับเด้กๆอีกอย่างคือ ในความฝัน มักฝันบ่อยๆว่า เป็นผู้หญิงมีลูกๆ หรือบางที มีเด็กๆมาเล่นด้วย บางก็อุ้มเด้กอ่อนไว้ แล้วจูงเด็กๆไว้อีกข้าง บางทีฝันว่า มีสัตว์เล็กๆมาเล่นด้วย เช่นลูกเสือ เสือ หมา แมว แมลงบินมาเกาะตามตัว และมีอีกความฝันหนึ่ง ฝันว่า ตัวเองมีลูกเป็นก้อนพลังงานสีเขียวอ่อน แล้วเราส่งพลังงานนั้นมาที่โลกนี้ แล้วเราตามมาหาภายหลัง ฉากในฝันเราอยู่ในอวกาศมีโลกลอยอยู่เบื้องหน้าครับ และอีกฝันหนึ่งที่เกี่ยวกับเด็กคือ ตนเองถูกส่งให้ไปช่วยเด็กๆในเมืองร้าง เด็กๆจะแอบซ่อนตามบ้านร้างหรือกองขยะ เด็กๆจะกล้วคนแปลกหน้า เราจะต้องหาวิธีให้เด็กๆเข้าใจเรา (ฝันเหล่าผมฝันมาก่อนที่จะได้อ่านหนังสือของท่านอนาลัยครับ)

    คุณ axzon47 มีความพร้อมที่จะผลิตหลายสิ่งหลายอย่างได้อย่างดีเลิศ แต่กลับไม่มั่นใจว่า ตนเองจะยอมสละเวลาส่วนตนไปทำสิ่งเหล่านี้ให้ผู้อื่นดีหรือไม่? เด็กๆในความฝันอาจเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่แสดงออกถึงผู้ที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ หรือขาดความรู้ความสามารถที่คุณ axzon47 มีอย่างเหลือเฟือ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หรืออาจเป็นหน้าที่ที่เกี่ยวกับเด็กๆจริงๆ อันนี้คุณ axzon47 คงต้องเฉลยให้พี่ทราบ แต่ประเด็นสำคัญคือ คุณ axzon47 ไม่ตัดสินใจและลังเลที่จะสละเวลาส่วนตนไปทำหน้าที่เพื่อพวกเขา

    ตามความฝัน คุณ axzon47 มีหน้าที่ซึ่งคล้ายคลึงกับพี่่่นักเขียนมาก เรียกได้ว่า ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คล้ายคลึงกัน ปรากฏเป็นสัญญลักษณ์ในความฝันคือ การที่มีบ้านอยู่บนถนนสายเดียวกัน บ้านตั้งอยู่ซีกเดียวกันของถนน และหันหน้าบ้านไปทิศเดียวกัน คุณ axzon47 มีพลังสนับสนุนมากมาย ทั้งความสามารถ ปัญญา และน่าจะมีพลังทรัพย์ที่ทำให้สามารถลงมือทำหรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ตามความฝัน แต่กลับคิดไม่ตกว่า การตัดสินใจทำสิ่งใดๆเพื่อผู้อื่นจะทำให้ตนเองต้องสูญเสียเวลาส่วนตนไปโดยไม่คุ้มค่าหรือเปล่า?
    เด็กๆในฝันอาจจะเป็นสัณลักษณ์ของเพื่อนๆ หรือคนที่ต้องการคำปรึกษาครับ ตอนสมัยเรียนเพื่อนมักจะมาขอความคิดเห็นเรื่องงานๆต่างที่อาจารย์ให้มา และตอนเรียนโท มีพี่คนหนึ่งชอบมาปรึกษาปัญหาชีวิต เราก็รับฟังแต่ไม่กล้าออกความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมา เราก้พูดแบบกลางเพราะเกรงใจเขาที่อายุมากกว่า ผมเองโดยส่วนตัวก้ชอบแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนๆที่สนิท ถ้าเป็นบุคคลที่รู้จักกันทั่วไปผมจะไม่พูดมาก บางคนถึงกับคิดว่าเราหยิ่งไม่ค่อยพูด แต่มันเพราะเราเกรงใจเขา และaxzon47 เองมีโลกส่วนตัวสูง เลยไม่ได้แสดงออกถึงความคิดความสามารถออกมาเต็มที่ ประกอบกับ เราสนใจความรู้สึกนึกคิดของบุคคลรอบข้างที่มีตนเองค่อนข่างมาก

    ต่อคำถามที่ว่า ฉันมาทำอะไรในชาตินี้ ตอบได้ว่า มาทำหน้าที่ที่ช่วยเหลือผู้ที่ช่วยตนเองไม่ได้ หรือขาดความรู้และทักษะที่คุณ axzon47 มีอย่างเหลือเฟือ แม้คำตอบนี้อาจจะฟังดู plain มากๆเพราะมันน่าจะเป็นความเป็นจริงสำหรบคนทุกคน แต่มันก็ไม่ได้เป็นความเป็นไปได้สำหรับทุกคน เพราะคนจำนวนไม่น้อย นอกจากไม่มีความคิดที่จะช่วยหลือผู้อื่นแล้ว บางคนมีความคิด แต่ขาดทั้งความสามารถและกำลังทรัพย์

    แต่สำหรับคุณ axzon47 แล้ว กล่าวได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงสุด เป็นปรารถนาของจิตวิญญาณที่คุณเลือกมาเกิด แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็เกิดจากการที่ไม่ยอมตัดสินใจ หรือตัดสินใจไม่ได้ ด้วยความข้องใจว่า หากยื่นมือเข้าไปแล้วจะถอนตัวได้หรือไม่ หรือจะทำให้สูญเสียเวลาและความสุขส่วนตัวไปหรือเปล่า? ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นไปไม่ได้ด้วยปัจจัยใดๆเลย

    สัญญลักษณ์ในความฝันปรากฏเป็น Pharmacy, Hair Expert, Photo Studio ซึ่งถ้าหากชีวิตจริงคุณ axzon47 ไม่ได้ทำธุรกิจหลายด้าน หรือเป็นเจ้าของกิจการหลายอย่าง ก็ต้องตีความหมายว่า เป็นบุคคลที่มีความสามารถหลายด้าน และไม่ใช่เพียงแต่สามารถปานกลาง แต่เป็น expert ด้วย

    axzon47 เอง สนใจด้านวิทยาศาสตร์ ตอนเด็กๆอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ บางครั้งก้อยากเป็นครู เห็นพ่อแม่เป็น ครูบวกกับ มีแค้นฝังหุ่นที่ครูบางคนสอนไม่ค่อยรู้เรื่อง ทั่งๆที่พอเวลาผ่านไปเรารู้เรื่องนั้นดี และคิดถ้าครูอธิบายในแบบที่เราเข้าใจได้ เราก็รู้เรื่องไปนานแล้ว และเรื่องนี้ตัวเองมักจะมานั่งคิด ว่า ถ้าตนเองเป็นคนสอนเราจะอธิบายอย่างไรให้เข้าได้ พอโตขึ้นมาก็ชอบด้านศิลป เพลง แฟชั่น ชอบของสวยงาม ที่คิดว่ามันเจริญหู เจริญตา
    เลยทำให้ตอนนี้ สับสนกับชีวิตว่าฉันถนัดอะไรกันแน่ ขนาดในฝันยังสับสนเลยครับ บางมีฝัน เป็นนักร้อง โอเปร่า เล่นดนตรีในฝัน บางที เป็นนักวิทยาศาตร์ทำโด่นทำนี่ บางทีเป็นนักผจนภัย บางทีเป็นทหาร บางทีเป็นนักแสดง ดีเจ และอีกมากมายในฝัน
    สารของพี่นักเขียนสื่อถึงสารเบื้องลึกที่ axzon47 เคยได้รับจากความฝันต่างๆครับ(เพิ่งมานั่งนึกคิดถึงฝันเก่าๆ) และจากคนทรง แต่เราไม่ได้ใส่ใจมัน มาวันนี้พี่นักเขียนส่งสารมาย้ำเตือนอีกครั้งหนึ่งครับ คนทรงเคยบอกประมาณว่า ให้ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ชิวิตนี้เหมือนเสาธง พุ่งตรงขึ้นไป ไม่เลี้ยวต่ำลง และเขายังบอกว่าไปคิดได้ดีว่าจะทำอะไร แล้วทำเลยไม่ต้องลังเล ไม่ต้องสงสัย (แต่ตอนนี้ยังลังเลอยู่เลยครับ)

    สรุปได้ว่า คุณ axzon47 กำลังเผชิญกับหน้าที่ที่ตนเองเลือกมาเกิดโดยตรง มันอยู่แค่ปลายจมูก และคุณก็มีความพร้อมและความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะลงมือทำในวันนี้ แต่กลับไม่ตัดสินใจที่จะทำเสียที

    ขอคำเฉลยบางส่วนเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่ปรากฏในความฝันว่า:

    2. สีโปรดของคุณ axzon47 คือ สีเขียวมะกอกอ่อนๆ ใช่ไหม

    ชอบสีเขียวอ่อน สดๆ ที่เหมือนใบไม้เพิ่งงอก (ไอติมรสมะนาว) และ สีชมพูอ่อน ม่วงอ่อน และ น้ำตาลอ่อน ครับ

    3. คุณ axzon47 ชอบรถแพงๆ (หรือ Vintage Car) หรือชอบชีวิตที่มีความหรูหรามั่งคั่ง หรือค่อนข้างยึดติดกับความเป็นผู้ดีเก่า ใช่หรือไม่?

    ในความฝันเห็นคุณ axzon47 ขับรถสีเขียวมะกอกอ่อนๆ และเห็นว่าเป็น vintage car หากไม่ได้มีรถหน้าตาสีสันอย่างในความฝันจริงๆ ก็เป็นสัญญลักษณ์ของความพร้อมทางกายภาพ ทั้งความสามารถทางกายและกำลังทรัพย์

    ชอบรถ สี ไอติมรสมะนาวครับ แค่ชอบครับยังไม่มี ชอบสะดวกสบาย แต่เรื่อง vintage นี่ชอบแฟชั่น แบบนี้ครับ อยากมีบ้านที่เป็นปราสาทแบบในนิยายฝรั่ง ชอบศิลปะ ของ อิตาลี ฝรั่งเศส ที่จริงชอบบรรยากาศแบบ เมดิเตอร์เรเนียน (ยังไม่เคยเห็นของจริงครับ แต่ชอบไปแล้ว) ส่วนความเป็นผู้ดีเก่า สงสัยมาจากมิติอื่นครับพี่นักเขียน สองวันก่อน ฝันว่า มีครูมาสอนให้นั่งพับเพียบไปทางขวา พวกเราแต่งชุดไทยประยุคกับชุดของชาวยุโรป (ในฝันครูเป็นหม่อมเจ้า ไม่รู้เป็นพี่นักเขียนหรือปล่าว) มิตินี้ไม่มีครับ

    เคยสังเกตเวลาพี่นักเขียนโพส ชื่อบุคคลลงในบอร์ด พี่นักเขียนจะให้สีตัวอักษรของแต่ละคนแตกต่างกันตามบุคลิกหรือปล่าวครับ

    หวังว่าคงจะหายป่วยในเร็ววันนี้ค่ะ จะได้เอา chocolate มาฝากอีกกล่อง
    ด้วยความปรารถนาดี
    พี่นักเขียน [​IMG]
     
  9. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ขอบคุณที่เฉลยข้อสอบค่ะ
    คุณ axzon47มีประสบการณ์และ creativityสูงทำให้ตัดสินใจทำอะไรๆได้ยากนี่เอง ทำให้พี่นักเขียนเข้าใจแล้วว่า ทำไมจึงคิดไม่ตกว่าจะทำอะไรดี

    พี่นักเขียนเองมีบุคลิกภาพคล้ายคลึงกัน ชอบ initiate อะไรต่อมิอะไรอยู่เรื่อยๆ จนเพื่อนสนิทเขาเรียกพี่นักเขียนว่าเป็น a frog on a lily pad คือกระโดดไปทำเรื่องใหม่ๆได้เสมอ ดีที่ว่ามีนิสัยไม่ชอบทำอะไรค้าง เริ่มอะไรก็จะทำจนเสร็จอย่างรวดเร็ว เช่น ถัาพักไหนพอใจจะ paint ก็จะ paint ทีเดียว 3-4 เดือน ผลิตงานออกมาหลายสิบชิ้น พอเสร็จแล้ว master การ paint ได้แล้วก็หันไปทำอย่างอื่นที่ยังไม่เคยทำอีก เช่น หันไปแต่เพลง ก็จะทำรวดเดียว 2-3 เดือน จนเสร็จทั้ง album ก็จะหันไปทำอย่างอื่นต่อ เป็นต้น

    อีกอย่างที่คุณ axzon47 คล้ายพี่นักเขียนมากๆคือ ความฝันเกี่ยวกับเด็ก
    พี่นักเขียนฝันว่าเก็บเด็กๆมาเลี้ยงเป็นลูกแทบจะทุกคืนค่ะ ฝันมาตั้งแต่อายุสัก 13 เห็นจะได้ เมื่อเริ่มฝันแล้วก็ฝันต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุจะย่างเข้า 50 มีคนทักว่า "Have you realized what your CALL is?"
    พอเขาทักก็ฉุกคิดถึงความฝันเกี่ยวกับเด็กๆขึ้นมาทันที และเข้าใจความหมายได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยคือ
    เข้าใจว่าตนเองมีหน้าที่ช่วยเหลือคนที่ช่วยตนเองไม่ได้
    เพราะเด็กๆในความฝันของพี่นักเขียนเป็นเด็กเล็กๆที่ไม่ค่อยสมประกอบ บางคนผิดสัดส่วน บางคนพิกลพิการ แต่เมื่อพี่นักเขียนรับเอามาเป็นลูก
    อาบน้ำชำระร่างกายให้เขา กล่อมให้เขาหลับ และนำเขาไปส่ง ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเสมอ

    หลังๆความฝันจะเปลี่ยนไปคือ เมื่อชำระร่างกายให้เขาแล้ว มักจะอบรมเขาด้วย
    และเขาก็จะกลายเป็นเด็กที่หายพิการ และมีสุขภาพสมบูรณ์

    พี่นักเขียนขอแนะนำให้คุณ axzon47 ตั้งคำถามและจดจ่อกับคำตอบโดยไม่ต้องคาดหวังในคำตอบ เสมือนว่า
    เราเพียงนำคำถามนี้ไปส่งให้ผู้รู้ตอบให้
    จดจ่อกับคำถามเพียงเพื่อจดจำคำถามเท่านั้น
    นั่งสมาธิสัก 10-15 นาทีแล้วจดจ่อกับคำถามใหม่อีกครั้งจึงค่อยล้มต้วลงนอนโดยอย่าให้สมาธิขาด
    คุณ axzon47 น่าจะได้รับคำตอบที่แท้จริงพร้อมรายละเอียดมากมายได้ด้วยตนเอง

    ที่พี่นักเขียนว่าเป็นผู้ดีเก่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นเจ้าหรอกค่ะ
    นความฝันเห็นขับรถ vintage car เหมือนพวกชาวอังกฤษที่ชอบแต่งตัวแบบโบราณ แล้วขับรถโบราณเข้ากับเสื้อผ้า พี่นักเขียนหมายถึงรสนิยม ไม่ได้หมายถึงเชื้อสายค่ะ

    สีเขียวมะกอกที่ว่า เป็นสีเขียวอ่อนค่ะ
    เวลาพี่นักเขียน เขียนชื่อพวกเราด้วยสี ก็ใช้สีไปตามความรู้สึกค่ะ
    ไม่เคยบอกใครว่ารู้สึกว่าอะไร วันนี้ก็เพิ่งทราบว่า คุณ zip ชอบสีน้ำเงิน
    ซึ่งพี่นักเขียนก็ใช้สีน้ำเงินแทนชื่อคุณ zip มาโดยตลอด
    คนอื่นๆยังไม่มีใครมาเฉลย นอกจากคุณจินต์

    เรียนตามตรงว่า ฝันให้คุณ axzon47 โดยที่ไม่ได้ทราบบุคลิกภาพ
    และรู้สึกว่ารู้เห็นหรือเข้าใจไม่ได้ทะลุปรุโปร่งเหมือนกับการที่หลายๆคนขอให้ฝันเพื่อ
    บอกเขาว่า บุคลิกภาพที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร

    เมื่อเขาขอเช่นนั้น จะรู้สึกเหมือนว่า ได้รับอนุญาตให้ เป็นเขา
    ทำให้รู้เห็นได้เหมือนสวมจิตวิญญาณของเขา
    ส่วนกรณีของคุณ axzon47 รู้เห็นเหมือน ตามไปดูอยู่ภายนอกมากกว่าค่ะ
    หวังว่าคงจะหายดีในเร็ววันนี้ จะได้เริ่มสานความฝันให้เป็นจริง
    จะทำสิ่งใดก็ขอให้สมความปรารถนา ทำได้มากมายตามความสามารถค่ะ ไม่จำเป็นต้องทำเพียงอย่างเดียว
    ด้วยความปรารถนาดี
    พี่นักเขียน [​IMG]
     
  10. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ยินดีอย่างยิ่งค่ะคุณ axzon ที่จะนำไป post
    ใช้ชื่อ axzon47 ก็เป็นที่รู้จักดีของห้องวิทย์แล้วค่ะ
    ไม่ต้องใช้ชื่อจริงหรอกค่ะ
    พี่นักเขียนมีสาระเพิ่มเติมที่อยากจะ share พวกเราด้วยค่ะว่า ตอนที่ฝันให้คุณ axzon นั้นเผชิญกับบุคลิกภาพในความฝันที่พยายามมาบอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ axzon กับพี่นักเขียน เช่น บอกชื่อจริง และบุคลิกภาพที่แท้จริง แทนที่พี่นักเขียนจะได้รู้เห็นเป็นสัญญลักษณ์เหมือนที่เห็นในความฝันที่ฝันให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ

    แต่ในความฝันนี้พี่นักเขียนตระหนักว่า คุณ axzon ไม่ได้ขอให้ดูบุคลิกภาพ และต้องการเพียงคำตอบสำหรับคำถามจำเพาะเท่านั้น
    พี่นักเขียนเลยปฏิเสธเขา โดยบอกเขาว่า อย่าบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เพราะคุณ axzon ไม่ได้ขอให้พี่นักเขียนดูบุคลิกภาพ การล่วงรู้ในสิ่งที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้อนุญาต
    จะเป็นการล่วงละเมิดการเป็นบุคคลตัวตนของจิตวิญญาณ

    พี่นักเขียนรู้สึกผิดมากๆเลย และพยายามหนีบุคลิกภาพนั้น
    เขาก็ตามมาตื๊อ เพื่อจะบอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ axzon ให้
    พี่นักเขียนก็หนีเขา

    จนในที่สุด ฝันว่าไปนัดพบคุณ axzon ที่ร้านอาหาร และบอกกับคุณ axzon ว่า
    อยากให้พี่นักเขียนตอบเพียงคำถามเดียว พี่นักเขียนก็จะตอบเพียงคำถามเดียว
    จะไม่ล่วงละเมิดความเป็นบุคคลตัวตนนะ คุณ axzon ก็ตกลง

    ในความฝันเห็นคุณ axzon เป็นคนผิวคล้ำค่ะ dark tan และมีเพื่อนแยะ รู้สึกว่าไม่ชอบไปไหนคนเดียว

    พี่นักเขียนจะขอนำเอาข้อมูลส่วนนี้ไปอธิบายในห้องวิทย์ค่ะว่ามันหมายความถึงอะไร
    ทำไม่พี่นักเขียนจึงเผชิญกับบุคลิกภาพดังกล่าวนี้

    บอกคุณ axzon เป็นส่วนตัวก่อนได้เลยว่า มันหมายถึง การทำตามกฏเกณฑ์ของจักรวาล ซึ่งพี่นักเขียนเชื่อว่า
    จิตวิญญาณทุกดวงต้องเคารพการเป็นบุคคลตัวตนของกันและกัน
    ไม่สามารถล่วงละเมิด หรือล่วงรู้ในสิ่งที่เจ้าของข้อมูลไม่อนุญาต

    พี่นักเขียนเชื่อว่า เราจะล่วงรู้ก็ได้หากต้องการ
    แต่หากทำเช่นนั้นบ่อยๆโดยไม่ไดัรับอนุญาต ในที่สุดเราจะกลายเป็นบุคคลที่
    ปราศจากคุณธรรม คือรู้ในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ปรารถนาให้รู้ และทำให้ประสาทสัมผัส
    ภายในใช้การต่อไปไม่ได้ มันเป็นกลไกของจิตวิญญาณที่เรียกได้ว่า foolproof
    การขาดคุณธรรมจะทำให้เกิดการระงับการใช้งานประสาทสัมผัสภายในโดยอัตโนมัติ
    เพราะภาวะจิต และการจดจ่อของสติสัมปชัญญะเปลี่ยนแปลงไปจากภาวะธรรมชาติที่
    เอื้ออำนวยให้มันใช้การได้

    ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่จิตวิญญาณปราศจากความปรารถนาที่จะเหนือชั้น ตระหนักในความเสมอเหมือน และเป็นหนึ่งเดียว เมื่อจิตวิญญาณเห็นการแตกแขนงหรือแบ่งแยกออกไปเป็นบุคคลตัวตน
    มันก็ให้ความเคารพในการเป็นบุคคลตัวตนนั้นๆ ตลอดจน privacy และความเป็นเอกลักษณ์นั้น ๆ แต่สติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอก หรือ ego ของคนเรา มักแสวงหาการแบ่งแยกตัวตน เรา-เขา
    เพื่อความเหนือชั้น เหนือมนุษย์

    ขออธิบายให้คุณ axzon เจ้าของความฝันรับทราบก่อนใครๆนะคะ
    เวลาไป post พี่นักเขียนจะอธิบายตามนี้และจะเสริมรายละเอียดอีกบ้างนิดหน่อยค่ะ
     
  11. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    เมื่อคืนตอนใกล้เช้า ผมฝันถึง ฉากในสนามบิน พ่อผมจะนั่งอยู่ที่นั่งตรงข้าม เยื้องออกไปไกลเหมือนกัน ส่วนผมก็จะนั่งอยู่กับเพื่อนอีก 2 คน ในฝันนั้นผมรู้สึกว่า เราห่างกันเหลือเกิน อาจเป็นเพราะว่าผมอยู่กันคนละที่กับท่านครับ เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร
    ในฝันเราเห็นกัน แต่ก็ไม่ได้ทักทายกันครับ จึงทำให้รู้สึกว่าห่างกันเข้าไปอีก
    ผมก็เลยคิดว่า เพราะความเชื่อส่วนตัวของเราเองรึเปล่าทำให้เราห่างเหินกัน หากเราทำลายกำแพงตรงนี้ลงไปได้ เราก็อาจจะใกล้กันได้มากขึ้น ในฝันผมก็เลยเดินเข้าไปสวมกอดท่านครับ ทำให้รู้สึกดีมากๆครับ

    พอตอนค่ำเปิดรายการตีสิบดู มีนักร้องท่านนึงตามหาพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากัน เพราะท่านจากไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ทางรายการก็ช่วยตามหาให้ และเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันก็ร้องไห้และลูกก็กราบเท้าพ่อที่ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่เกิด ลูกได้บอกกับพ่อว่า ตอนนี้ลูกโตแล้ว และเข้าใจว่าทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตนเอง

    ก็เลยคิดว่าช่างเหมือนกับฝันของผมเมื่อคืนเลย

    เลยเข้าใจที่พี่นักเขียนบอกไว้จริงๆครับว่า อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เดินไปด้วยกันจริงๆครับ
     
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    1. จุดประสานมิติไม่ใช่จุดหรือตำแหน่งใดๆทางกายภาพ จุดประสานมิติเป็นจุดตัด ที่ทำให้เราสามารถรู้เห็นโลกหรือมิติที่ซ้อนกันอยู่สองโลกหรือสองมิติได้พร้อมกัน ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ใน อมตะแห่งจิตวิญญาณ(ภาคต้น) ว่า จุดประสานมิติเต็มไปด้วยพลังงานและความเป็นไปได้อันมหาศาล เป็นจุดที่โลกแห่งความเป็นจริงสองโลกหรือมากกว่านั้นมาบรรจบกัน

    การรวมกันของอารมณ์ไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะเปิดจุดประสานมิติ เพราะจุดประสานมิติมีอยู่แล้วตามธรรมชาติโดยไม่ต้องมีการเปิดหรือปิด

    เมื่ออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเรามีความเข้มจำเพาะระดับหนึ่งๆ มันจะดึงดูดพลังงานจากจุดประสานมิติจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นการดึงดูดพลังงานจากจุดประสานมิติรอง ซึ่งมีอยู่มากมายเป็นอนันต์ในสภาพแวดล้อมที่เรามองเห็นเป็นความว่างเปล่า จุดประสานมิติจะทำให้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราขยายตัว คือเพิ่มความเข้มข้น ความหนาแน่นและความรุนแรง จนในที่สุดแปลงสภาวะอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเหล่านั้นเป็นวัตถุธาตุ

    การแปลงสภาวะของพลังงานเป็นสสาร หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าการแปลงสภาวะของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเป็นวัตถุธาตุ ประสบการณ์ชีวิตและสภาพแวดล้อมตลอดจนบุคคลตัวตนและสุขภาพร่างกายของเราทั้งหลาย เกิดจากการจดจ่อที่ก่อให้เกิดความเข้มจำเพาะที่กล่าวมาข้างต้น

    การรับและถ่ายทอดข้อมูลความรู้จากต้นกำเนิดของจักรวาล หรือจากจิตวิญญาณรวมมาสู่สติสัมปชัญญะของบุคลิกภาพตัวตน กับการก่อเกิดวัตถุธาตุเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงเฉพาะในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพที่เรารู้จักเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า การรับและถ่ายทอดข้อมูลความรู้จากต้นกำเนิดของจักรวาล มีข้อมูลมากมายหลายชนิดเกินกว่าที่เราจะรู้เห็น หรือ รับถ่ายทอดได้

    เราเผชิญกับธรรมชาติความเป็นจริงเหล่านี้ได้บ่อยๆในความฝัน ที่เราตระหนักว่า เราฝันและได้เผชิญกับข้อมูลบางส่วนที่ไม่อาจแปลงเป็นคำพูดได้ เพราะข้อมูลเหล่านั้นปราศจากความสัมพันธ์กับภาวะทางกายภาพโดยสิ้นเชิง จิตใต้สำนึกของเราจะปลิดข้อมูลส่วนนั้นทิ้งไป และบ่อยครั้งทำให้เราจดจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า เราฝัน

    ในภาวะอันเป็นกายภาพ บุคลิกภาพของจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังทางกายภาพอย่างเราท่านทั้งหลาย จะรับถ่ายทอดแต่เพียงเฉพาะข้อมูลความรู้ที่สัมพันธ์กับภาวะทางกายภาพของเราเท่านั้น และข้อมูลอื่นๆจะถูกขวางกั้นไม่ให้มาสู่การรู้เห็นของเรา การขวางกั้นเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น เพราะข้อมูลบางส่วนไม่เกี่ยวข้องกับโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ ข้อมูลบางส่วนเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่ตัวตนที่ปราศจากร่างกาย(เช่น ท่านอาจารย์ อนาลัย) จะสามารถรับรู้ได้ เพราะท่านรับเอาข้อมูลเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบโลกแห่งความเป็นจริงของท่าน เพราะมันมีความหมายต่อท่านและตัวตนอื่นๆที่อยู่ในมิติของบุคลิกภาพที่ปราศจากร่างกายตัวตนทั้งหลาย เราทั้งหลายไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับสาระเหล่านี้ แต่เราจะต้องเข้าใจว่า สติสัมปชัญญะของเราทั้งหลายตัดทอนข้อมูลบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของเราออกไป

    การจดจ่อด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการถ่ายทอดพลังงานจากจุดประสานมิติมาสู่ความคิดนั้นๆ และแปลงสภาวะจากภาวะอันเป็นจินตภาพคือความคิด เป็น วัตถุธาตุ จะเรียกการจดจ่อนั้นๆว่าเป็นการรวมของจิตเป็นแนวเดียวนั้นคงไม่ถูกต้องนัก เพราะมันปราศจากทิศทางทางกายภาพ แต่หากจะกล่าวว่าจดจ่อในสิ่งเดียวกัน มีเจตนาร่วมกัน มีความมุ่งมั่นในสิ่งเดียวกันจะถูกต้องกว่าค่ะ

    ไม่ว่าการจดจ่อนั้นๆจะเป็นไปในแง่บวกหรือลบ มันก็ก่อให้เกิดการแปลงสภาวะได้เสมอเหมือนกัน ท่านอาจารย์อนาลัยจึงได้กล่าวย้ำเสมอๆว่า ประสบการณ์ชีวิตในแง่ลบทั้งหลายที่เกิดขึ้น ตลอดจนสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ ล้วนเกิดจากการจดจ่อในแง่ลบ และมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราทั้งหลายด้วยพลังอำนาจแห่งความเชื่อของเราเอง

    ท่านอาจารย์อนาลัยมาเปิดเผยให้เราทั้งหลายตระหนักได้ว่า เราทั้งหลายไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของพลังอำนาจประหลาดที่เราเรียกว่ากรรม หรือพรหมลิขิต ที่ทำให้ชีวิตหรือสุขภาพร่างกายของเราเป็นไปในแง่ลบ แต่เราสร้างสรรค์มันขึ้นมาด้วยพลังอำนาจของความเชื่อในแง่ลบของตนเอง และดึงดูดประสบการณ์เหล่านั้นมาสู่ตัวตนของเราด้วยการจดจ่อกับมัน ท่านจึงสอนให้เราทั้งหลาย ใช้พลังอำนาจเดียวกันนั้น สร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตและสุขภาพร่างกายที่พึงปรารถนา ด้วยวิธีการเดียวกัน ด้วยการฝึกฝนให้ตนเองมีนิสัยในการคิดในแง่บวก จดจ่อกับประสบการณ์ในแง่บวก และดึงดูดประสบการณ์ที่พึงปรารถนามาสู่ชีวิตด้วยสติพร้อม


    2.ภาพของวงกลมซ้อนกัน พอจะประมาณได้ค่ะว่า เป็นสัญญลักษณ์ของการซ้อนกันของมิติ และเรียกได้ว่าเป็นจุดประสานมิติ

    จุดประสานมิติสมบูรณ์ มีอยู่ทั้งหมดสี่จุดด้วยกัน ซึ่งตัดผ่านโลกแห่งความเป็นจริงทุกโลก
    จุดประสานมิติสมบูรณ์ ทำหน้าที่เป็นช่องทางที่พลังงานหลั่งไหลไปสู่ระบบโลกแห่งความเป็นจริงทุกโลก และเป็นช่องทางล่องหนที่เชื่อมต่อโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่งไปสู่อีกโลกหนึ่ง
    จุดประสานมิติสมบูรณ์ ทำหน้าที่เป็นจุดแปลงหรือสับเปลี่ยนสัญญาณ ซึ่งเอื้ออำนวยให้พลังงานที่สร้างสรรค์หลั่งไหลไปสู่โลกหรือมิติหนึ่งๆได้อย่างต่อเนื่อง


    จุดประสานมิติรองมีอยู่ทั่วไปในพื้นที่ที่เราแลเห็นเป็นที่ว่าง

    จุดประสานมิติไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติหรือภาวะทางกายภาพ

    ในทางตรงกันข้ามจุดประสานมิติเป็นช่องทางที่พลังงานจากมิติอื่นๆในจักรวาล หลั่งไหล หมุนเวียน ถ่ายทอดถึงกัน และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

    หากกล่าวตามเส้นทางแห่งกาลเวลา กล่าวได้ว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อ ผนวกกับการจดจ่อ ก่อเกิดประสบการณ์ทั้งหลายขึ้นอย่างฉับพลัน ในโลกอื่น มิติอื่น เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น แต่มันต้องใช้เวลา และการจดจ่อต่อไป เพื่อที่จะก่อให้เกิดความหนาแน่น เข้มข้นของพลังงาน ซึ่งมากพอที่มันจะปรากฏขึ้นได้ในโลกทางกายภาพที่เรารู้จัก หากอุปมาอุปมัยว่า คุณเซลล์นีกคิดถึงผลส้ม อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อจะสร้างสรรค์ผลส้มในจินตนาการของคุณเซลล์ขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่ง มิติหนึ่ง เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่ง อย่างฉับพลัน

    หากคุณเซลล์จดจ่อกับผลส้มในจินตนาการนั้นๆต่อไป ความคิดของคุณเซลล์จะถ่ายทอดพลังงานผ่านจุดประสานมิติ จากมิตินั้นๆที่ผลส้มเกิดขึ้น และเหนี่ยวนำให้ผลส้มนั้นๆมาปรากฏในมิติของโลกทางกายภาพได้ในที่สุด ดังเช่นที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า ความคิดทุกความคิดเมื่อส่งออกไปแล้วเรียกกลับคืนไม่ได้ และมันก่อเกิดเป็นประสบการณ์ เป็นวัตถุธาตุ ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่น มิติอื่น เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น อย่างฉับพลันเสมอ

    อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของเรา ซับซ้อนมากกว่าการสร้างสรรค์วัตถุธาตุเช่นผลส้ม แต่เราสร้างสรรค์สุขภาพร่างกาย ประสบการณ์ชีวิต สภาพแวดล้อม และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกแห่งความเป็นจริงของตนเอง รวมทั้งภัยธรรมชาติ และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งหมด

    การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เกิดขึ้นจาการถ่ายทอดของพลังงานผ่านจุดประสานมิติมาสู่โลกทางกายภาพ การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติไม่อาจเปลี่ยนแปลงจุดประสานมิติได้ ในทางตรงกันข้าม จุดประสานมิติทำให้ภาวะทางธรรมชาติ เช่น ภัยพิบัต สภาพลมฟ้าอากาศ และภัยธรรมชาติทั้งหลาย เกิดขึ้นหรือแปลงสภาวะจาก การเป็นเพียงจินตภาพหรือความคิดที่ก่อเกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นอย่างฉับพลันในมิติอื่น ??โลกอื่น หรือเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น และในที่สุดเพิ่มความเข้มข้นหนาแน่น อันเกิดจากการจดจ่อในแง่ลบของกลุ่มชนหรือคนจำนวนมาก จนถูกเหนี่ยวนำหรือดึงดูดให้แปลงสภาวะมาสู่ความเป็นจริงในโลกทางกายภาพ

    3. พี่นักเขียนไม่มีความสามารถถึงกับจะถอดรหัสคำว่า AURORA IONIC ได้หรอกค่ะคุณเซลล์ ทั้งหมดนี้เพียงแต่รวบรวมมาจากบทความที่เคยอ่านพบ และจากประสบการณ์เล็กๆน้อยๆส่วนตัว หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

    Aurora คือแสงสีที่ปรากฏบนท้องฟ้าใน polar zone หรือขั้วโลกเหนือ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชั้นอากาศที่เรียกว่า ionosphere ซึ่งเป็นชั้นอากาศที่สูงที่สุดที่ปกคลุมโลก เป็นชั้นอากาศที่มีถูก ionized หรือแปลงสภาวะอะตอมหรือโมเลกุลให้กลายเป็น ion ด้วยการนำเอาอนุภาพค เช่น electron ออกหรือเติมเข้าไป ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากรังสีของแสงอาทิตย์
    [​IMG]
    ionosphere เป็นชั้นบรรยากาศซึ่งประจุแม่เหล็กไฟฟ้าก่อตัว และสร้างชั้นของบรรยากาศที่เรียกว่า magnetosphere ขึ้นเพื่อห่อหุ้มดาวเคราะห์หรือวัตถุธาตุทั้งหลายในจักรวาลไว้ magnetosphere เป็นชั้นของบรรยากาศชั้นนอกสุดที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

    ionosphere เป็นชั้นบรรยากาศที่ทำให้คลื่นวิทยุ คลื่นประจุแม่เหล็กไฟฟ้า X-rays สามารถเดินทางไปสู่จุดต่างๆของโลกได้

    Aurora ที่เกิดขึ้นทางขั้วโลกเหนือ เรียกว่า Aurora Borealis
    Borealis เป็นชื่อของ Roman goddess of dawn เทวดาแห่งรุ่งอรุณ และเป็นชื่อของเทพ Greek ซึ่งหมายถึงลมเหนือ


    Aurora มักปรากฏเป็นแสงสีเขียว และบางครั้งก็มีสีแดงเจือ ดูราวกับว่าพระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า
    พวกเรามักจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ Aurora ที่ปรากฏทางขั้วโลกเหนือ และเรียกมันว่า แสงเหนือ หรือ northern polar lights
    [​IMG]
    Aurora Borealis มักปรากฏในช่วงเดือน กันยา-ตุลา และ มีนา-เมษา ของทุกปี
    ชนพื้นถิ่น ซึ่งได้แก่พวกชนเผ่าอินเดียนแดงที่อาศัยอยู่ทางทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศ Canada เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า
    เป็น Dance of the Spirits หรือการเต้นรำของจิตวิญญาณ



    Aurora ที่ปรากฏทางขั้วโลกใต้ เรียกว่า Aurora australia/southern polar lights หรือ แสงใต้ Australis เป็นภาษา Latin แปลว่า ทิศใต้
    [​IMG]
    Benjamin Franklin เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับแสงเหนือ และสร้างทฤษฏีเกี่ยวกับการก่อเกิดกระแสไฟฟ้าที่หนาแน่นหรือรุนแรงขึ้น เมื่อเกิดความชื้นหรือหิมะตก

    พี่นักเขียนได้เคยมีโอกาสเดินทางไปทำงานให้พระอาจารย์สอนสมาธิของพี่นักเขียนที่เมือง Edmonton ประเทศ Canada ซึ่งตั้งอยู่ใน zone ที่เกิดแสงเหนือ พี่นักเขียนได้เรียนรู้ว่า ชาว Canada จำนวนมากสนใจในการฝึกสมาธิอย่างแพร่หลาย มีสำนักที่สอนการทำสมาธิแทบจะ ทุกลัทธิ ทุกระบบในโลก ทั่วประเทศ Canada คน Canadian จำนวนมากมีความเชื่อว่า ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศของเขา ซึ่งอยู่ใน zone ที่เกิดแสงเหนือ เป็น zone ที่ได้รับพลังมหาศาลจากจักรวาล ซึ่งเอื้ออำนวยให้การทำสมาธิเป็นไปได้อย่างสูง และก่อเกิดพลังได้เร็วและมากกว่าภาคอื่นๆในโลกหลายเท่าตัว หากชาว Canadian ร่วมกันทำสมาธิได้มากเท่าใด พวกเขาก็จะสามารถสร้างพลังที่จะปกป้องโลก และแก้ไขให้โลกเกิดความสมดุลย์ได้มากขึ้นเท่านั้น

    ความสมดุลย์ที่ว่านี้ เป็นภาวะจิตที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นพลังบวก ที่จะต่อต้านหรือแม้แต่ลบล้างพลังลบที่เกิดจากความคิดในแง่ลบของประชาโลกทั้งโลก แม้สัดส่วนประชากรของ Canada ต่อประชาโลกจะดูเสมือนเป็นจำนวนจิบจ้อย แต่ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ ทำให้เขาเชื่อว่า พวกเขาจะช่วยกันทำสมาธิ และสามารถกอบกู้ให้โลกกลับคืนสมดุลย์ได้ในที่สุด

    พี่นักเขียนเผชิญกับประสบการณ์การทำสมาธิที่ Edmonton และสังเกตเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการทำสมาธิที่อื่นๆในโลกเป็นอันมาก พี่นักเขียนเคยไปทำสมาธิที่ยอดเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย ณ ต้นแม่น้ำคงคา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่ไม่มีนักเดินทางไปถึงมากนัก เคยไป Emei Shan ซึ่งเป็นยอดเขาสูง 12,000ft. สูงเลยเมฆ เป็นที่ตั้งของสำนัก เส้าหลิน เคยไปนั่งสมาธิที่ Grand Canyon, Niagara Falls, Sedona, Alamo, (USA) Stone Henge ทางตอนเหนือของ Salisbury (England), Mirror Lake (New Zealand) Catocomb (Italy) ฯลฯ

    ก็ทดลองไปทุกแห่งที่ได้มีโอกาสไปเยือน และได้ยินมาว่ามีพลังพิเศษค่ะ และพบว่าที่ Edmonton นั้นมีคลื่นบางอย่างที่รุนแรงมาก เข้าภวังค์สมาธิได้อย่างง่ายดายและรู้สึกถึงกระแสที่พุ่งเข้ามาสู่ศูนย์กลางกายได้จากทุกทิศทาง มันรุนแรงมากจนรู้สึกเหมือนไฟดูด หากนึกคิดถึงสิ่งใดในภาวะที่เป็นสมาธิ จะรู้สึกได้ถึงการพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และสัมผัสกับสิ่งที่ออกนอกรัศมีการรู้เห็นของประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ง่าย พูดภาษาง่ายๆที่สุดได้ว่า เห็นผีได้ง่าย สื่อสารกับผีได้ง่าย ในขณะที่เห็นแทบจะเหมือนกับว่าเห็นด้วยตาเนื้อ เช่น เห็นเขาเดินทะลุกำแพง เห็นเขาเดินในระดับใต้ฝ้าเพดาน และแทบจะแยกไม่ออกว่าเขาก้าวล่วงมามิติเรา หรือเราก้าวล่วงไปสู่มิติของเขา จนในที่สุดก็ตระหนักว่า เราอยู่ซ้อนกัน

    พี่นักเขียนเชื่อว่า คุณเซลล์รับถ่ายทอดข้อมูลความรู้บางอย่างมาจากความฝัน เพราะชื่อ AURORA IONIC มีความหมายมาก แม้ว่าตื่นขึ้นมาแล้วอาจจดจำไม่ได้ทั้งหมด หรือยังเข้าใจไม่ได้ แต่ในที่สุดหากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้อื่น หรือค้นพบข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมด้วยตนเองยามตื่น ก็จะสามารถสานต่อและเข้าใจสิ่งที่รับถ่ายทอดมาได้อย่างกระจ่างโดยฉับพลัน และจิตวิญญาณก็จะตระหนักได้ว่า มันคือข้อมูลความรู้ที่เป็น ธรรมชาติความเป็นจริง

    พี่นักเขียนคงจะอยู่ในฐานะผู้ให้ข้อมูลเพิ่มนิดหน่อยเท่านั้น หากจิตวิญญาณของคุณเซลล์ใฝ่รู้และปรารถนาที่จะได้รับข้อมูลส่วนนี้เพิ่มเติมอย่างกระจ่างแจ้งหรือรับรู้รายละเอียด คุณเซลล์ควรจะจดจ่อกับคำนี้ก่อนเข้านอน และตั้งจิตขอรับถ่ายทอดข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวพันกับ Aurora Ionic อาจทำให้สามารถรับข้อมูลใหม่ๆมาฝากพวกเราได้ค่ะ(rose)
     
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    <TABLE class=tborder id=post1216080 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>โอม.<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1216080", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2007
    สถานที่: อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    อายุ: 43
    ข้อความ: 2,630
    Groans: 11
    Groaned at 2 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 317
    ได้รับอนุโมทนา 23,842 ครั้ง ใน 2,753 โพส
    พลังการให้คะแนน: 2133 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1216080 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->http://www.thaisahajayoga.com/bio.htm


    <TABLE height=1628 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD width="96%">
    Who is Shri Mataji
    </TD></TR><TR><TD height=196></TD><TD class=text>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=1365></TD><TD class=text>
    เมื่อครั้งยังเยาว์วัย
    ท่านศรีมาตาจี นิรมาลา เดวี ถือกำเนิด เมื่อ วันที่ 21 มีนาคมปี พุทธศักราช 2466 ในครอบครัวคริสเตียน ในเมืองจินตาวรา ประเทศอินเดีย บิดามารดาของท่าน คือ ท่าน ปราสาท และ คอร์เนเลีย ซัลเว ซึ่งสืบเชื้อสายโดยตรงจาก ราชวงส์ ชาลีวฮาน ท่านเป็นทารกที่งดงาม ถือกำเนิด ขึ้นมาในคืนท้องฟ้าที่สว่างไสว ท่านจึงมีชื่อว่า นิรามาลา ซึ่งหมายถึง ผู้บริสุทธิ์ ต่อมาท่านได้รับขนานนามว่า
    <TABLE width="98%" border=0><TBODY><TR><TD width="18%">[​IMG]</TD><TD class=text width="82%">ท่าน ศรีมาตาจี นิรมาลา เดวีซึ่งหมายถึงมารดาผู้ถือกำเนิดพร้อมกับการรู้แจ้งในตนเองอย่างสมบูรณ์ และในช่วงเยาว์วัยของท่านนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านมีพรสวรรค์พิเศษที่มอบให้กับมวลมนุษย์
    บิดามารดาของท่านมีบทบาทในการกอบกู้เอกราชของอินเดียให้หลุดพ้นจาก อังกฤษ บิดาของท่าน มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านมหาตมะ คานธี และได้เป็นสมาชิกของสภารัฐธรรมนูญแห่งอินเดีย และมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ แรกเพื่อการปลดปล่อยอินเดีย ท่านมีเกียรติคุณที่เลื่องลือ ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญถึง 14 ภาษา และแปลคัมภีร์ โกรานในภาษา มารตี มารดาของท่านเป็นสตรีอินเดียคนแรกที่ได้รับเกียรตินิยมในสาขาวิชา คณิตศาสตร์ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    การต่อสู้เพื่ออิสระภาพของอินเดีย

    เมื่อท่านยังเยาว์วัยนั้น ท่านศรีมาตาจีอาศัยอยู่กับบิดามารดาของท่านในอาศรมของมหาตมะคานธีคานธี
    ได้เล็งเห็นถึงปัญญาและมีความประทับใจเด็กหญิงคนนี้ อย่างล้นเหลือ และเรียกชื่อท่านศรีมาตาจีว่า นภาลี
    ตามความงดงามในใบหน้าของท่านถึงแม้ว่าจะยังอยู่ในวัยที่เป็นเด็ก
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text width="68%">ความเข้าใจอันลึกซึ้งของท่านก็เป็นที่ประจักษ์ต่อมหาตมะคานธีผู้ซึ่งได้รับการแนะนำในด้านจิตวิญญาณ จากท่าน ศรีมาตาจี บ่อยครั้ง ท่านศรีมาตาจี ได้เข้าร่วมการกู้อิสราาพ อย่างเห็นได้ชัด ท่านมีความกล้าหาญมากและเป็นผู้นำเยาวชนของสหพันธ์ นี้ ในปี ค.ศ. 1942 ท่านมหาตมะ คานธีประกาศ วิธี"อหิงสา"ท่านศรีมาตาจีได้ถูกจับและถูกจองจำร่วมกับสมาชิกผู้กู้เอกราชคนอื่นๆ
    ท่านศรีมาตาจีถือกำเนิดมาพร้อมกับความรู้ในระบบประสาทและศูนย์พลังต่างของมนุษย์อย่างสมบูรณ์ ์และเพื่อให้ได้ทราบถึงศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ของสิ่งเหล่านี้ท่านจึงเลือกเรียนวิชา การแพทย์ และจิตวิทยา ในวิทยาลัย คริสเตียน ใน ลาโฮ </TD><TD width="60%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กำเนิดสหจะ โยคะ
    เพียงไม่นานก่อนการกู้อิสรภาพสำเร็จ ท่านได้สมรส กับ เซอร์ ซี พี ศรีวัสตวา หนึ่งในข้าราชการพลเรือนที่อุทิศตน มากที่สุดคนหนึ่ง
    ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น อัศวิน จาก พระบาทสมเด็จ พระราชินีนาถ แห่ง สหราชอาณาจักร ในอินเดียผู้คนเชื่อว่าท่านได้นำโชคลาภมาสู่
    สามีของท่าน ซึ่งเป็นกรณีที่เห็นได้ชัด ของท่านเซอร์ ซี พี ศรีวัสตวา ท่านก้าวหน้าในทางราชการอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ท่านเป็นผู้ที่มีความ
    ซื่อสัตย์มากที่สุด ท่านได้รับตำแหน่งเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีในช่วงปลายสมัยของ
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="24%" height=308>[​IMG]</TD><TD class=text width="76%">ศรี ลาล บาฮาดูร ศาสตรี ในปี 1964-66 ตัวของศาสตรีเองนั้นก็เป็นนายกรัฐมนตรี ในอุดมคติคนหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การเมืองของอินเดีย หลังจากนั้น ท่านได้รับเลือกให้เป็น เลขาธิการภาค
    พื้นสมุทรองค์การสหประชาชาตินาน ถึง 16 ปี ท่านจึงมีชื่อเสียงจากประวิติศาสตร์อินเดียสู่ประวัติศาสตร์โลก ท่านศรีมาตาจี หลังจากปฏิบัติหน้าที่ต่อครอบครัวของท่านด้วยการให้กำเนิด บุตรสาว 2 คน ท่านจึงก้าวเข้าสู่ภาระกิจของท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะทราบดีถึง
    ความรู้ทางจิตวิญญาณ แต่ท่านยังไม่ทราบถึงการแสดงความรู้นี้กับผู้คนในยุคปัจจุบัน ท่านได้เรียนรู้ถึงปัญหาของผู้บรรลุถึงจิตวิญญาณคน
    ก่อนหน้าท่านด้วย เช่น พระเยซู คริสตร์ โมฮาเม็ด พระพุทธเจ้า และท่านอื่นๆในการประกาศสัจธรรมให้กับประชาชนเมื่อท่าน
    ทราบถึงปัญหาในการผชิญหน้ากับปุถุชน ในวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 1970 ณ.ชายหาด นาโกล (ประมาณ 150 กิโลเมตรจาก มุมไบ) ประสบการณ์จากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้หลั่งไหลเข้ามาและท่านจึงได้รับคำตอบนั้นในทันที ท่านได้ค้นพบวิธีการ ของการมอบการ
    ตระหนักรู้ในตนเองที่คนเป็นพันคน ที่สามารถได้รับการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของตนเอง และเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน
    สหจะ (หมายถึง การเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ )โยคะ( หมายถึง เป็นหนึ่งเดียวกับตัวตนที่แท้จริง)จึงได้เกิดขึ้น </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เผยแพร่สหจะโยคะทั่วโลก
    ท่านศรีมาตาจี ได้ทดลองกระตุ้นพลังทางจิตวิญญาณ(ฮินดูเรียกว่า "กุณฑาลินี" มุสลิมเรียก "รูห์" และในคัมภีร์ไบเบิ้ล
    ได้อธิบายไว้ ถึงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์) นี้กับผู้คน และประหลาดใจกับผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
    ท่านเริ่มต้นกระตุ้นพลังนี้กับคนใกล้ตัวท่านและสังเกตุความเปลี่ยนแปลง ทั้งทางกายภาพ ความคิด และจิตวิญญาณ ท่านจึงค่อยๆพบว่านี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถแก้ไขปัญหาของมนุษยชาติได้ ท่านจึงตัดสินใจที่จะเผยแพร่วิธีการกับ
    คนทั่วไปด้วย ท่านทุ่มเท ทั้งเวลา และเงินเพื่อพูดคุยกับผู้คน และมอบกุญแจสู่พลังทางจิตวิญญาณให้พวกเขาเหล่านั้น
    และคนเหล่านั้น ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงพลังจิตวิญญาณที่อยู่ในตัวพวกเขา ด้วยความรู้สึกถึงสายลมเย็นที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย
    โดยเฉพาะลมเย็นในฝ่ามือและกระหม่อม ซึ่งค่อนข้างน่าประหลาดใจกับการขึ้นของพลังนี้ ถึงเช่นั้นพวกเขาก็โต้เถียง
    และถกเถียงกันเกี่ยวกับพลังนี้ พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธกับสิ่งที่เกิดจากประสบการณ์ของพวกเขาเองได้ ภายใต้การสอน
    ของท่านศรีมาตาจี พวกเขาพยายามที่มอบพลังนี้ให้กับคนอื่นๆ ผู้ที่ศรัทธาว่าพลังนี้เป็นประสบการณ์ ที่แท้จริงของจิตวิญญาณ
    ที่ได้มีการพยากรณ์เอาไว้ในทุกๆศาสนา
    <TABLE height=207 width="99%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=center width="53%" height=201>น่าประหลาดใจถึงแม้ว่าจะไม่มีการสนับสนุนทางการเงิน จากใครๆ ท่านศรีมาตาจี ไม่เคยเรียกเก็บเงินจาก ค่าสอน หรือการมอบการตระหนักรู้หรือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในองค์กร
    แต่อย่างใด ท่านยืนยันว่า เราไม่สามารถใช้เงินซื้อการรู้แจ้ง
    และจนทุกวันนี้ ท่านก็ยังคงประณาม
    "คุรุ"ที่ประกาศตัวและมีความประพฤติที่ผิด และเป็นคุรุ ที่แสวงหาแต่เงินจากกระเป๋าคนอื่น มากกว่าการเข้าถึงจิตวิญญาณ
    ตั้งแต่ปี 1970 ท่านศรีมาตาจีได้จัดตารางเวลาที่แน่น เพื่อเดินทางทั่วโลกเพื่อสอน เทคนิคของการนั่งสมาธิแบบสหจะโยคะ
    ท่านได้สาธิตความสามารถในการปลุกพลังแห่งจิตวิญญาณ ในมนุษย์(กุณฑาลินี) ให้กับประชาชน </TD><TD width="47%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้คนจำนวนมาก โดยปราศจากการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา อายุ หรือสถานะทางสังคมรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการสอนของท่าน โดยการก่อตั้งศูนย์สหจะโยคะ ในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก คนเหล่านี้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และเข้าสู่พลังจิตวิญญาณภายในด้วย
    การนั่งสมธิแบบสหจะโยคะ ทุกวัน และสามารถเข้าถึงความสมดุลย์ ในชีวิต ทั้างทางร่างกาย อารมณ์ ความคิด และระดับของจิตวิญญาณ
    พวกเขาเข้าใจดารรวมทุกศาสนา และวิถีทางแห่งจิตวิญญาณ ไม่ใช่แค่ในระดับของความคิด แต่สื่อโดยตรงจากประสบการณ์ที่ชัดจน
    ในระบบศูนย์พลัง หลายพันปีก่อนมีการพยากรณ์เอาไว้ว่าจะมีการผลิบานทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เป็นวิกฤตินี้ ผู้แสวงหาสัจธรรมเป็นพันๆคนจะได้พบกับประสบการณ์ในการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของตนเอง​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณพี่เม้าท์ที่ให้ข้อมูลครับ
    มีเพื่อนให้ยืมหนังสือ "โยคีมหัศจรรย์" มายังอ่านไม่จบเลยครับ
    เป็นประสบการณ์จากท่านเหล่านั้นที่ฝึกกันมาอย่างจริงจังและเข้มข้นครับ
    ไปอ่านประสบการณ์ที่คุณเซลล์ได้ไปฝึกมาหลายๆแห่งแล้ว ก็บอกว่าแทบทุกวิชาเป็นการฝึกสติให้มีกำลังเพื่อเชื่อมต่อจิตวิญญาณของตนเอง เข้าถึงความสมดุลย์ของจิต ด้วยการแสดงออกเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เคล็ดลับทุกอย่างที่ฝึกมา ที่สุดแล้วมีอย่างเดียวคือ การรวมกาย+จิตใจ+จิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2008
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คุณนักเขียนคะเมื่อคืนจินตวดีฝันว่าได้กลับไปโรงเรียนอีกครั้งแล้ว มันเป็นโรงเรียนของจักรวาลหลังจากที่ตั้งใจไม่อยากฝันถึงอีกแล้ว คราวนี้ครูผู้สอนให้หนังสือมา 3 เล่ม จริง ๆ เราเป็นคนเดินไปหยิบเองเสียด้วยซ้ำ พร้อมคำพูดที่ว่า "เธอต้องเรียนรู้เกี่ยวกับที่มาของพลังงานต่าง ๆ" สุขภาพร่างกายที่แย่ในตอนนี้จะสามารถแก้ไขได้พร้อมกับคำพูดที่ว่า "เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง" จินตวดีตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิดว่า ในจักรวาลนี้เต็มไปด้วยครูบาอาจารย์ที่พร้อมจะให้คำแนะนำ ความรัก และ ความเอ็นดูเราเสมอ ถ้าเพียงแต่เราจะกล้าเปิดใจยอมรับ และพิจารณาดูมันในมุมมองที่จะก่อให้เกิดคุณแก่เราและผู้อื่น กำลังคิดว่าเรานี่โชคดีจริง ๆ ในโลกของความฝันก็มีครูบาอาจารย์ ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกนี้ก็ยังมีคุณนักเขียน พร้อมเพื่อนมากมายช่วยชี้แนะและเป็นกำลังใจให้อยู่สม่ำเสมอ ยังไงเราก็มั่นใจ ว่าเราจะไม่เดินหลงทางอย่างแน่นอน ยาน้องขจรวรรณกับคุณนักเขียนได้ผลแฮะ คิดดี คิดบวก คิดดี คิดบวก บทเรียนบนโลกใบนี้ใช่จะโหดร้ายเสมอไป เรามีสิทธิเลือกบทเรียนให้กับตัวเราเองตลอดเวลา จดจ่ออย่างไร ได้อย่างนั้น ไม่มีอย่างอื่นจริง
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คุณ axzon ก็มีความฝันน่าสนใจหลายเรื่องนะครับ พกพาเอาความสามารถพิเศษจากต่างมิติมาเยอะด้วย
    หวังว่าจะนำมาใช้ช่วยเหลือคนอื่นๆได้ในไม่ช้าครับ รีบตัดสินใจนะครับ อิอิ

    ส่วนคุณ kindred บอกว่ามีอะไรน่าประหลาดใจเกิดขึ้นที่บ้าน
    เอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังด้วยนะครับ (deejai)
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ไปฝากคำถามไว้ให้ หัวหน้า mead หลังห้อง หัวหน้าสั่งให้มาคุยหน้าห้อง มาก็ได้ค่ะ...กลัวว่ามันจะดูไร้สาระ...คิดไปเอง

    คืองี้ค่ะ...หลังจากที่เราคุยกัน เรื่อง คุณ mead เธอ ฝันเห็นของ 3 อย่าง

    1.กล่องดำที่ทำจากไม้มีสลักทองเหลือง kindred นึกไปถึงกล่องที่บ้านเลย เพราะสะสมอยู่ ชอบกล่องทุกประเภท เพื่อนๆเวลาไปไหนมาไหน จะซื้อมาฝากเสมอ ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งซื้อเอง แต่ที่ชอบมากๆ ก็กล่องไม้ที่บอกนะค่ะ แล้วกล่องที่คุณ mead ทายให้ ใบนี้ kindred เก็บไว้ที่ห้องพระ นานมาก ไม่เคยไปเปิดดูเลย เมื่อวานเลยไปเปิดดู...แหะ แหะ...มีสร้อยเงินเก่า แหวนเก่า ต่างหูเก่า (ของม่ามี้ ค่ะ) อึ้ง ไปเลย

    ขอแก้นิดนึง ใบนี้ได้มาจากเมืองจีน แต่กล่องที่นึกจะให้ คุณ mead ทาย อันนั้น มาจากเวียตนามค่ะ ได้มาประมาณ 10 ปีแล้วมังค่ะ (ขอโทษค่ะ สับสน มันมาจากหลายแห่ง กะว่าจะทำป้ายชื่อ ยังไม่ได้ทำซักที ) ดูแล้วด้วยค่ะ ว่าอะไรอยู่ในกล่อง คุณ Mead ทายๆๆ...นะ (วันนี้ถามแต่เช้า เอเลี่ยน แบทฯน่าจะยังเต็มอยู่)

    2.เมื่อวานกลับบ้าน เปิดประตู ตาเหลือบไปที่ช่องโชว์ของ ใจหายแว่บเลย เรือจำลองสินค้า ขนาด ประมาณ 1 ฟุต ลืมไปเลยค่ะ ลำนี้ได้มาจากเวียตนาม พร้อมกล่องใบนั้นนะค่ะ เป็นเรือที่เค้าทำขาย จำลองจากของจริงเหมือนมาก สวยมาก เป็นเรือสำเภา ที่มีใบเยอะๆนะค่ะ ฝีมือประณีต

    คือ...งง นะค่ะ คุณmead แอบเข้ามาในบ้าน kindred ตั้งกะเมื่อไหร่เนี่ย...แหม ไม่ทันได้ต้อนรับ ขออภัย

    โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน....บังเอิญ ใช่..หรือ..ไม่
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อ้อ...มีเรื่องมาถาม คุณ zip เมื่อคืน kindred ฝันเห็นกันดั้ม มีปีก 4 ปีก สีออก ดำๆ เทาๆ (กันดั้ม มีปีกด้วยเหรอค่ะ...ไม่ค่อยชำนาญ เรื่องพวกนี้ค่ะ) ตัวเบ้อเร่อ เลย...ฟุ้งซ่านเปล่าไม่รู้ (one-eye)
     
  19. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณพี่นักเขียนมากนะครับ ที่เสียสละเวลามาชี้แนะให้กับผม ทำให้ผมเกิดความเข้าใจมากขึ้นครับ ไม่งั้นคงต้องงมหาอยู่อีกนานครับ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเจอรึเปล่า :d

    "หากกล่าวตามเส้นทางแห่งกาลเวลา กล่าวได้ว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อ ผนวกกับการจดจ่อ ก่อเกิดประสบการณ์ทั้งหลายขึ้นอย่างฉับพลัน ในโลกอื่น มิติอื่น เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น แต่มันต้องใช้เวลา และการจดจ่อต่อไป เพื่อที่จะก่อให้เกิดความหนาแน่น เข้มข้นของพลังงาน ซึ่งมากพอที่มันจะปรากฏขึ้นได้ในโลกทางกายภาพที่เรารู้จัก"

    จากประโยคนี้ แม้แต่ความเชื่อก็ก่อให้เกิดเป็นความจริงได้ในโลกทางกายภาพ และในการเปลี่ยนความเชื่อ เป็นความรู้ หากผมมองว่าเป็นการเปลี่ยนจากความเชื่อ เป็นความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในความเป็นจริงของธรรมชาติจะได้รึไม่ครับ

    พี่นักเขียนไปมาหมดทุกที่แล้ว เยี่ยมไปเลยครับ ผมเคยไปอินเดียช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นหน้าหนาวอากาศก็ติดลบแล้วครับ กลางวันถ้าห่างกันอยู่แค่ 2 เมตร ก็มองไม่เห็นกันแล้วครับ เพราะหมอกลงหนามาก จินตนาการไม่ออกเลยครับว่า หากอยู่บนยอดเขาหิมาลัย อากาศจะหนาวขนาดไหน

    ส่วนคำว่า aurora ionic ที่พี่นักเขียนตอบกลับมา มีความเป็นไปได้นะครับ ที่จะหมายถึงสถานที่ที่มีพลังที่หนาแน่นของจักรวาลอยู่ เพราะในฝัน ผมจะมองออกมาจากนอกโลก จะเห็นโลก และมีพระอาทิตย์สีเงินวนรอบอยู่ในพิกัดๆหนึ่ง ถ้าเทียบกับพิกัดของโลกครับ และก็จะมีคำนี้ปรากฎขึ้นมาครับ

    ส่วนการวางคำถามก่อนนอน อยากให้พี่นักเขียนแนะนำหน่อยครับ เพราะเวลาวางคำถามไว้ที่ตำแหน่งตาที่สาม แล้วให้หลับไปเลย กว่าจะหลับ ต้องใช้เวลามากเลยครับ

    เมื่อคืนก่อนนอน ผมก็ตั้งคำถามว่าขอเรียนรู้ จะเป็นบทเรียนอะไรก็ได้ ที่ช่วยพัฒนาทางจิตวิญญาณครับ
    แล้วจะฝันไปว่า ไปสถานที่หนึ่ง เดินไปกับแฟน แล้วเห็นตู้หนังสือมีกระจกปิด ข้างในจะมีหนังสือ harry potter เล่มจบอยู่ข้างใน (ในความเป็นจริง เพิ่งจะอ่านจบเล่มหนึ่งครับ อิอิ) และก็มีผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างอ้วน ขี้เล่น เหมือนเด็ก ผมก็เลยถามไปว่าจะขอซื้อได้มั๊ย เค้าบอกว่า เล่มนี้เค้าไม่ขาย แต่เค้ามี vcd อยู่ชุดหนึ่งที่จะให้ แต่ภายใน vcd จะพูดแต่ภาษาอังกฤษ และคำบรรยาย ก็จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ในฝันผมรู้สึกว่า แล้วผมจะดูรู้เรื่องเหรอ เพราะภาษาอังกฤษก็พอได้บ้าง แต่ออกไปในแนวกระท่อนกระแท่น เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเค้าจดวิธีอ่าน และทำความเข้าใจให้ เค้าก็จะจดใส่กระดาษเอาไว้เป็นรหัสต่างๆครับ ซึ่งตัวเล็กมาก มองไม่ออกว่าเป็นอะไร ในขณะที่เค้ากำลังกด แฟนผมก็จะจี้เอวเค้า และก็วิ่งหลบ และก็กลับมาจี้ใหม่เป็นพักๆ ซึ่งผู้ชายคนนี้เค้าก็จะเป็นคนที่อารมณ์ดีมากๆ ไม่โกรธ และก็ขี้เล่นตลอดเวลาครับ

    ตื่นมาผมก็นั่งคิดถึงฝันที่เพิ่งฝันไป ก็ตีความได้บางส่วนว่า การที่เราจะเข้าถึงจินตนาการที่ไม่มีขีดจำกัดได้ ต้องมีบุคลิกภาพที่ไร้เดียงสาเหมือนเด็ก เพราะในฝันผมก็จะคิดแต่ว่าคงไม่รู้เรื่อง เพราะคิดว่าหากจะดูให้เข้าใจ ก็ต้องอ่านภาษาอังกฤษที่เราไม่ถนัดนัก แต่บุคลิกภาพที่ไร้เดียงสานั้นกลับเข้าใจได้อย่างง่ายดายครับ

    ขอบคุณพี่สาวคนสวยมากๆเลยนะครับ :d
     
  20. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    พี่ mountain เนี่ย ข้อมูลปึ๊กจริงๆครับ
    คุณ mead ก็ไวไฟเหมือนเดิมครับ แป๊ปเดียวไปอ่าน pm ซะแล้ว อิอิ
    ขอบคุณคุณ jin และคุณ kindred ที่นำความรู้จากห้องหนังสือของจักรวาลมาฝากกันอีกแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...