เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086

    คุณจินตวดี ฝันแม่นมากครับ
    งวดนี้มาข้างบน ตองหนึ่ง 111 เลย
    งวดหน้าต้องตามคุณจินต์อย่างกระชั้นชิดแล้วหละ
     
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ยังค่ะ คำถามยังไม่หมด....ขอเพิ่มบทหน่อย อิอิ

    "หมายความว่า...สิ่งที่พวกหนู เป็นอยู่ในขณะนี้ พวกหนูคิดขึ้นเอง เหรอค่ะ...แล้วถ้าหนูเปลี่ยนความคิด...จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ใช่มั๊ยค่ะ??" เดร็ดก้า ถาม ....

    "...แล้ว ผมจะเปลี่ยนความเชื่อได้หรือครับ อย่าง จารีตประเพณี และวัฒนธรรม ศาสนา ทีปลูกฝังพวกเรามาตั้งแต่เกิด...ถ้าเราไม่เชื่อถือ เราจะอยู่ในสังคมนี้ได้หรือ ครับ เค้าจะไม่มองว่า เราเป็นตัวประหลาดเหรอครับ...คุณลุงครับ" มี้ด เอ่ยขึ้น

    ซิสซ์ มองดู มี้ด และเดร็ดก้า สลับไปมา เค้ากำลังคิดว่า นั่นซิ...แต่เค้าสงสัย อีกเรื่องหนึ่ง
    " คุณลุงครับ...ผม มักจะเจอ ปัญหา ในการตัดสินใจ ที่จะเลือกทำ มันมักจะต้องมี เหตุผลที่สนับสนุน ว่าจะทำหรือไม่ แค่2 ทาง ...ผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้เลยครับ ผมควร จะตัดสินใจด้วยวิธี ไหนดีครับ เพราะบางที มันก็ลังเล ...ผมเลือกไม่ถูกครับ."

    "หนูด้วย..." โซเรล เอ่ยขึ้น "หนูรู้ว่า...บางที หนูอยากมีเพื่อน แต่เจ้า SOROMON มันจะออกมา ข่มขู่หนูทุกที มันบอกว่าทุกคนจะเอาเปรียบหนู ทุกคนใจร้าย...หนูไม่เชื่อ แต่ถ้าหนูไม่เชื่อ หนูจะฝันร้ายทุกครั้ง..." โซเรล กล่าวอย่างเศร้าๆ

    แล้วเด็กๆ ก็เงียบลง เฝ้าครุ่นคิด แต่ปัญหาที่อยู่ในใจ พวกเขา ถูก โลกภายนอก หล่อหลอมไว้ จนมองไม่เห็นหนทาง พวกเขาถูก โลกทางกายภาพ บดบังจินตนาการของพวกเขา...

    ชายชรา มองพวกเขา อย่างปราณี...เด็กๆ ไม่ได้ผิด หรือ ถูก เด็กๆ ต้องการ การเรียนรู้ คำถาม เป็นช่องทางแห่งการผจญภัย...เพื่อหาประสบการณ์ และพัฒนา เป็นการเรียนรู้ ของระบบจิตวิญญาณ....

    อิอิ...คำถามคาใจ ที่พวกใฝ่รู้ต้องการค่ะ(ขอวางสนุ๊ก ต่ออีกหน่อยนะ ใกล้หลุมแล้ว)
     
  3. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณนะครับคุณ mead คุณ kindred ก็วางคำถามไว้ดีมากครับ (kiss)

    ฉันจะช่วยเรียบเรียงคำถามของเธออีกทีนะ ฉันไม่ได้เป็นผู้ตอบ แต่คำตอบล้วนมาจากคำถามของเธอเรียบร้อยแล้ว

    ทุกสิ่งที่เธอพบเจอในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้คนรอบข้าง กฎระเบียบข้อบังคับ วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งเหล่านี้รวมๆกันเรียกว่า สิ่งแวดล้อมรอบๆเรา ซึ่งมีรูปแบบเป็นอนันต์ เธอมีหน้าที่แต่เพียงว่า เมื่อเธอพบเจอสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว แล้วภายในใจเธอมีอารมณ์ ความคิด จินตนาการ พูด กระทำ อย่างไร อย่าลืมว่าสิ่งเหล่านี้คือครู เปรียบเสมือน กระจกที่สะท้อนตัวตนเราออกมา

    ฉันไม่ได้บอกให้เธอเลิกยึดถือ สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว แต่ฉันเพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่อยู่ในจิตเรา จากการซึมซับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวขึ้นมา เป็นความเชื่อ หรือ ความรู้ เธอสามารถเฝ้ามองสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อแยกความเชื่อ ออกมาจากความรู้ และเปลี่ยนความเชื่อ เป็นความเข้าใจ ความรู้เกิดจากการที่เปลี่ยนความเชื่อเป็นความเข้าใจ

    โลกทางกายภาพ ไม่สามารถที่จะบดบังจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเธอได้ เว้นแต่ความเชื่อที่เธอมีต่อโลกทางกายภาพเท่านั้น ที่เธอยึดเอาไว้อย่างมั่นคง หากเธอสามารถเปลี่ยนความเชื่อที่มีเป็นความเข้าใจได้ เธอไม่จำเป็นที่จะต้องถามผู้ใด หรือถามวิธีการใดๆ เธอสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่มีความขัดแย้ง เพราะนั่นคือสิ่งที่จะตามมาจากความเชื่อที่เปลี่ยนเป็นความรู้ของเธอ

    การตัดสินใจของเธอ มักจะต้องรวบรวมข้อมูลมาสนับสนุน และต้องเลือกข้างว่าจะตัดสินใจไปในทางใด แต่ข้อมูลดังกล่าวเธอลองพิจารณาดูว่าเป็นความรู้ หรือความเชื่อ หากสิ่งนั้นเป็นความเชื่อ การตัดสินใจไม่ว่าเธอเลือกทางไหน ย่อมไปสู่หนทางแห่งความเชื่อนั้น ซึ่งจะกลายเป็นการเพิ่มความเชื่อในสิ่งนั้นมากขึ้น แต่หากข้อมูลนั้นเป็นความรู้ คำตอบ และวิธีการนั้นย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะสม

    ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เธอมีความเชื่อกับตัวตนของบุคคลที่เธอสัมพันธ์ด้วยเป็นเช่นไร ความสัมพันธ์ที่เกิดก็จะมาจากความเชื่อที่เธอมีต่อบุคคลนั้น เธอได้ตัดสินบุคคลที่เธอสัมพันธ์จากบรรทัดฐานที่เป็นความเชื่อของเธอ จากมิติของช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา
    เธอได้แยกบุคคลนั้นว่าเป็นตัวตนอีกคนหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากเธอ เมื่อแยกออกเป็นเธอและฉันแล้ว ความเป็นหนึ่งเดียวกันย่อมไม่เกิด ฉันจึงได้ชี้ให้เธอเห็นว่า เมื่อเธอได้ตัดสินให้บุคคลอื่นแยกออกไปจากเธอแล้ว จะเป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ sorel ได้แยกตัวตนของเธอออกเป็น soromon ตัวตนที่ 2,3,4 เรื่อยๆไป แต่ความเป็นตัวตนของ soromon จะหมดไปเมื่อเธอได้เฝ้ามอง และปล่อยวางความเชื่อ เงื่อนไขต่างๆ ที่อยู่ในใจเธอออกไป ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ มีแต่ความเป็นหนึ่งเดียว ฉันเรียกว่า ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข...
    คำถามที่มาจากความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เป็นกุญแจสำหรับคำตอบของเธอ..เธอสามารถตอบคำถามนี้ได้ จากภายในของเธอเอง

    เอาละ คราวนี้เธอคงตอบชั้นได้แล้วนะ ว่า "เธอคืออะไร และอะไรมาเป็นเธอ"

    ลงหลุมดีรึยังครับ คุณ kindred (kiss)
     
  4. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    โอ้ สุดยอดคุณเซลล์ เอ้ยชายชรา เอ้ยคุณเซลล์ เป็นคำตอบที่ลุ่มลึกมาก

    ที่จริงมีทริกที่จะลองถามพี่นักเขียนโดยการสร้างตัวละครให้ถามคำถามพี่นักเขียน โดยเขียนอธิบายแบบนิยายเนี่ยแหล่ะ เพราะคิดว่ามันน่าจะทำให้เราใส่อารมณ์ความรู้สึกของเราสอดแทรกเข้าไปได้โดยไม่เคอะเขิน อารมณ์ความรู้สึกที่บางทีเราเขินอายที่จะแสดงออก แต่มันก็สำคัญมากที่จะทำให้รู้ว่าเรามีอารมณ์ความรู้สึกยังไงกับสถานการณ์นั้นๆ หรือกับคำถามนั้นที่เราจะถาม เนื่องด้วยว่าอารมณ์ความรู้สึกเป็นภาษาของจิตวิญญาณ

    แต่ดูท่าคุณ kindred จะเอามาใช้กับนิยายนี้แล้วนะเนี่ย
     
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    คุณ เซลล์ ตบลูกดำ ลงหลุม ไปจนได้..นะค่ะ(good)

    น่าจะจบภาคแรก...แล้ว ว่ามั๊ยค่ะ คำตอบที่เป็นหลักคำสอน ของอ.อนาลัย คุณเซลล์ ครอบคลุม ค่อนข้างครบแล้ว...

    ก่อนที่เด็กๆ จะตอบคำถาม...ตอนนี้ น่าจะเป็นภาคผจญภัย และเจอปัญหาจริงๆของโลกกายภาพ แล้วมั้งค่ะ...หาเรื่องกันหน่อยดีกว่า...

    (smile)ขอคารวะ อีกครั้ง...มองคุณ เซลล์ ไว้ไม่ผิดจริงๆ (555....ดีจาย จริงๆ)


    *************************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อิอิ.......;)
     
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    15-15-15 คืออะไรยังไม่รู้เลยน๊ะ

    "ฉันก็คือเธอ เธอก็คือฉัน เราไม่เคยที่จะแยกจากกันเลย ฉันรอวันที่จะได้พบกับเธอมานานแสนนาน ฉันคือจิตวิญญาณอีกดวงที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับเธอ แต่ต่างกันที่มิติที่ปิดกั้นเราไว้เท่านั้น ...รหัส 15-15-15 คือสิ่งที่เธอต้องตามหา"
     
  8. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณครับคุณ zipp เห็นด้วยครับ รอพี่นักเขียนมาเติมเต็มอยู่ครับ (kiss)

    (ping-loveเจอคำถามเล่นเอามึนเลยครับ ขอบคุณนะครับคุณ dred ที่ป้อนคำถามดีๆมาให้เสมอ (good)

    จริงด้วยครับ รหัส 15-15-15 คืออะไร ยังแก้ไม่ออกเลยครับ คงต้องรอคุณ sarissa เข้ามาเฉลยครับ (good)

    ดีใจจังพี่นักเขียนกลับมาแล้ว ยินดีต้อนรับการกลับมานะครับ (kiss)(kiss)
     
  9. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    "........ที่ตั้งของดินแดนเก่าแก่แห่งนั้น.... อาจจะไม่ได้มีความสำคัญเท่าข้อมูลความรู้ที่จมหายไปพร้อมกับดินแดนแห่งนั้น แม้ว่าข้อมูลความเหล่านั้นไม่ใช่ความลับ แต่มันจมหายไปยาวนานจนแทบจะกลายเป็นความลับที่ไม่มีผู้ใดค้นพบอีกต่อไป

    เมื่อพวกเธอค้นพบจิตวิญญาณเก่าแก่ที่กลับมาถือกำเนิดในมิตินี้ ธรรมชาติความเป็นจริงที่ถูกลืมเลือน - จะได้รับการเปิดเผยสู่ชาวโลกอีกครั้ง จิตวิญญาณทั้งหลายที่หลงทางมายาวนานแสนนานจะค้นพบว่า พวกเขาคืออะไร และ อะไรมาเป็นเขา แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้การเดินทางของจิตวิญญาณทั้งหลายสิ้นสุดลง แต่มันจะทำให้จิตวิญญาณทั้งหลายเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ได้อย่างก้าวไกลต่อไป และโลกก็จะไปถึงจุดที่มีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณรุ่งโรจน์อีกครัั้งหนึ่ง"

    เสียงพึมพำก้องไปทั่วห้องจากผู้ร่วมสัมมนาที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมาฟังการบรรยายของ Professor ท่านนี้เกี่ยวกับข้อมูลโบราณที่ได้รับการขุดค้นพบโดยนักโบราณคดี ข้อมูลเหล่าถูกบรรจุอยู่ในกล่องที่ทำด้วย Pounamu ซึ่งเป็นหินสีเขียวที่แกร่งที่สุดในโลก ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ กล่อง Pounamu นี้มีรูกุญแจทั้งหมด 17 รูด้วยกัน กุญแจที่จะสามารถไขกล่อง Pounamu เป็นกุญแจที่ทำด้วย Crystal และไม่สามารถเปิดออกได้ด้วยวิธีการอื่นใดนอกจากการจดจ่อโดยจิตวิญญาณผู้มาถือกำเนิดด้วยหน้าที่จำเพาะเท่านั้นจึงจะเป็นผู้ไขกุญแจแต่ละดอกได้ การจดจ่อของเขาแต่ละคนจะก่อให้เกิดกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับกล่องใบหนึ่งๆเท่านั้น ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่ากล่องเหล่านี้บรรจุข้อมูลความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณ ที่จมหายไปในท้องทะเลพร้อมกับดินแดนอันรุ่งโรจน์ที่สุดในโลกมนุษย์ ในชั่วเวลาข้ามคืนเมื่อ 9,999 ปีมาแล้ว

    "ฉันหวังว่าพวกเธอทั้งหลายจะค้นพบจิตวิญญาณเก่าแก่เหล่านั้น ที่กลับมาถือกำเนิดในมิติของเธอ แม้พวกเขาจะยังคงเป็นเพียงเด็กเล็กๆในสายตาของเธอ แต่จิตวิญญาณของพวกเขาก็เติมไปด้วยข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ พวกเขาไม่เคยลืมธรรมชาติความเป็นจริงที่จมหายไปกับประวัติศาสตร์.....พวกเธอทั้งหลายเคยพบกับเด็กเหล่านี้มาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน พวกเขาพบกับฉันในความฝันไม่น้อยไปกว่าพวกเธอ"

    ใบหน้าของเด็กๆทั้งหลายที่เคยปรากฏในความฝันครั้งแล้วครั้งเล่า สะท้อนขึ้นมาในมโนภาพของ Mrs. Writer อย่างคมชัด พร้อมกับบุคลิกภาพของพวกเขา

    "พวกเขามีด้วยกันทั้งหมด 17 คน - เท่าจำนวนรูกุญแจที่่จะต้องใช้เปิดกล่อง Pounamu แต่เด็กคนที่ 18 คือผู้ที่ก่อให้เกิดกระแสตรงกันข้าม - ที่จะรวมกระแสทั้ง 17 เข้าด้วยกัน หน้าที่ของเธอแต่ละคนในวันนี้่คือ ตามหาพวกเขาให้พบ..."

    ประโยคสุดท้ายของ Professor ผู้ปราศจากร่างกายตัวตนดังก้องในโสตประสาทของ Mrs. Writer... พร้อมกับชื่อ ที่สะท้อนมาจากแดนไกล zizz...zizz....zizz

    Mrs. Writer ถอนหายใจอย่างลุ่มลึก ด้วยการตระหนักในภาระหน้าที่ที่ได้รับมาจากความฝัน เธอลืมตาขึ้นและมองออกไปในสวนหลังบ้าน เจ้า Cardinal สีแดงเกาะกิ่ง Walnut อย่างร่าเริง น้ำค้างบนใบไม้พราวพร่างไปด้วยแสงสะท้อนจากตะวันรุ่งสาง.... มันส่งเสียงร้อง zizz....zizz....zizz.. ราวกับจะร้องเรียกใครบางคน...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cardinal.jpg
      cardinal.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.7 KB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  10. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พี่นักเขียนต้องขอโทษที่หายหน้าไปหลายวัน เพราะมีน้องๆชาวไทยสองคนมาพักที่บ้านพี่นักเขียนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพิ่งเรียนจบปริญญาเอกกันไปหมาดๆ และมาพักที่บ้านพี่นักเขียนเพื่อเตรียมตัว pack ของและเดินทางกลับไปสอนหนังสือมหาวิทยาลัยในเมืองไทย อีกไม่กี่วันบ้านเราก็จะมี Ph.D. เพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุดอีกสองท่าน ที่จะกลับไปช่วยกันพัฒนาการศึกษาของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไปนะคะ นับว่าเป็นนิมิตหมายที่น่ายินดียิ่งค่ะ ด๊อกเตอร์สองท่านนี้ ฝากพี่นักเขียนมาบอกพวกเราว่า ขอโทษที่ต้องขโมยตัวพี่นักเขียนไปจากห้องวิทย์ฯหลายวัน แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นผู้อ่านที่ติดตามกระทู้นี้มายาวนาน ทั้งสองคนบอกว่า คงจะต้องขอซ่อนตัวไม่ให้พวกเรารู้ว่ามีชื่อเสียงเรียงนามและหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะเกรงว่าจะถูกคุณ Mead จับไปเล่นบทผู้ร้ายค่ะ

    วันนี้กลับเข้ามาห้องวิทย์ฯ พี่นักเขียนก็พบว่า"โต๊ะกลม"ที่ปราศจากเส้นผ่านศูนย์กลาง" ไปตั้งอยู่บนเพดานห้อง เพราะพวกเราชาวห้องวิทย์ได้ช่วยกันพลิกผันห้องวิทย์ให้เป็นโลกแห่งจินตนาการอันไร้ขอบเขต

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด



    การใช้จินตนาการไม่ใช่สิ่งที่เราไม่คุ้นเคย หรือไม่ค่อยได้ใช้ ในทางตรงกันข้ามเราทุกคนใช้จินตนาการในทิศทางที่คุณเด็กโชว์พาวกล่าวถึงอยู่ทุกลมหายใจโดยที่เราไม่รู้ตัว เราจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์และเลือกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เสมอๆ แต่เรามักจะไม่ได้ใช้สติติดตามรู้เห็นวา เราสร้างสรรค์เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ขึ้นมากี่เส้นทาง และเราจะเลือกเส้นทางใด ด้วยเหตุผลใด

    ทุกขณะจิต เราทั้งหลายล้วน "สร้างสถานการณ์" ล่วงหน้า สำหรับความเป็นไปในชีวิตของตนเอง แต่เมื่อเราเผชิญกับประสบการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เรามักจะไม่ได้ตระหนักว่า เราคือผู้สร้างสถานการณ์นั้นๆไว้ล่วงหน้าบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใดเส้นหนึ่ง และเราก็จดจ่อกับความเป็นไปได้นั้นๆจนกระทั่งมันมาสู่เส้นทางแห่งความเป็นจริง เราจึงได้เผชิญกับมัน บ่อยครั้งเมื่อเราเผชิญกับความเป็นไปที่ไม่พึงปรารถนา เรามักเชื่อว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากภายนอก จากผู้อื่น และเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ไม่เห็น หรือหยั่งไม่ถึง

    การใช้จินตนาการเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ จินตนาการสร้างสรรค์เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ขึ้นมาอย่างน้อยสองเส้นทาง และในที่สุด เราก็เลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราเสมอๆด้วยการจดจ่อกับเส้นทางนั้นๆ

    หากเราฝึกฝนที่จะมีสติสัมปชัญญะอันคมชัดที่จะติดตามรู้เห็นการสร้างเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ของตนเอง เราจะพบว่า เราทุกคนได้ใช้จินตนาการดังที่คุณเด็กโชว์พาวทำเสมอๆ และเมื่อเราตระหนักได้ในธรรมชาติความเป็นจริงข้อนี้ เราจะตระหนักได้ในความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้เสมอๆว่า


    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด
    จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป พร้อมด้วยรูปกายที่คล้องจองกับภาวะนั้น


    เราทั้งหลาย ล้วนสร้างสถานการณ์ชีวิตทั้งหมดขึ้นมาด้วย อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของตนเองเสมอ
    และเราก็รับมือกับมันเสมอ ด้วยความไม่รู้ แต่ถ้าหากเราตระหนักได้ว่า เราสร้างสถานการณ์ทั้งหลายขึ้นมาด้วยตนเอง
    นอกจากเราจะสามารถรับมือกับมันได้ด้วยความรู้แล้ว เรายังสามารถเลือกได้อีกด้วยว่า เราปรารถนาจะรับมือกับสถานการณ์เช่นไร และรู้จักที่จะสร้างสถานการณ์ที่พึงปรารถนา
    พี่นักเขียนได้พบ movie clip ของ Pixar ที่สะท้อนให้เห็นประเด็นนี้ได้ไม่น้อย
    <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/gNASSON_JMU&hl=en"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/gNASSON_JMU&hl=en" type="application/x-shockwave-flash" width="425" height="344"></embed></object>
    พี่นักเขียนเชื่อว่า เมื่อเราเรียนรู้ถึงธรรมชาติของความเป็นจริงที่ว่า
    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยความเชื่อของตนเอง
    แล้ว เราจะสามารถเล่นเกมส์ชีวิตของเราได้ดังปรารถนา เช่นเดียวกับคุณลุง Geri คนนี้ โดยไม่ต้องกลายเป็นผู้แพ้
    หรือล้มกระดานเกมส์ที่เราเคยเชื่อว่า เราปราศจากอำนาจที่จะชนะเกมส์นั้นๆ หรือตกเป็นเหยื่อของผู้อื่น




    เราไม่จำเป็นจะต้องกำหนดจิตที่จะปลุกประสาทสัมผัสที่หก หรือประสาทสัมผัสภายใน
    เพราะประสาทสัมผัสภายใน-ไม่เคยหลับ ไม่เคยหยุดทำงาน
    หากแต่ว่า สติสัมปชัญญะของเรามักจะเคยชินกับการรู้เห็นผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า
    และขาดความคุ้นเคยที่จะรู้เห็นผ่านประสาทสัมผัสภายใน

    สิ่งเดียวที่เราจะต้องทำเมื่อกายหลับ และตระหนักได้ว่า จิตตื่นแล้ว คือการจดจ่อให้ได้อย่างคมชัดด้วยสติสัมปชัญญะ ที่ทำให้เราตระหนักได้ว่า ฉันกำลังมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป ณ ขณะจิตนี้ โดยปราศจากการรู้เห็นผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า การจดจ่ออย่างคมชัดและการตระหนักรู้ถึงภาวะอันกำลังเป็นไปของกายและจิตของตนเอง ณ ขณะจิตที่พี่นักเขียนเรียกว่า กายหลับ-จิตตื่นนี้ จะทำให้เราสามารถรู้เห็นผ่านประสาทสัมผัสภายในได้อย่างเป็นอัตโนมัติ เช่นเดียวกับที่เสือจดจ้องเพื่อมองหาเหยื่อของมัน ไม่ว่าเหยื่อนั้นจะแว้บเข้ามาในรัศมีใกลัไกลเพียงใด มันจะแลเห็น ได้กลิ่ิน หรือสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวทั้งหลายได้อย่างแม่นยำ

    ภาวะที่คุณเด็กโชว์พาวเผชิญ ที่ทำให้รู้สึกว่าต้องการจะตื่น แต่ตื่นไม่ได้ หรือรู้สึกเสมือนว่าร่างกายไม่ยอมตื่น เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้เสมอๆสำหรับผู้ที่ฝึกสมาธิ และยังไม่สามารถควบคุมการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะได้อย่างคล่องตัว ภาวะนี้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ตราบใดที่เราเข้าใจและตระหนักถึงความเป็นจริงได้ว่า เรายังตื่นไม่ได้ดังปรารถนา เพราะเรายังไม่ได้เปลี่ยนวิถีการจดจ่อมาสู่ภาวะทางกายภาพ เราจะหาร่างกายเนื้อหนังของตนเองไม่พบ และยังไม่อาจรู้เห็นหรือใช้การประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ดังเดิม

    วิธีการง่ายๆที่พี่นักเขียนแนะนำให้นักเรียนสมาธินำไปปฏิบัติอย่างได้ผลเสมอมา คิือ หากเผชิญกับภาวะที่ต้องการจะตื่น และรู้สึกว่าร่างกายไม่ยอมตื่นหรือตื่นไม่ได้ ให้หาลมหายใจให้พบ เมื่อพบแล้วให้กำหนดให้ตนเองหายใจเข้าลึกๆ เพราะในภาวะดังกล่าวนี้ เรามักจะหาแขนขา หรือร่างกายพร้อมประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่พบ

    เราไม่คุ้นเคยที่จะละจากมันไป แต่เมื่อเริ่มละได้ใหม่ๆ ก็มักจะกลับมาจดจ่อในทิศทางเดิมผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่ได้รวดเร็วดังปรารถนา

    การกำหนดลมหายใจ หรือหาลมหายใจให้พบ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการขยับแขนขา หรือปลุกกายให้ตื่นด้วยวิธีการอื่นๆ เพราะลมหายใจเป็นภาวะทางกายภาพที่เป็นอัตโนมัติที่สุด การเคลื่อนไหวแขนขา หรือการตระหนักรู้ในประสาทสัมผัสทางกายเป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นอัตโนมัติเท่าการหายใจ แม้ยามตื่นเราก็ต้องใช้ความคิด ใช้เจตนา ใช้การจดจ่อกับภาวะทางกายภาพเพื่อที่จะเคลื่อนไหวร่างกายแขนขา แต่ไม่ว่าเราจะจดจ่อหรือเจตนาจะหายใจหรือไม่ก็ตาม เราก็ต้องหายใจ การหายใจจึงเป็นภาวะทางกายภาพที่เป็นไปได้ง่ายและเป็นอัตโนมัติกว่าการเคลื่อนไหวทางกายภาพอื่นๆทั้งหมด

    เมื่อเราค้นพบลมหายใจ และสามารถกำหนดการหายใจได้แล้ว สติสัมปชัญญะจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อกลับมาสู่ภาวะทางกายภาพอย่างราบรื่น ให้บอกกับตนเองเสมอว่า กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เราไม่ได้กำลังฝึกฝนหรือปฏิบัติในสิ่งที่ผิดธรรมชาติ ดังนั้นหากเราทำได้ตามวิธีการที่คล้องจองกับธรรมชาติ มันย่อมปราศจากอุปสรรคใดๆ

    ความกลัวมักเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเผชิญกับภาวะที่ว่า ต้องการจะตื่นและตื่นไม่ได้ดังปรารถนา หรือที่บางคนเรียกกันว่า ผีอำ เมื่อเรากลัวเรามักจะขาดการควบคุม และคิดว่ามีพลังอำนาจอื่นๆมาทำให้เราไม่สามารถควบคุมร่างกายของเราได้อีกต่อไป ซึ่งมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราสามารถควบคุมร่างกายของเราได้เสมอ ด้วยการควบคุมจิต หากฝึกฝนที่จะจับลมหายใจให้ได้จนเป็นนิสัย เราจะสามารถมองเห็นภาวะที่ก้าวล่วงไปสูู่ภาวะของการที่ กายหลับ-จิตตื่น และมองเห็นภาวะที่ก้าวออกจากการที่จิตตื่น-กายตื่นได้เช่นกัน คือ มองเห็นทั้งขาเข้า-ขาออก ของการเป็นสมาธิได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  11. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    แม้ว่าจินตนาการจะเป็นจุดเร่ิมต้นของความเป็นจริงทั้งหมด แต่หากปราศจากเจตนาและความมุ่งมั่นที่จะลงมือปฏิบัติให้กลายเป็นความจริง มันจะก่อเกิดเป็นความจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น ในชาติภพอื่น มิติอื่น แต่จินตนาการนั้นๆก็จะยังคงเป็นเพียงจินตนาการบนเส้นทางแห่งความเป็นจริงนี้ต่อไป

    ข้อมูลความรู้ทั้งหลายที่เราเรียนรู้ หากปราศจากการฝึกฝน ปราศจากการทดลอง นำไปปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ความเป็นจริง ก็ย่อมเป็นความรู้ที่ปราศจากประสบการณ์ และแม้จะรู้ก็อาจจะปราศจากความเข้าใจ แต่หากได้รับความรู้แล้วนำไปทดลอง นำไปปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงแล้ว มักก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ และทำให้เรากลายเป็นผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์และทักษะอย่างพร้อมมูล

    ความรู้+ประสบการณ์+ทักษะ ก่อให้เกิดปัญญา(rose)(rose)(rose)(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ขอบคุณคุณน้องขจรวรรณมากค่ะ สำหรับ sand art ดูอีกกี่ครั้งก็รู้สึก inspired ไม่รู้หายค่ะ(rose)
     
  13. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Mantra Analai

    เชิญ download เพลง หรือ Ring Tone จากอัลบั้ม
    Mantra Analai : Music for Meditation, Relaxation and Healing


    <a href="http://click.linksynergy.com/fs-bin/stat?id=eH8NOY8fBFE&offerid=78941&type=3&subid=0&tmpid=1826&RD_PARM1=http%253A%252F%252Fphobos.apple.com%252FWebObjects%252FMZStore.woa%252Fwa%252FviewAlbum%253Fid%253D281246588%2526s%253D143441%2526partnerId%253D30"><img height="15" width="61" alt="Arthachinda - Mantra Analai" src="http://www.tunecore.com/images/buttons/badgeitunes61x15dark.gif"></img></a>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอแสดงความยินดีกับ Ph.D. (นักอ่าน) ทั้งสองท่านด้วยครับที่จบการศึกษามาหมาดๆ
    โชคดีจริงๆครับ ที่มีโอกาสนัดพบกับพี่นักเขียนฯล่วงหน้าก่อนพวกเราไปแล้วด้วย
    แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ ถึงจับได้ก็ไม่ส่งเป็นผู้ร้ายแน่นอน (อิอิ) แต่จะส่งไปสอนเด็กๆให้มีความรู้ลึกพิเศษกว่าที่เคยเรียนกันมาครับ หวังว่าทั้งสองท่านจะนำความรู้จากที่ได้จากหนังสือของอาจารย์อนาลัย ผนึกใช้กันอย่างอย่างสมบูรณ์แบบนะครับ เชื่อว่าไฟแรงกันทั้งคู่ ถ้ากลับมาถึงเมืองไทยแล้วก็ขอให้ติดตามอ่านกันไปเรื่อยๆนะครับ..เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอครับ

    ตอนนี้โต๊ะกลมของเราไปห้อยอยู่บนเพดานแล้วครับ..ถูกแขวนโดยจินตนาการของพี่นักเขียนนั่นล่ะครับ ที่มาแต่งวรรณกรรมให้พวกเรา ส่งจินตนาการไปได้อีกยาวไกลเลยครับ...มีปริศนามาให้พวกเราขบคิดอีกด้วยสิครับ

    ***ต่อบทกันไหวมั๊ยครับเพื่อนๆ ***
    (good)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    แววตาของ Professor ท่านนั้นปรากฎขึ้นในภวังค์ของ Mrs. Writer อีกครั้งเธอจดจำได้เป็นอย่างดี
    ภาพตัดซูมลึกเข้าไปในแววตาของ Professor ไปปรากฎสู่แววตาของชายชราในชุดขาวอีกครั้ง..
    เขากำลังจ้อมมองไปที่ Zizz ด้วยแววตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเหมือนต้องการจะบอกอะไรกับเขา
    พร้อมกับพูดว่าภาระกิจของพวกเจ้าเพิ่งจะเริ่มต้น สิ่งที่พวกเราทั้งสี่จะต้องทำต่อไป เจ้าจะรู้ได้เองในไม่ช้า พร้อมกับพูดกับเด็กๆว่า...

    พวกเธอจงจำเอาไว้ให้ดีนะ การที่เธอรวมตัวมาอยู่กันที่นี่ไม่ไช่เรื่องบังเอิญ ยังมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่เหมือนพวกเธอ เค้ากำลังตามหาพวกเธอเช่นกัน วันหนึ่งเธอจะต้องพบกับพวกเขา เป็นภาระกิจที่สำคัญเรื่องหนึ่ง และการค้นหานี้และจะมีความสำคัญอย่างมากกับโลกในอนาคตของพวกเธอ เราขอมอบรหัสให้พวกเธอไว้ชุดนึง พร้อมกับจดไว้ในสมุดปกแข็งสีแดงเล่มนั้นอย่างบรรจง ***4+4+5+5=18-1***

    เด็กๆถามว่า "แล้วพวกเราจะพบกับพวกเขาเมื่อไหร่ครับ?"
    ขายชราชุดขาวตอบว่า
    "พบได้ทุกเมื่อนะ เมื่อพวกเธอเปล่งพลังความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันแท้จริงออกมาได้สำเร็จ"
    พวกเธอเป็นกลุ่มสำคัญกลุ่มหนึ่งเราและยังมีเพื่อนๆของเธออีก 3 กลุ่มสำหรับภาระกิจชิ้นนี้
    ..พวกเธอทั้งหลายคือ...

    "ผู้ถอดรหัส"มีหน้าที่แก้ไขปัญหาต่างๆด้วยการหาคำตอบผ่านการแปลรหัส ซึ่งก็คือพวกเธอ
    "ผู้พิทักษ์รักษา มีหน้าที่ดูแลกุญแจ Crystal ทั้ง 17 ดอก และกล่อง Pounamu
    "กลุ่มพลัง" ที่มีหน้าคอยป้องกัน เสริมพลังให้แก่ ผู้พิทักษ์รักษา
    "กลุ่มพยานและการสืบทอด" คอยสนับสนุนช่วยเหลือของทุกคนและจะเป็นผู้บันทึกเก็บความลับทั้งหมด

    มาต่อกันครับ [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  16. sarissa

    sarissa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +631
    "พวกเขามีด้วยกันทั้งหมด 17 คน - เท่าจำนวนรูกุญแจที่่จะต้องใช้เปิดกล่อง Pounamu แต่เด็กคนที่ 18 คือผู้ที่ก่อให้เกิดกระแสตรงกันข้าม - ที่จะรวมกระแสทั้ง 17 เข้าด้วยกัน หน้าที่ของเธอแต่ละคนในวันนี้่คือ ตามหาพวกเขาให้พบ..."

    ประโยคสุดท้ายของ Professor ผู้ปราศจากร่างกายตัวตนดังก้องในโสตประสาทของ Mrs. Writer... พร้อมกับชื่อ ที่สะท้อนมาจากแดนไกล zizz...zizz....zizz

    Mrs. Writer ถอนหายใจอย่างลุ่มลึก ด้วยการตระหนักในภาระหน้าที่ที่ได้รับมาจากความฝัน เธอลืมตาขึ้นและมองออกไปในสวนหลังบ้าน เจ้า Cardinal สีแดงเกาะกิ่ง Walnut อย่างร่าเริง น้ำค้างบนใบไม้พราวพร่างไปด้วยแสงสะท้อนจากตะวันรุ่งสาง.... มันส่งเสียงร้อง zizz....zizz....zizz.. ราวกับจะร้องเรียกใครบางคน...

    ฉับพลันนั้น....เบื้องหน้าเธอ...ร่างทั้งสี่ที่ค่างมิติปรากฏกายตรงหน้า...อา...นักเรียนผู้ถูดเลือกทั้งสี่

    "สวัสดีค่ะ/ครับ มิสซิสไรท์เตอร์" เด็กทั้งสี่ แม้บางคนจะอยู่ในร่างที่ดูแก่ชรา ร่างบางระหงลุกขึ้นยืนต้อนับ...มีเสียงเซ็งแซ่แย่งกันถาม...เดี๋ยวจ๊ะ...ใบหน้างดงามของครูใหญ่ระบายยิ้ม...ถ้าพวกเราพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้ ครูขอต้อนรับเข้าสู่ห้องเรียนแห่งโนวา..อนาลัย...

    ชั่วพริบตา...สวนหลังบ้านก็กลายเป็นห้องเรียนโดยพลัน...มีเด็กอื่นๆอยู่ภายในห้อง...ทุกคนหันมามองเด็กเข้าใหม่ทั้งสี่ด้วยสีหน้าแตกต่างกันไป บ้างยิ้มแย้มทักทาย แต่บางคนหายใจพรืดยาวใส่จมุกอย่างเย่อหยิ่ง...

    ห้องทั้งห้อง...มีโต๊ะเพียง 18 ตัว...เหลือที่ว่างเพียงหนึ่งตัวที่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง...เด็กทั้งสี่มองหน้ากัน...

    "เอาละจ๊ะ เด็กๆ นั่งประจำที่...พวกเธอทั้งสี่เช่นกัน..." น้ำเสียงหวานแจ่มใสของครูสาวดังขึ้น...

    เด็กทั้งสี่ก้าวเข้าไปนั่งพร้อมๆกัน...ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกอะไรหลายอย่าง โต๊ะที่เห็นเพียงหนึ่งแยกออกมาต่างมิติซ้อนกัน...เคร็ดก้ายิ้ม...คิดไม่ผิดจริงๆ...

    "การเรียนรู้และประสบการณ์ของแต่ละจิตล้วนแตกต่างกันออกไป...จิตบางจิตถูกกำหนดให้แสวงหาบางอย่างเช่น...พาวเวอร์บี..." มิสซิสไรเตอร์มองไปที่เด็กหนุ่มหน้าตางดงามราวภาพวาด...เขาก้มศีรษะทักทายเพื่อน
    "เพาเวอร์บีได้เรียนรู้ผ่านกระแสพลังจากดิแดนโนวา...เรียนรู้ที่จะควบคุมพลังนั้น...หรือบางคนก็ได้เรียนรู้ผ่านรอยต่อแห่งมิติ...บัดนี้..."ริมฝีปากบางได้รูปแย้มยิ้ม...เธอกวาดตามองนักเรียนในห้องทั้งหมดอย่างเอ็นดู...

    "ไหนใครจะตอบคำถามครูได้ว่า...15-15-15 พวกเธอทุกคนได้รับคืออะไร"
    ครานี้ทั้งห้องต่างเงียบกริบ...นั่นสิ...15-15-15 คืออะไร...

    เด็กหญิงตัวเล็กที่นั่งหลังห้องตอบออกอย่างไม่แน่ใจนัก...
    "หนูเคยเห็นในผังตัวเลขที่นับไปทางไหนก็ได้ 15 ตางหลักฮวงจุ้ยของชาวจีน"
    ครุสาวยิ้ม..."ไม่มีคำตอบใดผิด หรือคำตอบใดถูก การแสวงหา การค้นพบ และการเรียนรู้ 15 ของเธอ อาจจะผูกพันกับศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ว่า เพราะเธอเลือกจะเชื่อดังนั้น แล้วของคนอื่นล่ะ" ใบหน้าเรียวงามกวาดตามาทางนักเรียนใหม่ทั้งสี่...

    เดร็ดก้ายกมือขึ้น...15-15-15 สำหรับหนูคือ..."

    ก่อนที่เด็ดก้าจะทันได้ตอบ...มีเสียงดังขึ้นมา...อย่างกึกก้อง...ครูสาวกางมือออกราวปกป้องเด็กทั้งหมด...ทุกคนกางมือออกมาดอบล้อมกันเป็นวงกลม...มือแต่ละมือที่สัมผัสกันส่งผ่านความคิด ความรู้สึกราวประจุไฟฟ้าที่ไหลผ่านเด็กทั้งหมดคนแล้วคนเล่า...เด็กทั้ง 17....ทั้งหมดจับมือประสานกันเป็นวงกลมมีกระแสแห่งจิตแล่นผ่านไปมาในแต่ละคน หมุนคว้างดำดิ่งๆ...ลึกลงไป ลึกลงไป

    "อย่าได้หวาดหวั่น...จงเรียนรู้ที่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน บางคนอาจเห็นเป็นหน้าของปีศาจ บางคนอาจเห็นเป็นมนุษย์ต่างดาว...จงเชื่อมั่นในจิตบริสุทธิ์ของพวกเธอ...เชื่อมั่นและเรียนรู้ไปด้วยกัน...อย่าปล่อยมือกัน จงเรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในร่างอีกมิติของพวกเธอ " เสียงนุ่มนวลของครูใหญ่ดังก้องท่ามกลางเสียงครืนครางลั่นของท้องฟ้าที่มืดมิดและมีแสงประหลาดปรากฏเป็นระยะๆ

    เดร็ดก้าจับกระชับมือเพื่อนข้างๆไว้...จงเชื่อมั่น...
    ทั้งหมดหมุนคว้างสู่ความว่างเปล่าไร้น้ำหนักและไร้ขอบเขต...จนมองดูกลุ่มเด็ก 17 คนกลายเป็นจุดเดียวเล็กๆในความกว้างใหญ่ของขอบเขตแห่งจิตจักรวาล มีจุดเล็กๆคล้ายพวกเขาอีกมากมาย ทั้งหมดหมุนเข้าสู่ศูนย์กลางที่เห็นอยู่ไกลลิบนั้น..เรากำลังจะไปที่ไหน...
     
  17. sarissa

    sarissa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +631
    ขอโทษค่ะ หัวหน้าห้อง ตัดออกไปได้เลยค่ะ
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ต่อได้เลยครับไม่ต้องตัดออก..
    เดี๋ยวเราค่อยเอาไปเกลาเนื้อเรื่องและตัดต่อกันอีกทีได้ครับ
    ถ้ามี Idea อะไรดีก็ส่งเข้ามาได้เลยครับ
    (good)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ต่อได้เลยครับไม่ต้องตัดออก..
    เดี๋ยวเราค่อยเอาไปเกลาเนื้อเรื่องและตัดต่อกันอีกทีได้ครับ
    ถ้ามี Idea อะไรดีก็ส่งเข้ามาได้เลยครับ

    เห็นด้วยกับ หัวหน้า mead ค่ะ นิยายเรา ไม่มีลำดับหน้าหลัง ใครคิดอะไรได้ เขียนเลย
    ....เชื่อซิ เดี๋ยว มันต่อกันจนได้เองแหล่ะ ค่ะ
    แล้วเป็นเรื่องที่ ไม่มีใครสามารถ เดาตอนจบได้ด้วย เราจะจบพร้อมๆกันค่ะ....(good)
     
  20. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เพื่อน ๆ ชาวห้องวิทย์ฯ อ่านข้อความนี้แล้วรู้สึกยังงัยบ้างคะ?
    สำหรับขจรวรรณอ่านแล้วน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว และเข้าใจความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาในจิตใจของตัวเองมาในช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมานี้ และก็ขอขอบคุณจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถูประสงค์ทุก ๆ คน คุณMead, คุณเซลล์, คุณsoul และคุณdred ที่แสดงความเป็นห่วงในความรู้สึก เมื่อวานพี่จินตวดีก็โทรเข้ามาคุยด้วยนานเลยค่ะ แสดงว่าพี่ประสาทสัมผัสภายในสุดยอดเลยค่ะที่สามารถจับอารมณ์ภายในของขจรวรรณได้ว่าถึงแม้ว่าข้างนอกเราจะหัวเราะแต่กลับรู้สึกว่าข้างในของเราเศร้ามาก ก็ขอกล่าวไว้เพียงเล็กน้อยนะคะว่าขจรวรรณไม่ได้เศร้าเพราะโลกทางกายภาพแต่เป็นความรู้สึกภายในของจิตวิญญาณตัวเอง เอาไว้โอกาสหน้าถ้าชัดเจนกว่านี้แล้วจะเล่าให้ทุก ๆ คนฟังค่ะ..

    รักพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องวิทย์ฯ มากที่สุดเลยค่ะ..(kiss)(kiss)(kiss)
     

แชร์หน้านี้

Loading...