เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พี่นักเขียนต้องขอออกตัวอีกเป็นครั้งที่สองว่า เขียนนวนิยายแทบไม่เป็นเพราะคุ้นเคยแต่การเขียนตำราเรียนและเรื่องจริงไม่อิงนิยายมาตลอดอายุการเขียนที่แม้จะสั้นเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ แต่ก็กลายเป็นชีวิตและจิตวิญญาณทั้งหมดของตนเอง พี่นักเขียนคาดหวังที่จะนำประสบการณ์จริงมาถ่ายทอด จึงขอถอด costume Mrs. Writer ออก และสวมชุดพี่นักเขียนตามเดิม เพราะรู้สึกว่าทำให้ถ่ายทอดอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้อย่างตรงไปตรงมา

    พี่นักเขียน ฝันเห็นตนเองสวมจิตวิญญาณของสตรีร่างโปร่งบาง หรือ Lady with the bob hair ที่นำกลุ่มคนที่เข้ามาพักแรมและเรียนหนังสือไปยังอาคารที่พัก ซึ่งเต็มไปด้วยห้องพักจำนวนมาก ระลึกถึงจุดเริ่มต้นที่ตนเองและสามีได้สร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมา มันเคยเป็นเพียงที่ดินว่างเปล่าที่มีเพียงเต้นท์พักแรมเท่านั้น และมันก็ใช้การได้เพียงปีละไม่กี่เดือน เพราะฤดูหนาวอันแสนนานไม่เอื้ออำนวยให้ใช้การได้ พี่่นักเขียนระลึกถึงความเหนื่อยยากที่ได้ผ่านพ้นมา หลักสูตรของพี่นักเขียนเน้นการทำสมาธิเป็นหลักในการเข้าถึงความรู้จากภายใน

    โรงเรียนหรือโบสถ์ของพี่นักเขียนปราศจากศาสนาหรือรวมทุกศาสนาเข้าด้วยกัน มันทำให้พี่นักเขียนต้องผจญกับการตอบปัญหาของผู้นำศาสนามากหน้าหลายตาด้วยกัน ตลอดจนชาวบ้านที่ยึดมั่นถือมั่นในศาสนาอย่างตาบอดซึ่งปฏิเสธและแม้แต่ประสงค์ร้าย ในขณะที่สถาบันของพี่นักเขียนได้รับการยอมรับจากผู้คนต่างศาสนาที่มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้อ่านหนังสือของพี่นักเขียนเพียงไม่กี่คน

    พี่นักเขียน ฝันเห็นตนเองนั่งรถผ่านเข้าไปในถนนสายหนึ่ง ซึ่งมีต้น Oak สูงใหญ่เรียงรายสองข้างถนน ถนนสายนี้เลี้ยวขวาไปสู่บ้านสีขาวหลังคาจั่วทรงสูง พี่นักเขียนรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอันมาก มันสัมพันธ์กับบุคลิกภาพของพี่นักเขียนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่พี่นักเขียนคือ Lady with the bob hair..... ในขณะที่พี่นักเขียนมองดูบ้านสีขาวหลังคาจั่วทรงสูงนั้น พี่นักเขียนตระหนักว่าตนเองกำลังฝัน พี่นักเขียนจึงถามขึ้นว่า ที่นี่คือสถานที่อะไร และได้รับคำตอบว่า... "มันคือจุดเริ่มต้นของอนาคต ...จากรอยต่อในอดีตของฉัน"
    [​IMG]

    พี่นักเขียน และสามีพร้อมด้วยลูกชายหญิง ย้ายจากกรุงเทพฯ กลับมา Lawrence, Kansas เมื่อ 7 ปีที่แล้ว Lawrence มีมนต์ประหลาดที่ทำให้พี่นักเขียนเฝ้าหวลคิดถึงเสมอๆ และทำให้ต้องเดินทางกลับมาหลายครั้งด้วยกัน การกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อ 7 ปีที่แล้วนี้เป็นการย้ายกลับมาใช้ชีวิตที่นีเป็นครั้งที่สี่ อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่มันเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    ยามหลับพี่นักเขียนฝันถึงบ้านที่มีน้ำพุ 100 อัน และกลับไปใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่มาเรียนกับพี่นักเขียนเสมอๆ ยามตื่นพี่นักเขียนยังคงค้นหาบ้านเก่าที่มีน้ำพุ 100 อันนั้นต่อไป แต่ก็ยังค้นไม่พบ

    หลังจากย้ายกลับมาได้เพียงสัปดาห์เดียว เช้าวันหนึ่ง Greg-เพิื่อนเก่าของสามีของพี่นักเขียนมาเยี่ยมพี่นักเขียนและสามีที่ apartment เพิื่อไถ่ถามทุกข์สุข เขาถามพี่นักเขียนขึ้นว่า "มาคราวนี้ you จะกลับไปสอนหนังสือที่ University of Kansas อย่างเคยหรือเปล่า?" พี่นักเขียนตระหนักดีว่าคำตอบของพี่นักเขียนอาจทำให้เพื่อนเก่าแก่ที่รู้จักพี่นักเขียนในฐานะสถาปนิกและนักการศึกษา ซึ่งสอนหนังสือหรือทำงานให้หน่วยงานในมหาวิทยาลัยมากว่า 20 ปีต้องประหลาดใจ แต่ก็คิดว่าคำตอบของพี่นักเขียนอาจเหนี่ยวนำไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่มีความหมาย พี่นักเขียนจึงตอบตามตรงว่า " ชีวิตของ I ผกผันไปมากมาย ปัจจุบันนี้ I เป็น certified meditation instructor และอยากจะทุ่มเทกับการสอนสมาธิมากกว่าที่จะกลับไปสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย "

    แทนที่เพื่อนเก่าจะประหลาดใจ เขากลับทำให้พี่นักเขียนประหลาดใจด้วยการตอบว่า "จริงหรือ? บาทหลวงที่โบสถ์ของ I กำลังหาครูสอนสมาธิอยู่พอดีเลย I จะพา you ไปพบท่านพรุ่งนี้เลย!" หลังจากนั้น Greg ก็สัมภาษณ์ว่า อะไรทำให้พี่นักเขียนที่เขาเคยรู้จัก กลายเป็นครูสอนสมาธิไปได้

    พี่นักเขียนเล่าให้เพื่อนเก่าของสามีฟังถึงความผกผันจากชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่า เต็มไปด้วยงาน สังคมและการเดินทางรอบโลก แม้ว่าชีวิตของพี่นักเขียนจะพร้อมพรั่งไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง แต่บางสิ่งบางอย่างดูเสมือนจะขาดหายไป มันทำให้พี่นักเขียนมุ่งหวังที่จะแสวงหาความรู้บางอย่าง มันเหนี่ยวนำให้พี่นักเขียนกับสามีเดินทางไปทั่วโลก แต่ไม่ว่าเราจะเดินทางไปไกลเพียงใด ดูเสมือนว่าสิ่งที่เราค้นหา ก็ยังคงไกลสุดเอื้อมไม่ต่างไปจากเดิม การฝึกปฏิบัติสมาธิทำให้เราหันกลับมาพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และรู้สึกว่าสิ่งที่เคยไกลสุดเอื้อมและหาไม่พบ กำลังใกล้เข้ามาทุกที แต่พี่นักเขียนก็ยอมรับว่า ยังหามันไม่พบ เพียงแต่เต็มไปด้วยความหวัง ความพอใจ และมั่นใจมากขึ้น แม้ว่าได้ชื่อว่าเป็น certified meditation instructor แต่พี่นักเขียนก็ตระหนักว่า ตนเองยังเป็นเพียงนักเรียนแห่งสถาบันจิตวิญญาณ ที่ยังคงต้องเรียนรู้และแสวงหาความรู้ต่อไปอีกมาก

    การเรียนสมาธิและการเดินทางทั้งหลายเหนี่ยวนำให้พี่นักเขียนเกิดความฝันประหลาด คืนแล้วคืนเล่า พี่นักเขียนฝันว่าตนเองได้เดินทางไปยังสถานที่ที่อยู่ ณ ชั้นที่ 17 ที่ปราศจากผู้คน แต่ดูเสมือนว่ามันเป็นสถานที่อึกทึกและเนืองแน่นไปด้วยนักเรียน ห้องสมุดขนาดยักษ์ทีปราศจากชั้นหนังสือ ปราศจากหนังสือ แต่แน่นขนัดไปด้วยข้อมูลความรู้ที่บุคลิกภาพทั้งหลายที่ปรากฏ ดูเสมือนจะเต็มไปด้วยเป้าหมายที่คล้องจองกัน คือ การรับและนำข้อมูลความรู้เหล่านั้นไปถ่ายทอด

    ข้อมูลความรู้ปริมาณมหาศาล หลั่งไหลมาสู่สติสัมปชัญญะ มันท่วมท้นไปด้วยอารมณ์รัก จินตนาการอันสร้างสรรค์ และความรู้สึกนึิกคิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปัญญาและความเมตตาที่หาที่เปรียบไม่ได้ การให้ของบุคลิกภาพที่ปราศจากตัวตนซึ่งเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ที่พี่นักเขียนกลับไปหาคืนแล้วคืนเล่าที่ชั้น 17 เป็นการให้ด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไข ทุกข้อมูลที่ไหลรินออกมาจากจิตวิญญาณของท่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่จะให้อย่างไม่มีที่ิสิ้นสุด

    พี่นักเขียนจดบันทึกที่ได้รับมาจากความฝันไว้ทุกเช้า ข้อมูลที่หลั่งไหลมาสู่สติสัมปชัญญะของพี่นักเขียนนั้นมากมายมหาศาลและรวดเร็ว พี่นักเขียนจะทำได้อย่างมากก็เพียงจดทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างตรงไปตรงมาที่สุด โดยไม่ม่ีโอกาสจะวินิจฉัยหรือต่อเติม พี่นักเขียนพบว่าตนเองจดบันทึกทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับการจด lecture ที่พี่นักเขียนไม่อาจจดเป็นภาษาของตนเองได้ เพราะข้อมูลทั้งหมดเป็นเสมือนภาษาต่างด้าวสำหรับพี่นักเขียน แม้ว่าจะเข้าใจข้อมูลทั้งหมดก็ตาม

    วันรุ่งขึ้น Greg มารับพี่นักเขียนแต่เช้าตรู่เพื่อจะพาไปพบบาทหลวงของโบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง เมื่อรถแล่นข้ามสะพานที่พาดผ่าน Kansas River, พี่นักเขียนรู้ว่ามันเป็นเส้นทางที่ตนเองไม่เคยไปมาก่อน แต่เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปยังถนน Lincoln St. ต้น Oak ร้อยปีที่เรียงรายสองข้างทางทำให้พี่นักเขียนหวลระลึกถึงความฝันขึ้นมาอย่างฉับพลัน

    พี่นักเขียนกล่าวกับเพื่อนของสามีทันทีว่า " Greg, you อย่าบอกนะว่า สถานที่ที่เรากำลังจะไป เป็นบ้านสีขาวหลังคาจั่วทรงสูง..." Greg หันหน้ามามองพี่นักเขียนพร้อมกับเลิกคิ้วแล้วตอบว่า "As a matter of fact...." พูดยังไม่ทันจบประโยค เขาหักรถและเลี้ยวขวาเข้าไปยังลานจอดรถทันที รถของเขาจอดอยู่หน้าบ้านหลังย่อมสีขาว หลังคาจั่วทรงสูงในทันทีทันใด ...Greg หันหน้ามามองพี่นักเขียนอีกครั้ง คิ้วของเขาเลิกสูงยิ่งไปกว่าเดิม "It is!"

    ทันทีที่ Greg พาพี่นักเขียนก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถงทางเข้าของตัวบ้าน สตรีร่างท้วมเตี้ยก็ก้าวออกมาจากห้องเล็กๆที่เป็น office ของเธอใกล้โถงทางเข้า เธอตรงเข้ามาสวมกวดพี่นักเขียนราวกับเป็นคนรู้จักกันมานมนานโดยออกปากว่า "โอ! ครูที่ฉันรอคอยมานาน....มาถึงแล้ว" ดวงตาของเธอเป็นประกาย น้ำตาคลอขึ้นมาทั้นที ส่วนพี่นักเขียนรู้สึกขนลุกตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า บาทหลวงท่านนี้เป็นสตรีชาวอเมริกัน วัยเดียวกับพี่นักเขียน โบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า Unity Church แม้ว่ามันจะดูเสมือนว่าเป็นโบสถ์คริสต์ แต่หลังจากนั้นไม่นานพี่นักเขียนก็พบว่า มันเป็นโบสถ์ในความฝันของพี่นักเขียน มันเป็นโบสถ์ที่ปราศจากศาสนาหรือรวมทุกศาสนาเข้าด้วยกัน!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • oakalley.jpg
      oakalley.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36 KB
      เปิดดู:
      1,104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  2. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อ่านไปขนลุกไปด้วยเลยครับ...ไม่มีคำพูดอะไร ที่จะเปรียบได้กับความยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณครับ :cool:

    เมื่อวานผมอ่านหนังสือเรื่องธรรมชาติชาติภพ บทที่ 5 เรื่องจิตวิญญาณต่างร่างร่วมมิติ ตอนอ่านไปเรื่อยๆก็งงไปเรื่อยๆ เพราะใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการอ่านไปครับ ก็อ่านไปเรื่อยๆและทำความเข้าใจไปเรื่อยๆอีก รู้สึกว่าเซลล์ที่สมองซีกซ้ายมีพลังงานดันออกมา แล้วก็โล่งไปเลย จากนั้นอ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย คือไม่มีการตีความอะไรเลย อ่านต่อไปเรื่อยๆเหมือนกับเป็นการซึมซับข้อมูลเข้ามาครับ

    พอก่อนนอนก็เลยขอให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเกี่ยวกับบทนี้ ตอนใกล้ตื่นฝันว่า มีนักแสดงเด็กคนนึง เค้ามาหา และก็แนะนำพี่ชายให้รู้จัก บอกว่าคนนี้จะเป็นตัวแทนเค้าต่อไป ผมก็ถามเค้าว่า เธอยังสามารถแสดงได้ต่อไปนี่นา เค้าก็ยิ้มรับ ไม่มีคำตอบอะไรจากปาก แต่เค้าภูมิใจที่พี่ชายเค้าจะเข้ามาแสดงบทบาทนี้แทน

    ถ้าบุคลิกภาพหนึ่งบุคลิกภาพ เปลี่ยนความเชื่อบางสิ่งบางอย่างเป็นความเข้าใจ จะส่งผลดีต่อบุคลิกภาพอื่นๆ ที่เป็นพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน ที่เป็นร่างกายเนื้อหนัง และไม่ได้เป็นร่างกายเนื้อหนัง หรือไม่ครับ ในด้านมิติพลังงาน
    ยกตัวอย่างเช่น หากบุคลิกภาพที่รับบทเป็นพ่อเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์โกรธอย่างถ่องแท้ และรู้ว่ามีวิธีอื่นอีกที่เหมาะสม ที่จะกระทำ โดยไม่จำเป็นที่ต้องใช้อารมณ์ดังกล่าว

    ในทางมิติพลังงาน จิตวิญญาณต่างร่างข้างต้น จะได้รับผลดีจากความเชื่อที่เปลี่ยนเป็นความรู้ ของบุคลิกภาพที่เป็นพ่อหรือไม่ครับ ทั้งบุคลิกภาพที่มีร่างกายเนื้อหนัง และบุคลิกภาพที่ปราศจากร่างกายเนื้อหนัง (f)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    Prissila 1
    เย็นวันหนึ่งขณะที่ Prissila เดินทางกลับจากโรงเรียนชั้นประถมซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านของเธอ
    " Prissila! Prissila! มานี่เร็ว! " เสียงพ่อตะโกนเรียกเสียงลั่นบ้านพร้อมกับกวักมือเรียกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
    ร่างกลม ๆ ของเธอรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อด้วยความตื่นเต้นและถามว่า " มีอะไรเหรอคะคุณพ่อ! "
    ทันใดนั้นพ่อก็จับร่างของเธอไว้ พร้อมกับคว้าลูกเจี๊ยบที่อยู่ในกล่องกระดาษมาจิกปากเธอ
    " ไม่เอา! ไม่เอา! นู๋โกรธพ่อแล้วนะ! " เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธและพยายามดิ้นสุดฤทธิ์
    แต่พ่อของเธอกลับหัวเราะเสียงดังลั่น พร้อมกับเอามือลูบผมฟู ๆ เบา ๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า " นึกว่าจะไม่พูดอะไรซะแล้ว " เธอยืนมองพ่อของเธอด้วยความงุนงง

    คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าเดิมทีพ่อกับแม่ก็ยินดีที่ลูกว่านอนสอนง่าย บอกให้นั่งก็นั่ง บอกให้นอนก็นอน แต่พอเริ่มโตขึ้นกลับพบว่าเธอขอบนั่งอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียวตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ยังเล็กมาก เพื่อนบ้านถามอะไรก็ไม่โต้ตอบกับเค้า จนคุณแม่เริ่มเป็นห่วงกลัวว่า Prissila จะเป็นเป็นเอ๋อรึปล่าว?

    Prissila ชอบที่จะไปนั่งพนักพิงตรงระเบียงบ้านและมองดูกิ่งไผ่ที่หลังบ้านล้อกับสายลมอยู่ตลอดเวลา จิตใจของเธอรู้สึกอ่อนโยนอย่างประหลาดทุกครั้งที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้

    อีกมุมหนึ่งในโรงเรียน Prissila ชอบที่จะเป็นผู้พิทักสันติราษฏร์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงที่ถูกเด็กผู้ชายตัวโต ๆ รังแก เธอรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้ชกต่อยเพื่อนชายชนะ และชอบปีนรั้วช่วงพักเที่ยงหนีไปทานอาหารบ้านเพื่อนบ่อยครั้ง แล้วก็ถูกคุณครูตีด้วยไม้เรียวเป็นประจำเพราะความเกเร

    Prissila ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมบุคลิกภาพของเธอจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งอย่างที่สุด
    เธอเป็นเด็กเรียบร้อยของพ่อแม่ เป็นผู้คุ้มครองของเพื่อนหญิง แต่เป็นเด็กแสบของเพื่อนชาย
    เธอมีอารมณ์อ่อนไหวคล้ายคุณพ่อ ขณะเดียวกันก็เข้มแข็งและอดทนคล้ายคุณแม่
    เธอซ่อนความกลัวไว้ลึก ๆ แต่ก็มีความกล้าเมื่อต้องเผชิญหน้า
    เธอดูเหมือนคนใจดีมีเมตตา แต่ก็ชอบเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวในบางครั้ง
    เธอชอบเอาอกเอาใจผู้สูงอายุ แต่ก็ชอบงอนและชอบอิจฉาพี่ชายด้วย ฯลฯ
    แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้นะ? เธอครุ่นคิด(cry)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คุณนักเขียนเคยฝันถึงการสร้างโรงเรียนสอนทำสมาธิที่ประเทศไทยไหมคะ ถ้าเคยจินตวดีจะขอร่วมจดจ่อค่ะ อยากให้เส้นทางความเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ รบกวนเพื่อน ๆ มาช่วยกันจินตนาการกันเถิดค่ะ อยากเจอคุณนักเขียน เคยเจอผู้หญิงในฝันคนหนึ่ง จินตวดีวาดรูปไว้ด้วยล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    คุณเดรค กับคุณเซลล์ วันหลังคงต้องหาเวลามา ชนแก้ว (น้ำอัดลม) กันหน่อยล่ะค่ะ ส่วนของน้อง แอ๊ก เปลี่ยนเป็นกาแฟดอยตุงแทน พูดถึงกาแฟแล้ว อยากไปดื่มแถวลอเรนซ์จัง เสียดายค่าตั๋วแพงไปหน่อย ดื่มแถวสัตหีบนี่แหละ ถูกดีแล้ว อิ ๆๆๆ
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เคยได้ยินมาว่าทางฝรั่ง เจริญแต่ทางวัตถุแต่ทางจิตใจลดต่ำลง

    แต่อ่านข้อความของพี่นักเขียนทีไร รู้สึกว่าอเมริกา เต็มไปด้วยความรุ่มรวยทางจิตวิญญาณ มีการพัฒนาจิตวิญญาณกันอย่างไม่มีขอบเขตมาแบ่งกั้นยังไงก็ไม่รู้

    เหมือนผลึกที่เติบโตไปได้ในทุกๆ ทาง และกำลังที่จะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
     
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ไม่ค่อยดื่มกาแฟเลย จะชอบแต่ชามากกว่า เคยดื่มชารสมินต์ โอ้ ถูกใจหลาย
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ไม่อยู่แค่ 3 วัน ต้อง back To The Future ตามอ่านกระทู้"อนาลัยนคร"กันหลายตอนเลยครับ
    ดูท่าเรื่องราวจะสนุกและเข้มข้นขึ้นทุกทีแล้วนะครับ..ทุกท่านเล่าได้สนุกมาก อิอิ

    2-3 วันมานี่พอดีได้ไปดูคุณบรรจงเค้าสร้างกังหันลมครับ เริ่มจากแรงบันดาลใจง่ายๆที่เกิดขึ้นตอนไปเห็นกังหันลมของต่างประเทศที่เขื่อนแห่งหนึ่ง จากที่ไม่รู้ไรเลยก็ค้นคว้าเรียนลัดจาก net หลายเดือนจนกระทั่งสร้างสรรค์ออกมาจนสำเร็จในราคาประหยัดที่สุด และทุ่มเทกับการทำและการสอน ถ่ายทอดเทคนิคทั้งหมดให้คนที่สนใจมาตลอด 15 ปีเต็มครับ..และไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการสอนแม้แต่น้อย..ทั้งในประเทศและประเทศใกล้เคียง อย่างพม่าที่พิ่งเจอกับพายุนาร์กิสก็ไปสอนเทคนิคให้เค้ามาหมาดๆครับ..เป็นตัวอย่างที่เห็นแล้วน่าชื่นชมและปรมมือให้จริงๆครับ พี่เค้าค้นพบตัวเองและมุ่งมั่นทำตามความปรารถนาสำเร็จได้อย่างที่ต้องการนะครับ พวกเราที่ไปด้วยกันมาก็คงได้ซึมซับความมุ่งมั่นจากพี่เค้ามาพอสมควรครับ.. คุณซิปฯน่าจะลองคิดสร้างพลังงานใหม่หรือทำกังหันลมแบบลอยฟ้าดูบ้างนะครับ อิอิ...

    มีคำพูดน่าประทับใจ..ถึงการค้นคว้า พัฒนากังหันลมราคาประหยัด
    และเผยแพร่อย่างไม่หวงวิชาแม้แต่น้อยของพี่บรรจงว่า...

    "สิ่งที่ทำนั้น เป็นตัวอย่างของคนกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด ..
    ...ผมเป็นเทียนเล่มหนึ่ง ที่พร้อมจะมอบความสว่างให้กับเทียนเล่มต่อๆไป .."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  9. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    มีคนคิดทำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบจิ๋ว ติดไว้ตามเสื้อผ้าเวลาเราเดินมันก็จะไปสั่นสะเทือนเจ้าเครื่องพวกนี้ให้ผลิตพลังงานออกมา ซึ่งถึงแม้แต่ละตัวจะผลิตได้น้อย แต่รวมกันมากๆ ก็ผลิตไฟฟ้าออกมาได้เยอะเหมือนกัน

    แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ จะซักผ้ายังไงไม่ให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดจิ๋วเหล่านั้นเสียหาย???
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    วันก่อนพาหลานชาย 7 ขวบไปเที่ยวดรีมเวิลด์ (รับปากเอาไว้ตั้งแต่ปิดเทอมแล้ว)
    บอกว่าจะพาไปเข้า "บ้านผี" และล่องแก่ง"? ทดสอบเรื่องความกลัว..
    หลานคนนี้ไม่เคยเข้าไปมาก่อน แต่อยากเข้าเอามากๆ 555
    ก่อนเข้าไปบอกเค้าว่าของปลอมทั้งนั้นแหละ
    เค้าก็ไปบอกเด็กคนอื่นๆว่าอย่ากลัว ตามเค้ามาเลย
    ปรากฎว่าเอาเข้าจริง เด็กๆกับผู้ใหญ่อีกชุดนึงก็ไม่มีใครกล้าเดินนำสักคน
    ผมเลยต้องเดินนำซะเอง..ก็เดินดุ่ยๆเข้าไปใน..บ้านผีสิง
    มืดสนิทจริงๆ..ก็ไม่รู้มือใครเป็นสิบๆจับแขนตามผมเข้ามาเป็นขบวนเลย เอิ๊กๆ
    ก็แปลกดีครับ ถ้าเป็นเด็กๆจะกลัว เดี๋ยวนี้สบายมาก เดินดูไปเหมือนชมวิวเฉยๆไม่ตกใจเหมือนแต่ก่อน
    ความเชื่อเปลื่ยนไปมากครับ ยิ่งมาเรียนเรื่องจิตวิญญาณด้วยแล้วความกลัวจะหายไปเยอะมาก
    จะมีก็แต่เรื่องโดดหอสูงๆ และนั่งกระเช้าที่พัทยานี่ล่ะที่ยังต้องทดลองอีก
    เมื่อก่อนจะหวั่นๆไม่กล้าโดดเลย..(อิอิ) เชื่อว่าถ้าเปลื่ยนความเชื่อได้เราจะทำได้ในที่สุดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ตรงกันข้ามเลย นี่เข้าบ้านผีสิงยังกลัวเลย กลัวตรงที่ว่าอยู่ๆ มันก็มีเสียงมีอะไรมาโผล่นี่แหล่ะ แบบมันทำให้ตกกะใจ

    แต่โดดหอนี่ ตอนเรียนรด. ไม่รอให้ทหารเค้าผลักลงไป โดดลงไปเลย เพราะมีเชือกติดกับตัวเรานี่ แต่ไม่รู้ว่าที่พัทยานั่นจะสูงกว่าที่รด.หรือเปล่า
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    โดดหอ ร.ด. แค่ 38 เมตรกำลังสนุกนะครับคุณซิปฯ
    แต่หอคอยโรงแรมพัทยา ปารค์ รู้สึกว่าจะสูง 54 ชั้นครับ
    ว่างๆไปลองดูมั๊ยครับ อิอิ..รับรองว่าสนุกกว่ามากๆ
    ถ้าเอาชนะความกลัวได้นี่ให้ไปโดดร่มหรืออย่างอื่นคงจะเป็นเรื่องง่ายๆไปเลยนะครับ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  13. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    สูง.ง..ง...ง....ง มากเลย
    สงสัยตอนจะเล่นคงต้อง มองวิวเฉยๆ แล้วอย่าไปปรุงแต่งจิตว่ามันสูงน่ากลัว ถึงจะกล้าดิ่งลงมา

    แต่คิดนะครับ ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ จะทำได้หรือเปล่าก็อีกเรื่อง 555 ไม่ก็คิดว่ามีเชือกยึดอยู่ไม่ตกตายหรอก
     
  14. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อย่างนี้ต้องชนแก้วครับ ทั้งคุณ jin,คุณเดรด และคุณ zip คอเดียวกัน
    คุณ mead เล่าเรื่องผีให้ฟัง นึกถึงหลานที่บ้านเลย ต้องให้ไปเฝ้าหน้าห้องน้ำตลอด กลางวันยังต้องไปนั่งเฝ้าเลยครับ อิอิ
    ตอนเด็กๆผมก็กลัวผีเหมือนกัน แต่ไม่เคยเจอหรอกนะครับ จินตนาการมันไปไกลเกิน 55
    พอโตขึ้นมาเลิกกลัวแล้ว ชอบประโยคของ อ.อนาลัย เล่มแรก บทที่ 3 หน้า 20
    เลยเข้าใจว่าเราก็ผีเหมือนกันนี่นา เพียงแต่มีร่างกายเท่านั้นเอง

    หอคอยที่พัทยาปาร์ค สูงมากๆเลยครับคุณ mead ยังไม่เคยไปเล่น แต่น่าเล่นนะครับ
    เคยไปกับเพื่อน เล่นแต่ tower shot
    ส่วน the tower มีเพื่อนอีก 2 คนเค้าไม่กล้าเล่น เค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวขอไปโรยตัวที่หอคอยแทน
    คนที่เล่น tower shot เสร็จก็นั่งรอว่าเมื่อไร 2 คนนั้นจะมา
    2 ชั่วโมงผ่านไป กลับมาพร้อมกัน 2 คน ชาย 1 หญิง 1
    ผู้หญิงโรยตัวเรียบร้อยแล้ว เพื่อนอีกคนไม่กล้าลงยืนอยู่ข้างบน หมดผ้าเช็ดหน้าไปสองผืนครับ (เช็ดเหงื่อจนชุ่มเลย) อิอิ
    ส่วนหอคอยที่พัทยาปาร์ค ผมก็ยังไม่เคยลองเลย ไว้ว่างๆน่าลองดีเหมือนกันครับ อิอิ ไม่รู้ว่าเหงื่อจะชุ่มเหมือนกับเพื่อนคนนั้นรึเปล่า (smile)
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เมื่อสัก 5 ปีก่อนคิดว่าจะลองโดดหอคอยลงมาครับ พอขึ้นไปเห็นเข้าจริงก็เปลื่ยนใจเลย 555
    เพราะเพื่อนแต่ละคนถอดใจกันหมด..ตอนนั้นยิ่งมีข่าวว่าเชือกสลิงขาดด้วย เลยต้องลงกระเช้าแทนครับ
    tower shot ก็น่าเล่นนะครับคุณเซลล์ ของพวกนี้ถ้าลงไปเล่นแล้ว เชื่อว่าเราเปลื่ยนความกลัวเป็นความกล้าได้จริงๆ..เห็นมีบางแห่งให้ออกมาเดินเล่นบนกระจกใสๆ ที่อยู่บนยอดตึกระฟ้าด้วย ถ้ารู้จักเล่นก็มีประโยชน์มาก..แต่การเสี่ยงอะไรพวกนี้หากเราประมาทเกินไปอาจเป็นผลเสียได้เหมือนกันนะ ถ้าเราครองสติได้ดีถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่านะครับ

    เด็กๆเคยเจอวิญญาณจังๆครั้งนึง.. เป็นผู้หญิงใส่ชุดไทย เดินอยู่ในห้องนอนที่มีเสาบ้านเป็นไม้เก่าๆแถวบางเสร่ เท้าลอยจากพื้นด้วย..พอเรามองเค้าเค้าก็หันมามองเราอีก..ก็ได้แต่เอาผ้าห่มคลุมโปงไว้
    พอเช้าก็ถามคนที่นั่น เค้าก็เล่าให้ฟังว่ามีเจ้าแม่ที่ชาวบ้านแถบนั้นเค้านับถือมากอยู่ที่เกาะฝั่งตรงข้าม..ตอนนั้นก็ผวาเหมือนกันนะ เดี่ยวนี้ไม่รู้ถ้าเจออีกจะเป็นไง อาจจะคุยกับเค้าก็ได้ครับถ้ามาดีๆ


    อ้อ..ถ้าพูดถึงโค๊ก-เป๊ปซี่ ก็คอเดียวกันครับ ชนแก้วด้วย อิอิ
    แต่เดี๋ยวนี้ก็ทานน้อยลงครับเพราะได้ข่าวว่ากรดน้ำอัดลมก็มีอันตรายไม่น้อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  16. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728


    จำได้ตอนสมัยเรืยน ก็ได้โดดหอกับเขาด้วย แต่จำได้ว่าไม่ได้กระโดดเอง รู้สึกว่าจะโดน.....ยันลงมา คิดแล้วขำ พอเขาบอกให้กระโดด เราก็กระโดดเหมือนกัน แต่กระโดดกอดเสาแทน ฮ่า ๆๆๆ ส่วนหอคอยพัทยาปาร์คเนี่ย สูงมาก ไม่เคยเล่นเองได้แต่เขียร์แขกให้เล่น ว่างๆจะมาโดดกันล่ะก็ ส่งเสียงเล็กน้อยหน่อยละกัน จะได้ไปเป็นกำลังใจให้ โดดเสร็จ ดินเนอร์กันบนหอคอยต่อเลยน่าจะดีนะ ว่าไง !!!!
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441


    ดีครับ คราวนี้จะเชียร์คุณเอ+คุณซิปฯ+คุณเซลล์ โดดลงมาเป็นเพื่อนด้วยซะเลย
    โดดหอเสร็จค่อยดินเนอร์+ชมวิวต่อท่าจะดีนะครับ
    (||)(||)(||)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณจินต์ ที่โดดหอคอยนี้ ปกติมีคนโดดกันเยอะมากหรือเปล่าครับ กลัวว่าโดดเสร็จขาจะอ่อน ไปกินดินเนอร์ต่อไม่ไหวสิครับ 555
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    รู้สึก ชาวห้องวิทย์ จะนัด meeting กันกลายๆ นะเนี่ย ก็ดีนะค่ะ ได้รู้จักหน้าค่าตากัน

    แต่..เดรด ม่ายโดดนา กัวอ่ะ...ขอเป็น พัทยา เซอร์กิต แทนได้มั๊ยค้า
     
  20. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    [​IMG]
    นั่นซิครับ ขาอ่อนทั้งก่อนโดด และหลังโดด ดินเนอร์ต่อจะยิ่งเจริญอาหารรึเปล่า อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...