เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

<TABLE class=tborder id=post1361552 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">17-07-2008, 09:46 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#593 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พี เสาวภา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1361552", true); </SCRIPT>
สมาชิก





</TD><TD class=alt1 id=td_post_1361552 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ผาแดง
นางพญาเนื้อผงน้ำม้น ด้านหลังกดโค้ด ศลด


</TD></TR></TBODY></TABLE>

พิมพ์นี้เราไม่มี
<!-- / message -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

พี่พีครับ

องค์นี้ผู้มีพระคุณท่านหนึ่งในเวปนี้ให้มาครับพี่ ต้องขอขอบคุณมาในที่นี้อีกครั้งด้วยครับ

 

ขอคั่นหน่อยครับ คุณพีครับ อยากฟังเรื่องที่ เฮีย ก
ไปดูตอนหลวงพ่อทรงเสกน่ะครับ เห็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง
อยากรู้มากๆ ถ้าออกอากาศไม่ได้ขอหลังไมค์นะครับ
จะเป็นพระคุณอย่างมากครับ

 

ถึงตัวท่านจะจากไป แต่ท่านยังห่วงใยรับรู้ถึงลูกศิษย์ลูกหาและมหาชน
ยามมีปัญหาที่แก้ไม่ตก ท่านเป็นที่พึ่งทางใจได้เสมอ ท่านยังไม่ทิ้งพวกเรา
ตัวท่านจากไป แต่ความดีงามยังเหลือไว้ ให้คนทั้งหลายได้กล่าวถึงสืบไป
วิชาและของขลัง วัตถุมงคลต่างๆ มากมายก็สร้างให้ไว้ ในแผ่นดิน


;aa17

 

ขอให้จิตตั้งมั่น นึกถึงพระรัตนตรัย แม่พ่อครูบาอาจารย์และหลวงพ่อทรง หมั่นไหว้พระสวดมนต์บ่อยๆ หลวงพ่อท่านรับรองว่าพระท่านทำสำเร็จแล้ว อธิษฐานได้ตามใจปราถนาจริง

ผมเคยคัดลอกคาถา"จินดามณี"ที่หลวงพ่อเคยให้ไว้จากหนังสือเล่มหนึ่ง(หลวงพ่อบอกให้จดไว้ แล้วให้ลงเผยแพร่ได้_ผู้เขียน) ไม่แน่ใจว่าจะนำลงในนี้จะเหมาะสมไหม เพราะเท่าที่ติดตามอ่านมา ยังไม่มีคาถาของหลวงพ่อลงเลย เผื่อพี่น้องสนใจครับ

 

อยากมีไว้เหมือนกันครับ ไม่รู้คุณพีจะว่าไงมั้ง

 

กราบเรียนเชิญเลยครับ และเพื่อไม่ให้ สับสนกันในวันข้างหน้า กรุณายืนยันว่ามาจากหลวงพ่อจริงด้วยตัวคุณเอง จะได้บันทึกไว้ อันนี้จัดว่าเป็นวาสนาเฉพาะตัวน่ะครับ เพราะผมเคยขอท่าน ไม่ได้คาถามาแม้แต่บทเดียวครับ

 

จริงคับ ผมจะได้มีวาสนาสักครั้งนะครับ

 

ข้อความนี้อ่านมาเมื่อวานแล้วน่ะครับ แต่ไม่ได้ตอบ ลองคิดๆดูก่อนว่าผมจะออกแนวไหนดีครับ ถึงจะไม่เว่อร์เกินไป แต่ผมต้องปูเรื่องนิด ให้พวกท่านได้ทราบอรรถรสอันเป็นพื้นฐานของผู้ถูกเล่านิดหน่อย และนี่เป็นการเล่าของผมแต่เพียงผู้เดียว เป็นการเห็นส่วนตัวที่คลุกคลีมา ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัว พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรี และหลวงพ่อทรง หรือ เฮีย ก หรือ ป๋าแต่อย่างใด ผมรับผิดชอบในการเล่านี้แต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้รู้ท่านใด ฟังแล้ว ไม่เข้าท่า ให้ปรามาสผมที่นำมาเล่า หรือ มาโม้แต่เพียงผู้เดียวน่ะครับ ว่าผมนี่ติดสมมุติแบบขี้โม้มากๆ

เฮีย ก ที่ผมเรียก หรืออีกฉายาคือ ป๋า อันนี้เป็นฉายาที่หมู่ลูกศิษย์ พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรี ทราบดีว่าหมายถึงใครเพราะมีท่านเดียว ป๋าเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนมีน้ำใจ ต่อเหล่าน้องๆ ไหว้วานได้ ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ถ้าป๋ารู้หรือใครไปบอก ป๋าจะมาทันที ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ และช่วยเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับพวก กำลังภายใน เพราะป๋าฝึกเข้มมาแบบนี้ เป็นแบบที่ป๋าถนัดมาก

สมัยที่หลวงปู่พระครูบุญศรียังมีสังขารอยู่ พวกเราไปหาท่านบ่อยทุกอาทิตย์และมีของไปให้ท่านเสกประจำทุกครั้ง หลังจากว่างๆจากการสร้างแพโบถส์น้ำหรือการงาน พวกเราก็จะนั่งสนทนากันตรงหน้าหลวงปู่ บางทีถ้ากลุ่มไม่ใหญ่และพวกๆกัน ไม่มีคนแปลกหน้ามาแจม การคุยก็จะกันเองมากขึ้น การสนทนาก็จะลึกหน่อย ในแนวปฏิบัติทางจิต แต่จะออกแนว อิทธิฤทธิ์ๆ ตามรสนิยมของกลุ่ม หลวงปู่ท่านก็จะนั่งเป็นประธาน ท่านจะฟังซ่ะมากและชอบฟัง ท่านจะพูดน้อย และนิ่ง ตามแบบฉบับของท่าน ฟังแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มั่ง นั่งเฉยๆซ่ะมาก แล้วบางทีเราก็ถามปัญหาท่าน ท่านก็จะตอบมั่ง แบบร่วมด้วยแต่สงวนท่าที ตามนิสัยของท่าน แต่ท่านก็นั่งเป็นประธานในกลุ่ม ไม่มีท่าทีเบื่อๆพวกเราแต่อย่างใด เพราะเราทราบดีว่า ท่านเอ็นดูพวกเราเหมือนเป็นลูกเป็นหลานของท่าน และเพราะความเมตตาของท่าน มีมาก เกินพิกัดเหมือนกับหลวงพ่อทรง

วันนั้นเราคุยกันกลุ่มไม่ใหญ่ประมาณ สามสี่คน หน้าเก่าๆ คุยกันไป ชักจะลึก ถามไปหลวงปู่ท่านก็ตอบ ก็คุยๆกันไป จู่ๆ ป๋าก็วกไปถามหลวงปู่ว่า หลวงตาผมอยากเหาะได้ ( หลวงตาเป็นคำเรียกของลูกศิษย์ ถ้าเรียกก็จะทราบว่าใคร แต่ผมไม่เคยเรียกหลวงตา ใช้หลวงปู่มาตลอด ส่วนเรื่องการเหาะ อาจจะมีอิทธิพลแนวคิดมาจาก คุณยาย แม่ชีประทุม ซึ่งได้อภิญญาสมาบัติ และมีอีกฉายาว่า แม่ชีเหาะได้ เพราะมีคำร่ำลือกันว่า มีคนเห็นทางเหาะไปในอากาศอันนี้เห็นกันบ่อยแถวหนองสาหร่าย และคุณยายแม่ชีประทุมท่านนี้เก่งมากด้านอภิญญา พวกเพื่อนของผมที่ทันท่านเจอมาหลายแบบ และท่านก็เป็นลูกศิษย์คนสำคัญของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง และหลวงปู่พระครูบุญศรี ) มาเรียนกับหลวงตาได้ไหม ท่านตอบว่า มาสิ สั้นๆ
<O</O
<O</O

ผมฟังแล้วไม่เชื่อหู นึกว่าท่านพูดเล่น หันไปมองท่านทันที ท่านนั่งนิ่งอยู่ และไม่มีท่าทีพูดเล่นแต่อย่างใด และโปรดทราบว่า หลวงปู่บุญศรีเป็นคนสติดีมาก ไม่ใช่คนพูดเล่นๆ แต่เป็นคนพูดน้อย ไม่พูดไปเรื่อย และไม่ชอบเทศ

แต่ตกลงป๋าไม่ได้ไปเรียน ด้วยสาเหตุส่วนตัว และเพราะลูกยังเล็ก ( ภรรยาท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว ) และบทสรุปของการสนทนาวันนั้น หลวงปู่ท่านบอกว่า อยู่ที่จิตตัวเดียว
<O</O
<O</O

เรื่องแบบนี้ ทำนองนี้มีหลายครั้งในระยะเวลาหลายปีที่ผมไปกราบท่าน แต่ผมไม่เคยเห็นหลวงปู่ท่านเหาะ หรือหายตัวให้ดู แต่ถ้าถามแบบทำนองนี้มีอยู่ครั้ง และถ้าแบบแปลกๆน่ะมีหลายครั้ง และถ้าถามผม ผมตอบแบบมั่นใจเลยว่า ท่านทำได้แบบสบายๆ หวานหมู ( อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวผมน่ะครับ ) เล่าแล้วจะยาวออกไปอีก หลวงปู่ท่านจะเป็นพระแนว ฉฬภิญโญ หรือ ปฏิสัมภิทัปปัตโต และเป็นแบบพิเศษ ด้วยที่มีอภิญญาแก่กล้า การปลุกเสกของๆท่านบางที แค่เอามือตบๆเบาบนกองวัตถุมงคล หรือ กำจับมาส่ง แล้วส่งเสียงแค่ " อึ " แบบอัดพลังเท่านั้น แต่คนที่ได้ไปเจอแบบจังๆก็มี เมื่อถึงเวลามาผมจะมาเล่าให้ฟังก็แล้วกันครับ

แต่ก็พอจะทราบแนว การคิด การปฏิบัติของ เฮีย ก หรือ ป๋าได้ ว่าชอบแบบไหน มีรสนิยมแนวไหน เพราะถ้าเป็นธรรมะล้วนๆ ก็จะไม่ใช่แนวลูกศิษย์วัดใหม่ฯ ไม่ใช่ไม่ชอบหรือไม่ทำ แต่ชอบแนวมีฤทธิ์ครับ หลวงปู่เองท่านก็เป็นพระไม่ค่อยเทศ ไม่ค่อยพูด แต่จะปฏิบัติเลยตามกิจวัตรของท่านด้านอสุภกรรมฐาน ท่านชอบมาก สมัยใหม่หาศพยาก ท่านจะดูหนังสือเอา พวก ๑๙๑ หรือ อาชญากรรม ผมชอบวื้อไปถวายท่าน ผมเคยแอบดู เพราะสงสัยท่านดูอะไร ท่านมองรูปศพเน่าๆอืดเฟะ หรือ เลือดอาบเต็มตัว เหอวะหวะได้เป็นนานๆ แบบชอบพินิจพิจารณา เพลิดเพลิน เหมือนเราดูรูปหนังสือประโลมโลก คุณแม่ผมท่านเคยไปกราบเรียนถามท่านว่า หลวงปู่ สอนกรรมฐานไหมค่ะ ( แม่ผมทำมานาน ตั้งแต่ยุคท่านพ่อลี ) ท่านโบกมือไล่ไปเลย บอกให้ไปเรียนที่วัดท่าซุง ( แบบพื้นฐาน แน่นแล้วมาต่อภาค advance กับท่าน จะมีพระ และฆราวาสแบบแปลกๆ บางทีหิ้วกลด มาหาหลวงปู่บ่อยๆ คงมาเรียนภาค advance ฆราวาสมาเรียนวิธีเสกพระเครื่องก็มี ส่วนพระสงฆ์จะเรียนไปทำอะไร หลวงปู่ไม่เคยเล่า และอันนี้ผมเล่าเอง เพราะใกล้ชิด )

ตัดตอนมาที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง ตอนผมไปบอกป๋าว่า ผมไปเจอพระองค์ คล้ายๆหลวงตาของเรา แต่อยู่วัดบ้านคนเยอะหน่อย ป๋าไปกับผมหน่อยซิ ป๋าก็มากับผมทันที

ก่อนมาพบหลวงพ่อตอนนั่งมาในรถ ผมเอาตะกรุดดวง ดอกบัวบาน ที่หลวงพ่อลง ควักให้ป๋าดูก่อน ป๋ากำหนดจิตดูแล้วบอกว่า ตะกรุดนี้มีรังสีครบเจ็ดสี มีเทพยดาคุ้มอยู่ หายากมากที่จะพบครบเจ็ดดี ส่วนใหญ่จะมีไม่ครบหรือแค่มีสีออกมาบางสี ที่ครบป๋าจะเจอ มีไม่กี่องค์ เช่นของพระเดชพระคุณท่านผู้มีบุญ วัดท่าซุง อันนี้สุดๆ และของหลวงปู่พระครูบุญศรี และท่านอื่นๆ เท่าที่ผมพอจำได้บ้าง เป็นพระเก่าในกรุบ้าง หรือเป็นพระใหม่ๆที่ จอมคน ของเราไปเป็นประธานหรือมีผงของท่านอยู่บ้าง แต่ผมมีบุญได้ไปพบและได้สัมผัสบ้างแค่สองท่านคือ หลวงพ่อวัดท่าซุง และหลวงปู่วัดใหม่ฯ

ตอน ป๋าและผม มาพบหลวงพ่อทรง หลังจากปฏิสันถารกันพอสมควร ประเภทอยู่ไหน ทำอะไรแล้ว เราก็นั่งสนทนากัน แต่ป๋าวันนั้นหลังจากดูตะกรุดแล้ว จะออกแนวคุยแปลกๆ เพราะจะชวนคุยเรื่องลึกๆไปเลย แนวมีฤทธิ์สักหน่อย เช่นการเห็นนั่นเห็นนี่ พระพรหมหน้าวัด สิ่งศักสิทธิ์ หรือ เทวดาประจำวัด และถามหลวงพ่อหลายอย่าง ท่าทางหลวงพ่อค่อนข้างสงวนท่าที เพราะยังไม่รู้จัก เฮีย ก ดี และผมตอนนั้นก็ยังพึ่งไปใหม่ๆ ท่านก็ตอบบ้าง เฉยซ่ะบ้าง เรานั่งคุยกันนานพอสมควร วันนั้น หลวงพ่อทรง ท่านสรุปว่า ของอะไรก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่จิตตัวเดียว

ก่อนกลับ ผมเอาของในกระเป๋าใบเก่ง มาขอให้หลวงพ่อทรงเมตตาเสกให้ ( ด้วยเจตนา ) และพอเสร็จก่อนกลับ ป๋าถามหลวงพ่อทรงว่า หลวงพ่อรับลูกศิษย์หรือปล่าว ผมจำได้ว่า หลวงพ่อนั่งเฉยๆและยิ้มๆ <O</O
<O</O

ตอนกลับขณะนั่งในรถ ผมถามป๋าว่าป๋า เห็นอะไรบ้างตอนท่านเสกของ ป๋าบอกว่าจิตหลวงพ่อท่านนิ่งมากเลยแบบนิ่งเป้หายาก จะมีรังสี สีขาวสว่างมากพุ่งไปคลุมของที่ท่านเพ่ง อันนี้จากตาในของป๋า ที่พบมาถ้าเป็นสีขาวนี้ จะเป็นแนวอิทธิฤทธิ์ หลวงพ่อจะเป็นพระแนวอิทธิฤทธิ์อภิญญานี้แน่นอน และนอกนั้น ยังมี สีรุ้งเป็นประกายออกมาเจ็ดสี รังสี สีรุ้งนี้ท่านอธิษฐานแถมมา จะเป็นรังสี เพื่อเอื้อเฟื้อให้แก่ ผู้ที่มาขอท่านปลุกเสก อธิษฐานเอา ว่าต้องการอะไร จะสำเร็จไปตามนั้น (ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกรรมของท่านด้วย ) ลักษณะนี้เป็นการอธิษฐานจิตของพระผู้พ้นโลก

พอผมทราบตามนั้น ผมก็มาหาหลวงพ่อบ่อยยิ่งขึ้น และทุกครั้งที่ท่านเมตตาเสกของให้ ผมจะกำหนดจิตอธิษฐานขอตาม( กิเลสของผม ) โดยขอ " เกาะโหน " จิตหลวงพ่อเป็นสื่อ เท่าที่ผมมีกำลังทำได้เพราะเครื่องรับและส่งเรามันแย่ ซึ่งคงเป็นหลายร้อยครั้งที่ผมไปหาท่าน ผมไม่ได้บอกใครเรื่องนี้ แม้กระทั่งนายหมีที่ไปด้วยกัน หรือ ลูกเมีย เพราะเป็นปัจจัตตัง จนกระทั่งวันนี้ และเพราะหลวงพ่อไม่มีสังขารอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถไปรบกวนท่านให้เหนื่อยได้อีกแล้ว

เพราะหลังท่านเสีย ผมไปถามป๋า ว่าหลวงพ่อท่านไปไหนน่ะป๋า ( คนที่เสียที่ผมรู้จักถ้าสงสัย ผมจะไปถามป๋าทุกคน ) ป๋าดูแล้วตอบว่า จะไปที่ไหน ท่านก็ไปถึงที่สุด ที่นั่นหละ ( เพราะจิตท่านดี สติท่านดี และบริสุทธิ์ ) จะเป็นที่ไหน พวกท่านไปเดากันเอาน่ะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่อง "ถ้า" อีกเรื่องหนึ่งของผม ผมแค่มาสมมุติ เล่าเรื่อง "ถ้า" ให้ท่านฟัง และถ้าท่านฟังแล้วกรุณาอย่าคิดไปไกลน่ะครับ เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคล ตัวใครตัวมันครับ

ตอนนี้หลวงพ่อไม่มีสังขารแล้ว ถ้าใครอยากจะอธิษฐานบ้าง ก็คงต้องไปวัดมอญ หน้าศพท่าน หรือ อธิษฐานเอากับ วัตถุมงคลของท่าน และต้องเป็นชิ้นที่ผ่านมือหลวงพ่อมาน่ะครับ พวกของเสริม ของแถม ของไม่ผ่านมือหลวงพ่อน่ะ อันนี้ไม่แน่ใจน่ะครับ

ขอกลับมาที่ วลีที่ว่า อยู่ที่จิตตัวเดียว ที่ท่านพูดเหมือนกันทั้งสองท่าน
<O</O
<O</O

วลีอันนี้จริงแท้แน่นอน ถ้าจิตดี ทำอะไรก็สำเร็จ จะไปไหนมาไหนก็ได้เมื่อถึงเวลาจำเป็น คนจิตดี สติดี ส่วนใหญ่จะมีบุญเก่าดี มีบารมีสะสมมาเยอะ แต่แม้ถ้าบุญเก่ามีไม่มาก แต่ถ้าฝึกมามากจนจิตดี สติดี ก็จะไปไหนก็ได้น่ะครับ เพราะจิตมีกำลัง จิตคือตัวกำหนดครับ

คนจะจิตดี จิตบริสุทธิ์ได้ ต้องพื้นฐานดี ศีลดี วินัยดี มีสัจจะ เคร่งครัดปฏิบัติดี พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่พูดมั่วไป มั่วมา ส่วนมากจะพูดน้อย ยกเว้นเวลาเทศธรรมะ ภาษาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเป็นเวลานี้ล่ะก็ จะพูดเป็นต่อยหอยเชียว พูดมาเป็นชุด มาเป็นชั่วโมงๆ บางทีเราแอบหลับไปแล้ว ตื่นมา ท่านยังเทศอยู่เลย .....แหะๆ อายจัง

ท่านที่ปลุกเสกพระได้ขลังด้วยการเชิญ พระพุทธเจ้าในอดีต ครูบาอาจารย์มา พรหม เทพเทวา มาทุกชั้นฟ้ามาร่วมอธิษฐานจิต ถ้าจิตดี พวกท่านมาครับ เพราะจิตที่เป็นสื่อดี แต่ถ้าจิตไม่ดีบ้าง อาจจะมาบ้าง หรือไม่มาบ้าง ถ้าจิตไม่ดีไปเลย ( พวกเจตนาอาจจะไม่ดี หาเงินเข้ากระเป๋า ) พวกท่านก็อาจจะไม่มาเลยครับ ให้เชิญแทบตาย อ่านกี่โองการ บวงสรวงด้วยของอันประณีตก็ตาม แต่พวกท่านเหม็นครับ พวกท่านไม่มาหรอก ที่มาอาจจะเป็นพวก ยักษ์ ภูติผี ปีศาจ สัมภเวสีมาแทน เพราะอยากได้ อามิส อยากกินเครื่องเซ่น พวกนี้ บางประเภท จะมีอิทธิฤทธิ์ แสดงอภินิหารออกได้พอตัวเหมือนกัน

อันนี้ถึงเป็นสาเหตุว่า การปลุกเสกต่างๆแม้จะอัญเชิญเหมือนกัน เจ้าพิธีเดียวกัน แต่ทำไมขลังไม่เหมือนกัน เพราะมันอยู่ที่จิตคนเสกครับ ไม่ได้อยู่ที่พิธีการครับ ผมถึงไม่อยากเก็บพระหรือเครื่องลางแบบมั่วๆ แต่เลือกเอาที่มีประสบการณ์ชัดเจน ต่อให้พิธีใหญ่แค่ไหน ถ้าจิตไม่ถึงเพราะวุ่นวาย จิตโลภโมโทสันอันไม่บริสุทธิ์ ของก็ออกมาดียากครับ สู้พระที่นำไปให้พระที่ทรงคุณ เป่าให้ปู้ดเดียวก็ไม่ได้ เพราะจิตท่านดี อยู่ที่จิตตัวเดียว ไม่ได้อยู่ที่มวลสาร ของอาถรรพ์ที่ผสมใดๆ หรือฤษถ์ยามใดๆ แต่อยู่ที่จิตตัวเดียวอันวิสุทธิ์เป็นตัวกำหนดครับ


สังเกตุว่าของๆพระเดชพระคุณ ท่านผู้มีบุญ วัดท่าซุง ของๆท่านจะเป็นของโหล สั่งทำจากร้านแถวเสาชิงช้าก็มีทำมาเป็น แสนๆหมื่นๆองค์ วัดส่งผงมาให้กระป๋องเดียว ( อันนี้ศิษย์รุ่นเก่าจริงๆบอก ยังมีตัวตนอยู่ หนังสือน่ะมาเขียนทีหลังครับ ) นอกนั้นเป็น ผงของโรงงานทั้งนั้น อะไรบ้างก็ไม่รู้แต่คงเป็นปูนราคาถูกซ่ะส่วนใหญ่ เพราะทำเยอะ และเพราะไม่ได้เน้นมวลสาร แต่อยู่ที่จิตท่านถึง ของจึงขลังสุดๆ หลังๆใครทำมาอีกด้วยวิธีเดียวกัน รับประกันได้ว่า ไม่มีทางเหมือนของหลวงพ่อวัดท่าซุง ห่างกันไกล เพราะจิตไม่มีทางวิสุทธิ์ เท่าหลวงพ่อวัดท่าซุงได้ครับ เพราะฉนั้นมันไม่ได้อยู่ที่พิธี สถานที่ มวลสาร ฤษถ์ยาม พิธีรี ตรอง บทสวด คาถา พวกนี้แค่ส่วนประกอบครับ ที่จริงๆ แน่นอน มันต้องอยู่ที่จิตคนเสกครับ

วกกลับมาที่ของหลวงพ่อทรงนิดเดียวก่อนจบ หลวงพ่อทรงท่านปลุกเสกของก็ใช้จิตครับ ไม่ได้เน้นใช้เวทมนต์คาถา ฉนั้นท่านถึงไม่มีต้องพิธีรีตรองมาก เพราะจิตท่านถึงครับ ท่านไปไกลมากๆแล้วครับ ของที่ท่านทำให้ ก็แค่ของเล่น หรือ ของฝากแทนตัวท่านเป็นที่ระลึกแก่ลูกหลานครับ<O</O

 

เรื่องแบบนี้ ชอบมากๆครับคุณพี ขอบคุณมากครับที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟังหลายๆท่านที่ติดตามกระทู้นี้ ส่วนใหญ่ผมว่าเคารพเลื่อมใสหลวงพ่อทรงอยู่แล้วและหลายคนน่าจะมีวัตถุมงคลของท่าน เรื่องแบบนี้คงเข้าใจครับ คงทราบกันดีส่วนท่านที่พึ่งเข้ามาอ่าน ควรใช้วิจารณญาณแต่สำหรับผมเชื่ออยู่แล้วครับ จริงๆด้วยครับ ของๆท่านอยู่ที่จิต ไม่เห็นต้องมีพิธีบวงสรวง อลังการใหญ่โต ผมคิดว่า อินทร์ พรหม ยม เทพ ก็คงเคารพเลื่อมใสท่านเช่นกัน ผมดีใจและเป็นปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้ฟังเรื่องราวของท่าน ขอบคุณ คุณพีอีกครั้งที่นำเรื่องราวของหลวงพ่อทรงที่เคารพรักมาเล่าสู่กันฟังครับ

 

พี่ช่วยแนะนำด้วยครับ

รอยจารบนพระสมเด็จปลวกนี้เป็นของหลวงพ่อทรงหรือเปล่าครับ

 

ตอนที่ผมบวชกับหลวงพ่อทรงผมก็พอได้บีบนวดท่านบ้างตามแต่โอกาสผมจะมีครับ และระหว่างที่นวดท่าน ผมก็เคยได้ไต่ถามท่านบ้างตามประสาคนอยากรู้ครับผมเคยถามท่านว่าหลวงพ่อครับเมตตากับคงกระพันอันไหนเสกยากกว่ากันครับ ท่านตอบผมว่าเมตตาเสกยากกว่า และผมก็ยังซักท่านไปเรื่อยๆว่าเวลาเสกพระหลวงพ่อท่านทำอย่างไร ท่าก็ตอบว่า ก็ทำใจให้นิ่งๆสิ คำถามที่ผมถามท่านเป็นคำถามสุดท้ายในวันผมถามท่านว่าเวลาหลวงพ่อเสกพระเมตตาหลวงพ่อใชบทไหน ท่านตอบผมมาว่า ''เมตตาสิบดีที่สุด'' เมตตาสิบก็คือคาถาในบทสวดมนต์ของพระในหนังสือสวดมนต์ครับ ท่านใช้คาถาง่ายๆครับ แต่จิตรของท่านถึงไหนๆผมไม่รู้ครับ
เมตตาสิบขึ้นต้นว่าอย่างนี้ครับ
เมตตายะภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อะเสวิตายะภาวิตายะพหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ ฯลฯ ไปหาอ่านได้ในหนังสือสวดมนต์พิธีเล่มเหลืองครับ
เอาพอเป็นกระสัยครับเพื่อแบ่งปันกันในหมู่ลูกศิษย์และผู้ที่นับถือหลวงพ่อทรงครับ กุศลกรรมอันใดที่ผมได้ในการเผยแพร่คาถาของหลวงพ่อที่ท่านใช้ในครั้งนี้ผมขออุทิศให้หลวงพ่อทรงวัดศาลาดินครับ สาธุ

 

รูปหล่อ รุ่น ๑
<O</O
ตัวจริง เสียงจริง มาก่อนใครจริงๆ
<O</O
ต่อไปผมจะนำรูปมาลงเป็นของที่หลวงพ่อทำเองบ้าง ผู้มีจิตศรัทธามาให้ปลุกเสก แล้วถวายไว้บ้าง วัดอื่นสร้างมาขอบารมีบ้าง เป็นเจตนาบริสุทธ์ หลวงพ่อท่านให้ผมมาบ้าง ผมซื้อมาบ้าง

<O</O
และถ้าจะพูดกันแล้ว โดยศักดิ์ศรี รุ่นนี้ต้องมาก่อน รูปหล่อรุ่นหนึ่งครับ มีเลข ๑ ที่สังฆาฏิ วัดทำเอง หลวงพ่อทำเองครับ ตามประวัติ รูปหล่อนี้ทำประมาณ ปี ๒๕๒๑ อายุมาถึงตอนนี้ ประมาณ สามสิบปีแล้ว รูปหล่อรุ่นนี้ ออกก่อนรูปหล่อที่ต่างใครที่ตัวเองทำมาขายก็ว่าของตัวเองรุ่นหนึ่ง คงประมาณ สามสิบปี ความจริงต้องเป็นความจริง และต้องบันทึกไว้เพื่อความถูกต้อง ให้คนนอก และคนรุ่นต่อไปทราบตามความเป็นจริงน่ะครับ

<O</O
รูปหล่อรุ่น ๑ ลักษณะเป็นหล่อฉีด มีความสวยงามพอสมควรแม้จะไม่เหมือนหลวงพ่อมากนัก ขนาดหน้าตักประมาณ ๑.๔ ซ.ม. สูงประมาณ ๒.๕ ซ.ม. ขนาดไม่ใหญ๋ กระทัดรัดกำลังดี เนื้อฉีดหล่อด้วยทองเหลือง ปริมาณทำมาเท่าไหร่ ผมถามใครไม่มีใครทราบชัดเจน แต่ประมาณกันว่า หลักร้อย เพราะหายากเหมือนกัน นอกจากนั้น รุ่นนี้ยังมีทำเสริมมาอีก ก็ไม่มีใครทราบอีกเหมือนกัน ว่าเสริมมาเท่าไหร่ปีอะไร รุ่นเสริมนี้ มาเจอทีหลังอีกจำนวนหนึ่งที่วัด ทางวัดนำออกมาจำหน่าย อีกผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่จริงๆ น่าจะประมาณ สามร้อยบาท แต่ไม่ว่ารุ่น ๑ หรือ รุ่นเสริม หลวงพ่อท่านปลุกเสกแน่นอนครับ การแยกรุ่น ๑ กับรุ่นเสริมนี้ มีวิธีน่ะครับ แต่ผมไม่บอกทีนี่แหละครับ ผมมีเหตุผลของผม ถ้าท่านไปเจอก็เล่นหาได้ เพราะอย่างไรหลวงพ่อปลุกเสกแน่นอนครับ ไม่ว่าชุดไหน

<O</O
นอกจากนั้น ประมาณปี ๒๕๔๙ ก่อนงานเจ้าฟ้าเสด็จมาที่วัด ได้มีผู้มีจิตเป็นกุศล ได้มาขออนุญาติหลวงพ่อนำพิมพ์นี้ไปถอดพิมพ์มาอีก โดยพระที่วัด ( หลวงพี่วิโรจน์ ) ตอกโค้ด ท บนองค์พระ มีหลายเนื้อ เงิน นวะ ทองเหลือง ไม่ทราบว่ามีทองคำหรือไม่ เนื่องจากถอดพิมพ์มา ขนาดจะเล็กกว่าพิมพ์รุ่น ๑ ลงไปอีกหน่อย ดูกระทัดรัดดี ผมไม่มีพระ รุ่นนี้เลย ตอนเขาแจกกัน เนื่องจากมีไม่มาก คงจะหมด ผมเลยอด ....แหะๆ ตกลงพระที่ทำมาคงเจตนามาแจกกันหรือ ออกให้ทำบุญเนื่องในงานของวัด แต่ก็มีเห็นเขาขายต่อกันในเว็บ จะอย่างไร หลวงพ่อเสกแน่นอน เพราะทำกันนานพอสมควรก่อนหลวงพ่อป่วย เนื่องจากผมไม่มีพระ แต่มีรูปของเขา ผมจะเอามาลงก็ดูไม่มีมารยาท เลยไม่เอาลงน่ะครับ ท่านลองหาดูกันเองน่ะครับ


หรือท่านใดที่มีไว้ในครอบครอง กรุณาเอามาลงเป็นวิทยาทานด้วยครับ<O</O

 

ขอบคุณครับ เบ็น ที่เอามุมอีกมุมของหลวงพ่อมาลงให้ เหล่าผู้นับถือหลวงพ่อทราบกัน

ขออนุโมทนาในตัวคาถาครับ เป็นความรู้ผมด้วยครับ

 

ผมพยายามมองจนตาเหล่ เห็นแค่ ลางๆ เพ่งจนปวดตาครับ

แต่เท่าที่มองเห็นก็มีเค้าน่ะครับ แต่มองไม่ออกว่าเป็นคาถาบทใด

 

แต่ถ้าพระแท้ ก็ไม่น่ากังวลอะไรน่ะครับ รุ่นนี้ไม่เห็นมีเสริม หรือ มีปลอมครับ สามารถ นำมาบูชาติดตัวได้ทันที

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
กลับมาติดตามเช่นเดิมครับ
ขอบคุณลุงพี่สำหรับคำอวยพรก่อนเดินทาง

 

พระผงแหวกม่านรับแจกจากหลวงพ่อทรงมาครับ ท่านบอกว่าหนาไปหน่อยกำลังปรับให้บางกว่านี้ ท่านเสกไว้อย่างดีแล้ว ผมเลยขอความเมตตาจากท่านอธิฐานจิตมีดปากกา ท่านรับไปพิจารณานานมากและบอกสวยมาก ของที่ไหนกัน ผมกราบเรียนไปว่าของ วัดหนองโพ หลวงพ่อมหาประเทืองสร้างครับ ท่านถามราคาเท่าไร ผมตอบไปว่า 2,000 บาท ครับ เป็นแบบ ทองคำ เงิน นาค ครับ ต้นทุนค่อนข้างสูง ท่านบอกว่าอยากจะทำมีดหมอบ้าง และท่านก็ดึงมีดออกจากฝักแล้วเอาปลายแหลมขอมีดลงยันต์ให้ ปลุกเสกอยู่นานครับ กราบหลวงพ่อในความเมตตา ยังคิดถึงหลวงพ่ออยู่เสมอไม่คิดว่าท่านจะมรณะภาพเร็ว ปานนี้

 

ตอนที่ได้รับแจกมา คงนานพอสมควร น่าจะปี ๒๕๔๘ หลวงพ่อแจกฟรีใช่ไหมครับ

คุณโชคดีด้วย เพราะพิมพ์หนา นี่จะเป็นพระยุคต้นๆ และเนื้อก็แก่ผง

และลาม มายุคกลางๆในบางพิมพ์ เพราะพระสวัดดิ์บอกตามตรงบางทีทำอะไรแปลกๆ หลวงพ่อต้องทักหลายครั้ง จึงจะหยุด

บางพิมพ์ เช่น รูปเหมือนจะหนามาก แบบกล่องไม้ขีดไฟ แบบว่าปาหัวอาจจะโนได้ ผมจะนำมาลงให้ดูต่อไป แบบว่าเขียนไปเรื่อยๆน่ะครับ เพราะต้องทำงานไปด้วยจ้ะ ตอนนี้น้ำมันแพง งานมากจริงๆ ทำไม่ทัน

พอเห็นหนามากๆ หลวงพ่อก็จะทัก ว่าหนาไป เอากำลังดี ทำให้พัฒนามาถึงความหนามาตรฐาน กำลังดี

พระแหวกม่าน พิมพ์นี้มีเสน่ห์ หลวงพ่อแจกฟรีไปเยอะ มีคนนำไปติดตัวหลายคน เพื่อเอาเคล็ด การแก้ปัญหา เพราะหาพระ หลวงพ่อกวย แท้ๆ ยาก และมีราคาแพง พอใช้พระพิมพ์นี้หลวงพ่อไป ก็ติดใจ เพราะได้มาฟรีด้วย สรรพคุณก็ดีมาก วันหนึ่งก็จะเป็นพิมพ์หายากน่ะครับ

ส่วนมีดหมอ สามกษัตริย์ สวยมากครับ คุณคงไปพบหลวงพ่อก่อน คุณ ชช จะทำมีดหมอ มาถวาย เพราะหลวงพ่อชอบมีดครับ อันนี้ผมรู้ใจ ถวายท่าน หรือ ขายท่านไปในราคาหนึ่งบาท หลายเล่ม ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ หลวงพ่อท่านก็พกติดอังสะ เล่มหนึ่งประจำ เล่นนี้บอกตามตรง ไม่ทราบหายไปไหน

สรรพคุณมีดหมอของท่านนั้น ใช้แทนของเก่าได้สบายๆ ไล่ผีได้ มีคนเคยไล่ ผมเห็นด้วยกับตา ตอนไล่ไฟฟ้าจะดับ และขันน้ำมนต์ น้ำจะเต้นกระเพื่อมทั้งที่วางเฉยๆ จัดว่าจะจะ คาตา รักษาโรคป่วง ปวดเมื่อย ตามหลัง ตามแขน ตามขา หรือ แขนขาชาก็ได้ครับก็ได้ ลองอาราธนาดูซิครับ

 

ห่างหายจากบอร์ดหลวงปู่กวย ไปพักนึง มาเจอคุณwoottipon ในเว็บหลวงพ่อทรงอีกครั้ง ดีใจครับ ลงเยอะๆ นะครับ จะได้เลิกจีบ *-*

 

ขออภัยพี่น้องทุกท่านที่รอ"คาถาจินดามณี" ของหลวงพ่อ พอดีโพสไว้แล้วก็เกิดคำถามว่าจะลงไปตามที่ลอกมาทั้งหมด(ที่หลวงพ่อบอก) หรือจะลงตามที่ผมนำเอามาท่อง(แก้บางตัวตามคาถาโบราณที่เคยสวดท่องมาก่อน) คิดและตัดสินใจอยู่นาน บอกกล่าวหลวงพ่อให้ท่านช่วยชี้แนวทาง การลงคาถาครั้งนี้เพราะจะได้ให้แก่ศิษย์ท่านทั้งหลาย และในขณะตัดสินใจอยู่ก็หาหนังสือไม่เจอ 2 วัน จนคิดได้ว่า น่าจะลงตัวคาถาทั้งหมดที่คัดลอกมา จึงช้า ต้องขออภัยท่านเป็นอย่างสูง
แล้วจะนำมาโพสทั้งหมดตามที่คัดลอกมา ตอนนี้รอก่อนนะครับ