เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    น้องเขาจะต้องหายในเร็ววัน เพราะพวกเราช่วยกันส่งพลังความรัก
    ความเมตตาจากพระสูงสุด ไปรักษาน้องเขาแล้วครับ

    ;aa55
     
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เห็นด้วยค่ะ ณ.คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเอื้อกันและกัน ไม่ว่าเหตุการณ์ต่างๆ จิตวิญญาณต่างๆ สภานะภาพ คน สัตว์ ต้นไม้ สิ่งของ และสิ่งต่างๆ ล้วนเกิดมาเพื่อให้เห็นอีกสิ่งหนึ่งเสมอ เพื่อให้เราได้เรียนรู้ เข้าใจ และเข้าสู่ความรักอันไร้เงื่อนไขอย่างแท้จริงได้ แต่อยู่ที่ว่าเราจะนำสิ่งที่เรารู้มามาปรับใช้ในแง่ไหน... อยู่ที่ว่าเราเข้าใจสิ่งที่เราได้รับแค่ไหน... มีอีกหลายคนไม่เข้าใจ
    สำหรับตัว ณ.เองสิ่งหลายสิ่งที่เจอมา ในเบื้องแรกมันเลวร้ายสุดๆ แต่พอให้เวลา พิจารณา ทำความเข้าใจ แล้วก็รู้ว่า ถ้าไม่เกิดสิ่งนั้นขึ้นมา เราก็จะไม่มีวันเข้าถึงสิ่งที่เราได้รับอยู่ ณ. ปัจจุบัน...นึกขอบคุณทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง;aa8
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ลองส่งพลังดูแล้วรู้สึกที่บริเวณปีกมดลูกทั้งสองข้าง
    หวังว่าน้องอ้วนคงจะหายวันหายคืนนะคะ..
    แหมก็น่ารักซะขนาดนี้จะม่ายช่วยกันได้งัยจิงมั้ยค๊ะ..
    ;aa8;aa8;aa8
     
  4. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ม่ายเหมือนกันหรอกค่ะคุณ Zip ข้อความของพี่จินต์เค้าจะออกแนวห้าวหาญ และเปิดเผยมาก ๆ ค่ะ ส่วนของขจรวรรณจะดูอ่อนลงมาหน่อยแต่มีพลังน๊า.. ถ้าเปรียบกับการหัวเราะนี่ของพี่จินต์จะเห็นฟันทั้ง 32 ซึ่เลย ส่วนของขจรวรรณอาจจะแค่แยกฟันหน้าในดูมากกว่าคิดว่านะ..อิอิ..
    ........................................

    ส่วนเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรนี่ถ้าในแนวพุทธเราก็คงจะเข้าใจกันดีแล้ว เอาเป็นว่าขอเสนอในมุมมองของวิชาพลังจักรวาลไว้เพื่อพิจารณาดูนะคะถ้ายังงัยพี่นักเขียนคงเข้ามาขยายความในเรื่องนี้ให้เราเข้าใจกันอีกทีน่ะค่ะ.. เรื่องนี้นี่ขจรวรรณเคยถามอาจารย์ใหญ่ของวิชาพลังจักรวาลอยู่ครั้งนึงถ้าผู้แปลภาษาเวียดนามแปลได้อย่างถูกต้องก็จะได้คำตอบประมาณนี้น่ะค่ะ..

    ถามว่า ตามที่วิชาพลังจักรวาลสอนไว้ว่าเราจะมีความสามารถในการส่งพลังให้สัตว์เลี้ยงเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรนั้น ถือเป็นการส่งเสริมให้เราฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ ซึ่งขัดต่อคำสอนของศาสนาพุทธในเรื่องกฏแห่งกรรมหรือไม่?

    ท่านอาจารย์ตอบว่า อาจารย์ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่นับถือศาสนาพุทธเหมือนพวกเราเช่นกัน อาจารย์เข้าใจดีถ้าหากจะให้อธิบายเรื่องกฏแห่งกรรมนั้นใช้เวลาอธิบาย 7 วัน 7 คืน ก็ไม่จบ เนื่องจากเวลาของเรามีจำกัด จึงขออธิบายไว้เพียงสั้น ๆ ดังนี้ สำหรับการเรียนวิชานี้เมื่อเราส่งพลังให้สัตว์เลี้ยงทุกวันทุกวันแล้ว สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นจะแข็งแรงและอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าปกติ จิตวิญาณของเค้าก็จะได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่วิชานี้สามารถทำได้ก็คือการส่งจิตวิญญาณให้ไปสู่ภพภูมที่สูงขึ้น อาจารย์เห็นมาเยอะแล้วจากสัตว์เล็กเป็นสัตว์ใหญ่ จากสัตว์ใหญ่ไปเป็นมนุษย์ และเมื่อเป็นมนุษย์จิตวิญญาณของเค้าก็จะมีช่องทางในการพัฒนาจิตขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว พวกเค้าไม่ได้ไปไหนหรอกเค้าก็มาเกิดลูกเป็นหลานของพวกเรานี่แหล่ะ..

    ถ้าหากสัตว์เหล่านี้ไม่ถูกฆ่าเพื่อมาเป็นอาหารของพวกเราแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเค้ามีแต่อัตราการเกิดบนโลกใบนี้ทุก ๆ วัน แต่ไม่มีอัตราการตายหรือตายน้อยมาก และถ้าเราปล่อยให้เค้าตายไปด้วยตัวของเค้าเอง เช่น มด 1 ตัวมีอายุ ? วัน และต้องไปเกิดเป็นสัตว์อีกกี่ประเภทกี่ชาติภพกว่าจะได้เกิดมาเป็นช้างม้าวัวควาย และจากชาติภพของช้างม้าวัวควายต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าที่เค้าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อพัฒนาจิตวิญญาณไปสู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะทานอาหารทุกครั้งเราควรที่จะขอบคุณสัตว์เหล่านี้ที่สละชีวิตของเค้าเพื่อมาเป็นอาหารของเราและอธิษฐานจิตให้จิตวิญญาณของพวกเค้าได้รับการพัฒนาไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นเพราะพวกเราชาวพลังจักรวาลสามารถทำได้
    ...............................
    จึงอยากจะขอให้พี่นักเขียนช่วยขยายความที่ว่าจิตวิญญาณไม่ได้พัฒนาจากที่ต่ำไปสู่ที่สูง แต่พัฒนาขยายออกไปเป็นวงกว้างให้เข้าใจอีกครั้งนึงนะคะ ขอบคุณค่ะ..
    :z12:z12:z12
     
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ชีวิตจริง ๆ คล้าย ๆ อย่างนั้นน่ะแหละ เดือดร้อนเพราะคนอื่นเป็นประจำ ใจดีมากไป บางครั้งจะย้อนเข้าหาตัวเอง แต่นิสัยตัวเองจริง ๆ แล้ว ก็เป็นคนปากร้าย คือ กัดคนเก่งมาก เจ้าอารมณ์ แต่ใจดีมากเช่นกัน หายโกรธเร็ว ไม่เกินชั่วโมง เดี๋ยวก็อำต่อได้
     
  6. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    สรุปว่าเป็นโรคเดียวกันกับผมเลยครับคุณซิป
    นึกว่ารู้สึกอยู่คนเดียว จำผิดอยู่เรื่อย

    ถ้าจำไม่ผิดพี่นักเขียนเองก็เคยส่องคุณขจรวรรณแต่กลายไปเป็นข้อมูลของคุณจินนี่ครับ

    แต่ผมว่าตัวอักษร J อาจส่งผลมากในเรื่องความโดดเด่น เลยทำให้สับสน (หรือเปล่า?)
     
  7. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    พอพูดถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวรก็คิดถึงตัวเอง เพราะเป็นคนเกเรแต่เด็ก เรื่องดื่มสุรา หนีเที่ยวนั้น เรียกได้ว่าทำจนเป็นนิสัย แม่ก็จะเสียใจมาก จนถึงวันหนึ่งล้มเจ็บลงเนื่องจากไตไม่ค่อยอยากจะทำงาน เหมือนมันเหนื่อย มันกินของเสียมาเยอะ เมื่อไตเสีย ร่างกายก็ถ่ายของเสียไม่ค่อยออก ปัญหาที่ตามมาก็จะเป็นพวกเลือดข้น กรดในเลือดเยอะบ้าง พอระบบร่างกายเสียอย่าง มันก็พาลรวนไปเกือบหมด ชีวิตจินตวดีก็เลยต้องกินยาเคมีทุกวัน ๆละ หลาย ๆ เม็ด ไหนจะภูมิแพ้ ไหนจะแก้อักเสบ ไหนจะยาบำรุง โอยเรียกว่าถ่ายออก หรือปัสสาวะจะเป็นกลิ่นยา มันทำให้เราคิดถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวร นั่งคิดอยู่นั่นล่ะ ว่าเคยไปทำอะไรใครไว้ชาติไหนหนอ หรือเป็นผลจากชาตินี้ พอยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งกลุ้ม ยิ่งทรุดหนักเข้าไปอีกกลายเป็นโรคกระเพาะเพิ่ม พอคิดมาก ๆเข้า คราวนี้กรดไหลย้อน เคยลามจนถึงปอดอักเสบครั้งหนึ่งเกือบตายทีเดียว

    แต่พอหลังอ่านหนังสือชุดโนวาอนาลัย ก็เปลี่ยนความคิดใหม่ เริ่มจากการหยุดกินยาเคมีทุกชนิด เพราะอาจารย์บอกว่า ร่างกายของมนุษย์สามารถรับมือกับยาสมุนไพรจากธรรมชาติได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ต้ม ตุ๋น ฯลฯ แต่ไม่สามารถรับมือกับยาทางเคมีได้ การใช้ยาเคมีไปนาน ๆ จะทำให้ระบบร่างกายเสียความสมดุลย์ไป (สำหรับคนที่ไม่มีความเชื่อใจในตนเอง หรือมั่นใจในตนเองไม่พอไม่ขอแนะนำ เพราะอาจทรุดได้ อันดับแรกที่สำคัญคืออยู่ที่ใจ ว่าสามารถเปลี่ยนความเชื่อได้แค่ไหน) ทุกวันนี้ แพทย์ประจำตัวจินตวดีออกจะแปลกใจที่จินตวดีสามารถอยู่ได้อย่างแข็งแรง โดยไม่กระทบกับงาน โดยปราศจาก ยาเคมี (ดิฉันหักดิบหยุดกิน) หรือการล้างไต แรก ๆ จินตวดีสะกดจิตตัวเองตามแบบฝึกหัดเปลี่ยนความเชื่ออยู่เป็นประจำ "ร่างกายเราสมดุลย์ สมบูรณ์ แข็งแรง ร่างกายเราปราศจากโรค เพราะโรคไม่มีจริง " เป็นต้น

    เมื่อมาถึงจุดนี้ สิ่งหนึ่งที่จินตวดีได้มองย้อนกลับไปแล้วเข้าใจนั่นก็คือ นี่เป็นประสบการณ์ที่จินตวดีเลือกขึ้นมาเผชิญ หรือ เรียนรู้นั้นเอง นี่เป็นสิ่งที่จิตวิญญาณเลือกมาตีกรอบชีวิตตัวเองเพื่อเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งใจเอาไว้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูจะเห็นว่า ถ้าตัวเองไม่เจ็บป่วยไข้หนักอย่างนี้ มีหรือที่คนอย่างจินตวดีจะหันมาใส่ใจศึกษาเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณอย่างทุกวันนี้ ป่านนี้คงมีความสุขอยู่กับการ กิน ดื่มเที่ยว และคงต้องเสียเวลาอีกยาวนานกว่าเข้าถึงความรู้ทางจิตวิญญาณอย่างทุกวันนี้ เหมือนอย่างในหนังสือจิตวิญญาณประสานกายกล่าวไว้ว่า บางครั้งจิตวิญญาณก็ตีกรอบตัวเองด้วยสถานการณ์ที่สามารถทำให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้โดยไม่หลงทาง (ประมาณนี้นะ) พอมาถึงทุกวันนี้สิ่งหนึ่งที่จินตวดีใช้ในการสะกดจิตตัวเองอีกอย่างก็คือ "จินตวดีรู้แล้ว เป้าหมายของตัวเองคืออะไรและมั่นใจสามารถก้าวเดินต่อไปได้โดยไม่หลงทาง ดังนั้น โรคภัยทั้งหลายจึงไม่จำเป็นแก่เรา"

    ความฝัน กับส่วนของจิตไร้สำนึก
    สิ่งหนึ่งที่จินตวดีชอบฝึกฝนก่อนนอนคือการกำหนดจิตให้เป็นสมาธิขอติดต่อกับครูบาอาจารย์ หรือ ผู้รู้ หรือ จิตไร้สำนึก ผลของการที่ชอบฝึกแบบนี้บ่อย ๆ มันทำให้ความฝันของเรา และ ความรู้ในการตีความฝันค่อนข้างคมชัดขึ้น อย่างคืนก่อนเราฝันว่าได้เข้าไปในห้องสมุด ภายในห้องสมุดนั้นประกอบด้วยตู้หนังสือบรรจุหนังสือมากมาย จำได้ว่าหลาย ๆ เล่มนั้นเป็นหนังสือที่เคยอ่านมาแล้วแต่เด็ก ซึ่งลืมไปแล้วพอมาเห็นอีกทีก็จำได้ มีทั้งหนังสือดนตรี นิยาย ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่จินตวดีในความฝันค้นหา คือ หนังสือที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ ระหว่างเดินหา ปรากฏว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งสะท้อนแสงออกมา เป็นหนังสือของชาวอินเดียวหัวข้อว่าเกี่ยวกับ "ความรัก" จำได้ว่าจะหยิบกลับไปอ่านบ้าน แต่ในใจก็ได้บอกว่าเราได้ยืมหนังสือเล่มหนึ่งจากห้องสมุดนี้ไปก่อนหน้าแล้ว พลันระลึกได้ว่าห้องสมุดนี้เองที่เราเคยฝันว่ามาหลายครั้งแล้ว แถมในห้องสมุดนั้นมีบรรณารักษ์ชายหญิง ที่น่าแปลกก็คือ บรรณารักษ์ในความฝันล้วนแต่เป็นคนที่ปรากฏในความฝันครั้งแล้วครั้งเล่าในการแนะนำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะมาตามให้ไปเรียน (ผู้หญิง) มาสอนให้แง่คิดในความฝัน (ผู้ชาย) อันนี้เป็นข้อดีที่ได้จดบันทึกความฝันตลอดเพราะสามารถกลับไปเช็คดูวันเก่า ๆได้
    เราก็เลยได้ข้อคิดว่า ห้องสมด+ บรรณารักษ์ในความฝันก็คงจะเปรียบได้กับส่วนที่เราเรียกว่าจิตไร้สำนึก ซึ่งมีพร้อมอยู่ด้วยข้อมูลความรู้มากมาย เปรียบเสมือนกับ ผู้รู้ที่อยู่ภายในของเรา

    อย่างก่อนที่จะเลิกยาเคมี ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอคำตอบในฝัน คืนนั้นปรากฏเห็นเป็นเจ้านายของเราที่เป็นเจ้าของสวนพฤษศาสตร์ ในฝันได้ถามท่านว่าทำไมท่านถึงแข็งแรง ท่านบอกว่าท่านทำงานอะไร (ท่านทำงานเกี่ยวกับต้นไม้ ปลูกต้นไม้) สักพักมีคนนำอาหารมาให้ ประกอบด้วยกิ่งไม้ แล้วท่านก็หยิบมาเคี้ยว ในฝันเห็นตัวเองหยิบมากินตาม แล้วบอกว่าแข็งแรง พอตื่นขึ้น อาศัยความใจกล้า คือตายเป็นตายแล้วเริ่มหยุดกินยาเคมี แต่อาศัยพวกสมุนไพรเล็กน้อยแก้อาการบางอย่างแทน ปรากฏว่าใช้ได้ดี สรุปความฝันนั้นส่งความหมายมาว่า "เราต้องกลับสู่ธรรมชาตินันเอง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  8. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่อ ใช่ความฝันที่เห็นปัญหาตอนนั้น

    คุณเซลก็เป็นเหมือนกันเหรอเนี่ย

    คุณอันที่จริงคุณ จินต์ ผมไม่ได้จำตรงนิสัยหรอก แต่จำตรงความสนใจมากกว่า ทำไมเหมือนรู้สึกว่าสองคนนี้สนใจอะไรคล้ายกัน เรื่องเกี่ยวกับความสนใจที่โพสจะคล้ายๆ กัน...... หรือเปล่าหว่า [​IMG]

    คุณจินต์ดูเหมือนว่าจะตีความสัญลักษณ์ความฝันได้คล่องเลย แจ่มจริงๆ

    ส่วนเรื่องเจ้ากรรมนายเวรที่ว่าถ้าเป็นสัตว์แล้วจะมีเจ้ากรรมนายเวรมาคอยกวนหรือเปล่า ลองคิดดูว่าถ้าเราโกรธแค้นใครอยากทำให้เค้าทุกข์ เราจะทำตอนที่เค้าเกิดเป็นสัตว์หรือเปล่า หรือจะรอจังหวะที่เค้าเกิดเป็นคน อันไหนจะสะใจกว่ากัน
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ถ้าจินตวดีจะเหมือนกับขจรวรรณ คงเป็นเพราะเราเป็นพี่น้องชาวพลังจักรวาล เราเป็นเหนึ่งเดียวกันในความรักอันปราศจากเงื่อนไข และที่สำคัญ เราชอบแอ๊ตแลนตีสค่า ช๊อบ ชอบ

    จริง ๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องเจ้ากรรมนายเวรหรอก จริง ๆ แล้วเราไม่รู้ว่าในแง่จิตวิญญาณนั้น เรียกว่าล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ สำหรับเจ้าหมาน้อยตัวนั้น มันอาจจะตั้งใจมาเรียนรู้เรื่องนี้โดยตรงก็ได้ ในแง่ของจิตวิญญาณมันอาจประสบความสำเร็จก็ได้ใครจะรู้ ถ้ามันไม่เกิดเป็นสัตว์หรือถ้ามันเกิดเป็นมนุษย์มันอาจจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสความรักที่เจ้าของมีให้มันอย่างทุกวันนี้ก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ถ้าคิดกลับกัน...เรา เป็นเจ้ากรรมนายเวร ของใคร หรือไม่?
    สมมติ เราย้อนถามตัวเอง แค่ว่า

    *เรายังมีใครที่เราโกรธแค้นอยู่ หรือไม่?
    *เรายังมีใครที่ ให้อภัยเค้าไม่ได้ อยู่รึเปล่า?
    *เรายังคอยรอ ให้ใครบางคน รับกรรมที่เค้าเคยทำสิ่งที่ไม่ดีกับเรา หรือใครๆอยู่รึ ไม่?
    ถ้า เราตอบคำถามเหล่านี้ได้ เราคงเข้าใจ เจ้ากรรมนายเวร มากขึ้น
    สำหรับเดรดเอง...เดรดว่าเดรด ยังมีอยู่นะ แล้วถ้าเดรดเคลียร์ไม่ได้ เดรดว่า เจ้ากรรมนายเวร ที่เดรดรู้จัก คนนึงของตัวเอง ก็คงจะเป็นตัวเดรดเองนั่นแหล่ะ

    อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะค่ะ... ว่า ถ้าเรายังจัดการตัวเองไม่ได้ เราจะไปร้องขอให้ใครเค้าทำอะไรให้เราได้ ก็เลยคิดว่า แม้ไม่ได้โต้ตอบใด แต่ใจคิดและติดค้างอยู่ การอโหสิกรรมก็ไม่เกิด การอภัยที่แท้จริงก็ไม่มี...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ตอนนี้ตามความเข้าใจของ zipp นะ เรื่องกรรมก็เป็นเรื่องนึง เรื่องนายเวรก็เป็นอีกเรื่องนึง

    เรื่องกรรมเราพูดถึงมาเยอะแล้วในกระทู้นี้ บางเรื่องที่เราคิดว่าเป็นกรรมของเรา บางทีมันก็ไม่ใช่ บางครั้งการเกิดมายากจนก็ไม่ใช่เรื่องกรรมแต่เป็นเจตจำนง

    แต่เรื่องนายเวรนี้ เป็นวิญญาณที่ยังอาฆาตเราอยู่ เรียกว่ายังไม่อโหสิกับเรื่องที่เราทำไม่ดีกับเค้าไว้

    ตามมุมมองแล้วเรื่องกรรม(ขอใช้คำว่ากรรมล่ะกันเพื่อให้เข้าใจง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด)มันเหมือนเรื่องที่ขึ้นกับตัวเองมากกว่า ส่วนเรื่องของนายเวรเป็นเรื่องของบุคคลที่ 3 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรา

    ประมาณว่าเราดูแลสุขภาพดี หาแต่ของดีมากิน ผลที่ได้ก็จะมีสุขภาพดี แต่นายเวรจะเหมือนว่าเป็นคนที่ไม่ชอบเราแล้วก็แอบเอาสิ่งไม่ดีมาให้เรากินโดยไม่รู้ตัวนั่นแหล่ะ

    เคยคิด(หรือสับสน) อยู่ว่า ถ้าไม่มีนายเวร กรรมของเราจะส่งผลหรือเปล่า (อีกเช่นกันขอใช้คำว่ากรรมเพราะว่าไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนดีหรือจะอธิบายขยายความก็คงจะยาว) ในเมื่อว่าสวรรค์กับนรกก็ขึ้นกับภาวะจิตของเรา สิ่งที่เราเจอก็ขึ้นกับเจตจำนงของเราด้วย

    เพราะว่าเคยได้ยินมาว่าปัญหาบางเรื่องให้ไปแก้กับนายเวรให้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ แล้วเรื่องราวต่างๆ จะดีขึ้น

    เลยมาคิดว่านายเวรนี่ก็เป็นส่วนนึงของวัฏจักรกรรมด้วยหรือเปล่านะ หรือว่าเป็นส่วนเกินที่เกิดจากอารมณ์อาฆาตเท่านั้น

    ถ้าทุกคนที่ถูกคนอื่นกระทำไม่ดีใส่แล้วไม่แค้นเคืองจะเป็นยังไง? คำว่านายเวรก็ไม่มี?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ... ว่า ถ้าเรายังให้อภัยคนอื่นไม่ได้ คงดูตลกดีที่เราไปขอให้นายเวรอภัยให้เรา
     
  13. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณทุกความเห็นที่เพื่อนๆช่วยกันคิด ช่วยกันตอบออกมานะครับ สิ่งเหล่านี้มีคุณค่ามากๆในการช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในแง่มุมต่างๆให้แก่กันและกัน

    ประสบการณ์อันมีค่าของคุณจินต์ ชี้ให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของจิตใจในการเอาชนะความเชื่อของตนเอง และชี้ให้เห็นว่า ในความฝันหากเรานำข้อมูลที่เกิดขึ้นในฝัน ที่แสดงถึงอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกที่อยู่ภายในจิตของเรามาใช้ประโยชน์ สามารถย่นย่อความเข้าใจของเราได้อย่างลุ่มลึกเลยครับ ในฝันคือเวลาทางจิต เวลาที่เดินในฝันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมีข้อมูลมากมายมหาศาล ถ้าเทียบกับการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ยามที่เราตื่น การเรียนรู้ในฝันช่วยให้เราย่นย่อการเรียนรู้ได้อย่างมากมาย

    ลองคิดกันเล่นๆนะครับว่า

    ณ เวลาอันเป็นปัจจุบัน จิตวิญญาณรวม แบ่งแยกออกเป็น ตัวเราที่มีบุคลิกภาพจำเพาะ ครอบครัว เพื่อน บุคคลในสังคมที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงสัตว์ วัตถุสิ่งของ สื่อต่างๆที่เราพบเจอในสภาพแวดล้อมทั้งหมด

    เมื่อจิตวิญญาณรวมต้องการเรียนรู้เรื่องความโกรธ และคุณค่าของการให้อภัย

    เหตุการณ์ที่เกิด คือ ผมเดินถือของหนักๆจนยกไม่ไหว และของนั้นได้ตกลงมาระเนระนาดที่พื้น และก็กระเด็นกระดอนไปอีกฟากนึงของถนน ด้วยความตกใจผมก็รีบเก็บของนั้นขึ้นมา เพราะกลัวว่าคนอื่นจะหยิบของนั้นไป แต่ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้หยิบของนั้นขึ้นมา ผมก็ได้มองหน้าเธอ เธอก็ลังเลใจว่าจะให้สิ่งของนั้นคืนผมดีมั๊ย และเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะคืนของนั้นให้กับผม เพราะไม่ใช่ของๆเธอ ผมก็ของคุณเธอที่เธอมีเมตตาที่คืนของนั้นมาให้กับผม จากนั้นผมก็วิ่งข้ามถนนไปเพื่อที่จะไปหยิบของที่เหลือ แต่แล้วก็มีป้าคนหนึ่งหยิบของๆผมไปไว้ที่ร้าน และตัวเค้าก็หายไป ผมก็จะไปหยิบของๆผมคืนมา ป้าคนนี้ก็มาเอะอะโวยวายหาว่าผมไปขโมยของของเค้า และเรียกผู้ชาย 2 คนมาเคลียร์ ด้วยความโมโหผมก็เอาไม้ตีหัวผู้ชายสองคนนั้นไป ในใจไม่ได้เสียใจที่เค้าเอาของผมไป แต่เสียใจที่ว่าเค้าคือเพื่อนของผม แต่ทำไมเขาถึงไม่ช่วยเหลือเพื่อน ชาย 2 คนนั้นก็วิ่งไปเรียกตำรวจมาจับผม ผมก็ตามไปด้วยดี สุดท้ายก็มีการไกล่เกลี่ยยอมความกัน เมื่อปรับความเข้าใจกันได้ ผมรู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหลออกมาด้วยความปิติสุข

    (บทความนี้คัดลอกมาจากความฝันครับ ไม่ได้อ้างอิงจากที่ใดๆ)

    ตัวผม ได้รับการเรียนรู้เรื่องความโกรธ และคุณค่าของการให้อภัย
    เด็กผู้หญิง ได้เรียนรู้เรื่องความโลภ และความมีเมตตา
    ป้า ได้เรียนรู้เรื่องความโลภ ความโกรธ การให้อภัย
    ผู้ชายทั้ง 2 คน ได้เรียนรู้เรื่องความไม่ยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และการให้อภัย
    ตำรวจ ได้เรียนรู้เรื่องความมีเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ

    หากจะเรียกว่าทุกคน คือ เจ้ากรรมนายเวรต่อกันก็คงไม่ผิดนักครับ
    ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกัน เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ของความโกรธ การให้อภัย ความโลภ ความมีเมตตา ความไม่ยุติธรรม ความซื่อสัตย์ ความเห็นอกเห็นใจกัน

    เมื่อแต่ละหน่วยของจิตวิญญาณรวมได้เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจนถ่องแท้แล้ว คือ เปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ในเรื่องนั้นๆได้แล้ว ก็จะไปเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆเพื่อเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้อื่นๆต่อไป :)
     
  14. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    เพลงเก่าที่เคยดัง ปัจจุบันก็ยังโด่งดังอยู่ ที่ไหนสักแห่ง
    ของขวัญที่ฝุ่นจับอยู่ ยังใหม่แกะกล่องอยู่ ที่ไหนสักแห่ง
    ที่ว่างร้างเก่าแก่ ยังเต็มไปด้วยความหมาย ผู้คนยังคงมีอยู่ ที่ไหนสักแห่ง
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ช่วงนี้ประสบการณ์ความฝันของคุณเซลล์ กับเพื่อนๆมีสาระมาให้เรียนรู้ทุกวันเลย ดีจริงๆ
    ด้วยอารมณ์ความรู้สึกและจินตนาการในความฝัน สามารถสะท้อนรูปแบบตัวตนของเราเองได้เป็นอย่างดี เช่นการฝึกเผชิญปัญหาและการแก้ปัญหาต่างๆ หรือจำลองเหตุการณ์ล่วงหน้ามาให้เรียนรู้แทบทุกคืน ถ้าเราใส่ใจก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากครับ

    2-3 วันก่อนขอให้คุณจินต์ฯทำนายฝันให้เพื่อนด้วย เค้าบอกว่ารู้จักใครทำนายฝันเก่งๆมั๊ย เลยนึกถึงคุณจินต์ พอได้คุยกันเค้าบอกว่าโดนใจมากเลยครับ..เค้านิ่งคิดอยู่พักใหญ่เพราะคำตอบคุณจินต์ เป็นการช่วยกันหลายๆมุมมองครับ เค้าจะได้เรียนรู้ความฝันไปกับเราในแบบที่มีเหตุผลครับ ขอบคุณคุณจินต์ด้วยครับ ( ใครจะใช้บริการเสริมของคุณจินต์ฯ เชิญนะครับ..)

    อ้อเรื่องสุนัข (เจ้าอ้วน) ตอนนี้สบายดีแล้วนะครับเป็นปกติในชั่วข้ามคืนจริงๆ
    ยังไม่ต้องผ่าตัด ส่วนนึงเพราะดูแลเค้าเหมือนคนในครอบครัว รักษาด้วยความรักครับ
    เค้าฝากขอบคุณเพื่อนๆที่ส่งกำลังใจมาด้วย ขอบคุณพี่เม้าท์ คุณขจรวรรณ และทุกๆคนครับ

    ;aa41
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2008
  16. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    [​IMG]

    กำลังรอคำตอบจากคุณ mead เรื่องสุขภาพของเจ้าอ้วนพอดี ดีใจจัง ;aa55
    คุณจินต์ตอนนี้คงต้องตั้งโต๊ะ ทำนายฝันแล้วนะครับ
    และก็เอาโต๊ะทำงาน มาฝากเพื่อนๆนักวิญญาณศาสตร์ บำบัดโรค ด้วยครับ อิอิ

    ;aa38;enter
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]


    ช่วงนี้ดูข่าวจะเห็นว่าชาติบ้านเมืองกำลังประสบกับปัญหารอบทิศทางเลยนะครับ
    เพื่อนๆลองมาคิดดูว่าในหลวงท่านจะรู้สึกอย่างไร...?
    ลองทำใจให้เป็นกลางๆในความรู้สึกของท่านดูนะครับ
    มีข้อมูลจากเสด็จพ่อ ร.5 บางส่วนมาเล่าให้ฟัง..เอาไว้เป็นข้อคิดครับ


    พระองค์ท่านไม่อยากเห็นความวุ่นวายในบ้านเมืองแน่นอน
    ท่านไม่อยากเห็นลูกตัวเองฟาดฟันจนล้มตายกันไปข้าง เพราะผู้ลำบากที่สุดก็คือ..คนไทย
    ทั้งศึกใน-ศึกนอก จากความไม่สามัคคี ไม่ปรองดองกัน อะไรจะเกิดขึ้น..
    เราแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง เดี๋ยวประเทศอื่นก็จะเข้ามาอีกหลายประเทศ
    ทำไมจะต้องให้ประชาชนมาชนกัน ทะเลาะกัน ตีกัน ฆ่าฟันกัน เพราะจิตใจคนในประเทศแบ่งแยก
    ถ้าต่างคนต่างคิดว่าจะทำให้จบ คิดจะทำเพื่อตัวเองและไม่ระงับเหตุตั้งแต่ตอนนี้.. บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ!
    อะไรก็เข้ามาแทรกแทรงได้ง่าย ลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร
    พวกเรากันเองทำลายกันเอง ไม่ใช่เพียงแค่คนหนึ่งคนหรอก

    พระเจ้าอยู่หัวท่านไม่ได้ว่าใครหรอก ท่านอยากให้พวกเรารักกัน
    ถ้าเจ้ารักแผ่นดินนี้กันจริงๆ ทำไมไม่ใช้ธรรมะและความดีในจิตของเราหล่อหลอมพูดคุยกัน
    กินข้าวหม้อเดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน ถือธงไตรรงค์ผืนเดียวกัน
    พระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยและเสียใจมาก เป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง ประชาชนต้องรักกันให้มาก

    ท่านไม่พูดเพราะท่านไม่ได้อยู่ข้างไหน ฝั่งไหนผิด ฝั่งไหนถูกท่านไม่พูด
    แต่ถ้าหากถึงขั้นต้องเสียเลือดเนื้อเมื่อไหร่ ท่านจะต้องออกมาบอกกล่าวอย่างแน่นอน
    เพราะท่านก็คือ คนกลาง ที่จะมาพูดเพื่อไกล่เกลี่ยระงับเหตุทุกครั้ง
    ท่านมีหน้าที่ให้อภัยทุกๆคนไม่ว่าจะดีจะเลวแค่ไหน ควรคิดด้วยจิตเป็นกลางและมองภาพรวม
    ถ้าทั้งสองฝ่ายยอมอ่อนข้อให้กันและกัน เอาจุดที่เค้าบกพร่องมาปรับปรุงประเทศ
    ตอนนี้ไส้ศึกวิ่งเข้ามาแล้ว..เพราะสยามประเทศหวานหอมเป็นที่ต้องตาต้องใจประขาขาติมาก

    หยุดเถอะ มะเร็งร้ายลุกลามไปทั่ว ทั้งศึกในศึกนอก ต้องหันเข้าหารือกัน
    เราอ่อนแอเพราะคนในประเทศทะเลาะกันเองเหมือนเช่นในอดีต..(อีกแล้ว)

    ลองโหลดไฟล์นี้ไปฟังกันดูราว 57 นาที สาระข้างบนนี้ย่อมาให้ฟังครับ
    เป็นเรื่องที่สมาชิกกลุ่มพันธมิตรปรึกษาพูดคุยกับจิตวิญญาณบรรพบุรุษ (ร.5)
    พอดีว่าได้รับไฟล์มาจากจากพี่คนนึงที่ผมสนิท ในนั้นมีสาระประโยชน์อีกมากครับ

    http://www.FreeUploadShare.com/DOWNL...-1-17.7.51.mp3 (รอโหลด 20 วินาที)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2008
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องเขาพระวิหารนี่ ฟังแล้วงงครับ งงมากๆ เลย

    จากในคลิปบอกว่าถึงศาลโลกจะตัดสินไปแล้วเมื่อ 40 ปีก่อน แต่ไทยเราก็ยังสงวนสิทธิเอาไว้ที่จะเรียกร้อง

    แต่ที่เคยอ่านเจอมาว่าศาลโลกที่ตัดสินนั้น ก็เพราะว่าส่วนนึงแผนที่ฝรั่งเศสใช้ละเอียดกว่าแล้วไทยเราก็เอาแผนที่ที่ฝรั่งเศสเขียนมาใช้อีกด้วย และหลังจากตัดสินไปแล้วในช่วง 10 ปีหลังจากนั้น ไทยก็ไม่ได้ประท้วงจนหมดเวลาที่จะประท้วงได้แล้ว

    เรื่องเขาพระวิหารเนี่ยถึงจะมีเรื่องกับกัมพูชาเราก็เสียเปรียบตรงแผนที่นี่แหล่ะ

    (หวังว่าเรื่องนี้คงไม่ยาวนะ)

    ฟังแล้วน่าหนักใจครับ แต่เสด็จพ่อร. 5 ก็พูดดีแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2008
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ก็หวังว่าคงไม่ยาวครับคุณซิปฯ เรื่องเขาพระวิหารกำลังเป็นชนวนเหตุพอดี
    คนไทยควรมองเห็นปัญหาและทางออกที่ดีกันไว้ก่อนไว้นะครับ
    ถ้าบานปลายต่อไปก็เป็นเรื่องใหญ่แน่ แค่น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ (ลูกหลานคุณซิปฯจะอยู่ยังไงนะ ^_^)
    ท่านบอกว่าสมัยท่านเองต้องยอมเสียแผ่นดินบางส่วนเพื่อรักษาแผ่นดินส่วนใหญ่ไว้ ทั้งๆที่ท่านไม่เห็นด้วยเลยแต่ก็จำเป็นต้องทำ ควรคิดและตัดสินใจแบบองค์รวมอาศัยอำนาจตุลาการที่เป็นกลาง มนุษย์มาขึดแบ่งเส้นจับจองพื้นดินกันไปเองทั้งๆที่โลกทั้งใบ จักรวาลและจิตวิญญาณก็ไม่เคยแบ่งแยก
    ในแง่ของจิตวิญญาณมันอีกแบบนึงนะ..ผลของการกระทำจะนำพาไปเอง
    ถ้าคิดแบบจิตมนุษย์มันจะไม่จบ..มันมีเบื้องลึกซับซ้อนกว่าที่เห็นมาก (เรื่องการเมืองน่ะครับ)
    รักและสามัคคีกันไว้ด้วยความเป็นกลางมีเหตุผล จะไม่ถูกครอบงำทางความคิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2008
  20. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณมีด พอฟังอันนั้นจบเพลงก็เล่นไปต่อเพลง แบกบาล เลย ปกติจะตั้งให้เล่นเพลงแบบสุ่มเอาไว้ เล่นเอาขนเกือบลุกเลย

    <object width="300" height="110"><param name="movie" value="http://media.imeem.com/m/4bVhgmnxi_/aus=false/"></param><param name="wmode" value="transparent"></param><embed src="http://media.imeem.com/m/4bVhgmnxi_/aus=false/" type="application/x-shockwave-flash" width="300" height="110" wmode="transparent"></embed><a href="http://www.imeem.com/bookkii/music/wUb_Asjz//">แบกบาล - สันติ ลุนแผ่</a></object>

    เคยอ่านบันทึกสมัยก่อนครับ ตอนที่ร. 5 ท่านต้องตัดใจเสียดินแดนไปนั้น ท่านเสียใจมากเลยครับ คิดว่าคนรุ่นหลังต้องว่าท่านแน่ว่ารักษาดินแดนไม่ได้

    เรื่องภาคใต้ก็น่ากลัวครับ ถ้าข้อมูลที่ผมเคยอ่านๆ มาจากเวปอื่นไม่ได้มั่วอะไร เค้า(พวกนั้น)คิดไกลครับ.....

    (กลุ้มใจ ไปกลุ้มเรื่องงานต่อดีกว่า)
     

แชร์หน้านี้

Loading...