เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ขอบพระคุณ คุณเซลล์ คุณขจรวรรณ และ คุณ mead มากค่ะ...
ทำให้เดรดได้มุมมอง สำหรับพิจารณาได้เพิ่มขึ้น

สรุปแล้ว ก็คือ การตามจดจ่อกับสติสัมปชัญญะ และให้รู้เสมอ
ความกลัวของเดรด อาจเกิดจาการไม่รู้ เผลอ ไม่อยู่ในสติสัมปชัญญะเพียงพอ
อาจเกิดจาก ความมุ่งมั่น และใส่ใจน้อยไป คงต้องพยายามฝึกต่อไป...
อย่างน้อย ก็สบายใจหน่อยว่า คนอื่นๆ ก็มีประสบการณ์เช่นนี้ บ้างเหมือนกัน
...กำลังใจมาเพียบเลยค่ะ...ต้องเร่งสปีดหน่อยแระ เด๋วตามรุ่นพี่ไม่ทัน

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับความเอื้อเฟื้อ ของทุกท่าน
น่าร้ากกก....ทุกคนเรยยยย...;aa47

 

พูดถึงเรื่องความกลัวในการฝัน โมกลามีเรื่องประทับใจที่อยากเล่าอยู่เรื่องหนึ่ง คือสักประมาณ 2 อาทิตย์ มาได้

ฝันว่ามีหมอกควันสีดำกำลังเคลื่อนตัวเพื่อแทรกเข้ามาในร่างกายเรา ในความฝันรู้ว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย ก็พยายามขับไล่ให้ออกไป ตะโกนว่าไม่กลัวหรอก ออกไป ๆ คิดในฝันว่าเรามีอาจารย์อนาลัยเป็นที่พึ่งแล้ว เราจะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แล้วตื่นขื้นด้วยตระหนกโดยมีคำว่าออกไปติดปากอยู่

ไม่ทราบว่าพอจะเป็นสาระเดียวกัน กับที่เพื่อนๆกำลังคุยกันหรือเปล่า

ในมุมมองส่วนตัวถ้าคิดตามหลักทางพุทธศาสนา ที่ว่า เมื่อเราจะเข้าสู่หนทางแห่งการรู้แจ้ง กิเลสในตัวเราที่ครอบครองความคิด ตัวตน ของเรามายาวนาน จะพยายามสำแดงให้เรารู้สึกกลัวที่จะเดินไปสู่หนทางใหม่นั้น (นึกถึงตอนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ที่จะต้องผจญมารหลายครั้ง)
เพราะการเข้าสู่หนทางใหม่ จะทำให้กิเลสมารไม่มีที่อยู่ ต้องสลายไปในที่สุด เขาจึงพยายามออกมาขู่ ขัดขวาง ไม่ให้เราเดินต่อไปได้

 

ผมเคยหลงทางในความฝันเหมือนกัน ในฝันยังหลงเลย ต้องเอาเข็มทิศสติไปด้วย อิอิ

มีวันนึงฝันว่า ขับรถไปรอบๆมหาวิทยาลัยที่เคยเรียนอยู่
วิ่งไปเจอทางแยก ตรงที่วิ่งอยู่เป็นยุคปัจจุบัน แต่ถ้าเลี้ยวขวาเป็นมหาวิทยาลัยในยุคอดีต เป็นตึกโบราณทำจากศิลาแลงทั้งหมด มีนักศึกษาออกมาเต็มไปหมดทั้งชายและหญิง แต่ละคนใส่ชุดนักศึกษายุคโบราณทั้งหมดเลย
ในฝันตกใจเหมือนกันว่า เราจะต้องวิ่งไปทางไหนดี ไปไม่เป็นเลย อิอิ

อาจจะเพราะเรายังไม่เคยชินกับการที่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดำเนินอยู่ด้วยกัน ในเส้นทางที่เป็นอนันต์ เพราะเคยชินกับการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อยู่เสมอๆในชีวิตประจำวัน

ถ้าเรามองจากมุมมองของตัวตนในความฝัน ชีวิตยามตื่น ก็เหมือนเป็นความฝันเหมือนกันนะครับ ;aa34

 

เคยอ่านพบว่า เสียง (แรงสั่นสะเทือน/พลังของจักรวาล) "โอม" เป็นเสียงในระดับที่ 2 ของจิตวิญญาณ (จากที่จัดไว้ 5 ระดับ) จะลองค้นมาให้อ่านนะครับ

 

จะรออ่านครับคุณ VeggieGuy ...คำที่เป็นคลื่นเสียงเหล่านี้มีเงื่อนงำครับ
เป็นสิ่งกระตุ้นพลังวัตรที่เก็บไว้ในจักระต่างๆ ให้ตื่นขึ้นมาทำงานได้
เคยไปอยู่ในกลุ่มคนที่ออกเสียง"โอม"หลายๆคนฟังแล้วรู้สึกขนลุก..
ข้างในสั่นสะเทือนดิ่งลึก แต่สงบนิ่ง คำๆนี้มีพลังที่เดียวครับ

 

เสียง โอม

เสียง

 

ขอบคุณครับคุณ VeggieGuy
"โอม" เป็นคลื่นเสียงที่นุ่มนวลโดดเด่นและทรงพลังนะครับ
แถมเบื้องหลังก็ยังมีผลต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย
มาคิดดู..ถ้าเราสร้างพลังงานจากคลื่นเสียง..หรืออะไรที่มีตัวส่ง-ตัวรับ
อาจเกิดพลังงานใหม่ๆออกมาปฎิวัติพลังงานของโลกได้อีกด้วยนะครับ อิอิ
ความคิดของเรายิ่งคิดนานขึ้นเท่าไหร่มันก็จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
แบบพิมพ์เขียวนั้นสามารถสร้างเป็นความจริงได้ ต้องฝากนักวิทย์ฯไปคิดต่อครับ

 

พี่นักเขียนอธิบายคำว่า
"ตัวตน" และ
"แต่จิตวิญญาณของฉันคือลักษณะที่ฉันนำไปใช้"
หน่อยครับ

 

เมื่อก่อนผมตั้งจิตว่าจะตื่นกี่โมงก็จะตรงพอดี ก่อน-หลังไม่เกิน 5 นาที
แต่เดี่ยวนี้ความฝันทำไมผมจำความฝันไม่ค่อยจะได้เลยครับ

 

;26
ลองกำหนดจิตขอจำความฝันก่อนเข้านอนครับ
เอาสติเข้าไปสังเกตการณ์ดูด้วยนะครับ..
ก่อนตื่นนอนก็ทบทวนความฝันด้วยครับ
บางทีจะระลีกได้ตอนที่เราตื่นมาสักพักนึงครับ

 

คำถามเหมือนไม่ชัดเจนนะครับ
แล้วเอามาจากเล่มไหน-หน้าไหนเอ่ย? ขอทบทวนคำถามอีกทีดีกว่าครับ

 

ขอเติมสีสันให้ห้องวิทย์หน่อยครับ
เอาฝันแนว Action sci-fi สดๆร้อนๆ มาให้อ่านเล่นครับ..
อ่านแล้วสนุกมากครับแทบไม่ต้องตีความเลย อิอิ
ฝันของซูปเปอร์เดรดครับ..


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kindred
ขอบคุณ คุณ mead กับคุณเซลล์ ที่ช่วยตีความว่า เป็นวิญญาณที่ดี
เค้าไม่ได้พายขนาบข้างค่ะ แต่ล้อมรอบๆ เลย มีลำละสองคนด้วย
ลำที่เดรดนั่งก็มีเดรด กับใครอีกคน เหมือนก็อปปี มาแหล่ะค่ะ
บรรยากาศ สลัวๆ จริงๆด้วย น่าจะพระจันทร์วันเพ็ญ

วันนี้ก็มีฝันมาเล่าอีก...รีบมาโพส เด๋วลืม เอาละนะ...
ฝันถึงคุณ mead เต็มๆ เลย ปะมาน พระเอกของเรื่องเลย
ฝันว่า นั่งรถหรูๆ สวยๆ แบบเฟอร์รารี่ มั้ง ไม่แน่ใจ แต่รู้ว่าเป็นรถเกรดสุดยอด
แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม..คุณmead ต้องขับถอยหลังตลอด
แล้วถอยเร็ว เป็นจรวดเลย เดรดละเสียวไส้..

คุณmead พาไปดูเค้าถ่ายหนัง ประมาณ หนังโฆษณา เป็นโรงถ่าย แบบ Studio
คนเต็มไปหมด คุณmead บอกนี้งานอดิเรก

ซักพัก เหมือนจะกำลังไปกินข้าว เดรดอยู่บนรถ คุณmead อยู่ข้างล่าง หมายความตามนั้นจริงๆ
เหมือน เดรดอยู่บนที่สูงกว่า คุณ mead ทำท่ากางมือออก เหมือนรอรับ
เดรดบอก ไม่เป็นไร เดรดลงเองได้ คุณmead บอก ไม่ใช่ รับเด็กที่อยู่ข้างหลัง
เดรดหันไปมอง มีเด็กเล็กๆ 2-3 คน และมีคนอื่นๆอีกหลายคน มีผู้ชายอยู่คนคอยยืน ดูแลอยู่ แล้วทุกคนก็ทยอยลงจากรถ
ชายคนนั้น ส่งเด็กๆ เหมือนโยน คุณmead ก็รับ
คนอื่นๆก็ทยอยลงตาม
เหมือนยานพาหนะที่นั่งมา กลายเป็นยานอพยพไปแล้ว
แล้วอยู่ดีๆ คุณ mead ก็กลายเป็นตัวเขียว ใหญ่ๆ เหมือนมนุษย์จอมพลังอ่ะ แต่ไม่ใช่ เดรดตกใจวิ่งหนี
คุณmead ส้งสมุน เป็นผู้หญิง2คนมาตาม ใส่ชุด ขาว กับดำ พริ้วๆ ผู้หญิง2คนนี้สวยมาก

แต่เดรดหนีทัน...กลับมาบ้าน แล้วอยู่ดีๆ คุณmead ก็ตามมาหา ในร่างมนุษย์เขียว บอกว่าจะหนีทำไม
เดรดบอกเดรดกลัว คุณmead บอกงั้นไม่เป็นไร เค้ามีหน้าที่ปกป้องคน แล้ว
คุณmead ก็ส่งกระดาษให้แผ่นนึง ในนั้น มีเลข 1380...จบ

เดรดนอนหลับไปประมาณ เที่ยงคืน ครึ่ง แล้วรู้สึกตัวตื่นตอนตี1 ฝันทั้งหมดนี้ เกิดขึ้น ภายในครึ่งชม.
เป็นไปได้ไง มันยาวมากๆ แถมจำได้แม่นเลย จริงๆ มีราบละเอียดอีก แต่จะเลอะเทอะเกิน
เอาแค่นี้ละกัน...แหม เหมือนใบ้หวย ฝันวันนี้

ตีความให้ ข้าพเจ้าด้วย ท่านทั้งหลาย...

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

 

วันนี้มีคำถามมาให้ขบคิดกันหน่อย กระคุ้นเซลล์สมองครับ อิอิ
ใครตอบได้บ้างครับว่า วิวัฒนาการ กับว่า ปาฎิหารย์ เหมือนและต่างกันตรงไหน?
ลองมาหาเงื่อนงำของความหมายทั้งสองนี้ดู..หวังว่าไม่ยากไปนะครับ

 

ไว้เดี๋ยวกลับมาตอบครับ คำถามช่างลุ่มลึกนัก อิอิ

 

ณ.ขอลองตอบสักนิดนึ่งค่ะ

วิวัฒนาการ กับ ปาฏิหาริย์ ที่เหมือนและแตกต่างกันคือระยะเวลาที่เกิด
รวมถึงสภาวะที่เหมาะสมด้วย วิวัฒนาการมีขั้นมีตอนค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
ปาฏิหารย์เป็นการเกิดปุ๊บปั๊บ เกินความคาดหมาย ซึ่งณ.คิดว่าปาฏิหารย์ก็มาจากวิวัฒนาการที่ก้าวกระโดด
เหมือนกับการก้าวผ่านประตูมิติของโดเรมอน
กรณีตายแล้วฟื้น...ณ.มาคิดๆ ดูก็เป็นวิวัฒนาการทางจิตที่ก้าวกระโดดอีกประเภท
แต่ไม่รู้วิธี แต่คิดว่าคงมีการกระตุ้นที่ไหนสักแห่ง จึงทำให้ระบบร่างกายกลับมาทำงานอีกครั้ง
อะไรเป็นสิ่งกระตุ้นก็ไม่รู้ แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นปาฏิหารย์
วิวัฒนาการทำให้การเต้นของหัวใจค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตามจังหวะ
ปาฏิหารย์ทำให้การเต้นของหัวใจสูบฉีดแรง เพราะเกิดขึ้นเกินที่เราจะคาดเดาได้

 

กระทู้เงียบจัง เข้ามาช่วยปั่น
ตอบคำถามคุณ mead ตามความเข้าใจของเดรดเอง
วิวัฒนาการ คือการเปลี่ยนระดับขั้น
ยกตัวอย่าง ในกระบวการหนึ่งๆ มี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1คือ จุดเริ่ม 10 คือจุดเสร็จสมบูรณ์ หรือเป้าหมาย
วิวัฒนาการ จะเปลี่ยนรูป หรือผล หรืออะไรก็แล้วแต่
ตามลำดับขั้น 1ไล่ไปถึง10 โดยไม่ข้ามลำดับ
หรือย้อนกลับจาก 10 มาเป็น1(งง? มั๊ยคะ)

แต่ ปาฏิหารย์ เป็นการเปลี่ยนแปลง หรือ เปลี่ยนรูป แบบก้าวกระโดด
จาก1 อาจไปเป็น10 เลย หรือ เป็น 5 หรือกลับจาก 10 ย้อนมา 1 หรือไป 5 ไป 3...
(อิอิ...อธิบายเองเริ่ม งง เอง)
...เอาเป็นว่า
สรุป..วิวัฒนาการ มีลำดับขั้น เป็น step แต่ ปาฏิหารย์ ไม่มี Step...

ข้าพเจ้า เข้าใจถูกมั๊ย...เพื่อนๆว่าไงคะ;22

 

ถูกต้องครับ สงสัยคำถามจะง่ายเกินไปนะครับ อิอิ
คุณ ณ. + คุณเดรด ตอบได้กระจ่างแจ้งทีเดียวครับ..
เงื่อนงำก็คือเรื่องของ"ระยะเวลา"ครับ
วิวัฒนาการ จะใช้เวลายาวนานเป็นลำดับขั้นตอน เป็น step
แต่ ปาฎิหารย์ ปรากฎขึ้นอย่างรวดเร็ว ก้าวกระโดด ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย
ปาฎิหารย์ จะเหมือนการปรากฎของเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือ"เครื่องพราง"
ทั้งอดีต - อนาคต ที่สามารถปรากฎพร้อมกันเป็นปัจจุบันให้เราเห็นนั่นเองครับ
โดยที่เราที่อยู่ในมิติโลกอาจไม่ทันสังเกตครับ
เก่งทุกคนเลย...ปรมมือดังๆให้เลยครับ
คุณเซลล์จะมาตอบเพิ่มก็ได้นะครับ

 

เพิ่งลอคออน เข้าระบบ เลยเห็นพี่ มีดแอบเข้ามาหลังบ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 นู้ๆๆๆๆ อิอิอิ
ร้องเพลงไม่เป็นเลย หุหุหุ ขนาดร้องเพลงชาติก็เหมือนท่องอาขยาณ แหละครับ

ใกล้จะครบ 300 หน้าแล้วน่ะนี่ ว่าแต่พี่นักเขียนไปไหนๆ อิอิอิ

ช่วงนี่ๆaxzon เพิ่งได้งานใหม่ ไม่ค่อยว่างมาคอมเม้นท์เลยคับ แต่แวบมาอ่านบ่อยๆแหละ

 

เกี่ยวกับเสียง "โอม"

เจอแล้วครับ แต่มีรายละเอียดเพียงเล็กน้อย
เป็นคนที่คุณ mead น่าจะรู้จักดีนะครับ
มีคำตอบสั้นๆที่อาจารย์ชิงไห่ตอบผู้เข้าฟังปาฐกถา ครับ

ถาม: มีภาษาของจักรวาลหรือไม่? เสียงนั้นคล้ายคลึงกับเสียง "โอม" หรือไม่?
ตอบ: ภาษาของจักรวาลก็คือ กระแสเสียงภายในซึ่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และนำสรรพสัตว์ทั้งมวลให้เข้าใจซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องใช้ภาษาใดๆ เลย
เสียง โอม เป็นเสียงในระดับที่ 2 มันไม่ใช่เสียงเพียงชนิดเดียว และไม่ใช่เสียงที่สูงที่สุดในจักรวาล

Q: Is there any universal language, is that sound close to AUM?
M: Universal language is the inner current which unites all things and brings all beings to understand each other without any language. The sound of AUM is the sound of the second level. It is not the only sound, and it's not the highest sound in the universe.

 

กระทู้เงียบอีกแล้ว...ไปไหนกันหมดอ่ะ
งั้นขอปั่นกระทู้ เปิดประเด็นหน่อยค่ะ...คิดออกสดๆ เรย

ใครมีความเห็นอย่างไร ระหว่าง หนังสือชุดของอ.โนวา อนาลัย และ CWG
หนังสือ ทั้งสอง เหมือนกันตรงไหน และต่างกันตรงไหน บ้าง
เดรดอ่านแล้ว ชอบมากทั้งสองเรื่อง...บางประเด็น ขัดแย้งกัน บางประเด็น เชื่อมโยงกัน
แต่เดรดคล้อยตาม หมดเลย...เหมือนทั้งสองเรื่อง ต่างอธิบาย ซึ่งกัน และกัน