เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ยินดีกับคุณ brotherpray ด้วยนะครับ ;aa50ที่เข้าถึงความรักภายใน ความรักของพระเจ้าที่ไร้เงื่อนไขที่อยู่ภายในของทุกสรรพสิ่ง เงื่อนไขต่างๆเป็นสิ่งที่ตรรกกะ สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมให้เรารู้สึกปลอดภัย

แต่ก่อนผมก็คิดว่า สิ่งที่เป็นตรรกกะในแต่ละอย่างทำให้เรารู้สึกปลอดภัย ที่เรามีหลักยึด ทำให้ไม่รู้สึกเคว้งคว้าง แต่เรากลับติดกับตรรกกะที่เป็นพรรคพวกกับความเชื่อ

เมื่อวางคำว่าความเชื่อลง กลับพบว่าหลักที่เรายึดไว้ ช่างเป็นสิ่งที่เล็กจ้อยเหลือเกิน เราจะนำความเชื่อ และตรรกกะมาอธิบายความยิ่งใหญ่ของสรรพสิ่งได้อย่างไร

ทุกวันนี้ก็ยังสนุกกับการค้นหาอย่างจริงใจ อย่างเต็มที่ และเต็มใจ ให้เห็นความเชื่อที่ผูกเราเอาไว้จริงๆ และวางมันลงครับ

มาช่วยกันค้นหาความเชื่อที่ผูกเราไว้กันครับ จิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์มีขึ้นมาก็เพื่อช่วยกันค้น ช่วยกันหา ช่วยกันวางครับ

 

555+++ ก็น่าจะเป็นไปได้นะคะ ไม่ค่อยจำซะด้วยว่าที่ผ่านมาเป็นงัยบ้าง?
ที่ชอบสีแนวนี้อาจเป็นเพราะว่าเป็นคนผิวขาวออกเหลืองน่ะค่ะ..
ถ้าอยู่กับสีอ่อน ๆ แล้ว รู้สึกตัวเราจะซีด ๆ ยังงัยชอบกล..
ก็เลยเลือกสีเจ็บ ๆ ซะเลย เปิดเผยดี.. คิกคิก..
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เซลล์
คุณขจรวรรณเข้ามาแล้ว ลองใช้ความสามารถร่วมรู้สึก ทายคุณเดรด คุณ mead ที อิอิ


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ก็เข้ามาทุกวันแหล่ะค่ะคุณเซลล์ไม่ได้ไปไหน ก็หาความรู้อยู่แถวนี้แหล่ะค๊า..
สำหรับคุณ Mead กะ คุณเดรต ก็น่ารัก ๆ กันทุกคนเลยค่ะ.. อิอิ..
แถมจินตนาการล้ำเลิศอีกต่างหาก.. และก็สร้างสรรค์.. สร้างสรรค์ดีค่ะ..

 

เห็นด้วยนะครับคุณวรรณ น่ารักกันทุกคนครับ
คุยกับคุณ mead แล้ว
ตกลงเดี๋ยวรอเพื่อนๆมาทายกันก่อนดีกว่าครับ
แล้วเดี๋ยวค่อยเปิดกล่องความฝันกัน อิอิ

 

รอก่อนครับคุณเซลล์ยังไม่เฉลย..
รู้สึกว่ามีเพื่อนๆบางคนกำลังสนใจจะเข้ามาเล่นครับ

 

ขนาดว่าญาณ อภิญญาสุดยอดแล้ว แต่ใครที่บังคับจินตนาการอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองได้นี่ เจ๋งกว่าอีกนะครับ

 

น้องเดรคมีประสาทสัมผัสภายในดีมาก พี่จินต์มีนิสัยคล้ายทหารจริง ๆ คือ เด๊ะ ๆ ตามกฏ พูดจาโผงผาง แต่ตรง เหมือนพวกทหาร ที่สำคัญอยากเป็นทหารมาก เสียดายเป็นผู้หญิงไม่งั้นล่ะก็ ..........

อีกอย่าง ชอบสีม่วงด้วย แต่ไป ๆ มา ๆ แดง+น้ำเงิน = ม่วงพอดีเลย

 

งั้นมาดูความฝันนี้ของจินตวดี

1. จินตวดีฝันเห็นตัวเองกำลังดูทีวี ภายในทีวีปรากฏภาพของจินตวดีขึ้นมา ด้านหลังมีโครงกระดูกกำลังเกาะไหล่เราอยู่ เราก็คิดว่านั้นคือปีศาจร้าย พอเราคิดดังนั้นมีคนที่อยู่กับเราอีกคนหนึ่งเอาฝ่ามือมาทาบด้านหลังเราให้เราเปลี่ยนความคิด แต่ตาเราก็ยังมองเห็นอยู่ สักพัก ภาพโครงกระดูกนั้นกลายเป็นผู้ชายสูงอายุ และตัวเรากลายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เราตรงเข้าไปกอดรัดผู้ชายคนนั้นด้วยความรักอย่างที่ลูกรักพ่อ ผู้ชายคนนั้น(โครงกระดูก) ก็สวมกอดเราด้วยความรักอย่างสุดซึ้งเช่นเดียวกัน และภาพหน้าจอหายไปกลายเป็น หัวกระโหลกกำลังหัวเราะแทน
2. ฝันว่าตัวเองถูกปลุกให้ตื่นด้วยเลือด และตัวเองพยายามต่อต้าน
3. ต้นปีฝันเห็นมีคนมาบอกว่า "เรามาจากครอบครัวผีดูดเลือด" ฝันซ้ำกัน สอง ครั้ง
4. ฝันเห็นตัวเองออกลูกเป็น ยุง ซึ่งจะอยู่รอดได้ด้วยการ ดูดเลือดเช่นกัน
5. เมื่อสองคืนที่แล้ว ฝันเป็นยุงนั้นใหญ่โตมาก และต้องการดูดเลือดจำนวนมากขึ้นเช่นกัน

ทำไมเราจึงแปลไม่ถูกเสียทีนะ

 

ฝันคุณเอ ดุเดือดจริงๆครับ เหมือนกำลังดูสื่อจาก TV
อ่านไปเหมือนดูสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้เลยครับ..
เมื่อคืนก็ฝันไปว่ากำลังใส่ชุดคลุมตัวที่ล่องหนได้..(เหมือนผมสวมชุดเองแต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ซะทีเดียว) กำลังเดินไปที่สวนสนุกที่มีผู้คนกำลังเล่นเครื่องเล่นต่างๆ..ทั้งม้าหมุน..สารพัดเครื่อเล่นที่หมุนได้ทั้งหลายอยู่รอบๆตัว...สักพักคนที่อยู่ในชุดล่องหนนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆ ไปหยุดตรงเครื่องเล่นที่มี "ปุ่มสีแดง"อยู่ข้างบน...ก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปผ่านเครื่อเล่นหมุนๆขนาดใหญ่ที่กำลังหมุนอยู่ เพื่อจะตรงเข้าไปกดปุ่มนั้น ด้วยความที่พื้นเอียงก็ทำให้ปีนขึ้นไปไม่สะดวก...และในที่สุดก็ปีนขึ้นไปกดปุ่มนั้นได้สำเร็จ...หันมาดูก็เห็นว่าทุกอย่างหยุดหมุน...การเคลื่อนไหวทั้งหมดรอบๆตัวกลายเป็นภาพนิ่งไปหมด.. เหมือนเกี่ยวกับความรู้สึกที่พยายามจะหยุดอะไรบางอย่างก็ได้ครับ...จริงๆตั้งใจฝันถึงเพื่อรสมาชิกท่านนึง แต่ดูแล้วก็สามารถตึความได้กว้างกว่านั้นมากครับ

 

ฝันของคุณจินต์ และคุณ mead มีความหมายต่อเนื่องกันเลยนะครับ
ถ้ามองในแง่สถานการณ์บ้านเมือง
ฝันของคุณจินต์เหมือนเป็น tv แบบ real time
ฝันของคุณ mead เหมือนบทสรุปนะครับ
เพื่อนๆว่างัยครับ

 

จินตวดีฝันว่า ตัวเองกำลังดิ้นรนจากการถูกผูกมัด ดิ้นเท่าไรก็ไม่หยุด แต่มีเสียงดังขึ้นบอกว่า "ถ้าเธอไม่ต้องการ เธอก็แค่เดินออกไปเท่านั้น" แค่นี้จินตวดีในฝันก็หลุดออกมาจากพันธนาการทันที พร้อมเดินออกไป แต่ในขณะนั้นก็มีใครบางคนตามมาด้วยเช่นเดียวกัน เขาตามมาเพราะรักและต้องการเรา จินตวดีในฝันนั้นพยายามหลบหนี แต่ดูเหมือนยิ่งหนีเขายิ่งตามใกล้เข้ามาทุกที ท้ายสุด จินตวดีหยุดในที่แห่งหนึ่ง เขาคนนั้นก็หยุดด้วยเช่นเดียวกัน สรุปเราและเขาอยู่ในที่เดียวกัน แต่ต่างคนต่างอยู่ เราเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันโดยสงบ

เช้านี้อากาศดี หน้าตาสดใส ไม่หมองเหมือนเดิมแล้ว

 

เดรดก็เคย ฝันคล้ายแบบนี้ ใครไม่รู้ชอบตาม เราก็พยายามหนีจริงๆจังๆ
ถึงเค้าจะไม่ได้พยายามเข้ามา ทำอะไรเรา แต่รู้สึกว่า ไม่ไปไหนซักที
อะไร ก็ไม่ทราบค่ะ สภาพจิต แบบนี้...ยังไข ปริศนาให้ตัวเอง ไม่ออกเลยค่ะ
(เราหนีอะไร...ในใจตัวเอง รึเปล่าหนอ...คิดไม่ออกจริงๆค่ะ)

เมื่อสองวันที่แล้ว ก็ฝันถึงพี่นักเขียน มาสอนพวกเราวาดรูป
นั่งวาดรูปกัน บนพื้นห้อง ไม่มีโต๊ะ เก้าอี้เลย นั่งกันอยู่เต็มไปหมด..
สงสัย...คิดถึง พี่เค้า เอาไปฝันเรย...อิอิ

 

ฝันของคุณจินต์ และคุณเดรด คล้ายๆกันเลยนะครับ
ในช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา เราสามารถวิ่งหนีได้
แต่ในจินตภาพที่ไม่มีช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา จะทำได้โดยการเปลี่ยนการจดจ่อ เพราะสัญลักษณ์ทั้งหลาย คือ ภาวะจิตทั้งหมดของเรา
จึงไปไหนมาไหน ด้วยกันตลอด
เหมือนเรื่องคุณตุ๊ก ที่ผมเล่าให้คุณเดรดฟังอะครับ ที่หนียังไงก็ไม่พ้น แต่มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ เป็นความหมายที่รอให้เราไปทำความเข้าใจครับ

 

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ

อ่านข้อความคุณ brotherpray แล้วสะดุดใจ เลยอยากมาทักทาย อย่างที่บอกนะคะว่า คำตอบมีให้เราเสมอ แม้เราจะยังไม่ถามออกไป ริสาก็รู้สึกคล้ายๆคุณค่ะ หลังจากที่อ่าน สนทนากับพระเจ้าแล้วย้อนกลับมาอ่านของพี่นักเขียน ความหมายที่ซ่อนคำตอบไว้อยู่ระหว่างบรรทัดและข้อความ ทำให้ต้องจดและย้อนทบทวน เกิด ตัวรู้ ขึ้นมา เป็นความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้

พูดถึงเรื่องความฝันคุณจิน และคุณมีด คิดว่า เกี่ยวเนื่องกับการหาทางออกไหมคะ ทำไมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนคนกำลังหาทางออก ลองเดาเล่นๆดู หุหุ

 

จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา,
เราทั้งหลายผู้ถึงแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้ว พระองค์นั้น เป็นสรณะ
ธัมมัญจะ สังฆัญจะ,
ถึงพระธรรมด้วย, ถึงพระสงฆ์ด้วย
ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ,
จักทำในใจอยู่ ปฏิบัติตามอยู่ ซึ่งคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตามสติกำลัง
สา สา โน ปะฏิปัตติ,
ขอให้ความปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย
อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ,
จงเป็นไปเพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ เทอญ.

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวสวัสดีกับท่านทั้งหลายอีกครั้งนะครับ บางท่านคงแปลกใจว่าทำไมข้าพเจ้าถึงยกเอาบทสวดมนต์แปลที่เป็นบทลงท้ายของบทสวดมนต์ทำวัตรเช้าขึ้นมาเป็นเป็นบทเริ่มต้น จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรเป็นพิเศษหรอกครับเพียงแต่ว่าเวลาที่ข้าพเจ้าสวดมนต์แปลทีไรข้าพเจ้าจะรู้สึกดีและมีความสุขสงบเกิดขึ้นในจิตทุกครั้ง โดยเฉพาะบทลงท้ายบทนี้

คราวนี้ข้าพเจ้ามีประสบการณ์เกี่ยวกับวิถีของการจดจ่อทั้งในความฝันหรือยามหลับ และในยามตื่น ที่มีผลหรือเกิดขึ้นจริงในอนาคต มาเล่าเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านทั้งหลายอีกสักครั้งนะครับ
เรื่องแรก (เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีของการจดจ่อในยามหลับ)
ปกติข้าพเจ้าจะสวดมนต์ และนั่งสมาธิทุกวันทั้งตอนเช้าและตอนเย็นหรือค่ำ ยกเว้นบางวันที่ติดภาระกิจจำเป็นจริงๆ ในห้องพระที่บ้านของข้าพเจ้าจะมีโต๊ะหมู่บูชา และข้าพเจ้าจะถวายน้ำและผลไม้แด่องค์พระพุทธเป็นประจำโดยเฉพาะน้ำ แต่จะหลายๆวันถึงจะเปลี่ยนที ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่พอมาเมื่อสองวันก่อนหลังจากที่ข้าพเจ้าสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จ ข้าพเจ้าก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนน้ำที่ถวายพระได้แล้วแต่พอตอนเย็นข้าพเจ้ากลับลืม พอตกกลางคืนในคืนนั้นข้าพเจ้าก็ฝันว่าได้ถือแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มแก้วเพื่อจะนำไปถวายพระ แต่ระหว่างที่เดินก็เกิดมีความคิดขึ้นมาว่าน้ำในแก้วนั้นสะอาดหรือเปล่า เลยลองดื่มดูพอดื่มไปแต่ยังไม่ทันได้กลืนก็มองเห็นตะกอนอยู่ในแก้วเต็มไปหมด เลยรีบบ้วนน้ำออกแล้วก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอรุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็รีบนำแก้วน้ำ
ที่ถวายพระอยู่ไปล้างแล้วเปลี่ยนเอาน้ำใหม่มาถวายพระก่อนสวดมนต์ทำวัตรเช้า
เรื่องที่สอง (เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีของการจดจ่อในยามตื่น)
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวกับความฝันเลย แต่เกี่ยวกับความคิดและจินตนาการในยามตื่น และเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าหลายครั้ง คือเวลาที่ข้าพเจ้าสนใจอยากรู้หรืออยากได้สิ่งใด ก็มักจะได้รับรู้ได้เห็นหรือได้รับสิ่งนั้นตามที่คิดไว้เสมอโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ เช่นข้าพเจ้านึกอยากจะได้หนังสือที่เกี่ยวกับคำสอนของพระอาจารย์อยู่องค์หนึ่ง ซึ่งปกติจะไม่มีมาวางขาย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันข้าพเจ้าก็ได้ไปเดินตลาดนัด(ประเภทเปิดท้ายขายของ) และได้ไปดูที่ร้านที่ขายหนังสือเก่า ปรากฏว่าข้าพเจ้าก็ได้พบหนังสือของพระอาจารย์องค์ดังกล่าวจริงๆซึ่งหนังสือนั้นเก่ามาก และมีอยู่เล่มเดียว ซึ่งแน่นอนข้าพเจ้าก็รีบซื้อทันที นอกจากนั้นก็ยังมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันอีกมาก เช่นเกี่ยวกับพระพุทธรูปบูชา ซีดีธรรมะ และหนังสือธรรมะ และสิ่งอื่นๆ ที่พอนึกอยากได้ไม่นานก็จะได้มาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นมีผู้นำมาให้ หรือได้พบเจอด้วยตนเองตรงตามที่คิดไว้ เป็นต้น

จากเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าประสบมาทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่านอกจากวิถีของการจดจ่อของจิตวิญญาณนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งในยามหลับและในยามตื่นหรือกล่าวได้ว่าเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแล้ว การกระทำในปัจจุบันนั้นย่อมส่งผลในอนาคตเสมอ และแน่นอนการกระทำในอดีตก็ย่อมส่งผลในปัจจุบัน ฉะนั้นถ้าเราอยากให้อนาคตดีก็ต้องทำปัจจุบันให้ดีก่อน

ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ

 

ในหนังสือชุดนี้ของคุณนักเขียนระบุว่า เราสามารถแก้ไขอดีตและอนาคตได้จากปัจจุบัน คำตอบทั้งหมดอยู่ในหนังสือชุดนี้ อย่างที่คุณสริสาว่าค่ะ คำตอบทุกคำตอบมันซ่อนเร้นอยู่แต่ละบรรทัดค่ะ

เมื่อคืนฝันสนุกดี เอามาเล่าให้ฟัง นี่คือการฝันในคืนเดียว มันทำให้จินตวดีเห็นชัดเจนถึงโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ

เห็นตัวเองกำลังเข้าเว็บพลังจิตตอบข้อความน้องกินเดรคอยู่ เห็นน้องกินเดรคเอาภาพที่ไปท่องเที่ยวที่ไหนซักแห่งมาPOST เป็นภาพน้ำตก โดยมีน้องกินเดรคอยู่ในนั้น เมื่อเพ่งลงไปในแต่ละภาพ ทุกภาพกำลังเคลื่อนไหว น้ำตกก็กำลังไหล เห็นน้องกินเดรคกำลังยิ้ม และเดินไต่น้ำตกไปกับชาวต่างชาติผิวดำอย่างสนุกสนาน ภาพที่น้ำตกกำลังไหลลงไปในถ้ำแห่งหนึ่งติดตา เพราะในฝันจำได้ว่าเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งในความฝันของวันอื่น

ณ ที่อีกแห่งหนึ่งจินตวดีกำลังตามหาคน และได้เจอ เขาเป็นคนรักที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่ชายคนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเราพบเขาแล้ว ชั่วแป๊บเดียว เขาก็หายไปจากสายตาอีกแล้ว

ณ ที่อีกแห่งหนึ่ง จินตวดีกำลังหลับอยู่บนเตียง แต่ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกที่หน้าต่างหัวเตียง ลุกขึ้นไปดู พบตัวการ์ตูนสองมิติ (ตัวเดิมกับที่เคยฝันเห็นมาแล้วตอนที่เขาอธิบายถึงการเดินทางจากโลกสองมิติ มาสู่โลกสามมิติทางกายภาพ) เข้ามาแจ้งว่า ...... หายไปแล้ว เราจำเป็นต้องไปหาให้เจอ สำคัญมาก พร้อมบอกว่าจะล่วงหน้าไปก่อนเพราะจะมีพาหนะมารับ ปรากฏยานพาหนะรูปร่างเหมือนรถแต่บินได้มารับ ชื่อเราที่เขาเรียกก็ไม่ใช่ชื่อเราปัจจุบันเหมือนชื่อฝรั่ง ๆ แทน

ณ ที่แห่งหนึ่ง จินตวดีเดินทางออกไปข้างนอกเพื่อตามหา.... ข้างนอกฟ้าครึ้ม มีฝนตก จินตวดีเดินตัดทุ่งหญ้ากลับบ้าน แต่มีโรงงานแห่งหนึ่งปรากฏขึ้น จินตวดีเดินเลาะเข้าไป ข้างในมีรถแทรคเตอร์จอดเต็ม เจ้าของเป็นผู้หญิงรูปร่างอ้วน เสียงดังมาก นั่งบนรถแทรคเตอร์ เขาเห็นเราพร้อมพูดว่า "นั่นคนที่เจอครั้งที่แล้วที่หัวเราะดัง ๆ นี่นา มาคุยกันหน่อย" ท่าทางใจดี แต่เราไม่แวะเดินออกมาเลย แต่ก็จำได้ว่า เคยเจอในฝันมาแล้ว ตอนเจอในฝันครั้งที่แล้วก็โรงงานนี้แหละ หล่อนก็นั่งอยู่บนรถแทรคเตอร์อย่างนี้เลย ครั้งที่แล้วยังถามผู้หญิงคนนี้อยู่เลยว่า "สรรพสิ่งทั้งปวง คือ ส่วนย่อย ๆ ที่แตกตัวออกมาจากตัวตนรวมใช่หรือเปล่า" (ฝันนานแล้วแต่ได้จดบันทึกไว้)

เห็นตัวเองมองเห็นเหมือนยานแปลก ๆลอยบนท้องฟ้า ในฝันกำหนดจิตตามไปดูทันที ยานนั้นเหาะไปที่ถ้ำ แล้วหายไปในถ้ำนั้น และก็จำได้อีกเช่นกันว่า เคยมาสถานที่นี้แล้วหลายครั้งในฝันที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

ประโยชน์ของการจดความฝันดีนะ เพราะมันทำให้เราสามารถกลับไปเปิดย้อนดูได้ ฝันที่เราเคยฝันในอดีต เรากลับมาฝันต่อเนื่องได้อีกเป็นเรื่องเดียวกันเลย ในฝันนี้เราเดินทางไปได้หลายมิติเลย กำไรชัด ๆ

 

ตอนนี้เดรด..กำลังมีความคิดอยากไปเที่ยว อียิปต์ในทวีปอาฟริกา(คนผิวดำ) วันนี้รู้สึกอยากไปมากๆ...และวันนี้พี่เม้าท์ นำโปรแกรมมาโพส ในทริปของ อ.กิตชัย ที่สำคัญ เดรดชอบแหล่งน้ำตามธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะแบบป่าๆ ไม่ทราบมีโปรแกรมน้ำตกมั๊ย
สงสัยเดรด จะสมหวังแล้วมั้งคะ...
ขอบคุณนะคะ(มีฝันมาคอนเฟริมให้ด้วย).. อิอิ

 

เดี๋ยวรอพี่จินต์ถูกล๊อตเตอรี่อีกครั้งก่อนจะตามไป ตอนนี้ไปกับน้องขจรวรรณก่อนแล้วกันจ้า ขานั้นก็บังเอิญรู้สึกว่าจะได้เดินทางไปเที่ยวที่ไกล ๆ เหมือนกัน น่าจะทริปนี้น่ะแหละ เพราะเป็นศิษย์อาจารย์กิตติชัยทั้งคู่นี่นา อ๊ะเป่าจ๊ะ

 

คุณขจรวรรณ ไปเหรอ ดีจริงค่ะ กำลังกลัวไม่มีเพื่อน
เด๋วเดรด...ไปติดต่อเค้าก่อน ...
ฝันแม่นจริงๆเลยค่ะ...สุดยอดด ด ด ด

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ คุณธรรมจิตต์
ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ

วิถีการจดจ่อของจิตเกิดขึ้นได้ทั้งยามหลับ และยามตื่น คำว่าหลับ หรือ ตื่น เป็นจุดที่ใช้อ้างอิงให้เข้าใจถึงกาลเวลาที่เกี่ยวพันกับร่างกายเนื้อหนัง
จิตวิญญาณไม่เคยที่จะหลับ

ประโยคที่ว่า "ข้าพเจ้าก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนน้ำที่ถวายพระได้แล้วแต่พอตอนเย็นข้าพเจ้ากลับลืม"

คุณธรรมจิตต์มีความต้องการที่จะเปลี่ยนน้ำที่หิ้งพระ
อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ได้สร้างรูปกายที่สอดคล้องกับความต้องการที่จะเปลี่ยนน้ำเรียบร้อยแล้ว อยู่ในเส้นทางความเป็นไปได้ในเส้นทางนึง ถึงแม้ตัวตนภายนอกจะลืมไปแล้วก็ตาม

ยามหลับคุณธรรมจิตต์ได้หลุดจากช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา และได้เปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปยังเส้นทางความต้องการที่จะเปลี่ยนน้ำ จึงได้รับทราบเส้นทางผ่านรูปกายทางจินตภาพ เมื่อตื่นนอนมาแล้ว ได้จับความรู้สึก และถอดความออกมาเป็นความต้องการที่จะเปลี่ยนน้ำที่ตัวตนภายนอกลืมเลือนไป จึงได้ไปเปลี่ยนน้ำในเวลาต่อมา

ยามตื่นก็อธิบายได้เช่นเดียวกันครับ
เมื่อคุณธรรมจิตต์มีความต้องการที่จะรับทราบข้อธรรมมะใดๆ ความต้องการนี้ได้ไปสร้างรูปกายในภาวะต่างๆทันที เป็นบุคคล เหตุการณ์ สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ที่เราสัมพันธ์ด้วย
ตัวตนภายนอกอยู่ในช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา จึงต้องมีกาลเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นเมื่อตัวตนภายนอกได้เดินมาพบเจอจิ๊กซอว์ทีละชิ้น ที่จิตวิญญาณได้สร้างเตรียมไว้อยู่แล้ว ผ่านบุคคลที่เราพบเจอ เหตุการณ์สิ่งแวดล้อมรอบตัว จนได้ภาพที่สมบูรณ์
การได้ภาพที่สมบูรณ์ ในที่นี้คือ เราได้ไปเจอหนังสือธรรมมะที่เราต้องการ

เพื่อนๆว่ายังไงครับ ลองช่วยกันขยายความต่อนะครับ

 

คุณจินต์ฝันแม่นจริงๆครับ

น่าคิดเหมือนกันว่า บางครั้งเราอ่านข้อความของเพื่อนๆในห้องวิทย์ เนื้อหาแค่ไม่กี่ประโยค แต่ซ่อนความจริงหลากมิติไว้ในนั้น

ตัวตนภายนอกเรารับรู้ได้อย่างจำกัด ภายใต้เครื่องพราง
แต่จิตวิญญาณไม่มีขีดจำกัด ข้อมูลความรู้ที่ซ่อนไว้ภายใต้ประโยคนั้นๆ มีพร้อมรอให้เราเข้าไปสำรวจในโลกความเป็นจริงหลากมิติเรียบร้อยแล้ว

น่าคิดว่าเราเจอกันในฝันรึเปล่า ถึงเหตุการณ์จะไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่เหมือนฉากต่อเลย
ที่คุณจินต์ฝันว่า

เห็นตัวเองมองเห็นเหมือนยานแปลก ๆลอยบนท้องฟ้า ในฝันกำหนดจิตตามไปดูทันที ยานนั้นเหาะไปที่ถ้ำ แล้วหายไปในถ้ำนั้น และก็จำได้อีกเช่นกันว่า เคยมาสถานที่นี้แล้วหลายครั้งในฝันที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

คืนก่อนผมฝันว่า อยู่ในถ้ำ และกำลังปีนขึ้นไปบนถ้ำอยู่ และเห็นอัญมณีที่ติดไว้ที่ปากถ้ำด้านบน และได้หยิบอัญมณีสีแดงทรงกลม และสีเหลืองทรงสี่เหลี่ยมออกมา แต่ในฝันรู้ว่าเป็นของปลอม ก็เลยปล่อยทิ้งไป

จากนั้นที่ปากปล่องด้านบน มันเล็กมากจะใช้ตัวลอดไปก็ไม่ได้ แต่แค่เราคิดว่าเราจะผ่านไป เราก็จะผ่านเข้ามาได้ และเห็นเป็นห้องโถงใหญ่ๆ มีเพชรนิล จินดาอยู่เต็มไปหมด เหมือนคลังสมบัติที่ถูกซ่อนไว้

(แต่ตอนปีนขึ้นไป มีผู้หญิงคนนึงตามมากับผมด้วย)

ผมคิดว่าถึงแม้เราจะฝันว่าไปที่เดียวกัน ไม่จำเป็นที่โลเกชั่นต้องเหมือนกันเป๊ะๆ เพราะภาพเหตุการณ์ที่เห็นในฝัน เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่คลุมทับไว้

ถ้าเราลองถอดความผ่านอารมณ์ ความรู้สึก เราจะได้ข้อมูลที่ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะต่อกันก็ได้นะครับ

เหมือนที่เพื่อนๆห้องวิทย์หลายๆท่าน จะฝันคนละเหตุการณ์ แต่เมื่อถอดออกมาแล้ว กลับต่อกันได้สนิทเลยครับ

เอาอูฐมารับคุณเดรดครับ :z2