เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

พี่นักเขียนนำดอกไม้ปลายฤดูร้อนรุ่นสุดท้ายมาฝากพวกเราค่ะ
อากาศเริ่มเย็นแล้ว อีกไม่กี่วัน ดอกไม้เหล่านี้ก็จะร่วงโรยไป
และเปิดทางให้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ได้อวดสีสันฤดูใบไม้ร่วงกันต่อไป

ไม่ว่าชั่วโมงต่อไป วันต่อไป สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า และ ปีต่อๆไป
จะเป็นอย่างไร เราต่างก็มีเพียง ขณะปัจจุบัน ขณะจิตนี้เพียงชั่วขณะเดียว
ที่เรารู้เเห็น สัมผัส คิด และ กระทำได้

เราจึึึงควรจะรู้เห็น สัมผัส คิด และกระทำด้วยสติพร้อม
ไม่ปล่อยให้ขณะจิตนี้ ล่วงเลยไปโดยปราศจากการใช้สติสัมปชัญญะอย่างคมชัด
เพราะมันอาจจะทำให้เรามองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป
เช่นความงดงามของสิ่งที่ไม่ยั่งยืนเหมือนดอกไม้ปลายฤดูร้อน
กว่าเราจะมองเห็นมัน มันอาจจะไม่เหลือร่องรอยให้เราได้ชื่นชมอีกต่อไป

พร้อมกับดอกไม้รุ่นสุดท้ายปลายฤดูร้อน
ขอส่งความรักมาให้ทุกคนค่ะ และ
;42ขอต้อนรับสมาชิกน้องใหม่ทุกท่านค่ะ;42(rose)

 

ช่วงนี้งานเยอะค่ะ ไม่มีเวลาเข้าเว็บเลย เดี๋ยวจะไปซื้อไวร์ไฟร์ มาไว้ที่บ้านดีกว่า

ขอต้อนรับน้อง COTTONN ค่ะ ;aa15

 

หวัดดีจ้า1 ขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ห้องนี้ด้วยคนนะค่ะ

เคยเข้ามาในนี้หลายครั้งแล้ว แล้วลองฝึกฝันตามที่พี่นักเขียนบอก โดยก่อนนอนก็จะมีการนั่งสมาธิเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะมีการฝันแปลก ๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่แปลกที่สุดก็เมื่อคืนนี้นะค่ะ เลยต้องเข้ามาโพสสะหน่อย เผื่อจะได้คำอธิบายเพิ่ม เมื่อคืนพอทำสมาธิแล้วเข้านอน ก็รู้สึกว่าตัวเองได้ออกไปไหนสักที่หนึ่งที่มีคนมากพอสมควรเลย แต่อยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงแก่ ๆ คนนึงเดินมาหา มาจับมือเราให้เรานั่งลงตรงหน้าเค้า แล้วเอามือมาจับหน้าเรา จองเราเขม็งเลย แล้วพูดว่ารู้ไหมนี่มันไม่ใช่หน้าเธอนะ มันเป็นหน้าของผู้หญิงที่ชื่อเก๋ ที่อยู่จังหวัดทางอีสาน แล้วก็พยายามจะบอกอะไรอีก แต่เรารู้สึกตกใจมาก จิตก็กลับร่าง แต่ด้วยความที่สงสัยอยู่ก็เลยอยากจะกลับไปที่เดิม เพราะรู้สึกว่ายายแก่ ๆ คนนั้นยังรออยู่ แต่ท้ายสุดก็ตัดสินใจไม่กลับไปดีกว่า ก็เลยไม่รู้ว่ายายคนนั้นเค้ามาหา เพื่อตั้งใจจะบอกอะไรกันแน่ แต่กลัวอ่ะ ทำไมยิ่งฝันยิ่งน่ากลัวก็ไม่รู้ ยิ่งมาบอกว่าหน้าเรา ตัวเราไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของอีกคน ยิ่งสยอง คืนนี้ไม่รู้จะกล้าไปไหนอีกหรือเปล่า เกิดมีคนอื่นมาเข้าร่างเราจะทำไงเนี่ย

 

;welcome2;welcome2;welcome2
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คุณ Cottonn และคุณ Thadcha สู่ห้องวิทย์ฯครับ
มาเรียนรู้และแลกเปลื่ยนประสบการณ์ไปพร้อมๆกันกันนะครับ
ขอบคุณพี่นักเขียนสำหรับคำตอบด้วยครับ
ช่วงนี้งานเยอะ..ต้องฝากกระทู้ให้พวกเราสักเดี๋ยวนะครับ

 

ธรรมมะที่พี่นักเขียนนำมา เหมือนดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและเบ่งบานในทุกฤดูกาลเลยครับ

"ไม่ว่าชั่วโมงต่อไป วันต่อไป สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า และ ปีต่อๆไป
จะเป็นอย่างไร เราต่างก็มีเพียง ขณะปัจจุบัน ขณะจิตนี้เพียงชั่วขณะเดียว
ที่เรารู้เเห็น สัมผัส คิด และ กระทำได้"

คำว่าปัจจุบัน สมควรที่จะใช้คำว่า present จริงๆ เป็นของขวัญแห่งการเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ;aa30

ดีครับคุณจินต์ ติด wi-fi โลด จะได้มาคุยกันบ่อยๆครับ ;aa13

คุณ mead ฝากห้องไว้แบบนี้ ต้องเก็บค่าฝากซะแล้ว ยิ่งนาน ยิ่งแพงนะ ถ้าไม่อยากเสียค่าฝากเยอะๆ รีบมานะครับ ;hi2

;aa22ยินดีต้อนรับ คุณ thadcha นะครับ;aa22
มาเรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ

ภาวะจิตในโลกความเป็นจริงหลากมิติ กว้างใหญ่ไพศาลมากๆครับ

ประโยคที่ว่า "ตัวเราไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของอีกคน"

เป็นความเป็นจริงทั้งโลกยามตื่น และโลกจินตภาพในความฝันครับ

ในโลกจินตภาพ ไม่มีแบ่งเขา แบ่งเรา เราไม่ได้มีตัวตนเดียวอย่างที่เราเข้าใจ เราเป็นได้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง บุคคลตัวตน เหตุการณ์ วัตถุสิ่งของทั้งหลาย ล้วนเป็นส่วนประกอบของภาวะจิตเราทั้งหมดทั้งสิ้นครับ ไม่มีอะไรที่น่ากลัว เพราะภาวะจิตเราได้สร้างรูปกายให้สอดคล้องกับข้อมูลภายในที่จะสื่อสารผ่านมาให้ทราบครับ

บางครั้งเราคิดว่าเป็นตัวเรา เพราะเราเห็นตัวเราในฝัน แต่จริงๆแล้วเราสวมทับอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกของบุคคลอื่น ถึงแม้จะเห็นเป็นหน้าตาเราก็ตาม แต่ไม่ใช่เรา เราร่วมรู้สึกเสมือนว่าเราคือคนๆนั้น

ผมเคยฝันว่า เดินๆอยู่ แล้วมีคนเดินตาม จนสุดท้ายเดินสวนทางกันมา แล้วทะลุผ่านร่างเราไป และบางทีก็คนละหน้าตา แต่เดินมาแล้วเข้ามารวมกับตัวตนปัจจุบัน ในฝันไม่รู้สึกว่ากลัว เพราะคิดว่า ก็คือ ตัวเราเหมือนกัน

แต่พอตื่นขึ้นมานี่สิ มาแปลตามความเชื่อเรา ก็คิดว่าเจอวิญญาณแหงมๆ

แต่เมื่อศึกษาหนังสือ เรื่องโลกความเป็นจริงหลากมิติ ก็เข้าใจแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคือภาวะจิตเราทั้งหมด ความเชื่อที่เคยมีก็เลยเปลี่ยนไปครับ

เมื่อความเชื่อเปลี่ยนไป ความฝันที่พบเจอก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน
เหมือนเราพกอาวุธ คือ ความรู้เข้าไปด้วย

หากเรามีความกลัว หรือตัวละคร ที่น่าสะพรึงกลัว ก็ต้องถอดความออกมา โดยใช้ความรู้สึกภายในของเรา แล้วจะเห็นความเชื่อที่ซ่อนอยู่ เมื่อเห็นและเข้าใจ เราก็จะวางมันลงได้เช่นกัน

ดังนั้นภาวะจิตในความฝัน จึงเอื้อให้เกิดความเข้าใจของภาวะจิตยามตื่น
เช่นเดียวกับภาวะจิตยามตื่น ก็ส่งผลต่อภาวะจิตในฝันเช่นกัน

ทั้งภาวะจิตในฝันและภาวะจิตยามตื่นจึงไม่เคยแยกจากกัน แต่สนับสนุนกันในการเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้

ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ e-book ตามลิงค์ที่พี่นักเขียนให้มาได้นะครับ แล้วจะเข้าใจได้ดียิ่งๆขึ้นครับ

แลกมาแลกเปลี่ยนกันอีกนะครับ

 

สวัสดีครับ คือ อยากจะถามว่า ตอนนี้เป็นโรคเกี่ยวกับประสาทตาที่หาสาเหตุไม่พบ

เราจะติดต่อตัวตนของเราแบบไหนดีครับ แล้วใช้หัวข้อติดต่อเพื่อรักษาโรคนี้อย่างไรดีครับ ขอบคุณมากครับ

 

คุณเซล์ล น้องเดรคองช่วยออกความเห็นหน่อยค่ะ พี่จินต์แว้บมาได้นิดเดียวเท่านั้นค่ะ

ยินดีต้อนรับ เจ้าหญิงแพรจ้า ;aa20

 

คุณจินต์ไวเหมือนนินจาเลย มาเร็ว ไปเร็ว อิอิ
ต้องหา wi-fi เร็วๆซะแล้ว จะได้คุยกันนานๆหน่อย ;aa8
เสียดายครับ ผมขอตอบไปพลางๆก่อนครับ เดี๋ยวคุณจินต์คงเข้ามาต่อ เพราะคุณจินต์จะเชี่ยวชาญเรื่องจิตวิญญาณประสานกายเป็นพิเศษเลย

;welcome2ยินดีต้อนรับคุณเจ้าหญิงแพรนะครับ;aa19

อ.อนาลัย จะแนะนำให้สำรวจความเชื่อที่เรามี ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายครับ ท่านแนะนำว่าร่างกายเราสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินได้ โดยการสำรวจความเชื่อของเรา กับการเชื่อถือในการทำงานของเซลล์ที่สามารถรักษา และฟื้นฟูตนเองได้

ตอนผมป่วย ผมได้ลองทำแบบฝึกหัดในหนังสือ จิตวิญญาณประสานกาย และสำรวจดูความเชื่อของตนเองที่มีต่อร่างกาย และพยายามเปลี่ยนเส้นทางจากป่วย เป็นเส้นทางใหม่คือไม่ป่วย

ลองปฎิบัติดูนะครับ คุณเจ้าหญิงแพร
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์ของพี่นักเขียน หนังสือ เรื่อง จิตวิญญาณประสานกาย ดูนะครับ
จะมีอะไรดีๆ ที่ปฎิบัติได้จริง เห็นผลจริงๆครับ

เพื่อนๆว่ายังไงบ้าง ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ ;aa21

 

ก่อนอื่น ยินดีต้อนรับ
คุณ เจ้าหญิงแพร และ คุณThadcha ค่ะ

;aa22...เจ้าค่ะ...สักครู่ ขอตั้งหลักแป๊บ...;aa22

 

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ห้องวิทย์ค่ะคุณเจ้าหญิงแพร..;welcome2

ลองใช้วิธีนั่งสมาธิทำจิตให้นิ่งก่อนนอนสักประมาณ 15 - 20 นาที แล้วตั้งจิตขอฝันหรือขอรู้ความเป็นไปได้ในรักษาโรคเกี่ยวกับประสาทตาของเราว่าควรจะทำอย่างไรดูค่ะ.. ถึงคืนแรกไม่ฝันหรือฝันแต่จำไม่ได้ก็สามารถกำหนดจิตขอรู้ไปเรื่อย ๆ ทุกคืนจนสติสัมปะชัญญะเริ่มคมชัดมากขึ้นน่าจะได้ผลนะคะ.. ลองดูค่ะ.. ได้ผลไม่ได้ผลยังงัยเข้ามาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ เดี๋ยวพี่นักเขียนคงเข้ามาขยายความให้อีกทีค่ะ..
;aa21

 

จากความเห็นของคุณเซลล์ และคุณขจรวรรณ ก็ค่อนข้างได้คำตอบที่ครอบคลุมพอสมควรแล้วค่ะ

เดรดขอเสริม อีกสักเล็กน้อย

การสำรวจความเชื่อ ตามที่คุณเซลล์กล่าว คือ ลองพิจารณาว่าเรามีความรู้สึก และอารมณ์ กับอาการป่วยที่เกิดขึ้นแบบใด ถ้าเราเชื่อว่ามันไม่มีทางหาย โอกาสที่จะหายก็ยากค่ะ ก่อนอื่น ไม่ทราบว่า คุณเจ้าหญิงแพร เคยอ่านหนังสือ "จิตวิญญาณประสานกาย" แล้วหรือยัง เนื้อหาจะกล่าวถึงการทำงานของร่างกาย ระบบต่างๆ ว่าเกิดขึ้นมาอย่างไร และ สิ่งผิดปกติต่างๆ มาจากไหน

โดยธรรมชาติ ร่างกายมีศักยภาพสูงมากที่จะ ดูแลรักษาตนเอง แต่จะสมบูรณ์ แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ อารมณ์ จินตนาการ และความรู้สึกของเราด้วย ในเบื้องต้น สุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์ มาจากความเชื่อของเราทั้งสิ้นค่ะ

ความเชื่อที่ผิด จะก่อเกิดความทุกข์ ไม่สบาย ทั้งร่างกายและจิตใจ...ลองทบทวนความเชื่อเหล่านี้ดูก่อนนะค่ะ;aa22

 

ขอบคุณมากครับสำหรับทุกคำแนะนำ กำลังฝึกอยู่ครับ

คืนแรกนี้ยังไม่เห็นผล - -* แต่ก็สู้ต่อ โย่^^

 

;42ขอต้อนรับ เจ้าหญิงแพร สู่ห้องวิทย์ค่ะ;42

เมื่อพูดถึงปัญหาสุขภาพ
พี่นักเขียนก็มีหนังสือที่อยากจะแนะนำให้ผู้ป่วยทุกท่านได้อ่านคือ จิตวิญญาณประสานกาย ซึ่งเป็นหนังสือที่นำเสนอการฝึกฝนอบรมจิต เพื่อช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อที่เรามีต่อสุขภาพร่างกายในแง่ลบ และทำให้เราสามารถรักษาโรคให้ตนเองได้

แต่ไม่ว่าพี่นักเขียนจะกล่าวสนับสนุนหนังสือมายมากเพียงใด มันก็ปราศจากความหมาย หากผู้ที่รับฟังไม่ได้อ่าน และทดลองฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง

แม้ว่าพี่นักเขียนจะเล่าประสบการณ์ส่วนตนในการรักษาโรคให้ตนเองเป็นผลสำเร็จ ด้วยการปฏิบัติตามหลักการทั้งหมดที่ปรากฏในหนังสือ ก็ไม่มีความหมายเท่ากับว่า ผู้อ่านได้อ่าน ศึกษา ฝึกฝนและทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง และหายจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นๆได้ด้วยตนเอง และนำประสบการณ์ส่วนตนมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ป่วยท่านอื่นๆต่อไป

พี่นักเขียนจะทำได้อย่างมากก็คือ นำเสนอหนังสือ จิตวิญญาณประสานกาย ให้ผู้อ่านที่เป็นผู้ป่วยทั้งหลาย ได้อ่าน ศึกษา ฝึกฝนและทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง โดย จัดทำเป็น eBook ให้อ่านได้ทั้งเล่มฟรีๆ 400 กว่าหน้า เพื่อให้ท่านผู้อ่านตระหนักได้ว่า พี่นักเขียนมีความปรารถนาจากใจจริงที่จะแบ่งปันความรู้ที่ได้รับมา เพื่อให้ผู้ป่วยทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่สิ้นหวังกับการรักษาโรคด้วยวิธีการมากมายที่ได้ประสพมาแล้วอย่างไร้ผล สามารถรักษาโรคให้ตนเองได้ ด้วยวิธีการที่เรียกกันว่า รักษาโรคด้วยพลังจิต

แต่ผู้ป่วยจำนวนมาก เมื่อได้ยินคำว่า พลังจิต ก็อาจจะท้อถอย เพราะคิดว่า พลังจิตเป็นสิ่งที่ตนไม่มี หรือมีน้อย ไม่เพียงพอที่จะรักษาโรคให้ตนเองได้ และเชื่อว่าพลังจิตเป็นสิ่งที่บุคคลบางคนเท่านั้น อาจจะมีได้มากมายพอที่จะรักษาโรคให้ตนได้ จึงทำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นแสวงหาผู้ที่มีพลังจิต ที่จะรักษาโรคให้ตนได้

พี่นักเขียนขอให้ผู้ป่วยทุกท่านทำความเข้าใจในเบื้องต้นว่า
หนังสือ จิตวิญญาณประสานกาย ไม่ใช่หนังสือที่สอนให้เรารักษาโรคด้วยสิ่งที่เราไม่มี-ตามธรรมชาติ แต่เป็นหนังสือที่สอนให้เรารักษาโรคให้ตนเองด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ ซึ่งจะยังผลให้เราเปลี่ยน อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบ ให้กลายเป็นแง่บวก เพราะอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบซึ่งคล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ คือ รากเหง้า หรือต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ ประสบการณ์ชีวิตในแง่ลบ และความล้มเหลวทั้งทางสุขภาพ และประสบการณ์ชีวิตทั้งปวง

พลังจิตที่แท้จริง คือพลังแห่งความเชื่อในแง่บวก ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ รวมถืง พลังแห่งความเชื่อของผู้ป่วย ที่ทำให้ตนเองล้มป่วย

เราทุกคนมีพลังจิตมากมาย ตามธรรมชาติ เสมอเหมือนกันทุกคน แต่ถ้าหากเราไม่ได้ตระหนักในพลังดังกล่าว เราจะพบว่า เราเผชิญกับพลังจิตของตนเองในความฝัน เป็นฝันร้าย เป็นปิศาจ อสุรกาย เป็นสิ่งที่มีพลังเหนือเรา ไล่ล่า หรือแม้แต่โจมตีึเรา รุกรานเรา และเราก็ปราศจากความสามารถที่จะหนี หรือต่อสู้กับมัน เพราะเราไม่ได้ตระหนักว่า เรากำลังเผชิญกับพลังจิตของตนเอง ?ซึ่งเราไม่รู้จัก

บางคนเผชิญกับพลังจิตของตนเอง เป็นเสมือนจิตวิญญาณแปลกหน้า แปลกปลอม ที่เข้ามาครอบงำ หรือบีบบังคับ และเชื่อว่า มันคือพลังอำนาจจากภายนอกที่รุกรานตนเอง

พี่นักเขียนขอให้ทุกท่านที่ป่วยไข้ และรวมทั้งทุกท่านที่ฝันร้าย ศึกษาภาวะจิตของตนเอง เพื่อค้นให้พบว่า พลังอำนาจประหลาดเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่รุกรานหรือแทรกแทรงภาวะจิตของเรา หากแต่คือ พลังจิตของตนเอง ที่เกิดจากภาวะจิตที่คลุมเครือไปด้วยความไม่รู้

หากเราตระหนักได้ว่า จิตวิญญาณ หรือพลังอำนาจประหลาดที่ดูเสมือนแทรกแทรง เบียดเบียนหรือรุกรานเรา คือพลังจิตของตนเอง เราจะพบว่า เราเป็นหนึ่งเดียวกับมัน
เราหยุดมันได้-ด้วยความคิด ไม่ใช่ด้วยการวิ่งหนี
เราต่อสู้มันได้-ด้วยความคิด ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลัง
เราเปลี่ยนภาวะของมันได้-ด้วยความคิด ไม่ใช่ด้วยการต่อสู้ทางกายภาพ
เราสลายมันได้-ด้วยความคิด ไม่ใช่ด้วยการใช้อาวุธใดๆ

ในที่นี้ พี่นักเขียนต้องขอความร่วมมือ และขอร้องให้ท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่ได้อ่านหนังสือ ศึกษา ฝึกฝนและทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง และประสพความสำเร็จในการรักษาโรคด้วยตนเอง ให้ช่วยกันเข้ามา post และเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลท่านอื่นๆที่ยังป่วย และยังไม่เคยได้อ่านหนังสือ ให้เข้าใจได้ว่า หนังสือจิตวิญญาณประสานกาย และหนังสือเล่มอืืนๆในชุดนี้ ได้ให้อะไรกับท่านผู้อ่าน และท่านที่หายป่วยบ้าง ท่านหายป่วยได้อย่างไร ด้วยการปฏิบัติอย่างไร

การช่วยเหลือเกื้อกูลจากท่านผู้อ่านที่ได้อ่าน ศึกษา ฝึกฝนและทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง และหายจากโรคร้ายต่างๆด้วยตนเอง จะเป็นพลังที่ช่วยทำให้ผู้ป่วยอีกจำนวนมาก ได้มีโอกาสหายจากโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆได้ด้วยตนเอง

พี่นักเขียนหวังว่า ผู้อ่านทุกท่านที่ประสพความสำเร็จในการรักษาโรคด้วยตนเอง จะก้าวเข้ามาสู่ห้องวิทย์ฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมากต่อไป พี่นักเขียนตระหนักดีถึงความปรารถนาที่หลายๆท่านต้องการจะเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนตัว แต่ก็อยากจะสนับสนุนให้ทุกท่าน ได้แชร์ประสบการณ์บางส่วน ในห้องวิทย์ และหากสามารถติดต่อกับผู้ป่วยท่านอื่นๆเป็นการส่วนตัวเพื่อแชร์ในรายละเอียด ก็น่าจะเป็นส่ิงที่ทำได้ เพื่อประโยชน์สุขของผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่สิ้นหวัง หรือปราศจากการรับรองจากวิธีการรักษาอื่นๆว่า จะหายจะโรคเหล่านั้นได้

การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ป่วย จะเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราท่าน-ทั้งหลาย ตระหนักได้ว่า เราต่างก็เป็นจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง ที่แม้จะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทุกคน แต่เราต่างก็ได้รับพรมากมายจากต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ ซึ่งทำให้เราสามารถรักษาโรคได้ด้วยตนเอง

และหากเรายังขาดความศรัทธาและเชื่อถือในพรที่ได้รับมาจากต้นกำเนิด ก็ยังมีิจิตวิญญาณอื่นๆอีกมากมาย ที่ล้วนเป็นญาติมิตรทางจิตวิญญาณที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกับเรา ซึ่งเต็มไปด้วยศรัทธาและความเชื่อถือ ที่จะแบ่งปันสิ่งที่เราเรียกกันว่า พลังจิต ด้วยการให้กำลังใจและการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลเรามากมาย เพื่อทำให้เรา-ท่านทั้งหลายตระหนักได้ว่า เราทั้งหลายคือ จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง พร้อมด้วยพลังอำนาจตามธรรมชาติ ที่รักษาโรคได้ - ด้วยตนเอง(rose)

 

หนังสือชุด 10 เล่ม ได้กลายเป็น eBooks ซึ่งสามารถ Download ได้
และ Print ได้ทุกเล่มแล้ว ตามที่ท่านผู้อ่านจำนวนมากได้ขอมาค่ะ

เชิญอ่าน e-Book ได้ฟรี หรือ Download หนังสือทุกเล่มได้จากhttp://novaanalai.com/novaanalai/index.html
หรือ Download จาก post นี้ได้ทันที

1. โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
2. ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
3. จิตวิญญาณประสานกาย
4.ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ
5. อิสระแห่งความปรารถนา
6. ชีวิตนอกเหนือชาติภพ
7. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น
8. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคปลาย
9. โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคต้น
10. โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคปลาย

ท่านที่ไม่สะดวกที่จะ Download และต้องการให้ส่ง eBook ให้ทาง e-mail สั่ง file eBook ได้จาก
http://novaanalai.com/novaanalai/bookstore.html

เมื่อ Download หรืิอได้รับ file eBook ทาง e-mail แล้ว จะสามารถอ่านหนังสือ off-line หรือ Print ได้ตามต้องการค่ะ

พี่นักเขียนหวังว่า ทุกท่านจะได้รับประโยชน์สุขจากหนังสือ
และนำประสบการณ์ส่วนตน มาแลกเปลี่ยนกัน ณ ห้องวิทย์ฯ
เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลและสนับสนุนญาติมิตรทางจิตวิญญาณท่านอื่นๆต่อไป
ด้วยความรัก และความปรารถนาดี ที่จิตวิญญาณทั้งหลายย่อมมีให้กันและกัน
อย่างไม่มีวันหมดสิ้น(rose)

 

ในที่สุดก็มีหนังสือให้อ่านครบทุกเล่มแล้ว ยินดีกับพี่นักเขียนฯและนักอ่านทุกท่านด้วยครับ ...
ด้วยความปราถนาดีและความตั้งใจดีของพวกเราทุกคน จึงเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาครับ
หากท่านใดสนใจหนังสือ เชิญเข้าไปอ่านขั้นตอนเพื่อ download กันได้แล้วนะครับ
ตอนนี้หาอ่านได้ไม่ยากแล้ว ผมเองยังมีหนังสือไม่ครบ..เดี๋ยวต้องวิ่งไป download เหมือนกันครับ

hello8

 

แบบนี้ต้องรีบกลัมมา stand by ทันทีครับ เดี๋ยวกระเป่าฉีก
รู้สึกว่าคุณเซลล์จะงานเข้า..อย่าไปนานครับเดี๋ยวเพื่อนๆจะปรับคนละ 100 อิอิ
ขอบคุณนะครับที่มาช่วยกันใส่ใจดูแลจิตวิญญาณเพื่อนๆด้วยความรักบ่อยๆ
ถ้าห้องวิทย์ขาดคุณเซลล์ไปสักคน..เพื่อนๆคงไม่ยอมแน่..(จะส่งซูเปอร์เดรดไปตาม..)
;aa21

 

ยังติดตามอ่านเรื่อย ๆ นะคะ
บางวันก่อนนอน กำลังจะหลับจะรู้สึกวูบ ๆๆ รู้สึกหัวใจของเรากำลังถูกดึงจากอะไรซักอย่างความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังวิ่งถอยหลังเข้าไป แปลกจิงๆ แล้วก็หลับค่ะ..fishh_

 

ดีจังนะครับ ที่มีหนังสือออนไลน์ครบทุกเล่มแล้ว ของผมยังไม่ได้อ่านจิตวิญญาณประสานกายกับอมตะแห่งจิตวิญญาณทั้งสองเล่ม ว่างๆเมื่อไหร่คงต้องโหลดมาอ่านบ้างแล้ว

 

ดีใจด้วยกับเพื่อนๆด้วยนะครับ ที่พี่นักเขียนทำหนังสือเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ไปดาวน์โหลดกันมาอ่าน หรือ อ่านใน e-books ก็ได้นะครับ รับรองเนื้อหาแน่นปึ๊ก ;aa22

อย่างที่พี่นักเขียนแนะนำไว้แหละครับว่า อ่านแล้ว ต้องลองปฎิบัติดูด้วย จะได้เห็นผลกับตนเอง แล้วนำประสบการณ์มาแชร์กันด้วยนะครับ

"พี่นักเขียนหวังว่า ผู้อ่านทุกท่านที่ประสพความสำเร็จในการรักษาโรคด้วยตนเอง จะก้าวเข้ามาสู่ห้องวิทย์ฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมากต่อไป พี่นักเขียนตระหนักดีถึงความปรารถนาที่หลายๆท่านต้องการจะเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนตัว แต่ก็อยากจะสนับสนุนให้ทุกท่าน ได้แชร์ประสบการณ์บางส่วน ในห้องวิทย์ และหากสามารถติดต่อกับผู้ป่วยท่านอื่นๆเป็นการส่วนตัวเพื่อแชร์ในรายละเอียด ก็น่าจะเป็นส่ิงที่ทำได้ เพื่อประโยชน์สุขของผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่สิ้นหวัง หรือปราศจากการรับรองจากวิธีการรักษาอื่นๆว่า จะหายจะโรคเหล่านั้นได้"

เรื่องประสบการณ์ในการรักษาโดยใช้พลังจิต ที่ผมอ่านจากหนังสือ จิตวิญญาณประสานกาย ผมเคยเล่าเอาไว้ในบอร์ดนี้แล้ว

ใครยังไม่เคยเล่า กรุณามาเล่าด่วน เก็บไว้เดี๋ยวหมดอายุน๊า อิอิ

มาแบ่งปันกันครับ เพื่อนๆจิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์ เมื่อเข้ามาอ่านจะได้ความรู้ และมีกำลังใจในการปฎิบัติรักษาโดยใช้พลังจิตภายในที่เรามีอย่างเสมอเหมือนกันครับ


มารายตัวแล้วครับหัวหน้าห้อง mead เมื่อคืนคุณเดรดก็ส่งกายเทียมไปเรียกมาแล้ว ส่งไปแทนสัญลักษณ์คุณเดรดจริงๆ ไฟแรงจนลุกออกมาที่มือเลย อิอิ

คุณเงือกน้อยลองสังเกตุดูนะครับ ว่าก่อนหลับที่วูปไป สติสัมปชัญญะติดตามเข้าไปในช่วงหลับด้วยรึเปล่า การรู้ตัวก่อนหลับดีเหมือนกันนะครับ เหมือนเราปักหางเสือเอาไว้ จิตวิญญาณจะได้ไปหาข้อมูลความรู้มาได้อย่างตรงจุดครับ ผมก็กำลังฝึกๆอยู่ มีหลายสิ่งหลายอย่างให้เรียนรู้จริงๆ ;aa21

 

กำลังตามอ่านการตอบคำถามพี่นักเขียนย้อนหลังอยู่เลยค่ะ ดีใจจังที่มี ให้ดาวน์โหลดหนังสือมาอ่านด้วย..จาตามอ่านให้ครบนะค่ะ ช่วงนี้กำลังตั้งใจฝึกเช่นกันค๊า สุ้ๆนะค่ะทุกท่าน