ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนเมษายน ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    http://palungjit.org/showthread.php?t=150807

    (คัดมาบางส่วน, คลิกที่ลิงค์เพื่ออ่านฉบับเต็ม)

    ...................

    รัชกาลที่ ๑๐ นี่ชาววิไล ถึงเวลาสบายซะที เพราะรัชกาลที่ ๙ วางพื้นฐานเอาไว้ดีแล้ว พอรัชกาลที่ ๑๑ ก็ ไทยมหารัฐ เริ่มมีอำนาจขึ้นมารอบข้างเราต้องพึ่งพา พอรัชกาลที่ ๑๒ จักรพรรดิราช ถึงเวลาประเทศอื่นๆ เขาปกครองด้วยระบบพระมหากษัตริย์ก็ต้องลอกเลียนแบบของเราไป ก็เท่ากับว่ามาจากของเรานั่นเอง ว่าไปเรื่อยเดี๋ยวครบ ๑๕๐ รัชกาลแล้วจะยุ่ง

    ...................

    -------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้ (เกี่ยวกับพระศรีฯ)
    โพสท์โดย Aunyasit
    26-08-2005, 04:43 AM
    http://palungjit.org/showthread.php?t=13361<!-- / status icon and date -->

    (คัดมาบางส่วน, คลิกที่ลิงค์เพื่ออ่านฉบับเต็ม)

    ...................

    ก่อนละสังขารท่านบอกว่าเราว่าปู่จะไปทำธุระเดี๋ยวปู่กลับมาใหม่เท่าที่เราเข้าใจครูบาอาจารย์ท่านไม่มาเกิดแบบคนทั่วไปอีกแล้วเพราะท่านสำเร็จธรรมระดับโลกอุดรเพราะฉะนั้นท่านสามารถกลับมาในร่างของโลกอุดรที่ท่านใช้อยู่ถึง12 ร่างได้ทุกเวลาที่ท่านต้องการท่านกลับจะมาแน่นอนในช่วงเวลาตั้งแต่ปี2549 - 2560 ท่านบอกว่าให้ปฏิบัติรอท่านซึ่งเราคิดว่าท่านจะกลับมาเมื่อคณะของเราสร้างปราสาทพระเจ้า5 พระองค์เสร็จซึ่งประกอบด้วยปราสาท5 หลังหลังหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลองหน้าตัก3.80 เมตร1 องค์(เป็นสัญญลักษณ์ของพระศรีฯ) อีกสี่หลังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลองหน้าตักองค์ละ3.50 เมตร 4 องค์(เป็นสัญญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าอีก4 พระองค์) ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างหอพระแม่ธรณี(หอพระจักรพรรดิ์) ตอนนี้ใกล้จะเสร็จแล้วและจะถวายเข้าเป็นสมบัติของพระศาสนาในวันออกพรรษาปีนี้หอนี้เป็นส่วนด้านหน้าของปราสาทพระเจ้า5 พระองค์ทั้งนี้เพื่อรองรับบารมีพระศรีฯที่ท่านจะลงมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ในไม่กี่ปีข้างหน้านี้<O:p</O:p

    ...................

    ในอนาคตอันใกล้ซึ่งจะเป็นยุคยกยอศาสนาศีลธรรมเขาเปิดให้สามารถใช้ไม้เท้ากายสิทธิ์อันที่เป็นของพระศรีฯได้ ซึ่งจะเป็นสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่า ญาติเราเขาไม่ค่อยได้ปฏิบัติกันเลย ก่อนพระจักรพรรดิ์ลงมาเทพเจ้าทั้งหกผู้ทำหน้าที่ล้างระบบโลกเพื่อรองรับพระจักรพรรดิ์เขาจะทำฤทธิ์ล้างมนุษย์ด้วยภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลมไฟ โรคระบาดอุบัติเหตุ/สงคราม แล้วญาติๆเราคงตายหมด ครูบาอาจารย์ท่านว่าไม่ต้องห่วงหรอกถึงตอนนั้นชี้กลับคืนมาได้หมด เราก็สงสัยว่าคงจะเป็นได้ด้วยฤทธิ์อำนาจของกกชี้ตายปลายชี้เป็น นี่เอง</O:p

    ...................
    <O:p</O:p
     
  2. หล่อล่องลม

    หล่อล่องลม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +2
    ไปดูสิครับว่า เขื่อนที่ประเทศจีนเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหว ก็มีการแตกร้าว แต่เขาก็ซ่อมได้ ถึงแม้นว่าจะมีอ๊าฟเตอร์ช๊อคตามมาอีกหลายร้อยครั้ง ทุกอย่างมีการแก้ไข ซ่อมแซมได้ สำหรับการปล่อยข่าวอัปมงคลใดๆก็ตาม หากไม่มีข้อพิสูจน์ ก็ต้องยอมกรรมไป

    การที่พี่น้องชาวกาญจน์ฯ ออกมาประท้วงในเรื่องนี้ ใครที่ปล่อยข่าวออกไป ก็ต้องชี้แจงและแก้ไขกันไป โดยเฉพาะข่าวลือที่เกิดจากความคิดเห็นส่วนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือท่านเห็นว่า ประชาชนที่ออกมาประท้วงเรื่องข่าวอัปมงคลเหล่านี้ผิด

    ถ้าเป็นอย่างนั้นท่านก็ไปชี้แจงกับพี่น้องที่โดนวจีกรรมของท่านเองสิ กล้าๆหน่อยนะครับท่าน
     
  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ก็เป็นซะอย่างนี้นะ

    พอออกมาเตือน ก็หาว่าทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ก็แน่ล่ะ ก็ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสียหายแน่นอน ก็ตัวกู ของกู ธุรกิจกูเสียหายนี่นา จริงป่ะ ความยึดติดมันมีสูงกว่าการพิจารณาให้เห็นตามสภาพที่เกิดขึ้นจริง แล้วที่สนุกก็คือพอมีการฟ้องกลับสาปแช่ง เผาหุ่น แหม ข่าวพวกนี้มันช่างขายดีเสียนี่กะไร ข่าวก็กระพือๆๆกัน สนุกสนาน

    ลึกๆกว่านั้นจริงๆคืออะไรรู้ไหม การเตือนภัย การเตรียมพร้อม การรู้รับความเสี่ยงที่อาจเกิดได้ เพื่อการอพยพและช่วยเหลือชีวิตผู้คน ตรงนั้นต่างหากที่ถือเป็นเรื่องดี มีคุณธรรม เป็นมหากุศล เทียบไม่ได้เลยกับเรื่องผู้ประกอบการท่องเที่ยวขาดทุน ถ้าคุณบริหารงานอย่างมีคุณธรรม ยึดหลักพรหมวิหาร 4 นะ


    ตามนั้นล่ะค่ะ เราก็ไปแก้คนอื่นไม่ได้อยู่ดี เราทำตัวเราให้ดีดีกว่าค่ะ
    นอกนั้นเป็นกฎแห่งกรรมแล้วล่ะค่ะ
     
  4. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เท่าที่สังเกตดู ผู้ที่ออกมาวิจารณ์โต้ข่าว มักเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยว
    หรือไม่ก็นักการเมืองที่มีผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวหนุนหลังอยู่ค่ะ


    เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่บ้านเราไม่ค่อยจะเตือนอะไรกันล่วงหน้า ไม่ค่อยวางแผนและซ้อมอพยพ ต้องให้ตายกันเป็นผักปลาก่อน แล้วค่อยมาให้ค่าทำศพกันทีหลัง
     
  5. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ช่วงนี้ต้องติดตาม พายุ เข้าสู่ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ให้ดีครับ

    ความกดอากาศสูง มาจากประเทศจีน เริ่มดันพายุ ให้เข้าสู่ภาคดังกล่าว แล้ว
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อเกิดมหาสงคราม ต่อมาก็จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 12 ริกเตอร์ !!!

    [​IMG]

    ถาม สภาวะโลกร้อนนั้นมีผลต่อการทำสมาธิหรือไม่ มีผลต่อจิตใจคนหรือไม่ ได้ดูในสารคดี เห็นภัยธรรมชาติ และภัยจากคน รบกวนช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่า ต่อไปโลกจะเป็นอย่างไร คนจะอยู่กันอย่างไร โลกและประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ตลอดจนเวลาที่จะเกิดขึ้น

    ตอบ สภาวะโลกร้อนนั้นมีผลต่อการทำสมาธิเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสนามแม่เหล็กและคลอสมิคที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่สมดุล สนามแม่เหล็กที่รุ่นแรงและไม่คงที่ จะทำให้จิตสงบไม่ได้ และหากถ้าทำได้ก็จะทำให้ป่วย เนื่องด้วยสนามแม่เหล็กนั้นเข้าไปรบกวนถึงชั้นภายในของเซลล์ในร่างกาย ลึกลงไปถึงนิวเคลียส ทำสมาธิสงบมากจะทำให้ป่วยได้ ดังที่เราได้เห็นว่าพระเกจิที่มีสมาธิสูงจะป่วยและทะยอยตายกันมากขึ้น บางคนก็ไม่ีมีแรง หรือเส้นเลือดสมองแตกไปเลยก็มี อันนี้มีผลมาจากสนามแม่เหล็กที่มีี่มาก และรังสีคลอสมิกที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยในสภาวะปัจจุบัน จะมีแต่รังสีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

    ส่วนเรื่องอื่นๆนั้น ข้าพเจ้าลำบากใจที่จะกล่าว ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยจากคน ของโลกและของประเทศไทย เหตุเพราะหากกล่าวไปมันจะมีการคลาดเคลื่ือนขึ้น แต่อย่างไรมันก็ต้องเกิด ยึ่งเรื่องภายในประเทศ ยิ่งกล่าวไม่ได้เลย ถึงรู้ก็กล่าวไม่ได้ แต่จะขอกล่าวในสิ่งที่จะสามารถเชื่อมโยงกันได้ดังนี้

    ก่อนอื่นผู้อ่านต้องเปิดใจก่อนว่า ในโลกใบนี้มีบางสิ่งที่เราไม่รู้ และบางสิ่งที่เราไม่รู้นั้น ก็มีคนที่ไม่รู้บอกว่าตนรู้ แล้วเอาความรู้ผิดนั้นมาสอนเรานั้นก็มีมาก ดังเช่นเรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้

    เราเคยได้เรียนมา่ว่ามนุษย์เราเริ่มต้นจาก สิ่งมีชิวิตเดินสองขา มีชื่อเรียกว่า "โฮโมซาเปียน(Homo-sapiens)" เมื่อ 30,000 ถึง 40,000 ปีก่อน และก็วิวัฒนาการ ร่างกายและความคิดจนมาเป็นมนุษย์ในยุคที่เจริญอย่างเราในปัจจุบันนี้ ซึ่งพอจะสรุปได้ว่าเราใช้เวลาประมาณ 40,000 ปี จากโฮโมซาเปียนมาถึงยุคของเรา และถือว่ายุคของเราเจริญที่สุด มีเทคโนโลยี่ที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในโลกใบนี้

    นั้นคือเรื่องที่เราได้เรียนมาเป็นอย่างนั้น ต่อไปข้าพเจ้าจะขอกล่าวว่าโลกของเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยุคของเราที่มีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำโลก เป็นผู้นำเทคโนโลยี นั้นไม่ใช่ยุคที่เจริญที่สุดในโลกใบนี้ โลกมีระยะเวลาที่ยาวนาน มีความเจริญสูงสุดและก็ล่มสลายถึงต่ำสุด เป็นอย่างนี้หลายครั้งเกินที่จะนับได้

    การล้มสลายของมนุษย์ที่เจริญด้วยเทคโนโลยีแต่ละครั้งนั้น ไม่มีอะไรที่ต่างกันมากนัก ในแต่ละยุคนั้นเริ่มแรกด้วยมนุษย์อยู่กันอย่างสงบได้ระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อกิเลสเข้าครอบงำมนุษย์ สังคมมนุษย์ก็เปลี่ยนไป จากเคยอยู่กันอย่างสงบก็วุ่นวาย ในเรื่องภัยธรรมชาติก็รุนแรงเกินที่จะแก้ไขได้ ในด้านสังคม จิตใจมนุษย์ก็เห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ตัวเองเป็นใหญ่ เอาความคิดตนเองเป็นใหญ่

    ก่อนสิ้นแต่ละยุคก็เหมือนๆกัน คนจะแย่งกันเป็นใหญ่ โอ้อวดในความดีที่เป็นหน้ากากเท่านั้น ทั้งโลกตึงเครียดด้วยสงคราม ในแต่ละประเทศก็มีความขัดแย้งภายใน ผู้นำก็ไม่มีศิลธรรม ทำทุกอย่างขอให้ได้เป็นใหญ่ แ้ม้่แต่วรรณะกษัตริย์นั้นก็มีการสืบทอดอำนาจด้วยการแย่งชิง ลูกชิงบัลลังก์พ่อ พ่อต้องหนีออกนอกประเทศเพราะลูกอยากเป็นกษัตย์ ศิลธรรมจะกลับจากดำเป็นขาว การทำแท้งเคยเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่รู้สึกผิด แต่ก็จะกลายเป็นเรื่ืองสิทธิส่วนบุคคล

    คำว่าสิทธิเสรีภาพจะถูกนำมาใช่อย่างผิดๆ ผู้มีอำนาจในแต่ละประเทศจะทำร้ายประชาชนของตนเอง ภาพลักษณ์ของคนจะตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ประเทศที่อ้างศิลธรรมเพื่อทำลายประเทศอื่นจะเกิดขึ้น ผู้ที่ควรกราบไหว้ในประเทศต่างๆ จะีมีฉากหลังที่สกปรก คนพวกนี้ทำทุกอย่างเพื่ออำนาจของตน ฆ่าคนอื่นอย่างไม่กลัวบาป คนไม่ดีจะใช้ความฉลาดและอำนาจทำให้ตนเองตกนรก ฉากหลังเป็นคนทำร้ายประชาชน แต่ฉากหน้าเป็นคนช่วยเหลือ ผู้เฒ่าผู้แก่่จะถูกทอดทิ้ง จิตใจจะต่ำจนไม่สามารถแยกถูกกับผิดได้ ความเจริญจะไปในทางวัตถุ ด้านจิตใจจะไร้ศาสนา ใช้เงินตราและกำลังเป็นที่ตั้ง

    ผลสุดท้ายของยุคนั้นๆ จะจบลงด้วยการล่มของระบบเศรษกิจในแต่ละประเทศ และทั้งโลก ความตึงเครียดของสงครามก็ยุติด้วยมหาสงคราม ส่วนเรื่องวิกฤตภัยธรรมชาติก็จบลงด้วยภัยธรรมชาติรุนแรงเพียงวันเดียว ทำให้ผู้คนล้มตายลงไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์ เกิดคลื่นสึนามิสูงถึิง 100 เมตร แผ่นดินโลกไหวถึง 12 ริกเตอร์ ทำให้แผ่นที่โลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แผ่นดินที่อยู่ข้างบนจะเคลื่ือนตัวลงทะเล แผ่นดินที่อยู่ใต้ทะเลจะเคลื่ือนตัวมาอยู่ข้างบน

    นี้โลกเป็นมาอย่างนี้ หากใครเคยศึกษาปรัชญามาบ้างคงจะรู้จักนักปรัชญากรีกที่ชื่อว่า เพลโต ได้เขียนไว้ในบันทึกว่ามีแผ่นดินหนึ่ึงที่เจริญรุ่งเรืองได้จมลงในมหาสมุทรภายในข้ามคืน ดินแดนที่เพลโตบันทึกไว้นั้นเป็นยุคที่มีความเจริญมากกว่าสหรัฐอเมริกาในสมัยของเราซะอีก ในยุคนั้นจบลงด้วยมหาสงครามที่ใช้อาวุธที่มีอนุภาพมากทำลายล้างกัน และหลังจากสงครามหนึ่งเดือนก็เกิดแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์

    ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้แผ่นดินที่เจริญนั้นเคลื่อนตัวลงทะเลและจมหายไป เกิดคลื่นสึนามิสูง 100 เมตร ประชากรบนโลกล้มตายมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่รอดตายบางคนก็เสียสติ ผู้คน 10 เปอร์เซ็นต์ที่รอดชีวิตและไม่เสียสติก็สืบทอดกันมาจนถึงยุคของเรา และเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็กลายเป็นเรื่องเล่าสืบทอดกันมานาน จนปัจจุบันคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง คิดว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่นักประวัติศาสตร์หลายคนก็พยายามพิสูจน์ เพื่อหาดินแดนแอตแลนติสที่เพลโตบันทึกเอาไว้

    สงครามในยุคนั้นทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สองกลุ่มใหญ่ที่ทำสงครามกัน ผูกใจเจ็บกันไม่รู้จักจบสิ้น ตายแล้วเกิดใหม่ก็ทำมหาสงครามกันอีก จนมาถึงยุคของเรา สองกลุ่มนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้ง กลุ่มหนึ่งไปเกิดที่อเมริกา ส่วนอีกกลุ่มมาเกิดที่ตะวันออกกลาง อยู่ห่างคนละซีกโลกก็ต้องเดินทางมาฆ่ากัน นี้มันสืบกรรมกันมา กี่ยุคๆ ก็เป็นอย่างนี้ จองเวรกันไม่รู้จักจบสิ้น

    ผลที่เกินขึ้นในยุคของเราก็เป็นเช่นเดียวกัน คือเมื่อเกิดมหาสงคราม ต่อมาก็จะเกิดแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์ และอื่นๆ ตามมาเหมือนๆกันทุกยุค

    แผ่นดินไหว 10.5 ริกเตอร์อย่างในภาพยนตร์นั้น นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่สักวันหนึ่งหลังจากประเทศอิสราเอลถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์คนตายทั้งประเทศ นับจากนั้นไม่เกิน 7 วัน แผ่นดินจะไหว 12 ริกเตอร์ และเหตุการณ์อื่นที่เคยเกิดในยุคต่างๆจะเกิดตามมา เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ียน

    สำหรับวันเวลาที่จะเกิดนั้นไม่ว่าจะทั้งโลกหรือในประเทศของเรา ภัยธรรมชาติ เศรษกิจ การเมือง สังคม มันกำลังจะเกิดขึ้น เวลามันอยู่ใกล้แต่ปลายจมูกเรานี้เอง วันนี้ วันที่เขียนนี้ก็อยู่ในช่วงสงกรานต์(17 เมษายน 2550) นับจากนี้อีกไม่กี่วันจุดเริ่มต้นใหญ่กำลังจะเกิด ในประเทศของเราเอง จะเป็นอะไรนั้นก็ต้องดูเอาเอง ไม่สามารถกล่าวได้ในที่นี้

    หากอยากจะมีชีวิตรอดจากเหตุการณ์ร้ายนี้ ก็ขอให้ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม ศีลธรรมที่ท่านมี จะทำให้รัศมีในตัวท่านสว่างขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่่ำให้ท่านรอดพ้นจากสิ่งร้ายๆนี้ไปได้

    หากจะถามว่ารอดแล้วจะพบกับอะไร อย่าได้คิดว่าตายน่าจะดีกว่าอยู่ ขอตอบสั้นๆว่า หากรอดไปได้ชีวิตในยุคใหม่นั้นจะมีแต่คนดีๆอยู่กัน เป็นสังคมที่น่าอยู่ พุทธศาสนาแท้จะกลับมา เราจะปฏิบัติธรรมได้รวดเร็วขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างที่มีในยุคนั้น ซึ่งในยุคปัจจุบันของเราไม่มี

    (ข้อความทั้งหมดนี้คัดลอกมาจากการตอบปัญหาธรรมข้อที่ 50 ในเว็บพุทธแท้)
    http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE class=tborder id=post827465 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827465", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2005
    ข้อความ: 5,568
    ได้ให้อนุโมทนา: 55,112
    ได้รับอนุโมทนา 74,254 ครั้ง ใน 5,386 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6100 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_827465 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->[​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    คำทำนายเกี่ยวกับอาณาจักร
    แอตแลนติส ที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่ง
    อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
    ในสมัยแรกของโลก

    เอ็ดการ์ เคย์ซี ได้พยากรณ์ไว้ตอนหนึ่งว่า

    ...ทวีปแอตแลนติส เป็นทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    มีขนาดใหญ่กว่ายุโรปทั้งหมด รวมกับแผ่นดิน
    รัสเซีย มีดินแดนต่อทอดไปทั่วโลก

    ชนชาติทีอาศัยอยู่บนทวีปแอตแลนติส
    เป็นชนชาติผิวแดงที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ
    ผู้คนทั่วไปมีประสิทธิภาาพอย่างดียิ่ง
    มีความรู้ความสามารถในศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งปวง
    รวมทั้งงานด้านประติมากรรม วิศวกรรม
    และสถาปัตยกรรมด้วย

    โดยเฉพาะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์นั้น
    เคย์ซีได้บันทึกไว้เป็นคำพยากรณ์ในบทที่ 2794-L-1
    โดยสรุปว่า ชาวแอตแลนติสมีความรู้
    ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเคมี ฟิสิกส์
    และจิตวิทยามาก พวกเขารู้จักประดิษฐ์ไฟฟ้าใช้
    รู้จักผลิตพลังปรมาณูจากยูเรเนียม
    รู้จักผลิตแสงเลเซอร์ ตลอดจนผลิต
    คลื่นวิทยุติดต่อกับดินแดนอื่นได้

    สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
    ชาวแอตแลนติสสามารถผลิตพลังงาน
    มหาศาลจากพลึกมหัศจรรย์ชนิดหนึ่ง
    ซึ่งสามารถรวมเอาพลังธรรมชาติ
    ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกและจักรวาล
    เข้าด้วยกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า
    ความสำเร็จในทางวิทยาศาสตร์
    ของชาวแอตแลนติสนั้น อาศัยพลังงาน
    แสงอาทิตย์เป็นสำคัญ

    วัฒนธรรมสูงส่งของชาวแอตแลนติสพัฒนา
    ตลอดมา โดยมีความเกี่ยวพันทางศาสนา
    เริ่มตั้งแต่มีการทำพิธีบูชาพระอาทิตย์
    และเทพเจ้า

    วัฒนธรรมของอาณาจักรแอตแลนติส
    หายสาปสูญไปในที่สุด เมื่อเกิดภัยพิบัติ
    ครั้งใหญ่ ดินแดนของมหาอาณาจักรเกิด
    สั่นสะเทือน และได้ถล่มทลายลงไป
    ใต้ทะเล ภายในชั่วคืนกับชั่ววัน ดังน้นเมื่อ
    ปี 9500 ก่อนคริสต์กาล ชาติแอตแลนติสก็
    หายไปจากโฉมหน้าของโลก

    เคย์ซีกล่าวว่า วัฏจักรแห่งประวัติศาสตร์
    มักจะหมุนเวียนกลับมาอีกเสมอ
    ดังนั้นวิญญาณของชาวแอตแลนติสย่อม
    มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่ได้อีก
    จากดินแดนหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง
    และจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง
    หรือจากเกาะหนึ่งไปยังเกาะอื่น ๆ

    มหาอาณาจักรแอตแลนติสมีความเจริญ
    ก้าวหน้าทางวิทยาการเท่ากับโลกเรา
    สมัยปัจจุบัน หรือบางอย่างมีความก้าวหน้า
    มากกว่า พวกเรารู้จักพัฒนา โดยนำเอา
    พลังงานอันมหาศาลมาใช้ให้เกิดประโยชน์

    ในปัจจุบันเคย์ซีเชื่อว่า โลกเราได้มีการ
    เปลี่ยนแปลงอย่างปัจจุบันทันด่วน
    ที่ร้ายแรงที่สุดมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งอาจมีผล
    ทำให้อาณานิคมหรือดินแดนบางส่วนของ
    มหาอาณาจักรแอตแลนดิสโผล่ขึ้นมาให้ชาวโลก
    ได้เห็นอีกก็เป็นได้ เช่น เมื่อปี 2483 เคย์ซี
    ทำนายว่าพื้นที่บางส่วนทางด้านตะวันตก
    ของแอตแลนติสจะโผล่ขึ้นมาใกล้ ๆ
    บริเวณหมู่เกาะบาฮามา

    ในช่วงระหว่าง พ.ศ.2511-2512 ปรากฏว่า
    คำทำนายของเคย์ซีได้กลายเป็นความจริง
    คือ ได้มีการค้นพบซากเมืองใต้บาดาลใกล้ ๆ
    หมู่เกาะบาฮามา เรียงต่อกันอย่างประณีต
    ราวกับมีการใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรม
    และสถาปัตยกรรมชั้นสูง หินบางก้อนมีขนาดใหญ่
    พอ ๆ กับขนาดรถบรรทุกเลยดีเดียว
    ลำพังจะใช้กำลังคนช่วยกันแบกหาม
    ขึ้นไปวางเรียงต่อกันก็คงจะไม่ทำได้
    เรียบร้อยและปราณีตเช่นนั้น

    เคย์ซียังทำนายต่อไปอีกว่า
    ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้น จนทำให้
    มหาอาณาจักรแอตแลนติส อันกว้างใหญ่
    ไพศาลถล่มทลายพังพินาศจมหายไปใต้
    ทะเลนั้น จะเกิดขึ้นอีกหลายแห่งในโลก

    เคย์ซีกล่าวว่า
    ในช่วงแรกสุดของโลกเรา เมื่อประมาณ
    10 ล้านห้าแสนปีมาแล้ว มีอารยธรรม
    เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไปหลายครั้ง
    ยุคเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมชาวแอตแลนติส
    อยู่ระหว่างช่วงนับจาก 200,000 ลงมา
    จนถึงปี 10,700 ก่อนคริสต์กาล คือนับตั้งแต่
    ช่วงเวลาประมาณ 13,000 ปี ถอยหลังเป็นต้นไป
    คือสรุปแล้ว จะมีอายุนานประมาณ 80,000-
    900,000 ปี

    ครับนี่ก็เป็นคำพยากรณ์บางส่วนของ
    เอ็ดการ์ เคย์ซี ที่ทำนายอดีตของโลกเรา
    ย้อนหลังไปหลายแสนหลายล้านปี
    ซึ่งความเป็นจริงในสิ่งที่เขาพยากรณ์ไว้นั้น
    ต้องรอคอยให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ในโลก
    ปัจจุบันพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดในอนาคต
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    รับฟัง Audio Book Mantra Analai

    เชิญอ่าน e-Book ได้ฟรี หรือ Download หนังสือทุกเล่มได้จากhttp://novaanalai.com/novaanalai/index.html

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    ภัยธรรมชาติไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดเมื่อไร อยู่ที่แต่ละคนจะเรียนรู้ ป้องกัน

    แต่ภัยจากฝีมือมนุษย์นี่สิ ที่อันตราย

    มนุษย์ถึงแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆในโลกที่ประเสริฐ แต่หารู้ไม่ว่าเพียงมนุษย์บางกลุ่มก็สามารถทำลายความสมดุลของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ให้แปรปวนได้
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=10 cellPadding=0 width=560 border=0><TBODY><TR><TD width="100%">มาตรวัดแผ่นดินไหว: 9.0 กับ 8.1 ริกเตอร์รุนแรงต่างกันถึง 22 เท่าตัว

    [​IMG]

    </TD></TR><TR><TD width="100%">ข่าวโทรทัศน์ภาคเที่ยงของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 รายงานว่าได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 8.1 ริกเตอร์ ต่อมาตอนหัวค่ำของวันเดียวกันทางสถาบันธรณีแห่งสหรัฐอเมริกาได้ขอปรับตัวเลขใหม่เป็น 8.9 ริกเตอร์ และได้ปรับใหม่อีกครั้งเป็น 9.0 ริกเตอร์

    ท่านทั้งหลายจะคิดว่า การปรับตัวเลขความรุนแรงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยคือจาก 8.9 เป็น 9.0 ไม่น่าจะมีความหมายอะไรมากนัก เพราะเพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียว ไม่น่าจะมาทำให้ความจำของชาวโลกต้องสับสนเล่น

    แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ครับ เพราะว่ามาตรวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวนั้น เขาวัดเป็นสเกลของลอการิทึม (logarithm) ฐาน 10

    การที่ต้องใช้ลอการิทึมก็เพราะว่าต้องการจะลดทอนตัวเลขที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารของพลังงานที่แผ่นดินปล่อยออกมาให้มีขนาดน้อยลง เพื่อให้มนุษย์สามารถเก็บรับความรู้สึกได้ ทั้งนี้ความรุนแรงยังคงเท่าเดิม ที่เปลี่ยนเฉพาะมาตรา คล้ายๆกับมาตราเงินแทนที่จะพูดเป็นสตางค์ก็มาเปลี่ยนเป็นบาทแทน

    เช่น ในปี พ.ศ. 2519 แผ่นดินไหวที่ได้คร่าชีวิตชาวกัวเตมาลาไปถึง 23,000 คนนั้น นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่าแผ่นดินได้ปลดปล่อยพลังงานออกมาจำนวนมาก ถ้าเขียนเป็นตัวเลขก็จะมีตัวเลขที่มากกว่าหนึ่งแล้วตามด้วยตัวเลขอีก 25 ตัว(หรือเลข 26 หลัก) ในขณะที่ 1 ล้านเศษๆ จะมีเลข 1 แล้วตามอีก 6 ตัว(หรือเลข 7 หลักที่บรรดาคนมั่งคนมีเขาคุ้นเคยกัน)

    การเขียนเลขขนาด 26 หลักเป็นที่น่ารำคาญทั้งคนเขียนและคนอ่าน นักคณิตศาสตร์จึงได้คิดสเกลลอการิทึมขึ้นมาใช้ (โดย John Napier-ชาวสก๊อตแลนด์ เมื่อเกือบ 400 ปีมาแล้ว

    ในกรณีการวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว นักวิทยาศาสตร์ก็ใช้สเกลลอการิทึม และเพื่อให้เกียรติ กับนักธรณีวิทยาชาวอเมริกันท่านหนึ่งที่ชื่อ Charles Richter (เพิ่งเสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2528) และเรียกสเกลนี้ว่า ริกเตอร์

    ตำราคณิตศาสตร์เบื้องต้นเล่มหนึ่ง(พิมพ์ปี 2533) ได้บอกเป็นสมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสเกลริกเตอร์(R) กับพลังงานที่แผ่นดินปลดปล่อยออกมา(E) ว่า

    R = 0.67log(E) - 7.9 (โดยที่ log คือ ลอการิทึม)

    ทีนี้ เราลองมาเปรียบเทียบความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราที่เรากำลังเศร้าโศกกันอยู่นี้ดูบ้าง รวมทั้งเปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวในระดับที่เราเคยผ่านหูผ่านตากันมา

    โดยปกติ เรามักจะได้ยินระดับความรุนแรงระดับ 6.0-6.9 ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ตึกที่ไม่แข็งแรงมากนักพังลงมาได้

    ในที่นี้เราจะเปรียบเทียบความรุนแรงระดับ 7.0 ริกเตอร์ (ซึ่งเราเคยได้รับฟังกันมาบ้าง) กับ 8.1 ริกเตอร์ (ซึ่งเราได้รับรายงานครั้งแรก) และ 9.0 ริกเตอร์ซึ่งเป็นความรุนแรงครั้งนี้ โดยการใช้ความสัมพันธ์ดังสูตรที่ผมได้ยกมาแล้วพบว่า

    ที่ระดับ 9.0 ริกเตอร์ จะมีความรุนแรงเป็นเกือบ 1,000 เท่าของความรุนแรงระดับ 7.0 ริกเตอร์ในขณะที่ 9.0 ริกเตอร์ จะมีความรุนแรงเป็นเกือบ 22 เท่าของความรุนแรงระดับ 8.1 ริกเตอร์ สเกลริกเตอร์ไม่มีขีดจำกัดบน คือมากที่สุดเท่าใดก็ได้

    ข้อมูลจาก http://pubs.usgs.gov/gip/earthq4/severitygip.html บอกว่าระดับความรุนแรงที่ 8.8 ถึง 8.9 ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

    แต่เที่ยวนี้ปาเข้าไปถึง 9.0 ริกเตอร์ ล่าสุดผมได้ยินข่าวแว่วๆว่า สหรัฐอเมริกาได้ปรับเป็น 9.2 ริกเตอร์อีกแล้ว นั่นคือรุนแรงกว่าระดับ 8.1 ถึง 44 เท่าตัว (ระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเพียง 0.9 ริกเตอร์ หรือ 11% แต่ระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น 44 เท่าหรือ 440%)

    ผมฟังข่าวอีกช่องถึงบอกว่า ความรุนแรงครั้งนี้เท่ากับความรุนแรงของแผ่นดินไหวทุกครั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารวมกัน

    ไอ้หยา! มันเกิดเพราะอะไร หรือเป็นการลงโทษของธรรมชาติ ที่มนุษย์เราไปทำลายธรรมชาติจนเกินระดับที่ธรรมชาติจะทนได้อีกต่อไปแล้ว มนุษย์ผู้โง่เขลาได้เรียนรู้อะไรมั่ง คราวนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.phukettsunami.com/thai/data-news-matwat9.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  10. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    ที่ประเทศจีนที่การป้องกันเรื่องนี้อยู่แล้วแล้วครับ และเมื่อมีการตรวจพบรอยร้าวก็รีบทำการปรับปรุงทันทีโดยมีการประกาศระบายน้ำออกก่อน แล้วรีบซ่อมแซมโดยด่วน ซึ่งประเทศจีนมีโอกาศสูงที่จะเกิดแผ่นดินไหวในระดับ 7-9 จึงมีการป้องกัน

    ส่วนในประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นความแรงระดับ7-9ริกเตอร์เช่นจีน และก็ไม่เคยเจอแผ่นดินไหวระดับแรงเช่นนั้น จึงมีการป้องกันในระดับนึง ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่ก็ควรมีการรับมือให้ไม่เกิดความสูญเสียเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้นครับ

    ดังนั้นที่พวกท่านทั้งหลายมาเตือนนี้ท่านเตือนด้วยความหวังดีครับท่าน อย่างน้อยเพื่อความไม่ประมาท แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกิดเหตุ ทุกอย่างควรเตรียมรับมือ ศึกษาไว้บ้างโดยฟังหูไว้หู

    ที่ผมได้กล่าวไว้ ก็ควรเดินสายกลางนะครับ การที่เตือนไปก็ขอให้อย่าได้ตื่นตระหนกซะก่อน ควรป้องกันและเตรียมตัวไว้มิใช่ปล่อยทิ้งไป หากเพียงความรู้จดจำไว้ก็ไม่เสียหาย และจงอย่าเป็นกระต่ายตื่นตูม

    หากที่ข้าพเจ้ากล่าวท่านเห็นไม่ถูกต้องก็ควรชี้แนะว่าท่านคิดเช่นไรที่ไม่ตรงกับข้าพเจ้าไว้ด้วย

    โมทนาสาธุ บุญบารมีที่ข้าพเจ้าสร้างไว้ไม่ว่าชาติใดขอให้ผลบุญบารมีนั้นได้โปรดช่วยเหลือผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิให้กลับเป็นสัมมาทิฏฐิโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ
     
  11. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    2 ก.ย. 2547

    2 จ้าวป่า สื่อถึงสัตว์แห่งสงคราม

    2 ต.ค. 2551

    u.s. Tank รุ่น 2-1

    สงสัยสิงห์โตตัวแรกจะตื่นแล้ว
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ไม่เข้าใจจ้า
     
  13. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    กรมอุตุฯ เตือนทุกภาคมีฝนฟ้าคะนอง
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น. ประจำวันที่ 2 ตุลาคม ว่า บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนทำให้ร่องความกดอากาศต่ำเลื่อนไปพาดผ่าน
    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย
    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำป่ายังคงไหลทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้านเมืองแปดริ้ว

    [​IMG]

    ฉะเชิงเทรา 2 ต.ค.- อบต.ท่ากระดาน สำรวจความเสียหายหลังน้ำลด พบถนนทางเชื่อมต่อเข้าสู่หมู่บ้านจำนวนมากถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ขณะน้ำป่ายังคงไหลบ่าขยายวงกว้างเข้าท่วมอีกหลายหมู่บ้าน

    นายศุภกาณต์ ตันเจริญ นายก อบต.ท่ากระดาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่หลายหมู่บ้านในเขตตำบลท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่ถูกกระแสน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ มีชาวบ้านได้รับผลกระทบหลายร้อยครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ล่าสุด ระดับน้ำได้ลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนถูกน้ำพัดพังเสียหายจำนวนมาก ถนนทางเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำกัดเซาะ รวมทั้งท่อระบายน้ำในลำคลองที่เป็นช่องระบายน้ำประจำหมู่บ้านเสียหายหลายแห่ง ทั้งในพื้นที่ หมู่ 2 หมู่ 4 หมู่ 12 และหมู่ 21

    ขณะที่นายสังเวียน ปิติ อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านห้วยน้ำใส ม.13 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้น้ำป่าได้ไหลบ่าเข้ามาท่วมถึงหมู่บ้านแล้ว ระดับน้ำล่าสุด สูงประมาณ 60-80 ซม. และได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตร ทั้งไร่มันสำปะหลัง สวนยางพารา และไร่อ้อยของชาวบ้านได้รับความเสียหายแล้วเช่นกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย

    2008-10-02 11:23:43

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เมตตา ****

    ไม่เห็นผู้อื่นผิด
    ไม่จ้องจับผิดแต่ผู้อื่น
    ไม่เหยียบย้ำ ซ้ำเติมผู้อื่น
    ทำได้ไหม !!!
    ไม่กล่าวโทษผู้อื่นผิด เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา
    เราไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเขา
    เราจะพิจารณาตนเอง
    ทำได้ไหม !!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เครื่องเตือนภัยน้ำป่า" แบบไร้สาย ส่งข้อมูลทันใจแม้อยู่ไกลเกินเข้าถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 ตุลาคม 2551 12:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    จากซ้าย นายวัชระ วานิชชา, นายณัฐการณ์ ศีรต่ายขำ และนายธัชษพล ขำวงษ์ นักศึกษา

    นักเรียนอาชีวะสิงห์บุรีไอเดียดี สร้างเครื่องเตือนภัยน้ำป่าอัจฉริยะแบบไร้สาย ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ส่งสัญญาณด้วยคลื่นวิทยุ แม้อยู่ห่างไกลแค่ไหน ก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถอพยพผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทันท่วงที ด้วยเทคโนโลยีไทย

    นายณรงค์ศักดิ์ แสงเงิน อาจารย์แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี นำทีมนักศึกษประดิษฐ์คิดค้น "เครื่องเตือนภัยน้ำป่าไร้สายอัจฉริยะ" ป้องกันหายนะได้ทันท่วงที ใช้โซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้า ให้กับชุดอุปกรณ์ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ ส่งสัญญาณได้รวดเร็วทันใจ ด้วยคลื่นวิทยุ เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ห่างไกลบนยอดเขาสูง เจ้าหน้าที่ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปตรวจด้วยตัวเอง

    นายวัชระ วานิชชา, นายณัฐการณ์ ศีรต่ายขำ และนายธัชษพล ขำวงษ์ 3 นักศึกษา ปวส ปี 2 แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ อธิบายกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า จากกรณีน้ำป่าไหลหลาก ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก

    สาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการขาดอุปกรณ์แจ้งเตือนภัย สำหรับติดตั้งในป่าหรือภูเขาสูงที่อยู่ห่างไกล เนื่องจากขาดแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เตือนภัย ระบบการส่งสัญญาณเตือนภัยมายังศูนย์ควบคุมยังทำได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเป็นผู้ไปตรวจด้วยตัวเอง ซึ่งการเดินทางเข้าถึงบริเวณดังกล่าวอาจไม่สะดวกนัก จึงคิดประดิษฐ์เครื่องเตือนภัยน้ำป่าไร้สายอัจฉริยะนี้ขึ้น

    เครื่องเตือนภัยดังกล่าว ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 5 วัตต์ แบตเตอรีขนาด 12 โวลต์ เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ ชุดไมโครคอนโทรลเลอร์ และเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำ ที่ทำจากแท่งอิเล็กโทรดหลายแท่ง สำหรับนำไฟฟ้าโดยอาศัยหลักการใช้น้ำเป็นสื่อกลาง

    อิเล็กโทรดแต่ละแท่ง มีความยาวไม่เท่ากัน แท่งที่ยาวมากที่สุดเป็นแท่งกราวน์ เซ็นเซอร์สามารถวัดการเปลี่ยนแปลงของน้ำได้ 7 ระดับ โดยต้นทุนของเครื่องเตือนภัยน้ำป่าไร้สายนี้ประมาณ 8,000 บาท และได้นำไปติดตั้ง และทดลองใช้ในสถานที่จริงที่น้ำตกสวนมะเดื่อ จ.ลพบุรี

    [​IMG]


    เมื่อนำเครื่องเตือนภัยนี้ ไปติดตั้งบริเวณตาน้ำ หรือแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก โดยจุ่มส่วนปลายของเซ็นเซอร์ลงในน้ำ หากระดับน้ำเกิดเปลี่ยนแปลง จนน้ำสัมผัสกับอิเล็กโทรด แท่งที่มีความยาวลำดับถัดไป จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลครบวงจรอีกครั้ง เครื่องควบคุมก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลง ไปยังสถานีควบคุมภายใน ที่มีเครื่องรับสัญญาณวิทยุติดตั้งไว้

    [​IMG]


    เครื่องรับสัญญาณ จะแสดงผลการเตือนด้วยสัญญาณไฟ หรือสัญญาณเสียง และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ก็ได้ รวมระยะเวลาตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เซ็นเซอร์จนส่งสัญญาณมาถึงควบคุม กินเวลาไม่เกิน 5 วินาที และอุปกรณ์รับสัญญาณ 1 ชุด สามารถรับสัญญาณจากเครื่องเตือนภัยได้มากกว่า 2 จุด

    นายวัชระให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เครื่องส่งสัญญาณวิทยุตัวอย่างที่ใช้ มีกำลังส่งขนาด 5 วัตต์ สามารถส่งสัญญาณได้ไกลในระยะ 3 กิโลเมตร แต่หากนำไปใช้ในพื้นที่จริง ควรใช้วิทยุที่มีกำลังส่งมากๆ และควรติดตั้งเสาสัญญาณส่งให้สูงพอเหมาะ ส่วนอิเล็กโทรดที่ใช้เป็นเซ็นเซอร์นั้น ควรใช้โลหะที่นำไฟฟ้าได้ดี และกันสนิมได้ด้วย เพราะต้องแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน

    ส่วนเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำ ก็สามารถปรับเปลี่ยนความยาวของอิเล็กโทรด และระดับการเตือน การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำได้ตามความเหมาะสมของระดับน้ำที่กำหนดให้เป็นจุดวิกฤติ ซึ่งเครื่องเตือนภัยนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำเท่านั้น

    ดังนั้นจึงไม่สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า และหากไม่มีแสงอาทิตย์พอสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า แบตเตอรีขนาด 12 โวลต์ สามารถใช้งานได้นานหลายเดือน หากแบตเตอรีอ่อนก็จะส่งสัญญาณเตือนไปยังศูนย์ควบคุมด้วยเพื่อให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบและนำกลับมาชาร์จไฟที่ศูนย์ควบคุมได้.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000114750

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ดาวเทียมทีออส มีผลต่อประเทศไทยอย่างไร คุณfalkman จะใช้ดูช่วยแจ้งข่าวสารให้พวกเราได้รึเปล่า หรือต่างชาติจะเห็นแหล่งทรัพยากรของเรา
     
  18. malee123

    malee123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,843
    ขอยกย่องเยาวชนมันสมองดี ๆ จากแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่นำทีมนักศึกษประดิษฐ์คิดค้น "เครื่องเตือนภัยน้ำป่าไร้สายอัจฉริยะ" ป้องกันหายนะ ที่สามามารถทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้

    ขอปรบมือดังงงงงงงงง ให้ได้ยินถึงโน่นนนนน วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ต้องหาข้อมูลก่อนจ้า เมื่อก่อนเคยทำโปรเจกต์(วิทยานิพนธ์) เรื่องการสื่อสารดาวเทียมอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เข้ากระป๋องไปหมดแระ เดี๋ยวต้องไปหาข้อมูลก่อนนะ แป่วมาก.......[​IMG]
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...