ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

คุณvijit_j ลองซูมทะเบียนดูมั๊ยครับ เผื่อจะใช่ ช่วยลุ้นด้วยคน
แต่เอ๊...ใครกัน ยืนคุยกันอยู่ด้านหน้า 3 คน ทำท่าทางเหมือนงานเข้า อิ๊ก อิ๊ก..


พบกับโปรโมชั่น มัดมือชก แจกเวป ฟรี....
1.เวปลังเล สงสัย
2.เวปคับข้อง หมองใจ
3.เวปเบื่อหน่าย ไม่เอาแร้ววว
4.เวปเห็นดี เห็นด้วย เห็นงาม เห็นชอบ
5.เวปเกิดมาลุย
6.เวปทุกข์ปัญหามีทางออก บอกสุดใจเขากะลา
มัดมือชก ตามจริตแต่ละท่าน พบกันที่เขากะลา 1
ขออนุโมทนา

hello8_heart+love_

 

สวัสดีค่ะ ท่านอาวุโส โนนาย

นึกถึงอยู่พอดีค่ะ พี่วรรณก็เป็นคนอยุธยา อยากจะโบกรถคุณโนนาย ไปเขากะลา ๑ เหมือนกันแหละ แต่ด้วยเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถไปได้ เพราะอยู่กันคนละมุมโลก

แต่พอมาเริ่มอ่านตรงนี้
"แต่ระหว่างเดินทางก็จะมีบริการเปิดแอร์เย็นๆ ฟังเพลงเบาๆ ตลอดทางนะครับ ขอบอก"

เราก็นึกว่าจะมีบริการเลี้ยงน้ำ เลี้ยงข้าว ตลอดทาง ที่ไหนได้ บริการที่ว่า เปิดแอร์เย็นๆ ไม่ต้องการหรอกนะคะ No, Thank you เพราะอากาศที่นี่ก็เย็นถึงกระดูกพอแล้วค่ะ

 

Khun A41 should talk to Khun Krung-Krai. You live in the same province, Samutprakarn.

 

เมื่อคืนนอนแต่หัวค่ำ ตื่นนอนมาแล้วเปิด คอม คอม มันบอกว่า inser boot ไรเนี่ย เลย กด alt+ctrl+delete รีใหม่ พอถึงหน้า window เห็น เวลา 4.11 '

 

ซูมดูแล้ว

สามคนที่ยืนคุยกันก็มี
พี่สุดใจชุดสีโอโรส
จานโม่
จานยูเครน นั่นแหละ

และไม่รู้ยืนเถียงกันเรื่องอะไร กลางแดด

 

เวลาที่มีเศษ :11 ผมเห็นวันละหลายๆ ครั้ง จนเป็นความเคยชิน เช่นเดินทางไกลๆ 6:11 7:11 8:11 คือทุกชั่วโมงต้องหันมามอง บางคืนก่อนนอน มองเวลา 9:11 น. 3 คืนซ้อน เมื่อครู่ใหญ่นี้ตื่นมาเวลาในมือถือ 5:11 น.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ MOUNTAIN
ผู้ที่จะไปประมวลพลังในรอบแรกนี้จะต้องเป็นผู้มีหมายเลขแล้วเท่านั้นนะครับ
ผู้ที่ยังไม่มีหมายเลข จะประมวลพลังในชุดหลัง คือให้ผู้มีหมายเลขประมวลพลังเสร็จสิ้นก่อน


จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ถูกต้องแล้วครับ บางสิ่งบางอย่างก็อำพรางให้เราไขว้เขว
ขึ้นอยู่กับปัญญาของแต่ละท่าน
อย่าตีกรอบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถูกต้องที่สุดครับ

 

ร้านอาหารมีมากมายหลายร้าน อาหารก็มีหลากหลายชนิด
คนที่ชอบประเภทก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็จะเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ
คนที่ชอบข้าวราดแกง ก็จะเข้าร้านข้าวราดแกง ฯลฯ

เมื่อเข้าร้านตามประเภทที่ชอบแล้ว
ก็ต้องมาว่ากันถึงรสชาติของอาหาร
บางคนชอบเผ็ดๆ ก็ใส่พริกป่นมากหน่อย
ชอบเปรี๊ยวเผ็ดก็เติมพริกน้ำส้ม
บางคนไม่ชอบเผ็ดก็ใส่แต่พอประมาณ
หรือชอบจืดๆ ก็ไม่ต้องปรุงอะไรเลย

ไม่ว่าจะชอบอาหารประเภทใด
อาหารประเภทนั้น ก็มีความหมายของมันอยู่ในตัว
บางคนกินเพราะความอยาก เพราะติดใจในรสชาติ
บางคนกินเพื่อไม่ให้หิว จะอร่อยหรือไม่อร่อย กระเพาะไม่ได้เป็นผู้เลือก


บางคนยังไม่ทันไปกิน มีคนมาบอกกล่าวว่าไม่อร่อย ก็เลยไม่ได้กิน
หากร้านนั้นมีเชลล์ชวนชิมการันตี มีแม่ช้อย ฯ รับประกันความอร่อย
ก็ตามไปลองกินดูว่าจะอร่อยสักแค่ไหน

ชีวิตดำเนินไป ก็เปรียบเสมือนการ เลือกอาหาร
อยู่ที่ว่า เราจะเลือกสิ่งใด
ถ้าเลือกแต่เปลือก ก็คือรสชาติของอาหารที่อร่อยถูกใจ
ถ้าเลือกที่แก่น ก็คือ อาหารอร่อยไม่อร่อยไม่สำคัญ
สำคัญที่กินเพื่อแก้ทุกข์ ไม่ได้กินเพื่อแก้อยาก
กินเพื่อให้ยังสังขารให้อยู่รอด และใช้สังขารเป็นบทเรียน
เพื่อให้เห็นแจ้งแทงตลอดว่า ในที่สุด
สังขาร หรือขันธ์๕ เราก็ยึดไม่ได้
เราหลงไปบำรุงบำเรอ ปรนเปรอมันมานาน
ไม่ยอมห่างหายไกลจากตัวตน

แล้วในที่สุด มันก็ตาย เน่าเหม็น กลายเป็นศพ
หากจิตยังยึดเกาะขันธ์๕ อยู่
ก็จะเกิดการสร้างภพสร้างชาติ ขึ้นมาอีกไม่สิ้นสุด
แล้วเราจะหาที่สุดสิ้นของสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด ได้อย่างไร
ทุกคนมีปัญญา แต่ ไม่ได้นำมาใช้คิดพิจารณา
เมื่อไม่มีปัญญานำ จึงพาให้ไปเกิดด้วยความประมาทในชีวิต
เวียนตายเวียนเกิดไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเราจะยังเหนื่อยกันไปอีกทำไม

 

อนุโมทนา กับข้อความธรรมะที่อาจารย์เม้าท์ได้กล่าวเปรียบเทียบไว้อย่างชัดเจนทีเดียว

การบริหารขันธ์ห้า ให้แค่ดำรงอยู่ ก็เป็นเรื่องยากลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าบริหารไปพร้อมกับกิเลสที่ชี้นำ ก็ย่อมลำบากยากยิ่งกว่าเดิมมากมายนัก

เพราะความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง ถ้ายังต้องเวียนเกิด เวียนตาย ก็ยังต้องเวียนรักษาโรคความหิวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การทำมาหากิน ก็เพื่อประทังความหิวให้ดำรงชีพอยู่ได้เท่านั้น ผ่านไปแค่ 4 ชั่วโมง ก็หิวใหม่ ต้องบำบัดกันใหม่ ต้องรักษากันใหม่อีกแล้ว

และแค่มองเห็นว่า กินสักแต่ว่ากิน ก็ยังลำบากในการทำมาหากิน มากพออยู่แล้ว หากต้องกินไปตามกิเลสที่หลอกล่อ ด้วยความที่ไม่เข้าใจ ก็ยิ่งปรุงแต่งมากขึ้นไปอีก

แล้วเราไม่ลองหันกลับมาคิดว่า เราจะรักษาโรคหิวให้หายขาดไปเลยมิดีกว่าหรือ มิใช่แค่ประทังเป็นครั้งคราวเท่านั้น

การที่จะหายจากโรคความหิวได้เด็ดขาด ก็คือต้องไม่มีผู้หิว ไม่มีผู้หาอาหาร ไม่มีผู้รับประทาน ไม่มีผู้ต้องทนทุกข์ทรมาน เมื่อไม่มีอุปทานในขันธ์ห้า นั่นต่างหาก ที่จะรักษาอาการทั้งปวงได้อย่างถาวร

เมื่อยังมีเราในขันธ์ห้า ในขันธ์ห้ามีเรา เราเป็นขันธ์ห้า ขันธ์ห้าเป็นของเรา ก็ยังต้องป่วยอยู่ร่ำไป ยังต้องรักษากันอยู่ร่ำไปนั่นเอง



ขอสนับสนุนการเวียนเกิดเวียนตายไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยข้อความที่เคยโพสไว้แล้วในหน้าที่ 207 ให้อ่านกันอีกสักครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่อาจารย์เม้าท์ได้กล่าวไว้ว่า

เวียนตายเวียนเกิดไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเราจะยังเหนื่อยกันไปอีกทำไม

โพสที่ 4122 หน้า 207
จากสุดใจเขากะลา ​

เกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์
ตามการเกิดในวัฏฏะสงสาร ในภพชาติที่ไม่มีที่สิ้นสุด​

การเกิดในหลายภพชาตินั้น มากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าเป็นมนุษย์ สัตว์ เทวดา พรหม หรือในชาติภพอื่น ๆ มากมายนัก

แต่ให้สมมุติว่า แค่เกิดเป็นมนุษย์ในทุก ๆ ชาติ เพื่อการเทียบเคียงกับในขณะนี้ จะได้มีความเข้าใจมากที่สุด

ตั้งแต่เกิดมาในวันแรก ก็จะมีการดิ้นรนแต่แรกเกิด มีพ่อแม่เลี้ยงดู จนอายุ 3-4 ขวบ เข้าโรงเรียน เล่าเรียนกันจนอายุ 20 ปี จบออกมาได้งานทำ แก่งแย่งชิงดีตำแหน่งหน้าที่ เรื่องลาภยศสรรเสริญกัน ทำงานหาเงินอดออมไว้ และพบคนรัก ได้แต่งงานกัน พอมีลูก ก็ต้องเร่งทำงานหาเงิน เก็บออมเพื่อที่จะให้ลูกมีกินมีใช้
พออายุ 60 ปี ก็เกษียรอายุ ลูกก็โตหมดแล้ว ก็คิดว่า เออ.... ได้พักเสียที เพราะทำงานตะเกียกตะกายหากินมาตลอดเวลา 60 ปีแล้ว แต่พออายุ 80 ปี ก็ตายเสียแล้ว ... ได้พักแค่ 20 ปีเท่านั้นเอง

ตายปุ๊บ สมมุติเกิดปั๊บ เป็นเด็กทารกใหม่ ก็เริ่มวงจรเดิม เกิดมาแล้ว 3 ขวบก็เข้าโรงเรียน เรียนไปจนอายุ 20 ปี จบออกม ทำงานหาเงินและพบคนรัก แต่งงาน มีลูก ทำมาหากินมาทั้งชีวิต พออายุ 60 ปี ก็เกษียรอายุ ก็คิดว่าเออ .... ได้พักเสียที แต่อายุ 75 ปี ก็ตาย .... ได้พักแค่ 15 ปี

ก็มาเกิดวงจรเดิม เป็นเด็กทารก เรียน ทำงานหาเงิน แต่งงานมีครอบครัว ทำมาหากิน มีลูก พอลูกมีงานทำ เราก็เกษียรอายุ 60 ปีพอดี เออ...ได้พักเสียที แต่ 70 ปี ก็ตายแล้วเพราะโรครุมเร้า ได้พักแค่ 10 ปีเอง

ก็มาเกิดวงจรเดิมอีก เป็นเด็กทารกใหม่ เริ่มต้นเรียนใหม่ ทำมาหากินกันใหม่ แต่งงาน มีลูก แล้วก็เกษียร เออ...ได้พักเสียที แต่พอ 85 ปีก็ตายแล้ว เออ...ชาตินี้ได้พักนานหน่อย 25 ปี

ก็เกิดใหม่อีก เรียนอีก ทำงานอีก มีครอบครัวอีก หาเงินเลี้ยงลูกอีก อายุ 60 ปี จะได้พักสักหน่อย ก็เจ็บ ก็ตายอีกแล้ว

แล้วก็ต้องวนมาเกิดเป็นเด็กใหม่อีก เรียนอีก ทำงานอีก เลี้ยงลูกอีก เจ็บอีก ตายอีก อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด

ดังนั้น ตอนนี้แค่คิดว่า ต้องเกิดมาเป็นเด็กใหม่อีกหรือ ต้องเรียนกันใหม่อีกหรือ แค่นี้ก็เบื่อแล้ว ทุกข์แล้ว

เพราะตราบใดยังต้อง เกิดมาเพื่อทำมาหากิน ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด เป็นความทุกข์ทั้งสิ้น

นี่ยังกล่าวแค่การเกิด ดำรงชีวิต ทำมาหากินแบบปกติ ยังไม่ได้รวมในแต่ละชาติที่ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมาณ ความผิดหวัง ความสมหวัง ความสุข ความทุกข์ ที่ปนเปกันไปในแต่ละขณะในแต่ละชาติด้วยนะ

แค่คิดว่า ต้องเกิดอีกแล้ว เป็นเด็กอีกแล้ว ต้องตะเกียกตะกายอย่างเดิมซ้ำ ๆ อีกแล้ว แค่นี้ก็จะเห็นความน่าเบื่อหน่ายในวัฏฏะสงสาร ความไม่อยากที่จะต้องมาเกิดซ้ำ ๆ แบบนี้อีกแล้ว

ยิ่งหากเกิดมาแล้วไม่พบธรรมะ ที่จะนำพาให้พ้นทุกข์ได้ ก็ยิ่งเสียเวลาในการเกิดแต่ละชาติเป็นอย่างยิ่ง ต้องวนเวียนอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด

นี่ยังไม่นับ ในการไปแวะเกิดเป็นสัตว์บ้าง ในภพอื่น ๆ บ้าง ในบางชาติ ตามวิบากกรรมที่สร้างในแต่ละชาตินะ

ถ้ามองเห็น ถ้าพิจารณาตาม ก็จะเห็นความน่าเบื่อหน่าย น่าเอน็จอนาถในการเกิดบ่อย ๆ เกิดซ้ำ ๆ เกิดแล้วเกิดอีก เมื่อไรจะสิ้นสุดเสียที

แต่เพราะความไม่รู้ การเกิดมาแต่ละชาติ ก็เหมือนรู้สึกว่าเป็นของใหม่ เป็นคนใหม่ เป็นตัวเราของเราชาตินี้ วันนี้ จึงกอบโกย ทำมาหากิน สะสมเงินทอง เป็นร้อยล้านพันล้าน ตายไปก็เอาไปไม่ได้

ต้องเวียนไปเกิดเป็นเด็กใหม่ แล้วตะเกียกตะกายสะสมกันใหม่อีก ไม่รู้จบสิ้น​

ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่ง ที่ผู้มองเห็น จากผู้ที่มาจากดวงดาวอื่น ผู้ที่มีอายุหลายหมื่นปี มาบอกให้เห็นความน่าเวทนาของการเวียนว่ายตายเกิด ในภพมนุษย์นี้ ซึ่งมีอายุสั้นนัก แค่ 100 ปี ก็ตายกันแล้ว

จะยังยึดมั่นถือมั่นกันอยู่ทำไม ? <!-- / message --><!-- edit note -->​

 

แจ้งเพื่อทราบ​

ต้องขออนุญาตชี้แจงสักเล็กน้อยนะคะ สำหรับทำความเข้าใจในเรื่องการประมวลพลังที่เขากะลา นครสวรรค์ เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน

เขากะลา เป็นสถานที่ที่มิได้เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นของสาธารณะ ดังนั้น หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะใช้สถานที่นี้สำหรับขึ้นไปกราบพระ ขึ้นไปชมบรรยากาศ ขึ้นไปสนทนาธรรม หรือขึ้นไปเพื่อที่จะชมวัตถุลึกลับ แปลก ๆ ที่มาปรากฏให้เห็นก็ย่อมสามารถทำได้ ซึ่งจะมีการเปิดให้ทุกท่านสามารถเดินทางไปสัมผัสได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป

สำหรับวันเสาร์ที่1 พฤศจิกายน 2551 นั้น ระบบขอรับเฉพาะผู้ที่มีการปรับหมายเลข ที่ได้รับการรับรองแล้วเท่านั้น ในชุดแรกนี้ก่อน

เนื่องจากบุคคลรุ่นที่ 1/2551 นี้ ต้องมีการมารับทราบทฤษฎีระบบ มาปรับพื้นฐานของการปล่อยวาง และทำความเข้าใจในการที่จะต้องมีการประมวลพลัง หรือเรียกว่าติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมนั้นให้เข้าใจก่อน

ที่ระบบมุ่งเน้นให้เฉพาะผู้ที่มีหมายเลขเท่านั้น ก็เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีความเข้าใจ มีการมารับฟังการขยายระบบมาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

จึงมีพื้นฐานของความเข้าใจเพียงพอที่จะเข้ามารับฟังการขยายระบบ และรับทราบทฤษฎีระบบในระดับลึกขั้นแยกขันธ์ห้าได้อย่างเข้าใจ ซึ่งจะมีการอบรมก่อนการประมวลพลัง ให้กับชุดแรกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 นี้

เรียกว่า การประมวลพลังรุ่นที่ 1/2551

จุดมุ่งหมายก็คือ ระบบ ต้องมีการผลิตกลุ่มบุคคลชุดแรกขึ้นมาก่อน คือรุ่นที่ 1/2551 เพื่อที่จะได้เป็นผู้ให้การต้อนรับ ให้คำแนะนำ และบอกเล่าประสบการณ์ให้กับรุ่นต่อไปที่จะเดินทางมาประมวลพลังที่เขากะลาแห่งนี้

และในรุ่นที่ 1/2551 นี้ ถือเป็นการเปิดประมวลพลังอย่างเป็นทางการครั้งแรก

ซึ่งห่างจากการประมวลพลังของรุ่นอาวุโส ที่ไม่ได้มีการประมวลพลังมาแล้ว เป็นเวลา 8 ปี 6 เดือน 12 วัน

ดังนั้น ระบบจึงอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีหมายเลขที่ได้รับการรับรองจากผู้อาวุโสจากเขากะลา 1 แล้วเท่านั้น ที่สามารถเข้าร่วมในการประมวลพลังในครั้งนี้ได้

 

สวัสดีครับ

ตอนนี้รถผมยังว่างอีก 2 ที่นั่งครับสนใจ PM มาได้พร้อมเบอร์โทรศัพท์จะได้นัดเวลากันนะครับ หรือรถคันไหนแน่นจะมากับรถผมก็ได้ยินดีครับ

 

ในวันเสาร์ถัดไป ซึ่งเป็นวันลอยกระทง จะมีการประมวลพลังในรุ่นที่ 2/2551

และบุคคลทั่ว ๆ ไปสามารถขึ้นไปสวดมนต์ สนทนาธรรม หรือชมบรรยากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการเชื่อมระบบแล้ว หรือไม่ได้เชื่อมระบบ มีหมายเลข หรือไม่ได้มีหมายเลข หากมีความประสงค์จะเดินทางมาเที่ยว มาเยี่ยมชม หรือมาร่วมนั่งรับพลัง ก็ขอเชิญได้ทุกท่าน ยินดีต้อนรับค่ะ

ด้านบนเขากะลา จะมีการจัดสถานที่ไว้ 3 จุด

ลานปฏิบัติธรรม หน้าองค์พระประธาน เป็นลานปูนขนาดใหญ่ สำหรับสวดมนต์ สนทนาธรรม ขยายระบบ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้

ลานประมวลพลัง เป็นลานขนาดเล็กด้านซ้ายขององค์พระ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว หากมีผู้เข้าร่วมประมวลพลังจำนวนไม่มากนัก ก็จะใช้ลานนี้ในการประมวลพลัง หากจำนวนมาก ก็ต้องใช้ลานใหญ่ประมวลพลังแทน

ลานดูดาว อยู่ในชั้นล่างถัดลงไปเล็กน้อย มีระเบียงยื่นออกไป มีศาลา และมีลานเอนกประสงค์ ในช่วงประมวลพลัง หากท่านที่มิได้เข้าร่วม สามารถไปพักผ่อน ชมบรรรยากาศ ดูดาว ดูสิ่งแปลก ๆ ตรงจุดนั้นได้ โดยจะมีเก้าอี้ผ้าใบ วางไว้รองรับในส่วนเท่าที่มี

ดังนั้น ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2551 จึงขอรับเฉพาะผู้ที่มีหมายเลขก่อน เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมเพื่อรองรับทุกท่านในรุ่นถัดไป

ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป ท่านสามารถเดินทางมาเยี่ยนเยียนเขากะลาได้ตลอด

ขอให้ผู้ที่มีหมายเลขที่จะเดินทางมาประมวลพลังเป็นกลุ่ม กรุณายืนยันจำนวนบุคคลให้ทราบอีกครั้ง เพื่อระบบจะเตรียมการต่อไป

จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

ตกลงกับคุณ NO. Nine แล้ว ว่าจะให้อาจารย์วรรณ นั่งเป็นแม่ย่านางเลย
เสียดายอยู่กันคนละมุมโลก
;aa21;aa21
​

 

รายชื่อผู้ไปประมวลพลัง วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2551

1. Sutatip's car owner
2. UFO 365
3.*April*
4. DaLink
5. Astro Neemo
6. Ukrin
7. Tepabut Chow Din
8. Shark 2009
9.time_machine
10.ทานะบารมี
11.ไอย
12. ณ.
13. MOUNTAIN
14. กรึงไกร
15. A.41
16.pyramid
17. ศศะ
18.juksawat


(สีแดง คือผู้ที่นำรถไปเอง)

 

หากท่านใดที่ได้มารับฟังเรื่องการประมวลพลังในคืนวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2551 โดยผู้อาวุโสที่ผ่านการประมวลพลังมาแล้ว ท่านก็จะได้รับทราบว่า

โครงการข้างหน้า ได้มีการเตรียมอุปกรณ์ เตรียมเครื่องมือ ไว้ให้ใช้ ในอนาคต แต่ที่มีการฝึกซ้อมในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ส่วนรวมในอนาคต

แม้อุปกรณ์ที่ทำให้เห็นในวันนี้ ก็มิได้หมายความว่า ... ต้องมีการนำมาใช้จริงในวันนี้

แต่จะต้องมีการนำมาใช้จริงในอนาคต

ดังนั้น ในวันนี้ ท่านอาจจะไม่เข้าใจ ไม่เห็นความสำคัญเพียงพอ ก็มิใช่เรื่องแปลกใด ๆ สำหรับระบบ ที่แต่ละบุคคลมีความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนไม่เท่ากัน ดังนั้นผู้ที่จะเข้าใจในระบบ และไตร่ตรองในการเตรียมการณ์ของระบบได้ ก็ต้องใช้การพิจารณาอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว

ทุกคนจะมีการรับอุปกรณ์เพื่อทำงานแตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมในงานนั้น ๆ

การสัมผัสสิ่งแปลก ๆ การเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ การฝันแปลก ๆ และการมีพลังงานแปลก ๆ เข้ามานั้น ก็เป็นการอยู่ในขั้นตอนฝึกซ้อม เพื่อทดลองใช้อุปกรณ์ทั้งสิ้น

ซึ่งระบบได้ยกตัวอย่าง อุปกรณ์ที่ได้มีการนำมาให้เห็นและทดลองใช้ไปแล้วบางอุปกรณ์ อย่างเช่น อุปกรณ์การแพทย์ ของแพทย์แผนอนาคตของระบบ ที่ได้ทดลองใช้เครื่องมือแพทย์แผนอนาคตรักษาผู้ป่วยอยู่ในขณะนี้

ระบบกล่าวไว้ว่า นั่นมิใช่เครื่องมือที่ต้องใช้งานจริงในปัจจุบันนี้ เพราะ

ในปัจจุบันนี้ แพทย์แผนปัจจุบันยังมีอยู่ ถ้าเจ็บป่วย เราไปหาหมอดีกว่า ไปหาแพทย์แผนปัจจุบันดีกว่า ไปโรงพยาบาลดีกว่า ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจแพทย์แผนอนาคต เพราะมีทางเลือกอยู่แล้วในตอนนี้

แต่ถ้าเป็นในอนาคต โรงพยาบาลก็พัง เครื่องมือก็ไม่มี หมอก็เอาตัวไม่รอด แล้วจะให้ใครรักษา จะเอาโรงพยาบาลที่ไหน เอาเครื่องมือที่ไหนกัน

ถึงตอนนั้น ก็คือ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แพทย์แผนอนาคตก็จะมีประโยชน์ในตอนนั้น

ดังนั้น ระบบจึงเปรียบให้ฟังว่า ไม่ได้มุ่งเน้นให้ใช้วิชาการแพทย์แผนอนาคตในตอนนี้

ในตอนนี้ ก็เท่ากับเป็นการฝึกซ้อมในการใช้อุปกรณ์การแพทย์ให้เชี่ยวชาญเท่านั้น

แล้วจะเชี่ยวชาญได้ ก็ต้องมีผู้ป่วยมารับการรักษาจริง มีการทดสอบทดลองในการใช้อุปกรณ์จริง และผู้ป่วยก็สามารถหายจากอาการป่วยได้จริง

ถือว่าได้ทั้ง ประโยชน์ตนคือผู้รักษาก็ไม่ยึดถือในอุปกรณ์

และประโยชน์ท่านก็คือผู้ป่วยหายเจ็บไข้ พร้อมกันเลยทีเดียว

เปรียบเสมือนช่างตัดผม จะให้มีความเชี่ยวชาญชำนาญได้ ก็ต้องเปิดรับสมัครผู้เป็นหุ่น .. สำหรับให้ช่างตัดผมทำการตัดผม จนเกิดความเชี่ยวชาญก่อนที่จะไปเปิดร้านตัดผม

ก็ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ท่าน

ช่างตัดผมได้ความชำนาญ คนมาเป็นหัวหุ่นให้ช่าง ก็ตัดผมได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินไปตัดผมที่ร้านอื่น

แพทย์แผนอนาคตก็เช่นกัน

ผู้ที่จะได้รับเครื่องมือ และเป็นแพทย์ที่ต้องใช้วิชาแพทย์นี้ในอนาคต ในตอนนี้ก็คือทำการทดลองใช้อุปกรณ์การแพทย์ในอนาคตเพื่อทำการรักษาให้เชี่ยวชาญ โดยมีการทดลองกับผู้ป่วยจริง ที่มาทำการรักษาและหายจากความเจ็บป่วยเหล่านั้น

ก็ได้ประโยชน์ทั้งสอง ท่าน

คือผู้รักษา ก็ได้มีการฝึกซ้อม ทดสอบทดลองใช้เครื่องมือ ใช้อุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง เพื่อให้เกิดความชำนาญ มีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ผู้ป่วยที่มารับการรักษา ก็ได้หายจากอาการป่วยโดยไม่ต้องเสียเงินในการไปรักษาที่โรงพยาบาล

ก็ถือว่า

ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ท่าน นั่นเอง

ดังนั้น แพทย์แผนอนาคต ก็ต้องมีงานที่จำเป็นรออยู่ในอนาคต วันนี้ จึงเป็นเพียงการทำความคุ้นเคย ทำความรู้จัก ทำการทดสอบทดลองในวิธีการใช้ไปก่อน จะได้ใช้จริงตอนไหน เมื่อไรนั้น อยู่ที่เหตุการณ์จะเป็นผู้ที่พางานมาให้เอง

ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้ก็คือ การปล่อยวาง การปฏิบัติเพื่อที่จะเข้าถึงความว่าง ละวางในอัตตาตัวตน ในอุปาทานขันธ์ห้าอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

เพราะเรื่องนี้จำเป็นที่สุด สามารถทำได้เลยในวันนี้ และเดี๋ยวนี้

 

วันนั้นไปกดเงินขำนิดๆ (อืม เริ่มชิน)ที่เห็นตัวเลขคงค้างเป็น 11,999.99

เมื่อเช้าไปเติมน้ำมัน ปรากฏว่า เป็นราคา 110 บาท (อืม....)

เติมน้ำมันเครื่องด้วย คนขายบอกว่าลิตรละ 100 บาท ถ้าครึ่งลิตร 55 บาท
เราก็เลือกเติม ครึ่งลิตร 55 บาท .. ปรากฏว่าไม่เต็ม ก็เลยต้องซื้ออีกครึ่งลิตร

สรุปวันนี้เติมน้ำมัน 110 บาท น้ำมันเครื่อง 110 บาท รวมเป็น 220 บาท
(เห็นตัวเลขแล้วอดจะสะดุดไม่ได้นะ)

 

"จริงๆ วันนี้ไม่ตั้งใจมาโพสข้อมูล เข้ากูเกิ้ล เพื่อหาข้อมูล การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (พอดีพี่หัวหน้าผู้ป่วยใน มาปรึกษาเพราะเห็นว่าเราชอบเกี่ยวกับเรื่องทางธรรมะ)

พอกดเข้าไปกลายเป็นหน้านี้"

.
<NOBR>เว็บ รูปภาพ กลุ่มข่าว เว็บบล็อก (Blogs) สารบบเว็บ Gmail เพิ่มเติม <SMALL>▼</SMALL> ปฏิทิน ภาพถ่าย Documents Sites กูรู
</NOBR>


<NOBR>เข้าสู่ระบบ</NOBR>
<FORM id=tsf name=gs action=/search method=get><TABLE id=sft style="CLEAR: both" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="PADDING-RIGHT: 8px">Google


<TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 7px; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 1px"><TABLE style="MARGIN-TOP: 25px" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD noWrap><INPUT type=hidden value=th name=hl><INPUT title=ค้นหา maxLength=2048 size=70 value=การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย name=q> <INPUT type=submit value=ค้นหา name=btnG></TD><TD class="nobr xsm" style="PADDING-RIGHT: 6px; PADDING-LEFT: 6px; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px">การค้นหาขั้นสูง
การตั้งค่า
</TD></TR></TBODY></TABLE>ค้นหา: <INPUT id=all type=radio CHECKED value="" name=meta><LABEL for=all> เว็บ </LABEL><INPUT id=lgr type=radio value=lr=lang_th name=meta><LABEL for=lgr> หน้าที่เป็นภาษาไทย </LABEL><INPUT id=cty type=radio value=cr=countryTH name=meta><LABEL for=cty> หน้าของ ประเทศไทย </LABEL></TD></TR></TBODY></TABLE></FORM>
เว็บ
ผลการค้นหา 1 - 10 รายการจากประมาณ 6,950 สำหรับคำว่า การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (0.06 วินาที)

<!--"/*"/*--><TABLE id=gdst style="WIDTH: 1101px" cellSpacing=0 cellPadding=1 width="70%" border=0><TBODY><TR><TD><IFRAME id=gdsf style="WIDTH: 1101px" align=left marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://127.0.0.1:4664/search?q=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2&num=2&s=wJju-_pv-Wj_LEBydYXT0zSRmF4&mode=onebox&cacheid=1" frameBorder=0 width="100%" scrolling=no height=56 allowTransparency></IFRAME><SCRIPT><!--var n = document.getElementById('test'); var bh = n.scrollHeight; n.innerHTML += '
a'; var height = n.scrollHeight-bh; n.innerHTML = ''; var f = document.getElementById('gdsf'); height = height * 3.50; if (height > 20 && height < 200) { f.height = height;}//--></SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE>
<SCRIPT>if(document.getElementById('gdst')){document.write('<script src="/webjs/dsk.js"></scr'+'ipt>');}</SCRIPT><SCRIPT src="/webjs/dsk.js"></SCRIPT><SCRIPT src="/webjs/dsk.js"></SCRIPT><SCRIPT>(function(){var s=document.styleSheets[0],l=s.rules,m=document.getElementById('mbEnd'),r,t;s.addRule('.s','width:auto');r=l[l.length-1].style;function c(){r.width=document.body.clientWidth-(m?m.offsetWidth:0)<=588?'auto':'544px';}window.attachEvent('onresize',function(){var n=new Date();if(!t||n-t>100){c();t=n;}});c()})()</SCRIPT>ผลการค้นหา

1. <LI class=g>[PPT] การดูแลสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต End Of Life Care
   
   รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTML
   ศึกษาระบบบริการในการดูแลผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย และความต้องการ เกี่ยวกับการดูแล ระยะสุดท้าย ในด้านต่างๆ; พัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ...
   <CITE>www.nurse.cmu.ac.th/eci/meeting/2-3May2003/EndLifeCare.ppt - </CITE>หน้าที่คล้ายกัน
   
   <LI class=g>กองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย
   
   การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน I การดูแลผู้ป่วยปวดหลัง ปวดเอว I การดูแลผู้ป่วยภูมิแพ้ I การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง I การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย I การดูแลผู้ป่วยเอดส์ I ...
   <CITE>www.dtam.moph.go.th/alternative/storylist.php?topicid=25&subtopicid...<WBR>การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้... - 65k - </CITE>หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน
2. 00548 การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (สิ่งที่ทุกคนควรทราบ) โดย ...
   
   นำความรู้ที่ได้มาปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างเป็นรูปธรรม ต่อไป นาง ศิริบูลย์ พูนศรีธนากูล หัวหน้ากลุ่มการพยาบาล ...
   <CITE>www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=thecrow&id=548 - 59k - </CITE>หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน

"ขึ้นชื่อคุณ นีโม่โพสข้อความในเขากะลาเป็นชื่อแรก (เอ .... แล้วกูเกิ้ล เอาเรื่องนี้มาไว้หน้าแรกสุดทำไมนะ ก็เราหาเรื่อง การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

เข้าไปอ่านกลายเป็นหน้าที่ 151 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง การประมวลพลัง (อืม...คงจะเตือนเราให้ไปประมวล)"

 

แต่ก็คงเสียดายที่ 1 /11/51 นี้ไปไม่ได้ เนื่องจาก 31/10/51 ติดขึ้นเวรดึก หลังจากนั้นวันที่ 2/11/51 ต้องเดินทางไปดูงานที่ จ.นครพนม คงจะไม่ได้ไป เขากะลา 2 เพราะจะเตรียมตัวไม่ทัน รอโอกาสหน้าสะดวกกว่านี้ (ลองหาทางไปเอง ต้องนั่งรถทัวร์ไปจาก กทม.) หรือ มีเส้นทางใดแนะนำ พี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ (อธิบายจนถึงเขากะลา 1 เลยนะค่ะ กรณีไปรถโดยสาร) เพราะคิดว่าคงจะมีสมาชิกอีกหลายท่านต้องการเดินทางโดยรถโดยสารอ่ะค่ะ

 

Re: สวัสดีครับพี่ผมขอคำปรึกษาด้วยครับพ้ม

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ............
พี่เมาท์เท่นครับผมชอบบทความข้างล่างที่พี่โพสครับแต่ผมอยากจะขอสอบถามพี่เพิ่มเติมสักหน่อยครับผมสงสัยครับพี่ ผมยังสับสนอยู่

คือ ผมมีร้านอาหารเก่าที่ทานประจำอยู่แล้วร้าน 2 ร้านแต่ผมเพิ่งได้ไปทานร้านอาหารใหม่อีกร้านนึงแล้วเกิดติดใจในรสชาด การตกแต่งร้านและโปรโมชั่นต่างๆของเขาผมเลยไปทานอาหารของ 2 ร้านแรกน้อยลงทีนี้เรื่องมันเกิดขึ้นมาว่า มีกุ๊กมือหนึ่งที่ผมเชื่อถือกับคณะ มาพบอาหารที่ร้านใหม่เข้าเพียงแค่เขาเห็นและได้กลิ่นเข้าเขาก็บอกผมได้ทันที เลยว่าอาหารของร้านใหม่นี้เขามีสารพิษเจือปนอยู่มากๆทั้งๆที่ผมก็ทานมาตลอด แต่ไม่มีอาการทางกายที่บอกเลยว่าอาหารนั้นมีสารพิษ พี่คิดว่าเราควรจะเชื่อกุ้กหรือเชื่อร่างกายตัวเองดีครับผมสับสนครับพี่ เลยอยากจะขอคำปรึกษาพี่ที่ผมเคารพครับ
แต่สิ่งที่ได้แน่ๆอาหารของร้านใหม่นั้นจะมีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ส่วนประกอบของอาหารนั้นก็ยังให้ประโยชน์กับร่างกายผมอยู่ครับทำให้ร่างกายผมพัฒนาไปอีกขั้นอิอิ และได้สัจจะธรรมอย่างหนึ่งว่าไม่มีอะไรที่ตัวเราหรือใจเราจะต้องไปยึดติดเลย เมื่อถอยห่างออกมาๆ เรื่อยๆ คือไม่ต้องเข้ามาดูว่าร้านใหม่นั้นจะมีลูกค้าเยอะไหม มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ยิ่งทำให้เราเบาๆไม่มีอะไรมาถ่วงมากังวลให้ร่างกายผมหนักเลยครับ นี่หรือเปล่าที่เป็นบทเรียนบทหนึ่งที่ทำให้ผมได้ปล่อยวางอะไรๆได้มากขึ้น เกิดปัญญามากขึ้น

ปล.ผมไม่ค่อยจะโพสข้อความเท่าไรแต่เป็นผู้ดูอยู่ตลอดยังไงก็ขอโทษด้วยครับ;k01



-----------------------------------------
"ร้านอาหารมีมากมายหลายร้าน อาหารก็มีหลากหลายชนิด
คนที่ชอบประเภทก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็จะเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ
คนที่ชอบข้าวราดแกง ก็จะเข้าร้านข้าวราดแกง ฯลฯ

เมื่อเข้าร้านตามประเภทที่ชอบแล้ว
ก็ต้องมาว่ากันถึงรสชาติของอาหาร
บางคนชอบเผ็ดๆ ก็ใส่พริกป่นมากหน่อย
ชอบเปรี๊ยวเผ็ดก็เติมพริกน้ำส้ม
บางคนไม่ชอบเผ็ดก็ใส่แต่พอประมาณ
หรือชอบจืดๆ ก็ไม่ต้องปรุงอะไรเลย

ไม่ว่าจะชอบอาหารประเภทใด
อาหารประเภทนั้น ก็มีความหมายของมันอยู่ในตัว
บางคนกินเพราะความอยาก เพราะติดใจในรสชาติ
บางคนกินเพื่อไม่ให้หิว จะอร่อยหรือไม่อร่อย กระเพาะไม่ได้เป็นผู้เลือก


บางคนยังไม่ทันไปกิน มีคนมาบอกกล่าวว่าไม่อร่อย ก็เลยไม่ได้กิน
หากร้านนั้นมีเชลล์ชวนชิมการันตี มีแม่ช้อย ฯ รับประกันความอร่อย
ก็ตามไปลองกินดูว่าจะอร่อยสักแค่ไหน

ชีวิตดำเนินไป ก็เปรียบเสมือนการ เลือกอาหาร
อยู่ที่ว่า เราจะเลือกสิ่งใด
ถ้าเลือกแต่เปลือก ก็คือรสชาติของอาหารที่อร่อยถูกใจ
ถ้าเลือกที่แก่น ก็คือ อาหารอร่อยไม่อร่อยไม่สำคัญ
สำคัญที่กินเพื่อแก้ทุกข์ ไม่ได้กินเพื่อแก้อยาก
กินเพื่อให้ยังสังขารให้อยู่รอด และใช้สังขารเป็นบทเรียน
เพื่อให้เห็นแจ้งแทงตลอดว่า ในที่สุด
สังขาร หรือขันธ์๕ เราก็ยึดไม่ได้
เราหลงไปบำรุงบำเรอ ปรนเปรอมันมานาน
ไม่ยอมห่างหายไกลจากตัวตน

แล้วในที่สุด มันก็ตาย เน่าเหม็น กลายเป็นศพ
หากจิตยังยึดเกาะขันธ์๕ อยู่
ก็จะเกิดการสร้างภพสร้างชาติ ขึ้นมาอีกไม่สิ้นสุด
แล้วเราจะหาที่สุดสิ้นของสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด ได้อย่างไร
ทุกคนมีปัญญา แต่ ไม่ได้นำมาใช้คิดพิจารณา
เมื่อไม่มีปัญญานำ จึงพาให้ไปเกิดด้วยความประมาทในชีวิต
เวียนตายเวียนเกิดไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเราจะยังเหนื่อยกันไปอีกทำไม"
------------------------------------------
"ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จองค์ ปฐมบรมหาจักพรรดิ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยเจ้าทุกพระองค์ ช่วยปกปักรักษากัลยาณมิตรของผมทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับผมตั้งแต่ต้นชาติจนถึง ปัจจุบันชาติด้วยเถิดครับ"

</TD></TR></TBODY></TABLE>

นี่คือคำตอบที่มาจากปัญญาของคุณ......... เองครับถูกต้องแล้วครับ
ต่างดาวมีเทคโนโลยี่สูง เขาจะทำให้คนอื่นเห็นเป็นอย่างไรก็ได้ ถ้าเรายังไม่ละอัตตาตัวตน เราก็จะหลงทางไปอีกนาน ความลังเลสงสัย คือมหันตภัยร้ายสำหรับชีวิตครับ

"แต่สิ่งที่ได้แน่ๆอาหารของร้านใหม่นั้นจะมีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ส่วนประกอบของอาหารนั้นก็ยังให้ประโยชน์กับร่างกายผมอยู่ครับทำให้ร่างกายผมพัฒนาไปอีกขั้นอิอิ และได้สัจจะธรรมอย่างหนึ่งว่าไม่มีอะไรที่ตัวเราหรือใจเราจะต้องไปยึดติดเลย เมื่อถอยห่างออกมาๆ เรื่อยๆ คือไม่ต้องเข้ามาดูว่าร้านใหม่นั้นจะมีลูกค้าเยอะไหม มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ยิ่งทำให้เราเบาๆไม่มีอะไรมาถ่วงมากังวลให้ร่างกายผมหนักเลยครับ นี่หรือเปล่าที่เป็นบทเรียนบทหนึ่งที่ทำให้ผมได้ปล่อยวางอะไรๆได้มากขึ้น เกิดปัญญามากขึ้น"
<!-- / message -->

 

ผมว่าลองดูชุดแรกเขาไปกันก่อนดีกว่า คงมีรูปถ่ายทางเข้า หลัก กม. มาลงให้ทราบ

ทางที่ดี มากับเพื่อนๆดีกว่า เพราะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ ประมาณ 6 กม.ละมั้ง ถ้าจำไม่ผิด