เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]
    Dinotopia

    สวัสดีครับพี่นักเขียนฯ
    ขอแสดงยินดีและชื่นชมกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯนายบารัก โอบาม่า ด้วยครับ

    ก็หวังลึกๆว่าในบ้านเมืองของเราจะก้าวข้ามไปสู่สังคม Eutopiaได้ในที่สุดเช่นกันนะครับ เหมือนความหมายของประโยคนี้ >> Utopia is not a place, but a state of mind. ผลของการเลือกตั้งคือสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่มอบความหวัง และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เป็นผลจากความคิดเชิงบวกในทิศทางที่น่าประทับใจจริงๆครับ

    เพลงที่ถอดเนื้อออกมาก็เพราะและความหมายก็ดีด้วยครับ
    พอได้ฟังก้รู้สึกถึงพลังภายใน และชีวิตที่ไม่เคยถูกทอดทิ้ง แม้จะยังฟังไม่เข้าใจทะลุถึงเนื้อหาเลยนะครับ
    ขอบคุณคุณเดรดก็เอาเพลงดีๆมาฝากด้วยครับ บริหารกำลังใจกันต่อ อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2008
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    <EMBED src=http://media.imeem.com/m/GzxP17hKvc/aus=false/ width=300 height=110 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent">
    </EMBED>
    วิสัยทัศน์ที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงโลกได้นั้น ติดกับอยู่ภายในสาวน้อยที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง
    เธอไม่ได้ต่างไปจากฉัน ผู้ซึ่งเกรงกลัวที่จะฝันให้ใครได้ยิน
    แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่แสนจะเรียบง่ายของเธอ แต่มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไร้สาระสำหรับผู้อื่น
    หากเธอจะยึดถือความเชื่อและการกระทำของตนเองเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ เธอจะต้องใช้กำลังใจ

    เธอจะเติมเต็มเป้าหมายอันสูงส่งได้ด้วยการตอบสนองหน้าที่ที่ชีวิตของเธอเรียกร้อง
    อย่าเกรงกลัวที่จะเผชิญโลกและความท้าทายทุกรูปแบบ


    CHORUS
    คงความฝันของเธอไว้ให้มีชีวิตชีวา อย่าปล่อยให้มันดับสลาย
    หากบางสิ่งบางอย่างดลใจให้เธอใช้ความพยายาม อย่าหยุด และอย่ายอมแพ้ ไม่มีวันที่เธอจะยอมแพ้
    ไม่มีวันยอมแพ้ และอย่าทอดทิ้งตนเอง
    อย่ายอมแพ้

    ชัยชนะทั้งหลายใช้เวลา ออกแรงวันนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงวันพรุ่งนี้
    ทุกอย่างจะง่ายลง ใครเล่าบอกว่าเธอไม่อาจจะบินได้
    ทุกย่างก้าว เธอเข้าไปใกล้จุดหมายยิ่งขึ้น
    เธอรุู้สึกได้ ณ วินาทีนี้ ไม่รู้หรือว่าเธอจวนจะบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว?

    เธอจะเติมเต็มเป้าหมายอันสูงส่งได้ด้วยการตอบสนองหน้าที่ที่ชีวิตของเธอเรียกร้อง
    อย่าเกรงกลัวที่จะเผชิญโลกและความท้าทายทุกรูปแบบ

    CHORUS
    คงความฝันของเธอไว้ให้มีชีวิตชีวา อย่าปล่อยให้มันดับสลาย
    หากบางสิ่งบางอย่างดลใจให้เธอใช้ความพยายาม อย่าหยุด
    อย่ายอมแพ้ อย่าทอดทิ้งตนเอง

    บางคร้ังชีวิตของเธอ อาจถูกอุปสรรคขวงกั้น
    แต่เธอจะต้องคงความศรัทธาไว้ และเข้าใจสิ่งที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ
    อย่ายอมแพ้ อย่าทอดทิ้งตนเอง

    BRIDGE:
    ใครเล่าคือผู้ถือชิ้นส่วน ที่จะต่อภาพภาพปริศนาให้สมบูรณ์?
    คำตอบที่จะแก้ปมปริศนา
    กุญแจที่จะไขข้อข้องใจ
    ล้วนอยู่ภายใน เธอมีทุกสิ่งที่จำเป็น

    คงความฝันของเธอไว้ให้มีชีวิตชีวา อย่าปล่อยให้มันดับสลาย
    หากบางสิ่งบางอย่างดลใจให้เธอใช้ความพยายาม อย่าหยุด
    อย่ายอมแพ้ อย่าทอดทิ้งตนเอง

    บางคร้ังชีวิตของเธอ อาจถูกอุปสรรคขวงกั้น
    แต่เธอจะต้องคงความศรัทธาไว้ และเข้าใจสิ่งที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ
    อย่ายอมแพ้ อย่าทอดทิ้งตนเอง

    อย่ายอมแพ้
    อย่ายอมแพ้
    อย่ายอมแพ้

    ขอขอบคุณคุณน้อง Kindred สำหรับเพลงเพราะๆ ที่ให้ทั้งกำลังใจและหนุนเนื่องศรัทธาและแรงบันดาลใจของพี่นักเขียน ให้ทำหน้าที่ต่อไปโดยไม่ย่อท้อค่ะ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    พี่นักเขียน แปลเพลง ออกมาเป็นภาษาไทย ได้สละสลวย สวยงามมากเลยค่ะ
    อ่านแล้วยิ่งเข้าใจบทเพลงนี้มากขึ้น ได้อารมณ์อย่างยิ่ง...

    kindred ต้องเป็นฝ่าย ขอบพระคุณพี่นักเขียน มากกว่า
    ที่นำทาง ให้น้องได้มาพบห้องวิทย์ฯแห่งนี้ และได้พบเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน ที่นี่
    ขอบพระคุณ พี่นักเขียนมากค่ะ...
    สำหรับ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ที่พี่ มอบให้พวกเรา...อยากร้องไห้ อีกแล้ว ค่ะพี่ขา
     
  4. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    คุณเดรดมาวิน ขอบคุณพี่นักเขียนก่อนเพื่อนๆอีกแล้ว 55

    บางอย่างก็แสดงออกมาเป็นคำพูดลำบากนะครับ

    พูดได้แค่คำสั้นๆว่า ขอบคุณครับ สำหรับเนื้อหาสาระความเป็นจริงจากจักรวาล ที่พี่นักเขียนทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการถ่ายทอด และทำให้พวกเราได้เห็นถึงสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ช่วยกันล่อหลอก และเอาใจ จนเหมือนจริงทุกเมื่อเชื่อวัน

    ขอบคุณพี่นักเขียน ที่สละเวลา สละแรงกาย มาดูแลผู้ที่เข้ามาในบอร์ดนี้อย่างสม่ำเสมอด้วยความห่วงใยเสมอมาครับ

    เห็นรูป utopia ของคุณ mead
    ทำให้นึกถึงว่า โลกเราต้องเป็นเช่นนี้ได้แน่ๆ หากเราเริ่มสร้าง utopia ขึ้นจากภายในจิตใจเราซะก่อน โลกที่เกิดจากใจที่ไม่มีการแบ่งแยก
    อ่านข่าวเห็นว่า ตอนนี้เค้าชุบชีวิตหนูที่แช่แข็งเอาไว้ 16 ปี ได้สำเร็จแล้ว ต่อไปคงจะมีเพื่อนๆในโลก(กะปอมพยศ-ภาษาบ้านพี่เมืองน้องเราครับ อิอิ)จูราสสิคปารค์มาอยู่ด้วยกันเป็นสังคมที่เอื้ออาทรซึ่งกันและกันนะครับ
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เนื้อเพลงนี้..มีความหมายสร้างเสริมกำลังใจเป็นอย่างดีทีเดียวครับ
    ขอบคุณพี่นักเขียนฯ ที่แปลให้เราอ่านกันครับ

    เมื่อวานได้คุยกับเพื่อน ต่างก็รู้สึกตรงกันว่าพวกเราโชคดีมากจริงๆที่ได้รู้จักกับพี่นักเขียนฯ
    อยากจะบอกว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ทำให้พวกเราชาวห้องวิทย์รับรู้และสัมผัสถึงพลังความคิด
    และความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบจากพี่นักเขียนฯ เป็นแบบอย่างให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวเราโดยตรง
    และยังขยายมุมมองด้วยประสบการณ์ตรงของพี่นักเขียนฯ ที่มีประโยชน์กับพวกเราเป็นอย่างสูงครับ...
    จะขอบคุณสักกี่พันครั้งก็คงไม่พอ พวกเราทุกคนทุกคนรู้สึกชื่นชมในไมตรีอันงดงามและก็ขอเป็นกำลังใจให้ของพี่นักเขียนตลอดไปด้วยใจจริงครับ

    (ถูกคุณเซลล์ขับรถปาดหน้าไปนิดครับ อิอิ)
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เอ..เหมือนตายแล้วกลับมาฟึ้นเลยนะครับคุณเซลล์
    จิตวิญญาณหนูแช่แข็งเค้าฟื้นขึ้นมาได้ยังไงนะ? ต้องมีเงื่อนงำสักอย่าง
    หรือว่า เซลล์ทุกเซลล์ถูกกระตุ้น..ทำให้จิตวิญญาณเค้ากลับมาทำงานได้อึกครั้ง..
    แบบนี้ถ้า God รู้เข้าคงบอกพวกมนุษย์นี่ช่างคิดช่างทำจริงๆนะครับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  7. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    สวัสดีคุณพี่นักเขียนและทักทายทุกคนรอบห้องด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้สมาชิกเยอะดีจัง วันนี้เอาบทความบทนึงมาให้อ่านครับ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงอิสระแห่งความปรารถนาของผีเสื้อ แหะๆ แล้วยกเครดิตให้เจ้าของบทความคุณ นันทขว้าง สิรสุนทร ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

    เป็น “กระบี่” ที่มากกว่า “ดาบเล่มหนึ่ง”
    นันทขว้าง สิรสุนทร เขียน
    คงมีนักอ่านในยุโรปและลาตินไม่มากนัก ที่ชื่นชอบวรรณกรรมสมัยใหม่แล้วไม่ชื่นชอบ “ชายชราผู้เขียนนิยายรัก” ของ หลุยส์ เซปุลเบดา ผมเพิ่งอ่านหนังสือข้างต้นจบ และชอบฉากตอนที่ชายชราตัดสินยิงเสือตัวผู้ตาย ขณะที่มันกำลังโคม่าใกล้ตายและถูกมดแมลงกัดกิน การทำให้เสือตายเร็วขึ้นกว่านี้มีความละม้ายกับการตายของ “แจ็ค” ใน [FONT=Times New Roman, serif]tiianic [/FONT]นั่นก็คือแสดงการจบสิ้นแค่ทางร่างกาย [FONT=Times New Roman, serif](body) [/FONT]แต่เป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณ [FONT=Times New Roman, serif](identity) [/FONT]
    แง่มุมเล็กๆแค่นี้ทำให้ผมคิดไปถึงความหมายของสัตว์ต่างๆ ผมอาจจะชอบเลี้ยงหมา แต่เอาเข้าจริงๆ ผมชอบการมีอยู่ของ “นก” มากกว่า อย่างไรก็ดี ถ้าต้องเกิดเป็นสัตว์ปีกหรือแมลง ผมขอเป็น “ผีเสื้อ” มากกว่า “นก”
    ไม่ใช่เพราะผีเสื้อมีมากมายถึง [FONT=Times New Roman, serif]200,000 [/FONT]สปีชีย์ แต่เพราะแม้จะมีอายุขัยที่สั้นระหว่าง [FONT=Times New Roman, serif]1 [/FONT]เดือนถึง [FONT=Times New Roman, serif]1 [/FONT]ปี แต่ผีเสื้อมีวงจรที่น่าสนใจถึง [FONT=Times New Roman, serif]3-4 [/FONT]ช่วง ขณะที่นกหลายพันธุ์แม้จะมีชีวิตที่นานกว่าแต่ก็ถูกจำกัดด้วยพื้นที่การบิน สภาพอากาศ และภูมิศาสตร์

    มองในเชิงปรัชญาหน่อยๆ มันจะมีประโยชน์อะไร ที่อยู่นานๆแต่ “ไม่เห็นชีวิต” เทียบกับเรื่องราวที่สั้นกว่า แต่มีความหลากหลาย มีแง่มุมให้สัมผัส และที่สุดได้เข้าใจอะไรมากขึ้น
    ผมเห็น [FONT=Times New Roman, serif]message [/FONT]ในหนังโฆษณามากมาย ที่เน้นให้คนมีเงินมากเข้าไว้ มีอายุนานนับร้อยปี มีทุกอย่าง “ที่เป็นที่สุด” ของทั้งหมดแต่เกือบไม่พบโฆษณาอะไรเลย ที่ชี้ช่องเสนอมุมมองให้เราเข้าใจตัวเอง ที่สำคัญรู้จักใช้ชีวิต ที่ก่อนหน้านั้นเอาแต่ “กลัวชีวิต” มองอีกมุมหนึ่ง[FONT=Times New Roman, serif], [/FONT]ผีเสื้อก็เหมือนชีวิตที่ได้ใช้ไป มีวันเวลากับใบพืชและดอกไม้ [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]เป็นหนอน[FONT=Times New Roman, serif]), [/FONT]มีช่วงตอนได้ตั้งคำถามกับตัวเอง[FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]เป็นดักแด้[FONT=Times New Roman, serif]) [/FONT]และในที่สุดเมื่อเกิดอาการสว่างไสวทางปัญญา[FONT=Times New Roman, serif](enlightenment) [/FONT]ก็กลายเป็นผีเสื้องดงามในสวนสวย

    ดีกว่านกหลายพันธุ์ที่แม้มีปีกแต่บินไปไหนไม่ได้ไกล ที่แม้อายุขัยยาวนานกว่า แต่ถูกจำกัดพื้นที่ด้วยภูมิอากาศ ในความหมายนี้อายุนกก็คือการมีอะไรมากๆ แต่ไม่ได้ใช้ [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]อย่างน้อยก็ใช้ชีวิต[FONT=Times New Roman, serif]) [/FONT]ขณะที่ผีเสื้อตัวน้อย วงปีอาจจะสั้น แต่ได้ความหมายในตัวเอง

    แล้วผีเสื้อกับนกไปเที่ยวอะไรกับ “แจ็ค” ใน [FONT=Times New Roman, serif]titanic [/FONT]และ “เสือ” ในวรรณกรรมสเปนตอนต้นเรื่อง[FONT=Times New Roman, serif]? [/FONT]แนวคิดของคนที่สร้าง “แจ็ค” ก็คือ เขาไม่เสียใจที่จะตาย เพราะได้พานพบ “โรส” [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]รักแท้[FONT=Times New Roman, serif]) [/FONT]แล้วขณะที่การจบชีวิตของเสือ เป็นการปลดปล่อยชีวิตที่เคยอยู่กับความเกลียดแค้น เมื่อเห็นความหมายของชีวิตที่ดีกว่า จึงเลือกเดินไปสู่มุมนั้น

    ครับ[FONT=Times New Roman, serif], [/FONT]ที่สุดแล้วเราเป็นคนธรรมดา และก็อยากมีชีวิตที่ยาวนาน มีสินทรัพย์มากมาย แต่มันคงจะดีกว่านั้น
    ถ้าเราได้มีความหมายที่จริงแท้ ไม่ทำแง่มุมงดงามของชีวิตหล่นหาย ชีวิตนั้นมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ ชีวิตนั้นควรจะกล้า [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]ให้เป็น[FONT=Times New Roman, serif]) [/FONT]มิใช่กลัว [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]ไปหมด[FONT=Times New Roman, serif])[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2008
  8. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Cloning from the grave

    หนูที่ตายแล้วตัวนั้นไม่ได้คืนชีพกลับมาในร่างเดิมหรอกค่ะ หากแต่ว่านักวิทยาศาสาตร์ชาวญี่ปุ่นได้ดำเนินการ Clone หนูแช่แข็ง หลังจากที่นักวิทยาศาตร์ชาวอังกฤษได้ Clone Dolly เจ้าแกะตัวเมียสำเร็จเมื่อ 11 ปีมาแล้ว วิธีการ Clone หนูแช่แข็งดังกล่าวเป็นไปดังนี้ค่ะ :

    Dr. Teruhiko Wakayama กับทีมงานของ Center for Developmental Biology ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้ สกัดเอา DNA จากนิวเคลียสของเซลล์สมองของหนูตัวผู้ซึ่งถูกแช่แข็งตัวนั้นออกมา เหตุที่เขาเลือกเอา DNA จากเซลล์สมองเพราะเหตุว่า เซลล์สมองมีไขมันปริมาณมากกว่า cell อื่นๆ และไขมันช่วยทำให้ cell แช่แข็งมีอายุยืนยาวขึ้น

    cellทั้งหลายที่ถูกนำไปแช่แข็งมักจะถูกเจือด้วยสารเคมีที่เรียกว่า cryoprotectants ซึ่งเป็นสารเคมีที่ปกป้องcellแช่แข็งไม่ให้ถูกทำลายเพราะการแช่แข็ง แต่ตามข่าวบอกว่า นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นไม่ได้ใช้สารเคมีดังกล่าวในการแช่แข็งหนูดังกล่าว

    นักวิทยาศาตร์ได้พยายาม clone หนูโดยใช้ cell ส่วนอื่นๆของร่างกายมาแล้ว แต่พบว่า cell สมองเป็นส่วนที่ประสพความสำเร็จสูงกว่า cell ส่วนอื่นๆ

    น่าคิดไหมคะว่า สมองเป็นชีวภาพที่เกี่ยวพันกับความรู้สึกนึกคิด ซึ่งคือจิตวิญญาณของเราโดยตรงcellสมองจึงน่าจะมีจิตวิญญาณที่คงสภาพอยู่ได้ยาวนานกว่า cell อื่นๆ นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้กล่าวถึงนะคะ ตรงนี้พี่นักเขียนชวนพวกเรามาตั้งข้อสังเกตกันเท่านั้น

    กล่าวได้ว่านักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น ทำการทดลองไปอีกก้าวหนึ่งคือ นำ cell แช่แข็งที่นักวิทยาศาสตร์อื่นๆไม่เคยคิดหรือยังไม่ได้คิดที่จะนำไปใช้ นำไปใช้หลังจากแช่แข็งไว้นานถึง 16 ปี

    นักวิทยาศาสตร์สกัด DNA โดยการนำเอานิวเคลียสที่แยกออกจาก cell สมองของหนูแช่แข็งไปฉีดใส่ในไข่ซึ่งนำมาจากรังไข่ของหนูตัวเมีย นักวิทยาศาสตร์ทำให้ไข่นั้นกลวงก่อน คือดูดเอานิวเคลียสของไข่นั้นออกทิ้งไป และนำเอานิวเคลียสของหนูแช่แข็งใส่เข้าไปแทนที่ จากนั้นใช้กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำให้นิวเคลียสที่ได้มาจากหนูแช่แข็งหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของ cell ไข่ที่นำมาจากหนูตัวเมีย

    เมื่อไข่นั้นได้รับการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า มันก็เริ่มแบ่งตัวเช่นเดียวกับไข่ที่ได้รับการผสมหรือไดัรับ sperm จากหลอดแก้ว

    หลังจากนั้นไม่กี่วันไข่เหล่านั้นก็แปลงสภาพเป็น embryo หรือตัวอ่อนโดย:
    1. แปลงสภาพด้วยการ clone ให้กลายเป็น cell ที่เหมือนกับ cell ของหนูตัวผู้แช่แข็งที่ตายไปแล้ว
    2. แปลงสภาพด้วยการแบ่งตัว เช่นเดียวกับการแบ่งตัวซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์

    embryo หรือไข่ที่แปลงสภาพและได้รับการผสมพันธุ์จนกลายเป็นตัวอ่อนแล้ว พร้อมที่จะเจริญวัยต่อไป ได้ถูกถ่ายทอดไปสู่มดลูกของ surrogate mother หรือหนูตัวเมียซึ่งจะทำหน้าที่ตั้งท้องต่อไปจนครบสามเดือน จากนั้นแม่หนูก็คลอดลูกออกมาเป็นหนูซึ่ง clone คือมีรูปลักษณ์เหมือนหนูตัวผู้ - เจ้าของ DNA ในนิวเคลียสของเซลล์สมองแช่แข็งนั้นทุกประการ

    การทดลองดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะ clone สัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพื่อเพิ่มจำนวนการเกิดของสัตว์เหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการ Clone จากเซลล์สสมองจะประสพความสำเร็จสูงกว่าการ clone ด้วยเซลล์ส่วนอื่นๆ แต่จากการทดลอง clone สัตว์กว่า 1100 ราย นักวิทยาศาสตร์ประสพความสำเร็จเพียง 7 ราย ซึ่งสัตว์เหล่่านั้นล้วนมีอายุสั้น คือแก่เร็ว ไม่สมประกอบ พิการ หรืออ่อนแอกว่าปกติ เรียกว่า cloning ยังเป็นอันตรายอยู่มากต่อแม่ที่ตั้งท้องลูกสัตว์ที่ clone และลูกสัตว์ clone เหล่านั้นด้วย

    นักวิทยาศาสตร์พบว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการ clone มีเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นที่คล้ายคลึงกับต้นแบบ พฤติกรรมของสัตว์ที่ถูก clone ขึ้นมาแตกต่างไปจากสัตว์ต้นแบบโดยสิ้นเชิง

    อ่าน source ข่าวพร้อมชมภาพมนุษย์แช่แข็ง (ice man)"Oetzi" ซึ่งมีอายุ 5300 ปี ได้ที่http://www.dailymail.co.uk/sciencet...ts-create-new-life-mouse-frozen-16-YEARS.html

    พี่นักเขียนมีความเห็นว่า หากเราจะกล่าวว่าจิตวิญญาณกลับคืนสู่ร่างย่อมไม่ถูกต้องค่ะ ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า จิตวิญญาณที่ถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตนเช่นเราทั้งหลาย ไม่ได้เป็นจิตวิญญาณหนึ่งดวงต่อหนึ่งร่าง หากแต่ว่าเซลล์แต่ละเซลล์มีจิตวิญญาณ ตัวตนของเราจึงเป็นจิตวิญญาณรวมของเซลล์นับล้านเซลล์รวมกัน และเซลล์ในร่างกายเราผลัดกันเกิด-ตายตลอดชั่วชีวิตของเรา กล่าวได้ว่าจิตวิญญาณไม่ได้อยู่คงที่เป็นกลุ่มก้อนในร่างกายเราตลอดชั่วชีวิตของเรา แต่แปลงสภาวะอยู่เสมอ รูปลักษณ์ของเรา อารมณ์-จินตนาการและความรู้สีกนึกคิด ตลอดจนความรู้และความทรงจำของเราจึงแปรเปลี่ยนไปตลอดชีวิต

    สัตว์ที่ถูก clone ขึ้นแล้วมีเพียงรูปลักษณ์คล้ายคลึงตัวตนของสัตว์ต้นแบบ แต่มีนิสัย สุขภาพและอายุต่างไป น่าจะเป็นข้อคิดให้พวกเราพิสูจน์ความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ได้ไม่มากก็น้อย

    ตามปกติแล้ว sperm ที่ถูกนำไปผสมกับไข่ในหลอดแก้วจนกลายเป็นตัวอ่อนแล้ว เพื่อนำไปถ่ายทอดสู่ครรภ์ของมารดาผู้ที่มีบุตรยาก เมื่อเหลือใช้ก็จะถูกนำไปแช่แข็งเก็บไว้ก็มีอายุยาวนานกว่า 16 ปี แต่นักวิทยาศาสตร์มักจะแช่แข็งไว้โดยไม่ได้นำไปใช้อีกทัั้งที่ cell ซึ่งพร้อมจะเติบโตเป็นตัวอ่อนต่อไปเหล่านั้นไม่ได้ตาย และเป็นสาระที่เป็นเรื่องน่าคิดต่อสังคมโลกเป็นอันมาก เพราะเซลล์แช่แข็งเหล่านั้นล้วนเป็นชีวิตที่ถูกสร้างขึ้น แต่ไม่สามารถจะนำไปถ่ายทอดสู่ครรภ์มารดาได้ครบหมดทุก cell หรือทุก embryo เพื่อให้เติบโตเป็นมนุษย์ต่อไปจนครบคน และจะทิ้งก็ไม่ได้เพราะทั้งหมดนั้นคือ สิ่งมีชีวิต-ที่มีคุณค่าเทียบเท่าตัวอ่อนที่จะเติบโตต่อไปเป็นมนุษย์

    พี่นักเขียนรู้สึกประทับใจที่พวกเราหาความรู้กันต่อไปอย่างไม่เคยหยุดยั้ง ต้องขอขอบคุณน้องๆทุกคนที่ให้เครดิตพี่นักเขียนมากมาย ซึ่งที่จริงแล้ว หากปราศจากน้องๆห้องวิทย์ทุกคน ที่ช่วยกันตั้งคำถาม ช่วยกันหาคำตอบ และช่วยกันให้ความสนใจในหนังสือชุดนี้ และช่วยกันแสวงหาความรู้อื่นๆมาเพิ่มเติมเสมอๆ พี่นักเขียนก็คงไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่นี้ และไม่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์รวมญาติมิตรทางจิตวิญญาณอันอบอุ่นแห่งนี้ จะขอบคุณน้องๆเท่าไรก็คงไม่เท่าทั้งหมดที่อยู่ในความรู้สึกเช่นกันค่ะ
    [​IMG]

    คุณน้อง Kindred อย่าร้องไห้อีกล่ะคะ พวกเราคงต้องช่วยกันหา topic อื่นๆมาช่วยกันบริหารต่อมอื่นๆกันบ้าง นอกเหนือไปจากต่อมน้ำตา(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    อ้อ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองนะครับ
    ขอบคุณพี่นักเขียนฯที่เล่าให้ฟังอย่างละเอียดครบถ้วนด้วยครับ
    ก็ไม่ใช่การคืนชีพของตัวเดิม แต่นำเอา Cell สมองของเค้าไปเพาะตัวอ่อนขึ้นมาใหม่
    ถึงจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่นิสัยและองค์ประกอบอื่นก็ไม่มีทางเหมือนเดิมได้
    การทดลองเหล่านี้ก็มีประโยชน์หลายด้าน แต่บางเรื่องก็กระทบความรู้สึกสังคมอยู่เหมือนกันนะครับ

    ก็น่าคิดตรงที่ว่า รหัสในการสร้าง-กลไกของแต่ละเซลล์ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
    และเป็นอัตโนมัติในสภาวะที่เอื้อต่อการสร้างอยู่เสมอ เค้ารู้หน้าที่ของตัวเองทุกๆเซลล์เลยครับ
    แต่องค์ประกอบของจิตวิญญาณนี่ไม่สามารถจะเลียนแบบได้ Copy ไมได้..น่าคิดทีเดียวครับ

    แบบนี้ถ้าเอาเซลล์สมองของเอลวิส มาสร้างขึ้นใหม่ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด-เสียงหรือลีลาการ้องเพลงก็คงไม่มีเหมือนกันอยู่ดี...ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันหล่อหลอมเป็นอีกคนอยู่ดีนะครับ พอจะเห็นภาพและเข้าใจขึ้นมาอีกนิดแล้วครับว่า การมีตัวตนของแต่ละภพชาติ ทำไมจึงมีบุคลิกแตกต่างไปไม่ซ้ำกัน และไม่ได้หมายความว่าจิตวิญญาณมีดวงเดียวกันแล้วย้ายไปมาแบบที่เคยคิดกันซะแล้ว แต่มีเบื้องหลังสลับซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดได้นะครับ เพราะมันเกินจินตนาการของคนยุคก่อนๆมาก บางศาสนาก็ก็พยายามอธิบายว่ามนุษย์ตายแล้วก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ส่วนความเข้าใจของชาวพุทธก็จะเป็นอีกแบบ แต่พอเราผสมความเข้าใจเหล่านี้เข้าด้วยกันก็ อ๋อ..ที่แท้เป็นแบบนี้เอง..จิตวิญญาณก็เป็นเหตุปัจจัยแห่งการขยายตัวและสร้างสรรค์ประสบการณ์ไปตามธรรมชาตินะครับ

    ความรู้จากพี่นักเขียนนี่ทำให้ต้องร้อง อ๋อ อ้อ..ได้ตลอดเลยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  10. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    กระจ่างขึ้นมากเลยครับพี่นักเขียน
    (เมื่อคืนฝันตอนนึงว่า ใช้คำพูดผิดไปบางประโยคในบอร์ด ขอบคุณพี่นักเขียนที่ช่วยแก้ไข และขยายสติสัมปชัญญะให้กว้างไกลมากขึ้นครับ ;aa22)
    dna ที่แยกมาจากนิวเคลียสของเซลล์สมอง สามารถนำมาโคลนให้รูปกายเหมือนเดิมได้ เป็นสิ่งถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับวงการวิทยาศาสตร์เลยนะครับ

    น่าคิดว่า เซลล์สมอง เค้าพิสูจน์มาแล้วว่า มีการปกป้องอย่างดีเป็นพิเศษ เมื่อนำ dna ที่แยกออกมา มาปฎิสนธิใหม่ ก็ยังมีความจำต่อรูปกายเดิมอยู่ แต่ความแข็งแรง ความสมประกอบของเซลล์ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ เหมือนยังขาดชุดข้อมูลบางอย่างไปอีก

    (คิดต่อเองคำว่า แล้วถ้าเค้าเพาะเสต็มเซลล์ในอวัยวะส่วนต่างๆเอาไว้ ก่อนที่หนูจะถูกแช่แข็ง เมื่อเค้าโคลนนิ่งเสร็จแล้ว อวัยวะส่วนไหนไม่แข็งแรง ก็ใช้เสต็มเซลล์เข้าไปเสริม จะช่วยได้บ้างมั๊ยน๊า)

    ในความเป็นจริงแล้ว โลกทางจินตภาพ ที่มีความเป็นจริงกว่าโลกทางกายภาพสามมิตินี้ ที่ไม่มีเขา ไม่มีเรา ที่สามารถมีรูปกายได้หลากหลายเป็นอนันต์

    ถึงแม้รูปกายเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นคนคนนี้ เวลาเราดูว่าเป็นคนนี้หรือไม่ ก็ต้องใช้อารมณ์ ความรู้สึก ถอดออกมา เพื่อดูบุคลิกภาพ

    เลยน่าคิดว่า หากจะทำให้สำเร็จต่อไป นักวิทยาศาสตร์ต้องไขความลับ ของโลกจินตภาพ ที่ไม่มีเขา ไม่มีเรา อย่างแท้จริงออกมาซะก่อนครับ

    ทำให้นึกไปถึงหนัง ที่มีการสลับบุคลิกภาพกัน ถึงแม้หน้าตาจะเหมือนกันก็ตาม แต่บุคลิกภาพภายในไม่เหมือนกัน ผู้คนรอบข้างก็จะคิดว่าต้องเป็นคนคนนี้แน่ๆ เพราะหน้าตา รูปร่างเหมือนกับคนเดิม
     
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอบคุณสำหรับเพลงและคำแปลที่ให้กำลังใจกับชีวิตจินตวดีในช่วงนี้ โดยเฉพาะคุณนักเขียน แอบให้กำลังใจจินตวดีอีกแล้ว คิก ๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากเพื่อน ๆ ทุก ๆคน
    วันนี้อากาศดีจริง ๆ
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่านตอนที่ขีดเส้นใต้แล้วนึกถึงโฆษณาอันนี้เลยครับ n_n

    <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/NFTlHsjWxIc&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/NFTlHsjWxIc&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

    FYI สำหรับคนที่ชอบเพลงในโฆษณาตัวนี้ พอสืบรู้มาว่าเป็นเพลงของวง DEPAPEPE ของญี่ปุ่น ชื่อเพลงว่า 風見鶏(Kazami-dori) ที่แปลว่า The weathercock เป็นเพลงที่ 6 ในอัลบั้ม Let's go

    เพลงกับเนื้อหาในโฆษณาดูเข้ากันได้ดีมากเลย เรียกอารมณ์ได้เต็มอิ่มเลย

    คงจะเอาโครงมาจากเรื่องของ "ครูติ๋ว สุธาสินี น้อยอินทร์"แห่งบ้านโฮมฮัก ละมังครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  13. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    การทดลองโคลนนิ่งหนูนั้น ยังได้อ่านพบต่อไปอีกว่า เป้าที่หวังไว้ต่อไปคือจะโคลนแมมมอธโดยเอาช้างเป็นฝากครรภ์ ในข่าวเห็นบอกว่าใต้ไซบีเรียมีซากแมมมอธฝังอยู่หลายตัวอยู่ครับ แต่ถ้าพฤติกรรมแมมมอธตัวที่โคลนมาได้มันเปลี่ยนไปจากตัวดั้งเดิมก็คงไม่มีใครรู้หรอกครับ เพราะคงไม่มีใครเคยเห็นว่าพฤติกรรมจริงๆ มันเป็นยังไง
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบพระคุณพี่นักเขียน ค่ะ ที่กรุณาช่วย ขยายความให้เกิดความเข้าใจ กว้างขึ้น
    kindred มีเรื่องจะรบกวนถาม อย่างเด็กๆบางคน
    ทำไมสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ นาๆ ได้ แล้วกล่าวอ้างว่าเป็นเรื่องของชาติภพก่อน
    เสมือนว่า มีการกลับชาติมาเกิด(อันนี้ที่เราเรียกกันทั่วไปนะค่ะ)

    ขนาดตอนมีชีวิตอยู่ ในร่างกาย ในชาติหนึ่งๆ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย
    ในระบบของจิตวิญญาณที่มากมายในแต่ละ cell ในตัวตน หนึ่งๆ
    เมื่อตายไปแล้ว หรือจะเรียกว่าละร่าง ละสังขารก็ตาม
    จิตวิญญาณเหล่านี้ต่างมีข้อมูลความทรงจำเดิมๆ อยู่ส่วนหนึ่ง
    และมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงแล้ว อีกส่วนหนึ่ง จากร่างเดิม แล้วสาเหตุที่ยังจำความเดิมได้ ในร่างใหม่ ได้นั้น
    กรณีนี้ จะอธิบายได้อย่างไรค่ะ อย่างกรณีจำไม่ได้ พอจะอนุมานได้ว่า อาจจะเป็นการลืม
    แต่กรณีที่จำกันได้ข้ามภพข้ามชาติ เป็นกระบวนการของอะไรคะ

    ต่อมน้ำตา kindred หยุดทำงานแล้วค่ะ แล้ว kindred ก็เปลี่ยน topic แล้วนะคะ พี่นักเขียน
    ...ตอนนี้ ต่อมสงสัย เริ่มทำงานแล้วค่ะ แหะ แหะ...;39
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เอาเพลง The weathercock แบบเต็มๆ มาฝาก เพราะดีค่ะ
    ขอบคุณ คุณzipper ทำให้นึกถึงเพลงนี้....

    <EMBED src=http://media.imeem.com/m/HVgx2-KuAG/aus=false/ width=300 height=110 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent"></EMBED>
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอเป็นผู้นำสารจากพี่นักเขียนมาฝากนะครับ :)
    เนื่องด้วยพี่นักเขียนมีปัญหากับการเข้าเวปและ login ซึ่งใช้เวลานานมาก กับปัญหาเนื่องด้วยอัพเกรด os แล้วเวลาพิมพ์ข้อความ เครื่องจะแสดงอักษรที่พิมพ์ไปช้า คือพิมพ์ไปแล้วซักพักตัวอักษรถึงจะขึ้น

    ด้วยปัญหาเหล่านี้จึงทำให้พี่นักเขียนประสบปัญหากับการเข้ามาตอบเลยฝากคำตอบมาบอกคุณ kindred ว่า คำตอบเกี่ยวกับการระลึกชาตินั้น อยู่ในหนังสือ โนวา อนาลัยขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 6 หน้า 74-87 ครับ

    ส่วนปัญหาของพี่นักเขียนนั้นตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าเป็นเพราะอะไร เพราะดูไปแล้วคนอื่นก็ login เข้าเวปกันได้เป็นปกติ
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ....................................................................................................................
    ความสัมพันธ์และการติดต่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ระหว่างตัวตนของเธอกับจิตวิญญาณต่างร่างเหล่านี้ เกิดขึ้นทุกวันเวลา ทั้งยามที่เธอฝันกลางวันและกลางคืนในขณะที่เธอนอนหลับ ไม่ว่าเธอจะจำความฝันได้หรือไม่ก็ตาม การกระทำและความรู้สึกนึกคิดของจิตวิญญาณต่างร่างทุกร่างส่งผลกระทบถึงกันหมด เสมือนการกระทำของบุคคลหนึ่งๆในครอบครัวส่งผลกระทบต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัวนั้น

    ความรู้ของแต่ละร่างสามารถถ่ายทอดถึงกันและกันได้ตลอดวันเวลา การเรียนรู้ของเธอในแต่ละชาติภพจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะเธอไม่ได้เรียนรู้อยู่เพียงร่างเดียวสมองเดียว แต่เธอเรียนรู้พร้อมๆกันด้วยจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์และร่วมกาลเวลา ซึ่งประสานงานกันทั้งหมด แม้เธอจะปราศจากความเชื่อ และปฎิเสธความสัมพันธ์และการติดต่อถ่ายทอดเหล่านี้ แต่เธอก็ไม่อาจขวางกั้นธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดวันเวลาได้ การถ่ายทอดนี้ทำให้เธอมีความคิดสร้างสรรค์ และมีความรู้ความสามรถสูงกว่าการเรียนรู้ภายใต้กฎเกณฑ์ของกาลเวลาที่มีจำกัดในช่วงชีวิตหนึ่ง ธรรมชาติความเป็นจริงนี้มีปรากฎเสมอๆในกลุ่มคนที่เธอเรียกกันว่าเป็นเด็กอัจฉริยะหรือศิลปิน คนเหล่านี้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถของจิตวิญญาณต่างร่างมาสู่สติสัมปชัญญะ ทำให้เขาสามารถใช้ความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณต่างร่างและต่างชาติภพได้ในปัจจุบัน คนเหล่านี้มักมีความรู้ความสามารถหลายด้าน เขามักจะเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ กวี นักกีฬา และนักดนตรีในคนเดียวกัน

    เด็กอัจฉริยะบางคนไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ได้มากและเร็ว บางคนมีอายุน้อยแต่มีความรู้ความสามารถสูงเกินอายุโดยไม่ได้เรียนรู้จากชาติภพนี้ พวกเธอมักให้คำอธิบายว่า เด็กเหล่านี้ระลึกชาติหรือจำความรู้ความสามารถในอดีตชาติได้ แต่แท้ที่จริงแล้วทุกชาติภพทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่พร้อมกันหมด มันจึงไม่ใข่การจดจำความรู้ความสามารถเหล่านี้มาจากอดีต แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้ความสามารถเหล่านี้ทั้งจากอดีตและอนาคต-มาสู่ปัจจุบัน
    .........................................................................................................................

    ...ตัดทอนบางส่วน
    จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
    บทที่ 6 หน้าที่ 76-77
    .........................................................................................................................

    ขอบคุณ คุณZipper ค่ะ ที่มาส่งสาร
    เดรดอ่านแล้ว และคัดลอกมาบางส่วน ที่คิดว่าน่าจะตอบคำถามเดรดได้มา
    จะพิมพ์หมดทั้ง บทก็ไม่ไหวค่ะ ไม่เก่งพิมพ์
    ....ทางที่ดี ท่านที่มีหนังสืออยู่ ลองไปอ่านทบทวนอีกทีนะคะ กระจ่างมากเลยค่ะ
    ....ขอขอบพระคุณ พี่นักเขียนด้วยนะคะ
    แม้จะติดปัญหา มาตอบเองไม่ได้แต่ก็ยังกรุณา ส่งสารมาให้พวกเรารับทราบ
     
  18. ธรรมจิตต์

    ธรรมจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +419
    "แท้ที่จริงแล้วทุกชาติภพทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตมีอยู่พร้อมกันหมด"

    <O:p</O:pอีกสิ่งหนึ่งที่ อ.โนวา อนาลัย มักจะเน้นย้ำอยู่เสมอก็คือโลกของจิตวิญญาณไม่มีช่องว่าง ระยะทางและกาลเวลาซึ่งเป็นเหตุเป็นผลกับประโยคที่คุณเดรดยกมาข้างต้นครับแต่สิ่งที่ทำให้เราไม่เข้าใจหรือเข้าใจยากก็เป็นเพราะเราเคยชินกับโลกทางกายภาพและการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้านั่นแหละครับ ข้าพเจ้าเองบางครั้งดูเหมือนเข้าใจแต่บางครั้งก็ทำท่าจะไม่เข้าใจเหมือนเป็นสองคนในร่างเดียวกันยังงัยไม่รู้คงเป็นเพราะเราต้องเรียนรู้โลกของจิตวิญญาณผ่านทางตัวตนทางกายภาพกระมังครับ

    <O:p</O:p"เธอทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ผู้ใฝ่หาประสบการณ์ในมิติของจิตวิญญาณแต่เธอคือจิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์ในมิติของมนุษย์"<O:p</O:p<O:p</O:p
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Do you know?

    วันนี้ log-in ได้เลยรีบนำ vdo clip มาฝากพวกเรา
    แต่ยังแก้ปัญหาพิมพ์ภาษาไทยไม่สำเร็จค่ะ
    ตัวหนังสือปรากฏช้ามาก ทั้งหมดนี้เป็นไปแบบ slow motion

    <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ljbI-363A2Q&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ljbI-363A2Q&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

    ท่านทราบไหมว่า.........

    บางครั้ง ขนาดก็มีความหมาย ?

    หากท่านเป็น 1 ในล้านคน
    ในประเทศจีน จะมีคนที่เหมือนท่านอีก 1,300 คน
    ในประเทศอินเดีย จะมีคนที่เหมือนท่านอีก 1,100 คน

    25% ของประชากรจีน มี IQ สูงทีี่สุด
    ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือ


    แต่ประเทศอินเดียก็ยิ่งกว่านั้นอีก 28% ของประชากรอินเดีย มี IQ สูงทีี่สุด
    ข้อมูลเหล่านี้แปลงเป็นสารถึงคุณครูทั้งหลายในสหรัฐได้ว่า
    อินเดียมีจำนวนเด็กที่เรียนได้เกียรตินิยม มากกว่าจำนวนเด็กทั้งหมดในสหรัฐ

    ท่านทราบไหมว่า........

    จีนจะกลายเป็นประเทศแนวหน้าที่ใชัภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักของประเทศ

    หากเรานำเอาทุกอาชีพในสหรัฐ ส่งออกไปทำในประเทศจีน
    ประเทศจีนจะยังคงมีแรงงานเหลือ


    ท่านทราบไหมว่า ระหว่างที่ท่านกำลังชม video clip นี้อยู่
    เด็กทารกได้ถือกำเนิดใน
    สหรัฐ 60 คน
    จีน 244 คน
    อินเดีย 351 คน

    กรมแรงงานของสหรัฐ ประเมินว่า นักเรียน นักศึกษาในวันนี้ จะทำงาน10-14 อาชีพ เมื่อพวกเขาอายุได้ 38 ปี
    (หมายเหตุ : คนอเมริกันเริ่มทำงานกันตั้งแต่ยังเด็ก เช่น อายุเพียง 13-14 ก็เริ่มทำงานที่เขาพอจะทำได้ตามอายุ เช่นรับส่งหนังสือพิมพ์ รับ baby sit รับ walk the dog และเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆตามอายุ ตามระดับการศึกษา)

    กรมแรงงานของสหรัฐ แจ้งว่า

    1 ใน 4 ของผู้ที่ืทำงาน อยู่กับนายจ้างต่ำกว่า 1 ปี

    1 ใน 2 ของผู้ที่ืทำงาน อยู่กับนายจ้างต่ำกว่า 5 ปี

    Ricahrd Rileyอดีต Secretary of Education กล่าวว่า
    อาชีพที่เป็นที่ต้องการที่สุดในปี 2010 ขจะ เป็นอาชีพที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อปี 2
    004

    ครูทั้งหลายกำลังอยู่ในยุคสมัยที่ต้องเตรียมความพร้อมให้นักเรียน นักศึกษา
    สำหรับอาชีพที่ยังไม่เคยมีมาก่อน

    และต้องสอนให้นักเรียน นักศึกษาใช้เทคโนโลยีที่ไม่เคยถูกคิดค้นขึ้นมาก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะแก้ปัญหา ที่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า เป็นปัญหา

    ทายสิว่าประเทศใดคือ
    ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
    ประเทศที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก
    ประเทศที่เป็นศูนย์กลางของธุรกิจและการเงินของโลก
    ประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุด
    ประเทศที่เป็นศูนย์กลางของนวตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ
    ประเทศที่มีค่าเงินเป็นมาตรฐานของโลก
    ประเทศที่มีมาตรฐานความเป็นอยู่สูงที่สุด

    คำตอบ : ประเทศอังกฤษ..........เมื่อปี 1900

    ท่านทราบไหมว่า
    สหัรฐ เป็นอันดับที่ 19 ของประเทศที่ใช้ Internet Broadband มากที่สุดในโลก (Luxembourg เพิ่งจะแซงหน้าสหัรัฐไป)

    Nintendo ลงทุนกว่า $140 ล้านในปี 2002 เพียงปีเดียวเพื่อวิจัยและพัฒนา
    รัฐบาลของสหัรฐลงทุนน้อยกว่านี้ครึ่งหนึ่ง เพื่อการวิจัยและพัฒนาการศึกษา


    1ใน 8 ของคู่สมรสในอเมริกา รู้จักกัน ทาง on-line

    มีผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก MySpace กว่า 106 ล้านคน (เมื่อ September 2006))
    หากว่า MySpace เป็นประเทศ มันจะเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก
    (มีจำนวนประชากรอยู่ระหว่าง ญี่ปุ่น กับ Mexico)


    MySpace แต่ละหน้ามีผู้อ่านประมาณ 30 ครั้งต่อวัน

    ท่านทราบไหมว่า....

    เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่โลกรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว

    มีผู้ใช้ Google เพื่อค้นหาข้อมูล 2,700,000,000 ( สองพันเจ็ดร้อยล้าน)รายต่อเดือน
    (Before Google - B.G. ไม่ใช่ Before Christ - B.C. ก่อนกำเนิดพระเยซู - พี่นักเขียนแทรกค่ะ) ก่อนหน้าที่จะมี Google ใครล่ะตั้งคำถามเหล่านี้ ?


    ณ วันนี้ จำนวนผู้ส่งและรับ text message ต่อวัน มากกว่าจำนวนประชากรของโลกเสียอีก

    ภาษาอังกฤษ มีคำศัพท์ทั้งหมด 540,000 คำ
    ซึ่งมากกว่าคำศัพท์ที่ปรากฏในยุคสมัยของเชคเสปียร์ถึง 5 เท่า


    มีหนังสือใหม่ๆกว่า 3,000 เล่ม ได้รับการตีพิมพ์.....ทุกวัน

    ข้อมูลที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ New York Time ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
    มีปริมาณมากกว่าข้อมูลที่ปรากฏตลอดชั่วชีวิตของคนในสมัยศตวรรษที่ 18


    ภายในปีนี้เพียงปีเดียว ข้อมูลที่มีสาระเป็นเอกลักษณ์ จะถูกสร้างขึ้นเป็นปริมาณ 1.5exabyte (1.5x10 ยกกำลัง18)
    ซึ่งเป็นปริมาณข้อมูลที่มากกว่าข้อมูลในโลกที่ผ่านมาทั้งหมด 5,000 ปี รวมกัน

    ปริมาณของข้อมูลทางด้านเทคโนโลยี มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทุกๆสองปี
    ซึ่งหมายความว่า ครี่งหนึ่งของข้อมูลความรู้ที่นักศึกษาที่เรียนหลักสูตร 4 ปี ในสาขาวิชาเกี่ยวกับเทคโนโลยี จะกลายเป็นข้อมูลที่ล้าสมัย เมื่อพวกเขาขึ้นปีสาม
    คาดว่าเมื่อถึงปี 2010 ปริมาณของข้อมูลจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว ทุกๆ 72 ชั่วโมง


    NEC กับ Alcatel ได้ทดลอง fiber optics cable ยุคที่สาม และสามารถส่งผ่านข้อมูลได้ 10 ล้าน-ล้าน bits ต่อวินาที (1,000,000,000,000 or 10 ยกกำลัง 12) ผ่าน fiber optics เพียงเส้นเดียว
    ปริมาณข้อมูลเหล่านี้เทียบเท่า CD 1,900แผ่น หรือการโทรศัพท์พร้มอกันทีเดียว 150 ล้านสายในเวลาทุกๆ 1 วินาที

    ปริมาณข้อมูลที่ส่ง fiber optic cable จะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าทุกๆ 6 เดือน
    และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในช่วง 20 ปีข้างหน้า



    เส้นใยแก้วมีพร้อมอยู่แล้ว
    พวกเขาเพียงแต่พัฒนาสวิทช์ที่ปลายทั้งสองข้างของมันเท่านั้น
    ซึ่งหมายถึงว่า เงินลงทุนสำหรับการพัฒนาการส่งผ่านข้อมูลให้มีประสิทธิภาพในครั้งนี้
    คือ $0

    คาดว่า ePaper หรือกระดาษอิเลคโทรนิค จะมีราคาถูกกว่ากระดาษจริงๆ

    laptops 47 ล้านเครื่องถูกส่งไปจำหน่ายทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
    โครงการ laptops ราคา $100 จะถูกส่งไปให้เด็กๆในประเทศด้อยพัฒนาปีละ 50-100 ล้านเครื่อง

    เมื่อถึงปี 2013 มนุษย์จะสามารถสร้าง Supercomputer ที่มีความสามารถในการคำนวณ ล้ำหน้าความสามารถของสมองมนุษย์

    เมื่อถึงปี 2023 เด็กนักเรียนชั้นประถมหนึ่ง จะมีอายุ 23 ปี
    และเริ่มทำงาน อาชีพแรก......

    แม้ว่าการคาดการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีไกลกว่า 15 ปีข้างหน้าจะเป็นสิ่งที่ได้ยาก
    แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า เมื่อถึงปี 2049 computer ราคาเพียง $1,000 จะมีความสามารถในการคำนวณเทียบเท่าความสามารถในการคำนวณของเผ่าพันธุ์ของ มนุษย์ทั้งโลกรวมกัน


    ทั้งหมดนี้ มีความหมายอย่างไร?

    ความผกผัน กำลังเกิดขึ้น
    และคุณได้ทราบแล้ว........


    พี่นักเขียนมาชวนพวกเราขบคิดและแสดงความเห็นว่า
    การที่โลกผกผันไปเช่นนี้ มีความหมายและส่งผลกระทบต่อเรา ในนัยของการพัฒนาจิตวิญญาณอย่างไรบ้าง? (rose)
     
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Beam-In Technology (Hologram)

    พี่นักเขียนนำเรื่องราวเกี่ยวกับ Technolgoy มาให้พวกเราดูกัน
    ไม่ใช่ว่าเพราะพี่นักเขียนเป​็นผู้ที่ชอบใช้เทคโนโลยีเท่านั้น
    แต่เป็นเพราะพี่นักเขียนเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏในโลกทางกายภาพของเรา
    เป็นภาพสะท้อนของจิตวิญญาณ หรือภาพสะท้อนของข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์- จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอีกทีหนึ่ง

    สิ่งที่เคยเป็นเพียงจินตนาการ ในที่สุดก็กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกทางกายภาพ
    เมื่อ Nov. 4 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งของที่นี่ TV ช่อง CNN ได้ Beam-In นักข่าวและผู้ที่เขาต้องการสัมภาษณ์ ซึ่งอยู่ที่รัฐอื่นๆเข้ามายังห้องส่ง ภาพที่ปรากฏเป็นบุคคลซึ่งเป็นสามมิติคล้ายคนจริงๆ แต่มีแสงเรืองรองเป็น Hologram ไม่ต่างไปจากภาพที่เราเคยเห็นในภาพยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของ Gene Roddenberry ผู้สร้าง Star Trek และ Beam-In technology ซึ่งเป็น Technology ในจินตนาการเมื่อ 45 ปีมาแล้ว และดูเสมือนว่า เป็นเพียงเรื่องฝันเฟื่องในสมัยนั้น และดูเสมือนจะเป็นส่ิงที่ ไม่มีวันเป็นจริง หรือเป็นสิ่งที่หลายคนจะเห็นได้ในชั่วชีวิตนี้


    <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/v7fQ_EsMJMs&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/v7fQ_EsMJMs&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

    ทั้งหมดนี้ทำให้พี่นักเขียนคิดถึงคำกล่าวของท่านอาจารย์อนาลัย และได้มีโอกาสพิสูจน์คำกล่าวของท่านอีกครั้งว่า จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหลาย

    สิ่งที่ดูเสมือนจะไกลโพ้น สุดเอื้อม เป็นไปไม่ได้
    หลายสิ่งก็ได้เกิดขึ้น เพียงแค่เอื้อม และเป็นไปได้แล้วมากมายในโลกของเรา


    กฏเกณฑ์อันเข้มงวดของช่องว่าง-ระะทางและกาลเวลาที่ดูเสมือนจะเคยเป็นอุปสรรคที่ทำให้มนุษย์เราเชื่อว่า หลายสิ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ดูเสมือนจะอ่อนกำลังลงไปทุกทีในโลกมนุษย์

    ปริมาณและความรวดเร็วของข้อมูลความรู้ที่เราทั้งหลายสามารถรับได้ในวันนี้ ซึ่งข้ามกฏเกณฑ์ของช่องว่างระยะทางและกาลเวลายิ่งขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นภาพสะท้อนให้เรามองเห็นได้ว่า ในที่สุดแล้ว จิตวิญญาณในร่างมนุษย์ จะพยายามทุกวิถีทางที่จะใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติ นอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา อันเป็นธรรมชาติที่ปราศจากเครื่องพราง

    ผู้ที่ใช้เทคโนโลยี มักจะติดเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเทคโนโลยีทำให้เราสะดวกสะบายขึ้นเท่านั้น แต่เทคโนโลยีทำให้เราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้-รวดเร็วทันใจ คำว่า-รวดเร็วทันใจ-น่าจะทำให้เราค้นพบได้ว่า เทคโนโลยีทำหน้าที่ได้เหมือนใจ หรือเหมือนจิตวิญญาณของเรา

    ผู้ที่เป็นเพียงผู้ใช้เทคโนโลยี สามารถเรียนรู้เทคโนโลยีได้ แต่อาจจะะน้อยกว่า ผู้สร้างสรรค์หรือคิดค้นเทคโนโลยี ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้ที่ไม่ทำสมาธิ สามารถที่จะเรียนรู้ภาวะจิตหรือภาวะจิตวิญญาณของตนเองได้ แต่อาจจะน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำ หรือพยายามฝึกฝนที่จะสัมผัสรู้ถึงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองอย่างสม่ำเสมอ

    แต่ไม่ว่าเราจะขยันทำสมาธิเป็นประจำหรือไม่ก็ตาม ความเข้าใจในพื้นฐานที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏด้วยเทคโนโลยี ซึ่งมักเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นภาพสะท้อนอันเป็นรูปธรรมของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอันสร้างสรรค์-รุนแรง-ของผู้สร้าง จะทำให้เราตระหนักได้ไม่มากก็น้อยว่า ภาวะจิตวิญญาณ หรือกลไกของจิตวิญญาณ ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่รุนแรง-ของตนเอง ก่อให้เกิดสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกทางกายภาพของเราเช่นกัน(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...