ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ฉายเดี่ยวครับผม แต่รายการอะไรผมก็จำไม่ได้แล้วละครับ และคงยังไม่ออกอากาศเพราะต้องไปถ่ายทำที่เขากะลาต่อในช่วงที่หมดฝนแล้ว แหม...นี่ถ้าพี่สุดใจไม่ให้กำลังใจผมก็คงไม่กล้าสู้กล้องนะครับเนี่ย

 

เมื่อคืน อ.นีโม่แจ้งว่าสถานธรรมเขากะลา 2 อาคารฝักข้าวโพด กำลังจะปิดตัวลงสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากเสร็จสิ้นภารกิจตามเป้าประสงค์ของระบบแล้ว ท่านที่ยังไม่เคยไปเยี่ยมชม ร่วมทำกิจกรรม ต้องรีบหน่อยแล้วนะครับ

 

เมื่อคืน อ.นีโม่แจ้งว่าสถานธรรมเขากะลา 2 อาคารฝักข้าวโพด กำลังจะปิดตัวลงสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากเสร็จสิ้นภารกิจตามเป้าประสงค์ของระบบแล้ว ท่านที่ยังไม่เคยไปเยี่ยมชม ร่วมทำกิจกรรม ต้องรีบหน่อยแล้วนะครับ
***************************************************

งั้นพี่ๆ น้องๆ เพื่อนร่วมรุ่น น่ามาเจอกันเพื่อเลื้ยงส่งอำลา กันและกัน ก่อนที่จะไปฉายเดี่ยว ทำงานเพื่อประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่าน ดีไหมครับ
;aa6(good);aa22
<!-- / message --><!-- sig -->

 

พี่สุดใจ และกลุ่มผู้อาวุโส และคุณ Pasika ได้เดินทางกลับจากเขากะลาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา และคุณ Pasika ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง

พี่สุดใจก็คิดว่าจะนำภาพมาลงให้ได้รับชมกัน แต่ได้พบข้อความหลายอย่างที่มีการโพสในกระทู้นี้ ในช่วงเช้าวันนี้ อาจทำให้หลายท่านมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเป็นอย่างอื่น ก็คงต้องขอชี้แจงทำความเข้าใจเป็นการเร่งด่วน ก่อนเรื่องอื่น

และเรื่องภาพ เรื่องการต้อนรับผู้เดินทางมาประมวลพลังเมื่อคืนที่ผ่านมา จะนำมาให้ชมหลังจากนี้ค่ะ

 

ฉากต่อไประบบจัดคิวมาแล้วจ้า พี่สมจิตรได้

ข่าวว่ารายการ " ข่าว 3 มิติ " จากช่อง 3

จะมาถ่ายทำ รายการที่บนเขากะลา

ในวันพรุ่งนี้ โปรดติดตามชมตอนต่อไป

พร้อมๆกันนะคะ

 

ขออนุโมทนา กับคุณณภัทร สมเย็น (อาจารย์นีโม่) เป็นอย่างยิ่งค่ะ กับภารกิจที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป

สำหรับการดำเนินการภารกิจในการ "แจ้งเพื่อทราบ" ไปยังบุคคลที่ระบบได้วางไว้แล้ว ให้มารับรู้ รับทราบ และเข้าทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ณ วันนี้ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2551

ภารกิจนี้.....ผู้รับบทนี้ คืออาจารย์นีโม่ ผู้ที่ระบบได้วางตัวไว้ให้ทำหน้าที่แจ้งข้อมูลข่าวสารไปยังบุคคลอื่น ๆ ให้เข้ามารับรู้ รับทราบ โดยทำเป็นเรื่องราวของ "เขากะลา 2" นั้น

เปรียบเสมือนฉากละคร ที่ระบบเป็นผู้วางตัวบุคคลที่จะมาเล่นบทนี้ไว้อยู่แล้ว แต่ต้องมีการสร้าง story จัดให้มีสถานที่เพื่อทำการนัดพบกัน เรียกว่า จุดนัดพบ .... สำหรับคนของระบบนั่นเอง

โดยระบบได้วางสถานที่ไว้ก่อนแล้ว ที่ชั้น 11 อาคารฝักข้าวโพด 1 ที่จะใช้เป็นสถานที่ให้กับคนในระบบมาพบเจอกัน มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน ดังที่ผ่านมา

ก็เพื่อรวมกลุ่มบุคคลที่ขันอาสามาทำงานให้กับระบบตั้งแต่ก่อนมาเกิด ให้เข้ามารับทราบนั่นเอง

เพราะก่อนที่แต่ละท่านจะมาเข้าใจในจุดมุ่งหมาย ในวัตถุประสงค์ ของโครงการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้ ก็ต้องมีการหาจัดหา จุดนัดพบ จุดแรกเสียก่อน

นั่นคือ กระทู้ " ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)" ในเวปไซด์พลังจิต

หลังจากนั้นก็หาสถานที่ ที่จะเป็นจุดนัดพบ...จุดต่อไป เพื่อการพบปะ เจอะเจอ เป็นจุดศูนย์รวม ณ แห่งใด แห่งหนึ่งก่อน

ซึ่งสถานที่แห่งนั้น ก็คือ เขากะลา 2 อาคารฝักข้าวโพด 1 ชั้น 11 รามคำแหง 40 ซึ่งเป็น จุดนัดพบ จุดต่อไปนั่นเอง

ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีหลายขั้นตอนที่ระบบได้วางไว้

ประสานงานกับบุคคลต่าง ๆ
เชื่อมระบบ
ขยายระบบ
ติดตั้งอุปกรณ์
จัดสรรหมายเลข
รับรองหมายเลข

จึงมีบุคคลจำนวนหนึ่ง ที่เข้าใจในกลไกของระบบ มารับฟังการขยายทฤษฎีระบบ มีการปฏิบัติธรรมเพื่อการปล่อยวางร่วมด้วย และเห็นผลการปฏิบัติ เห็นความทุกข์ที่เบาบางลงอย่างรวดเร็ว มีการปล่อยวางได้มากขึ้น

จึงพร้อมที่จะเข้าร่วมงานกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามที่เกิดภัยพิบัติในครั้งนี้

จึงได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก จากมนุษย์ต่างดาว ที่มุ่งเน้นไปยังบุคคลที่ขันอาสามาทำงานนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมาเกิด และพร้อม ๆ กับการพัฒนาจิตไปด้วยในเวลาเดียวกัน

 

การดำเนินการ จึงไม่จำกัดรูปแบบ ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ อย่างที่มนุษย์คิดกัน

เพราะการคัดสรรบุคคล คัดจากจิตที่มีการปล่อยวาง จิตที่ละอัตตาตัวตน จิตที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าเป็นหลัก และมารับรู้ทฤษฎีระบบ มารับรู้อุปกรณ์ และปล่อยวางในอุปกรณ์เหล่านั้น

ดังนั้น ภารกิจนี้ กระบวนการนี้ มีอาจารย์นีโม่ เป็นผู้ทำหน้าที่ดำเนินการจัดหาสถานที่เป็น จุดนัดพบ จัดทำกระบวนการเชื่อมระบบ จัดการติดตั้งถ่ายทอดอุปกรณ์ และผู้อาวุโสเขากะลา 1 จัดทำหมายเลข ปรับหมายเลข จนได้บุคคลที่พร้อมทำงานในส่วนหนึ่งที่มีการรับรองหมายเลขแล้ว

จนมีการเดินทางมาที่เขากะลา เพื่อรับการประมวลพลัง นั่นหมายความว่า เป็นการมารายงานตัวเพื่อทำงานกับมนุษย์ต่างดาวแบบรู้ตัวว่าทำงานนั่นเอง

และจุดนัดพบของระบบ จุดใหญ่ของโครงการก็มีเพียงที่เดียว
คือ "เขากะลา" จังหวัดนครสวรรค์ เท่านั้น ที่ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยมีฉากใหม่มารออยู่แล้ว

ดังนั้น ชื่อกลุ่ม..ที่มนุษย์ต่างดาวตั้งขึ้น ในภารกิจช่วยเหลือโลกมนุษย์ในครั้งนี้ จึงมีชื่อว่า

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

จึงไม่มีการแบ่งแยกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย เพียงแต่แบ่งงานกันดำเนินการแต่ละภารกิจเท่านั้น แล้วส่งกลับมาทำงานร่วมกัน ณ เขากะลา แห่งนี้

จึงมีหมายเลขที่ต่อเนื่องกันไป คือหมายเลข 1 - 120 นั่นเอง

เขากะลา 2 เป็นเสมือนจุดนัดพบอีกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งขึ้นมาเพียงระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้น เมื่อภารกิจในการจัดหาบุคคลเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ก็ต้องยุติไป

จากวันที่อาจารย์นีโม่ พบเจอระบบ พบเจอพี่สุดใจ จนถึงวันนี้ วันที่เสร็จสิ้นภารกิจ เป็นเวลา 1 ปี 11 เดือน

เริ่มจากพบเจอกันที่งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2549 - จนถึงวันนี้ 9 พฤศจิกายน 2551

รวมเวลา 1 ปี 11 เดือนพอดี

อาจารย์นีโม่ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ทำงานกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาแบบรู้ตัวว่ากำลังทำงานนี้ จึงทำอย่างเต็มรูปแบบ ในแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต

และตอนนี้ก็เสร็จสิ้นภารกิจ ในการจัดหาบุคคลในนามเขากะลา 2 แล้ว

ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะรับบทใหม่ ในฉากต่อไปที่เข้มข้นกว่านี้

ทุกท่าน ที่ได้เข้ามาประมวลพลังที่เขากะลา นั่นเท่ากับว่า ท่านมารับทราบโครงการของมนุษย์ต่างดาว มารับรู้การทำงานที่ต้องทำร่วมกับอุปกรณ์ไฮเทค ที่จะมีการทยอยติดตั้งให้มากขึ้น และมารับทราบการแยกขันธ์ห้าเพื่อการปล่อยวางซึ่งถือเป็นประโยชน์ตนในการออกจากขันธ์ห้า

และจากนี้ไป ท่านก็จะทำงานขึ้นตรงกับระบบ ไม่ต้องผ่านบุคคลใด ระบบจะสื่อสารกับท่านโดยตรง

สถานที่ทำงานของท่านก็คือ บ้านของท่าน ที่ทำงานของท่าน และภารกิจที่ต้องทำให้กับระบบก็คือกิจวัตรประจำวันของท่าน สิ่งที่ท่านดำเนินชีวิตอยู่ในขณะนี้ นั่นคือการทำงานให้กับระบบทั้งสิ้น แล้วเหตุการณ์จะพาไปเอง

สิ่งที่ท่านต้องทำในปัจจุบันก็คือ การวิปัสสนาเห็นการเกิดดับในขันธ์ห้าอย่างต่อเนื่อง หรือเกือบจะตลอดเวลา เห็นกลไกของธรรมชาติ เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วไม่อุปทานไปยึดมั่นว่านั่นเป็นเรา เป็นของเรา เท่านี้ก็สามารถปล่อยวาง และเห็นความว่างจากตัวตนของตนได้ในระดับหนึ่งแล้ว

ท่านอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ ไม่จำเป็นต้องมาที่เขากะลา ท่านก็สามารถเรียนได้ ฝึกแยกขันธ์ห้าได้ และสามารถปล่อยวางได้เช่นกัน เพราะระบบจะส่งคลื่นการประมวลพลังไปในขันธ์ห้าของท่านถึงที่

เพราะขันธ์ห้าของท่าน ก็คือห้องเรียนของท่าน

จึงไม่ต้องไปหาที่เรียนที่ไหนเลย.

ไม่สนใจตัวเอง​

" ท่านครับ ศาสนาสอนให้ดับทุกข์ดับกิเลส
ใช่ไหมครับ? "
"ใช่"
"แต่ผมว่า
จะหาคนที่ไม่มีทุกข์ ไม่มีกิเลสในโลกนี้
ไม่มีละ ?"
" มี "
" ใคร ? ที่ไหน ?"
" เรา เมื่อไม่มีกิเลส ที่ไหนก็ได้ " ​

................​

จากหนังสือธรรมะ
"ฝนประปราย"​

 

การทำงานของระบบทำในรูปแบบ
" แจ้งเพื่อทราบ "
มาโดยตลอด​

ดังนั้น ในภารกิจนี้ ภารกิจคัดสรรบุคคลเข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาวเพิ่มเติมในนามของเขากะลา 2 ในครั้งนี้

ได้มีการแจ้งเพื่อทราบเป็นระยะเวลา 1 ปี 11 เดือน 1 วัน

1. วันที่ 8 ธันวาคม 2549 แจ้งเพื่อทราบในบูธเขากะลา ที่จัดร่วมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 กรุงเทพฯ

2. วันที่ 9 ธันวาคม 2549 แจ้งเพื่อทราบในการบรรยายเรื่อง "เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว" ณ งานฯ เดียวกันนี้ ในวันนี้ก็ได้พบกับคุณณภัทร สมเย็น ผู้ที่จะมารับบทเป็นผู้ดำเนินงานจัดตั้งเขากะลา 2 ในอีก 1 ปีถัดมา

3. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 อาจารย์นีโม่ มาเข้าฉากที่เขากะลา พร้อมกับคนในระบบที่วางไว้อีก 3 ท่าน และกลับไปพร้อมกับการขยายระบบ 3 ชั่วโมง

4. มีการขยายระบบเฉพาะตัวบุคคล คืออาจารย์นีโม่อย่างต่อเนื่อง เกือบตลอดทั้งปี จนมีความเข้าใจในกลไกของระบบ และพร้อมทำงานร่วมกับระบบแบบรู้ตัวว่าทำงาน

5. มีการเปิดกระทู้ชื่อ "ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ในเวปไซด์พลังจิต ในวันที่ 9 สิงหาคม 2550
เป็นการแจ้งเพื่อทราบผ่านทางเวปไซด์เป็นครั้งแรก และบุคคลที่ได้เข้ามารับทราบเรื่องราวที่เขากะลาในส่วนใหญ่ ก็ผ่านการอ่านข้อความ และให้ความสนใจ โดยผ่านทางเวปไซด์นี้

6. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 อาจารย์นีโม่จัดงาน รวมพลคนพลังจิตติดต่อ UFO ขึ้นที่ซอยลาซาล บางนา ในวันนั้น มีหลายท่านที่เข้าร่วมงานกับระบบในวันนี้ ได้ไปรับทราบด้วยหลายท่าน

7. วันที่ 4 ธันวาคม 2550 เปิดสำนักงาน UFO THAILAND เป็นการแจ้งให้ทราบออกสู่สาธารณะในระดับหนึ่ง และมีการเปิดเวปไซด์ UFOTHAILAND ด้วย

8. ตลอดปี 2551 เป็นการบวนการ "แจ้งเพื่อทราบ" ออกสู่สาธารณะมากมาย เกือบทุกวัน ทั้งรายการทีวี การบรรยาย และการทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่นเป็นกระบวนการที่ "แจ้งเพื่อทราบ" ทั้งสิ้น

9. เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 เปิดให้ทำการเชื่อมระบบให้กับบุคคลทั่วไป
เนื่องจากมีบุคคลส่วนหนึ่งให้ความสนใจ เข้ามาสัมผัส ทดสอบ ทดลอง ระบบจึงให้มีการเปิดให้ทำการเชื่อมระบบขึ้น นั่นเป็นการแจ้งเพื่อทราบ อีกรูปแบบหนึ่ง โดยการเชื่อมระบบ

และบางท่านที่เชื่อมระบบไปแล้ว ระบบก็ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เป็นการเฉพาะงานของบุคคลนั้น ๆ เช่นงานที่ต้องช่วยเหลือคนด้านการรักษาพยาบาล ก็ต้องติดตั้งอุปกรณ์การแพทย์ในอนาคตที่มีประสิทธิภาพมากให้ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องสแกนให้ อุปกรณ์การมองเห็นบุพกรรมให้ เพื่อใช้ทำการรักษาให้บุคคลต่าง ๆ นั่นเอง

10. เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ระบบได้ให้ ปิดการเชื่อมระบบ และทำการจัดสรรหมายเลขในเวอร์ชั่นเขากะลา 2 ก่อน ซึ่งในระหว่างนี้มีการเปิดทำการรักษา และออกทำการรักษาในหลายสถานที่ และการรักษาด้วยอุปกรณ์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

11.วันที่ 4 ตุลาคม 2551 เป็นการปรับหมายเลข โดยให้รวมเข้าเป็นหมายเลขชุดเดียวกันต่อเนื่องจากหมายเลขเดิมของเขากะลา นครสวรรค์ และวันที่ 25 ตุลาคม 2551 เป็นการมาแจ้งเพื่อทราบ ให้ผู้ที่มีหมายเลขได้รับการรับรองเข้าทำงานแล้ว ไป ประมวลพลังที่เขากะลา เพื่อไปรายงานตัวเข้าทำงาน ตั้งวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป

นั่นหมายความว่า กระบวนการ "แจ้งเพื่อทราบ" ได้ดำเนินการเพื่อคัดเลือกบุคคลมาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี โดยเริ่มจากคัดผู้เข้าทำงานในหน้าที่จัดตั้งกลุ่มเขากะลา 2 ก่อน ซึ่งใช้ระยะเวลานานพอสมควร

แต่การคัดสรร ผู้ที่จะเข้าทำงานในรุ่นนี้ ใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ คือตั้งแต่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม 2551

แล้วก็ย้อนกลับมาต้นสังกัดเดิม เริ่มภารกิจใหม่ ฉากใหม่ อีกครั้ง ในวันนี้ที่... เขากะลา

 

สิ่งสำคัญที่ระบบมุ่งหมายให้ท่านรับทราบก็คือ

การ " แจ้งเพื่อทราบ " เรื่องของเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว เรื่องของอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว ที่ติดตั้งให้กับมนุษย์แล้วสามารถนำไปใช้งานได้จริง ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นี่คือ ระบบต้องการให้ทราบว่า เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาวมีจริง อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวมีจริง เรื่องของมิติที่เตรียมการเพื่อช่วยเหลือในยามวิกฤตินั้นมีการเตรียมพร้อมอยู่จริง และสามารถใช้งานช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติได้จริง

ก็เพื่อให้ผู้ที่ทำงานร่วมกับระบบ ผู้ที่สัมผัสกับอุปกรณ์นั้นอยู่ ผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์นั้นอยู่ จะได้หายคลางแคลงใจ และมั่นใจในระบบว่า สิ่งที่ระบบกล่าวมาทั้งหมดนั้น .... เป็นเรื่องจริง .. และเราเป็นผู้หนึ่งที่สามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้จริง

ระบบจึงมีการ " แจ้งเพื่อทราบ " ให้กับมนุษย์โลกได้รับรู้.... ในโครงการของ "มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา" มาถึงบัดนี้..

เป็นระยะเวลา 11 ปีแล้ว<!-- / message --><!-- edit note -->

 

ภาพเก็บได้

พระประธานบนเขากะลา

ในการไปประมวลพลังครั้งที่ 1/2551



หลังลงจากเขากะลา วันที่ 2 พฤศจิกายน 2551



เมฆสวยงามยามเช้าที่เขากะลา




พระอาทิตย์ทรงกลดที่เขากะลา







​

 

จะไปเข้าฉากใหม่ด้วยคนครับ...ในวันพรุ่งนี้ ... ที่เขากะลา...

ใครจะมาร่วมเข้าฉากด้วย มาเร้วๆๆๆๆๆ


​

 

พี่สุดใจ และกลุ่มผู้อาวุโส และคุณ Pasika ได้เดินทางกลับจากเขากะลาในช่วงสายของวันนี้

และคุณ Pasika ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว

ก็ขอประมวลภาพ ในการเดินทางมาประมวลพลังในครั้งที่ 2 ของคุณ Pasika วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 นี้

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 คุณ Pasika ได้เดินทางมาด้วยรถตู้โดยสาร จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และมาถึงนครสวรรค์ในเวลาประมาณ 16.00 นาฬิกา

กลุ่มผู้อาวุโสได้เดินทางไปรับที่ท่ารถตู้ พอไปถึงท่ารถตู้ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก จึงต้องพักอยู่ในท่ารถเพื่อรอฝนจางลง

 

หลังจากนั้นเมื่อฝนหยุดตก ก็ขึ้นรถยนต์และเดินทางต่อไป โดยไปแวะที่สถานีรถไฟ ซื้อเสบียงไปทานบนเขากะลา และขับรถไปตามทางท่าตะโก

แต่ในระหว่างทาง ได้เห็นสายรุ้งยาวมากอยู่ด้านหน้ารถ จึงถ่ายภาพมาให้ชมด้วย








หลังจากนั้น ก็เลี้ยวเข้าทางบ้านหัวครัก และขับรถยนต์ไปตามทาง ระหว่างทางก็ลงมาเก็บภาพท้องฟ้าที่แสงอาทิตย์สาดส่องสวยงามมาฝากเพื่อน ๆ สมาชิกค่ะ

 

เมื่อเดินทางไปถึงทางเข้าไปเขากะลา ปรากฏว่ารถยนต์ยังเข้าไปไม่ได้ แม้ว่าทางจะแห้งไปบ้างในบางส่วน และไม่ลื่นอย่างที่ผ่านมาก็ตาม แต่รถก็ยังเขาไปไม่ได้อยู่ดี จึงต้องขนสัมภาระลงจากรถ และเตรียมตัวเดินเท้าเข้าไป

คุณสมจิตร แผนกพื้นที่ ติดภารกิจไปประสานงานนอกสถานที่ จึงส่ง น้องใหม่ แผนกพื้นที่รุ่นต่อไป มาทำหน้าที่แทน

 

หลังจากจัดสรรปันส่วน สัมภาระให้กับทุกคนรับผิดชอบแบกขึ้นไปแล้ว การเดินทางก็เริ่มขึ้น

ระหว่างทาง ก็ชมวิวทิวทัศน์ไปด้วย เพราะบรรยากาศเย็นสบาย มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย

 

เมื่อนำสัมภาระ พร้อมเสบียงลงจากรถยนต์ตรงทางเข้าเขากะลาแล้ว พี่สุดใจก็ขับรถยนต์กลับไปในหมู่บ้าน เพื่อนำไปฝากไว้ที่บ้านญาติตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย ไม่ห่างกันมากนัก

เมื่อย้อนกลับมายังทางเข้า ปรากฏว่า คณะฯแรกเดินทางขึ้นเขาไปแล้ว โดยกองสัมภาระไว้ที่เดิมในส่วนที่พี่สุดใจต้องเป็นผู้แบกขึ้นไป

จึงได้ขนสัมภาระ เดินทางขึ้นไป โดยเห็นหลังคณะแรกอยู่ไกลลิบ



ทางเดินเข้าเขากะลาจะยังมีน้ำขังเล็กระหว่างทาง พอเข้าไปในจุดที่เคยต้องลุยน้ำในรุ่นอาจารย์ sapa กลับเป็นดินที่ค่อนข้างแข็งแล้ว น้ำแห้งลงไปเกือบหมด เดินสบายดินไม่ติดรองเท้า





อยู่ตรงทางขึ้นด้านล่าง บริเวณสระน้ำใหญ่ หากมองขึ้นไปบนเขากะลา ก็จะเห็นว่า เป็นเนินดินลูกเล็ก ๆ ไม่สูงมากนัก และมองขึ้นไปก็จะมองเห็น ลานดูดาวยื่นออกมา ซึ่งผู้ที่อยู่บนลานดูดาว ก็จะมองเห็นผู้ที่กำลังเดินเข้ามาเช่นกัน



บรรยากาศใกล้มืดเต็มที กลุ่มแรกก็ทิ้งห่างพี่สุดใจไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสัมภาระที่แบกมา มีทั้งเป้ ทั้งเสื่อ ทั้งเต้นท์ จึงค่อนข้างหนัก ถือลำบาก ประกอบกับอายุที่เหลือน้อยลง การเดินก็เลยช้าลงเรื่อย ๆ จนขึ้นไปถึงเขาเป็นคนสุดท้าย บรรยากาศก็ใกล้มืดเต็มทน

 

นึกว่าเป็นคนเดียวเสียอีก พอขึ้นมาบนเขาก็พบผู้อาวุโส และผู้ไม่อาวุโสทั้งหลาย นอนพิจารณาขันธ์ห้ากันอยู่ บนลานดูดาว โดยวางเสบียงและสัมภาระลงกองไว้อย่างไม่ใยดี







หลังจากนอนทำสมาธิกันพักหนึ่ง ก็เริ่มมีแรง ลุกขึ้นมาเตรียมหาอาหารลงท้องกัน เพราะใช้พลังงานในการเดินไปมาก และเตรียมการสกัดกั้นผู้ไม่ได้รับเชิญ ด้วยยากันยุงชนิดทา หลังจากนั้นก็ไปล้างหน้าล้างมือกัน ก่อนมาเตรียมจัดอาหารเพื่อการ ปิคนิค ต่อไป

ผู้อาวุโสเขากะลา มาทำงานเหมือนมาเที่ยว จริง ๆ

สงสารแต่น้อง Pasika มาทำงาน.... การประมวลพลังแบบเดี่ยว จะเหมือนมาเที่ยวไหมหนอ?





เริ่มจัดโต๊ะอาหาร เพื่อการปิคนิคอย่างเต็มรูปแบบ คือของกินต้องมาก่อน มีแรงแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน

อาหารหลายอย่าง มีข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด เนื้อทอด(อภินันทนาการจากคุณ vijit_j) ทอดมัน ลูกชิ้น ห้อยจ๊อ ปลาตัวเล็กทอดกรอบ และมีผลไม้ ขนมของหวาน ของขบเคี้ยวมากมาย ที่แต่ละคนซื้อกันมา

พอเอาออกมาวางก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมเที่ยวนี้สัมภาระหนักเหลือเกิน

 

ทานอาหารเรียบร้อย พักผ่อนเล็กน้อย ก็เตรียมตัวทำวัตรสวดมนต์เย็น(แปล) ณ ลานพระด้านบน

อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ แต่ละคนก็เลยต้องหาปัจจัย 4 ประเภทเครื่องนุ่งห่ม หมวกบ้าง ผ้าพันคอบ้าง มาเสริมป้องกันความหนาวที่เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

หากใครจะมา ภูกะลา ในช่วงนี้ เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยก็จะดีนะคะ

 

หลังจากนั้น ก็ขึ้นไปบนลานหน้าพระประธาน จุดธูปบูชาพระ และสวดมนต์ร่วมกัน โดยมี น้องใหม่ แผนกพื้นที่รุ่นถัดไป รับหน้าที่เป็นช่างกล้องสมัครเล่น บันทึกภาพให้

 

หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ได้อธิบายจุดมุ่งหมายในการประมวลพลัง เพื่อให้เห็นการทำงานของขันธ์ห้า ให้ฝึกแยกขันธ์ห้า เพราะคลื่นที่ส่งลงมาที่ขันธ์ห้า จะทำให้มองเห็นว่าขันธ์ห้าบังคับบัญชาไม่ได้ มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง

จนเวลาประมาณ 21.00 นาฬิกา คุณ Pasika ก็เข้าประจำที่ประมวลพลัง เพื่อเตรียมตัวรับคลื่นที่จะส่งลงมาในเวลา 21.11 นาฬิกา

ระบบให้ใช้ ลานหน้ากองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว เป็นลานสำหรับประมวลพลังในครั้งนี้



ในระหว่างการประมวลพลัง งดถ่ายภาพ