ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เมื่อเช้านี้เวลาประมาณแปดโมงเช้า ในขณะที่แต่ละท่านกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางกลับจากบนเขากะลา พี่สุดใจก็ได้รับการติดต่อจากผศ.ศุภสิทธิ์ สายยิ้ม ว่าท่านมีความประสงค์จะเดินทางมาประมวลพลังบนเขากะลาในวันนี้ เนื่องจากเพิ่งเสร็จสิ้นจากภาระกิจสำคัญ จึงไม่สามารถมาประมวลพลังพร้อมกับหลายๆ ท่านในคืนวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ โดยในวันนี้ท่านจะเดินทางไปนครสวรรค์โดยรถประจำทาง ซึ่งพี่สุดใจ คุณโสภาก็จะอยู่ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยคุณUkrin ซึ่งจะอยู่ร่วมประมวลพลังในคืนนี้เป็นครั้งที่ 6 และนับเป็นการส่งท้าย หรือปิดท้ายเดือนแห่งการประมวลพลังจริงๆ ครับ

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมเดินทางไปประมวลพลังกันที่เขากะลาในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ตลอดจนเมื่อคืนนี้ และในคืนนี้ รวมถึงผู้อาวุโสทุกๆ ท่านที่ได้ให้การต้อนรับคณะผู้ไปเยือนตลอดทั้งเดือนแห่งการประมวลพลังที่ผ่านมาด้วยเป็นอย่างสูงนะครับ

 

ฉากเก่าถูกเก็บ ฉากใหม่เข้ามาแทน
ระบบ คือผู้กำกับ
เราคือผู้ให้ยืมขันธ์ห้า เพื่อสวมบทละคร
ให้เข้ากับฉากในแต่ละฉาก

และเราเป็นเพียงผู้ดู
ละคร จบ ก็เก็บเก้าอี้พับ กลับบ้าน บ้านใครบ้านมัน
ไม่มีเราอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว

สุข ทุกข์ จากการดูละคร ก็จบ ไป พร้อมกับละครจบ

ขอนุโมทนากับทุกท่านที่ได้เข้าฉากที่ผ่านมาแล้ว
และผู้ที่กำลังเตรียมพร้อมรับบทในฉากใหม่ต่อไป


หมายเหตุ
ไม่เคยมีใครทุกข์ หากรู้จักการปล่อยวาง/ละอัตตาตัวตนได้อย่างแท้จริง

 

ขอขอบคุณ พี่สุดใจ อาจารย์โสภา
ที่ให้ความสะดวกในการประมวลพลังกับคณะที่ไปเมื่อคืนวันที่ 29/11/51

ขอขอบคุณพี่วิจิตร สำหรับอาหารอันโอชะจากเพชรบูรณ์

ขอขอบคุณพี่เทพกัญญา และคณะ ที่นำอาหารหลายอย่างมาเสริม

คุณ ศศะ โรตีสายไหม เจ้าเก่า
ป้าศจี ชิปฟ่อน/ถั่วทอดกรอบ/หมี่กรอบสุดอร่อย

และอีกหลายท่านที่ไม่ได้กล่าวนาม

ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการกางเต๊นท์/เก็บเต๊นท์ และอื่นๆอีกสารพัด


การประมวลพลังเมื่อคืนวันที่ 29/11/51 ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว

มีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น เรื่องแนวไฟไหม้ที่จู่ๆเกิดขึ้น และดับไปในทันทีทันใด
ไม่มีรอยไหม้ทิ้งไว้ให้เห็น และไม่ทันได้ยกกล้องบันทึกภาพไว้ (คุณยูคริน บันทึกได้ผู้เดียว)

จานบิน มาปรากฏ ให้ได้เฮฮา เสียงก้องดังทั่วเขากะลา ไม่ต่ำกว่า 3 ลำ

จะนำมาเล่าในโอกาสต่อไปครับ

 

การประมวลพลังเมื่อคืนวันที่ 29/11/51 ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว

มีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น เรื่องแนวไฟไหม้ที่จู่ๆเกิดขึ้น และดับไปในทันทีทันใด
ไม่มีรอยไหม้ทิ้งไว้ให้เห็น และไม่ทันได้ยกกล้องบันทึกภาพไว้ (คุณยูคริน บันทึกได้ผู้เดียว) - จากข้อมูลคุณ Mountian

พออ่านเจอก็รู้สึกต่อเนื่องเลยว่า เป็นการถ่ายทอดด้วยภาพ..คือ "ไฟไหม้" เห็นแล้วเกิดทุกข์ แต่ถ้าไม่ไปยึดติด ทุกข์ก็จะดับทันที ส่วนถ้าเป็น "ไฟราว" (เหมือนงานวันเฉลิมฯ ที่สนามหลวง) เห็นแล้ว เป็นสุข แต่ถ้าไม่ไปยึด สุขก็จะดับทันทีเช่นกัน เพราะเป็นเพียงสมมุติของจิต เท่านั้นเอง ทั้งทุกข์และสุข หากไม่ยึดว่า เป็นตัวเป็นตน เป็นทุกข์ของเรา เป็นความสุขของเรา จะเห็นเลยว่า มันไม่มีตัวตน เพราะมันดับไปในทันทีไม่มีเหลือ มันแค่แสดงให้ เราดูชั่วครู่เดียวเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง เหมือนที่แสดงให้ดูที่เขากะลา

 

ขออนุญาตพี่เม้าท์แก้ไขนิดนึงครับ >>>คุณ ศศะ โรตีสายไหม เจ้าเก่า<<< ความอร่อยรอบนี้ของโรตึได้รับจาก....อาวุโส No.9 ครับ

และก็ขอขอบคุณอาวุโส No.9 ที่ได้ให้ความกรุณาในการติดรถเดินทางไปช่วงอยุธยา>>>เขากะลา........คุณศศะช่วง กทม>>>อยุธยา และคุณกรึงไกร ช่วงเขากะลา>>>กทม ครับ

ในเรื่องเสบียงอาหารก็ขอขอบคุณท่านดังที่พี่เมาท์ได้กล้าวไปแล้ว และพี่เม้าท์ตกไปไม่ได้กล่าวก็คือ บ๊ะจ่างยอดนิยมนั่นเอง

และก็กราบขอบพระคุณพี่สุดใจ - ที่เป็นผู้อาวุโสรับผิดชอบในแผนกที่ผู้ไปร่วมประมวลพลังสังกัดอยู่เกือบทุกท่าน....และคุณโสภาและตัวแทนแผนกอื่นๆที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นยิ่ง (ในความหนาวเย็นของของอากาศบนเขากะลา)

พวกเราทุกคนก่อนหน้านี้สามสี่เดือนต่างก็เป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันที่ท่องเที่ยวและผาดโผนในยุทธจักร คุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นบ้าง.....ก็ได้มารวมตัวกันโดยการรับการสื่อสารจากรูปแบบต่างๆ และก็มีความคิดความเห็นเป็นเอกเทศของแต่ละท่านในเรื่องของเขากะลา ก็ได้มารวมตัวกัน สนทนากัน จนได้รับรับทราบข้อมูลและทำความเข้าใจในเหตุในผลที่ต้องมารวมตัวกัน จนได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในครั้งนี้ ความรู้สึกในตอนนี้กลับมิใช้คนแปลกหน้าที่มารวมตัวกัน แต่..เป็นวงศาคณาญาติที่ไม่ได้เจอกันมานานได้มาพบกันอีกครั้ง

ขอบคุณทุกๆท่านที่ได้มอบและรับความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันและกัน;41;ปรบมือ;aa53

 

ในที่สุด บุคคลสำคัญของระบบ ที่ได้รับการจับสลากหมายเลขเป็นกรณีพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ก็เป็นคนสุดท้ายที่ปิดฉากการประมวลพลังในครั้งนี้....

ขออนุโมทนากับ ผศ.ศุภสิทธิ์ สายยิ้ม ผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของระบบอีกท่านหนึ่งครับ

 

ที่มุ่งมั่นและตั้งใจในการประมวลพลังมากที่สุดต้องยกให้คุณกรึงไกรครับ เสร็จภารกิจที่กรุงเทพฯในเวลา 18.00 น. ก็รีบบึ่งรถไปที่เขากะลา สถานที่ประมวลพลังในทันที โดยมีศรีภรรยาและบุตรติดรถมาด้วย.......

แม้ไม่ทันการสวดมนต์ทำวัตรเย็น แต่ก็ทันเวลาในการประมวลพลัง ซึ่งจะเริ่มในเวลา 21.11 น. และจะสิ้นสุดในเวลา 23.11 น. เสร็จจากการประมวลพลังก็มีการขยายระบบต่อโดย อ.สุดใจ แบบตัวต่อตัว เนื่องจากเป็นคนของระบบที่จะต้องได้รับมอบหมายให้แสดงในเรื่องใหม่กับบทใหม่และฉากใหม่ๆ ก็จำเป็นต้องมีความเข้าในในเนื้อหาของบทที่จะต้องแสดง และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าฉากก็จักได้แสดงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม.......

และในเวลาเที่ยงคืนเศษของวันเดียวกัน คุณกรึงไกรก็ขับรถออกจากเขากะลา สถานที่ประมวลพลังกลับสู่กรุงเทพฯ โดยมีคุณ ufo. 356 และคุณปิรามิด อาศัยรถไปด้วย

ขออนุโมทนากับความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวในการเดินทางไปประมวลพลังของคุณกรึงไกร เป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้.......

 

มารายงานตัวเข้ารับงานใหม่ กับ หน้าที่ใหม่ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ซึ่งเปรียบเสมือนมารับงานแสดงละครบทใหม่ กับฉากใหม่ๆ ที่เพียบพร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงอีกหลายท่าน โดยได้รับค่าแสดงเป็นช็คแห่งความว่างปล่า.....

จะเป็นอย่างไรนั้นติดตามใน...เรียบๆ ง่ายๆ....สไตล์ จักษวัชร์
หรือที่เพื่อนๆนักแสดงเรียกกันว่า....จารจุก

 

จารจุก มาแต่เช้า...สวัสดีครับ

ภาพถ่ายที่จะลงให้ชมมีสองชุดชุดหนึ่งจะเป็นภาพที่ พี่สุดใจ ส่งมาให้ทางอีเมล
อีกชุดเป็นภาพจากกล้องของผมเอง
จะทยอยลง พร้อมบรรยายภาพ ไปจนกว่าจะหมดภาพนะครับ

 

29 พ.ย.2551

นัดพบรวมตัวกันที่อาคารฝักข้าวโพด
ในขณะรอคอยกันอยู่ ก็มีการขยายระบบ
โดยจารหนุ่ย ซึ่งได้รับการขยายมาจากพี่สุดใจตั้งแต่เมื่อวาน
เกือบ 4 ชั่วโมง จะจารจุก บอกว่า ขยายระบบเที่ยวนี้
เกือบจะขอดับขันธ์ ไปซะแล้ว เพราะมันไม่มีอะไรเลย
ไม่เหลืออะไรอีกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาจากศูนย์(0)
เกิดขึ้นเพราะการปรุงแต่งให้เกิดสุข-ทุกข์ จนลืมไปว่า
จริงๆแล้ว มันคือสิ่งที่เกิดจากความว่างเปล่าทั้งสิ้น

งานนี้ คุณธนพล ได้เข้ามารับประโยชน์ตน ซึ่งเป็นที่น่ายินดี
และขออนุโมทนากับสิ่งที่ได้รับในการมาครั้งนี้ครับ

 

เวลาประมาณบ่ายโมง คณะที่มารวมตัวกันที่อาคารฝักข้าวโพด
ก็ได้มีการแยกย้ายกันขึ้นรถ 2 คัน


คันแรก...รถอาจารย์โม่(ทะเบียนรถ 1665)
มีผู้ร่วมเดินทางคือ


1.พี่สุดใจ
2.จารจุก
3.จารหนุ่ย
4.MOUNTAIN

หมายเหตุ เมื่อเริ่มเดินทาง ที่รถพ่วงระบบ ส่งมานำทาง
(ทะเบียน 1111)

คันที่สอง..รถเพื่อนของจารป้าศจี มีผู้ร่วมเดินทาง คือ
(ทะเบียนรถ 4879)
1.คุณธนพล ผู้มาช่วยขับรถยนต์(ระบบจัดให้)
2.เพื่อนจารป้าศจี
3.จารป้าศจี
4.ทานะบารมี
5.ufo.356

 

เข้าเขตจังหวัดนครสวรรค์ ยังมีเวลาเหลือ
จึงพากันไปแวะชมทัศนนียภาพบริวณบึงบอระเพ็ด

สูดอากาศบริสุทธิ์ และร่วมผลัดเปลี่ยนกันเป็นพรีเซนเตอร์
ให้กับสถานที่ เป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว ได้ทั้งประโยชน์ท่าน และประโยชน์ตน

และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า บรรยากาศ ณ บึงบอระเพ็ด
ที่เรากำลังสัมผัสอยู่นี้ ก็จะไม่มี กลายเป็นอดีต ดับไปพร้อมกับ
ดวงจิตเดิม ดวงจิตใหม่จะเกิดตามมา คือ บรรยากาศ ณ เขากะลา













นกเจ้าฟ้หญิงสิรินธร สัญญลักษณ์ประจำบึงบอระเพ็ด

 

ยังประทับใจอยู่กับบรรยากาศของบึงบอระเพ็ด
ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก จารึกไว้เป็นตำนาน


ฝูงนกต้นฤดูหนาว โผผินบินกันมาเป็นฝูง แต่ไม่รู้ว่าเป็นนกชนิดไหน
อ.โม่ บอกเสียดาย ไม่ได้เอากล้องดูดาว มาดูนก









ถ่ายใกล้เข้ามาอีกนิด เพื่อให้เห็นลวดลายชัดๆ








ได้เวลา ต้องเดินทางไปดักรอพบพี่เทพกัญญากับคณะ
ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านตีนเขากะลา

 

สวัสดีครับ...

จารป้ามอบหน้าที่ให้รายงานข่าวล่ามาเร็ว (แต่ยังเร็วไม่เท่าจารเม้าท์ จารจุก) เพราะอยู่ในเหตุการณ์วันปิดเดือนแห่งการประมวลพลังเมื่อคืนที่ผ่านมา 30 พฤศจิกายน 2551

ถือว่าปิดการประมวลพลังเสร็จสิ้นสมบูรณ์

เริ่มจากไปรับ ผศ.ศุภสิทธ์ สายยิ้ม ที่ บ.ข.ส.นครสวรรค์ เพราะท่านมารถทัวร์มาถึงประมาณบ่ายสามโมง

โดยมีผู้อาวุโส 3 แผนก เดินทางไปต้อนรับ

จากนั้นก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยที่เขากะลา เตรียมพร้อมก่อนขึ้นเขากะลา

 

คณะที่มากับรถ จารโม่ มาถึงจุดนัดพบ ที่
ปากทางแยกขวา เข้าไปโรงเรียนบึงบอระเพ็ดวิทยา
และสุสานมูลนิธิปากน้ำโพประชานุเคราะห์
สังเกตจากป้าย จะเด่นชัดมาก






จารโม่ แวะทักทาย เพื่อนแท้ที่จากกันมานาน


รอคอยภายในศาลา พี่สุดใจ โทรประสานงานบอกเส้นทางแก่พี่เทพกัญญาเป็นระยะๆ จารจุก เพิ่มพลังเย็น ด้วยไอศกรีม หวานหอมอร่อย เสริมขันธ์ให้
มีความสดชื่น แต่ไม่ยึดติด

 

ได้เวลา คณะของจารโม่ กับพี่เทพกัญญา ก็ชวนกันขึ้นเขากะลา
พร้อมๆกับการคล้อยต่ำใกล้ลับขอบฟ้าของดวงอาทิตย์ ที่กำลังทอแสงสีทอง เป็นประกายงดงามตา






ขบวนรถที่มาถึงก่อนหน้า จอดกันเป็นทิวแถว

 

เซอร์ไพร์อีกแล้วครับท่าน

ขับรถขึ้นไปบนเขากะลา พบพระภิกษุ 2 รูปนั่งอยู่ในศาลา

เหมือนระบบจัดสรร พระท่านมาจากอยุธยาจำพรรษาอยู่วัดด้านล่าง เพิ่งเดินทางขึ้นมาบนเขากะลาในวันนี้

จึงได้ถวายปัจจัย และรับพรจากพระภิกษุ....ก่อนปิดการประมวลพลังในคืนนี้

 

กระบวนการจัดสถานที่ก็เริ่มขึ้นทันที ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

และผู้อาวุโสแผนกขับเคลื่อนระบบฯ คุณวาสนา กำลังขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อให้การต้อนรับและร่วมปิดการประมวลพลังในคืนนี้

 

หลัง Dinner ส่วนหนึ่ง ออกมาเอนนอนดูดาว และเฝ้ารอ
การมาปรากฏของยานต่างดาว อย่างใจจดใจจ่อ
เพราะมีความเชื่อว่า คืนนี้ต้องไม่พลาด แล้วทุกคนก็สมหวัง
ดังจะได้รายงานให้ชมภาพยานต่างดาวที่ถ่ายไว้ได้ ต่อไป




คุณโสภา อาวุโสรุ่นแรก เริ่มต้มน้ำ เพื่อให้พวกเรา
ที่เฝ้ารอดูยานต่างดาว ได้ชงชา/กาแฟ ดื่มดับหนาวกันในคืนนี้

 

ในที่สุด มนุษย์ต่างดาวก็เห็นใจพวกเรา
นำยานออกมาเคลื่อนไหว ให้พวกเราเห็น แม้จะไกลไปหน่อย
แต่ก็สามารถปลุกเร้าให้พวกเรา ได้ตื่นเต็นดีใจ ร้องไชโยออกมา
เต็มปากเต็มคำ


จากภาพ จะเห็นจุดที่เป็นแสงสว่าง นั่นแหละครับใช่เลย
เขากำลังเคลื่อนตัวสูงขึ้นๆ กระพริบไฟให้พวกเราเห็นกันทุกคน
เกือบจะไม่ได้เห็นซะแล้วครับ เพราะตอนถ่ายไม่มีใครมายืนบัง
แต่พอรูปออกมา กลับมีใครมายืนบังไปซีก ใครหนอ

ที่แท้เป็นจารโม่ กำลังโบกมือทักทาย เพื่อนต่างดาวนั่นเอง