รวมภาพพระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุต่างๆเพื่อการศึกษา

นั้นสิ ก็เค้าแทนตัวเองว่า "ปูน" ครับ หรือว่า ในเว็บจะใช้อีกชื่อนึง

 

เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้ คือจริงๆ ไม่อยากออกมาพูด เหมือนประจานน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) เลยครับ แต่ บางอย่างที่ทำลงไปนั้น เหมือนราวกับว่า น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) จะไม่ได้รู้สึกสำนึกแต่อย่างใดในการกระทำครั้งนี้

หลายๆ คนที่อ่านกระทู้นี้แล้ว ก็จะรู้สึกว่า เหมือนไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ร้ายแรงเกิดขึ้น เป็นแค่เพียงน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ไปขออัฐิชิ้นหนึ่งจากวัด แล้วทำไมเหมือนราวกับว่า พี่ๆ ในกระทู้รวมกันกลั่นแกล้ง น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) เสียยกใหญ่ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต

แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา โดยที่ให้ คนอื่นๆ มาขอโทษ หรือออกหน้ารับแทน หรือแม้ กระทั่ง โทรไป ขอร้อง ให้ หลวงพี่ มาลงกระทู้ว่าได้ทำการขอขมาแล้ว นั้น แต่จริงๆ ก็ไปขอร้อง ให้มาลง โดยที่ สมัครสมาชิกให้หลวงพี่รูปนั้น ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลยที่ไปดึง พระ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย

และการสมัครสมาชิก น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ก็ได้ทำการสมัครสมาชิกให้ ซึ่งก็รู้ password ในการเข้า username ของหลวงพี่รูปนั้น ซึ่งหลวงพี่ก็บอกให้ผมเอาชื่อ username ออก

จึงอยากวอนผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทำยังไงถึงจะ ไม่มี username พระมหาต้น นี้อีกต่อไปครับ

เอาละครับมาฟังนิทานกันดีกว่าครับ

เรื่องมีอยู่ว่า น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ได้ไปที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ. เชียงใหม่
(โดยมีโพยในมือหรือไม่ หรือว่าจะได้จากคำบอกเล่าของผู้ใดนั้นก็ไม่อาจทราบได้ เรื่องนี้ต้องถามเจ้าตัวเองละครับ)

แล้วก็ไปหา เจ้าอาวาส (ต่อไปผมจะใช้คำว่า "หลวงพ่อ" แทน ท่านเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้นะครับ)

เล่าคร่าวๆ ย่อๆ แล้วกันนะครับ เรื่องยาวรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ

โดยไปพูดกับ หลวงพ่อว่า สนใจ จะมาขออัฐิของหลวงปู่ (หมายถึงอดีตเจ้าอาวาส) แล้วก็พูดว่า รู้จักคนนั้น ครูบาคนนี้ หมอคนนั้น หมอคนนี้

แล้วก็ไม่รู้ว่าทำอีท่าไหน ได้ไปเจอกับหลวงพี่ (ขอใช้คำว่า หลวงพี่ แทน พระรูปนั้นที่ดูแลอัฐิ อยู่ครับ)

จากนั้นก็ไปที่กุฎิของ หลวงพี่ แล้ว ก็ขึ้นไป เดินไปเดินมา แล้วก็ไปหยิบผอบมา(ภายในผอบมี อัฐิชิ้นส่วนกะโหลกของหลวงปู่) ก็บอก กับ หลวงพี่ ว่า
"หลวงพ่อให้มาเอาอัฐิชิ้นส่วนกระโหลกนี้ไป"

เจอแบบนี้ หลวงพี่ เองถึงกับพูดไม่ออกครับ เพราะ จริงๆ แล้ว ตอนหลังมารู้ว่า อัฐิชิ้นส่วนกระโหลกนี้ ไม่ได้เป็นของส่วนตัวของหลวงพี่ แต่เป็นชิ้นที่ตกผลึก ซึ่งหลวงพี่ได้แยกเอาไว้ ใส่ผอบ เมื่อเวลาพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่เสร็จก็จะนำไป
ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ภายในวัด

หลวงพี่ เลยบอกไปว่า ให้ไปถามหลวงพ่อเจ้าอาวาสดู จากนั้น น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) มาพูดกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า ผมขอชิ้นนี้ได้ไหม

จากการที่สอบถามไปกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านก็บอกว่าไม่ได้บอกเลยว่าให้น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ไปเอาชิ้นส่วนไหนมา ท่านก็ยังแปลกใจ ว่าทำไมถึงให้ชิ้นส่วนอัฐิที่เป็นกะโหลก นี้ไป

ตรงนี้แหละครับที่ ผมรับไม่ได้จากการกระทำ เป็นการโกหกต่อหน้าพระทั้ง 2 รูป แถมในวัดอีกต่างหาก แต่หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็ไมได้ว่าอะไร

จากนั้นเหมือนกับสิ่งศักสิทธิ์มีจริง ก็มีเรื่องมีราวกันในกระทู้นี้แหละครับ ว่าทำไม พวกผมถึงได้ออกมา ว่ากล่าวการกระทำของน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง)

แล้วก็มีข่าวมาบอกว่าน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) จะมาขอขมาและคืนอัฐิชิ้นนั้นไปกับทางวัดแล้ว แต่ทำไม น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ไมได้ออกมาชี้แจง หรือ บอกกล่าวอะไรในกระทู้นี้ กลับโทรไปรบกวน หลวงพี่ ให้มาลง เหมือนกับว่าน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ได้มาขอขมาแล้ว และคืนอัฐิชิ้นนั้นไปแล้วเรื่องก็จบไม่เกิดอะไรขึ้น

จากการมาขอขมา(เค้าบอกว่างั้น) คือตอนแรก มาหนแรก มาบอกหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า ผมรู้สึกไม่สบายใจ อะไรทำนองนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เอาชิ้นอัฐิมาคืน

หรืออาจจะรีบละมั้งครับ รีบมาวัดแต่ไม่ได้เอาอัฐิมาคืน

มาอีกครั้ง หลวงพ่อ ท่านเลยให้ไป คุยกับหลวงพี่

หลวงพี่ท่านก็ให้พูดไป เกือบครึ่งชั่วโมง เป็นต้นว่า อย่างพระสิวลีที่เอาเท้าไปโดน เค้าก็ถามหลวงพี่แล้วว่าเป็นอะไรไหม หลวงพี่ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร
หรือ อย่างบอกว่าต่อไปจะไม่เอาใครมาอ้างแล้ว หรือบอกว่า พระท่านมีความหวงแต่พูดไม่ได้ หรือ ผมเป็นเด็กไม่สามารถรักษาพระธาตุได้หรือต้องให้คนแก่ๆเท่านั้นหรือที่รักษาพระธาตุได้ หรือ การที่ผมเอาอัฐิพระธาตุของหลวงปู่องค์อื่นมาถวายหลวงพี่ผมไม่ได้มีเจตนาเพื่อเอามาแลกกับหลวงปู่ที่วัดนี้เลย เป็นต้น

** ข้อความอาจจะไม่ถอดคำพูดมาโดยตรง แต่ก็ประมาณนี้ละครับ

จากนั้น หลวงพี่ก็ได้ให้ อัฐิหลวงปู่ไป 2 ชิ้น เกศา และ พระธาตุ และอัฐิหลวงตาทีวัดในจ.สกลนครอีก ด้วย

เรื่องนี้ที่เล่ามาผมได้สอบถามไปยังเจ้าอาวาส และหลวงพี่รูปนี้ครับ


และอยากฝากไปถึงคุณปราโมช (ต้องขออภัยที่เอ่ยนาม) แต่ในฐานะของประธานชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย จากพฤติกรรมแบบนี้ ที่น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) ได้ไปกล่าวอ้าง เช่นที่วัดในจ.อุดรธานี หรือ หลายๆ วัดที่ผ่านมา เท่าที่ผมได้ยินข่าวมา ชื่อเสียงของชมรมฯจะเป็นไปในทางลบในสายตาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายๆ วัด จึงจะฝากไว้ด้วยครับ

(หรืออาจะเป็นข่าวลือก็ได้ครับ แต่ก็อยากจะฝากไว้ด้วยครับหากเป็นจริงอย่างที่ได้ยินข่าวมา ก็คงจะทำให้ชื่อเสียงของชมรมฯนั้นไม่ดีไปด้วย นี่ฝากไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชมรมฯในฐานะรุ่นพี่ที่รู้จักกันครับ)


จากดังที่เล่านิทานมานี้ ผมก็หวังว่าเหตุการณ์เช่นแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครับ ก็ขอให้ใช้วิจารณาณในการอ่าน การรับรู้ข่าวสารมา

โดยส่วนตัวผมแล้วนั้นก็ไม่ได้จะตั้งป้อมที่จะว่าน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) หรอกครับ แต่ ก็อยากให้ทุกคนได้รู้เรื่องอีกด้านหนึงบ้าง น้องอายุยังน้อย ต่อไปหากยังมี พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมติดตัวเป็นนิสัยไปในภายภาคหน้า จะทำให้น้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) เองนั้นแหละครับที่จะปรับตัวอยู่ในสังคมลำบาก

และก็หวังว่าน้องปูน(คุณลูกวัดท่าซุง) คงจะมีความสำนึกแล้วจริงๆ คงไม่เกิดพฤติกรรมแบบนี้ขึ้นอีก และสามารถใช้ชื่อ ลูกวัดท่าซุง ได้อย่างเต็มภาคภูมิใจ ครับ

 

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย.......

คนจริงต้องยอมรับความจริง

 

...

 

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

พระธาตุเป็นของสูง เป็นของกลางของโลก ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของแท้จริง เพราะวันหนึ่งเราก็ต้องจากโลกนี้ไป ความเคารพพระธาตุและบูชาพระธาตุอาศัยใจที่ศรัทธาเป็นที่ตั้ง ความอยากได้ไว้บูชา เป็นธรรมดาของผู้มีความศรัทธา เมื่อเราได้พระธาตุมาบูชาแล้ว ก็อาศัยความสงบเป็นเครื่องบูชา ผลคือความสุขจึงเกิดขึ้นแก่ใจของผู้บูชานั้น และนั่นก็เป็นประโยชน์สุขอันแท้จริงจากการบูชาพระธาตุ ขอท่านทั้งหลาย โปรดระงับความขัดแย้งกัน ความไม่พอใจ ความไม่เข้าใจกันเถิด ขอเพื่อเป็นการบูชาแด่องค์พระธาตุทั้งหลายที่เราเคารพนับถือ เพราะพระธาตุเป็นของพระอรหันต์ผู้สิ้นกิเลส เราทั้งหลายอย่าได้ใช้กิเลสมาแปดเปื้อนพระธาตุเลย จากพระเชียงใหม่

 

ขอโมทนาในคำสอนของท่าน พ.เชียงใหม่ ครับ

ท่านก็โปรดระมัดระวังไว้ด้วยนะครับเพื่อความปลอดภัยของท่าน

ผมก็ว่าจะอยู่อย่างสงบแล้วดีกว่า คนบางประเภทก็สอนไม่ได้ ประเภทที่หลงกินแต่บุญเก่า ได้แต่เอาธรรมมาบังการกระทำของตนไว้ ชอบทำแต่ตามอารมณ์ของตัวเอง อ้างเอาอันนุ้นมาเป็นอันนี้ ปั้นแต่งเอาอันนี้เพื่อจะลบอันนู้น เหมือนแมงมุมชักใยไปๆๆมาๆๆ จนในที่สุดก็เข้าพันตัวเองจนตายด้วยใยของตนเอง
ปล่อยให้เขารับกรรมที่ตนเองก่อดีกว่าครับ เพราะคนบางประเภทไม่มีสามัญสำนึกสอนไปก็เท่านั้น ที่เรียกว่าสีซอให้เพื่อนพี่ไทยฟังน่ะ ผมว่าเผลอๆเพื่อนพี่ไทยจะร้องเพลงตามเสียงซอได้ก่อนใครก็ไม่รู้


ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย....แต่ความจริงก็ทำให้คนบางคนตายได้

ถ้ารู้ว่าความจริงนั้นจะทำให้เราตาย...สู้ไม่ทำให้ความจริงเกิดขึ้นเสียแรกดีกว่า


ยังกัมมังกริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะ ทายาทา ภวิสสันติ

 

อนุโมทนากับคำสอนท่านพ.เชียงใหม่ด้วยครับ

แต่ถ้าหากท่านพ.เชียงใหม่หรือใครที่เข้ามากรุณาสละเวลาไปอ่านกระทู้ตั้งแต่หน้า 22 ก็จะทราบถึง

พฤติกรรมอีกด้านหนึ่งที่มีสมาชิกหลายท่านมาเขียนไว้ และผมเคยชี้แจงไปแล้วครับ ดังข้อความข้างต้น เพื่อให้ทุกคนจะได้รับรู้ข้อมูลหลายๆ ด้าน จะได้เข้าใจกัน และเห็นหลายแง่หลายมุม ซึ่งเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งจากผมบ้างแค่นั้นครับ

 

ขออนุโมทนาบุญในความปรารถนาดีของทุกผ่าย และเห็นด้วยกับคุณ พ เชียงใหม่ ถือว่าที่ผ่านมาเป็นการเพียงพอและให้ทุกคนได้รู้ คิด และ พิจารณาให้เป็นประโยชน์ต่อไป

 

เมื่อทุกอย่าง จบ (ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ออกมาชี้แจงแถลงไข) ผมก็ขออนุญาตลงรูป พระธาตุ อัฐิ ของครูบาอาจารย์ ที่ลบไปนะครับ

 

พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (ปู สามีราโม) วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้) จ.ปัตตานี (เสด็จ)

 

พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กันฺตสีโล) วัดดอนธาตุ จ.อุบลราชธานี

 

พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร

 

ครูเจ้าศีลธรรม ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย วัดบ้านปาง จ.ลำพูน

 

พระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

 

สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่บีนำรูปพระธาตุมาลงเถอะครับ
เพื่อที่สาธุชนจะได้ ใช้ศึกษาอีกทั้งยังเป็นการประกาศถึง
คุณธรรมของ พระสาวกที่ท่านบรรลุ ธรรมอันวิเวษโดยมีพระธาตุ้ปป็นเครื่องยืนยันครับ

ส่วนเรื่อง ของน้องคนนั้น เราคงได้วางอุเบกขาธรรม แต่ผมคงม่ะให้อภัยธรรมนะครับ
เพราะไม่ไหวจริงๆๆกับน้องคนนี้

 

พระครูพิสิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย จันฺทสุวัณฺโณ) วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช

 

หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ วัดประสิทธิธรรม จ.อุดรธานี

 

หลวงปู่ตื้อ อจลฺธัมฺโม วัดอรัญญวิเวก จ.นครพนม

 

สาธุโมทนาครับ ขอเชิญทุกท่านโพสรูปภาพพระธาตุไว้เป้นวิทยาทานด้วยนะครับ