ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]

    ภาพที่พี่เทพกัญญา นำมาลงให้ชม โดยเฉพาะภาพนี้ เหมือนอุโมงมิติกลางท้องฟ้าเลยครับ
     
  2. Fleurdelis

    Fleurdelis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +112
    ครับ
    เหมือนภาพที่เคยให้เซฟไปใช้เป็นวอลเปเปอร์หน้าเดสท็อปนะครับ

    ต่างกันที่สี.....

    อืม..11
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    เจ้าตัวเล็ก (9 ขวบ) เลียนแบบเจ้าตัวโต (18 ขวบ)
    ดาวน์โหลดหนังซีรี่ย์มาเยอะเลยจากอังกฤษ

    วันก่อนเขาจัด "คืนฉายหนัง" ให้ดู Dr. WHO ตอนห้องสมุด
    มีสองตอนๆ ละ 40 นาที ไม่มีโฆษณา
    มีตอนที่บอกว่า รอบๆ เรานี้เป็นสมมุติทั้งสิ้น มันเกิดจากเราคิด ถ้าหยุดคิดก็หยุดการมีอยู่
    ไอ้หยา ..หนังระบบนี่หว่า นำเสนอโดยเด็กระบบเก้าขวบ

    แต่หนัง ก็ยังมีตัวละครที่โลดแล่นไป..
    ขันธ์ห้า ก็ยังต้องโลดแล่นไปตามบทบาท (สคริปต์)
    เบื่อแล้ว อยากหยุดเล่น แต่ก็ต้องให้ขันธ์เล่นไปตามบท
    พยายามจะออกมาเป็นผู้ดู แต่เผลอลงไปเล่นอยู่เรื่อย
    พี่ๆ น้องๆ มาเคาะกะโหลกบ่อยๆ ก็ดีค่ะ จะได้ไม่เผลอ
     
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ไปชมภาพบรรยากาศงานตรุษจีน เยาวราช 26/1/52 กันครับ
    ไปมาเมื่อวานนี้เอง

    http://palungjit.org/showthread.php?p=1831352#post1831352

















    [​IMG]

    บะจ่าง ตรุษจีนเยาวราช
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  5. Fleurdelis

    Fleurdelis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +112
    ขออนุญาติพี่ Thepkanya นะครับ
    ผมขอยืมรูปไปปรับแต่ง
    อ้อ ทำมาให้ดูกันเพลินๆนะครับ
    อย่าคิดมาก(คนทำคิดมากเอง55)

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ขอบคุณครับ
     
  6. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    ต้องขออนุญาตเพิ่มเติมและขยายความข้อความของผมเองที่เขียนไว้นะครับ เนื่องจากมาเปิดอ่านย้อนหลังดูแล้วกลายเป็นว่าพี่เม้าท์กำลังอธิบายเรื่องจิตอยู่ดีๆ แต่ผมกลับมาพูดว่าตอนที่เรียน มนุษย์ต่างดาวไม่ได้สอนเรื่องฝึกจิต และจิตไม่ใช่ตัวตนของเรา เดี๋ยวจะเข้าใจผิดไปว่าเป็นข้อความที่ขัดแย้งกัน ซึ่งต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงด้วยนะครับ

    <O:p</O:pความหมายของคำว่า “ฝึกจิต” ของผมในที่นี้หมายถึงการปฏิบัติให้ได้สมาธิ หรือแนวอุบายในการทำให้ได้สมาธิ และสมาธินั้นต้องถึงขั้นฌานสมาบัติ เพื่อที่จะนำจิตที่เป็นเอกคตานั้นไปฝึกเพื่อให้ได้อภิญญา มโนมยิทธิ หรือทำสิ่งอื่นๆ ให้ได้ต่อไป

    <O:p</O:pและที่ว่าจิตไม่ใช่ตัวตนของเรานั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ณ ปัจจุบันนี้จิตนั้นไม่มีอยู่ เช่นเดียวกับขันธ์ห้าของเราๆ ท่านๆ ก็ยังมีอยู่ เห็นอยู่ ในพระไตรปิฎกก็ยังมีเขียนคำว่าจิต คำว่าขันธ์ห้า อยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นจึงเป็นเครื่องยืนยันการมีอยู่จริงของทั้งรูปธรรม และนามธรรมของคำว่าขันธ์ห้าและจิต

    <O:p</O:pแต่ในทางปรมัตถสัจจะแล้ว ขันธ์ห้าก็คือสมมติสัจจะ มันไม่มีอยู่จริง ดังนั้นการได้รับการสอน และวิธีการสอนจากท่านผู้รู้ทั้งหลาย(ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึงมนุษย์ต่างดาวด้วย) จึงมีอุบายการสอนในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายมุมมองที่จะชี้ชัดให้เห็นถึงการไม่มีอยู่จริงของตัวตนของตน ความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทั้งภายนอก และภายในของคำว่าเรา เมื่อจิตของผู้เรียนนั้นได้รับการพัฒนาอบรมด้วยปัญญา หรือวิชชามากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว อวิชชาของผู้เรียนนั้นก็ย่อมต้องน้อยลงๆ เป็นธรรมดาเพราะถูกวิชชามาแทนที่

    <O:p</O:pจิตมีอาการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเปลวไฟที่ติดอยู่กับเทียน ทุกเสี้ยววินาทีไฟดวงเก่าดับไปปุ๊บไฟดวงใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาแทนที่ในทันทีจากการที่เผาไหม้เอาเชื้อเพลิงอันใหม่ จึงทำให้เราเห็นเหมือนกับว่าเป็นไฟดวงเดิมที่ส่องแสงสว่างอยู่ แต่เมื่อเทียนหมดไฟก็จะดับลงเองเพราะหมดเชื้อ

    <O:p</O:pดังนั้น ที่พี่เม้าท์กล่าวว่า “จึงต้องหมั่นป้อนความรู้ที่ถูกต้อง ถูกตรง ให้มันเสมอๆ จนเกิดกำลัง เป็นวิถีจิตที่มีปัญญาแรงกล้า เมื่อนั้นจิตที่ขาดปัญญา ก็จะอ่อนแรงไปเพราะถูกจิตที่มีปัญญากว่ากลบทับไม่ให้ฟื้นกลับคืนมาอีก” จึงเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องที่สุดเลยครับ ขอกราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงด้วยครับผม
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • icon331.gif
      icon331.gif
      ขนาดไฟล์:
      23.7 KB
      เปิดดู:
      195
  8. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    ขออนุโมทนาครับจารไก่
    การเผลอลงไปเล่น ... ก็ไม่ผิด ขนาดซ้อนขันธุ์อีกชั้นหนึ่งแล้ว บางครั้งยังเผลอไปยึดติดเลย
    อย่าเรียกว่าเคาะกะโหลกเลยครับ...เรียกว่าหมั่นซักหมั่นฟอกจะดีกว่า
    ติดทุกข์นะ รู้ตัว ตัดง่าย แต่ติดสุขนี่ซิ ไม่รู้ตัว และตัดยาก.......ครับ
     
  9. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    อนุโมทนาสาธุกับคุณนีโม่ด้วยวิธีแบบชาวพุทธแบบนี้ดูดีมากเลย
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <center>ตะลึง!!ยูเอฟโอโผล่ระหว่าง"โอบามา"สาบานตน(มีภาพคลิปวีดีโอ)

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- message --> <!-- ads code --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-0334174069738588"; /* 250x250, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 1/26/09 */ google_ad_slot = "5725017666"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>window.google_render_ad();</script> มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->[​IMG]

    คลิก...** http://www.matichon.co.th/player.swf...0849.flv&myurl

    ชาวเน็ททั่วโลกฮือฮา ยูเอฟโอโผล่ระหว่าง"โอบามา"สาบานตน จากภาพข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

    <style> P { margin: 0px; } </style>สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ว่า เกิดกรณีชวนตะลึงเมื่อมีภาพวัตถุลึกลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ หรือยูเอฟโอ ได้ปรากฎระหว่างเหตุการณ์นายบารัก โอบามา ประกาศสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่รัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ท่ามกลางประชาชนชาวอเมริกันกว่า 2 ล้านคน เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น จากรายการภาคข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น และภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทิวบ์ สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างฮือฮาแก่ผู้ชมเป็นจำนวนมาก โดยรายหนึ่งกล่าวติดตลกว่า เขาคิดว่า มนุษย์ต่างดาวอาจพยายามเขย่าโลกด้วยการอวยพรให้แก่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐ


    --------

    http://www.matichon.co.th/news_detai...id=01&catid=06

    http://palungjit.org/showthread.php?t=171108
    <!-- / message --> <!-- attachments --> <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG]
    </fieldset>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  11. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    เห็นภาพแบบนี้ เลยนึกได้ว่า เกือบ 20 ปีมาแล้วเคยเห็นภาพคล้ายอย่างนี้ เห็นในฝัน แต่ โทนสี ไม่แดงแจ๋ เท่านี้ ภาพนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก เพราะ ครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้า ตื่นมายังใจสั่นอยู่ตั้ง 2 วัน
    คือ ....ขณะที่เด็กพี่เลี้ยงกำลังเล่นกับลูกสาว (1-2 ขวบ) ก็มีบางสิ่งคล้ายแท่งโลหะ ตกลงมาที่สนามหญ้า พอออกมาเห็น ก็ตะโกนบอกให้ทิ้ง เขาเลยโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า มันพุ่งขึ้นไปในอากาศ เหมือนการวิ่งของจรวด สักพัก ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนดังจากนอกโลก ...พอแหงนหน้าดูก็ขาสั่น ใจสั่นไปหมด เพราะ ท้องฟ้า เป็นทะเลเพลิง สภาพเหมือนดอกเห็ด ที่คลุมลงมา พร้อมกับความร้อน ที่อธิบายยากเหลือเกินว่าร้อน ยังไง ทั้งสี.. แสง... และไอความร้อน...แม้จะยังอยู่ห่างไกลมาไม่ถึงพื้นดิน แต่....ทำเอาใจสั่นไป 2 วันเต็ม เห็นแล้วเตรียมตัวตายอย่างเดียว ไม่ต้องวิ่งเลย นั่น....คือความรู้สึกที่บอกตนเอง ณ ขณะนั้น พระรูปหนึ่ง บอกว่า เป็นการฝันถึงสิ่งที่จะเกิดในอนาคต .........เจ้าประคุณเอ๋ย ขออย่าให้ มนุษย์ ทำร้ายกันอย่างนี้เลย มันน่ากลัวน่าตกใจมาก.
     
  12. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    - รูป พระจันทร์ ที่ เขากะลา
    (ถ่าย ณ ลานต่างดาว เวลาโดยประมาณ 01.00 น. 11 ม.ค.52)
    - รูป พระอาทิตย์ สุริยุปราคา ที่ทำงาน แถวงามวงศ์วาน
    (ถ่าย เวลาโดยประมาณ 17.10 น. วันที่ 26 ม.ค.52)

    ภาพ036.jpg

    ภาพ037.jpg

    ภาพ063.jpg

    ภาพ065.jpg

    ภาพ067.jpg

    ภาพ068.jpg

    ภาพ069.jpg

    ภาพ072.jpg

    ภาพ076.jpg

    ภาพ077.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    วันที่ 27 มกราคม 2552

    อาจารย์ยุพา ขจรกล่ำ และคณะฯ ได้เดินทางมาเยือนกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ที่บ้านสันคู นครสวรรค์

    คุณวาสนา คุณสมจิตร ให้การต้อนรับ และสนทนาเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งได้เล่าถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องของการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวให้ท่านได้รับทราบด้วย

    อาจารย์ยุพา และคณะฯ ได้เดินทางกลับไปเมื่อเวลาประมาณ 22.00 นาฬิกา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2009
  14. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    อาจารย์ยุพา ขจรกล่ำ ท่านได้มาพบเจอกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เมื่องานตรุษจีนที่นครสวรรค์ วันที่ 29 - 30 มกราคม 2541

    ซึ่งเป็นงานตรุษจีนปี 2541

    ในงานนิทรรศการมนุษย์ต่างดาว ณ หาดทรายต้นแม่น้ำเจ้าพระยา

    ท่านได้มาชมนิทรรศการที่กลุ่มของ จ.ส.อ.เชิด จัดขึ้น และร่วมรับชมจานบินที่มาปรากฏให้เห็นภายในงาน โดยลอยผ่านมาบริเวณงานนั้น

    ในช่วงที่จานบินลำที่ 5 ลอยผ่านกลางงานนั้น ปรากฏว่ามีคลื่นจากต่างดาว ส่งมาสัมผัสกับท่าน จนท่านบังคับร่างกายไม่ได้ และ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ได้สื่อสารกับคลื่นจากต่างดาวนั้น จึงได้ทราบว่า เป็นคลื่นจากดาวพลูโต ส่งผ่านลงมาเพื่อสื่อสารกับมนุษย์โลก

    อาจารย์ยุพา ท่านมีสมาธิสูง สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ และท่านได้เคยเดินทางขึ้นไปบนเขากะลา และเดินทางมาเยี่ยมเยียนที่บ้านสันคูหลายครั้ง

    และในครั้งนี้ ในช่วงตรุษจีนปี 2552 ท่านได้เดินทางมาร่วมสนทนา และรับทราบข้อมูลความคืบในเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

    ซึ่งตรงกับงานตรุษจีนอีกครั้งในปีนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2009
  15. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่ได้เข้ามาสนทนากับเพื่อน ๆ สมาชิกค่อนข้างนาน เนื่องจากสายอินเตอร์เน็ตมีปัญหาฯ เพิ่งจะใช้ได้เมื่อวานนี้

    วันนี้มีภารกิจต่อเนื่องทั้งวัน เพิ่งมีเวลาเข้ามาโพส แจ้งความคืบหน้าให้ทราบ

    หากมีเวลา จะเข้ามาสนทนาด้วยค่ะ

    ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่สนใจติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

    สุขสันต์วันตรุษจีนค่ะ
     
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ธรรมะจากการข่าว- ตรุษจีน-ตรุษใจ

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>แม้ประเพณีตรุษจีนจะไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธโดยตรงแต่พุทธศาสนาก็มิได้ปฏิเสธการแสดงออกซึ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญูกตเวทีตามแบบที่คนจีนยึดถือปฏิบัติอยู่อย่างยาวนาน ดังมีคำสอนในมงคลสูตรว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นมงคล หรือเป็นทางก้าวหน้าในชีวิต

    ประเพณีตรุษจีนเป็นการเปิดโอกาสให้ได้หยุดหย่อนผ่อนพักจากภารกิจการงานประจำซ้ำซากของคนจีน ประเด็นนี้ต้องพิจารณาให้จงหนักว่าเป็นเรื่องสำคัญมากน้อยเพียงใด ด้วยว่าคนผู้มีเชื้อสายจีนที่ถือเคร่งในเรื่องนี้จะไม่ยอมทำงานใดๆโดยเด็ดขาด คนอื่นที่ไม่เข้าใจอาจเห็นเป็นเรื่องเกียจคร้านและไม่สร้างสรรค์ แต่แท้ที่จริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ การหยุดงานอาชีพโดยเด็ดขาดในบางคราวจะทำให้มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่ให้ค่าจ้างทางใจได้อย่างแท้จริง ไม่ต้องพะว้าพะวังพะวักพะวนแบบเหยียบเรือสองแคม เพราะการงานอาชีพนั้นถ้าเราไม่หยุดทำก็จะไม่มีเวลาได้ทบทวน มีคำสอนของนักปราชญ์แห่งธิเบตว่า การงานนั้นเปรียบเสมือนหนวดเคราของบุรุษ คงจะหมายความว่าหนวดของบุรูษนั้นต้องได้รับการโกนแล้วโกนเล่าไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าเราไม่หยุดงาน งานก็ไม่หยุด

    หยุดงานหาเงินแต่ไม่หยุดการให้เงิน ในช่วงตรุษจีนจะมีการแจกเงินในซองแดง ซึ่งเป็นที่รอคอยของเด็กๆเป็นอย่างมาก การที่ผู้ใหญ่ให้เงินแก่เด็กนั้น แท้จริงแล้วมิใช่ให้แค่เงิน แต่เป็นการให้แบบอย่างแห่งความเป็นผู้ใหญ่คือการให้และความเสียสละอีกด้วย เพื่อที่เด็กๆจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักให้แก่เด็กในรุ่นต่อๆไป สายธารแห่งการให้จะได้ไม่แห้งเหือดไปจากสังคมมนุษย์ ยิ่งถ้าได้ขยายผลไปสู่การให้แก่ เพื่อนร่วมโลกนอกสายเลือด ด้วยแล้วก็จะยิ่งแสดงถึงคุณธรรมแห่งการบำเพ็ญทานที่ยิ่งใหญ่ไพศาลมากขึ้นการบูซาเซียนด้วยชีวิตหมูชีวิตไก่ และชีวิตสัตว์อื่นๆในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น น่าจะทบทวนกันใหม่ว่าจะเป็นการบูชาเซียนชั้นสูงแท้จริงหรือ เพราะเซียนชั้นสูงนั้นท่านบริโภคผลไม้ มิได้บริโภคเนื้อสัตว์แต่ประการใดเลย ผู้ใดนำเนื้อสัตว์ไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีนจึงน่าจะเปลี่ยนเป็นการนำผลไม้ไหว้เจ้า เพื่อให้โอกาสแก่เซียนซั้นสูงเข้ามาบริโภคของไหว้เจ้าเหล่านั้น แม้ความเชื่อแบบนี้จะไม่ใช่ของพุทธศาสนา แต่การไหว้เจ้าด้วยผลไม้ที่ไม่มีเนื้อสัตว์เหม็นคาวและเหม็นสาบ ก็เป็นการสนับสนุนศีลข้อปาณาฯให้เป็นอธิศีลยิ่งขึ้น ตรุษจีน ก็จะเป็น ตรุษเจ และ ตรุษใจ ได้แท้จริง

    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";google_ad_slot = "8122705396";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

    ท่านจันทร์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1233108410796&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1233108410796&ea=0&frm=1&ga_vid=2092326216.1213437835&ga_sid=1233104227&ga_hid=735104991&ga_fc=true&flash=9.0.124.0&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=42&u_java=true&dtd=79" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
     
  17. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    สุขสันต์วันตรุษจีนครับ
     
  18. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขออนุโมทนากับคุณ kingkaewmath เป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ที่ได้ค้นพบต้นตอของความทุกข์ คือ อุปาทานขันธ์ห้า

    แล้วปฏิบัติเพื่อละการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านั้น

    ผลจากการปฏิบัติ ก็จะพบว่าความทุกข์ลดน้อยลง

    เพราะความทุกข์เหล่านั้นเกิดจาก อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า เห็นว่าเป็นตัวตน จึงมีเรา มีเขา มีสุข มีทุกข์ ตามการยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง

    เมื่อไม่มีอุปาทาน ก็จะไม่มีใครสุข ไม่มีใครทุกข์

    แต่การเกิดอารมณ์ต่าง ๆ ในขันธ์ห้า ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตามปกติ อารมณ์ชอบใจ พอใจ อารมณ์เบื่อหน่าย เศร้าหมองหดหู่ วิตกกังวล ยังคงมีให้เห็นในเวทนาของขันธ์ห้า

    แต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นเพียงกลไก ที่ต้องแสดงไปตามเหตุปัจจัยของขันธ์ห้า อย่างนั้น อย่างนั้น เป็นธรรมดาแล้ว

    ก็จะไม่เข้าไปแทรกแซง เข้าไปเปลี่ยนแปลง เข้าไปบังคับบัญชาให้มันเลิกเบื่อหน่าย เลิกหดหู่ เลิกเศร้าหมอง เลิกดีใจ เลิกเสียใจ

    มีแต่จะคอยดู คอยมอง คอยสังเกตุอารมณ์เหล่านั้นที่เกิดขึ้นในขันธ์ห้า ณ ขณะอย่างเงียบ ๆ ด้วยความเข้าใจ แต่ไม่เข้าไปแตะต้อง ไม่เข้าไปบังคับให้มันเป็นอย่างโน้นอย่างนี้

    จึงมีสติในการตามดู ตามรู้เท่าทันในอารมณ์เหล่านั้น ในกลไกของขันธ์ห้าเหล่านั้น เมื่อเห็นว่ามันกำลังคิด กำลังร้อนรน กำลังกังวล กำลังห่อเหี่ยวใจ

    เมื่อดูไป แล้วจะเห็นว่าขันธ์ห้า มันแก้ปัญหาของมันได้ โดยใช้กลไกในร่างกาย ในขันธ์ห้าของมันนั่นแหละ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ปัญหาที่ขันธ์ห้ามันก่อขึ้นมา

    มันทำมาอย่างนี้หลายภพหลายชาติ ที่ไม่หลุดพ้นกันสักทีก็เพราะไปมีอุปาทานว่าเป็นตัวเราผู้ทำ ผู้สุข ผู้ทุกข์ หรือแม้แต่ในชาตินี้ มันก็ทำอย่างนี้ของมันเองมาหลายปีแล้ว เท่าที่เราเกิดมา มันสร้างปัญหา มันแก้ปัญหา มาทำมาหากิน มันสุข มันทุกข์ ด้วยกลไกของมันเองมาตลอด

    แต่ด้วยความไม่รู้ อุปาทานว่ามีตัวเราอยู่ในขันธ์ห้า จึงไปรับภาระ ไปแบก ไปยึด ไปร่วมสุข ร่วมทุกข์กับมัน

    ทั้ง ๆ ที่ ถ้าถอยออกมาดูขันธ์ห้ามันทำงานไปตามกลไกของมัน ออกมาจากการยึดมั่นว่าเป็นตัวเราแล้ว มันก็ยังปรุงสุข ปรุงทุกข์ของมันได้เองอย่างเดิม แม้ไม่มีใครไปสนใจร่วมสุข ร่วมทุกข์ด้วยก็ตาม

    นี่เอง ที่เมื่อมีเราในขันธ์ห้า ก็จะมีเราเกาะไปสุข ไปทุกข์ ตามกลไกที่มันทำของมันเอง จึงต้องมีเราผู้ขึ้นลงไปตามอารมณ์ของการปรุงตามเหตุปัจจัยที่ขันธ์ห้ามันปรุงขึ้นมา กระเด็นกระดอนไปตามอารมณ์เหล่านั้น เพราะความไม่รู้ไปยึดไปเกาะมันนั่นเอง

    เราจึงต้องมาเรียนรู้ มาทำความรู้จัก มูลเหตุแห่งทุกข์ ที่เรียกว่า ตัวอุปาทาน กันให้มากกว่านี้สักหน่อยแล้ว

    จึงจะออกมาเป็นผู้ดูได้ และออกมาจากอุปาทานขันธ์ห้า ด้วยการเห็นว่า มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง


    ความหมายของ ..... อุปาทาน

    อุปาทาน

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา






    อุปาทาน คือ การยึดมั่นถือมั่นทางจิตใจ เช่น
    • ยึดมั่นถือมั่นในเบญจขันธ์ คือร่างกายและจิตใจรวมกันว่าเป็น"ตัวตน" และยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ถูกใจ อันมาเกี่ยวข้องด้วยว่าเป็น"ของตน"
    • หรือที่ละเอียดลงไปกว่านั้นก็คือยึดถือจิตส่วนหนึ่งว่าเป็น"ตัวเรา" แล้วยึดถือเอารูปร่างกาย ความรู้สึก ความจำ และความนึกคิด ๔ อย่างนี้ว่าเป็น"ของเรา"
    พุทธภาษิตมีอยู่ว่า "เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว เบญจขันธ์ที่ประกอบอยู่ด้วยอุปาทานนั่นแหละเป็นตัวทุกข์"

    ดังนั้น เบญจขันธ์ที่ไม่มีอุปาทานครอบงำนั้นหาเป็นทุกข์ไม่ ฉะนั้น คำว่าบริสุทธิ์หรือหลุดพ้นจึงหมายถึง การหลุดพ้นจากอุปาทานว่า"ตัวเรา" ว่า"ของเรา"นี้โดยตรง ดังมีพุทธภาษิตว่า "คนทั้งหลายย่อมหลุดพ้นเพราะไม่ยึดมั่นถือมั่นด้วยอุปาทาน"



    อ้างอิงจาก

    http://th.wikipedia.org/wiki/อุปาทาน





    สมาธิภาวนา

    ผู้ชมการแข่งขัน
    ย่อมจะเห็นการต่อสู้ที่แท้จริง
    ผู้ดูย่อมเห็น
    ผู้มองไปข้างหน้า หรือข้างหลัง
    ย่อมไม่เห็นตัวเอง


    จากหนังสือธรรมะ

    ฝนประปราย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2009
  19. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    การสละ การให้
     
  20. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    มนุษย์ก็เป็นเพียงธรรมชาติที่มาประชุมรวมกัน ประกอบด้วย ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ และมีธาตุรู้ที่มีปัญญาทางธรรมชาติเป็นตัวผลักดันให้กลไกดำเนินไปได้

    ทุกอย่างเป็นธาตุทางธรรมชาติล้วน ๆ ที่ไม่ได้เป็นตัวใครของใคร รวมกันขึ้นมาเป็นกลุ่มเป็นก้อน เพื่อยังประโยชน์ให้กับธรรมชาติ ธรรมชาติที่ย่อมมีการให้ ที่ย่อมมีความเมตตากรุณาความเอื้ออาทรในทุกสรรพสิ่งอยู่แล้วตามธรรมชาติ หากเข้าใจในธรรมชาติ ก็จะเข้าใจว่า การให้ การแบ่งปัน การช่วยเหลือกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาของ

    คือไม่ได้มีใครเป็นผู้ให้ ไม่ได้มีใครเป็นผู้รับ จึงไม่มีตัวใคร เป็นผู้ให้ใคร
    <O:p
    แต่พอมีอวิชชา คือความไม่รู้จริงในธรรมชาติ จึงเกิดอุปาทานขันธ์ห้าขึ้นมา มันอุปาทานไปยึดว่า ธรรมชาตินี้มีตัวมีตน มีตัวเราขึ้นมา หลังจากนั้นก็ไปยึดมั่นถือมั่นในทุกสรรพสิ่ง ไปแสวงหาเอาสิ่งที่เป็นธรรมชาติมาเป็นของเรา

    <O:pการไหลไป การหมุนเวียนไปตามกลไกของธรรมชาติ ก็เลยสะดุดหยุดลง เพราะมีเครื่องกั้น คืออัตตาตัวตนของตนนั่นเอง

    <O:pเมื่อมีตัวตนของตน จึงมีการเก็บกัก เพื่อสนองอัตตาของตน

    <O:pดังนั้น การให้ การแบ่งปัน การช่วยเหลือกันตามธรรมชาติที่เคยมี ก็สะดุดหยุดลงเช่นกัน

    <O:pเพราะหากแบ่งปันไป เราจะได้อะไรกลับมา

    <O:pเหมือนเมื่อก่อน ที่ดินแห่งหนึ่งไม่มีเจ้าของ มีบ่อน้ำอยู่ภายใน คนก็มาใช้ตักกิน ตักอาบ กันมากมาย

    <O:pเราก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ที่ไปร่วมตักน้ำมาใช้ มาดื่ม มากิน

    <O:pพอเมื่อวันหนึ่งมีคนมาแจ้งว่า มีเจ้าของแล้ว คนที่เคยเข้าไปตักน้ำจากบ่อนั้น ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินั้น ก็จะรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็ยังพอไปตักได้
    <O:pแต่หากเจ้าของที่ดินผืนนั้นมาขายให้กับเราอย่างไม่แพง และเราตกลงซื้อเรียบร้อยแล้ว
    <O:p
    ทันทีที่มีชื่อเราในโฉนด อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็น ของเรา ก็เกาะทันที ....ที่ดินของเรา
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...