โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 10 ตุลาคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ทุกคนรับรู้ถึงผลดีผลเสีย ของพลังกุลฑาลิณี(งูไฟ)แล้ว
    แต่กลับไม่มีใคร กล่าวขวัญถึงพลังพลังอันรุนแรง จากงูน้ำเงิน(จันทรามณี) และลมหมุนจากวาตะธาตุ

    ความเป้นจริงแล้วพลังอีกทั้งสองตัวก็รุนแรงไม่น้อยหน้ากุลฑาลิณีเลย
    เพียงแต่ไม่มีใครกล่าวถึง ด้วยไม่ค่อยเกิด(โดยมากจะเกิดหลังจากกุลฑาลิณีขึ้นแล้ว)
    ตรงนี้ก็มีความลับ (ซ่อนอยู่ในเกสา โลมา ฯ ในรอบท้ายๆ)
    มังกรน้ำเงิน(เกิดจาก ๖ และ ๗) กำเนิดขึ้นเพื่อควบคุมมังกรแดง
    ในทางกลับกัน มังกรแดง ที่ทะยานขึ้นก็เป็นตัวกระตุ้น และควบคุมมังกรน้ำเงินเช่นกัน
    ต่างฝ่ายต่างส่งเสริม ข่มสะกัดซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดลมหมุนขึ้น

    มังกรบูรพามาถึงจุดนี้แล้ว
    ประสานควบคุมพลังทั้งสามให้ดี อย่าเอาใจเลี้ยงดูผู้ใด(พลังทั้งสม)ให้ล้ำหน้ากว่ากัน
    มิฉะนั้นคงไม่จืดแน่ (มันยิ่งกว่าความเจ็บปวดจากงูไฟที่เคยประสพ)

    ผู้ที่รู้ความลับเหล่านี้ (ผู้ฝึกเกสา โลมา ฯ ที่มีทรงปัญญา ซอกแซกในรายละเอียด และขี้สงสัย จะรู้ความลับนี้ทุกคน)
    จะสามารถควบคุม การกำเนิดของงูไฟได้ ควบคุมงูน้ำเงินได้ และควบคุมการเกิดพายุหมุนได้
    เมื่อทรงปัญญาควบคุม มังกรแดง มังกรน้ำเงิน และพายุหมุนได้
    ไยต้องไปทนรับความทุกข์ทรมารจากพลังทั้งสาม
     
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    ท่านอาจารย์สุวิ ได้กล่าวมา


    เป็นตอนที่ ฟง และ หวิ๋น รวมพลังกัน เป็น มังกรทะยานฟ้า


    คือ ทั้งสองคน เป็นหยิน หยาง เยือกเย็นดาบน้ำแข็ง รวมกับ ร้อนแรงพิโรธ

    แล้วขี่พายุหมุน คือ ควบคุม การหมุนเป็นมหาพายุ ในตอนจบเลย



    ....ติดตามได้จาก " ฟงหวิ่น ขี่พายุทะลุฟ้า "



    โมทนากับความรู้ที่ท่านอาจารย์เปิดออกมาเพื่อประโยชน์สุขของทุกชีวิต
     
  3. pong10500

    pong10500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +399
    เรียนถามท่านผู้รู้ครับ
    ญาติของผม ท่านหนึ่งปัจจุบันอายุก็กว่า 70 ปีแล้ว
    ทำสมาธิมา 30 ปี พองหนอ ยุบหนอ แบบญาน 16
    ช่วงปลายปีที่แล้วประมาณ พย. เกิดอาการแปลกคือ
    มีอาการคล้ายกับว่า เห็นผู้จะมาทำร้าย เป็นภูมิที่เป็นทิพย์
    (คือคนธรรมดาอย่างผมไม่เห็น) และมักจะเข้าสมาธิยาว
    ทั้งวัน กลางคืนก็ไม่ค่อยได้นอน จะระแวงคนจะทำร้าย
    คนที่บ้านที่เป็นแม่บ้านก็โดนหาว่าเป็นปอบ ไม่ได้จ่ายเงิน
    เดือนแม่บ้าน 2 เดือนแล้ว อยู่ดีๆก็คิดว่าธนาคารจะโกง
    เลยไปปิดบัญชีเอาเงินมาเก็บไว้ที่บ้าน

    ปัจจุบันยังมีอาการแบบนี้อยู่ แต่ว่าพูดจารู้เรื่อง ดูแลตัวเองได้
    ไม่ยอมไปหาหมอ สุขภาพโดยรวมดีมาก

    ท่านอาจารย์และคุรุมีความเห็นและ วิธีรักษาใดๆบ้างไหมครับ
    ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ สาธุ
     
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO




    ลุงท่านฝึกมาสายนั้น

    คุณพงษ์ลองปรึกษาอาจารย์สายหนอหรือยัง ที่วัดมหาธาตุ หรือ ทางหลวงพ่อจรัญ สิงห์บุรี

    ถ้าอยู่กรุงเทพ ลองเอารูป ไปปรึกษาอาจารย์สุวิ หรือ ปรึกษาที่บู๊ทอาจารย์
    อาชวิน ถามความเห็นท่านดู

    โทรนัดอาจารย์สุวิไว้ก่อนก็ดี อาจารย์เดินสายบ่อย


    ( คุณพงษ์ อยู่ที่ไหนครับ เห็นลายเซ็นต์เป็นเรื่องหลวงปู่ดู่

    ถ้าได้ปรึกษาทางกลุ่มศิษย์หลวงตาม้า ก็ได้นี่ครับ

    เก่งๆกันหลายคน บางช่วงหลวงตาท่านลงกรุงเทพ
    ลองสอบถามกันดู )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กุมภาพันธ์ 2009
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    คุณ PONG 10500 ลองหาโอกาสไปพบหลวงปู่บุญฤทธิ์ก็ได้นะครับ

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO



    ชวนคู่รักทุกคู่ ไปทำบุญใหญ่ด้วยกันนะครับ





    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO




    OO วันที18-19 กุมภาพันธ์ 2552OO

    แจ้งข่าวดี สำหรับพี่น้องที่ต้องการสร้างบุญใหญ่ให้ตนและอุทิศแก่เจ้าบุญนายคุณ
    เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ

    เชิญทำบุญพระอรหันต์กลางกรุง และ ครูอาจารย์สายพระป่ากว่า 120รูป
    ( ครูอาจารย์ 94 รูป พระติดตาม 30 รูป )

    ที่สวนทิพย์


    ตามกระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=169636



    [​IMG]
     
  6. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    ผู้มีจิตบริสุทธิ์ ในคราบฆราวาส ที่แฝงตัวมาที่สวนทิพย์มีมากมายครับ


    มุ่งตรงต่อพระนิพพานเป็นส่วนมาก ถ้าคุณลุงท่านมีวาสนาเกี่ยวพันกัน คงได้พบคนที่จะช่วยได้อีกทาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2009
  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    <CENTER>OO ขอขมากรรม ปลงกรรม ลาบวชสักระยะOO

    </CENTER><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- ads code --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"></INS></INS>
    วันนี้ เป็นวันแห่งความรัก ที่ทางโลกตะวันตกเค้าตั้งกัน

    ช่วงนี้ มีโอกาสได้ย้อนกลับมาดูตัวเองมากขึ้น

    หลังจากมัวแต่แส่ส่าย ยุ่งเรื่องภายนอกมานาน



    กรรมใดก็ตาม ที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินต่อทุกท่าน


    ด้วย กาย วาจา ใจ

    ระลึกได้ก็ตาม ไม่ได้ก็ตาม แม้นานเพียงใด


    ขอให้ตัดขาดเป็นอโหสิกรรม นับแต่วินาทีนี้


    เพื่อเปิดโอกาส ให้ข้าพเจ้าได้สร้างบุญใหญ่แก่ตนและชีวิตอื่นต่อไป


    โดยได้ บำเพ็ญเพียรตามทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้


    สักระยะ.....



    และยังเป็นการอุทิศกุศลให้พ่อแม่ครูอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรเดิม

    เจ้ากรรมนายเวรของหลายชีวิต ที่มีผลจากการรักษา



    ขออภัยที่ไม่ได้บอกสถานที่และเวลาที่แน่นอน



    จาก เพื่อนที่ร่วมวนเวียนในวัฏฏะสงสารมานานแสนนาน


    โอม./

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    <table id="post1886443" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_1886443" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> กรรมเหล่าใด ที่ผมได้เคยล่วงเกิน


    ด้วยกายก็ดี , ด้วยวาจาก็ดี ,และด้วยใจก็ดี ,

    โดยรู้เท่าการณ์ก็ดี , และ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ดี


    ไม่ว่าอดีตชาติใด ที่ผ่านมาก็ดี

    จนถึง...ณ ชาติ...แห่งปัจจุบันก็ดี


    ขอคุณโอม จงได้อโหสิ ในกรรมสาม

    ที่ผมได้ลุล่างไปแล้ว ด้วยเทอญ.


    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

    <!-- / message --> </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("1886443")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> <!-- controls --> [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  9. มุนิน

    มุนิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    ขออนุโมทนาสาธุและขอขมากรรมต่อคุณโอมและคุรุทุกท่านที่เมตตาถ่ายทอดเคล็ดวิชามา ณโอกาสนี้ค่ะ
     
  10. pong10500

    pong10500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +399

    ขอบคุณครับเืพื่อนๆ และคุณโอม
    ผมได้สัพเพตามแบบของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าแล้ว
    แต่คุณน้า(น้องสาวแม่) ก็ยังไม่ดีขึ้น ผมก็ว่าจะไปที่วัด
    มหาธาตุท่าพระจันทร์ดู คุณน้าผมทำกรรมฐานที่คณะ 21

    คราวหน้าหลวงตาม้าขึ้นมากรุงเทพฯต้องไปเรียนถาม
    ท่านว่าจะมีวิธีอื่นอีกไม๊ ขอบคุณครับ
     
  11. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    ฮัลโล๊วว..อ.สุวิคร้าบบ
    ยังมีคนปูเสื่อรออยู่นะคร้าบบ
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ผู้ที่ฝึกได้ดีจนอายตนะ เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นทิพย์
    แต่ปล่อยวางไม่ได้ มีกิเลสครอบงำอยู่-แม้จะเบาบางลง แต่มีอัตตาค่อนข้างสูง
    พวกนี้เมื่อเห็นอีกมิติหนึ่งที่คู่ขนานอยู่ บางครั้งแยกออก บางครั้งก็ให้เลอะเลือน แยกสิ่งที่อยู่ในมิติ กับโลกแห่งความจริงไม่ออก

    การรู้การเห็น และสัมผัสได้มากเกินมนุษย์ธรรมดา
    ด้วยอัตตาที่สูง จึงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนพบตนสัมผัสล้วนเป็นจริงทั้งสิ้น
    ผู้ใดก็ไม่อาจเตือนได้(ก็มึงรู้มึงเห็นน้อยกว่ากู ซิชะ จะมาบอกให้เชื่อว่า สิ่งที่ข้ารู้ข้าเห็นข้าสัมผัสได้ ว่าไม่จริง)

    อาการเหล่านี้ ไม่ใช่ผีเข้า/ไม่ได้มีความผิดปกติทางจิต
    แต่เป็นเพียงเข้าใจผิดตามอัตตาละเอียดที่เห็นเองเออเอง ไร้ผู้คอยแนะนำที่ถูกต้อง
    บางครั้งบางคราอาจพบเจ้ากรรมนายเวร ในมิติ เลยมีการทวงถามกัน ทำให้เข้าใจว่าจะถูกทำร้าย
    บางครั้งก็ให้รู้จิตผู้ที่อยู่ใกล้ เอ้อ...มึงคิดไม่ดีกับกูนี่หว่า ไอ้นี่ทำดีต่อหน้า แต่ใจคิดหลอกเอาสมบัติกู ไอ้นี่หน้าไหว้หลังหลอก
    สรุปปล่อยว่างไม่เป็น
    นี่คือทุกข์ของพวกผู้มี อายตนะที่เป็นทิพย์ แต่ปล่อยวางไม่เป็น ยึดเกาะในอัตตาตนเองอย่างเหนียวแน่น

    ผู้ที่จะช่วยท่านผู้นี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่ฝึกได้สูงกว่าและใด้รับความเคารพและเชื่อฟัง จากผู้มีปัญหา
    นำการฝึกเข้าไปในมิติ ทำหน้าที่เป็นไก้ด์นำเที่ยว แนะนำสิ่งต่างๆที่พบเห็น
    แนะนำการวางตัว ที่จะเข้าไปสัมพันธ์เสวนากับผู้อยู่ในอีกมิติ(ซึ่งผู้อยู่ในมิติคู่ขนานก็มิกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง เช่นกัน)
    แนะนำ ทางเดินที่ถูกที่ควร การปล่อยวาง การละกิเลส ฯลฯ เพื่อเข้าสู่แดนอริยะ
     
  13. pong10500

    pong10500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +399
    เรียนท่านอาจารย์สุวิครับ

    ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับคำชี้แนะที่มีประโยชน์และน่าจะนำมาใช้รักษา
    อาการของคุณน้าได้
    คุณน้าของผมมีอาการอย่างที่อาจารย์พูดจริงๆ แต่ปัญหาในปัจจุบันนี้คือ
    อาจารย์ที่คุณน้าของผมเคารพนับถือท่านมรณะภาพไปนานแล้ว ดังนั้น
    การจะหาผู้ที่ฝึกได้สูงกว่าคุณน้า และเป็นที่เคารพของคุณน้าจึงเป็นปัญหาสำหรับผม .... จะทำอย่างไรดีครับ
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    โอมเอย....จะบวชแล้ว ลองเอาสิ่งนี้ไปพิจารณาด้วย

    ในการเข้าสู่ภูมิวิปัสสนา การพิจารณาธรรมโดยการดูสภาพจิต ในวาระหนึ่งๆเป็นตัวแทน
    (ดูเวทนาที่กายและอารมณ์เวทนาที่จิตเสวย ขณะที่ทรงสภาพธรรมหนึ่งๆ ที่เข้ามากระทบ-ทำกรรมฐานสามกอง กาย เวทนา จิต พร้อมกัน)

    มีอยู่ขบวนการหนึ่ง มีผู้ดู และผู้ถูกดู
    เมื่อผู้ดู ดูจนปรุโปรง(เข้าใจในทุกสิ่ง-รู้หนอ)
    เหมือนจับผู้ถูกดู มาชำแระจนเปล่าเปลือยถึงกระดูกและใส้ในแล้ว

    มีผู้ใดเคยย้อนกลับเปลี่ยนสถานะ จากผู้ดู กลับไปเป็นผู้ถูกดู และโดนชำแระบ้าง(ทำในกรณีและวิธีการเดียวกัน และสวมความรู้สึกเช่นเดียวกัน-เพียงเปลี่ยนสถานะ)
    หรือพูดตามภาษาชาวบ้านง่ายๆว่า เอาใจเขากลับมาใส่ใจเราบ้าง

    ข้อเขียนของโอม หลายๆโพส หลายๆกระทู้ มันกระทบผู้อื่น
    ในทางกลับกัน เวลาผู้อื่นเขียนกระทบกลับบ้าง โอมก็กระทบกลับ
    ก่อให้เกิดความอึมครึม อึดอัดไปทั่วห้องและกระทู้ในเวป

    หากแก้ว่า ต้องการสอนเขาให้รู้ตัว ผู้อื่นก็ใช้คำนี้แก้ต่างเช่นกัน
    ต่างฝ่านต่างไม่มีผู้หยุด
    ต่างฝ่ายต่างรู้ในธรรมที่สูง ล้วนต้องการกระทบเพื่อสอน
    แต่ไม่มีผู้ใดมองย้อนกลับที่ตัวเอง ให้ตัวเองเป็นผู้ถูกดูบ้าง ให้ตัวเองโดยชำแระบ้าง

    ธรรมานุสติกรรมฐาน ธรรมข้อสุดท้าย นอกจากดูเขาแล้ว ต้องย้อนดูตัว(โดยเปลี่ยนสถานะ)
    และต้องกระทบชิ่งสู่บุคลที่สามอีกด้วย(ท้ายสุดครอบคลุมทุกชิวิตที่เกี่ยวพัน)
    กระทบย้อนกลับกันไปมาดังนี้ จนสู่ข้อยุติในธรรมนั้นๆ
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    นี่คือปัญหาที่ผู้สอนวิชชา ด้วยใจที่เกื้อกูล
    แต่สอนไม่หมดเปลือก ขยักบางส่วนไว้
    เมื่อผู่ฝึก ฝึกมาถึงจุดนี้แล้ว มีปัญหาแล้วจึงบอกวิธีแก้และสอนต่อ
    ซึ่งก็เป็นเช่นนี้แต่โบราณ

    เมื่อสายไปแล้ว

    แล้วจะแก้เช่นใดหนอ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2009
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    จากเรื่องที่คุณโอม กล่าวถึง
    ทำให้ระลึกได้ถึงนิทานเรื่องหนึ่ง มีส่วนที่คล้ายกันาก

    มีผู้กล้าท่านหนึ่ง ทรงวิทยาสูง ท่านพบเด็กสองคน มีภูมิปัญญา และโครงสร้างร่างกายที่เยี่ยม
    นับเป็นอัฉริยะที่ฟ้าประทานมาให้ทีเดียวถึงสอง

    แต่ว่าเด็กทั้งสอง ถูกเลี้ยงดูไม่ดีแต่ทารก ทำไห้ป่วยไข้อยู่เนืองๆ
    หนึ่งผู้พี่ ให้ผอมแห้ง ไร้เลือดลม เพียงโดนลมกระทบ ก็ให้หนาวสั่น ป่วยจับไข้อยู่ตลอด
    อีกหนึ่งผูน้อง แม้จะผอมแห้ง แต่ดวงตาสดใสประกายแดงวาว หน้าตาแดงดังเพลิง แต่ก็ป่วยตัวร้อนเจ็บปากเจ็บคอ ออดๆแอดๆอยู่ตลอด

    ตกลงทานรับทั้งสองเป็นศิษย์
    เคยจำได้ว่าเมื่อตอน ตนเองเริ่มเรียนวิชาทั้งปวง ท่านอาจารย์สอนว่า
    พลังปราณที่ฝึกดีแล้วสามารปรับปรุงร่างกายที่ปว่ยไข้ให้กลับคืนดีสู่สภาปกติได้ได้
    จึงเริ่มให้เด็กทั้งสองฝึกปราณตั้งแต่เริ่มต้น และเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
    ทว่ายิ่งฝึก ตอนแรก ทั้งสองดูมีสุขภาพดีขึ้น แต่ในตอนหลังๆกลับรู้สึกผิดปกติ
    ความก้าวหน้าในปราณ กลับขึ้นๆลงๆ อาการป่วย บางครั้งก็ดีขึ้นบางครั้งกลับเลวลง
    แต่ถ้าฝึกแบบไม่เข้มข้น(ปกติ-ฝึกสบายๆ) กลับมีสุขภาพดี
    แต่พอพลังเริ่มเดิน สุขภาพกลับถดถอย ป่วยไข้

    ดังนั้นจึงนำความกลับไปปรึกษาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดพร้อมนำเด็กทั้งสองไปมอบให้อาจารย์ปู่

    เมื่ออาจารย์ปูตรวจดูแล้ว ก็ยังคงให้ทั้งสองฝึกเหมือนเดิม
    เพียงให้ทั้งสองกินยาบำรุงปรับธาตุทุกวัน
    ผู้พี่ท่านให้ยาปลูกเตโช
    ผู้น้องท่านให้ยาเขียวมหาพรหมหม
    ยาทั้งสองเป็นยาง่ายๆ แต่กลับให้ผล สุขภาพเด็กทั้งสองดีขึ้น การฝึกก้าวหน้าขึ้น
    จนถึงสามารแช่ในน้ำร้อนและรดตัวด้วยน้ำแข็ง(น้ำละลายจากหิมะบนยอดเขา)โดยพร้อมกัน พลังก้าวเข้าสู่จุดยอด
    แต่หลานศิษย์ทั้งสองรู้เพียงว่าได้กินยาปรับธาตุก่อน แต่ไม่รู้ถึงความแตกต่างของตัวยา
    ทั้งสองได้รับถ่ายทอดวิชาเฉกเช่นเดียวกัน กระบวนท่าเดียวกัน แต่แตกต่างในฐานวิชา หนึ่งร้อน หนึ่งเย็น

    จนสุดท้ายการถ่ายทอดวิชาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงเหลนๆ
    ความแตกต่างในวิชาทั้งสองสายยิ่งชัดเจน ดุจมาจากคนละรากเง่า

    เมื่อมาคุยกัน ต่างถือของตนถูกต้อง ของผู้อื่นนั้นผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2009
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ขอบพระคุณ ที่มีเมตตา กรุณา ชี้แนะ


    ข้อความข้างบนเรื่อง ฟง หวิ๋น แค่เขียนเล่นๆ ไม่ได้มีวิชาการอะไร
    เป็นการดูหนังสนุกๆ เห็นว่า แปลกดีที่สอดคล้องกับวิชาทั้งหลายในการเดินปราณ ( ที่จริงคนเขียน ซึ่งเป็นคนจีน เรื่องลมปราณ เป็นเรื่องพื้นๆสำหรับคนในจีน )


    เป็นธรรมดาของโลก ทุกยุค ทุกสมัย
    ที่ใครก็ตามเมื่อติดว่า ตนเป็นผู้ทรงธรรมแล้ว แม้แต่สมัยพุทธกาลมา จะสอนคนอื่นก็ย่อมมีบ้างตามประสาความเป็นคนมีกิเลสอยู่ ที่มองไม่เห็นตน
    บางสถานะการณ์ ไม่จำเป็นหรอกว่า ต้องมีคนรับผิดว่าตนเริ่มก่อน
    เพราะ แต่ละคน ก็มองไม่เห็นตน
    ต้องอาศัยมุมมองจากคนอื่นๆมาสะท้อนบ้าง ต้องขอบพระคุณทุกท่าน ทีช่วยให้ผมได้เห็นกิเลสตัวเอง ที่มีอีกเยอะ

    แม้ในสมัยพุทธกาล ต้องมีวันปวารนา ให้ผู้อื่นวิจารณ์ได้เป็นการเปิดโอกาสให้ร่วมกันปรับปรุง

    การสะท้อนขึ้นกับความเที่ยงของผิวกระจก ว่าเที่ยงตรง แสงไม่เพี้ยน


    แต่ อย่างไร กระจก ก็คือ การสะท้อนต่างมุม

    ไม่ใช่ การเห็นรอบคือ อยู่ในศูนย์กลางแล้วเห็นครบทุกมุม องศา
    สมบูรณ์เหมือน พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    ซึ่งยุคนี้ ท่านก็ดับขันธ์ไปแล้ว

    ก็คงมีเพียง ตนจะหยุดนิ่ง เพื่อเห็นตนโดยรอบหรือไม่
    ซึ่งที่ผ่านมา ผมจะทำผิดบ้าง ถูกบ้าง
    ต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์ ที่เน้นให้ เอาใจเขามาใส่ใจเรา

    หลายอย่างเราคิดว่าดีแล้ว แต่ อาจไม่เหมาะสมด้วยเวลา กาละ เทศะ
    ด้วยไม่พิจารณาให้ละเอียดยิบว่า... ถ้ามีคนมองต่างมุมแล้วเกิด
    มโนกรรม วจีกรรมต่อกัน มันก็ก่อห่วงโซ่กรรมอีกแล้ว


    การได้อุทิศ สละ ด้วยการเสี่ยงต่อการรัก ชัง มโนกรรม วจีกรรม
    กายกรรม ของท่านทั้งหลาย นับว่า มีค่ายิ่งกับผม

    บางอย่างดูลึกไป บางอย่างดูตื้นไป ...ขึ้นกับว่า
    ควรดูพอดีๆ ซึงพอดีแต่ละคนก็ต่างกันอีกละ ยากจัง
    เอาพอดีโดยรวม ก็แล้วกัน

    ถ้าเกี่ยวพันกัน แล้วมีประโยชน์เกื้อกูลน้อยก็ต้องต่างคนต่างไป
    ถ้าเกี่ยวพันกัน แล้วมีประโยชน์เกื้อกูลกันมากขึ้นๆๆๆ แผ่ออกไปก็รักษาและพัฒนา


    ต่อไปนี้

    ผมจะไม่ขอเกี่ยวพันธ์ด้วยทุกประการ ที่ผ่านมาขอให้ตัดขาดทุกอย่าง
    สิ่งใดผมผิด ผมก็รับวิบากกรรมนั้น

    ต่อไปการกล่าวอะไรออกไป จะกล่าวอิงธรรมให้มากที่สุดเป็นกลางที่สุด ไม่มีอคติ รัก ชัง กับใคร

    เพื่อเกื้อกูล เพื่อสงเคราะห์ โดยรวม หรือ ถ้าคนๆใดขอให้แสดงหรือ
    ถาม จึงแสดงต่อเขา


    ไม่เอาธรรมมาฟาดฟัน เบียดเบียนใคร


    แต่ถ้าคนมาอ่าน มีอะไร ตรงกับในใจแล้วมีปฏิฆะ ความไม่พอใจ
    สามารถคุยกันได้ฉันท์กัลยาณมิตร ว่า เรามีเจตนาอย่างไร


    ผมเปิดเผย และยอมรับฟัง

    มีประเด็นไหน มุมไหน ขอทุกท่านโปรดชี้แนะ
    จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO




     
  18. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ผมได้เก็บเกี่ยว สิ่งที่ดี เหมาะสมกับผมไว้แล้ว

    ผมไม่ตัดสินอย่างเที่ยงแท้ ว่าใครผิดถูก เพราะ เหตุปัจจัยต่างกัน



    ตั้งแต่ โพสเรื่อง การอาบน้ำแข็งมา

    ผม ได้เสริมขัอด้อยของกายเนื้อของตน ปรับฐานจิตในโลกธรรมให้แน่นขึ้น โดยมีทุกสิ่งเป็นครู
    เสริมวิชาเดิมหลากหลาย ให้ประสานกัน ด้วยการชี้แนะของทุกท่านในกระทู้และ ในเวปนี้ ที่แลกเปลี่ยนกัน

    และยังคงต้องพัฒนาต่อไปตามทางของผม


    การเดินทางเพื่อพัฒนาตน ยังอีกยาวไกลในวัฏฏะสงสาร ยังไม่จบ

    ที่ผ่านมา ขอให้เก็บเกี่ยวเพียงสาระที่มีคุณต่อตนและสรรพชีวิต

    เพราะ เราเป็นคน


    อย่างไรเสีย ผมซึ่งเป็นผู้น้อย ต้องขอบพระคุณท่าน ที่กล้าเปิดเผย
    ออกมาในฐานะบุรษผู้มีใจเที่ยงตรง และ กรุณา ผู้น้อยอย่างผมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กุมภาพันธ์ 2009
  19. house072

    house072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +177
    ขออนุโมทนา กับ อ.สุวิ และพี่โอม ค่ะ เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกใจสบายขึ้นนะค่ะ ขอบคุณ ท่านทั้งสองนะคะ ที่ให้บทเรียนอะไรมากมาย ขอบคุณมากค่ะ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีนิทานมาเล่าอีกแล้วจ้า....

    นายจิตหนึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังงาม อยู่มาตามประสาเป็นสุขโข
    แม้ในบ้านจะมีตัวประหลาดเช่นหนูแมลงสาบ ฯลฯ อยูบ้าง ก็มิใช่เรื่องใหญ่โต
    ต่างฝ่ายมิได้แสดงเดโชต่อกัน
    ที่ควรหลบก็หลบ ที่ควรซ่อนก็ซ่อนเสีย
    ต่างก็เคลียพื้นที่แยกกันอยู่

    แต่แล้ววันหนึ่งให้เคราะซ้ำกรรมซัด จัดไห้มาปะหน้ากันทั้งคู่
    นายจิตหนึ่งตะลึงแลดู อุแม่เจ้า บ้านกูพินาจแน่
    ว่าแล้วต้องดูแล กำจัดแท้ต้วประหลาด ไล่ล่าอาละวาดทุกซอกที่
    ใช้ทั้งน้ำทั้งไฟไล่ล่าผลาญชีพมันให้สิ้น เพื่อให้บ้านดูดี

    ด้วยโกธาไล่ล่าอาละวาด บ้านงามพังพินาจสิ้นศรี
    แม้หมดสิ้นตัวประหลาด มาเบียดเบียนให้บ้านมีราคี
    บ้านดีๆก็พังหมด อดอยู่เลย

    แล้วนายจิตหนึ่งต้องร่อนเร่ หาบ้านใหม่
    โอ้ใจอนาถแท้ประมาทหนอ
    ท่านทั้งหลายเล่า ไล่ล่าตัวประหลาดในกายเลยเพียงพอ ทำลายหอที่อาศัยจนพัง
    จะพังหมดหรือไม่ แล้วแต่ท่าน จะพิจารณาความเหมาะความควรเนาะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...