ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    ท่านบอกว่า เดี๋ยวมันก็มาเอง ท่านจะลงไปนครศรีฯวันอาทิตย์นี้ ( 21ก.พ.52) ท่านบอกว่าต้องใช้บารมีท่านช่วยสร้าง ถ้าพระที่บารมีไม่พอสร้างไม่ได้....................... พอสักครู่ ท่านบอกให้หาไฟฉาย ให้หน่อยอยู่ใต้โต๊ะ<O:p</O:p
    พอได้ไฟฉายแล้วท่านก็ล้วงวัตถุคล้ายหินเป็นรูปสามแหลี่ยมด้านเท่าประมาณ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]6 นิ้ว</st1:metricconverter> และ ทรงกลมรัศมี ประมาณ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="3 นิ้ว">3 นิ้ว</st1:metricconverter> ออกมา พร้อมกับฉายไฟฉายไปที่วัตถุสามเหลี่ยม ตะลึงเลยครับแสงที่ออกมาเป็นสีเขียวมรกต <O:p></O:p>
    ท่านก็เอาไว้บนหัวท่าน ( ตอนนั้นผมรู้สึก ว่าร่างที่พูดเป็นร่างอาจารย์ผม แต่เสียงพูดไม่ใช่...อาจเป็นหลวงปู่องค์ใดก็ได้ เพราะท่านผ่านญาณบ่อย มีหลวงปู่โต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ สำหรับผมเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ผมมาประมาณ 3 ปีแล้วครับ ได้รู้เห็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติหลายอย่าง ได้ฟังคำสอน ธรรมะ ฯลฯ จนผมไม่มีความสงสัยในตัวของพระอาจารย์เลย)<O:p</O:p
     
  2. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    ท่านบอกว่านี่แหละแก้วจักรพรรดิ์ ของหายากต้องไปเอาจากเมืองบาดาลมา เพราะต้องขอบารมีมาช่วยสร้างเทวสถานเพราะเดี๋ยวนี้มารลงมามาก เทพ พรหม ต้องลงมาช่วยปราบมาร เพื่อช่วยบำรุงพระศาสนา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ครบ 5,000 ปีตามที่ได้เคยรับว่า จะรับช่วงต่อจากพระอรหันต์จาก 2,500 ปี ยุคนี้จึงเป็นยุคของ เทพพรหม<O:p</O:p
    พอดีผมนั่งกับ รองหัวหน้าที่ทำงานผม ท่านยื่นให้ บอกว่าให้ขอบารมีท่านได้ แล้วท่านก็หยิบลูกกลมๆ อีกลูกหนึ่งมา แล้วเอาไฟฉายส่ง โห... ออกมาเป็นสีน้ำเงินสวยมากเลยครับ ท่านบอกเป็นงัย เหมือนเจ้าเงาะไหม รูปร่างภายนอกเป็นสีดำ แต่ภายในนั้นเป็นสีทอง ไม่มีบารมีไม่ได้ชมหรอก แล้วท่านก็ยื่นให้ผม มือที่ท่านยื่นมานั้นสั่นๆ เหมือนมือพระแก่ๆอายุมาก ทั้งที่ท่านก็ 40 ต้นๆเอง ผมจับดูมันปิติอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่มองภายนอกก็เป็นก้อนหินธรรมดาเท่านั้นเอง น้ำหนักอาจเบากว่าหินหน่อย สีดำๆ เทาๆ ......ไม่ใช่เป็นสีขาวใส สีน้ำเงิน สีเขียวฯ ดูยังงัยก็หินธรรมดานี่เอง แต่เมื่อเอาไฟฉายส่องที่แก้วจักรพรรดิ์ก็ออกเป็นสีน้ำเงินสวย ถ้าไม่เห็นกับตาผมเอง ผมก็ไม่เชื่อนะครับ ว่าหินอะไรเอาไฟส่องจะออกเป็นสีน้ำเงิน มีตอนหนึ่งท่านบอกว่าเป็นงัยบ้าง แก้วจักรพรรดิที่ฤาษีลิงดำบอก (ท่านใช้คำว่า ฤาษีลิงดำ ไม่มีหลวงพ่อนำหน้า) เราบารมีดีกว่าฤาษีลิงดำอีก ผมได้ยินท่านพูดอย่างนี้ก็ เหมือนมัน...ตึ๊ก...อยู่ในใจเพราะโดยส่วนตัวผมเคารพหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ก็มองหน้าพระอาจารย์ ใจคิดจะค้านท่านที่บอกว่า เราบารมีดีกว่าฤาษีลิงดำมาก แต่ก็ต้องดึงจิตตัวเองออกมา เพราะรู้ว่านั่นไม่ใช่อาจารย์ผมแน่ที่พูดออกมาอย่างนั้น (มาคิดตอนหลังเวลาที่ผมนำหนังสือคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไปถวายท่านหลาย 10 เล่ม ท่านไม่เคยเก็บหนังสือของหลวงพ่อไว้ที่ต่ำเลย จะเก็บไว้ที่สูงตลอด )<O:p></O:p>
    ท่านบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมาช่วยกันสร้างฯ ช่วยกันค้ำชูพระศาสนา ตอนนี้มา แล้ว 2 สีรู้สึกว่าท่านจะบอกว่าแก้วจักพรรดิ์ มี 7 สี
    ( ประสบการณ์เมื่อวานนี้ยังมีอีกมากครับ เล่าไม่หมด ........)
    <O:p</O:pเล่าสู่กันฟังครับ กับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต<O:p></O:p>
    <O:pดีนะที่ผมไม่กลับก่อน ไม่งั้นก็ไม่ได้เห็นแน่นอน</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2009
  3. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6657 ข่าวสดรายวัน


    ปลายก.พ.ดาวพิษ"ลู่หลิน"โคจรเฉียดโลก




    [​IMG]ดาวหางลู่หลินระเบิดส่งแสงสีเขียวออกมา ซึ่งแสงสีเขียวนี้คือกลุ่มก๊าซพิษ "ไซยาโนเจน" และ "ไดอาโตมิกคาร์บอน" โดย "ลู่หลิน" กำลังเคลื่อนที่เข้าหาโลกด้วยความเร็วอย่างน้อย 61 ล้านกิโลเมตร และวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ "ลู่หลิน" จะเคลื่อนเข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ซึ่งภาพนี้ถ่ายไว้โดยนายแจ๊ก นิวตัน นักดาราศาสตร์มือสมัครเล่นจากรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา

    สำหรับผู้ที่ค้นพบ "ลู่หลิน" คือนายฉีเช็งหลิน นักศึกษาด้านดาราศาสตร์ชาวไต้หวัน ที่ถ่ายรูปไว้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 และตั้งชื่อตามหอดูดาวลู่หลินของไต้หวัน ส่วนผู้ที่ทราบว่าเป็นดาวใหม่คือ นายเย่ฉวนจื้อ นักศึกษาด้านดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น ประเทศจีน

    ด้านโฆษกองค์การนาซ่า เปิดเผยว่า ระยะที่ลู่หลินเคลื่อนที่ใกล้โลกมากที่สุดนั้น นับเป็นระยะที่พอๆ กับดาวอังคารที่โคจรอยู่ห่างจากโลก และการเห็นกลุ่มก๊าซเป็นสีเขียวเนื่องจากกระทบกับแสงของดวงอาทิตย์ในสภาพที่เกือบเป็นสุญญากาศของอวกาศ ส่วนการสังเกตดู "ลู่หลิน" นั้น ระยะเวลาที่ดีที่สุดคือ อาทิตย์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/0jKJaGVlUKk&hl=en&fs=1 width=480 height=295 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    หน้า 28

    รถฝ่าด่านตำรวจจ๋อย เจอ"เอ็กซ์-เน็ต"หยุดซิ่งทันที



    [​IMG]
    ตำรวจอังกฤษทดลอง "เอ็กซ์-เน็ต" อุปกรณ์หยุดรถ ที่ปัจจุบันทหารอเมริกันกำลังใช้ที่อิรักและอัฟกานิสถาน เพื่อหยุดรถบรรทุกระเบิดฆ่าตัวตาย

    ตาข่ายของ "เอ็กซ์-เน็ต" มีตะปูเรือใบติดอยู่ วิธีการทำงานนั้นคือ ปู "เอ็กซ์-เน็ต" ที่มีขนาด 10x19 ฟุต ไว้บนถนนเวลาตั้งด่าน เมื่อรถไม่หยุดที่ด่านและวิ่งไปบน "เอ็กซ์-เน็ต" ตาข่ายจะหุ้มล้อรถยนต์ทั้งสี่ ส่วนตะปูเรือใบจะแทงเข้าไปในยาง ทำให้รถยนต์หยุดภายในระยะทาง 75 เมตร นอกจากนี้ "เอ็กซ์-เน็ต" ยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ใช้เวลาปูเพียง 20 วินาที และสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่เหยียบน้อย ใช้ได้หลายครั้ง ปลอดภัยกับทั้งผู้ขับขี่และเจ้าหน้าที่

    ประสิทธิภาพของอุปกรณ์หยุดรถยนต์ราคา 150,000 บาทนี้ เหนือกว่าการโรยด้วยตะปูเรือใบหลายขุม รถยนต์เมื่อเหยียบตะปูเรือใบแล้ว ยังแล่นได้ต่อ และอาจสร้างความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สินของบุคคลที่ 3 แต่ถ้าเหยียบ "เอ็กซ์-เน็ต" แล้ว รถไม่มีทางแล่นได้อีก ซึ่งตำรวจจะนำอุปกรณ์นี้มาดักจับรถยนต์ที่ถูกขโมย

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/n8FNR8BryR0&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/-09rw1g1bOo&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    หน้า 28


    บิ๊กแบง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดอร์แฮม ประเทศอังกฤษ ใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพว่า จักรวาลในยุคเริ่มต้นหลังจากเกิดบิ๊กแบงราว 500 ล้านปีมีสภาพเป็นอย่างไร

    [FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]







    เคล็ดลับฟิตปั๋ง

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หนังสือพิมพ์ "จีนปัจฉิม" แจ้งว่า ในเมืองเฉิงตู มีอีตาลุงคนนึงแข็งแรงหยั่งกะช้าง

    นั่นก็คือ นายหวง ฟุกุ้ย แม้ปีนี้อายุปา 64 ปีเข้าไปแล้ว แต่ยังฟิตปั๋งขนาดเล่นกายกรรมโหนเชือกกลับหัวสบายๆ!

    "เมื่อ 2 ปีก่อนลุงป่วยหนัก พอลองหันมาออกกำลังกายเล่นกายกรรมทีนี้ร่างกายดันแข็งแรงขึ้นทันตาเห็น เลยอยากให้ผู้เฒ่าผู้แก่ลองปฏิบัติตัวตามลุงดูบ้าง ส่วนอุปกรณ์น่ะแทบไม่ต้องลงทุนอะไร แค่เอาเชือกมัดกับต้นไม้เป็นพอ!" ลุงหวง ว่างั้น

    ด้านคุณหมอซื่อ เจียงกัง ผศ.วิทยาลัยพลศึกษาเฉิงตู บอกว่า น่าทึ่งที่ลุงมีสุขภาพดีเช่นนี้ แต่สำหรับคนชราทั่นอื่นๆ ไม่แนะนำเด็ดขาด เพราะเกรงว่าจะทำให้ "หายไปจากโลก" มากกว่า "หายจากโรค"...แฮ่!

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

    ออสซี่พิพากษา2คดีสวาทครู-ศิษย์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    นายโบมอนต์ (ขวา)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 18 ก.พ. สำนักข่าวเอเอพีของออสเตรเลีย รายงานว่า ผู้พิพากษาศาลเขตรัฐวิกตอเรีย ตัดสินจำคุกนายแอนดรูว์ โบมอนต์ ครูหนุ่มวัย 31 ปี เป็นเวลา 4 ปีครึ่ง ฐานมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงวัย 15 ปี ที่มาหลงรักหัวปักหัวปำ และคบหาอยู่ 3 เดือนก่อนเลิกกัน เมื่อเด็กรู้ความจริงว่าครูมีเมียแล้ว

    ผู้พิพากษาเฟลิซิตี้ แฮมป์เปล กล่าวว่า นายโบมอนต์รู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองแต่งงานแล้ว เมื่อเด็กมาปรึกษาปัญหาหัวใจ แทนที่จะอธิบายถึงความไม่เหมาะสม กลับฉวยโอกาสหลอกลวงเด็กว่ายังโสดเพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์ด้วย พฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับการตั้งใจล่าเหยื่อ สำหรับโทษจำคุกนั้นต้องติดคุกก่อน 3 ปี จึงมีสิทธิขอลดโทษ

    คดีนี้เกิดขึ้นช่วงกลางปีก่อนขณะนายโบมอนต์เป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ที่โรงเรียนมัธยมศึกษาเวสต์เทิร์ตไฮต์ เมืองจีลอง นายโบมอนต์มีเพศสัมพันธ์กับศิษย์สาวทั้งในโรงเรียน รถยนต์ และบ้านพัก นอกจากนั้น ยังใช้ชื่อปลอมเปิดบล็อกในเว็บไซต์มายสเปซเพื่อใช้เป็นสื่อกลางติดต่อกับศิษย์ และผลการค้นบ้านครู ตำรวจพบภาพโป๊หญิงสาวในคอมพิวเตอร์ด้วย

    วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ดิเอจ รายงานผลการตัดสินคดีครูหญิงในนครเมลเบิร์น ชื่อ น.ส.นาซิรา ราเฟ วัย 26 ปี ถูกตัดสินมีความผิดในข้อหาอนาจาร แต่ยังไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนวัย 15 ปี จากการไต่สวนคดี ครูสาวเริ่มคบหากับศิษย์วัยโจ๋ ตั้งแต่ต้นปี 2551 ลูกศิษย์เป็นฝ่ายจีบครูก่อน กระทั่งในวันวาเลนไทน์ เมื่อครูสาวมาพบลูกศิษย์หนุ่มที่ห้องสมุด นักเรียนรายนี้ไปคุยกับเพื่อนว่า ตนเองมีหวังจะมีเซ็กซ์กับครู จากนั้นวันที่ 26 ก.พ. ครูสาวไปพบนักเรียนหนุ่มที่บ้าน มีการจูบกอดกันบนเตียง แต่ไม่ถึงกับมีเพศสัมพันธ์

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    เอดส์แซงทุกโรคคร่าจีนสูงสุด



    เมื่อ 18 ก.พ. กระทรวงสาธารณสุขจีนแถลงว่า โรคเอดส์คร่าชีวิตชาวจีนมากที่สุดเมื่อเทียบกับโรคติดต่ออื่นๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่โรคเอดส์แซงหน้าโรคอื่นๆ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ชาวจีนเป็นเอดส์เสียชีวิตราว 7,000 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2550 ถึง 5 เท่า ขณะที่วัณโรคและพิษสุนัขบ้าตกไปอยู่อันดับที่ 2 และ 3

    หน้า 7

    ช็อกกว่าครูกับศิษย์ แม่-ลูกดช. ถ่ายคลิปโชว์เซ็กซ์

    "มูลนิธิกระจกเงา"แฉ ตร.ตรวจเจอในเว็บโป๊ ครูสาว-รร.จ่อโดนอีก! ไม่มีใบอนุญาตให้สอน



    สุดช็อกโผล่อีกแม่มีสัมพันธ์กับลูก ชายวัย 12 และ 14 ปี แถมถ่ายคลิปนำไปขายในเน็ต แค่ 5 พันบาท มูลนิธิกระจกเงา-ศูนย์เฝ้าระวังวธ. แฉปัญหาเซ็กซ์วิปริตระบาดหนัก โดยเฉพาะในเน็ตโพสต์กันว่อน มีทั้งตั้งใจทำและหลุดออกมาหรือถูกแอบถ่าย ชี้มือถือเยอะสุด เพราะสามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ แม้คนถ่ายจะลบไปแล้วก็ตาม ตะลึงเว็บลามกแพร่หลายกว่า 100 เว็บ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ให้เข้าไปดูได้นับล้านคลิป จี้ตร.เร่งดำเนินการ ส่วนคดีครูสาวขืนใจศิษย์พบไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภางงปล่อยให้สอนได้อย่างไรนานถึง 4 ปี อาจถูกดำเนินคดีเพิ่ม เช่นเดียวกับโรงเรียนที่ให้สอนก็มีความผิดเช่นกัน

    จากกรณีสะท้านสังคมน.ส.วรรณ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ครูภาษาอังกฤษโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านยานนาวา กทม. ถูกตำรวจจับกุมในข้อหากระทำอนาจารและขืนใจ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นป.6 โดยเหตุเกิดช่วงที่ด.ช.เอไปเรียนพิเศษที่ห้องพักของน.ส.วรรณ เบื้องต้น น.ส.วรรณอ้างว่า ด.ช.เอรบเร้าขอมีสัมพันธ์ด้วยจึงยินยอม และมีเพศสัมพันธ์กันถึง 4 ครั้ง เนื่องจากเด็กขู่จะนำเรื่องไปเปิดโปง กระทั่งมีเพื่อนครูทราบเรื่องและนำไปแจ้งทางโรงเรียนและผู้ปกครองของด.ช.เอ โดยน.ส.วรรณตัดสินใจลาออกก่อนถูกจับกุมดังกล่าว

    ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายธนารัชต์ สมคเณ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) คุรุสภา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติครูสาวที่ข่มขืนนักเรียนชายชั้นป.6 นั้น พบว่า ครูคนดังกล่าวยังไม่ได้ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แต่ได้สอนอยู่ในโรงเรียนมาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ขณะเดียวกันทางโรงเรียนก็ไม่ได้ทำเรื่องขอยกเว้นนำครูที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้ามาปฏิบัติการสอน จึงถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลา กรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 โดยคนใดที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และมาสอน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนสถานศึกษาที่รับครูไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาสอน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง กมว.จะเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาในวันที่ 25 ก.พ.นี้ เพื่อให้ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา

    นายธนารัชต์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการที่ กมว. ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบวิชาชีพประพฤติผิดจรรยาบรรณแจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามา ปรากฏว่าก่อนหน้าที่จะมีการประชาสัมพันธ์มีคดีร้องเรียนเข้ามาประมาณ 100 คดี แต่ผ่านไป 2 เดือนมีผู้แจ้งเข้ามาเพิ่มเติมรวมกว่า 600 คดีแล้ว ซึ่งภายในเดือนก.พ.นี้ กมว.จะตั้งคณะอนุกรรมการลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากคดีใดมีมูลก็จะดำเนินการสอบสวนต่อไป

    นางลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีครูสาวละเมิดทางเพศเด็กป.6 ว่า ไม่คิดว่าจะเป็นการบังคับเพราะเด็กโตขนาดนี้ วัย 13 ปี กำลังอยากรู้อยากเห็นเป็นหนุ่มเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเด็กอาจเสพสื่อลามก จากวีซีดี อินเตอร์เน็ต หรือที่สาธารณะเห็นรุ่นพี่กอดจูบกับแฟน แต่อีกส่วนหนึ่งสภาพแวดล้อม อาจเห็นจากพ่อแม่มีเพศสัมพันธ์ คนข้างบ้านหรือแหล่งเสื่อมโทรม ประกอบกับการเสพสื่อกระตุ้นเยอะมากไม่มีเรื่องสร้างสรรค์กระตุ้นให้เด็กหักห้ามและทำให้กล้าลองได้ ส่วนทางด้านครูสาวด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ที่มีอำนาจกว่า หากจะบอกว่าเด็กรุกเร้าขอมีเพศสัมพันธ์ ครูที่มีอำนาจมากกว่าก็น่าจะหยุดเด็กได้ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่คนสองคนที่รู้ข้อเท็จจริง แต่จากนี้เด็กคนนี้ควรได้รับการเยียวยาจากนักจิตวิทยา นักพัฒนาการเด็กเพื่อไขปมให้เด็กลืมภาพในอดีต และมีชีวิตปกติได้

    วันเดียวกันที่มูลนิธิกระจกเงา ถนนศรีอยุธยา จัดเสวนา "คลิปหลุด คลิปแอบถ่าย... อาชญากรรม ไม่ใช่สื่อบันเทิง" นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานมูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ปัญหาเทคโนโลยีกำลังสร้างผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะการทำสำเนาซ้ำได้อย่างไม่จำกัด ทั้งจากกล้องดิจิตอล คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือแล้วเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลได้ นอกจากช่างเทคนิคเท่านั้นที่ทราบ ทำให้ระบบกู้คืนข้อมูลระบาดมากโดยเฉพาะในมือถือมากกว่าช่องทางอื่น เพราะมือถือเปลี่ยนมือไปหลายทอด หากมีการถ่ายคลิปไม่เหมาะสมไว้ก็เสี่ยงกับการถูกกู้ข้อมูลมาเผยแพร่ ทั้งนี้สำหรับตลาดใหญ่ 2 ตลาดที่เผยแพร่ คือ ตลาดซีดีและและเว็บไซต์

    นายสมบัติ กล่าวว่า เว็บไซต์ลักษณะนี้ไม่ต่ำกว่า 100 เว็บ มีเพจวิวไม่ต่ำกว่าล้านเพจวิว คนโพสต์คลิปหรือภาพไม่เหมาะสมอาจไม่ได้เจตนาก่ออาชญากรรม แต่การกระทำของคนเหล่านี้ได้เกิดผลกับเหยื่อในคลิปให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป บางคนต้องฆ่าตัวตาย ต้องไปทำศัลยกรรม เข้าสู่สถานบำบัดจำนวนไม่น้อย ขอประกาศว่ายอมรับไม่ได้กับการนำเด็กมาถ่ายคลิป ต้องเข้าไปคุ้มครอง ต้องแก้ปัญหาการแอบถ่ายในโรงแรมที่มีทุกแห่ง ภาพคลิปข่มขืนจะปล่อยให้อยู่ในอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ขอให้ช่วยกันรณรงค์ว่าคลิปหลุด คลิปแอบถ่ายเป็นอาชญากรรม ต่อไปนี้ใครส่งมาต้องลบทิ้งอย่าส่งต่อ

    ด้านนางลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า คลิปหลุดคลิปโป๊กลายเป็นเชิงเพศพาณิชย์ที่ทำรายได้มาก คุยกับผู้ประกอบการเว็บไซต์ขอความร่วมมือมานานเป็นสิบปีแต่ก็ยังเกิดปัญหา เพราะส่วนใหญ่จะมองแต่ให้ได้เงินจากสมาชิกที่เข้ามาดูเว็บไซต์ไม่สนใจเรื่องจริยธรรมสังคม นอกจากนั้นพบว่ามีเด็กรับจ้างถ่ายคลิป ครั้งละ 5,000 บาท ล่าสุดคุยกับตำรวจและให้ดูว่ามีแม่อายุประมาณ 40 กว่าปี ให้ลูกชายอายุ 14 กับ 12 ปี มีเพศสัมพันธ์กับแม่ทั้งที่อวัยวะเพศเด็กยังทำอะไรไม่ได้มากโดยแม่สอนลูก ซึ่งเป็นการว่าจ้างให้ทำ 5,000 บาท จะเจตนาหรือไม่ แต่แม่ใจร้ายกับลูกมาก ที่เป็นปัญหาอีก คือ คลิปแปลก คลิปเพศสัมพันธ์คนกับสัตว์ ซึ่งคณะกรรมการสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ก็แจ้งเว็บไซต์ คลิปอันตรายมาตลอด วันละ 10 กว่าเว็บ แจ้งกระทรวงไอซีทีไปก็มีปิดได้บ้างไม่ได้บ้าง

    "ปัญหาการเสพสื่อลามก คลิปอันตราย การ์ตูนลามกทั้งหลาย มีผลอย่างมากต่อการมีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสมของคนในสังคม ทั้งเกิดปัญหาพ่อแม่ข่มขืนลูก ญาติข่มขืนเด็ก เพื่อนแฟนคนใกล้ชิดข่มขืนหรือล่าสุดข่าวครูสาวข่มขืนลูกศิษย์ ส่วนหนึ่งมาจากความสัมพันธ์เชิงอำนาจ การมีอำนาจที่เหนือว่าไปข่มขืนบังคับใจคนที่อยู่ใต้อำนาจ และปัญหาเศรษฐกิจเช่น พ่อไม่มีเงินไปเที่ยวหรือกินเหล้าแล้วก็จะมองคนใกล้ชิดไปข่มขืนลูกตัวเอง ที่อ่อนแอกว่า การที่บอกว่าถ้าไม่มีคนอยากดูจะอยากถ่ายไหมเป็นการพูดเอาตัวรอด ดังนั้นต้องเริ่มที่จริยธรรมผู้ประกอบการ หากถ่ายไว้ดูส่วนตัวไม่ผิด แต่หากเผยแพร่ผิดแน่ ดังนั้นถ้ารู้ว่าไม่ถูกต้องจะทำทำไม เพราะดูกัน 2 คน สุดท้ายก็ถูกเผยแพร่แทบทั้งนั้น ดาราคลิปหลุดก็ตกอับภายใน 24 ช.ม. อยากให้ความรู้ว่าคอมพิวเตอร์ผ่านไป 10-20 ปี ถ้าแก้ผ้าไว้ข้อมูลก็จะยังอยู่ ลบไม่ได้ไม่มีความลับแน่ คอมพ์ไฟไหม้ยังกู้ข้อมูลได้ยกเว้นคอมพ์จมน้ำข้อมูลจะหายไปได้" นางลัดดากล่าว

    นางลัดดา กล่าวอีกว่า คนที่คิดถ่ายคลิปโป๊ต้องมีสติสำนึกว่าจะเกิดประโยชน์อะไร เรื่องเพศไม่ควรนำมาเปิดเผย จะคึกคะนองขนาดไหนก็ไม่ต้องบันทึกไว้ บอกไว้ดูจะดูไปทำไม สุดท้ายเป็นเพศพาณิชย์ เรื่องการใช้กฎหมายปรับเงินไม่มาก แม้มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ยังจับใครไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่อยากจะทำ ไม่เข้าใจว่าเว็บต่างๆ ยูทูบ ไฮไฟว์ ทั่วโลกใช้กันมาก่อนไม่เกิดปัญหา แต่ของไทยปัญหามากทั้งคนทั้งพระสร้างพฤติกรรมฮือฮา ต้องใช้จิตสำนึกผู้ใช้อะไรไม่ได้อย่าไปดูส่งเสริมส่งต่อ แต่ละวันตนต้องตรวจสอบนั่งดูเว็บโป๊นับ 1,000 เว็บ ต้องตรวจสอบให้เป็น แต่มีเจ้าหน้าที่บางคนนั่งดูจนอาเจียน เพราะเมาหนังเซ็กซ์จนขอย้ายออกก็มี

    นางลัดดา กล่าวด้วยว่า หากทุกฝ่ายเอาจริง โดยการจัดเรตติ้งเว็บไซต์อินเตอร์เน็ต เหมือนจัดเรตติ้งโทรทัศน์ แต่ก็ยอมรับว่าทำยาก เพราะช่องทางเว็บไซต์อินเตอร์เน็ตส่งผ่านมาหลายทาง หากเป็นช่องทางที่มีเซิฟเวอร์อยู่ในต่างประเทศก็จะไปปิดไม่ได้ เพราะต่างประเทศจะมองคนละมุมกับไทย เรื่องขายตัวผ่านเว็บเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้สื่อลามกมีกฎหมายมาจับหลายตัว ทั้งป.วิอาญา มาตรา 287 กฎหมายคอมพ์ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายคุ้มครองเด็ก กฎหมายสถานบริการ แต่ก็ไม่เคยชนะเลยตำรวจจับซีดีโป๊ แต่ไม่เคยยกแท่นปั๊มซีดีมาเผาให้เห็น นอกจากนั้นยังต่างคนต่างใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการผลักดันกฎหมายปราบปรามวัตถุยั่วยุทางเพศ อยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งก็มองมุมต่างประเทศเหมือนกัน เราก็พยายามขอเครื่องมือให้ออกกฎหมายต้องทันต่อสถานการณ์ปัญหา ไม่ใช่ดาราวิ่งแก้ผ้ากลางถนนปรับแค่ 500 บาท คิดว่าวันหนึ่งน่าจะมียาแรงมาจัดการปัญหาได้ ทั้งนี้ตนได้ทำหนังสือขอความร่วมมือกับเว็บมาสเตอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 แห่ง ให้ร่วมดำเนินการแก้ปัญหาเหล่านี้

    นายมนินทร์ เหลืองอิงคะสุต ผู้บริหารเว็บไซต์ www.thestarshow.com กล่าวว่า ขณะนี้คลิปเซ็กซ์ คลิปเด็กตีกันก็เป็นอาชญากรรมทั้งนั้น โดยประเภทคลิปมี 2 แบบ คือ พฤติกรรมเลียนแบบ เช่น คนทำกับเด็ก ครูอายุ 29 ปี กับลูกศิษย์ป.6 สังคมชั้นสูงนิยมมีเซ็กซ์กับพริตตี้หรือโคโยตี้ เว็บไซต์ของตนเป็นเว็บไซต์โมเดลลิ่งมีเด็กอยู่ประมาณ 400 คน จะมาร้องเรียนว่ามีคนเข้ามาทางอีเมล์ เอ็มเอสเอ็น ไฮไฟว์ สแปมเมล์ ว่ามีคนมาเสนอจ่ายค่าหอพัก ซื้อรถให้จนต้องลบเมล์ทิ้ง นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมล่าแต้มทั้งผู้หญิงผู้ชาย เช่น เด็กอังกฤษเป็นพ่อวัยแค่ 13 ปี เพราะเสพสื่ออินเตอร์เน็ตทำให้รู้เรื่องเพศมากจนทำสิ่งผิดขนบประเพณี ส่วนอีกแบบ คือ เพศพาณิชย์ มีการปล่อยคลิปออกมายิ่งคนโหลดคลิปยิ่งมากจะได้เงินดอลลาร์มาก เกิดกระบวนการขายคลิปเชิงแพศพาณิชย์

    น.ส.กรกนก สำเนากลาง ผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี (IT WATCH) มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า จากการศึกษาเรื่องคลิปหลุดคลิปแอบถ่ายจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง 3,466 หัวข้อ ที่เป็นการตั้งกระทู้วันที่ 26 ม.ค.-31 ธ.ค.51 พบว่าระบุเป็นผู้ใหญ่ ร้อยละ 16.9 เด็กร้อยละ 10.8 และคลิปต่างประเทศ ร้อยละ 9.7 โดยร้อยละ 62.8 ไม่ได้ระบุหัวข้อคลิป ร้อยละ 15.1 ระบุเป็นคลิปหลุด ร้อยละ 6.2 คลิปแอบถ่าย ร้อยละ 3.7 มีการถ่ายหรือตั้งกล้องไว้ และร้อยละ 0.2 ได้จากการกู้ข้อมูล นอกจากนี้เดือนธ.ค.มีการตั้งหัวข้อคลิปหลุดคลิปแอบถ่ายมากที่สุดถึง 403 คลิป และเฉลี่ยเดือนละ 287 คลิป โดยระยะห่างในการตั้งหัวข้อมากที่สุด ร้อยละ 24.81 คือใช้เวลา 1-5 นาที เข้าไปเพิ่มหัวข้อ ทั้งนี้สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีหมวดคลิปเพิ่มมากขึ้น เดือนธ.ค. 51 มีผู้เข้าชม 443,449 ไอพี จำนวนเพจวิวที่เข้าไปคลิกดู 3,534,028 ครั้ง เดือนม.ค. 52 จำนวน 466,878 ไอพี เพจวิว 3,741,617 ครั้ง คนเข้าไปดูคลิปจำนวนมาก มูลนิธิกระจกเงาจะรณรงค์หยุดโพสต์หยุดโหลด คลิปหลุดคลิปแอบถ่าย เพราะเป็นอาชญากรรมไม่ใช่สื่อบันเทิง

    หน้า 1


    ข่าวประชันกันครับ ไม่รู้ใครเก่งกว่าใครครับ น่าจะเข้ามาอ่านพลังจิตนะพวกนี้
    นะจะได้มีธรรมะสูงขึ้น
     
  4. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    นำมาเล่าสู่กันฟังนะ(ใช้วิจารณญาณกันเองนะ)

    เมื่อวานถามพระท่านว่าจะเกิดภัยทางน้ำแบบสีนามิในเดือน....(ยังไม่ได้ขออนุญาติท่านว่าจะบอกคนอื่น) พระท่านบอกว่า "ใช่"
     
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ถ้าบอกสาธารณะก็เลื่อนอีก เลื่อนแล้วพอเกิดยิ่งหนักมากเพราะอั้นไว้...
    อย่าไปที่อโคจรนะคะ
     
  6. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    การบอกช่วงเวลาว่าจะเกิดเวลานั้นเวลานี้จะมีการคนเอาโพสท์ให้ได้อ่านกันเรื่อยๆแต่มันจะไม่ตรงกับของจริงจนกว่าคนที่อ่านข้อมูลที่โพสท์ไว้จะเบื่อกันไปเอง การเริ่มต้นของภัยพิบัติจึงจะปรากฏมาให้เห็นซึ่งคาดว่าคนส่วนใหญ่คาดไม่ถึงเลยไม่ได้เตรียมการรับมือไว้ ผู้คนจะสูญเสียชีวิตกันมากมาย พวกเราคงช่วยได้บ้างบางส่วนแต่คงไม่มากก็อย่าได้เศร้าใจมากนักเพราะยังไงมันก็เป็นไปตามกฏแห่งกรรม อย่างไรก็ตามดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้ในอนาคตก็จะต้องเจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลกใบนี้โดยวิถีแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระสมนโคดมแน่นอน อย่าวิตกกังวลไปเลย พระศรีอารยะเมตตรัยไม่ได้ลงมาเพื่อประกาศพระศาสนาใหม่ แต่ครั้งนี้ลงมาเพื่อทำให้พระธรรมของพระสมนโคดมเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งก่อนจะครบ 5000 ปี พระนิพพานเป็นเป้าหมายของพวกเราไม่ใช่หรือ หากเราไม่โน้มจิตเข้าหาพระนิพพานแล้วคิดหรือว่าเราจะไปช่วยใครเขาได้ อย่าได้ปราถนาอภิญญาเลย จิตเราจะตกและก็ไม่ใสสว่าง พระเกจิอาจารย์หลายๆท่านก็ทิ้งอภิญญากันเพื่อมุ่งสู่เส้นทางนิพพาน แล้วทำไมเราไม่คิดกันบ้างว่า "ทำไมองค์ท่านเหล่านี้ถึงทิ้งอภิญญากัน"
     
  7. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    http://palungjit.org/showthread.php?t=81908
    ต้องโทษคนนี้มั่งครับ จะมาโทษนู๋ไม่ได้นะ ขอโทษด้วยนะก็ดันมาจัดงาน
    ตอนใกล้กับที่หมอผีอินโดทำนาย ไม่งั้นก็เรียบร้อยทู้นี้ก็จะถูกปิดไปโดยปริยายครับ ดีไม่ดี อ.ลิง ผู้นำสาร ก็อาจจะผิดคืออาจย้ายสถานที่นะอยากให้ย้ายจังเลย พูดมากไม่ได้คนแถวนี้ดุ แซวเล่นก็ไม่ได้ เด๋วอาจจะสร้างความสนุกสนานใ้ห้เด้อ เมื่อไรเมื่อนั้นรออีกนิดนะ
    ;aa53 [​IMG]

    อ่านแก้เครียดนะ กินโจ็กไปด้วย สนุกดี
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การจะตัดสินว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นคนเลว เราต้องดูที่เจตนาของเขาเป็นสำคัญครับ คนที่มีเจตนาไม่ดีแต่ปิดบังตัวตนที่แท้จริง ด้วยคำพูดที่สวยหรู มันก็สู้คำพูดที่ตรงไปตรงมาแบบไม่ปิดบังอำพราง แต่พูดออกมาด้วยความจริงใจและห่วงใยประเทศชาติอย่างแท้จริงไม่ได้ครับ

    กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อ เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสาร แจ้งเตือนเรื่องภัยพิบัติทั้งหลายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลในการระวังภัยอันตรายในทุกรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ได้ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อความอยากเด่นอยากดัง ไม่ได้ต้องการเรียกร้องทรัพย์สินเงินทองจากใครทั้งสิ้น การที่มีคนให้ความสนใจในกระทู้นี้เป็นจำนวนมาก ก็ด้วยเหตุผลนี้เป็นสำคัญ

    การให้ข่าวสารเรื่องภัยพิบัตินั้น บางครั้งมันก็มีข้อจำกัดหลายประการ ที่ไม่สามารถจะแจ้งเตือนกันแบบตรงๆได้ จึงต้องเลี่ยงด้วยการใช้คำพูดแบบอ้อมๆบ้าง ใช้เป็นคำกลอนบ้าง ใช้เป็นรหัสตัวเลขบ้าง ฯลฯ ทั้งนี้ก็มีจุดมุ่งหมายที่จะบอกเตือนถึงภัยอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นเอง แต่ก็ยังมีคนคอยจ้องจับผิดที่มองข้ามเจตนาดีของผู้ที่ออกมาเตือนภัยเหล่านี้ไปจนได้

    "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"

    คนที่เรามองเห็นว่าเขาเป็นคนดีในปัจจุบัน อาจจะกลายเป็นคนชั่วร้ายเลวทรามในอนาคตก็เป็นได้ และคนที่เรามองว่าเขาเป็นคนไม่ดีในปัจจุบัน ก็อาจจะกลายเป็นคนที่เรายกย่องเทิดทูนบูชาในอนาคตก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน

    คำพูดมันอาจจะหลอกลวงกันได้ แต่จิตใจที่ดีงามหรือจิตใจที่เลวทรามนั้น มันหลอกลวงกันไม่ได้หรอกครับ มันย่อมแสดงธาตุแท้ของมันออกมาให้คนเห็นจนได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอนครับ

    กระทู้นี้จะอยู่หรือถูกปิดไป มันก็ไม่สำคัญอะไรหรอกครับ เพราะทุกสิ่งในโลกนี้มันล้วนเป็นภาพมายาทั้งสิ้น สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ทุกสิ่งนั้นล้วนมีความดับสิ้นไปเป็นธรรมดา ไม่มีงานเลื้ยงใดที่ไม่เลิกรา มีพบก็ต้องมีจาก มีความพลัดพรากกันไปในที่สุด ความจริงในโลกเรามันก็มีเพียงเท่านี้เองครับ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรือข้ามฟากพร้อมคนบนเรือ 150 คนอับปางในบังกลาเทศ

    [​IMG]

    ธากา 19 ก.พ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
     
  12. ต้อย&ปรีชา

    ต้อย&ปรีชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +199
    ยาสมุนไพรพื้นบ้าน ต้มกินแก้ชามือ ชาเท้า ปวดเมื่อย อัมพฤกอัมพาต มีดังนี้
    1. ตะไคร้
    2. ข่าเหลือง
    3. ใบเตยหอม
    (อย่างละเท่ากัน ต้มกินเป็นน้ำชา ดื่มให้ได้ประมาณหนึ่งเดือน และลดอาหารที่มีผงชูรส)

    สูตรกันโรคมะเร็ง มีดังนี้
    1. มะพร้าวน้ำหอมอ่อน 3 ลูก
    2. พริกไทยเม็ด (ขาวหรือดำก็ได้) นับเท่าอายุ เช่นถ้าอายุ 30 ปี ก็ให้ใช้ 30 เม็ดx 3 = 90 เม็ด
    วิธีรับประทาน
    - ใช้มะพร้าวหนึ่งลูก (ขูดเอาทั้งเนื้อมะพร้าวและน้ำ+พริกไทย เม็ดเท่าอายุ)
    ปั่นรวมกันแล้วดื่มให้หมด ถ้าไม่มีที่ปั่นก็บดพริกไทยให้ละเอียด ผสมกับน้ำและเนื้อมะพร้าว คนให้เข้ากัน
    - ดื่ม 3 เวลา (เช้า-กลางวัน-เย็น) ดื่มให้หมดภายในหนึ่งวัน อย่างช้าอย่าเกินสองวัน สูตรขนานนี้ทำครั้งเดียวพอ
    (บอกต่อๆได้ค่ะ เพื่อเป็นธรรมทาน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2009
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระนารายณ์ในความเชื่อของชาวฮินดูและชาวพุทธ

    [​IMG]
    รูปภาพ "พระนารายณ์ 4 กร" ที่ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี

    ก่อนอื่นผู้เขียนขอทำความเข้าใจในเรื่องของ “วีรบุรุษขี่ม้าขาว” ที่ได้พูดถึงในฉบับที่แล้วเพราะ “วีรบุรุษขี่ม้าขาว” ในที่นี้ก็คือ “พระอวตารปางที่ ๑๐” ของ “พระนารายณ์” มีพระนามที่ถูกต้องคือ “พระกัลกี” มิใช่ “พระกัลภี” อัน “พระนารายณ์” หรือ “พระวิษณุ” นั้นทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ชนชาวโลกจึงได้เสด็จอวตารลงมาทั้งสิ้น “๑๐ ปาง”

    “ปางที่ ๑๐” ซึ่งก็คือ “กัลกยาวตาร” พระนารายณ์ทรงอวตารเป็นมนุษย์ที่มีนามว่า “พระกัลกี” หรือ “วีรบุรุษขี่ม้าขาว” เพื่อทำการปราบปราม “คนชั่วในโลกมนุษย์” โดยไม่เจาะจงว่าคนชั่วเป็นผู้ใดคือหากผู้ใดเป็น “คนชั่ว” แล้วเป็นต้องถูกปรามปรามหมดเพราะ “คนชั่ว” ในโลกยุคปัจจุบันมีมากมายนักจึงคาดว่าอีกไม่นานคงได้เวลาที่ “พระนารายณ์” จะเสด็จลงมาอวตารเป็น “พระกัลกี” ซะที

    เรื่องราวของอวตารทั้ง “๑๐ ปาง” ของ “พระนารายณ์” นั้นได้รับความนิยมนำมาสลักประดับ “ปราสาทหิน” ทั้งใน “ราชอาณาจักรขอมโบราณ” และ “ราชอาณาจักรศรีวิชัยโบราณ” ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในตอนก่อนๆ

    ที่มา http://www.dailynews.co.th

    อดีตกรรม พระศรีอาริยเมตไตรย

    [​IMG]

    เอกัง สะมะยัง ในสมัยหนึ่งพระพุทธโคดม ได้เสด็จเลียบมาถึงแม่น้ำสายหนึ่ง ในแคว้นสุวัณณภูมิ ซึ่งไหลผ่าน ภูเขาตักกคีรี พระองค์ลงสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เอาผ้าอาบตากไว้บนฝั่งแม่น้ำ จึงเสด็จขึ้นประทับอยู่บนภูเขาลูกนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนฝูงหนึ่งอุ้มลูกออกจากชายป่า พลันก็ถ่ายอุจจาระของมันลงบนผ้าอาบของพระองค์ ซ้ำเอาหว่านเล่นเสียเลอะเทอะ คงเหลืออยู่ชายเดียว ณ บัดนั้นก็ได้มีนกยางปอน (นกยางขาว) ตัวหนึ่งบินมาจับลงที่ศรีษะของแม่ลิงตัวหนึ่ง แล้วก็เหลียวหน้ามองไปโดยรอบทั่วทุกทิศ ในทันใดรัศมี ซึ่งเป็นสีต่าง ๆ ได้พุ่งปราดออกจากพระเขี้ยวทั้งสี่ของพระพุทธเจ้า พระอานนท์ผู้อุปัฏฐาก จึงทูลถามเหตุการณ์อันประหลาดนั้น พระองค์ทรงตรัสพยากรณ์ว่า:-​

    "ดูก่อนอานนท์ ผ้าอาบของตถาคต ได้แก่ ศาสนาที่ตถาคตวางไว้ ลิงแม่ลูกอ่อนที่มาถ่ายมูลเลอะเทอะหมดถึง 3 ชายนั้น ได้แก่ กองทัพ ซึ่งจะมารบราฆ่าฟันกันตาย เหลือที่จะคณานับ ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมทรุดไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงค้างอยู่แต่เพียงส่วนเดียวและนกยางขาวที่บินมาจับหัวแม่ลิงนั้น คือ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ จะมาปราบอธรรม และช่วยสืบอายุศาสนาของตถาคต เริ่มตั้งแต่ 2,500 ปีขึ้นไป จนครบ 5,000 ปี"

    "พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์กับตถาคต ได้สร้างกรรมไว้ในอดีตชาติ" พระองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า​

    "อันชาติหนึ่งสองเราสหายสนิท
    ช่วยกันคิดเอาบัวมาอธิษฐาน
    เพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาล
    ให้บัวบานบอกแจ้งเป็นผู้ใด"

    ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหารว่า ถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน​

    ครั้นวันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไปดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้ง เห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย​

    "บัวของน้องบานแล้วนะพี่จ๋า
    สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่
    แต่ไฉนบัวในมือเดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ
    พุทธยังไม่เที่ยงพุทธยังไม่แท้น่าอายจริง"


    ฝ่ายพระศรีนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัว จึงทำนายว่า "โอ! สหายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษกัน อย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตว์ต่อกัน จะทุจริต คิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวแบดังบัวดอกนี้"​

    เพราะกรรมที่พระพุทธโคดมได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันตสาวกจะเข้าพระนิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ศาสนาสามส่วนก็ถูกพราหมณ์ ยักษ์ และมารเอาไปครอง เหลือจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ข้อวัตรปฏิบัติจึงถูกปนเป็น จนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลัง จึงไม่เข้าใจทางปฏิบัติที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว นั้นคืออะไร​

    พระพุทธโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า

    "เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาในพุทธกาลของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือ เหมือนในสมัยของตถาคตจะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์จะไม่ติเตียนว่า เป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาและเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้​

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง​

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะบินลงเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง ครั้นแล้วก็ถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตามบุรพกรรมสัญญา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sanprakan1.jpg
      sanprakan1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.7 KB
      เปิดดู:
      1,778
    • DSCF7291copy.jpg
      DSCF7291copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60 KB
      เปิดดู:
      47
    • map03.jpg
      map03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.9 KB
      เปิดดู:
      56
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.8 KB
      เปิดดู:
      129
    • 00031_0.JPG
      00031_0.JPG
      ขนาดไฟล์:
      41.6 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG-1768.JPG
      IMG-1768.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.3 KB
      เปิดดู:
      48
    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      49
    • sanprakan2.jpg
      sanprakan2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_1722_resize.jpg
      IMG_1722_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • AtPrang.jpg
      AtPrang.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.2 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_0036.jpg
      IMG_0036.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      1,393
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2009
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931


    คนไม่รู้ว่า สัจจธรรมที่ตรัส...คือ สัจจะทำ ที่พระพุทธเจ้าทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อุบาทว์พระอินทร์–พระยม

    <O:p[​IMG]</O:p>

    คำว่า “อาเพศ” ความหมายโดยศัพท์นั้น แปลว่า เหตุที่เกิดขึ้นอย่างผิดปรกติวิสัย และมักจะถือกันว่าเป็นลางไม่ดี ตามตำราแต่โบราณนั้นท่านแบ่งอาเพศออกเป็นสองจำพวก จำพวกหนึ่งมีชื่อว่า “อุบาทว์พระอินทร์” อีกจำพวกหนึ่งมีชื่อว่า “อุบาทว์พระยม”

    อุบาทว์พระอินทร์ ก็คือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือปรากฏให้เห็นในลักษณะกว้างๆ มักเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติพิสดารไปจากธรรมชาติที่สิ่งนั้นควรเป็น จึงมีขอบเขตของอุบาทว์กว้างขวางมาก เช่น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำมีสีเลือด กลางคืนบังเกิดแสงสว่างโชติช่วงสีแดงดั่งเลือด กลางวันบังเกิดความมืด เหมือนกับเวลาผีอุ้มลูก หรือที่บางคนเรียกว่าผีตากผ้าอ้อม
    <O:p</O:p
    ฝูงสัตว์อพยพเข้าเมือง หรือมีกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นศพฟุ้งตลบทั้งเมือง แต่ไม่ถึงกับทำให้คนหรือสัตว์ถึงแก่ความตาย ยังมีความวิปริตที่ปรากฏขึ้นในลักษณะที่แปลกประหลาด เช่น หนอนปรากฏในตาคน เป็นต้น
    <O:p</O:p
    อุบาทว์พระยม เป็นความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นลักษณะกว้าง และที่สำคัญคือทำให้คนและสัตว์เสียชีวิต เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นใหญ่ในทะเลที่กวาดพัดเอาบ้านเรือน ชีวิตผู้คนล้มหายตายจาก หรือโรคระบาดไปทั่วเมือง คร่าทั้งชีวิตคนและชีวิตสัตว์ หรือกรณีพระฆ่าอุบาสก อุบาสิกา หรือฆ่าพระด้วยกัน หรืออุบาสก อุบาสิกาฆ่าพระ หรือพ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ เป็นต้น
    <O:p</O:p
    หากว่าจะสรุปให้สั้นและง่าย ก็คือว่า อุบาทว์พระอินทร์ เป็นการผิดแปลกหรือประหลาดไปจากธรรมชาติ แต่การผิดแปลกนั้นไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ส่วน อุบาทว์พระยม เป็นการวิปริตผิดแปลกที่คร่าชีวิตไปด้วย
    <O:p</O:p
    แต่ก็มีปรากฏการณ์บางอย่างที่คล้ายกับอาเพศ แต่ไม่ถือเป็นอาเพศ นั่นคือกรณีแผ่นดินไหวใน 4 กรณี คือ พระโพธิสัตว์อุบัติในโลกมนุษย์ พระโพธิสัตว์ตรัสรู้และพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งเป็นทั้งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและด้วยอำนาจแห่งเทพยดา
    <O:p</O:p
    คนโบราณ ท่านใส่ใจเรื่องของการอยู่ด้วยกันโดยปกติสุข ท่านจึงรักที่จะร่ำเรียนความรู้เกี่ยวกับนิมิต ลางและอาเพศ เพื่อจะได้ระงับเหตุ คือผู้ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเหตุร้ายได้ทันท่วงที ดังนั้นความรู้เกี่ยว กับเรื่องอาเพศมีมาก็เพื่อเป็นทางให้สืบเสาะหาเหตุ ที่ทำให้เกิดอาเพศแล้วขจัดเหตุนั้นเสีย เมื่อระงับเสียแล้วก็จะทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง อาณาประชาราษฎรก็จะร่มเย็นเป็นสุข
    <O:p</O:p
    มามองเหตุการณ์ในบ้านเราในยามนี้ มีทั้งเหตุดี เหตุร้าย เกิดระคนปนเปกันวุ่นไปหมด หากเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จะมีอาเพศเล็กๆ น้อยๆ ที่สังเกตได้ยาก แต่ระหว่างนี้ดูเหตุจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นับแต่กรณีที่ผู้ปกครองบ้าน เมืองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ธรรม จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปรใส่เกียร์ว่างกันถ้วนทั่ว อีกทั้งอาณาประชาราษฎรต่างก็ตกอยู่ในท่ามกลางความทุกข์เข็ญมากขึ้น ก็เลยเกรงว่าอาจจะมีอาเพศใหญ่ตามมา ถ้าเรายังประมาทกันอยู่และต่างคนต่างก็คิดว่า “ช่างประไร” หรือ “ประเทศไทยไม่ใช่ของฉันคนเดียว” ดังที่ได้ยินกันหนาหูขึ้นในตอนนี้
    <O:p</O:p
    หากท่านผู้อ่านติดตามความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองเราอย่างรอบด้าน และสม่ำเสมอ จะเห็นได้ว่ามีปรากฏการณ์แปลกๆ เป็นข่าวที่เข้าลักษณะวิปริตผิดปกติเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 10 ประการแล้ว ส่วนที่จะพิจารณาว่าเป็นอุบาทว์พระอินทร์ หรืออุบาทว์พระยมหรือไม่นั้นคงต้องขอให้ใช้วิจารณญาณกันเอง เช่น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ดีไม่ดีบางวันมีถึง 3 ฤดู บางห้วงก็มีแต่ฤดูร้อน คือร้อนมากและร้อนน้อย
    <O:p</O:p
    หันมามองโรคภัย อย่างที่คนโบราณเรียกว่า โรคห่ามากินเมือง คือตอนนี้มีโรคระบาดแปลกๆ อย่างโรคซาร์สที่เกิดกับคน ไข้หวัดนกที่เกิดทั้งคนและสัตว์ ทำให้สัตว์ตายหลายล้านตัว คนตายหลายสิบคน
    <O:p</O:p
    เรื่องบางเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่ามีจริงก็เป็นจริง เช่น บังเกิดหนอนในมนุษย์ คือบังเกิดหนอนขึ้นในจมูก ในหู ในตาและในปาก ซึ่งปกติหนอนจะเกิดขึ้นกับคนตาย เป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคนไทยทุกวันนี้คนเป็นก็เหมือนคนตาย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย หรือเกิดเหตุอีกาไล่จิกกบเจาะที่ท้องกบตายนับพันๆ ตัวที่ภาคกลาง รวมถึงเหตุอีกายกพวกตีกันที่สภา อีกาไล่จิกเหี้ยที่ทำเนียบรัฐบาล เหี้ยวิ่งออกมาเพ่นพ่านหน้าอาคารประ ชุมคณะรัฐมนตรี แล้ววิ่งเข้าไปซุกใต้รถรัฐมนตรีหน้าใหม่
    <O:p</O:p
    นอกจากนี้ก็มีพระทำกรรมลามก ทำให้พระศาสนาเสื่อมถอย พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ ที่สำคัญคือการก้าวล่วงพระราชอำนาจ การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง การไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม การกล่าวความเท็จต่อประชาชน การกดขี่บังคับข่มเหงราษฎร ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อีกทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเล เกิดคลื่นใหญ่ที่เรียกว่าสึนามิในทะเลฟากอันดามัน กวาดเอาบ้านเรือนและชีวิตผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
    <O:p</O:p
    ที่เป็นปรากฏการณ์ล่าสุด คือถนนราชดำเนินนอก ซึ่งไม่จำเป็นต้องอธิบายความมากนัก เจ้าหน้าที่บ้าน เมืองไม่สามารถแก้ปัญหาได้
    <O:p</O:p
    คงต้องทำใจกันเสียแล้วกับเหตุการณ์อื่นๆ ที่หวังพึ่งเจ้าหน้าที่ในบ้านเมืองเราคงจะลำบาก แม้แต่ปัญหาชายแดนภาคใต้ก็แก้ไม่ตก ฉะนั้นแล้วอย่ามาโม้นโยบายให้สวยหรูเลยครับว่าทำได้

    ที่มา http://www.siamrath.co.th/UIFont/ArticleDetail.aspx?acid=2124</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • K6811067-1.jpg
      K6811067-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.3 KB
      เปิดดู:
      1,143
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2009
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมมีอัธยาศัย 4 อย่างด้วยกัน

    [​IMG]


    คัดลอกมาจาก หนังสือ มหาสติปัฏฐานสี่
    โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    วันนี้จะพูดเรื่องวิชชาสาม การดัดแปลงอารมณ์ของมหาสติปัฏฐานสูตร ความจริงมหาสติปัฏฐานสูตรนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในขั้นสุขวิปัสสโก ถ้าหากว่าทำตามพื้นฐานนี้ ตามที่พระองค์ทรงตรัส ตรัสไว้ในขั้นสุขวิปัสสโก แล้วการบรรลุก็​

    มี 4 สายด้วยกัน คือ สุขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    สุขวิปัสสโก นี่บรรลุแล้วไม่เห็นผีเห็นสาง ไม่เห็นสวรรค์ ไม่เห็นนรก มีแต่จิตสบาย กิเลสแห้งเหือดไป

    ทีนี้สำหรับเตวิชโชก็มี การมีทิพย์จักขุญาณ สามารถรู้สัตว์และคนที่ตายไปแล้วไปเกิดที่ไหน คนและสัตว์ที่มาเกิดนี้มาจากไหน แล้วมีปุพเพนิวาสานุสสติญาณ สามารถระลึกชาติของตนเองได้ นี่เป็นเครื่องประกอบอันที่สาม ก็เป็นอาสวักขยญาณ คือ เป็นคุณธรรมของพระอรหันต์ อันนี้จะไม่พูด

    สำหรับฉฬภิญโญก็ทรงอภิญญา หมายความว่ามีฤทธิ์ แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ไม่จำกัด

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต มีความรู้พิเศษ ทรงพระไตรปิฎก รู้ภาษาสัตว์ต่างๆ ภาษาคนภาษาสัตว์นี่ไม่ต้องเรียน รู้ แล้วก็รู้อธิบายขยายความ อธิบายเนื้อความขยายให้กว้างก็ได้ หรือเนื้อความที่เขาอธิบายมาแล้วกว้างๆ ก็ย่อลงให้สั้นให้เข้าใจได้ดีก็ได้ นี่เป็นเรื่องของปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ทีนี้ตามธรรมดาคนที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมมีอัธยาศัย 4 อย่างด้วยกันคือ แต่ละคนก็แต่ละอย่าง สำหรับที่มีจิตสงบเงียบ ไม่อยากยุ่งจุ๋งจิ๋งอะไรเป็นคนชอบสงัด อันนี้ก็ศึกษาด้านสุขวิปัสสโกเป็นของดี ตรงกับอัธยาศัย

    แต่คนอยากรู้นั่นอยากรู้นี่ ให้ยึดแบบสุขวิปัสสโกก็ไปไม่ไหว เพราะไม่ตรงกับอัธยาศัยมานั่งเงียบๆ ไม่ชอบ ฉันอยากเห็นผีเห็นสาง เห็นเทวดา เห็นนรก เห็นพรหม ใครพูดว่าอะไรดีที่ไหนอยากจะเห็นอยากจะรู้ อันนี้เป็นอัธยาศัยของท่านเตวิชโช ทีนี้จะต้องเรียนด้วยวิชชาสาม จึงจะตรงกับอัธยาศัย

    สำหรับอีกฝ่ายหนึ่งก็ฝ่ายฉฬภิญโญ อันนี้อยากแสดงฤทธิ์ ชอบฤทธิ์ชอบเดช คนที่มีอัธยาศัยแบบนี้มีมาก

    ที่มา http://www.luangporruesi.com/223.html

    หลักสูตรอภิญญา ๖ ตอนที่ ๑
    http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=40

    หลักสูตรอภิญญา ๖ ตอนที่ ๒
    http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=41

    หมายเหตุ

    การฝึกกรรมฐานในสายอภิญญา ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร เพียงแต่เราต้องรู้จักรักษาใจของตัวเองให้อยู่ในฝ่ายของสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติเพื่อให้รู้แจ้งในมรรคผลนิพพาน คนที่มีอัธยาสัยชอบฤทธิ์ชอบเดช ก็ต้องเลือกปฏิบัติให้ตรงกับอัธยาศัยของตนเอง จึงจะเกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม

    ถ้าจะไปบังคับให้ท่านเหล่านี้เจริญมหาสติปัฏฐานสี่อย่างเดียว ย่อมไม่ตรงกับอัธยาศัยและอาจทำให้การปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า ผมจึงไม่อยากให้มองแต่เพียงว่า ใครฝึกอภิญญาแล้วจะต้องกลายเป็นมารไปเสียทั้งหมด เพราะนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ -เกษม-


    ************************************************​
    <!-- edit note -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 78.jpg
      78.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.9 KB
      เปิดดู:
      946
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2009
  17. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ท่านพี่ครับ3 คืนก่อนผมเพ่งมองพบแสงสีแดงหลังภูเขาทั่วบริเวรท้องฟ้าทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกครับ ยังเรียกเมียมายืนมองดวยเวลานั้นราว4ทุ่มกว่าหรือเที่ยยงคืนได้แล้วครับ บริเวรนั้นห่างจากตัวเมืองและเงียบสงบมากเลยคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากไฟเมืองครับ พิจรณาด้วย สีแดงอมดำคล้ายหม่นหมองครับ
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระสมัยพุทธกาล ****

    พระพุทธเจ้า ปฏิบัติตนด้วย สัจจะทำ...เพื่อมุ่งตัดกิเลสนิสันตนเอง
    ผู้บวชเป็นพระสมัยพุทธกาล....เพราะ มุ่งหลุดพ้นทุกข์ มุ่งนิพพานกันจริง
    พระสมัยพุทธกาล จึงปฏิบัติตนด้วยสัจจะ เป็นประจำ...เพื่อให้กิเลสนิสัยหมดสิ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    กลิ่นสาป ใช้ครับ มักได้กลิ่นสาปแรงๆแม้จะอยู่ในบ้านก็ตามมาครับแรงมากครับ ต้องแผ่เมตตาไปก็จะหายไปครับพอลืมๆไปก็มาอีก ลองค้นดูแล้วครับไม่ใช้กลิ่นในบ้านแน่นอนครับ จิตรมันก็บอกอย่างนั้นเหมือนกันครับ คือแหล่งที่ผมอยู่นี้ห่างไกลจากวัตถุธรรมมากเลยผู้คนสนใจแต่ทำมาหากินแข่งขันกันไปวันๆ อันรวมถึงตัวผมด้วยไม่มีใครช่วยอะไรได้เลยครับต้องพึ่งตนเองอย่างจริงท้แน่นอนครับ

    คือถ้าผมจะโพสรูปแผนที่ประเทศไทยที่มีเส้นทางการเดินทางต่างๆที่มีความระเอียดค่อนข้างชัดเจนไว้เพื่อใช้ประโยชน์ได้ จะอนุญาตไหมครับท่านพี่พอดีพึ่งได้มาเมื่อวานนี้ครับ
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดีเยี่ยมเลยครับ แต่ขอให้มาโพสเอาไว้ในกระทู้ข้างล่างนี้ดีกว่านะครับ ข้อมูลจะได้ไม่กระจัดกระจาย คนที่สนใจดูแผนที่จะได้ไม่ต้องใช้เวลาค้นหานานจนเกินไป เพราะกระทู้นี้เนื้อหายาวมากตั้ง 700 กว่าหน้าแล้วครับ

    แนะนำ รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ ([​IMG] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...