รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    กสิณไฟ ไม่ต้องเอาตาไปมองไฟครับ
    ให้นึกถึงภาพไฟ เหมือนนึกถึงภาพพระได้เลยครับ
     
  2. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    คุณ Xorce พอจะมีไฟล์เสียงในการฝึกมโนมยิทธิมั๊ยครับ
     
  3. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ผมก็มีนะครับ ในกระทู้ก็มีลองหาดูครับ ผมฟังแล้วปฏิบัติตามจนเกือบได้แล้วครับ เดี่ยวว่างๆไปหาให้หรือรอ ป๋า x มาตอบ
     
  4. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่อ ถึงว่าล่ะครับ ผมไปครุ่นนึก จะให้ออกให้ได้ มันก็เลยเหมือนกับข่มไว้ ขอบคุณครับข้อนี้คิดได้แล้วส่วนเรื่องเกร็งนั้นมันเป็นอาการติดมาจากการเกร็งก่อนหน้าแต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ ผมก็พอทำให้มันหายไปได้แล้วครับ ไม่มีคำว่าลมอยู่เลย แล้วเมื่อคืนก็ทรงสมาธิได้นานมากอยากจะนอนเหมือนกันแต่มันก็ทรงสบายก็โอเค เกือบทั้งคืนเลยมั้ง แขนก็ปัดแกว่งเอง หุๆๆๆ แต่ แค่ รูปณาน ยังไม่ถึงอรูปณาน ก็คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย ขอบคุณครับ ป๋า งิงิงิ
     
  5. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    อรูปฌาณ ก็ไม่ยากอีกเช่นกันถ้าเกิดว่ารู้วิธีครับ
    แต่อรูปฌาณควรจะเริ่มจากกสิณก่อนครับ
    กสิณนั้น ก็อยากจะให้ใช้กสิณ ภาพพระพุทธรูปครับ
    เดี้ยวให้ลองนึกตามที่ผมเขียนไปเลยนะครับ
    คือให้นึกถึงภาพพระพุทธรูปที่เราชอบใจ มาองค์หนึ่ง
    เสร็จแล้วก็จินตนาการว่า ภาพพระพุทธรูปนี้เปลี่ยนสี กลายเป็นพระพุทธรูปสีขาวทั้งองค์
    เนื้อของพระพุทธรูปก็กลายเป็นสีขาว เป็นสีขาวทั้งองค์

    จากพระพุทธรูปสีขาว ก็ให้จินตนาการ นึกภาพต่อไปว่า
    ภาพพระพุทธรูปนี้ค่อยๆใสขึ้นๆ ใสขึ้นเรื่อยๆ จนเปลี่ยน เป็นพระพุทธรูปเนื้อแก้ว เป็นเนื้อแก้วใสทั้งองค์

    จากพระพุทธรูปเนื้อแก้ว ก็ให้จินตนาการ นึกภาพต่อไปว่า
    ภาพพระพุทธรูปนี้ค่อยๆ สว่างขึ้นๆ มีประกายระยิบระยับ สว่างขึ้นอีก มีประกายมากขึ้นอีก
    จนเปลี่ยน เป็นพระพุทธรูปเนื้อเพชร เป็นเนื้อเพชรใส สว่าง ประกายระยิบระยับทั้งองค์
    สวยงามจับใจ ส่วนแสงสว่าง ก็สว่างมาก

    ทั้งหมดนี้ให้นึกเอานะครับ
    ใช้เวลานึกตั้งแต่ภาพพระพุทธรูปธรรมดาจนถึงจุดที่ภาพพระเป็นเพชร ไม่เกิน2นาทีครับ
    พอได้ภาพพระพุทธรูปเป็นเพชร แล้วเราก็ย้อนมาดูลมหายใจของเรา
    ก็จะสังเกตุเห็นว่า ยิ่งภาพพระที่เรานึกได้นั้น มีความสว่างใส เป็นเพชรประกายระยิบระยับเพียงไร
    ลมหายใจของเราก็จะยิ่งเบาลงไปเท่านั้น จนกระทั่งลมหายใจหยุด หายไปในที่สุด
    พอลมหายใจหยุด จิตของเราก็เป็นฌาณ4 หรือถึงไม่หยุดแต่ว่าภาพพระเป้นเพชร
    จิตก็อยู่ประมาณฌาณ3

    หลวงพ่อฤาษีท่านมักจะพูดบ่อยๆว่า กสิณนั้นเป็นของง่าย ซึ่งก็ง่ายอย่างที่ท่านกล่าวจริงๆครับ

    พอได้ขั้นที่ภาพพระเป็นเพชรแล้ว ก็ให้อธิษฐานว่าขอให้สามารถทรงภาพพระเป็นเพชรแบบนี้ ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ที่ข้าพเจ้าต้องการตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง

    จากนั้นก็หมั่นนึกถึงภาพพระเป็นเพชร ประคองภาพพระเป็นเพชรเอาไว้ตลอดเวลาครับ
    ตัวผมเองก็จะหมั่นนึกถึงภาพพระเป็นเพชร ไม่ให้คลาดจากจิตอยู่เสมอๆ ครับ
    ภาพพระเป็นเพชรนี้ ก็จะเป็นตัวเปิดญาณรู้เห็นต่างๆ
    ถ้าเราทรงภาพพระเป็นเพชรเอาไว้ตลอดเวลา
    ไม่เกินเดือน สองเดือนหรอกครับ ญาณต่างๆจะเข้ามาเองครับ

    พอได้ภาพพระเป็นเพชร แล้วเดี้ยวจะมาต่ออรูปฌาณให้ครับ
     
  6. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ก็คือว่า คล้ายกับเรา ทรงสมาธิตลอดทั้งวันอย่างนั้นใช่ไหมครับ เข้าใจล่ะครับ เด่วจะไปปฏิบัติดู ไม่ยากเพราะ ที่ว่างเปล่านั้น พอนึกอะไรมักง่ายขึ้นครับ
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    จริงๆ อารมณ์จิตของคุณ makoto ก็แตะๆอรูปอยู่แล้วครับ
     
  8. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ตัวเบาจะรู้สึกก็เพียงปวดหัวใจเท่านั้นถ้าอยู่ในช่วงเวลาปรกติไม่ได้ปฏิบัติ แต่ถ้านั่งสมาธิแล้วก็โล่งทุกอย่าง ^^; อาการปวดอะไรไม่มี ลมหายใจก็ไม่มี ที่สังเกตุ ทำกิจวัตประจำวัน ก็ปวดหัวทั้งหัวโดยเฉพาะหน้าผาก เหมือนอาการของคนปวดหัวไม่สบายแต่ไม่ใช่มันรู้สึก สมองมันใหญ่ขึ้นอ่ะป่าว อิอิ แต่ตรึงทั้งหน้าผากแล้วตอนนี้ครับ ขอบคุณครับ ผมว่า เด่วไม่คืนนี้ก็อีกไม่นานคงมีอะไรมาเล่าให้ฟังแน่ๆเลย ส่วนอาการร้อนนั้น มันก็มีคับเพียงแต่เหมือนกับมันหลบซ่อนอยู่เป็นเส้นขอบๆห่างๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2009
  9. ชาหอม

    ชาหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +119
    คุณ Xorce ครับตามที่คุณเคยบอกว่าที่ผมปฎิบัติถึงคือฌาณ 4 แล้วเวลาเรานั่งสมาธิเนี่ยจะเริ่มเข้าตั้งแต่ไหนก่อนครับหมายถึงจุดเริ่มต้นนะครับ คือเริ่มฌาณ 1 2 3 4 ไปเรื่อยๆ หรือเข้าปุ๊บไปฌาณ 4 เลยแล้วการเข้าสมาธิจะสิ้นสุดตรงไหนจากฌาณ 4 ไปไหนต่อครับ แล้วแต่ละระดับจะรุ้สึกยังไงบ้างครับ ขอรบกวนถามสำหรับผู้เริ่มต้นหน่อยครับยังไม่ค่อยรู้เรื่องซักเท่าไหร่เลยครับ
     
  10. five304

    five304 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +1,274
    เรื่มหัดนั่งครับ ปฏิบัติแบบหลวงปู่ดู่ (กำพระผงกรรมฐาน) นั่งๆชักจะง่วงมากแล้ว ว่าจะถอย ซักพักเหมือนเปิดไฟให้สว่างนิด นั่งไปซักพักมีเสียง คลืดๆ (เหมือนเสียงมีการเลื่อนย้ายเฟอนิเจอร์บนเพดาน) ก็รู้สึกกลัว ตั้งสตินิดนึงพร้อมสวดมนต์แล้วถอยออก ทั้งหมดนี้คืออะไรครับไม่เข้าใจ
     
  11. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ใกล้จะถึงอรูปณานนั้น แต่ ผมไปฝึกกสิณไปด้วยได้ไหม กองที่ถนัดก็น่าจะ กสิณไฟ หรือไม่ก็ลม บางทีเอา รูปพระประกายเพรช มาประกอบด้วย จะลองเปรียบเทียบดูว่า อันไหนจะได้เร็วกว่า เพราะยังไม่รู้จริตตัวเอง ไมรู้ว่าจะได้รึเปล่า แต่ตอนนี้รู้สึกว่า ไม่ว่าภาพอะไรๆก็นิมิตขึ้นมาง่ายมากครับ ขอบคุณ ป๋า x อนุโมทนาบุญครับ ^^;
     
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto ครับ

    ถ้าเป็นวิสัยของคนที่จะได้อรูปแล้ว
    จะต้องเคยคล่อง ในกสิณทุกกองครับ
    แปลว่าจริงๆแล้วเราจับกสิณได้ทุกกองครับ และถนัดทุกกองด้วยครับ
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ ชาหอม ครับ

    คุณ Xorce ครับตามที่คุณเคยบอกว่าที่ผมปฎิบัติถึงคือฌาณ 4 แล้วเวลาเรานั่งสมาธิเนี่ยจะเริ่มเข้าตั้งแต่ไหนก่อนครับหมายถึงจุดเริ่มต้นนะครับ คือเริ่มฌาณ 1 2 3 4 ไปเรื่อยๆ หรือเข้าปุ๊บไปฌาณ 4

    แล้วแต่คนครับ บางคนก็ไล่ 1234 ค่อยๆไป
    แต่ว่ายุคนี้ที่ผมเจอ ส่วนมากจะพรวดเดียว 4เลย
    ไม่ใช่ว่าไม่ผ่าน 123 นะครับ แต่ว่าผ่านเร็วมาก ผ่าน123ในเสี้ยววินาที เร็วจนไม่รู้สึก
    รู้สึกอีกทีก็4เลย
    ดังนั้นบางคนที่คิดว่า พอปฏิบัติแล้วมันจะไล่ไปทีละขั้น อันนี้ไม่เสมอไปนะครับ

    เลยแล้วการเข้าสมาธิจะสิ้นสุดตรงไหนจากฌาณ 4 ไปไหนต่อครับ แล้วแต่ละระดับจะรุ้สึกยังไงบ้างครับ ขอรบกวนถามสำหรับผู้เริ่มต้นหน่อยครับยังไม่ค่อยรู้เรื่องซักเท่าไหร่เลยครับ<!-- google_ad_section_end -->

    ผมจะขออธิบายขั้นตอนของการปฏิบัติธรรมเลยก็แล้วกันนะครับ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

    เริ่มจากสมถะ หรือตัวสงบครับ
    1.ฝึกให้ได้ฌาณ 4 ในกรรมฐานกองใด กองหนึ่ง เข้าออกให้คล่อง
    2.ฝึกพรหมวิหาร4 แผ่เมตตาจากฌาณ4 ปรับอารมณ์สมาธิ เสวยสุขจากเมตตา ในฌาณ4
    ย้ำว่าต้องแผ่เมตตาจากสมาธิ เป็นอารมณ์ละเอียดกว่าเมตตาจากบทสวด
    3.ฝึกกสิณ 10 เปิดความเป็นทิพย์ของจิต
    ขั้นนี้รวมถึงญาณทัศนะต่างๆ ทิพยจักษุญาณ ตลอดจนถึงวิชามโนมยิทธิ
    4.ฝึกอรูป 4 เป็นอารมณ์สุดของสมถะ
    5.ใครปรารถนาพุทธภูมิ ต้องฝึกกรรมฐานไล่ให้ครบ40กอง แต่พอได้อรูปแล้ว จะไล่กรรมฐานที่เหลือจบในวันเดียวก็ได้ ถือว่าไม่ยากแล้ว หลังจากได้มโนมยิทธิแล้ว อรูปแล้ว ทุกอย่างง่ายหมด
    6.ฝึกวิชาพิเศษต่างๆ เช่นธรรมกาย การรักษาโรคด้วยสมาธิ ตลอดจนถึงอภิญญา
    ผมจัดอภิญญา ไว้หลังอรูปเพราะว่า ผู้ทรงกสิณ10 หรืออรูปได้
    จะสามารถทรงอภิญญาได้เฉพาะถ้ารู้วิธี แต่ถ้าไม่รู้วิธีก็จะยังทรงอภิญญาไม่ได้
    ซึ่งอภิญญานั้น ข้อ2-5 จะได้ตั้งแต่ตอนกสิณ10
    แต่ว่าข้อ1 คือความสามารถในการแสดงฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ
    อันนี้จะต้องได้รับการถ่ายทอดจากพระอภิญญาโดยตรง ถึงจะสามารถทรงได้

    ถึงจุดนี้เป็นเต็มขั้นของสมถะแล้วครับ

    ทีนี้ก็มาว่าอารมณ์ของฌาณแต่ละขั้นเป็นอย่างไร
    ผมขอเริ่มจากฌาณ4ก็แล้วกันครับ

    ฌาณ4 ละเอียด ลมหายใจจะหยุดนิ่ง รู้สึกว่าร่างกายหายไป หรือร่างกายโปร่งโล่งๆ หรือร่างกายรวมเป็นก้อนกลมๆ แล้วลอยอยู่นิ่งๆ
    ฌาณ4 หยาบ ลมหายใจจะหยุดนิ่ง รู้สึกเหมือนไม่มีลมหายใจ
    ฌาณ3 ลมหายใจจะเบามาก แต่ยังรู้สึกถึงลมหายใจได้ชัดเจน
    ฌาณ2 ลมหายใจจะช้าแต่ว่ายังเหลือมาก จะสัมผัสถึงความเย็นของปีติได้ชัดเจน
    ต่ำกว่านี้ ก็วัดจากลมหายใจ ยิ่งหายใจแรงสมาธิยิ่งน้อย หรือจิตไม่เป็นสมาธิเลย

    อารมณ์ปกติที่คนในปัจจุบันจะเจอส่วนมาก จะอยู่ในช่วง ฌาณ 4ละเอียด ฌาณ4หยาบ ฌาณ3 เป็นส่วนมาก ฌาณขั้นอื่นๆจึงจะไม่ขออธิบายมาก
    เพราะถ้าเข้าใจอารมณ์ของฌาณ4 ฌาณ3 ก็จะสามารถเข้าใจอารมณ์ของฌาณขั้นต่ำกว่าได้เอง

    ฌาณ4 ละเอียด จะต้องหยุดนิ่งชั่วขณะ เพราะจะรู้สึกว่าตัวเราหาย
    พอออกจากฌาณ4 อารมณ์จะอิ่มเอิบมีความสุข และจะประคองอยู่ในฌาณ3-4แทบทั้งวัน

    ฌาณ 4 หยาบ สามารถทรงเดินไปเดินมา ทำงานต่างๆได้ทั้งวัน แล้วแต่ความสามารถในการประคองสมาธิของเราครับ

    จะเห็นว่าฐานของทุกๆอย่างจริงๆแล้ว อยู่ที่ฌาณ4เป็นหลัก หากมีความคล่องในตรงนี้
    ที่เหลือทุกอย่างก็จะง่ายครับ
    แล้วถ้าถามว่าฌาณ4เนี่ย
    ฝึกกันนานไหม ใช้เวลานานแค่ไหน
    ผมกล้าบอกได้เลยว่า ถ้ารู้วิธีละก็ ไม่เกิน30นาทีครับ
    ในเมื่อใช้เวลาไม่เกิน30นาทีในการทำฌาณ4 ผมก็เห้นว่าควรจะทำเพราะมีประโยชน์อย่างยิ่งครับ

    อธิบายมาซะยาวขนาดนี้
    ผมก็ขอให้ทุกๆคนที่ได้อ่าน สามารถทรงได้ครบทุกอย่าง ตั้งแต่ฌาณ4 ตลอดจนถึงอภิญญาได้โดยฉับพลันทันใด ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  14. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ five304 ครับ

    เรื่มหัดนั่งครับ ปฏิบัติแบบหลวงปู่ดู่ (กำพระผงกรรมฐาน) นั่งๆชักจะง่วงมากแล้ว ว่าจะถอย ซักพักเหมือนเปิดไฟให้สว่างนิด นั่งไปซักพักมีเสียง คลืดๆ (เหมือนเสียงมีการเลื่อนย้ายเฟอนิเจอร์บนเพดาน) ก็รู้สึกกลัว ตั้งสตินิดนึงพร้อมสวดมนต์แล้วถอยออก ทั้งหมดนี้คืออะไรครับไม่เข้าใจ<!-- google_ad_section_end -->

    น่าจะมีคนมาลองใจครับ ฝึกกรรมฐานของหลวงปู่ดู่ มักจะพบเรื่องที่อธิบายไม่ได้
    เป็นของธรรมดาครับ
    ตั้งสติ อย่ากลัว และแผ่เมตตาให้ทุกครั้ง หลังฝึกสมาธิ ตามที่หลวงปู่ท่านสอนครับ
     
  15. ชาหอม

    ชาหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +119
    ขอบคุณครับสำหรับคำอธิบายที่คุณ Xorce กรุณาให้มาครับผมจะพยายามศึกษาทำไปเรื่อยๆ บางอย่างไม่เข้าใจมากนักเพราะ เพิ่งหัดไม่รุ้ว่าแต่ละอย่างคืออะไรบ้างแต่พยายามค้นคว้าหาครับ อนุโมทนากับคุณ Xorce ด้วยนะครับที่ให้ความกระจ่างแก่ทุกคนที่เข้ามาถามถ้าติดตรงไหนสงสัยอะไรขอรบกวนใหม่นะครับ
     
  16. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    จะ แก้ไข อาการกลัว ผี ยังไงครับ
    ผมจะไม่นั่ง สมาธิ ตอนกลางคืนเพราะว่า บางครั้ง กลัวผีครับ

    มันมีความรู้สึกเหมือน มีอะไรมาอยู่ ใกล้ ๆ และน่ากลัว ๆ ในบางครั้ง
     
  17. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ขอบารมีพระสิครับ แล้วจะรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นครับ
    ถ้าเราอยู่กับพระแล้ว เขายังเข้ามาได้ แปลว่าเขาเป็นเทวดา ไม่ใช่วิญญาณปกติ
     
  18. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่านะ เห็นแสงสว่างจ้าแต่เป็นเม็ด เม็ดประมาณหัวแม่มือ และเห็นแว๊บเดียว ประมาณ2-3วินาที -*- หรือว่า ผมไม่ได้ส่งจิตตามไป มันก็กลับมามืดเหมือนเดิมแต่มีสิ่งนึงที่มันเปลี่ยนไปคือมีแสง เหมือนเส้นฟ้าผ่า เป็นเส้นๆ ถี่ขึ้นเห็นเริ่มชัดขึ้น หรือว่ามันค่อยๆ เริ่มวนใหม่แต่ ละเอียดขึ้น อนุโมทนาครับป๋า(ในนี้ทั้งหมดรู้คำตอบเพียงแต่ ไม่รู้รายละเอียดเท่านั้น ^^)
     
  19. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    แสงที่จะเห็น ขอให้เห็นด้วยจิตนะครับ
    ถ้าเรามองด้วยจิตจะสว่างจ้าเลยครับ
    ถ้าถามว่ามองด้วยจิตจะต้องทำยังไง ก็มองผ่านจินตภาพน่ะครับ
    แต่จริงๆ แค่นึกภาพพระเป็นเพชร ก็สว่างอยุ่แล้วครับ

    ให้ตั้งจิตขอบารมีพระ เสร็จแล้วแสงจะมาเลยครับ
    แบบนี้ง่ายกว่าครับ
    ลองดูนะครับ
     
  20. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    คือ มันมีเหตุการณ์ ดังนี้ครับ
    เมื่อ คืน วันเสาร์ ที่ผ่าน มา ผม ก็นอน ภาวนา ตามปกติครับ
    แต่มัน ก็ ประมาณ กึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วเหมือนได้ยิน เสียง คนพูด ดุจ ๆ หน่อย แต่ฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็ ตกใจ ออกจะกลัว ๆ ด้วยเพราะดุจมาก ๆ สักพัก ก็พยายามฟังว่า พูดอะไร อารมณ์ เหมือนประมาณ ณาณ 4 จิตกำลังจะหลุด(เคยถามไปเมื่อนานมาแล้ว) เลยขอบารมีพระ คุ้มครอง และลุกไปหยิบพระมาใส่แล้ว ก็หลับไปอีก แล้วก็กลับมา อาการเดิมอีก ที่นี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนพี่ อ่ำ หรือเปล่า เลยใช่มโน ไปพระนิพพาน วิมานสมเด็จองค์ปฐม ไปกราบ ขอบารมี แล้วช่วงนี้จำไม่ค่อยได้ มันกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนประมาณว่าให้ตามไปเราก็ไม่ไปบอกไปว่า ถ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้า หลวงปู หลวงพ่อ จะไม่ไปไหนทั้งนาน ก็เห็นภาพ ว่าพระพุทธเจ้า ทรงมา บิณฑบาต แต่เอ่ทำไม ภาพเป็นเหมือนการตูน หว่า จึ่ง ใส่ไป ยี่สิบบาท แต่มันเป็นภาพในจิต ที่ชัดมาก ๆ พระพุทธเจ้า จึงบอกว่า มารับไปพระนิพาน ผมก็ไม่ตามไปอีก เพราะ เอ้ใจว่า ทำไมเหมือนในการตูน จนมานั่งพิจารณา ตอนเช้าว่ามันอะไรกันแน่

    รบกวนด้วยครับ หรือจะหาว่าผมบ้า ฝันไปก็ได้นะครับ
    ขอบคุณ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...