รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอนิยามของคำว่าอินทรีย์หน่อยครับ ป๋าx คืออะไร แต่ผมรู้ความหมายแค่ผิวเผิญครับ
     
  2. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    คุณ makoto ลองอธิบายก่อนสิครับ
    ว่าอินทรีย์ ตามความเข้าใจของคุณ มีความหมายว่าอะไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2009
  3. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    คำว่าอินทรีย์ นั้นเป็นตัวเชื่อมหรือพูดง่ายๆคือ เป็นฐานที่รองรับจิตไว้บนร่างกายหรือขันต์5นี้ ถ้าจะให้ผมยกตัวอย่างในความเข้าใจของผมนะ จิตก็คือจรวจ อินทรีย์คือฐานจรวจ ร่างกาย รูป รส กลิ่น สี เสียง (ขันต์5)คือพื้นดิน หากไม่มีดิน(ไม่มีขันต์5) อินทรีก็ไม่เกิด ไม่มีที่ยึด ถ้าหาก อินทรีย์ไม่แข็งแรง ไม่มีแรงส่งให้จรวจ พุ้งขึ้นไปยังอวกาศ พุ้งขึ้นไปได้แต่ได้แค่เพียงขอบฟ้า เพราะอินทรีย์หรือฐานยานอวกาศนั้นมีเชื้อเพลิงหรือแรงดันที่จะส่งจิตให้ลอยขึ้นไปถึงอวกาศได้นั้น มีน้อย ถ้าหาก มีมาก จะส่งจิตขึ้นไปได้อย่าง สบาย หรือติดขัดเล็กน้อยแล้วแต่ ใครมีอินทรีย์มากน้อย ก็จะมีแรงส่งไม่เท่ากันเพราะอินทรีย์ไม่เท่ากัน

    สรุป อินทรีย์ในความเข้าใจของผม คือ ตัวที่ คล้ายๆกำตัวที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ระหว่าง จิตกับกายและก็ยัง สามารถเป็นตัวพลักดันให้จิตสามารถขึ้นสูงได้ แต่ จะว่าอย่างนี้ก็ไม่ถูกไปเสียทั้งหมดหรอกครับ

    ^^; ผมเพิ่งจะได้เห็นคำว่า ''อินทรีย์''เมื่อบ่ายวันนี้ ไม่เคยรู้จักคำนี้เลย แต่มันเข้าใจเองว่าเป็นอย่างนี้คับ ก็เลยมาถาม ท่าน Xorce ชี้แนะด้วยผิดถูกบอกด้วยครับ
    หรือผมคิดไปเอง -*-
     
  4. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    สมาชิกใหม่คับ

    คือกำลังหัดทำสมาธิใหม่เลย เพิ่งนั่งมา 6 วัน คือ

    เมื่อ <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CDewVader%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]หายใจเข้าลึกๆ ให้ใจสบายๆ รู้สึกผ่อนคลาย พอลมเต็มปอดแล้ว ให้กลั้นลมหายใจหรือกักลมหายใจเอาไว้เบาๆ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]แล้วภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ๆๆ ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆไปที่ท้อง ประมาณ[/FONT][FONT=&quot]10[/FONT][FONT=&quot]วินาที[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]จึงค่อยหายใจออก ทำซ้ำ[/FONT][FONT=&quot]10[/FONT][FONT=&quot]ครั้ง[/FONT][FONT=&quot]
    หลังจากนั้น จะปล่อยให้มันหายใจเอง แต่มันทำไมไม่หายใจคับ มันนิ่งและอื้อ แล้วก็จะหมดลม คล้ายกับคนกั้นลมหายใจ เลยต้องบังคับให้หายใจ
    เวลาปกติ ไม่สนใจกับลมหายใจ มันก็หายใจเอง(มันเป็นระบบประสาทอัตโนมัติ) แต่พอไปสนใจ กับลมหายใจทีไร [/FONT][FONT=&quot]ผมต้องบังคับให้มันหายใจ[/FONT][FONT=&quot] ไม่นั้นจะหยุดหายใจ แล้วทีนี้ผมนั่งนั่งดูลมหายใจได้ไงคับ
    ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ผมก็กำหนดว่าถ้าผมหายใจเข้า ก็คิดว่าพุธ หายใจออกก็คิดว่าโธ แต่มันเปนการไม่ได้ปล่อยให้มันหายใจเอง แล้วสังเกตมัน แต่เหมือนเป็นการบังคับมัน
    ก่อนนั่งผมศึกษามาก่อน อ่านบทความ อ่านเวป อ่านกะทู้ มีแต่ให้นั่งดูลมหายใจ แต่ผมทำไม่ได้
    ผมลองท่องพุธโท แบบต่อเนื่อง แต่ก็ต้องมา บังคับให้มันหายใจอีกเหมือนกัน เหมือนว่าผมต้องแบ่งสติส่วนหนึ่งไว้บังคับให้มันหายใจ ยกเว้นผมเผลอ เช่น เล่นเกม อ่านหนังสือ จะไม่ต้องกัลวลกับลมหายใจ [/FONT][FONT=&quot]แต่พอคิดถึงลมหายใจทีไรก็ต้องบังคับมัน ไม่หายมันจะไม่หายใจ เห้อ
    ผมต้องแก้ไงคับ ช่วยหน่อยคับ ไม่รู้จิงๆ [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
  5. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ dewvader ครับ

    หลังจากนั้น จะปล่อยให้มันหายใจเอง แต่มันทำไมไม่หายใจคับ มันนิ่งและอื้อ แล้วก็จะหมดลม คล้ายกับคนกั้นลมหายใจ เลยต้องบังคับให้หายใจ

    ไม่หายใจ เพราะจิตเป็นสมาธิครับ
    ถ้าเราจับลมหายใจไปสบายๆ จนลมหายใจหายไป อันนี้เป็นฌาณ4แล้วนะครับ
    ต้องดูลมหายใจ จนรู้สึกว่าไม่หายใจ อันนี้ถูกแล้วครับ
    ไม่ต้องไปฝืนมันครับ แต่ว่าอารมณ์อาจจะหนักนิดหน่อย เลยรู้สึกอึดอัด

    ให้ทำใจให้สบายกว่านี้ครับ สบายกว่านี้เยอะๆเลยครับ
    แต่ลมหายใจหายไปนั้น ถูกแล้วครับ

    ปกติเขาจะต้องการให้ลมหายใจหายไปนะครับ
    ทำได้แล้ว ก็ไม่ต้องไปฝืนครับ ดีแล้วครับ

    เนี่ยได้แล้ว โดยไม่รู้ตัว นะเนี่ย
    ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ จะทำให้วันทั้งวันนี่แทบไม่หายใจเลยครับ

    สนใจธรรมะตั้งแต่อายุยังไม่เยอะก็ดีแล้วครับ
     
  6. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto ครับ

    อินทรีย์ มันแปลได้สองอย่างครับ
    ถ้าภาษาทั่วไป เขาจะแปลว่าร่างกาย
    ร่างกายของเราเรียกว่าอินทรีย์

    ส่วนอินทรีย์ในพระพุทธศาสนามีอีกความหมายหนึ่ง
    อินทรีย์ในพระพุทธศาสนา ผมขอแปลว่า เป็นกำลังของจิตครับ
    อินทรีย์มี5 ประการ
    คือศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
    กำลังของอินทรีย์ ควรที่จะมีกำลังเสมอๆกัน
    ถ้ากำลังไม่เท่ากันอาจจะปฏิบัติไม่ก้าวหน้า
    เช่น
    เรามีแต่ศรัทธา แต่ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา พิจารณาเลย ก็จะกลายเป็นงมงาย การเชื่อโดยไร้เหตุผลไป
    ถ้าเรามีแต่ปัญญา ไม่มีสมาธิ ไม่มีศรัทธา ก็จะกลายเป็นการติดตำรา ติดปริยัติไป

    ดังนั้นเราควรที่จะประคับประคองจิต ให้มีอินทรีย์ทั้ง5 ในระดับที่ใกล้เคียงกันครับ
    และอินทรีย์ เป็นกำลังของจิต ไม่เกี่ยวกับกำลังของร่างกายครับ

    อีกกรณีที่เจอบ่อยในปัจจุบัน
    คือ วิริยะมากเกินไป ทำให้เกิดความเครียดในการปฏิบัติ อันนี้ก็ต้องลดความเพียงลงหน่อยครับ เพื่อให้อยู่ในทางสายกลางครับ
    ใครที่กำลังปฏิบัติอย่างหนักเกินไป ก็ผ่อนๆลงบ้างนะครับ
     
  7. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    ผมว่ามันไม่น่าจะใช่อ่ะ มันเหมือนกั้นหายใจมากกว่า แล้วจะรู้สึกถึงหัวใจเต้น ตึกๆๆ มันคงไม่ง่ายขนาดนั่น ตังแต่จำความได้มันก็เป็นแบบนี้แล้ว

    แล้ว ฝึกไปเรื่อยๆ สำหรับผมควรฝึกแนวไหนดี

    ว่าแต่รู้ได้ไงอายุยังน้อย
     
  8. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    สวัสดีครับ ผมพึ่งจะเข้ามาเป็นครั้งแรก อยากจะถามว่า

    หลังจากไม่ได้นั่งสมาธิมาเป็นเวลานานหน่ะครับ หลังจากที่ผมลองค้นควาหลักการนั่งดู
    (คือผมพึ่งกลับมานั่งได้ใหม่ ประมาณ1เดือน) ผมลองนั่งแบบวิธีผ่อนหายใจ รู้สึกนั่งได้ไวกว่าตอนแรกมาก อยากรู้ว่าเกี่ยวกับการที่เคยนั่งสมาธิมาก่อนหรือปล่าว
    เพราะว่าลองนั่งแบบกำหนดลมหายใจ หรือ ใช้คำภาวนาแล้วเข้าถึงสมาธิช้า

    ข้อที่สองที่อยากถามคือ หลังจากที่ผมนั่งแล้วหูได้ยินเสียงดังขึ้นพอสมควรเลยครับ จะแก้ปัญหาอย่างไร ด้านลมหายใจหน่ะครับผมไม่ต้องจับ และไม่รู้สึกกับมันแล้ว เพียงแต่ในท้องรู้สึกมีลมอยู่

    ข้อที่3 ตอนผมนั่งบนที่นิ่ม กับ ตอนผมนั่งบนที่แข็ง รู้สึกแตกต่างกันพอสมควรเลยครับเวลานั่ง ผมรู้สึกว่าที่แข็งจะเข้าสมาธิได้ไวกว่า แต่จะรู้สึกเกร็งบริเวณช่วงท้อง
    ถ้านั่งบนที่นิ่มเข้าสมาธิได้ช้า แถมจะหลับอีกครับ อยากถามว่า จะนั่งยังไงดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2009
  9. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    อยากถามปัญหาอีกข้อสำคัญ
    เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ การแผ่เมตตานี่เราแผ่จากใจเรา โดยไม่ต้องมีคำสวดก็ได้ใช่ไหมครับ ผมเน้นที่หลักศึกษามากกว่าหลักปฏิบัติหน่ะครับ เพราะผมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนิพพานเท่าไหร่นัก

    ขอให้ผู้ที่ทำอยู่ทำต่อไปนะครับผมว่าเป็นเรื่องดี สำหรับผมขอทำให้ตัวเองมีความสุขโดยที่คนอื่นไม่เดือดร้อนก็เพียงพอแล้วครับ

    ขออนุโมทนา ครับ
     
  10. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    จากที่ผมไปนั่งมา แบบทำใจสบาย แต่ที่นี้ผมไม่ต้องไปกัลวลกับหายใจ มันก็หายไป เหมือนลึกๆมันหายใจเองแล้ว แต่ก็จะรู้สึกลมบางช่วง แล้วก็หายไป แต่ทำไมผมคิดเรื่องอื่นได้ในขณะลมหาย แต่ก็ไม่ใช่คิดฟุ้งช่านเพราะเรื่องที่คิดผมจงใจคิดเอง(เหมือนมันสงสัยเลยคิด)

    ผมว่า ผมจะฝึกกสิณ เอาไว้เป็นที่จับของความคิดผมไม่ให้อยากคิดมากนัก ผมว่าจะฝึกกสิณแสงสว่าง แล้วผมต้องฝึกไงครับ

    ขอบคุณมากน่ะครับที่แนะนำเมื่อวาน ทำให้ไม่ต้องอึดอัด
     
  11. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ dewvader ครับ

    ขอเดาว่าคงอยากได้ทั้งตาทิพย์ ทั้งอภิญญาครับ
    ดังนั้นฝึกกสิณได้เลยครับ
    ถ้าหาโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิด้วยจะดีมากครับ

    แนะนำให้นึกถึงภาพพระพุทธรูป เป็นกสิณครับ
    ขั้นตอนก็คือ
    ให้เรานึกถึงภาพพระพุทธรูปที่เราชอบมาองค์หนึ่ง ทุกขั้นให้นึกเอานะครับ
    แล้วก็นึกว่าสีของพระพุทธรูปเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปสีขาว ขาวล้วนทั้งองค์
    หลังจากนั้นก็นึกว่าพระพุทธรูปเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปเนื้อแก้ว มีความใส สว่างงดงามมาก
    แล้วสุดท้ายก็นึกว่าพระพุทธรูปเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปเนื้อเพชร มีประกายระยิบระยับ มีแสงสว่างมาก มีความงดงามถึงที่สุด

    พอภาพพระพุทธรูปเป็นเนื้อเพชรแล้ว ลมหายใจของเราก็จะหยุด หรือคล้ายลมหายใจหายไป

    พอได้แล้วก็อย่าลืมอธิษฐานว่า
    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถทรงภาพพระพุทธรูปที่เป็นเพชรนี้ ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ที่ข้าพเจ้าต้องการตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ
    อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง

    และให้กลับไปอธิษฐานกำกับการจับลมหายใจ จนลมหายใจหายไปด้วยครับ
    อันนี้ขอเรียกว่าลมสบายครับ เป็นการจับลมหายใจ ด้วยอารมณ์สบายๆครับ

    ลองไปทำตามดูก็แล้วกันครับ
    จริงๆหน้าก่อนๆก็มีอธิบายไว้ค่อนข้างละเอียดครับ

    ขอให้เจริญก้าวหน้าในธรรม หากปรารถนาอภิญญาฤทธิ์ใดๆ ก็ขอให้สามารถฝึกได้สำเร็จทุกประการ และใช้เป็นกำลังในการตัดกิเลสเข้าถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วครับ
     
  12. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    รู้ด้วย ว่าอยากได้ทั้งตาทิพย์ ทั้งอภิญญา
    เมื่อวานก็รู้ว่าอายุน้อย

    รู้ได้ไงหว่า

    ว่าแต่ขอบคุณมากครับ ที่แนะนำครับเด่วจะไปฝึกดู

    ที่จริงกะฝึกอาโลกสิณก่อนไปหา ภาพแสงมาแล้ว และ ฟัง จากกระทู้
    หลวงพ่อสอนวิธีทำบารมีเต็มโดยเร็ว (สำหรับคนเอาจริง)

    ถึงเทคนิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงในเว๊ปวัดท่าซุง

    แล้วที่นี้ผมควรฝึกอาโลกสิณ หรือ พุทธกสิณดี
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Maxzimon ครับ

    สวัสดีครับ ผมพึ่งจะเข้ามาเป็นครั้งแรก อยากจะถามว่า

    หลังจากไม่ได้นั่งสมาธิมาเป็นเวลานานหน่ะครับ หลังจากที่ผมลองค้นควาหลักการนั่งดู
    (คือผมพึ่งกลับมานั่งได้ใหม่ ประมาณ1เดือน) ผมลองนั่งแบบวิธีผ่อนหายใจ รู้สึกนั่งได้ไวกว่าตอนแรกมาก อยากรู้ว่าเกี่ยวกับการที่เคยนั่งสมาธิมาก่อนหรือปล่าว
    เพราะว่าลองนั่งแบบกำหนดลมหายใจ หรือ ใช้คำภาวนาแล้วเข้าถึงสมาธิช้า

    การผ่อนลมหายใจ ทำให้จิตเป็นสมาธิเร็วครับ
    ผ่อนลมหายใจนี่ ก็อย่างที่ให้หายใจเข้าลึกๆ กลั้นเอาไว้แล้วหายใจออก
    อันนี้ก็ถือว่าเป็นการผ่อนลมหายใจแบบหนึ่งเหมือนกันครับ


    ข้อที่สองที่อยากถามคือ หลังจากที่ผมนั่งแล้วหูได้ยินเสียงดังขึ้นพอสมควรเลยครับ จะแก้ปัญหาอย่างไร ด้านลมหายใจหน่ะครับผมไม่ต้องจับ และไม่รู้สึกกับมันแล้ว เพียงแต่ในท้องรู้สึกมีลมอยู่

    ถ้าสงบถึงที่สุด ลมทั้งหมดจะหยุดครับ

    ข้อที่3 ตอนผมนั่งบนที่นิ่ม กับ ตอนผมนั่งบนที่แข็ง รู้สึกแตกต่างกันพอสมควรเลยครับเวลานั่ง ผมรู้สึกว่าที่แข็งจะเข้าสมาธิได้ไวกว่า แต่จะรู้สึกเกร็งบริเวณช่วงท้อง
    ถ้านั่งบนที่นิ่มเข้าสมาธิได้ช้า แถมจะหลับอีกครับ อยากถามว่า จะนั่งยังไงดีครับ

    นั่งให้เราสบายน่ะครับ
    ถ้ายังเกร็งก็ยังไม่โอเคครับ ถ้าจะง่วงหลับก็ไม่โอเคเหมือนกันครับ
    หาอิริยาบถที่ถนัดครับ
    นั่ง นอน ยืน เดิน ได้หมดครับ ขอให้เหมาะกับเราก็พอครับ

    อยากถามปัญหาอีกข้อสำคัญ
    เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ การแผ่เมตตานี่เราแผ่จากใจเรา โดยไม่ต้องมีคำสวดก็ได้ใช่ไหมครับ ผมเน้นที่หลักศึกษามากกว่าหลักปฏิบัติหน่ะครับ เพราะผมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนิพพานเท่าไหร่นัก

    ไม่ต้องมีคำสวดก็ได้ครับ แต่ต้องระลึกถึงความสุข จนจิตใจของเราเอิบอิ่มในความสุขเสียก่อน
    จากนั้นจึงตั้งจิต ส่งความเมตตาไปยังผู้อื่น ให้ทั่วทุกทิศทางครับ


    ขอให้เจริญก้าวหน้าในการปฏิบัตินะครับ
     
  14. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    ขอบคุณมากครับที่แนะนำ
    ผมกำลังสนใจในการทำเรื่องวิญญาณ + เรื่องที่วิทยาศาสตร์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้
    ผมจะเอามาพิสูจน์ผ่านหลักการ เพื่อวิเคราะห์ผล ผมสนใจมากครับ เพราะ ผมเคยฝันจนสัมผัสได้ถึงอารมณ์สบายจนนิ่งครับ เป็นการฝัน7วันอย่างต่อเนื่องกันครับ ทุกครั้งที่หลับจะต่อจากช่วงเดิมตลอดเลยครับ เป็นมาก่อนหน้านี้ 2 ปี แล้วก็เป็นช่วงแรกที่นั่งสมาธิด้วยครับเพราะในฝันมีคนบอกให้ผมนั่งตามแบบนึงซึ่งลมหายใจเหมือนขาดไปเลยครับ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว (อาจจะเป็นเพราะฝันด้วยครับ) และก็พอดูอนาคตได้นิดหน่อยหน่ะครับ แล้วตัวผมเองเป็นคนยึดหลักการมากๆ ผมขาดความศรัทธามากครับ ผมรู้ตัวดี

    ผมนั่งนิ่งไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็สบายกว่าคนเริ่มนั่งทั่วไปเยอะครับ สมาธิต้องนั่งให้ถึงระดับไหนครับ ให้นิ่งจนไม่รับรู้อะไรเลยรึปล่าวครับ
    ขออนุโมทนาครับ
     
  15. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    มีอยู่2อย่างคับไม่รู้ว่าจะ เลือกแบบไหน ดี

    1.ปฏิบัติไป ปรกติ ขณะเข้าณานแล้วแผ่เมตตาไปด้วยตัวจะเบาโล่งโปร่งมากๆ
    2.ช่วงที่นั่งกรรมฐานอยู่มันจะรู้สึกเย็นในโพลงจมูกถ้าเราจับการไหลของลมแล้วในโพลงจมูก มันจะรู้สึกแบบ จุดเยือกแข็งเลยคับ แล้ว ก็ค่อยๆไหลไปตามหลอดลม ให้จับจุดนี่รึเปล่า
     
  16. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Maxzimon ครับ

    ผมกำลังสนใจในการทำเรื่องวิญญาณ + เรื่องที่วิทยาศาสตร์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้
    ผมจะเอามาพิสูจน์ผ่านหลักการ เพื่อวิเคราะห์ผล

    เราควรที่จะพิสูจน์จนเราพบและบังเกิดศรัทธาเสียก่อนครับ
    จึงค่อยนำมาตีความทางวิทยาศาสตร์ครับ การวิเคราะห์จะแม่นยำกว่าเยอะครับ

    ผมสนใจมากครับ เพราะ ผมเคยฝันจนสัมผัสได้ถึงอารมณ์สบายจนนิ่งครับ เป็นการฝัน7วันอย่างต่อเนื่องกันครับ ทุกครั้งที่หลับจะต่อจากช่วงเดิมตลอดเลยครับ เป็นมาก่อนหน้านี้ 2 ปี แล้วก็เป็นช่วงแรกที่นั่งสมาธิด้วยครับเพราะในฝันมีคนบอกให้ผมนั่งตามแบบนึงซึ่งลมหายใจเหมือนขาดไปเลยครับ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว (อาจจะเป็นเพราะฝันด้วยครับ) และก็พอดูอนาคตได้นิดหน่อยหน่ะครับ แล้วตัวผมเองเป็นคนยึดหลักการมากๆ ผมขาดความศรัทธามากครับ ผมรู้ตัวดี

    ถ้าจะพิสูจน์ ความเป็นทิพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องภพภูมิอื่นๆ หรือเรื่องวิญญาณก็ดี
    ความเชื่อมั่น และศรัทธา ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันดับต้นๆเลยครับ
    หากขาดความศรัทธา เชื่อมั่นในพระรัตนตรัยแล้ว ความเป็นทิพย์ยากที่จะเกิดได้
    หรือถึงจะเกิดความเป็นทิพย์ แต่ความแม่นยำก็ไม่สูงมาก และง่ายต่อการเสื่อม

    ผมนั่งนิ่งไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็สบายกว่าคนเริ่มนั่งทั่วไปเยอะครับ สมาธิต้องนั่งให้ถึงระดับไหนครับ ให้นิ่งจนไม่รับรู้อะไรเลยรึปล่าวครับ

    นั่งให้ใจสบายล่ะครับ ใช้ได้แล้ว ถ้าทรมานตัวเองมากไปจนใจไม่สบายก็ใช้ไม่ได้ครับ
    เพราะถ้าใจไม่สบาย ความสงบ จะไม่เกิดขึ้นครับ
    พอจิตมีความสุข ความสบายถึงจุดหนึ่งแล้ว จิตก็จะเป็นสมาธิเองครับ

    ส่วนอารมณ์ที่จะเข้าถึงในขั้นของสมาธิ ก็คือ อาการที่ลมหายใจเบาลงๆ

    จนลมหายใจหายไป จนลมหายใจหยุดไป จนคล้ายไม่มีลมหายใจครับ
    แล้วให้เราอธิษฐานปักหมุดเอาไว้ ว่าขอให้ทำได้ทุกครั้งที่ต้องการ ดังที่เคยกล่าวเอาไว้ครับ

    วิธีที่จะทำให้สงบอย่างรวดเร็วนะครับ
    ก่อนทำสมาธิให้หายใจเข้าลึกๆ สัมผัสถึงความเย็นเบาสบาย ของลมหายใจ ยิ้มนิดนึง
    จากนั้นกลั้นลมหายใจสบายๆเอาไว้10วินาที และภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆๆๆซ้ำไปซ้ำมา
    พอครบ10วินาทีจึงหายใจออก และทำซ้ำ10ครั้งครับ
    ให้ใจรู้สึกสบาย

    จากนั้นก็จับลมหายใจสบายๆ ดูลมหายใจไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องบริกรรมอะไร
    ลมหายใจจะค่อยๆหดสั้นลง จนหายไป
    จิตจะสงบอย่งรวดเร็วครับ แล้วเราก็ประคองอาการที่จิตนิ่ง ไม่มีลมหายใจ เอาไว้ซักระยะหนึ่งครับ


    ลองทำดูก็แล้วกันครับ จะช่วยให้สงบเร็วขึ้นเยอะเลยครับ


     
  17. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    มีอยู่2อย่างคับไม่รู้ว่าจะ เลือกแบบไหน ดี

    1.ปฏิบัติไป ปรกติ ขณะเข้าณานแล้วแผ่เมตตาไปด้วยตัวจะเบาโล่งโปร่งมากๆ
    2.ช่วงที่นั่งกรรมฐานอยู่มันจะรู้สึกเย็นในโพลงจมูกถ้าเราจับการไหลของลมแล้วในโพลงจมูก มันจะรู้สึกแบบ จุดเยือกแข็งเลยคับ แล้ว ก็ค่อยๆไหลไปตามหลอดลม ให้จับจุดนี่รึเปล่า

    ทำข้อ2.ก่อนครับ อันนี้คือลมหายใจตลอดสายจะรู้สึกว่าลมหายใจไหลตลอดเส้นทาง ตั้งแต่จมูกลงมาถึงท้อง
    จนจิต สงบระงับ เกิดความสุข ความชุ่มเย็นสบายใจ
    ลมหายใจจะหดสั้นเข้าๆ จนหายไป
    พอลมหายใจหายไป หรือพอจิตมีความสุขดีแล้ว ค่อยมาทำข้อ1.

    ถ้าเราจับลมหายใจก่อน ทำจิตให้สงบ เกิดความสุขก่อน
    เวลาตั้งจิตแผ่เมตตาจะยิ่งชุ่มเย็นกว่าเดิมครับ

    ลองนำไปปฏิบัติดูก็แล้วกันนะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. ใจ พเนจร

    ใจ พเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ขั้นแรกขอ อนุโมทนา สาธุ กับคุณ Xorce ที่ได้ให้ความกระจ่างกับสมาชิกทุกท่าน..

    ผมขอเข้าเรื่องละครั๊บ คือผมมีขอสงสัย ว่าในกรณีที่เรานั่งแล้ว เรารู้ทั้งลมหายใจ รู้จิต รู้กาย
    ในขณะนั้น ว่าอากัปกิริยา เป็นเช่นใด ได้มี นิมิต เกิดขึ้น ณ เบื้องหน้า คือ องค์พระพุทธบังเกิดขึ้น ลักษณะ เหมือน องค์พระพุทธชินราช และองค์สมเด็จปฐมต้นขององค์หลวงพ่อฤาษีแต่งดงามมาก รัศมีทอง ประกาย เป็นวงกว้าง องค์ ใหญ่โต มาก ประมาณ ตึก 9 ชั้น
    คือผมอยากทราบว่า หมายถึงอย่างไร....
     
  19. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ กิติภพ ครับ

    ให้เราจับภาพพระพุทธรูปองค์นั้น เป็นนิมิตในการเจริญสมาธิครับ
    พระท่านมาสงเคราะห์ และต้องการให้เรานึกถึงภาพของท่านเป็นกสิณครับ


    หลวงพ่อฤาษีท่านมาตามรึเปล่าครับ
    แบบว่าคุณศรัทธาแต่ไม่ยอมมาฝึกกับท่านซะที หรือมาฝึกกับท่านแล้วห่างหายไป
    ท่านเลยมาตามไปฝึกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2009
  20. ใจ พเนจร

    ใจ พเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ขอบคุณมากครั๊บคุณ Xorce ที่ให้ความกระจ่าง
    ตามที่ท่านกล่าวไว้ ผมเองไม่ได้ฝึกกับหลวงปู่ฤาษี หลอกครั๊บ แต่ฝึกจากหนังสือธรรมมะ ของหลวงปู่มั่น คร๊าบ ..ผมชอบมากกับคำกล่าวของท่าน ว่าการนั่งก็ให้คิดว่าเหมือนคนหลับ..แต่อย่าปล่อยวาระจิตมากเกินไป ให้รู้ตัว รู้จิต.....

    ....แต่ผมก็ศรัทธา ในองค์หลวงปู่ฤาษี ตัวผมเอง ที่เริ่มนั่งก็คิดว่าเป็นการสร้างบารมี..ในเรื่อง ของ ตาทิพย์ ทั้งอภิญญา กสิณ ญาณ ผมเองก็ไม่หวังมากมาย เพราะท่าเราทำจิตให้กระจ่างมากแล้ว สิ่งเรานี้ย่อมบังเกิดเองตามว่าละจิต ผมว่าการยิ่งเร่งรีบฝึก ก็อาจทำให้ จิต หลงวาระของของธรรม ได้สูงมาก ๆ เช่นกัน ปกติอย่างตัวผมเอง ผมใช้วิธีกำหนด พุทโธ ไม่นิ่งเลยครั๊บ แต่ กลับใช้ นโมพุทธายะ เป็นอารมณ์ในตอนนั่งแล้วเข้าสมาธิได้เร็วมาก...ผมก็งง ๆ กับตัวเองอยู่ แต่ผมคิดว่าคงเป็น ลักษณะของตัวเอง เพราะวาระจิต แต่ละคนไม่เหมือนกัน...

    ส่วนนิมิตที่เกิดตามที่ได้ขอคำแนะนำจากคุณ Xorce ที่ว่า ลักษณะองค์ท่าน เหมือน องค์พระพุทธชินราช และองค์สมเด็จปฐมต้นขององค์หลวงพ่อฤาษี

    ตัวผมก็แปลกใจอยู่ หรือว่าท่านจะบอกเป็นความใน ว่าสายแห่งการปฏิบัติ..เป็น
    ในสายบารมี ของท่าน ตามที่ท่าน Xorce ได้ ให้ความกระจ่างกับผมไว้...

    รบกวนปรึกษา ต่อละ..
    ปกติ ท่าเราเห็นดวงจิต สว่างขาวใส อยู่เบื้องหน้า...ซึ่งโดยทั่วไป ก็คือดวง จิตของตัวเราเอง.....ปรากฎว่ามีดวงจิต สว่างขาวใส
    อีก 9 ดวง ลอยมาจากทุกทิศ มาร่วม กับ ดวงจิตสว่างขาวใส ที่อยู่ ตรงกลาง ที่หน้าผากของเรา ในลักษณะของนิมตนี้คือลักษณะแบบไหนครั๊บ หรือจะเป็น ลักษณะ ของ มงคล 9 ประการ เปล่าครั๊บ .........
    ขอคำแนะนำด้วยคร๊าบ ว่าลักษณะ นิมิต ที่เกิดขึ้น ในสายหลวงพ่อฤาษี มีลักษณะ บังเกิด แบบผมบ้างเปล่าครั๊บ...
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...