กายทิพย์คืออะไร บุคคลจะฝึกให้มีกายทิพย์ได้หรือไม่เขียนเองโดย telwada

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย telwada, 15 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    กายทิพย์ คือ ความเชื่อในทางศาสนา ว่ามนุษย์สามารถมีกายทิพย์ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กายทิพย์ เป็นความเชื่อว่า เทวดา นางฟ้า ล้วนมีกายทิพย์ทั้งสิ้น ความเชื่อในเรื่องนี้ จึงเป็นเหตุให้เกิดความเชื่อว่า มนุษย์ก็สามารถมีกายทิพย์ได้เช่นเดียวกับ เทวดา นางฟ้า

    กายทิพย์ มีรูปลักษณะะและสถานะเป็นอย่างไร
    กายทิพย์ แท้จริงแล้ว ก็คือ บรรดาอะตอม หรือนิวเคลียสภายในร่างกาย ที่ถุกกระตุ้นให้เกิดการฟิสชั่น และฟิวชั่น ถ้าจะกล่่าวเป็นศัพท์ภาษาให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้นก็คือ การที่อะตอม รือนิวเคลียส ภายในร่างกาย แยกออกจากกัน หรือรวมกัน ด้วยการถูกกระทำจาก คลื่นไฟฟ้าภายในร่างกาย และเกิดจากการกระทำ จากการสัมผัสจากสิ่งภายนอกร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าไปกระทำกับอะตอมหรือนิวเคลียสในทุกส่วนของร่างกาย โดยการทำให้แยกตัวจากกัน หรือรวมตัวกัน

    ที่ท่านทั้งหลายได้อ่านไปแล้วข้างต้น อย่าคิดว่า เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์เพียงแต่ข้าพเจ้า นำเอาหลักวิทยาศาสตร์ มาอธิบายเพื่อให้ท่านทั้งหลายสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งในทางที่เป็นจริงแล้ว ย่อมเกี่ยวข้องกับ สมาธิ และ หลักวิชชา ทางศาสนา ประกอบเข้าด้วยกัน

    มนุษย์ทั่วไป สามารถมีกายทิพย์ได้หรือไม่ ต้องฝึกหรือปฏิบัติธรรมอย่างไร จึงจะได้กายทิพย์

    มนุษย์ทั่วไป ย่อมมีกายทิพย์อยู่แล้วโดยธรรมชาติ ในที่นี้จะไม่อธิบายอีก หากท่านทั้งหลายกลับไปอ่านตอนต้นของกระทู้ คงเพียงพอที่จะเกิดความเข้าใจได้บ้าง เพียงแต่มนุษย์ทั่วไป แม้จะมีสมาธิดีเพียงใดก็ตาม ย่อมไม่สามารถสร้างกายทิพย์ หรือแยกกายทิพย์ให้ออกจากร่างกายปกติได้ เหตุเพราะ กายทิพย์ คือ อะตอม หรือนิวเคลียสที่ถุกกระทำให้เกิดการแตกตัวหรือรวมตัวกัน โดยคลึ่นไฟฟ้า ซึ่งภายในร่างกายของมนุษย์มีอวัยวะศูนย์รวมคลื่นไฟฟ้าอยู่ที่ หัวใจ

    ดังนั้น หากมนุษย์ใดใดก็ตาม ต้องการแยกกายทิพย์ หรือต้องการเห็นกายทิพย์ในตัวเอง จักต้องปฏิบัติธรรม ให้บรรลุธรรมชั้นโสดาบัน ปฏิมรรค ปฏิผล คือ ต้องรู้จักมรรคผล ได้เป็นอย่างต่ำ จึงจะสามารถสร้างกายทิพย์ให้เกิดขึ้นได้
    แต่ทั้งนี้ ก็ย่อมต้องมีปัจจัยในด้าน ความรู้ ความเข้าใจและการฝึกฝน เป็นสิ่งประกอบด้วย

    หากมนุษย์ใดใดสามารถแยกกายทิพย์ออกจากร่างกายได้ โดยที่ร่างกายที่เป็นเนื้อหนังฯลฯนั้นทำงานได้ตามปกติ เขาเรียกว่า แยกร่าง หรือแยกกายทิพย์ ซึ่ง กายทิพย์ที่แยกไปนั้นจะคงที่คงรูป ได้นานเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับ ภาระกิจ ตามที่ต้องการจะสำเร็จหรือไม่ เมื่อสำเร็จกายทิพย์นั้น ก็จะกลับคืนสู่ร่างเดิมบ้าง สลายผสมรวมกับอากาศบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานะและสภาพแวดล้อมของอากาศในขณะนั้น
    ดังนั้น การฝึกสมาธิ เพียงอย่างเดียว จะไม่ก่อให้เกิดกายทิพย์ หรือถ้าจะกล่าวอย่างให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ฝึกสมาธิแล้ว ไม่มีกายทิพย์ เพราะการฝึกสมาธิ เป็นเพียงพื้นฐานของการวิปัสสนา เท่านั้น
    ดังนั้นท่านทั้งหลายอย่าได้หลงเชื่อ ในทางที่ผิดๆ จงใช้สมองสติปัญญาพิจารณาให้ดี
    สุดท้าย ที่ข้าพเจ้ากล่าวไปทัังหมด เป็นธรรมะที่มีในตน ไม่ใช่การอวดอ้าง หรือโอ้อวด แต่ไม่ถ้าให้พิสูจน์ เพราะการพิสูจน์ในเรื่องกายทิพย์นั้น เป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะขอรับ
    เพราะบ้างครั้ง เมื่ออะตอม หรือนิวเคลียส ทั่วร่างกายเกิดการแตกตัว หรือรวมตัว อย่างทั่วถึง ร่างกายที่เป็นเนื้อหนังฯลฯ ก็สามารถกลายเป็นกายทิพย์ได้เลย คือโปร่งแสง เป็นอณูอากาศมีแสงสีต่างกันขอรับ
     
  2. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    โอ่ววันนี้ป๋ามาแนว หลักการ อานุโมทนาครับ เด่ววันนี้ลองไปแยกขาออกจากกันดู -.-;
     
  3. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    มาแปลกจริงด้วยซิ.....อย่างนี้สิถึงเรียกว่า มีเหตุมีผล ครับ แฮะๆ อนุโมทนากับท่านด้วยครับ
     
  4. zippy126

    zippy126 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  5. เรายังเลว

    เรายังเลว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +52
    หลวงพ่อฤาษี ท่านว่าทำไม่ยาก แต่ผมว่ายากสุดใจเลยล่ะ ไม่ขอมีอภิญญาอะไร แค่ขอไปนิพพานได้ก็พอแล้ว
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ท่านทั้งหลาย กายทิพย์ ไม่ใช่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ หรือไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมาหลอกลวงกันได้
    มนุษย์มีกายทิพย์ อยู่จริง เพียงแต่เขาเหล่านั้นจะรู้จักทำให้กายทิพย์แสดงออกมาได้หรือไม่
    ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
    ข้อสำคัญ กายทิพย์ ไม่ใช่เรื่องของการคิดเอา หรือฝันเอาเอง
    ไม่ใช่ว่า แค่ฝึกสมาธิ แล้ว จะเกิดกายทิพย์ได้
    ท่านใดยังสงสัย ก็ให้อ่านบทความให้ดี พิจารณาอย่างช้าๆ ก็จะเกิดความรู้ ความเข้าใจ
    อนึ่ง ท่านทั้งหลายพึงสังวรไว้ว่า พุทธศาสนา มีข้อศีล มีข้อธรรม
    จะทำสิ่งใด จะกล่าวสิ่งใด ก็ให้อยู่ในกรอบแห่งศีล และธรรม ไม่ใช่ กล่าวไป สอนไป เพราะความอยากดัง อยากสร้าง โบสถ์ สร้าง วิหาร ไม่ถูกต้องขอรับ
     
  7. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    ได้ความรู้ค่ะ ขอบคุณมาก
     
  8. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    อ่านรอบที่ 2 เลย ขอชื่นชม
     
  9. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ท่าน...ค้นพบด้วยตัวเองเหรอครับ......แปลกดีนะ......กายทิพย์แนววิทย์....
     
  10. cap5123

    cap5123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +85
    ใช่ครับทำด้วยตัวเองดีที่สุด ตัวเองต้องมีประสบการณ์ถึงจะรู้เป็นยังง
     
  11. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    คุณขอรับ ข้าพเจ้า แนะนำให้คุณกลับไปอ่านบทความ และทำความเข้าใจอีกครั้ง
    ไม่ใช่ "กายทิพย์ แนว วิทยาศาสตร์" นะขอรับ เพียงแต่เอา เอาหลักวิทยาศาสตร์มาอธิบายเปรียบเทียบ เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น เพราะปัจจุบันแต่ละคนล้วน ได้รับการเล่าเรียน หรือศึกษา ในหลักวิชาการหลายด้าน หลายแขนง อยู่แล้ว
    ส่วนคำถามที่ว่า "ท่าน...ค้นพบด้วยตัวเองเหรอครับ" นั้น ข้าพเจ้าจะไม่ตอบตามตรง เพราะอาจมีบุคคลบางคน บางกลุ่ม คิดว่า ข้าพเจ้าโอ้อวด หรืออวดอ้าง แต่ข้าพเจ้าจะบอกท่านทั้งหลายรวมทั้งผู้ถามว่า
    "ข้าพเจ้าจะไม่สอน หรือเขียนความใดใด หรือหลักวิชาการใดใด ที่ไม่มีในตน หรือจะไม่สอน สิ่งที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัส หรือ ปฏิบัติ จนได้ผลดีแล้ว คือ จะสอน เฉพาะสิ่งที่มีในตน และปฏิบัติได้ ขอรับ"
     
  12. ต้อมแต้ม

    ต้อมแต้ม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    กายทิพย์

    ตลอดชีวิตที่ผ่านมามีความเชื่อและศรัธธาในคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนามาตลอด บางสิ่งบางอย่างที่พบเจอในชีวิตแต่ละวันไม่เชื่อ แต่ไม่เคยลบหลู่
    และวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับตัวเองอีกทั้งไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พบคืออะไร
    สามีที่อยู่กันมาหลายปี เป็นคนที่ปฎิบัติตนตามหลักศาสนาและดีที่สุด ครองชีวิตคู่ด้วยความรักและความเข้าใจ เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง(หลังจากตรวจพบและผ่าตัดเพียง 5 เดือนเท่านั้น)5เดือนสุดท้ายของจะเรียกได้ว่าเป็นระยะเวลาแห่งความเจ็บปวด ทุกนาทีที่เหลืออยู่มากด้วยความหมาย
    สุดท้ายก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเป็นจริงไปได้ พิธีการผ่านพ้นไป นำกระดูกสามีไปลอยอังคาร ตามคำสั่งเสีย(ที่วัดพระธาตุหล้าคำ ในลุ่มนำโขง หนองคาย) ทุกคืนหลังจากเข้านอน จะต้องตื่นช่วงตี1ตี2ทุกๆวัน สิ่งที่พบแทบจะเหมือนกันทุกๆคืนคือ กลุ่มควันโปร่งใส ลอยอยู่บนอากาศเบื้องหน้า เป็นภาพของบุคคลที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน สวมใส่เสื้อผ้า ที่ไม่สามารถอธิบายได้ วิจิตรงดงามตระการตา บางครั้งก็เหมือนกับภาพใต้น้ำ มีปู ปลา แหวกว่าย แต่ทุกสิ่งที่เห็นจะเป็นรูปร่างโปร่งใส บางเบา เคลื่อนไหวช้าๆไปมา จวบจนเช้าและทุกสิ่งก็จะหายไป บางครั้งกลุ่มควันโปร่งแสงก็จะปรากฎรอบๆตัวในเวลากลางวัน
    เคยบอกเล่าเหตุการณ์กับบุคคลรอบข้าง แต่ก็โดนข้อกล่าวหาว่าบ้าบ้าง คิดมากไปบ้าง จนที่สุดต้องเก็บไว้กับตัวเอง
    อยากขอความอนุเคราะห์ หากท่านสมาชิก ท่านใด มีคำบอกเล่า หรือสามารถชี้ช่องทางแสงสว่าง ได้โปรดส่งe-mail: tomtam0599@hotmail.com
    จะกราบขอบพระคุณมาก
     
  13. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:14.0pt; font-family:"Cordia New"; mso-fareast-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ.........


     
  14. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    อย่ายึดติดที่กายเนื้อ

    ถ้าต้องการเข้าสมาธิได้ไว ให้ยก กายาคตนุสติกรรมฐาน มรณานุสติกรรมฐาน อสุภะกรรมฐานสิบ และจตุธาตุวัฏฐานสี่ มาเป็นองค์พิจารณาก่อนโดยใช้กายตนเองเป็นฐานในการพิจารณา จากนั้นค่อยเข้าสมาธิ ท่านจะพบว่าสมาธิท่านตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคง
    เมื่อสมาธิตั้งมั่นดีแล้ว ต้องการให้ จิตไปสร้างรูป ละเอียดภายนอก ........ อันนี้ไม่ยาก เพราะมีแบบฝึก แต่ก่อนอื่น สมาธิต้องตั้งมั่นดีก่อน.
     
  15. Lukkhun

    Lukkhun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาบุญ

    ขออนุโมทนาบุญ ขอให้ผลบุญที่ท่านทำจงปกปักรักษาตัวท่านและครอบครัวท่านด้วย สาธุ
     
  16. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    ขอโทษนะครับ อณูอากาศไม่ได้มีสีที่ต่างกันนะครับ เพราะในอณูของอากาศดึงดูดทุกสี การที่ร่างกายโดยทั่วไปจะโปร่งแสงแล้วเป็นไปแทบไม่ได้เลย เนื่องในในอณูต่างๆของร่างกายมีระบบเซลล์อีก แต่โดยการวิเคราะห์ทั่วไปแล้วการทำให้โปร่งแสงคือการที่เซลล์ทุกอณูในร่างกาย ตัดหน่วยรับแสง พอรับความเข้มต่างๆเข้ามา ก็จะสะท้อนส่วนที่ไม่ต้องการรับออกทำให้เกิดเป็นสี เพราะฉะนั้น การที่จะทำให้ร่างกายโปร่งแสงได้นั้นต้องทำให้เซลล์ทุกอณูในร่างกายนั้นไม่รับสี (อัตราความเป็นไปได้เท่ากับ0ในทางวิทยาศาสตร์)

    ไม่ได้มาขัดอะไรมากนะครับ เพียงแต่อยากสนทนา วิทยธรรม ด้วยหน่ะครับ หากผมทราบอะไรมาผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะครับ เพราะสิ่งต่างๆที่ผมรับทราบมาได้กลั่นกรองในสมาธิครับ มิใช่ความสามารถของผมโดยตรง
     
  17. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    จะตอบไปก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นหลักฐาน เพราะเป็นเรื่องปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตน
    ผมว่าคนที่ถอดกายทิพย์แบบกายกับจิตไม่มีการรับรู้กัน ไม่จำเป็นต้องบรรลุพระโสดาบันก็สามารถถอดได้นะครับ พูดไปก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นหลักฐาน แต่การถอดกายทิพย์ก็จัดอยู่ในโลกิยฌาน หรือจัดอยู่ในอภิญญา 5 ซึ่งคนที่จะถอดได้ก็จะอยู่ในช่วงระหว่างฌานสี่กับฌานห้า พ้นฌานสี่แต่ไม่เข้าฌานห้า แล้วถอดกายทิพย์แทน ก้อย่างว่านะครับไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นหลังฐาน ก็สุดแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล ส่วนคนที่รู้ก็รู้เฉพาะตน แล้วก้ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความเชื่อที่เขาได้รู้ได้เจอมากับตัวเองอย่างแจ่มแจ้งได้ ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  18. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    ถ้าอธิบาย ในแนว สนามแม่เหล็ก น่าจะเข้าใจง่ายกว่า นะ
    ในร่างสิ่งมีชีวิต มีพลังงานไฟฟ้าเล็กๆ นับ ล้านๆเซล ซึ่งจะเป็นพลังที่ อนุภาคเล็กและละเอียด
    นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นหา พลังงานรูปนี้อยู่ พลัง ออร่า ก็มี ความสัมพันธ์กับระบบ
    พลังของจักรวาลอยู่ ...อาจจะผิดก็ได้นะ อันนี้ แค่แสดงความคิดเห็น น่ะครับ
     
  19. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    พลังงานที่เป็นพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะออกจากเซลล์ครับ รวมถึงพลังงานความร้อนด้วย พลังงานพวกนี้ไม่น่าจะเป็นวิญญาณได้นะครับ เท่าที่ผมศึกษาอยู่ ณ ปัจจุบัน กำลังศึกษาว่าเมื่อตายแล้วพลังงานตรงที่มันเคยมีอยู่นั้นหายไปไหน มันหายไปจริงๆนะครับ หายไปจนเกือบหมด เหลือเพียงพลังงานที่เกิดจากการย่อยสลายของจุลินทรีย์

    เรื่องของออร่านี่ เป็นเราสามารถสั่งให้เกิดเป็นออร่าต่างๆได้ ครับ แต่ต้องมีสมาธิเสียมาก เพราะเหตุใดหรอครับ เพราะว่าเมื่อเราจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว สมอง มันก็จะคิดตามจนไปกระตุ้นเซลล์ต่างๆในร่างกาย จนแผ่เป็นพลังงานออกมาครับ
     
  20. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เอ..pemadee และ mysice.....หายไปไหนนะ หรือมัวไปเลือกชุด ไอ้แมงมุมอยู่ รีบมาอ่านเร็วๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...