อาจารย์เอ๋ ผู้มีญาณทิพย์ สามารถสแกนกรรมได้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สัตบุรุษ, 20 มีนาคม 2009.

  1. สัตบุรุษ

    สัตบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +840
    อาจารย์เอ๋ ผู้มีญาณทิพย์ สามารถสแกนกรรมได้




    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ ทางไทยทีวีสี ช่อง 3

    หลังรายการตีสิบหยิบเอาเรื่องราว "อาจารย์เอ๋ - กฤษณา สุยะมงคล" ผู้ที่เพียงแค่เห็นหน้าก็สามารถ "สแกนกรรม" บ่งบอกได้ว่าชาติที่แล้วเคยทำบาปอะไรไว้ และมีผลกรรมอะไรที่จะต้องชดใช้ มาร่วมพูดคุยในรายการ ก็ทำเอาใครๆ ก็อยากรู้รายละเอียดแบบเจาะลึก วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาไปให้ค้นหาคำตอบให้ตาสว่างกัน...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลนะคะ

    อาจารย์เอ๋ หรือ กฤษณา สุยะมงคล ผู้หญิงธรรมดาที่มีญาณทิพย์ติดตัวมาตั้งแต่เด็กโดยที่เธอเองไม่รู้ตัว จนเมื่ออายุ 27 ปี ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีญาณทิพย์ เพราะช่วงนั้นพบกับความผิดหวังและความตกต่ำ ทำให้เธอหันเหชีวิตเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรม นับแต่นั้นมา การจุดประกายรับรู้ในพลังแห่งญาณทิพย์จึงเกิดขึ้น และทำให้เธอมี "ตาทิพย์" สามารถมองเห็น "กรรมเก่า" ในอดีตชาติของบุคคลทั่วไปได้ รวมทั้งเธอยังสามารถใช้ญาณพิเศษนี้สื่อสารกับดวงวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวร เพื่อรับทราบถึงความต้องการในสิ่งที่ต้องชดใช้ให้กันไม่ว่าจะติดค้างกันมาในภพชาติใดก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม เพียงแค่คำบอกเล่าก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนเชื่อได้ ทางรายการตีสิบจึงได้ยกตัวอย่างของการ "สแกนกรรม" มานำเสนอ โดยเชิญ "คุณเจี๊ยบ" ผู้ชมที่อยู่ในห้องส่งขึ้นมา "สแกนกรรม" โดยให้อาจารย์มองหน้า ซึ่งเพียงแค่นี้อาจารย์เอ๋ก็สามารถบอกได้ว่า คุณเจี๊ยบเป็นทหารกลับชาติมาเกิด ฉะนั้นในชาตินี้เวลาจะทำอะไรก็ต้องสู้ชีวิต ส่วนกรรมที่ส่งมาคือจะต้องทำอะไรๆ เองทุกอย่าง ทำมาหากินเอง ปรึกษาใครไม่ได้ ทั้งๆ ที่คุณเจี๊ยบช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา แต่คนอื่นกลับไม่เหลียวแล ประมาณว่าทำดีก็ไม่ได้ดี และจะทำอะไรก็ต้องทำคนเดียว ร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ ซึ่งคุณเจี๊ยบก็ยอมรับว่าเป็นความจริง พร้อมๆ กับน้ำตาไหลอาบแก้ม ซึ่งเป็นการระบายออกถึงความทุกข์ที่เก็บงมไว้คนเดียว

    ทั้งนี้ อาจารย์เอ๋ แนะวิธีแก้กรรม คือ ต้องแก้ในใจตัวเองก่อน หมั่นสวดมนต์ภาวนาแล้วชีวิตจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของเรื่องสุขภาพนั้น อาจารย์เอ๋มองเห็นภาพว่า คุณเจี๊ยบจะมีปัญหาที่กระดูกบริเวณหลัง เวลาเดินไปไหนจะลำบากมาก เพราะเวลาไปไหนจะไปคนเดียว ทั้งๆ ที่มีครอบครัว แต่ไม่เคยชวนใครไปไหน ซึ่งคุณเจี๊ยบก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง งานนี้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับขนลุก ด้วยบุคลิกที่เป็นคนพูดตรงๆ ไม่ค่อยอ้อมค้อมของอาจารย์เอ๋

    ปัจจุบัน อาจารย์เอ๋ สแกนกรรมให้กับบุคคลทั่วไป และผู้มีชื่อเสียงหลายต่อหลายท่าน ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำและวิทยากรบรรยายเรื่องกรรม ในมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่ง โดยรายได้จากการสแกนกรรม เธอนำไปทำบุญและสร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องตลอดมา

    อืม... อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตัดสินใจเองค่ะ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]...[​IMG]...[​IMG]

    ขอเสนอชื่อเข้าชิงฮับ
     
  3. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    เขาปฏิบัติกันอย่างไรครับ ถึงได้รับรู้ในสิ่งนี้ น่าแปลกดีจัง อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การที่จะเห็น อะไรแปลกๆ นั้น คนที่ทำสมาธิ มาแล้วก็ให้ ถอยมาที่อุปจารสมาธิ คือ ดูนิมิตไป เช่นหลับตาเห็นอะไรแล้วก็ดูตามไป
    มันจะเป็นเรื่องเป็นราว แต่ว่า ปุถุชนนั้นมีกิเลส เรื่องที่จะให้ตรงให้จริง 100% นั้นไม่มีทางครับ

    ขนาดแม่ชีแก้ว ที่เป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ท่านมีญาณแม่นยำมาก ขนาดรู้ว่าหลวงปุ่มั่นตายวันไหน ท่านก็ยังไม่เชื่อนิมิตตัวเองเลย หมายความว่า นิมิต นี้มันหลอกเราได้หากว่า กิเลสไม่หมด
    ก็เป็นอันว่า พระโสดาบัน พระสกิทาคา และ อนาคามี โดนนิมิตหลอกได้หมด

    เราควรจะทำจนกว่า ได้ ปฏิภาคนิมิต จนชำนาญ เมื่อได้ปฏิภาคนิมิตชำนาญ แล้วจึงลงสุ่อุปจารสมาธิแล้วจึงดูนิมิต จึงจะแม่นยำครับ
     
  5. สัตบุรุษ

    สัตบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +840
    <HR style="COLOR: #fefefe; BACKGROUND-COLOR: #fefefe" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    <TABLE class=tborder style="MARGIN: auto" cellSpacing=1 cellPadding=6 width=1 align=center summary=table border=0><THEAD><TR><TD class=tcat colSpan=2>[ame="http://www.youtube.com/watch?v=SsE-d2c_nAA"]http://www.youtube.com/watch?v=SsE-d2c_nAA[/ame]</TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=alt1><EMBED src=http://www.youtube.com/v/SsE-d2c_nAA width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- / message --><!-- sig -->__________________



    สแกนกรรม-ผู้หญิงตาทิพย์ มองทะลุกรรม... เมื่อดวงตาที่สามถูกเปิดขึ้น เธอจึงหยั่งรู้







    <HR style="COLOR: #fefefe; BACKGROUND-COLOR: #fefefe" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->



    [​IMG]

    หนังสือที่เล่าถึงชีวิตของผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มี ญาณทิพย์ติดตัว มาตั้งแต่เด็กโดยที่เธอเองไม่รู้ตัว จนเมื่อความผิดหวังและความตกต่ำในชีวิตหันเหให้ชีวิต เธอเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรม นับแต่นั้นการจุดประกายรับรู้ในพลังแห่งญาณทิพย์จึงเ กิดขึ้น และทำให้เธอมี "ตาทิพย์" สามารถมองเห็น "กรรมเก่า" ในอดีตชาติของบุคคลทั่วไปได้ รวมทั้ง เธอยังสามารถใช้ญาณพิเศษนี้สื่อสารกับดวงวิญญาณของเจ ้ากรรมนายเวรเพื่อรับทราบถึง ความต้องการในสิ่งที่ต้องชดใช้ให้กันไม่ว่าจะติดค้าง กันมาในภพชาติใดก็ตาม

    นอกจากนี้ ภายในเล่มยังได้เล่าถึงประสบการณ์การสัมผัสกับดวงวิญ ญาณต่างๆ ทั้งเทพเทวดา เหล่าพระเกจิชื่อดัง บุคคลที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ไปจนถึง "พญานาค" แห่ง "ป่าคำชะโนด" ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ การได้นิมิตเห็น เจ้ากรรมนายเวรของตัวเธอเองที่มาปรากฏให้เห็นในรูปแบ บต่างๆ เพื่อรอรับการชดใช้จากเธอ

    และที่สำคัญที่สุดคือ "สแกนกรรม" ได้รวบรวมบทสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เช่น บทพาหุง มหากาฯ พระคาถาชินบัญชร ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อาการวัตรสูตร และยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ที่จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถแก้กรรมเพื่อลดความไม่สบาย กาย ไม่สบายใจลงได้ด้วยตัวเอง รวมถึงวิธีการแผ่เมตตาที่ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่า ผลบุญที่เราได้ทำไปนั้นถึง "ผู้รับ" อย่างแน่นอน!

    http://www.puansanid.com/forums/showthread.php?t=4899



    <!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.gif
      image.gif
      ขนาดไฟล์:
      47.9 KB
      เปิดดู:
      16,526
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ก็วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรนะ คิดแต่ว่าเราคงทำกรรมเก่าไว้ ทำไม่ดีไว้ มีเวรกรรม มีเจ้ากรรมนายเวรคองจองลายจองผลาญอยู่

    พอทำอะไรไม่สำเร็จก็ว่ามีเจ้ากรรมคอยทำลาย คอยเป็นอุปสรรคอยู่

    คิดอย่างนี้อ่อนแอนะ เกิดมาไม่รู้กี่ชาติ ขึ้นชื่อว่าเกิดมันก็ต้องเบียดเบียนกันนั่นแหล่ะ มั่วแต่นึกถึงเรื่องแก้กรรม เรื่องเก่าที่ไม่สามารถมองเห็น จิตตกแน่ แ้ก้กันทั้งชาติมันก็ไม่จบ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว

    กรรมเก่ามันอย่างไรก็ต้องส่งวิบาก แต่กรรมใหม่ซิ วิบากในปัจจุบัน ในวันนี้ ในพรุ่งนี้

    ใครจิตตกนะ เริ่มใหม่ หาที่สงบ วิเวก พิจารณาตัวเอง ให้เวลากับตนเองได้ทบทวน อย่างมีสติ ทบทวนอย่างปราศจากความขลาด

    แล้วไม่ต้องกลัวใครทั้งสิ้น จะเจ้ากรรม จะนายเวร มาจากไหน ไม่ต้องไปกลัวมัน

    แต่นี้ ขอให้กลัวในบาปของตัว กลัว ละอายในการก่อกรรมชั่วของตัว เท่านั้น แล้วก็ของให้ตั้งมั่นในความดี ว่าง ๆ ก็ไปทำบุญ ทำทาน ถ้าให้ดีกว่านั้นก็ไปปฎิบัติธรรมเสียบ้าง แล้วชีวิตจะดีขึ้น

    กรรมเก่าแก้ไม่ได้หรอก แต่กรรมใหม่สิ(ชั่ว) กันได้ หากมีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ประมาท ^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  7. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    แนวนี้คนชอบ
    เริ่มตั้งแต่ ซัน ริชชี่ หมอตุ้ย
    ตอนนี้ก็เป็น อ เอ๋
    ดูเอามันส์แล้วกัน อย่าซีเรียส
    การแก้กรรม ไม่มีอะไรดีไปกว่า วิปัสสนากรรมฐาน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร จนกว่าจะอโหสิกันไป
    ยิ่งถ้าถึงขั้นบรรลุได้ ก็หมดกังวล
     
  8. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    เรื่องกรรม มันมีกันทุกคน
    ถ้าไม่มีกรรม ก็เป็นพระอรหันต์ เข้าอนุปาทิเสสะนิพพานไปแล้ว นั่นแหล่ะ หมดกรรม
    การอ้างว่า ที่ทำนั้นทำนี่ไม่สำเร็จ เพราะกรรมเก่า ต้องแก้
    วิธีคิดแบบนี้ เหมือนอยู่ในกงกรรมกงเกวียน ไม่มีทางพ้นกรรมไปได้
    อ จินนี่ กล่าวไว้ชอบแล้ว...
     
  9. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    พระพุทธเจ้าไม่มีสอนให้แก้กรรม แสกนกรรม
    เฮ๊อ ไอ้คนพวกนี้ อวดอุตริฯ กันทั้งนั้น

    นรกจะกินหัว

    อย่างว่าแหละครับ อดีตทำไปแล้วจะมาแก้ไขอะไร ตั้งใจทำความดีสิครับ นั่นแหละถึงจะถูก
     
  10. สัตบุรุษ

    สัตบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +840
    ข้าพเจ้ากลับมองว่า วิธีนี้อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้คนเข้าใจพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
    บางคนไม่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม และถามตนเองเสมอ ว่า "ทำไมชีวิตของเราถึงได้เป็นอย่างนี้" นั่นเป็นเพราะเขาไม่รู้จักกฎแห่งกรรมนั่นเอง

    พระพุทธเจ้าไม่มีสอนให้แก้กรรม แสกนกรรม
    ตอบ - พระพุทธเจ้าหรือที่ไม่ได้สอนเรื่องการแก้กรรม (หากสิ่งนี้คือความเข้าใจของท่านนั่นก็ไม่เป็นไร) แต่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนเรื่องบุญ-บาป อะไรคือบุญสูงสุด อะไรคือบาปอกุศล พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติไว้แล้วในพระไตรปิฏก

    แต่ทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่รู้ มีคนบนโลกนี้สักกี่ล้านคนที่จะเข้าใจ คนที่นับถือศาสนาพุทธบางคนยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือบุญ อะไรคือบาป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  11. jantra2008

    jantra2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +185
    คิดเหมือนคุณ จินนี่เลยค่ะรู้ปัจจุบันอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
     
  12. OrangeHP

    OrangeHP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +160
    ขอแนะนำว่า ให้ปล่อยไปตามกฎ อย่าให้สวรรค์ลำบากใจ
    ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ไม่มีใครหลีกหนี้ได้
    ถ้าคุณยิ่งไปยุ่งกับเรื่องที่เป็นกฎ กรรมเหล่านี้มันก็จะย้อนมาหาตัวเอง
    ไม่ใช่ได้กุศลแต่มันคือความทุกข์ที่จะตามมาเพราะคุณฝืนกฎธรรมชาติ
     
  13. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ไม่สนใจมันนะ (กรรมชั่วเก่า) เมื่อได้รับผล ได้ละอายในบาป ได้รับในโทษของการกระทำนั้นแล้ว ก็ให้ระลึกรู้ เป็นประสบการณ์ สำนึกตัว แล้วเริ่มใหม่ อะไรที่ทำแล้วต้องรู้สึกผิด รู้สึกเศร้าหมอง หากมันไม่ดีก็พยายามอย่าไปทำ บาป บุญ คุณ โทษ มันมีจริง ใครทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลเช่นนั้น

    มีอีกอย่างที่อยากให้ตรึงตรองดู นั่นคือ การละอนุสัย ถ้าพยายามทำได้จะมีคุณต่อตัวและหมู่สัตว์มาก ^-^
     
  14. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437
    อยู่กับปัจจุบัน คิดให้ดี พูดให้ดี ทำให้ดี อย่างอื่น ปล่อยมันไป สรรพสิ่งล้วนหมุนเวียน เปลี่ยนไป อยุ่ที่ตัวเรา เราทำอะไรอยู่นั่นเอง....... ดี ชั่ว ตัวเรากำหนด

    เปรียบดั่งอาหาร ตั้งใจ ใส่ใจ ตระเตรียมเครื่องปรุง ส่วนผสม ให้ลงตัว ทำด้วยความปราณีต ท่านว่า อาหารจานนั้น รสชาติ จะเป็นเช่นไรเล่า

    ตรงกันข้ามกัน ตามมีตามเกิด ทำมั่ว ๆ ไม่ชิม ไม่ปราณีต มีอะไร ก้อใส่ ๆ ท่านว่า รสชาติจะเป็นอย่างไรเล่า

    พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก้อเช่นเดียวกัน มีรสเดียว คือ วิมุตติรส

    ขอเราท่านทั้งหลาย จงมีกำลังกาย กำลังใจ ในการประกอบกิจ ของกาย ใจ โดยชอบธรรมเถิด

    อนุโมทนา สาธุการ

    เมตตาวิหารี


    * ส่วนเรื่องแนวทางปฏิบัติ แนว ไหน ๆ ก้อจะเจอแบบนี้ทุกคน อยุ่ที่ว่า ยึด มันไว้ หรือ รู้แล้ว วางมันไว้อย่างนั้น เท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  15. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    อย่ามองว่าเป็นแฟชั่นเลยนะคะ
    ช่วงนี้ชักจะมีคนที่มีญาณอย่างนี้
    ปรากฎมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
    ไม่คิดเหรอคะว่า บางทีเบื้องบน
    อาจจะกำลังเตรียมการอะไรบางอย่าง
    ในเมื่อหลายท่านในที่นี้ อยู่ดีมีสุขในปัจจุบันได้
    ก็น่ายินดี และน่าอนุโมทนาด้วย
    แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อย ที่ยังจมติดกับความทุกข์
    หาทางออกไม่ได้ เราจึงน่าจะร่วมอนุโมทนา
    กับผู้ที่มีญาณเหล่านี้ ที่มาช่วยเหลือคนเหล่านั้น
    ให้เขาได้เริ่มต้น และดำเนินชีวิตในหนทางที่ถูกต่อไป
     
  16. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ชอบความคิดเห็นนี้มาก และก็เห็นด้วย ทุกวันนี้แทบจะไม่ต้องทำอะไรแล้ว มีแต่คนมาตอกย้ำเรื่องของกรรมเ่ก่าๆ ถ้าไม่แก้กรรมก็จะเป็นนู่น เป็นนี่ชีวิตจะไม่มีวันดีขึ้น ใครมาบอกให้แก้กรรม ก็แก้ตามที่เขาบอก หลายวิธี หลายอาจารย์ จนชีวิต ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว วันๆก็นั่งเพ่งสมาธิไปที่การแก้กรรม แล้วจิตก็ถูกตอกย้ำตลอดเวลาว่าเราเป็นคนมีเวร มีกรรม ชีวิตนี้หากไม่หมดเวรหมดกรรม ก็คงไม่ดีขึ้น ความรู้สึกนี้เกาะกินใจมานาน จนแก้ไม่ได้ เพราะมีแต่คนมาพูดๆๆ ทุกวันนี้ใครแนะนำอะไมาเราก็ปฎิบัติตามเพระาอยากหลุดพ้น แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่เขาแนะนำมามันช่วยให้เราหลุดพ้นได้จริงหรือป่าว แล้วเราก็นั่งทำๆไป จนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น นั่งแต่จะแก้กรรมอย่างเดียว จนทุกวันนี้เรามาคิดว่ากรรมเรามันจะหมดได้ไหม เพราะเราฝังอยู่กับมันทุกวาระจิต เหมือนตอนที่เรานับถือศาสนาคริส ตอนสมัยเป็นเด็ก อะไรๆที่ทำก็เป็นบาปหมด สารภาพภาพไม่เว้นแต่ละวัน พอเรากลับมาอยู่เมืองไทยก็เห็นพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่น่าศรัทธา เราก็เลยเปลี่ยนจากคริส มานับถือพุทธ แต่ตอนนี้เราก็อยากจะวิ่งหนีอีกแล้ว เพราะไม่ว่าเราจะศรัทธา เชื่อมั่น ทำดีทุกอย่าง สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ก็เหมือนกับเราจะไม่้พ้นกรรมเลย แล้วเราจะต้องทำอย่างไร

    แล้วตอนนี้ชอบมีคนหลายๆคนออกมาอ้างตัวว่า ดูกรรมได้ แก้ไขกรรมได้ เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง เพราะเราเชื่อว่าแค่พระอริยะ พระสุปฎิปันโนเท่านั้นที่จะมีความสามารถพิเศษทางด้านนี้ได้ ไม่เชื่อ แต่ก็จะไม่หลบหลู่ เพราะเราก็เจอมาเยอะคนที่อ้างว่าดูกรรมเราได้ แก้ไขกรรมเราได้ เราก็เชื่อมาตลอด เราก็ปฎิบัติแต่ถึงเวลามันก็ไม่เห็นมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงและแก้ไขกรรมของเราได้เลย มีแต่ตอกย้ำให้หนักขึ้นไปอีก
     
  17. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659
    สุดท้ายก็เสื่อมไปตามคำ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
    ว่าตามพี่ขันท์
    ขนาด มรรค-ผล ท่านก็ยังมีพลาด
    ต้องได้ ทั้งจตุตูปปาตญาณ บุพเพนุวาสนุสติญาณ
    แต่ก็อีกนั่นแระ อริยะมรรคผลท่านก็คงไม่อยากเป็นผู้ข้อง
    โดยเฉพาะ เรื่องของการเวียนว่าย กรรมเก่ากรรมใหม่

    ดูกรรม สแกนกรรม แต่ถ้าปัจจุปัน ทำผิดแล้วผิดเล่า
    ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

    ยิ่งเดินผิดทางยิ่งแล้วใหญ่

    ตามรอย บรมครูดีกว่านะ
    องค์บรมครูท่านสอนว่า ธรรมะของพระองค์ ตั้งอยู่ในปัจจุปัน รู้ได้ในปัจจุปัน และหลุดพ้นได้ในปัจจุปัน

    หมายเหตุ
    หากดูกรรมย้อนไปได้สักร้อยชาติพันชาติ
    รับรองชาตินี้ไม่ต้องทำไรแล้ว
    นั่งแก้กรรมกันอย่างเดียว

    องค์บรมครูท่านก็บอกทางไปสู่มรรค4 ผล4 ไว้หมดแล้ว

    วิธีแก้กรรมที่ถูกต้องน่ะ

    เราว่านะทำได้ครบหลักสูตรเมื่อไร
    กรรมเก่า กรรมใหม่ หายหมด
     
  18. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659
    หมายเหตุ

    แก้กรรม ของผู้เขียนคือ แก้ที่การกระทำ ทั้ง กาย วาจาใจ
    จากอกุศลกรรม ให้เป็นกุศลกรรม ในปัจจุปันสมัย

    ไม่ใช่หมายความว่า พระพุทธองค์ ท่านสอนเรื่องการแก้กรรมนะ
     
  19. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,660
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    ครับ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตา กรวดนํ้าไปด้วยใจอันบริสุทธิ์ให้เเก่เจ้ากรรมนายเวรของเรา ซักวัน กรรมเราจะเบาบางลงไปเองครับ อนุโมทนาครับ
     
  20. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ผมมองต่างมุมกับท่านที่แอนตี้เรื่องความสำคัญในการทำความเข้าใจกับอดีตกรรมนะครับ

    ผมเชื่อว่า เราจะไม่ซาบซึ้งจริงกับคำว่าทุกข์ภัยในวัฏสงสาร ถ้าเราไม่ได้ศึกษาอดีตกรรมของตนเอง ไม่ว่ากรรมที่เราเคยทำในชาตินี้ก็ดี หรือในอดีตชาติก็ดี นอกจากนี้เราจะไม่มีหิริ โอตตัปปะ มากพอที่จะอายและเกรงกลัวต่อผลชั่วด้วย ถ้าเราไม่ศึกษาการให้ผลของอดีตกรรม จนถึงขั้นที่ใจเราละอายและเกรงกลัวต่อบาป แล้วหันมาจริงใจในการทำตามหลักพระศาสนาคือ
    1.) งดเว้นความชั่วทุกชนิด (รักษาศีล)
    2.) ตั้งใจทำแต่ความดี (สมาธิ)
    3.) ทำจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์(สมาธิ+ปัญญา)

    คนที่ไม่เห็นความสำคัญ ไม่ศึกษาในอดีตกรรมของตนเอง มักจะไม่มีแรงจูงใจในการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เมื่อศีลไม่บริสุทธิ์แล้ว สมาธิที่เป็นของละเอียดกว่าก็ไม่มีทางทรงตัว เมื่อสมาธิไม่ทรงตัวปัญญาก็ไม่ทรงตัว ทำให้การปฏิบัติธรรรมไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

    การแอนตี้การศึกษาอดีตกรรมจึงเฉกเช่นเดียวกับการแอนตี้การศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ ว่าเป็นเรื่องในอดีต ไม่มีประโยชน์ที่จะศึกษา ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่า

    โธ่ ก็เข้าใจอย่างนี้กันไง จึงทำปัจจุบันไม่ได้ดีที่สุดกันซะที เพราะไม่สนใจศึกษาว่าในอดีตเราทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง(Lessons Learnt) ปัจจุบันจึงทำผิดพลาดไปแบบเดิมๆ อนาคตก็คงไม่ต้องพูดถึง
     

แชร์หน้านี้

Loading...