::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

ขออนุญาตคุณเหมี่ยวม๊าวคัดลอกข้อความรายละเอียดการร่วมบุญมาลงเพิ่มเติมนะครับ เพื่อคนที่มาใหม่แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียดตั้งแต่หน้าแรก

งานวันกตัญญู 2552 หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วันที่ 12 เมษายน 2552 มีการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ โดยท่านสามารถบริจาคได้ดังนี้

ระดับมัธยมศึกษา ทุนละ ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐ ทุน
* รับ เหรียญเงินลงยา รุ่นลายเซนต์ ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข (เลือก ๑ เหรียญ ชมภาพ หน้า 2)

ระดับประถมศึกษา ทุนละ ๕๐๐ บาท จำนวน ๕๐ ทุน
* รับ ล็อกเกต รุ่นลายเซนต์ ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข (เลือก ๑ เหรียญ ชมภาพหน้า 12)

หรือเป็นเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทานแด่พระสงฆ์ที่มาร่วมงานวันกตัญญู ชุดละ ๕๐๐ บาท (ประมาณ ๕๐ ชุด)
* รับ เหรียญยืนฉลองอายุ ๙๒ พรรษา (สร้างปี ๒๕๓๖) ๑ เหรียญและแหวนตะกร้อหลวงปู่ขวัญ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร เนื้อทองเหลือง ๑ วง (๑ ชุดประกอบด้วยเหรียญยืน ๑ เหรียญและแหวนตะกร้อเนื้อทองเหลือง ๑ วง ชมภาพหน้า 24-26) (มีจำนวนไม่มาก)


สนใจร่วมทำบุญ กรุณาติดต่อ...
พระครูสังวรยติกิจ (พระอาจารย์อินทร จิตตสังวโร) เจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหอย
หมู่ที่ ๖ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๖๐ โทร. ๐๘-๑๙๙๒-๐๔๐๗ โทรสาร. ๐-๕๓๓๖-๗๙๗๑
หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาทุ่งเสี้ยว (สันป่าตอง)
ชื่อบัญชี กองบุญครูบาอิน อินฺโท เลขที่บัญชี ๖๖๑-๒-๒-๓๐๐๔๗
ช่วยค่าส่งไปรษณีย์ 50 บาท<!-- / message --> (ท่านยินดีส่งให้ทางไปรษณีย์ครับ)

 

พระผงเกศาสวยดีครับ เอามาลงให้ดูอีกเยอะๆนะครับ จะได้รู้ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่ผมไม่เคยเห็นไม่เคยมี จะได้เอาไว้เป็นวิทยาธานนะครับผม อิอิ

 

ทำไมผมถึงมองไม่เห็นรูปอ่ะครับพี่ๆ เขาไปกระทู้ไหนๆก็ไม่เห็นรูปอ่ะครับ

 

สวัสดีครับ...

เมื่อวันก่อน ผมได้ลงรูปเหรียญรุ่นแรก, รุ่น 2 และรุ่น 3 ห่มจีวรให้เพื่อนๆ ได้ชม
แต่ไม่ได้ลงรูปด้านหลังเหรียญรุ่น 2 และรุ่น 3

วันนี้เลยมาขอโพสภาพ ให้ชมทั้งหน้าและหลัง
ภาพเบลอๆ ไปนิดนึงนะครับ ขออภัยด้วย

รูปแรก.... เหรียญรุ่น 2 ด้านหน้า




ด้านหลังครับ...
ขนาดเหรียญประมาณเหรียญบาท รุ่นใหม่.. เนื้อทองเหลือง เก็บไว้นานๆ แต่สียังไม่ดำ สงสัยทองสมัยนั้นจะมีเปอร์เซนต์สูง...



เหรียญรุ่นแรกของท่าน ลูกศิษย์ขอสร้าง...
แต่เหรียญรุ่น 2 นี้ หลวงปู่เป็นคนให้พระอาจารย์ไพบูลย์ เป็นคนไปจัดการสร้าง
ถือว่าเป็นเหรียญที่ท่าน "ดำริ" ให้สร้าง เป็นเหรียญแรกเลย


ต่อไปเป็นเหรียญรุ่น 3 เนื้อทองแดงรมดำครับ




ด้านหลัง



เหรียญรุ่นนี้ มีแบบที่กาไหล่ทองด้วยครับ...



ด้านหลังครับ...



ลงภาพด้านหลังให้แล้วนะครับ คุณชัยณรงค์
ภาพชุดต่อๆ ไปจะไม่ลืม ลงทั้งสองด้านครับ

แฮะๆๆๆ


ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ..

พระผงเกศารุ่นแรกของหลวงปู่ครูบาอิน...
ที่วัดสร้างกันเองครับ..

พระผงเกศารุ่นแรกของหลวงปู่ สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น

กล่าวถึงพ่อหนานเรือง ในขณะนั้นหากไม่รวมหลวงปู่ครูบาอินแล้ว ถือว่าพระเรืองเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุด ในบรรดาพระเณรวัดฟ้าหลั่ง คณะญาติโยมหมายจะฝากฝังให้สืบทอดวัดฟ้าหลั่งต่อจากหลวงปู่ครูบาอิน แต่บุญกรรมเป็นเรื่องที่ยากจะหยั่งรู้ได้ ต่อมาในภายหลังพระเรืองได้ลาสิกขาบท และได้ย้ายไปอยู่บ้านแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนตราบจนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่เป็นพระที่ชอบแจกวัตถุมงคล ท่านแจกครั้งหนึ่งก็หลายองค์ ใครมาหามากราบมักจะได้ของดีกลับไปเสมอ วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมาถ้าทางพระเณรหรือกรรมการวัดไม่แบ่งไว้ให้เช่าบูชา หลวงปู่ท่านก็จะแจกหมด พระผงเกศารุ่นแรกนี้ก็เช่นกัน บางส่วนก็แจก บางส่วนก็ให้เช่าบูชา สร้างทั้งหมด ๓ แบบด้วยกันคือ

แบบแรก: เป็นพระผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร

แบบที่สอง: เป็นพระผงเกศาไม้งิ้วดำใช้แม่พิมพ์เดียวกับแบบแรก พระวุฒิเป็นต้นคิดที่จะสร้างเป็นเนื้อพิเศษไม้งิ้วดำ โดยใช้ไม้งิ้วดำซึ่งมีลูกศิษย์หลวงปู่นำมาถวายจาก อ.แม่สะเรียง เมื่อหั่นเป็นท่อนๆ แล้วโขลกกันเอง ใช้เวลาโขลกนานมากเนื่องจากไม้งิ้วดำเป็นไม้ที่แข็ง เหล่าพระเณรสู้แรงโขลกไม่ไหว ทำให้ได้มวลสารไม่มาก จากนั้นนำมาผสมเกศา (ผสมมากกว่าพระเนื้อผงธรรมดา เพราะผู้ทำตั้งใจจะเก็บไว้ใช้กันเอง) ดินจอมปลวก และน้ำมันละหุ่ง และผงเถ้าดอกไม้เล็กน้อย กดพิมพ์ได้แค่ห้าสิบกว่าองค์ และมีแตกหักไม่สมบูรณ์บ้าง

แบบที่สาม: เป็นพิมพ์พระรอด ขนาดพระรอดพิมพ์เล็ก เนื้อพญางิ้วดำเหมือนกับพระผงเกศาแบบที่สอง (นี่แหละคือพระรอดดำที่โด่งดังของหลวงปู่) ในส่วนของพิมพ์พระรอดนี้ พระเรือง (ปัจจุบันลาสิกขาแล้ว) เป็นผู้เตรียมมวลสารและกดพิมพ์เอง ท่านชาเล่าว่าหลังจากกดพิมพ์เสร็จ นำเอามาตาก พอดีเกิดลมแรงจึงพัดเอาพระรอดตกกระจายบริเวณด้านข้างพระวิหาร ปัจจุบันเป็นด้านหลังกุฏิหลวงปู่หลังใหม่ มีพระรอดที่เหลือในสภาพสมบูรณ์ประมาณ ๔๐ กว่าองค์เท่านั้น ขนาดสูงประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร

เมื่อตากพระจนแห้งได้ที่ดีแล้ว ก็ได้เอาพระทั้งสามพิมพ์ ไปอาราธนาหลวงปู่ให้ปลุกเสกเดี่ยว หลังจากนั้นจึงเอาออกมาแจกจ่าย โดยแบบแรกเนื้อผงเถ้าดอกไม้ ส่วนหนึ่งหลวงปู่ก็แจกให้กับผู้ที่มากราบนมัสการหลวงปู่ในช่วงนั้น อีกส่วนหนึ่งก็ให้เช่าบูชา (ราคาในตอนนั้นองค์ละ ๓๙.-) เฉพาะแบบแรก ส่วนเนื้อพิเศษไม้งิ้วดำทั้งสองพิมพ์ แจกกันในหมู่ลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น

พระผงเกศารุ่นแรก สร้างไล่เลี่ยกับรูปหล่อบูชารุ่นแรก ขนาดหน้าตัก 5 นิ้วของหลวงปู่...

ดูรายละเอียดได้จากบันทึกของทางวัดครับ...

 

รูปหลวงปู่ กับพระอาจารย์อินทรครับ.....

 

สุดยอดครับพี่ธีรยุทธภาพสวยๆทั้งนั้นครับ

 

ภาพนี้ถ่ายปีไหนหรือครับ ภาพหลวงปู่และพระอาจารย์อินทรแฝงความเมตตาอย่างมากเลยครับ

 

สวัสดีครับคุณกริด99

รูปนี้ถ่ายตอนที่หลวงปู่ย้ายกลับมาพักที่วัดทุ่งปุยแล้วครับ
ประมาณปี 44-45
ซึ่งช่วงนั้น พระอาจารย์อินทร จะมาอยู่คอยเฝ้าดูแลหลวงปู่
ที่วัดทุ่งปุย อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งท่านละสังขารตอนปี 46

ช่วงนี้แหละครับ เป็นช่วงเวลาที่หลวงปู่ได้พูดคุย
ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตหลายๆ อย่างให้พระอาจารย์อินทรได้รับทราบ
ท่านไม่ได้รับนิมนต์ไปไหนแล้ว เพราะความชราภาพ
แต่วันไหนว่างๆ พระอาจารย์อินทร ก็จะนิมนต์หลวงปู่
นั่งรถ ขับรถเที่ยว... เพื่อไม่ให้ท่านรู้สึกเบื่อ...

และครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่ออกจากวัด ท่านได้ไปหา
หลวงปู่ครูบาตั๋น...
หลวงปู่ตั๋นท่านจะเรียกแทนองค์ครูบาอินว่า "ครูบาหลวง"
ในขณะที่ครูบาอินจะเรียกแทนองค์หลวงปู่ตั๋นว่า "ครูบาวัดดอย"

ครูบาอาจารย์คุยกัน... ถามไถ่สารทุกข์
ประโยคหนึ่งครูบาอินเปรยว่า...

.... "เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว อย่าเก็บไว้นาน สี่ซ้าห้าปี พอมีทุนก็เผาท่านเสีย อย่าได้เก็บร่างท่านไว้ มันไม่ใช่ธรรมเนียมเหนือ"...

เหมือนจะเป็นการฝากฝังให้ "ครูบาวัดดอย" คอยช่วยดูแล...

นอกจาก ท่านอาจารย์ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง แล้ว
งานพิธีพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ครูบาอิน
ก็มีหลวงปู่ตั๋น คอยเป็นห่วงเป็นใย เมตตามาอนุเคราะห์ช่วยเหลืองาน
อยู่อย่างต่อเนื่อง...

และเหมือนท่านจะหยั่งรู้ได้... ว่าคุณสุวิทย์ ชอบใช้
จะเป็นกำลังสำคัญในการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ
ทุกครั้งที่คุณสุวิทย์ ไปกราบนมัสการหลวงปู่ตั๋น...
ท่านก็จะถามคุณสุวิทย์อยู่เสมอว่า...

... "จะเผาครูบาหลวง เมื่อใด??"....

เหมือนเป็นคำปรารภว่า...
หากบรรดาลูกศิษย์ลูกหา พร้อมที่จะจัดงาน
ท่านก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

แผ่นโบรชัวร์ โปสเตอร์ ประชาสัมพันธ์งาน... หลวงปู่ตั๋นปลุกเสกให้
ทำบุญถวายปราสาทนกหัสดิลิงค์โดยคุณสุวิทย์... ท่านก็มาถวายให้
พิธีเปลี่ยนจีวร และทำบุญถวายครูบาอิน... ท่านก็มามิได้ขาด
รูปเหมือนบูชา รูปภาพเหรียญแจกทาน แจกในงาน... ท่านก็เสกให้
พิธีพระราชทานเพลิงฯ... ท่านมาทุกวัน

เป็นความผูกพันเคารพที่ "ครูบาวัดดอย" มีแด่ "ครูบาหลวง"
จวบจนทุกวันนี้...

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ ช่วงนี้งานยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้เข้ามาคุยด้วย แต่ตามอ่านตลอดครับ

 

เข้ามาอ่านตลอดเช่นกันครับ อิอิ

 

วันที่ 12 เมษายน 2552 ขอเชิญทุกท่านร่วมงานวันกตัญญูหลวงปู่ครูบาอินที่วัดใหม่หนองหอยด้วยนะครับ

การเดินทางไปวัดใหม่หนองหอยตามที่คุณธีระยุทธได้ตอบไว้

วัดใหม่หนองหอย... อยู่ระหว่าง วัดฟ้าหลั่งกับวัดทุ่งปุยครับ...


ถ้าขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ ลงใต้ ถนนสายเชียงใหม่ ฮอด (ถนนสาย 108) กม.6 ถึงอำเภอหางดง กม.22 ถึงสันป่าตอง (บ้านผม) ลากยาวไปอีกประมาณ สิบโล ผ่านสะพานแม่ขาน ((โค้งขวาหักศอกแล้วก็โค้งซ้ายหักศอกอีกที))) เลยไปอีกนิด ช่วงจังหวะขึ้นเนินจะเห็นวัดฟ้าหลั่งอยู่ทางขวามือครับ ป้ายตัวใหญ่ ประมาณ กม.30 ชิดขวายูเทิร์นเลยครับ

ออกจากวัดฟ้าหลั่ง ขับรถมุ่งหน้าเข้าเมืองจากหน้าวัดไป สัก 100-200 เมตร จะถึงตลาด (กาดแลงจั๋นติ๊บ) มีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปวัดใหม่หนองหอย เลี้ยวซ้ายเลยครับ ตามทางเข้าไปเรื่อยๆ มีป้ายบอกตลอดทาง ประมาณ 5-6 โล ถึงวัดใหม่หนองหอย.... ขากลับย้อนกลับมาทางเดิม ออกปากทาง ((((อันที่จริงมีทางทะลุจากวัดใหม่หนองหอย ผ่านวัดป่าลาน ไปทุ่งปุยได้ แต่ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวงง)))

จากปากทาง ขับรถมุ่งหน้าเข้าเมือง ตรงมาเรื่อยๆ ก่อนถึงสะพานแม่ขาน (ที่บอกเมื่อกี้) ซ้ายมือ เข้าวัดทุ่งปุย มีป้ายบอก มีป้อมตำรวจอยู่หน้าปากทาง...

ตามนี้ รับรองไม่หลงครับ

(ขอขอบคุณคุณธีระยุทธมา ณ ที่นี้ด้วยครับ) <!-- / message -->

 

ขอนำภาพหลวงปู่ครูบาอินมาเสนอนะครับ (สังเกตที่ดวงตาของท่านจะเห็นวงแหวนสีฟ้าอยู่) (ภาพจากนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ฉบับเก่าๆ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)

 

สวัสดีครับ...

ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณสุวิทย์ บ่อยครั้ง...
และหลายๆ ครั้ง ได้รับฟังเรื่องราวความประทับใจจากคุณสุวิทย์
ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณสุวิทย์เอง
และ.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุคคลรอบข้าง
ญาติพี่น้องของครอบครัวคุณสุวิทย์

อย่างเช่น... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กเล็กๆ วัยไม่ถึง 1 ขวบ
ที่ชื่อว่า "น้องพอเพียง"

=================

"น้าหล่าน" เป็นชื่อที่คุณสุวิทย์ ใช้เรียก "คุณสุจิตรา พ่วงพรรณ"
ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักกัน และเคยร่วมขบวนบุญกันหลายต่อหลายครั้ง
ซึ่งคนที่แนะนำให้คุณสุวิทย์ ได้รู้จักกับน้าหล่าน และ "คุณไก่" ลูกสาวของน้าหล่าน
ก็คือ "พี่แตง" หรือ "คุณกุลศรี" เพื่อนรุ่นพี่อีกคนของคุณสุวิทย์นั่นเอง

ทั้งกลุ่ม...
ไม่มีใครเคยได้พบ ได้กราบหลวงปู่ครูบาอินเลย...
ยกเว้นคุณสุวิทย์เพียงคนเดียว
แต่ก็นั้น ด้วยจิตใจอันเป็นกุศล ก็ยินดีร่วมบุญถวายหลวงปู่ครูบาอิน และครูบาอาจารย์อื่นๆ ร่วมกับคุณสุวิทย์อยู่เนืองๆ...
จนเกิดความเคารพศรัทธา และนับถือหลวงปู่ครูบาอินมาก...

จนกระทั่งวันหนึ่ง...

"น้องพอเพียง" ลูกสาวตัวเล็กๆ วัยไม่ถึงขวบของคุณไก่
ซึ่งนอนอยู่ตามปกติ... ถูกคุณพ่อจับพลิกตัว เบาๆ...
แต่เหตุไม่ปกติก็คือ... นับตั้งแต่วินาทีนั้น
น้องพอเพียง ก็มีอาการเหมือนกับ "หวง" แขนของตัวเอง
ร้องจ้าเสียงดังทุกครั้ง ที่ถูก "แตะ" บริเวณแขน
จนคุณไก่และพ่อของน้องพอเพียง ต้องรีบพาตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาลพิจิตรทันที

คุณหมอเอ็กซ์เรย์ ปรากฎว่ากระดูกไม่แตก ไม่หัก...
สันนิษฐานว่าจะเกิดความผิดปกติที่เส้นเอ็น

หมอให้รอดูอาการ 2 วันเต็มๆ ก่อนจะตัดสินใจ "ผ่าตัด"

ด้วยวัยยังไม่เต็มขวบ... จะต้องได้รับการผ่าตัด
จิตใจของคนเป็นแม่ และยาย ย่อมหวั่นไหว คิดกังวลไปต่างๆนาๆ
และเมื่อไม่รู้จะหาที่พึ่งพิงทางใจใดๆ ได้อีกแล้ว
ต่างก็คิดร้องขอครูบาอาจารย์ให้ช่วยเหลือ

คุณสุจิตรา จุดธูปอธิษฐานขอให้หลวงปู่ช่วยหลาน
คุณไก่ จุดธูปอธิษฐานขอให้หลวงปู่ช่วยลูกสาว
ต่างคนต่างอธิษฐาน... โดยไม่ได้นัดแนะกัน
แต่ทั้งสองคน... "ขนลุกซู่" เหมือนกัน ทันทีที่อธิษฐานเสร็จ
เหมือนหลวงปู่จะรับรู้ถึงคำขอ

เช้าวันถัดมา...
ในขณะที่คณะคุณหมอ 3-4 คน เดินมาเตินมาที่เตียงของน้องพอเพียง
เพื่อจะนำตัวเข้ารับการผ่าตัดตามที่กำหนดไว้
ซึ่งถ้าให้เป็นเหมือนวันก่อนๆ...
น้องพอเพียงจะนอนนิ่งๆ และไม่ยอมให้ใครแตะต้องแขนขวาเด็ดขาด
แต่เช้าวันนี้... ทันทีที่น้องพอเพียงได้ยินเสียงคุณหมอ
"ดีดสปริงปากกา" เล่น...
น้องพอเพียง ก็เอื้อมมือขวาออกไปคว้าปากกาในมือคุณหมอ
และหัวเราะเสียงเอิ้กอาก เหมือนรู้สึกสบายอกสบายใจอย่างที่สุด

คุณหมอตกใจ ระคนแปลกใจว่า
แขนข้างขวาที่ยกไม่ขึ้น...
เวลาใครแตะต้องเป็นต้องร้องให้ด้วยความเจ็บปวดทุกครั้ง
มาวันนี้... กลับยกขึ้นแกว่งไปมา จับ คว้า สิ่งต่างๆ รอบตัว
ได้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

คุณหมอสั่งระงับการผ่าตัดทันที...
และเพียงไม่กี่วัน น้องพอเพียงก็ออกจากโรงพยาบาล
กลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากวิกฤติต่างๆ ผ่านพ้นไป
คุณสุจิตรา ได้มีโอกาสคุยกับลูกสาว...
และก็ได้รู้ว่า ก่อนการผ่าตัดของน้องพอเพียง
ทั้งตัวคุณสุจิตราและคุณไก่...
ต่างได้ขอให้หลวงปู่ช่วยหลาน และ ลูกสาวของตน

สำหรับคุณสุจิตราและคุณไก่
สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีคำอธิบายเช่นไร??? คงไม่สำคัญเท่ากับว่า
วันนี้... น้องพอเพียงรอดพ้นจากการผ่าตัดหวุดหวิด
อาการเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง
แค่นี้ก็สร้างความสุขให้คุณยาย และคุณแม่ เป็นที่สุดแล้ว

ขอขอบพระคุณ คุณสุวิทย์ และ พี่แตง
ที่กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ผมนำมาเผยแพร่ต่อที่กระทู้นี้ครับ

ธีระยุทธ

 

ใกล้ถึงวันงานเข้ามาทุกทีแล้วนะครับ

ขอเชิญร่วมบุญทุนการศึกษากันด้วยนะครับ

 

ขอโพสโบรชัวร์ย้ำงานอีกครั้งนะครับ...

 

ไปดูภาพได้ที่นี่
http://www.suankhlang.com/ipb//index.php?showtopic=315&st=40

 

วันนี้ได้มอบทุนไปอย่างละทุนครับ เพราะว่าวันงานผมคงไม่ได้กลับไปเที่ยวบ้านที่เชียงใหม่แล้วครับ ก็เลยทำบุญผ่านทางนี้ครับ อิอิ พี่ๆคนไหนไปงานแล้วอย่าลืมเอารูปมาฝากกันบ้างนะครับผม

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ขออนุญาตดันกระทู้