พระแก้วกรุฮอด

ผมไม่แน่ใจถ้าหลักการในการดูพระแก้วนี้ลงไปแล้ว พวกมือผีมันจะเอาไปเป็นหลักในการแกะพระแก้วมาหลอกพวกท่านหรือเปล่า เพราะตอนนี้ที่อ.ฮอด พวกมือผีมันไปเอาพลอยเก่าพม่า มาให้ช่างที่จ.ลำพูนแกะขึ้นมาใหม่ ใครไม่ชำนาญรับรองครับเศร้าแน่

 

ข้อมูลชัดเจนดีครับ ท่านตนฮอด ไม่เสียทีที่เป็นตนฮอดครับอนุโมทนาครับ

 

มาว่ากันต่อนะครับ ในที่นี้ผมไม่ขอกล่าวถึงพระแก้วที่ทรงเครื่องทองมาตั้งแต่อยู่ในกรุนะครับ (หายากสุดๆไม่น่าจะถึง 100 องค์ อันนี้ไม่แน่ใจเพราะกรมศิลป์ขุดไปเก็บรักษาแล้ว) วิธีพิจารณาพระแก้วกรุฮอดนะครับ 1.สังฆาฏิต้องเป็นลิ้นงู (หรือที่เรียกว่าเขี้ยวตะขาบ,หางแซงแซว)ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 2.ถ้าเป็นองค์เล็กขนาด 1 - 2 เซนติเมตร ฐานด้านล่างจะมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ชาวอ.ฮอด เรียกว่า ก้นถ้วย คือจะมีลักษณะเว้าลงไป ถ้าเป็นองค์ใหญ่ขนาด 1 นิ้วขึ้นไปจะไม่ปรากฎลักษณะนี้ครับ 3.หัวเข่าองค์พระจะต้องมีขีด 4.ส่วนปลายสังฆาฏิด้านหลังที่เป็นลิ้นงูจะต้องมีเส้นแกะลากยาวมาจรดขีดที่เข่าขององค์พระ (ผมลืมบอกไปว่าท่านโปรดพิจารณารูปของคุณนิโรธสมาบัติประกอบ เข้าใจว่าเป็นพระน่าตักขนาดใหญ่จึงมีรายละเอียดสมบูรณ์ครับ) นี่เป็นหลักใหญ่ๆในการพิจารณาพระแก้วกรุฮอดครับ รายละเอียดปลีกย่อยนั้นค่อยถามมาก็แล้วกันนะครับ

 

องค์นี้ล่ะครับพี่หนาน

 

องค์นี้ล่ะครับพี่หนาน

 

องค์นี้ไม่น่าจะใช่นะครับ

 

ก็แสดงว่าพระแก้วกรุฮอดมีอยู่จริง จึงขอเรียนถาม คุณคนฮอด อีกครั้งหนึ่งนะครับว่านอกจากจะใช้หินจุ้ยเจียแกะแล้ว มีการใช้แก้วหรืออัญมณีอื่นแกะหรือไม่ครับ เพราะที่คุณคนฮอดบอกว่าพระต้องมีน้ำหนัก อย่างพระหน้าตัก 9 นิ้วหนักถึง 9 กิโล แสดงว่าพระองค์นั้นแกะจากหินจุ้ยเจีย แต่ถ้าพระองค์นั้นแกะด้วยแก้ว หรืออัญมณีอื่น น้ำหนักน่าจะแตกต่างกันนะครับ ในความคิดของผม และผมเคยเห็นเป็นพระสิงห์ก็มีครับ ตั้งแต่สิงห์หนึ่งจนถึงสิงห์สาม ซึ่งก็แปลว่าถ้ามีพระสิงห์สามอยู่ในกรุฮอดแสดงว่ากรุฮอดก็ไม่ถึงพันปีสิครับ เพราะศิลปะการแกะพระพุทธรูปสิงห์สามอายุน่าจะอยู่ราว ๆ 400-600 ปี จึงขอรบกวนคุณคนฮอด ช่วยแถลงการณ์ด้วยครับผม

 

ขอเรียนถาม คุณคนฮอด

ขอเรียนถาม คุณคนฮอดครับพระ องศ์นี้กรุฮอดหรีอเปล่าครับ
ขอขอบคุณมาล่วงหน้าด้วยครับ

 

ถึงพี่หนานฮอด ผมได้ข่าวว่าขึ้นที่เชียงแสนก็มีใช่เปล่าครับ แต่องค์ข้างบนนี้ดูแล้วน่าจะดูดีนะครับ แล้วพี่หนานว่าไงครับ เออองค์สังกัจจายของผมหน้าตัก 3 นิ้วแต่ก็มีน้ำหนักๆได้การเหมือนกันแต่คงไม่ถึง 3 กิโลครับ ถ้ามีเวลาจะถ่ายองค์เล็กมาให้ติชมอีกครับ

 

เชื่อพี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->CHOTIYA<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2062038", true); </SCRIPT> ผาดโผนในยุทธจักรมานาน ประสบการณ์เพียบ....
ยอมรับคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ฅนฮอด<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2063305", true); </SCRIPT> ได้เลย...เป็นผู้รู้จริงและข้อมูลเชิงลึก....
มั่นใจคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นิโรธสมาบัติ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1710198", true); </SCRIPT> พิจารณาถูกต้องแน่นอน...

สิ่งสำคัญที่สุด..สำหรับการศึกษาพระเครื่อง
1.ประสบการณ์ 2.การชี้แนะจากผู้ชำนาญ 3.การพิจารณาอย่างละเอียด4.การศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม 5.อย่าหลงตนเอง

 

ขอบคุณ พี่วิสุทฺโธครับกับคำแน่นำครับ

 

คุณวัดพระธาตุสุนันทา<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2077257", true); </script> ยอดเยี่ยมครับ..

นี่แหละครับคุณสมบัติที่ดี...คือ การรับฟังข้อมูลจากทุกด้าน
ผู้ฟังที่ดี...ย่อมได้ประโยชน์จากทุกข้อมูล
แล้วนำข้อมูลมาเก็บวิเคราะห์ค้นคว้าหาความรู้ต่อไป
หวังว่า..สักวันหนึ่ง...ข้างหน้า่
คุณวัดพระธาตุสุนันทา จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้...
และเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือต่อผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น...ต่อไปครับ

 

ขอบคุณครับพี่จะพยายามครับ และขอศึกษาจากพี่ๆที่รู้และมีประสบการณ์ครับ ด้วยความยินดีครับ

 

สวยดี แต่ความรู้สึกบอกว่าไม่ธรรมชาติแม้จะบอกว่าล้างมาก็เถอะ ส่วนเรื่องคนขุด ตำนานว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่มีใครพิสูจน์ได้ หรือไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร มันก็ไม่จบ ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร คือรู้สึกว่าศิลป์ไม่ถึงครับ บุษศ์น้ำแตง สวยครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้บางท่านไม่สบายใจครับ แต่เ้ป็นความเห็นส่วนตัวครับ

 

ขอบคุณครับเข้ามาติชม ยังไม่ว่างที่จะถ่ายรูปองค์อื่นมาให้ติชม มีโอกาสจะนำมาลงครับ ติชมเก๊แท้ได้ตามสบายครับ เพื่อการศึกษาหาความจริงครับ สบายใจที่เพื่อนสมาชิกเข้ามาติชมครับ

 

พระที่ขึ้นที่เชียงแสน ส่วนมากจะเป็นทรงเครื่องแบบคุณวัดพระธาตุสุนันทานั่นแหละครับ แต่ผมไม่สันทัดกรณี เคยเห็นแต่ภาพบ้างประปราย ยังไม่เคยเห็นองค์จริง จึงไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ครับ

 

คุณ Cheingb ครับ ของคุณไม่ใช่กรุฮอดครับ

 

ขอตอบคุณ Daotime นะครับ นอกจากหินจุ้ยเจียแล้ว ยังมีหินนาคกระสวยอีกแบบหนึ่งครับ ลักษณะจะเป็นหินสีดำ ผมเคยเห็นภาพในหนังสือศึกษาและสะสม เป็นของหมอยก สุพรรณ (แล้วจะหาข้อมูลให้ว่าเป็นฉบับที่เท่าไหร่ เผื่อทุกท่านจะได้หาไปอ่านกันนะครับ) ส่วนอีกชนิดนึงคือแก้วบุษราคัม ครับ เท่าที่เห็นมีสีเหลือง นะครับ และความเข้าใจของคุณ Daotime ถูกต้องแล้วครับที่ว่ามีทั้งสิงห์ 1 และ สิงห์ 3 ผมเองสันนิษฐานตามตำนานนะครับ (ตามตำนานของเมืองฮอดที่บอกว่าเมืองฮอดมีวัดทั้งหมด 99 วัด จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่าพิศดารนคร) ว่าวัดใดที่มีความสมบูรณ์มาเดิมอยู่แล้วคงไม่ได้รับการบูรณะจากขบวนของเจ้าแม่จามเทวี แต่วัดใดที่ชำรุดทรุดโทรมน่าจะเป็นวัดที่มีพระสิงห์ 3 อยู่นะครับ (อันนี้เป็นความคิดเห็นนะครับ ขอเวลาไปหาข้อมูลจากสภาวัฒนธรรม อ.ฮอด สักหน่อยนะครับ)

 

ในส่วนของสีของพระแก้วเท่าที่ผมเคยพบมานะครับ 1.บุศย์น้ำแตง 2.เหลืองบุษราคัม 3.แดงอำพัน 4.ขาวน้ำข้าว (ขาวหมอกมุงเมือง) 5.ดำนาคกระสวย ส่วนสีอื่นไม่แน่ใจครับ

 

สวัสดีครับ คุณวัดพระธาตุสุนันทา , คุณjukjuk เป็นยังไงมั่งครับ สบายกันดีหรือเปล่าครับ?