นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย nu_fah, 23 มีนาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    หุหุ...พี่แก้วท่าทางกาลังยุ่งสินะคะ..
    - วันนี้ พี่น้าเม้าท์เรยมาเปิดบ้านให้ก่อนใครเลย....555++
    - เดี๋ยวพรุ่งนี้ กะจาเข้าโรงงานแกะหินซะหน่อย ดูว่าช่างไปถึงไหนแย้วอ่ะ...คุณศนิวารเธอก็ร๊อรออยู่ ...จาไปเช็กให้ค่ะ..
    - น้องดา อยู่ที่ทำงาน ไม่ได้แอบออนมา คงยังประชุมม่ายเสร็จจินะคะ..
    - ชายจันทร์ กลางวันแบบนี้ ไม่มีเวลาเข้ามาออนแน่เรย...ท่าทางงานเพียบ...สู้ๆๆ คร้าบ
    denceedenceedenceedenceerabbit_jump
     
  2. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    ท่านที่สนใจดูแก้วโป่งข่าม เชิญเข้าไปดูที่หน้า 70 ,74 เรยคร้าบป๋ม
    wel lcome_pinkhello4
     
  3. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    มีรูปคุณนายสีทอง กะคุณนายอ้วนมาฝากคร้าบ...
    เจ้าสีทองเนี่ย..ชอบนอนบนเครื่องถ่ายเอกสารค่ะ
    ส่วนคุณนายอ้วนตุ้ยนุ้ย ชอบที่สูง บนกองหนังสือมั่ง,ตู้กระจกมั่ง ตอนนี้เธอก็มาฮิตติดใจกะลำโพงตัวนี้ล่ะค่ะ..
    ฮ่าๆๆๆ เอาให้ดู คลายเครียดเด้อจ้า....ขำๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sritong.jpg
      sritong.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.5 KB
      เปิดดู:
      37
    • oui.jpg
      oui.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      29
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  4. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952

    ไอ้หย๋า...น้องฟ้า นี่ แมว หรือว่า "เสือ" กันแน่หละก๊ะ...
     
  5. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    เชิญชวนไปวัดในวันวิสาขบูชานี้ค่ะ


    ใกล้เข้ามาแล้ว...วันที่ 8 พฤษภาคม 2552 นี้ เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา
    คือ เป็นวัน วิสาขบูชา ฟ้าก็อยากเชิญชวนทุกๆท่าน ได้เข้าวัดทำบุญ ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนกันนะคะ สะดวกวัดไหน ใกล้ๆบ้านก็ไปวัดนั้นล่ะค่ะ...
    ขอนำบทความเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา มาให้อ่านกันนะคะ
    Kitti_PT3.jpg

    ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๖

    [​IMG]

    ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗

    ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราวคือ

    ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี

    ๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย

    ๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง ๓ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๖ ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก


    ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย

    วันวิสาขบูชานี้ ปรากฏตามหลักฐานว่า ได้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งสันนิษฐานว่า คงจะได้แบบอย่าง มาจากลังกา กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๒๐ พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาอย่าง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กษัตริย์ลังกาในรัชกาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนินรอยตาม แม้ปัจจุบันก็ยังถือปฏิบัติอยู่

    สมัยสุโขทัยนั้น ประเทศไทยกับประเทศลังกามีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะ พระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย

    ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้ พอสรุปใจความได้ว่า " เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ต ลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน

    ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า และเต่า ปลา เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป "

    ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐) ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น เป็นครั้งแรกในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๖๐ และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล เป็นหนทางเจริญอายุ และอยู่เญ็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปัทวันตรายต่างๆ โดยทั่วหน้ากัน

    ฉะนั้น การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

    การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน " ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘ ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓ วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ ๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย

    ห ลั ก ธ ร ร ม ส ำ คั ญ ที่ ค ว ร น ำ ม า ป ฏิ บั ติ

    ๑. ค ว า ม ก ตั ญ ญู คือความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว่ก่อน เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น

    • บิดามารดา มีอุปการคุณแก่ลูก ในฐานะผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบโต ให้การศึกษาอบรมสั่งสอน ให้เว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ และมอบทรัพย์สมบัติให้ไว้เป็นมรดก

    • ลูกเมื่อรู้อุปการะคุณที่บิดามารดาทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้ แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยทำงานของ ท่าน และเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน

    • ครูอาจารย์มีอุปการคุณแก่ศิษย์ ในฐานะเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี สอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบังยกย่องให้ปรากฎแก่คนอื่น และช่วยคุ้มครองให้ศิษย์ทั้งหลาย

    • ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติ และให้ความเคารไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู

    • ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ส่งผลให้ครอบครัว และสังคมมีความสุขได้เพราะ บิดามารดาจะรู้จักหน้าที่ของตนเอง ด้วยการทำอุปการคุณให้ก่อน และลูกก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำดีตอบแทน

    • นอกจากบิดากับลูก และครูอาจารย์กับศิษย์แล้ว คุณธรรมข้อนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้แม้ระหว่าง นายจ้างกับลูกจ้าง อันจะส่งผลให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

    • ในทางพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้า ทรงเป็นบุพการรีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนา และทรงสอนทางพ้นทุกข์ให้แก่เวไนยสัตว์

    • พุทธศาสนิกชน รู้พระคุณอันนี้จึงตอบแทนด้วยอามิสบูชาและปฎิบัติบูชากล่าวคือการจัดกิจกรรม ในวันวิสาขบูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวพุทธแสดงออก ซึ่งความกตัญญูกตเวที ต่อพระองค์ด้วยการทำนุ บำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และประพฤติปฎิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

    ๒. อ ริ ย สั จ ๔
    อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงความจริงของชีวิตที่ไม่ผันแปร เกิดมีได้แก่ทุกคน มี ๔ ประการ คือ

    • ทุกข์ ได้แก่ปัญหาของชีวิตพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ก็เพื่อให้ทราบว่ามนุษย์ทุกคนมีทุกข์เหมือนกัน ทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐาน และทุกข์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ทุกข์ขั้นพื้นฐานคือทุกข์ที่เกิดจาก การเกิด การแก่ และการตาย ส่วนทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือทุกข์ที่เกิด จากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกันสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากไม่ได้ตั้งใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ อาทิความ ยากจน

    • สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหาพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นปัญหา ของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น คือ ตัญหา อันได้แก่ความอยากได้ต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความยึดมั่น

    • นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์คือปัญหาของชีวิต ทั้งหมดที่สามารถแก้ไข ได้นั้นต้องแก้ไขตามทางหรือวิธีแก้ ๘ ประการ ( ดูมัชฌิมาปฎิปทา )

    • มรรค การปฏิบัติเพื่อจำกัดทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ต้องการ

    ๓. ค ว า ม ไ ม่ ป ร ะ ม า ท
    ความไม่ประมาทคือ การมีสติเสมอทั้ง ขณะทำขณะพูด และขณะคิด สติคือการระลึกได้ ในภาคปฎิบัติเพื่อนำ มาใช้ในชีวิตประจำวัน หมายถึง การระลึกรู้ทันการเคลื่อนไหว ของอริยาบท ๔ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน การฝึกให้เกิดสติทำได้โดยตั้งสติกำหนดการเคลื่อนไหวของอริยาบท กล่าวคือ ระลึกทันทั้งในขณะ ยืน เดิน นั่ง และนอน รวมทั้ง ระลึกรู้ทัน ในขณะพูดคิด และขณะทำงานต่างๆ เมื่อทำได้อย่างนี้ก็ชื่อว่า มีความไม่ประมาท

    การทำงานต่างๆ สำเร็จได้ก็ด้วยความไม่ประมาท กล่าวคือผู้ทำย่อมต้องมีสติระลึกรู้อยู่ว่า ตนเองเป็นใครมีหน้าที่อะไร และกำลังทำอย่างไร หากมีสติระลึกรู้ได้อย่างนั้น ก็ย่อมไม่ผิดพลาด

    กิ จ ก ร ร ม ข อ ง วั น วิ ส า ข บู ช า

    ทางราชการประกาศชักชวนให้ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งเอกชน และราชการประดับตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยธงชาติ ธงเสมาธรรมจักร จุดประทีบโคมไฟ แต่โดยทางปฎิบัติแล้ว ใช้หลอดไฟประดับหลากสี ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๖

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จประกอบพระราชกุศล ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงบาตร ในตอนเช้า ในตอนเย็น ทรงนำเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ และสดับพระธรรมเทศนาในพระอุโบสถ พร้อมทั้งถวายไทยธรรม

    • จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่บริเวณท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี แต่ละปีมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาหลากหลายหน่วยงาน ทั้งทางราชการ และเอกชนทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์ ร่วมกันจัดงานอันยิ่งใหญ่สร้างความศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนบำเพ็ญกุศล มีการทำบุญตักบาตร ให้ทานรักษาศีลฟังธรรม สนทนาธรรม เวียนเทียน เจริญภาวนาเป็นที่ประทับใจยิ่งนัก

    ขอบคุณบทความดีๆ จาก : บ้านมหาดอทคอม ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  6. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    อิอิ พี่แก้วไม่รุ๊อาราย...เจ้าสองตัวนี่นะ..น้ำหนักอย่างน้อยก็ 5 โล up ล่ะค่า..
    โหย หล่อน กินๆๆๆๆ แล้วก็ นอนๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ เหมือนเจ้าของเดี๊ยะ...วิ้วๆๆๆ
    - ส่วนลิงสามตัว (ลูกคุณนายสีทองก็ใช่ย่อยคร้าบ..ขยันปีนนู่นนี่ ตกลงมาให้ลัคกี้คราบไปจัดการทุกทีเรย..)
    - คือ ที่อ้วน ก็เพราะฟ้าพาไปฉีดยาคุมด้วยค่ะ เรย เปงหมูซะงั้น..555+piggi
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • my-banner.jpg
      my-banner.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.5 KB
      เปิดดู:
      29
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  7. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    น้องฟ้าจ๋า พี่แก้วทำงานก่อนเน้อ....ค่อยกลับไปคุยต่อที่บ้านจ๊ะ..
     
  8. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    จ้าพี่แก้ว ตามบายจ้า...
    ไม่กวนแระ...เจอกันเย็นๆ ค่ำๆน้าจ๊ะ...
    _____________________
    แก้วชุดล่าสุด ดูที่หน้า 70,74 ค่ะ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  9. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    ตอนนี้อากาศ ร้อน..น...สุดๆๆๆ จ้า
    ขอตัวไปบ่มผิวก่อนน้า..เหอๆๆๆ เดี๋ยวจาเกรียมเกินไป...
    (อิอิ...จาแอบเข้าฌาณซ้าหน่อยอ่ะจิ..)
    พรุ่งนี้จาได้มีแรงตื่นแต่เช้า ไปวัดน่ะจิคร้าบ....(เกี่ยวมั้ยเนี่ย..)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF2135.JPG
      DSCF2135.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      37
    • DSCF2136.JPG
      DSCF2136.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      62
    • DSCF2145.JPG
      DSCF2145.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      19
    • DSCF2152.JPG
      DSCF2152.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      153
    • DSCF2153.JPG
      DSCF2153.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      116
    • DSCF2154.JPG
      DSCF2154.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      145
  10. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติคือ
    "วันสำคัญของโลก" ( Vesak Day )
    [​IMG]

    ภูมิหลัง
    ๑. ในการประชุม International Buddhist Conference ณ กรุงโคลัมโบ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ บังคลาเทศ จีน ลาว เกาหลีใต้ เวียดนาม ภูฐาน อินโดนีเซีย เนปาล กัมพูชา อินเดีย ปากีสถาน และไทย ได้ตกลงกันที่จะเสนอให้สมัชชาสหประชาชาติรับรองข้อมติประกาศวัน วิสาขบูชาให้เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ

    ๒. ในการเยือนของประเทศต่างๆ ในอินโดจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา ในปี ๒๕๔๒ ก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ และได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ได้ด้วยดี

    ๓. คณะทูตถาวรศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กได้จัดเตรียมร่างข้อมติ และได้ขอเสียงสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อให้มีการรับรองข้อมติเรื่องการประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดของสห ประชาชาติในที่ประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔

    ๔. โดยที่สหประชาชาติประกาศวันหยุดเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และจะเป็นปัญหาในเรื่องงบประมาณและการบริหารแก่ สหประชาชาติ หากประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุด ศรีลังกาจึงได้ตัดสินใจที่จะเสนอร่างข้อมติ ขอให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลที่สหประชาชาติ ทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานต่าง ๆ แทนการเสนอให้เป็นวันหยุดซึ่ง ออท. ผู้แทนถาวรประเทศต่าง ๆ รวม ๑๖ ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา บังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา ลาว มัลดีฟส์ มองโกเลีย พม่า เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สเปน อินเดีย ไทย และยูเครน ได้ร่วมลงนามในหนังสือถึงประธานสมัชชาฯ เพื่อให้นำเรื่องวันวิสาขบูชาเข้าเป็นระเบียบวาระการประชุมของสมัชชาฯ

    ๕. ต่อมาเมื่อ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ General Committee ของสมัชชาฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดย ออท.ผู้แทน ถาวรศรีลังกาได้กล่าวถ้อยแถลงสนับสนุนหนังสือร้องขอให้ที่ประชุมบรรจุ ระเบียบวาระดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสมัชชาเต็มคณะ ออท.ผู้แทนถาวรไทย อินเดีย สเปน บังคลาเทศ ปากีสถาน ไซปรัส ลาว และภูฐาน ได้กล่าวถ้อย แถลงสนับสนุน ซึ่งที่ประชุม General Committee ได้มีมติให้บรรจุเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาเต็มคณะ

    ปัจจุบัน
    ๑. เมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔ ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๑๗๔ International recognition of the Day of Visak โดยการเสนอของศรีลังกา

    ๒. ในการพิจารณา ประธานสมัชชาฯ ได้เชิญผู้แทนศรีลังกาขึ้นกล่าวนำเสนอร่างข้อมติ และเชิญผู้แทนไทย สิงคโปร์ บังคลาเทศ ภูฐาน สเปน พม่า เนปาล ปากีสถาน อินเดียขึ้นกล่าวถ้อยแถลง สรุปความว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ทรงตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของ สหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติ โดยถือว่าวันดังกล่าวเป็นที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติและที่ทำการ สมัชชาจะจัดให้มีการระลึกถึง (observance) ตามความเหมาะสม

    ๓. ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างข้อมติโดยฉันทามติ

    ถ้อยแถลงของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
    ถ้อยแถลงของนายวรวีร์ วีรสัมพันธ์ อุปทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก

    เหตุผลที่ องค์การสหประชาชาติหนดให้ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก
    เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้

    ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จ จริงได้ โดย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา พุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน

    ขอบคุณ : สมาคมผู้บริโภคสื่อสีขาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  11. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    (deejai);aa7 อิอิ วันนี้หนูฟ้าของเรา "หูอื้อ" ไปเลย ฟังพี่แก้วโม้โน่นโม้นี่ซ้า....สงกะสัยป่านนี้ น้องฟ้าหูดับ! ไปเรียบร้อยแล๊ะ...ระวังน๊า เดี๋ยวลูกสมุนสี่ขาทั้งหลายจะงง...วันนี้ท่านแม่เป็นอาราย...มัยไม่ได้ยินเสียงบ๊อกๆ เมี้ยวๆ ของพวกเราเลย
     
  12. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    แจ้งน้องดา น้องจันทร์..... เรื่อง... เฉลยที่มาของชื่อ "ลูกแก้ว"



    ท่านสามารถตรวจสอบคำตอบที่ถูกต้องได้จาก
    เจ้าของบ้านรวมพลคนรักแก้วโป่งข่าม
    คุณ"หนูฟ้า" นะครับผม..... hello4
     
  13. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    เหอๆๆๆ ยังไม่เฉลยอ่ะ รอ "รวมพล" ครบก่อนอ่ะจ้า...
    อิอิ....ประมาณว่า...อึ้ง ทึ่ง เจี๋ยว กานโหมะแหล่ะ เจอคำเฉลยขอพี่แก้วแล้วน่ะ..เหอๆๆๆ
    - ว่าแล้ว ขอสลายโต๋ ไปดำงมกะไอ้ joomla ต่อดีก่า..
    - ค่ำๆ จะมาสะออนใหม่จ้า...
     
  14. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    อานิสงส์การร่วมบุญสร้างพระธาตุเจดีย์ พระพุทธรูป หรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และอานิสงส์การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นกุศลดังนี้

    1. กุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
    2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้อยไม่สำเร็จ
    3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วกจะเลิกจองเวรจองกรรม
    4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
    5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
    6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฎ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
    7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
    8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญสตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
    9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
    10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิด จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า ปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญา ๖ สำเร็จโพธิญาณ

    มาสร้างบุญกันเถอะ

    1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที(หรือ เดินจงกรม ก็ได้)
    อานิสงส์ - เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจาก กิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
    จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
    เจ้า กรรมนายเวร และญาติมิตรที่ ล่วงลับ จะได้ บุญกุศล

    2. สวดมนต์ ด้วย พระคาถา ต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
    อานิสงส์ - เพื่อให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็น สมาธิ ได้เร็ว แนะนำพระคาถา พาหุงมหากา, พระคาถาชินบัญชร, พระคาถา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น เมื่อสวดเสร็จต้อง แผ่เมตตา ทุกครั้ง

    3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด, ออกเงินค่ารักษาให้พระตาม โรงพยาบาลสงฆ์
    อานิสงส์ - ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา สุขภาพกาย จิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้ และภพหน้า ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

    4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า
    อานิสงส์ - ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร ตายไปไม่หิวโหย อยู่ใน ภพ ที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหาร อุดมสมบูรณ์

    5. ทำหนังสือ หรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับ ธรรมะ แจกฟรีแก่ผู้คนเป็น ธรรมทาน
    อานิสงส์ - เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ ธรรม จึงสว่างไปด้วย ลาภยศ สรรเสริญ ปัญญา และ บุญบาร มีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรม ให้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

    6. สร้างพระ สร้างพระถวายวัด
    อานิสงส์ - ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ ของ พุทธศาสนา ตลอดไป

    7. แบ่งเวลาชีวิตไป บวชชีพราหมณ์ หรือ บวชพระ อย่างน้อย 9 วันขึ้นไป
    อานิสงส์ - ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ ผ่อนปรน หนี้กรรม อุทิศผลบุญให้ญาติ มิตรและ เจ้ากรรมนายเวร สร้างปัจจัยไปสู่ นิพพาน ในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของ พุทธศาสนา จิตเป็นกุศล

    8. บริจาคเลือด หรือ บริจาค ร่างกาย
    อานิสงส์ - ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดา ปกปักรักษา ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วน ภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

    9. ปล่อยนก ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้ง ปล่อย สัตว์ ไถ่ชีวิต สัตว์ต่าง ๆ
    อานิสงส์ - ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต ชดใช้หนี้กรรม ให้ เจ้ากรรมนายเวร ที่ เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใสเป็นอิสระ


    10. ให้ทุนการศึกษา, บริจาคหนังสือ หรือสื่อการเรียนต่าง ๆ, อาสาสอนหนังสือ
    อานิสงส์ - ทำให้มี สติปัญญา ดี ในภพต่อ ๆ ไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

    11.ให้เงินขอทาน, ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
    อานิสงส์ - ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้ง ภพนี้ และ ภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก เกิดมา ชาติหน้า จะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง จะได้เงินทองกลับ มาอย่างไม่คาดฝัน

    12. รักษาศีล 5 หรือ ศีล 8


    ;aa50
     
  15. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    เชิญชวนทานเจวันวิสาขะบูชา

    อานิสงส์ - ไม่ต้องไปเกิดเป็น เปรต หรือ สัตว์นรก ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ ครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง กรรมเวร จะไม่ถาโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดา นางฟ้า ปกปักรักษา

    อานิสงส์ 10 ข้อของการ ไม่กินเนื้อสัตว์

    1. เป็นที่รักของบรรดา เทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
    2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
    3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
    4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
    5. มีอายุมั่นขวัญยืน
    6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก เทพ ทั้งปวง
    7. ยามหลับ นิมิต เห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
    8. ย่อมระงับการ จองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
    9. สามารถดำรงอยู่ในกระแส พระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่ อบายภูมิ
    10. ทันทีที่ละ สังขาร จากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่ สุคติภพ

    อานิสงส์การจัด สร้างพระพุทธรูป หรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับ พระธรรม คำสอน เป็นกุศลดังนี้
    1. อกุศลกรรม ใน อดีตชาติ แต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
    2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
    3. เจ้ากรรมนายเวร ใน อดีตชาติ แต่ปางก่อน เมื่อได้รับ ส่วนบุญ ไปแล้วก็จะเลิก จองเวร จองกรรม
    4. เหล่า ยักษ์ ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
    5. จิตใจสงบ ราศี ผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
    6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
    7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพ ยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
    8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้ เกิด เป็นชายเพื่อ บวช
    9. พ้นจากมวล อกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
    10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็น กุศลจิต แก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟัง ธรรม จาก พระอริยเจ้า ปัญญาในธรรมแก่กล้า สามารถได้ อภิญญาหก สำเร็จ โพธิญาณ

    ขอบคุณ :
    มอนอ ดอทคอม
    he llo _car
     
  16. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952

    พี่น้าเม้าท์เรานี่ ช่างสรรหารูปน่ารัก ขำๆ มาให้ได้ยิ้มประจำเลยนะน้องฟ้า...
     
  17. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    น้องดาจ๋า.....เอ๋ๆๆๆ หายปายเรยน้า...เหนื่อยหรือง่วงกันน้าเนี่ย..
    คิดฮอดจ้า...
    - วันนี้ คุยกะพี่แก้วตา ยาใจคนจ๋วย ตั้งนาน ได้มุขขำๆ มาเพียบ..
    - เอ้อ...พี่แก้วจ๋า..เหอๆๆๆ ระวังต้นไม้บ้านพี่แก้วจาข้ามไปลวนลามบ้านข้างเคียงเน้อเจ้า..คริๆๆๆ
    - วันนี้ ราตรีสวัสดิ์ ก่อนน้า...จารีบปายอาบน้ำ เพราะตอนนี้บุ้งไม่ได้รับเชิญตามเข้ามาในบ้าน เหอๆๆ คันคะเยอกันเต็มๆ คร้าบพี่น้อง จ้วยด้วย...แง้ๆๆๆๆ
    [​IMG][​IMG][​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  18. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    เอ๋า ตัวบุ้งมาจากไหนอ่ะน้องฟ้า หน้าตาเป็นไงน้อ เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า

    โอเคๆ รีบๆ ไปอาบน้ำเถอะจ้า พี่แก้วอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวก็จะนอนเหมือนกันจ๊ะ

    ออ...น้องฟ้า ระวัง ตัวบุ้งจะ"ลวนลาม" เน้อ อิอิ..ละก้อ..อย่าไปหา "เส้นเล็กแห้ง" มากินหละ เดี๋ยวกลืนไม่ลง....Ha..... (น้องดากะน้องจันทร์จะงง ป่ะเนี่ย)

    ไม่เห็นหน้าสองน้องเล้ย...คิดฮอดหนะเจ๊า..บ๊ายบ่าย
     
  19. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    อันนี้ เอามาฝากพี่แก้ว..ว..โดยเฉพาะคร้าบ..อิอิ ตัวเบิ้มกว่าคุณนายสีทอง กะคุณนายอ้วนบ้านนู๋ฟ้าอีกอ่ะ...กรี๊ดดดดดด...แมวยักษ์


    [​IMG]
     
  20. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    อิอิ...ว่าจาไปซ่อนตาดำมั่งอ่ะ...ขอแว่บเข้ามาดูหน่อย เผื่อสาวๆๆ จายังไม่นอน
    ว้า...ไปซ่อนตาดำกันหมดเยย...ไปมั่งจิ...บ๊ายบายคร้าบป๋ม see you tomorrow.

    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...