ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    อ่านบทความนี้ของหมอนิดแล้ว ต้องบอกว่าเสียวสันหลังจริงๆเลย
    เพราะบทความที่แล้วที่หมอนิดพูดถึงเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์นั้น
    มันแม่นจริงๆเลย ถ้าใครเพิ่งได้อ่านก็คงนึกว่าหมอนิด เขียนหลังจาก
    เกิดเหตุการณ์แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่

    อ่านแล้วไม่ได้อยากให้ใครๆเกิดความกลัวนะคะ แต่อย่างน้อย
    ก็อาจเตรียมการป้องกันได้ ถึงจะป้องกันสิ่งที่จะเกิดไม่ได้
    ก็ขอให้ป้องกันใจเราไว้ก่อน
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ไสยศาสตร์(พลังจิตฝ่ายมาร) มีจริง!!!

    [​IMG]


    พบตะปู-เข็มหมุดในท้องเจ้าอาวาสวัดหาดสองแคว

    อุตรดิตถ์ 18 พ.ค. - โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ผ่าตัดเจ้าอาวาสวัดหาดสองแคว นำตะปูกับเข็มหมุดออกจากลำไส้และกระเพาะอาหารอย่างปลอดภัย แต่ยังต้องพักรอดูอาการอีกระยะ แพทย์ระบุเคราะห์ดีปลายแหลมไม่แทงลำไส้ทะลุ

    นพ.เธียรชัย คฤหโยธิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เปิดเผยถึงอาการของพระอธิการอนุวัฒน์ ธิมาจร อายุ 32 ปี เจ้าอาวาสวัดหาดสองแคว อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ หลังผ่าตัดนำตะปูกับเข็มหมุดในลำไส้เล็กและกระเพาะอาหารออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ขณะนี้ยังพักฟื้นในโรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการอีกครั้ง ซึ่งพระอธิการอนุวัฒน์ ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลท่าปลา เช้าวันนี้ (18 พ.ค.) เนื่องจากปวดท้องอย่างรุนแรง แพทย์เอกซเรย์พบสิ่งแปลกปลอมเป็นตะปูความยาว 2 นิ้ว จำนวน 2 อัน ขวางลำไส้เล็กส่วนต้น และบริเวณกระเพาะอาหารพบเข็มหมุดอีก 1 อัน จึงผ่าตัดโดยด่วน เพราะเกรงจะเป็นอันตราย ล่าสุดผู้ป่วยยังมีอาการอ่อนเพลีย และเจ็บบริเวณแผลที่ผ่าตัด

    นพ.ธิติ ภมรศิลปะธรรม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมและการผ่าตัด โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หากเป็นการกลืนลงไปลักษณะเหมือนกลืนอาหารทั่วไป น่าจะใช้ระยะเวลา 2-3 วัน ในการขับสิ่งแปลกปลอมออกมา จากลักษณะของตะปูและเข็มหมุดที่อยู่ในร่างกาย พบว่าขนานกับลำไส้ ส่วนปลายแหลมหันขึ้น หมายความว่า หากเป็นการกลืนผ่านทางช่องปาก ผู้กลืนจะหันหัวตะปูและเข็มหมุนลง

    สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากส่วนของตะปูได้มาอยู่ตรงส่วนคอดของลำไส้เล็ก เกิดการขวาง ประกอบการเกิดการบีบตัวของลำไส้และกระเพาะอาหาร ตามวิทยาการทางการแพทย์แล้ว การที่สิ่งแปลกปลอมไม่ว่าจะเป็นอะไร หากพบในร่างกายจะมีหนทางเดียว คือด้วยการกลืน(ตามความเชื่อของแพทย์สมัยใหม่) ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตราย หากเป็นของมีคมและปลายแหลม อาจทำให้หลอดอาหาร ลำไส้ และกระเพาะอาหาร เกิดบาดแผล ส่วนความเชื่อของผู้ป่วยด้วยไสยศาสตร์ ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

    ด้านพระอธิการอนุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าตะปูและเข็มหมุดเข้าไปอยู่ในร่างกายได้อย่างไร แต่เริ่มมีอาการปวดท้องบ่อย เมื่อปี 2547 จึงไปพบแพทย์เพื่อรักษา ระยะแรกแพทย์ระบุว่าเป็นนิ่ว แต่รักษาแล้วอาการปวดท้องไม่หาย แพทย์โรงพยาบาลท่าปลา จึงเอกซเรย์ครั้งแรกพบเข็มหมุด 1 อัน ต่อมาปี 2551 อาการปวดท้องกำเริบอีก แพทย์เอกซเรย์พบเข็มหมุดและตะปู จึงยังไม่รักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน กระทั่งวันนี้ปวดท้องอย่างรุนแรง จึงไปพบแพทย์อีกครั้งและผ่าตัด. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-18 18:21:39

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    18 พ.ค. 52

    ท้องทะเล ท้องฟ้ามีสีดำ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผู้ที่จะมาเป็นศูนย์กลางในการปกครองโลก

    [​IMG]
    ภาพประกอบจาก www.dmc.tv

    The Third Eyes<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2113684", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ขอบอกว่า ส่วนหน้า(ทัพหน้า) ของพระศรีอาริยเมตไตรย..ลงมาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ มีเป็นกลุ่ม..หน้าที่ของเขาคือ ปรับฐาน ของแผ่นดินที่ตกต่ำ ทั้งด้าน จิตใจ และ ศาสนา ยกให้สูงขึ้น...เพราะโดยเฉลี่ย บางแห่ง ตกต่ำลงไปมาก เพราะมีคนบาปมาก การปรับ..ค่อยๆๆไล่ปรับทีละจังหวัด...จนกว่าจะครบทั้ง 76 จังหวัด

    จะรู้ได้ อย่างไร?

    ดูจากเหตุการณ์ บ้านเมือง จะค่อยๆๆ สงบลง...ผู้คนจะมีจิตใจดี ขึ้นกว่าเดิม มีกำลังใจดีขึ้น..ใจเย็นขึ้น..มีศีลมากขึ้น..ดูตัวเองเป็นหลัก แล้วจะรู้สึกเอง ที่เล่ามาก็เพราะ เห็นแนวทางเดียวกับ เจ้าของกระทู้...เห็นในจิต การปรับก็เพื่อจะรองรับการปรากฏตัว ของ พระศรีอาริยเมตไตรย
    ...................................................................................
    พระพุทธองค์สมณโคดม.ประสูติมานาน เมื่อ เสด็จนิพพาน
    เราก็นับ พ.ศ. ..เป็นหนึ่ง...และเวลาผ่านมาแล้ว กว่า 2,500 ปี
    จะเห็นว่า ทรงปรากฏตัวก่อน แล้วศาสนาจึงตามมา
    ...................................................................................
    เมื่อ ศาสนาพุทธจะอยู่นาน 5,000 ปี
    เมื่อแบ่งครึ่ง คือ 2,500 ปี...ครึ่งแรกยุคพระสมณโคดมผ่านไปแล้ว
    ครึ่งหลัง จึงเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ (เสด็จมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ของพระสมณโคดมพุทธเจ้า)
    ท่านจึงต้องลงมาต้นยุค...เพื่อจะให้ ศาสนาอยู่ต่อ อีก 2,500 ปี
    ในทำนองเดียวกับ การเกิดของยุค พระสมณโคดม โคตมะ
    ไม่ใช่มาเกิด อีก 1,000-2,000 ปีข้างหน้า(ยุคพระเมตไตรยพุทธเจ้า ยังต้องรออีกหลายล้านปีข้างหน้า)
    ...................................................................................
    ผู้ที่ สามารถสัมผัสพลังได้ไว จะเห็นความแตกต่างของ พลังพระพุทธบารมี
    ขององค์สมณโคดม โคตมะ..จะอุ่น นิ่มนวล..แบบบรรยากาศ ต่างจังหวัด
    เพื่อเน้นการถือศีล และความว่าง
    ...................................................................................
    ขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย..จะเย็น ทั้งกาย ที่ให้ความชื่นใจ
    และให้ความสุขใจแบบอยู่ในห้องแอร์
    ...................................................................................
    ใครอยากสัมผัส พลังเย็นของ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย
    ให้ไปทำสมาธิ ที่ วัดไลย์ ใกล้ตลาดท่าโขลง ท่าวุ้ง ลพบุรี
    หรือ ที่ วัดพร้าว อ.เมือง สุพรรณบุรี
    ...................................................................................
    อย่าเอาแต่อ่าน..แล้วมาวิจารณ์ ผิดๆ ถูกๆ
    ลองไปที่วัดทั้งสองดู..แล้วจะเข้าใจ
    ...................................................................................

    19/05/2552 เวลา 12:51 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/คุณคิดว่า-พระศรีอารย์-มาแล้วหรือยัง.180434/page-8<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2009
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post2110797" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2110797", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2008
    สถานที่: ภาควิชาปรัชญาและศาสนา-มนุษย์ศาสตร์ ม เกษตรฯ
    อายุ: 18
    ข้อความ: 2,170
    Groans: 13
    Groaned at 9 Times in 9 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,819
    ได้รับอนุโมทนา 8,652 ครั้ง ใน 1,657 โพส
    พลังการให้คะแนน: 243 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG] [​IMG]

    </td> <td class="alt1" id="td_post_2110797" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->~ที่ซุกหัวนอนแบบพกพา ทางเลือกของคนไม่ที่มีบ้าน~<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!--//<![CDATA[ var m3_u = (location.protocol=='https:'?'https://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php':'http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php'); var m3_r = Math.floor(Math.random()*99999999999); if (!document.MAX_used) document.MAX_used = ','; document.write ("<scr"+"ipt type='text/javascript' src='"+m3_u); document.write ("?zoneid=86"); document.write ('&cb=' + m3_r); if (document.MAX_used != ',') document.write ("&exclude=" + document.MAX_used); document.write ("&loc=" + escape(window.location)); if (document.referrer) document.write ("&referer=" + escape(document.referrer)); if (document.context) document.write ("&context=" + escape(document.context)); if (document.mmm_fo) document.write ("&mmm_fo=1"); document.write ("'><\/scr"+"ipt>"); //]]>--></script><script type="text/javascript" src="http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php?zoneid=86&cb=53137566057&loc=http%3A//palungjit.org/threads/%7E%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2-%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%7E.187920/&referer=http%3A//palungjit.org/members/kananun.38741/"></script>[​IMG][​IMG]
    <noscript> [​IMG]</noscript>
    อีกทางเลือกสำหรับคนที่ยังไม่มีบ้าน ,,,,, ,

    เรามาเริ่มต้นกันที่รุ่น WBF 240-H เลยดีกว่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พร้อมสรรพไปด้วยเบาะนอนนุ่มนิ่ม ชุดปฐมพยายม..เอ้ย พยาบาล กระจก หวูด (เอามาทำไมฟะ?) แถมมีหน้าต่างกิ๊บเก๋ให้ส่องดูวิวสวย ๆ ข้างนอกได้ด้วย ขนาด 198 x 55 x 85 ซม. ทำจากอะลูมิเนียมชั้นดี น้ำหนักเบ็ดเสร็จ 12 กก. รับน้ำหนักได้ 110 กก.หนักกว่านี้มีบ้านพัง!

    อันนี้รุ่น WBF 240-S ตัวนี้น่าจะเป็นชุดประหยัดเพราะตัดผ้าคลุมสุดหรูออก

    [​IMG]


    ส่วน WBF 240-GO นี่เหมาะสำหรับนักธุรกิจ เพราะเป็นรุ่น S(standard)
    ทีพัฒนามาเพื่อติดตั้งโน็ตบุ๊ค อุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ได้ (ไฮโซววว์)

    [​IMG]


    ต่อมาคือรุ่น WBF 440-K
    อันนี้ดูจากดีไซน์แล้ว คนออกแบบน่าจะได้แรงบันดาลใจจากขนมปิ๊ป ดูแล้วกิ๊บซะไม่มี

    [​IMG]

    [​IMG]

    WBF 240 Hedone สำหรับเศรษฐีไร้บ้าน เบาะนิ่มบุสามชั้น หุ้มหนังอย่างดี มีบุผนังภายใน และเพดานมีกระจก

    [​IMG]

    [​IMG]


    WBF 240 Umrah (Umrah หรือ อุมเราะฮฺ อีกหนึ่งพิธีการบำเพ็ญในศาสนาอิสลาม)
    สำหรับสิ่งนี้เกิดมาเพื่อชาวมุสลิม โดยมีจิตรกรรมลายอักษรอาหรับ ชุดทำอุมเราะฮฺ และคัมภีร์อัลกุรอาน

    [​IMG]


    มีรุ่นสำหรับชาวมุสลิมแล้วจะไม่มีรุ่นสำหรับชาวคริสต์ก็กะไรอยู่กับWBF 240 Benedetto
    มีแท่นบูชาพกผา ธูปเทียน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ คัมภีร์ไบเบิล ...อื้อหือ ครบเซ็ต

    [​IMG]


    ส่วนของชาวพุทธไม่มี...แต่ถ้าให้เดา ถ้ามีก็คงไม่พ้นสีเหลือง สีทอง พร้อมหิ้งพระและจตุรคามรามซิงค์
    เอาล่ะ มาต่อกันที่ WBF 240 Camouflage (รุ่นลายพราง) ที่ประกอบด้วยชุดเอาตัวรอด และเครื่องมือนำทาง

    [​IMG]


    รุ่นก่อนๆ ต้องลากเอา แต่รุ่น WBF 240-BC นี้เก๋ากว่าเพราะไปมาพร้อมจักรยานได้ (ซาเล้ง?)
    มาพร้อมยาง 24 นิ้ว มีขาต่อเติมให้สูงขึ้นต่างจาก WBF รุ่นอื่น ๆ เพียงเอาตัวล็อคมาจับกับก้านเบาะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    WBF 480 Couple มาแบบเตียงคู่...สำหรับแฝดสยาม (เขาทำมาให้คู่รักมากกว่ามั้งเพ่!?)

    [​IMG]


    ต่อด้วยรุ่น H3 รุ่นนี้ผลิตมาในดีไซน์ที่ต่างจาก WBF ตรงที่มันไม่ใช่กล่อง 4 เหลี่ยม
    แถมกว้างกว่าที่ 210 x 102 x 95 ซม. แต่ถ้าพับแล้วก็กว้างแค่ 15 ซม. หนัก 12 กก.เท่ากัน
    ที่เห็นข้างล่างนี่คือรุ่น H-3 Standard มีอุปกรณ์เหมือนรุ่น WBF เด๊ะ...มีเพิ่มแค่ที่นอนแผ่นโฟม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    อันนี้สิเจ็บ H-3 World Business มาพร้อมอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม และแผงพลังงานแสงอาทิตย์

    [​IMG]


    H-3 Econemy ดูเข้าท่ามาก...แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ในหน้าฝนแน่นอน ไว้นอนดูดาวหน้าหนาวจะเข้าท่ากว่า

    [​IMG]


    กลัวยุงกัดเหรอ? รุ่น H-3 Tropos น่าจะช่วยได้ (แค่เติมมุ้งเองนี่หว่าเฮ้ย!!...แบบนี้ตูซื้อมาใส่เองก็ด๊ายยย)

    [​IMG]


    ขี้เกียจขึ้นรถเมล์ไปทำงานชิมิ? งั้นต้องนี่!! H-3 Office จั๊บโบ๊ะ! ด้วยโน็คบุ๊คของ HP และกล่องใส่หนังสือ-เอกสาร

    [​IMG]


    แน่นอนว่าสำหรับคนมีแฟนต้องรุ่น H-3 De Luxe กางแล้วจะได้เตียงคู่ ยกเสา(ท่อ)ขึ้นสูงกางเป็นมุ้งได้

    [​IMG]


    อันนี้มาอย่างจี๊ดเลยกับรุ่น H4 ที่อัพเกรดขึ้นมาอย่างกะคอนโดเมืองทองฯ
    ข้างล่างนี้คือรุ่น H-4 Twin S ก่อนแปลงร่างจะยาว 1.4 เมตร แต่ถ้าจะนอนก็แค่ดึงตัวเสริมออกจะยาวเป็น 2 ม.
    รุ่นนี้เค้านอนได้สองคนนะเออ แต่โคตะระหนักเลยถึงกว่า 60 กก. รับน้ำหนักได้ 300 กก.

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    H-4 Offic S สำนักงานขนาดย่อม...แต่ถ้ามาใช้เมืองไทยนี่ร้อนตายคาที่แน่ ๆ

    [​IMG]


    H-4 Twin L มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่น S

    [​IMG]

    [​IMG]


    มีครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก ต้องรุ่นนี้เลย H-4 Family มีตั้งสามชั้นแหนะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทุกผลิตภัณฑ์ซุกหัวนอนที่ท่านเห็นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือ"Urban Nomads"(Nomads : เร่ร่อน,พเนจร,ไร้บ้าน) โดยการออกแบบของ Winfried Baumann เกิด ปี 1956 แกเป็นนักออกแบบที่ออกแบบลิตภัณฑ์ในแบรนด์ Urban Nomads ที่เป็นโครงการที่ Baumann สร้างขึ้นเพื่อนำบ้านมาย่อให้พกพาได้ สะดวก รวดเร็ว และทันสมัยในตัว และนอกจากบ้านมินิแล้วแกยังมีผลิตภัณฑ์มินิอื่น ๆ อีกมากมาย
    ทั้งศูนย์แพทย์สนามเคลื่อนที่ ,แกลอรีจัดแสดงนิทรรศการเคลื่อนที่ และชุดกำบังเคลื่อนที่ โดย Baumann เลือกที่จะบีบให้ทุกสิ่งสามารถเดินทางและย้ายที่ได้เพื่อความสะดวกสบายในการ ทำอะไร หลาย ๆ อย่าง เข้าไปดูเว็บไซต์ของผู้ออกแบบอย่างเป็นทางการได้ที่ winfried baumann - urban nomads (ภาษาเยอรมัน)


    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    ***ภูมิใจ ในปรัชญา พระพิรุณ***
    มนุษย์-ปรัชญา*ปรัชญา-สร้างโลก
    <!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("2110797")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ฝากช่วยกันประชาสัมพันธ์และส่งต่อ
    ข่าวการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
    ด้วยนะคะ


    [​IMG]

    ขอเชิญร่วมส่งผลงานเข้าประกวด ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2552
    สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1250


    [​IMG] Download ใบสมัครเข้าประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง​

    <table width="70%" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและกันดาร[​IMG]</td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทประชาชนทั่วไป[​IMG]</td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง[​IMG] </td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทเกษตรกรทฤษฎีใหม่[​IMG] </td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทกลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่[​IMG] </td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ ในส่วนกลาง[​IMG]</td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ ในส่วนภูมิภาค[​IMG]</td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทธุรกิจขนาดใหญ่[​IMG] </td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทธุรกิจขนาดกลาง[​IMG] </td></tr> <tr><td style="height: 14px;" align="left"> [​IMG] สมัครประเภทธุรกิจขนาดย่อม[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
     
  7. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    ขออนุญาติแนะนำครับ
    มีอาการแบบนี้ ลองห่อมือข้างใดข้างหนึ่ง แล้วเอามาทับปากกับจมูก แล้วลองหายใจเข้า-ออก นานซัก 5 นาที แล้วค่อยเอามือออก ดูว่าอาการปวดหัวนี้จะดีขึ้นไหมครัับ(f)

    <table style="width: 436px; height: 494px;" id="post2114006" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">


    [​IMG] วันนี้, 09:52 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #16037 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->note_bank<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2114006", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2007
    อายุ: 27
    ข้อความ: 170
    Groans: 1


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2114006" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->เป็น เหมือนกันค่ะ จะมีอาการปวดศีรษะอยู่ตลอดเวลา ไปหาหมอก้อวินิจฉัยไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ไม่ได้ป่วยหรือนอนน้อย ทานยาได้แค่ระงับอาการ แล้วที่มือก้อจะมีอาการเสียวแปร๊บอยู่ตลอดเวลา คล้ายมีไฟฟ้าสถิต ที่มือจะสังเกตได้ชัด อาการเหมือนมือชา หนาวทั้งๆที่อาการร้อน ตัวจะหวิวๆ เหมือนมีกระแสไฟฟ้าสถิตอ่อนๆอยู่รอบตัว ตอนแรกนึกว่าคิดไปเองคนเดียว<!-- google_ad_section_end -->
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย note_bank : วันนี้ เมื่อ 10:55 AM



    </td></tr></tbody> </table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2009
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    น้ำป่าทะลักท่วมอุตรดิตถ์ ย้ำพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 19 พ.ค. - นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำหนังสือด่วนที่สุดแจ้งทั้ง 9 อำเภอ ให้พื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก จัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากฝนตกหนักมาตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมือง อ.ลับแล และ อ.ท่าปลา ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม-ดินถล่มมาแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549

    ล่าสุด (19 พ.ค.) ที่ อ.ท่าปลา น้ำป่าหลากทะลักลงสู่คลองสิงห์อย่างราดเร็ว และไหลเชี่ยวเข้าท่วมบ้านเรือนถึง 3 หมู่บ้าน ต.ท่าปลา กระแสน้ำยังพัดไก่-เป็ดของชาวบ้านกว่า 200 ตัว เส้นทางสัญจรจมน้ำไม่สามารถผ่านได้ ส่วนศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลท่าปลา น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร อาสาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์กว่า 50 นาย ต้องนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 17:03:22

    ครูยะลาถูกยิงเสียชีวิต-สั่งปิดชั่วคราว 5 โรงเรียน

    [​IMG]

    ยะลา 19 พ.ค.- พล.ต.ต.สายันต์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นำเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 45 พร้อมตำรวจ-ทหาร เข้าพื้นที่เกิดเหตุนายณัตพล จะแน อายุ 39 ปี ครูโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาที่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (19 พ.ค.) บริเวณถนนหมู่บ้านพื้นที่ ม.4 ต.ตลิ่งชัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 6 ปลอกไว้เป็นหลักฐาน และพบว่าปืนพก 9 มม. ของนายณัตพล ถูกผู้ก่อเหตุนำไปด้วย

    เบื้องต้นทราบว่าขณะที่นายณัตพล ขับรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กรจ 979 ยะลา ออกจากบ้านพักมาได้เพียง 100 เมตร เพื่อไปสอนหนังสือที่โรงเรียน คาดว่าผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 3 คน ดักซุ่มอยู่ในป่าและใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่นายณัตพล จนเสียชีวิต ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ยะลา เขต 2 ให้โรงเรียนในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา ปิดสอนชั่วคราวแล้ว 5 แห่ง เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน รวมถึงความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 11:51:29

    โจรใต้วางระเบิดทหารชุด รปภ.ครูที่รือเสาะเจ็บ 3 นาย

    [​IMG]

    นราธิวาส 19 พ.ค.- เวลา 15.30 น.วันนี้ (19 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ทหารชุดพัฒนาสันติ 3015 มี ส.ต.ศักดา ศรีสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าชุด ถูกคนร้ายใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ลอบนำไปวางไว้ริมถนนในหมู่บ้านสะตอ ม.7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะนำกำลังทหาร 8 นาย ตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับชุด รปภ.ครู

    มีทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ 1. ส.ต.ศักดา หัวหน้าชุด ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา ลำตัว และหน้าท้อง 2. อส.ทพ.ยอด พุทธรักษา ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว และ 3. อส.ทพ.ธิเนตร ธรรมเล็ก ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ทั้ง 3 นาย อาการสาหัส แพทย์ เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลรือเสาะ และส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

    สำหรับสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี.- สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 19:09:09

    ครอบครัวชาวแม่แจ่มกินเห็ดพิษดับ 1 อีก 4 คนยังน่าห่วง

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 19 พ.ค. - ครอบครัวชาวบ้านเชียงใหม่ รับประทานเห็ดป่า เสียชีวิต 1 คน ส่วนอีก 4 คน อาการน่าเป็นห่วง ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

    แพทย์โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ เฝ้าดูอาการนายประสาน และ น.ส.ธิดาพิทักษ์ทรงวุฒิ อย่างใกล้ชิด หลังสองพี่น้องซึ่งเป็นชาวอำเภอแม่แจ่ม รับประทานเห็ดพิษ เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาเจียน แพทย์ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากพิษทำลายตับและไต อาการยังน่าเป็นห่วง ส่วน น.ส.พอใจ พี่สาวคนโต เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่เด็กหญิงลัดดาน้องสาวคนเล็ก และนางหน่อแนะ มารดาอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ต่อไป

    นพ.ธานินทร์ ลิ้มทอง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ เตือนชาวบ้านไม่ควรนำเห็ดที่ไม่รู้จักมารับประทาน แต่หากรับประทานเห็ดพิษ เบื้องต้นให้ล้วงลำคออาเจียนให้มากที่สุด ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 16:10:53

    ตัดวงจรยุงลายยับยั้งไข้เลือดออก-ชิคุนกุนยาระบาดใต้

    [​IMG]

    ภูมิภาค 18 พ.ค.- ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคที่ 11 ห่วงยอดป่วยโรคไข้เลือดออก-ชิคุนกุนยาเพิ่มสูง พบนครศรีฯ ระบาดมากที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เน้นย้ำ 4 ป.ตัดวงจรระบาด ส่วนสงขลาปฏิบัติการเข้มกำจัดยุงลายตามชายแดนไทย-มาเลเซีย

    นพ.ภานุมาศ ญาณเวชกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช แถลงงาน “สัปดาห์รณรงค์ป้องโรคไข้เลือดออก และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา” ระหว่างวันที่ 18-22 พ.ค.นี้ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกรวม 359 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนโรคชิคุนกุนยาหรือไข้ปวดข้อ พบผู้ป่วย 9 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยพื้นที่พบมากที่สุดคือ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งพาหะของทั้งสองโรคมาจากยุงลาย อาการป่วยมีลักษณะคล้ายกัน คือไข้สูง ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และปวดข้อ

    โดยเฉพาะโรคชิคุนกุนยานั้นจะปวดข้อแดงอักเสบ การดูแลรักษาทั้งโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยา ยังไม่มียารักษาจำเพาะ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือรักษาตามอาการและรักษาแบบประคับประคอง หากสงสัยว่าป่วยด้วยโรคดังกล่าวควรรีบรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และ ห้ามซื้อยาแอสไพรินมารับประทานเด็ดขาด สำหรับการกำจัดวงจรชีวิตยุงลายสามารถทำได้ 4 ป คือ 1.ปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด 2.เปลี่ยนน้ำในภาชนะทุก 7 วัน 3.ปล่อยปลากินลูกน้ำ และ 4.ปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน และการกำจัดช่วงชีวิตยุงลายที่อยู่บนบกโดยใช้สารเคมี ที่ทำได้ 2 วิธี คือการพ่นหมอกควัน และพ่นฝอยละออง

    ด้านนายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้ (18 พ.ค.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระดมเจ้าหน้าที่ออกฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายครั้งใหญ่ เน้นพื้นที่รอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และเป็นพื้นที่เฝ้าระวังทั้งโรคไข้เลือดออกและชิคุนกุนยาที่ยังคงระบาดอย่างหนักในขณะนี้ และมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน สำหรับการกำจัดยุงลายอย่างต่อเนื่องเชื่อว่จะช่วยให้ปัญหาของโรคเบาบางลง หลังจากโรคไข้เลือดออกพุ่งเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และโรคชิคุนกุนยาเป็นอันดับ 2 ของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-18 15:23:57

    ทหารพรานที่พึ่งผู้ป่วยชิคุนกุนยา

    [​IMG]

    สงขลา 19 พ.ค.-หน่วยทหารพรานที อ.นาทวี จ.สงขลา กลายเป็นหน่วยรักษาผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยา ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ จว.ชายแดนภาคใต้ หลังมีกระแสเล่าปากต่อปากว่าที่หน่วยทหารนี้สามารถรักษาหายขาดเป็นปกติ ล่าสุดมีผู้ป่วยมารับการรักษาแล้วกว่า 9 พันราย.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 12:17:58

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    สังเกตว่าตัวมีไฟฟ้าสถิตมากเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว แต่ปีนี้เป็นบ่อยขึ้น เพราะลูกมาจับตัวแม่จะมีไฟฟ้าสถิตได้ยินแสงสปาร์คเหมือนตอนจับหน้าจอทีวีรุ่นเก่า ลูกบ่นว่าจับแม่แล้วโดนไฟฟ้าเจ็บจังเลย
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดรอยแยกที่สนามแม่เหล็กโลก เปิดรับอนุภาคมีประจุจากลมสุริยะ 20 เท่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ธันวาคม 2551 14:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ภาพจำลองจากนาซาและไซน์เดลี ประกอบข่าวรอยแยกบนสนามแม่เหล็กโลกที่เกิดจากอันตรกริยา ระหว่างสนามแม่เหล็กโลกและอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์

    ภาพถ่ายดาวเทียมจากนาซา เผยสนามแม่เหล็กโลกที่ปกป้องดาวเคราะห์ของเราจากลมสุริยะ มีรอยแยกขนาดใหญ่ 2 แห่งหนาถึง 6,400 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิด "แสงออโรรา" ที่สว่างจ้า หรืออาจเกิดการรบกวนการสื่อสารของดาวเทียมและสถานีภาคพื้นดิน ทั้งนี้พบรอยแยกดังกล่าวตั้งแต่กลางปี โดยอนุภาคมีประจุรั่วเข้าชั้นบรรยากาศโลกได้มากถึง 20 เท่าของยามปกติ

    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กลุ่มดาวเทียมธีมิส (Themis: Time History of Events and Macroscale Interactions during Substorms) จำนวน 5 ดวงของ องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ได้พบรอยแยกขนาดใหญ่ ในสนามแม่เล็กโลก ซึ่งคอยปกป้องโลกจากระเบิดอนุภาคที่มีประจุของดวงอาทิตย์ และจากการสำรวจของดาวเทียมเผยให้เห็นว่า สนามแม่เหล็กโลกมีรอยแยก 2 แห่ง เปิดช่องให้ลมสุริยะ (solar wind) ซึ่งเป็นกระแสของอนุภาคมีประจุที่ประทุออกมาจากดวงอาทิตย์ แทรกสู่บรรยากาศชั้นของโลกด้วยความเร็ว 1.6 ล้านกิโลเมตรต่อชัวโมง

    ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ทราบมานานแล้วว่า สนามแม่เหล็กโลกซึ่งช่วยปกป้องโลกจากสภาพอากาศอันเลวร้ายของอวกาศนั้น อยู่ในสภาพคล้ายบ้านโทรมๆ ที่อยู่ท่ามกลางลมพายุ ซึ่งบางครั้งสนามแม่เหล็กโลกก็เปิดโอกาสให้อนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์เข้ามาสร้างความรุนแรงได้ และรอยแยกที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นสาเหตุของแสงออโรรา (aurora) หรือแสงเหนือใต้ที่สว่างเจิดจ้า หรืออาจก่อให้เกิดการรบกวนการสื่อสารของดาวเทียมหรือสถานีภาคพื้นได้

    เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ดาวเทียมธีมิสพบชั้นอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ส่วนนอกของชั้นบรรยากาศโลก ในส่วนแมกเนโทสเฟียร์ (magnetosphere) และมีความหนาอย่างน้อย 6,400 กิโลเมตร แต่ มาริท โออีโรเซท (Marit Oieroset) นักวิทยาศาสตร์ในโครงการดาวเทียมธีมิสจากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย (University of California) สหรัฐฯ ระบุว่า รอยแยกดังกล่าวไม่คงอยู่ถาวร โดยก่อนหน้านั้นเมื่อปีที่แล้วก็พบรอยแยกของสนามแม่เหล็กโลกแต่คงอยู่แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

    ทางด้านสเปซเดลี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลกว่า เป็นเหมือนเกาะกำบังอนุภาคที่ส่งมาอย่างต่อเนื่องจากดวงอาทิตย์ เนื่องจากอนุภาคที่ไหลมาจากดวงอาทิตย์นั้นมีประจุไฟฟ้าทั้งอยู่ในรูปไอออนและอิเล็กตรอน จึงไวต่อแรงแม่เหล็ก และส่วนใหญ่ถูกสะท้อนออกไปโดยสนามแม่เหล็กโลก อย่างไรก็ดี สนามแม่เหล็กของเราก็เป็นเพียงเกราะกำบังที่มีรอยรั่ว และจำนวนอนุภาคที่รั่วไหลเข้ามาก็ขึ้นอยู่กับทิศของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์

    "การค้นพบครั้งนี้พลิกความเชื่ออันยาวนาน เกี่ยวกับการรบกวนของอนุภาคมีประจุจากสุริยะว่า จะเกิดขึ้นรุนแรงอย่างไรและเมื่อไหร่ และการค้นพบนี้ยังนำไปใช้ทำนายว่า เมื่อไหร่จะเกิดพายุสุริยะรุนแรง จากผลในครั้งนี้เราคาดว่าจะเกิดพายุสุริยะรุนแรงในช่วงวัฎจักรสุริยะ (solar cycle) ที่กำลังจะเข้ามา" วาสซิลิส แองเจโลพัวลอส (Vassilis Angelopoulos) ผู้ตรวจสอบหลักปฏิบัติการธีมิสจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าว

    ส่วนเอพียังให้คำอธิบายจากโออีโรเซทว่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเบื้องต้นรอยแยกขนาดใหญ่นี้เกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กโลกและสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกัน และข้อมูลจากดาวเทียมธีมิสก็พบว่าสนามแม่เหล็กของโลกและดวงอาทิตย์อยู่ตรงข้ามกันจริง และมีลมพายุสุริยะผ่านโลกมากกว่าปกติ 20 เท่า เมื่อเทียบกับครั้งที่สนามแม่เหล็กของโลกและดวงอาทิตย์อยู่ในแนวเดียวกัน

    ก่อนหน้านี้ยานอวกาศอื่นๆ ทำได้เพียงเก็บตัวอย่างเล็กๆ ของชั้นอนุภาคมีประจุภายในสนามแม่เหล็กโลก แต่ดาวเทียมทั้ง 5 ดวงในโครงการธีมิสสามารถเก็บข้อมูลมาขยายผลได้มากกว่า อย่างไรก็ดีแม้ทราบขนาดการรั่วไหลเข้ามาอนุภาคจากลมสุริยะแล้ว แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบตำแหน่งที่เกิดการรั่วไหล

    ทั้งนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบตำแหน่งรอยแยกของสนามแม่เหล็กคือ หลี่ เหวินฮุย (Wenhui Li) จากมหาวิทยาลัยนิวแฮมป์ไชร์ (University of New Hampshire) สหราชอาณาจักร พร้อมด้วยคณะ โดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหา 2 รอยแยกที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสนามแม่เหล็กโลก รอยแยกหนึ่งอยู่บริเวณละติจูดสูงทางซีกฟ้าเหนือ และอีกรอยแยกอยู่บริเวณละติจูดทางซีกฟ้าใต้ โดยรอยแยกก่อตัวขึ้นบนโลกด้านกลางวัน ซึ่งเป็นด้านที่สนามแม่เหล็กประจันหน้ากับดวงอาทิตย์

    สเปซเดลีระบุด้วยว่า แบบจำลองของหลี่ยังแสดงให้เห็นว่ารอยแตกของสนามแม่เหล็กก่อตัวขึ้นได้อย่างไร เมื่ออนุภาคมีประจุไหลออกจากดวงอาทิตย์ อนุภาคเหล่านั้นก็นำสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ผ่านมายังโลกด้วย ทำให้เกิดการต้านสนามแม่เหล็กโลกตลอดการเส้นทางของสนามแม่เหล็กสุริยะ

    แม้ว่าที่ตำแหน่งเส้นศูนย์สูตรสนามเหล็กทั้งสองมีทิศทางเดียวกัน แต่ที่ละติจูดสูงๆ สนามแม่เหล็กทั้งสองชี้ไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อเกิดแรงบีบอัดสนามแม่เหล็กที่มีทิศทางตรงกันข้ามเข้าด้วยกัน และเกิดการเชื่อมโยงที่เรียกว่า "การเชื่อมต่อใหม่ของสนามแม่เหล็ก" (magnetic reconnection) ซึ่งตามการศึกษาของหลี่และคณะ กระบวนการนี้ทำให้เกิดรอยแยกบนสนามแม่เหล็กโลก และเชื่อมโยงสนามแม่เหล็กสุริยะระหว่างรอยแยกทั้งสองกับสนามแม่เหล็กโลก แล้วนำเอาอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์เข้าไปในชั้นแมกเนโทสเฟียร์ของโลก.

    ที่มา http://www2.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000148443
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image.jpg
      Image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.3 KB
      เปิดดู:
      1,379
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2009
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ธรรมชาติวิปริต หรือเกิดจากฝีมือมนุษย์
    โดยวิลาศ เตชะไพบูลย์ วันที่ 21 ก.พ. 48


    [​IMG]

    หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมกับได้คร่าชีวิตผู้คนบนโลกไปถึงเกือบ ๓๐๐๐๐๐ ชีวิต หลายฝ่ายได้ตั้งคำถามกันว่า อะไรกันแน่คือสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้

    บ้างเชื่อว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น บ้างก็ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นผลจากการที่มนุษย์ได้ตักตวงทรัพยากรและทำลายธรรมชาติไปอย่างมากมายมหาศาลเป็นเวลาช้านาน จนโลกขาดสมดุล

    นอกจากนี้ยังมีผู้คนอีกกลุ่ม ที่แม้จะเห็นด้วยว่าการทำลายสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยสารพิษที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์โลกร้อนนั้น เป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งที่นำไปสู่สภาพดินฟ้าอากาศวิปริตทั่วโลก แต่ทว่าไม่พอเพียงที่จะใช้อธิบายปรากฏการณ์พิสดารทางธรรมชาติต่างๆ ที่ เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในช่วงไม่นานมานี้

    พวกเขาเชื่อว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งเริ่มปรากฏตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้ทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนธันวาคมปีที่แล้วต่างหาก คือสาเหตุที่แท้จริงของความวิปริตทั้งปวง ทั้งนี้ฝ่ายหนึ่งคาดว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้มีที่มาจากการระเบิดในอวกาศที่ห่างไกลของดาวที่เรียกว่าซูปเปอร์โนวา แต่อีกฝ่ายเชื่อว่า เกิดจากอาวุธใหม่ที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น พวกเขาเหล่านี้มีหลักฐานอะไร

    ยุคแห่งวิปริตทางธรรมชาติ?

    เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง องค์กรสหประชาชาติได้จัดการประชุมขึ้น ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นเพื่อหาทางแก้ไขผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ รายงานของที่ประชุมดังกล่าวระบุว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประชากรโลกกว่า ๒.๕ พันล้านคน ต้องประสบกับภัยภิบัติทางธรรมชาติ เป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงทศวรรษก่อนถึง ๖๐% และในจำนวนผู้บาดเจ็บและล้มตาย กว่าครึ่งเกิดจากอุทกภัยและแผ่นดินไหว

    ไม่เพียงแต่แนวโน้มการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นในระยะยาวเท่านั้น แต่ทว่าเป็นที่น่าประหลาดว่าในปี ๒๕๔๗ จำนวนภัยพิบัติทางธรรมชาติดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนและความรุนแรงขึ้นอย่างผิดปรกติ

    ทั้งนี้บริษัทมิวนิก รี บรรษัทธุรกิจประกันภัยเสริม(reinsurance) รายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุในรายงานชื่อ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ”ประจำปี ๒๕๔๗ ว่า เป็นปีหายนะของธุรกิจประกันภัยทั่วโลกจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งปีกว่า ๕๖๐ ครั้ง

    ทางบริษัทประเมินความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภัยพิบัติในปีที่แล้ว ว่ามีมูลค่าทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า ๕ ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่าความสูญเสียที่เกิดในปี ๒๕๔๖ กว่าหนึ่งเท่าตัว ทั้งนี้ยังไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม

    ยิ่งไปกว่านี้ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา มิได้มีแต่กรณีการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นเป็นครั้งแรกในมหาสมุทรอินเดียเท่านั้นที่เป็นเหตุการณ์ผิดปรกติทางธรรมชาติ ทว่ามีเหตุการณ์แปลกประหลาดอื่นๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย อาทิ

    วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๗ เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบแหล่งที่มา วัดความรุนแรงได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ไหลเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก ยังผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ กล่าวคือทำให้พื้นที่กว่า ๒๒๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตรในประเทศจีน ถูกหมอกหนาปกคลุมในวันถัดมา จนทำให้การคมนาคมแทบทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง และยังเกิดเหตุการณ์หมอกหนาจัดปกคลุมพื้นที่มหาศาลขึ้นอีก ๒ ครั้งในวันที่ ๑๔ และ ๒๑ เดือนเดียวกันในประเทศจีนและอินเดียตอนเหนืออีกด้วย

    ผลของพลังงานแม่เหล็กอันไม่ทราบที่มานี้ยังส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์พิสดารอื่นๆ อีกทั่วซีกโลกเหนือ เช่น เกิดลมพายุที่มีความรุนแรงเทียบเท่าพายุเฮอริเคนในผรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ แคนาดา รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งส่งผลให้อุณหภูมิลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่อีกด้วย

    เดือนสิงหาคมและกันยายน เฮอริเคนอเล็กซ์ ไอแวน ฟรานซิส ชาลี และ จีน เฮอริเคนถึงสี่ลูกกับอีกหนึ่ง พายุโซนร้อนได้ก่อตัวขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ในแถบแคริบเบียนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยังผลให้มีผู้คนหลายพันคนใน ๖ ประเทศต้องถึงแก่ชีวิต และอีกหลายแสนคนต้องปราศจากที่อยู่อาศัย

    เดือนสิงหาคมที่จีน เกิดพายุไต้ฝุ่นรานามิน พายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ ๔๘ ปีทำให้มีผู้เสียชีวิต ๑๖๔ คน บาดเจ็บกว่า ๑,๘๐๐ คน และคาดว่าถึงกว่า ๑๓ ล้านคนได้รับผลกระทบ

    เพียงในระยะเวลา ๕ เดือนหลังของปีที่แล้ว มีรายงานการเห็นลูกไฟอุกาบาตมากกว่าถึง ๕๐ ครั้ง ทั่วโลก ในขณะที่สมาคมอุกาบาตของสหรัฐระบุว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเห็นลูกไฟอุกาบาตเกินกว่าเพียงปีละไม่กี่ครั้ง

    หน้าร้อนปี ๒๕๔๗ ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นมากครั้งที่สุดเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยแล้วหนึ่งลูกทุกสัปดาห์ตลอดฤดูกาล

    มีนาคม เป็นครั้งแรกที่มีพายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ทำลายทฤษฎีที่เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดพายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นในบริเวณนี้ ด้วยลมพายุความเร็วถึง ๑๕๐ ก.ม.ต่อช.ม. ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบคนในประเทศบราซิล

    นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ผิดธรรมชาติต่างๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นทั่วไปตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เช่น ร้อนที่สุด หนาวที่สุด ฝนตกมากที่สุด แล้งที่สุด ภูเขาไฟปะทุขึ้นพร้อมกัน แผ่นดินไหว ลมพายุรุนแรง ฯลฯ

    [​IMG]


    ธรรมชาติวิปริตเกิดจากทฤษฎีโลกร้อนจริงหรือ?

    ผู้คนทั่วไปมักเชื่อคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่า ความผิดปรกติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มีต้นตอมาจากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลและทำให้เกิดก็าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประกอบกับการปล่อยสารซีเอฟซีที่ทำลายชั้นโอโซน ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกจนอุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ

    ทว่าคำอธิบายข้างต้นหาได้เป็นที่ยอมรับเป็นเอกฉันท์ในวงการวิทยาศาสตร์ไม่ ตรงกันข้ามยังมีการโต้แย้งกันถึงข้อบกพร่องในทฤษฎีเรือนกระจกและทฤษฏีโลกร้อนตลอดมา

    ทฤษฎีเรือนกระจกนั้น ข้อบกพร่องอยู่ที่ เหตุใดรูโหว่ในชั้นบรรยากาศโลกจึงไม่เกิดขึ้นเหนือพื้นที่ที่มีสถิติการปล่อยสารซีเอฟซีเป็นจำนวนมาก อาทิ เหนือเมืองใหญ่และเขตอุตสาหกรรมต่างๆ แต่กลับไปเกิดขึ้นยังบริเวณขั้วโลกทั้งสองด้าน

    ทั้งนี้ ทีมวิจัยของอังกฤษได้รายงานเมื่อปลายปีที่แล้วว่าชั้นโอโซนในบริเวณขั้วโลกใต้มีปริมาณโอโซนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง ๑๐%
    ในส่วนของทฤษฎีโลกร้อนนั้น ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่บริเวณผิวพื้นโลกและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศระดับล่างและกลาง ในช่วง ๒๐ปีมานี้ พิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้ผิดพลาด เนื่องจากพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน อุณหภูมิที่ผิวพื้นโลกสูงขึ้นจริงแต่อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งหากทฤษฎีโลกร้อนถูกต้องแล้ว อุณหภูมิทั้งสองบริเวณนี้จะต้องสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

    คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบที่มา: กุญแจไขปริศนา!!

    นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีแกมม่า) นี้ได้ในบริเวณขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า ๕ ปีมาแล้ว และหลังจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้พบว่าปริมาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนความถี่และความรุนแรง

    ท้องฟ้าในบริเวณขั้วโลกเหนือที่ปรกติมืดมิดตลอดเวลาในช่วงฤดูหนาว ปัจจุบันกลับมีแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นประจำ “ขอบฟ้าถูกยกสูงเหมือนกับชูขึ้นด้วยมือของพระเป็นเจ้า”นายเดวิดสันกล่าว เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแคนาดาซึ่งประจำการอยู่ที่สถานีตรวจสอบอากาศเมืองเรซาลูด เบย์ ทวีปอาร์คติก

    นักวิทยาศาสตร์หลายฝ่ายเชื่อว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับนี้คือต้นเหตุของความวิปริตทั้งมวลที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ มีงานวิจัยของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐที่พบว่า อิทธิพลรังสีแกมม่าสามารถทำให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน โลกเย็นลง ฝนกรดและการเกิดเมฆหมอกได้

    ผลของงานวิจัยนี้ได้ถูกยืนยันอีกครั้งโดยการค้นพบของทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมันจากสถาบันนิวเคลียร์ฟิสิกส์แมกส์ แพลงค์ สถาบันเลื่องชื่อของโลกในปี ๒๕๔๕

    ไม่เพียงแต่รังสีแกมม่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานแม่เหล็กจึงส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก และอาจสามารถกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดได้อีกด้วย

    ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันภูมิฟิสิกส์ประเทศจอร์เจีย จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบเป็นเวลา ๓๐ ปี จากปี ๒๕๐๑ – ๒๕๓๑ สรุปว่าปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็กเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงกว่า ๖ ริกเตอร์ขึ้นไป

    ในส่วนของจำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้นมากผิดปรกติในปีที่แล้วก็เช่นกัน แม้จะยังไม่มีผลงานวิจัยในด้านนี้อยู่เลยก็ตาม แต่นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกหลายคนก็เริ่มตั้งข้อสันนิษฐานว่า มีความเป็นไปได้ที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจเกี่ยวข้องกับจำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้น

    คลื่นพลังงานแม่เหล็กเหล่านี้มาจากไหน?

    ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึงที่มาของคลื่นพลังงานแม่เหล็กลึกลับซึ่งยังคงสร้างความวิปริตทางธรรมชาติทั่วโลกในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งคาดว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้น่าจะมาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวาหรือดาวฤกษ์ที่กำลังจะดับสูญชื่อ SN1987a เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างจากโลก ๑๒,๐๐๐ ล้านปีแสงเมื่อปี ๒๕๓๐ การระเบิดครั้งนั้นถือเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในจักรวาลเป็นอันดับ ๒ รองจากการระเบิดที่เรียกว่าบิ๊กแบงในปี ๒๕๔๐

    “การระเบิดของดาว SN1987a ปลดปล่อยพลังงานอภิมหาศาลในหนึ่งวินาที เทียบได้กับพลังงานของดาวฤกษ์ทั้งหมดในจักรวาลรวมกัน” สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ทั้งนี้คาดว่าโลกจะสามารถแลเห็นการระเบิดนี้ได้ก่อนปี ๒๕๕๓

    ทั้งนี้ ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าปริศนานี้ มีที่มาจากในโลกนี้เองและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ หลายฝ่ายชี้ชัดมายังอาวุธในโครงการของกองทัพสหรัฐที่มีชื่อว่า “ฮาร์พ” (High Frequency Active Auroral Reseach Program)

    ฮาร์พเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์การริเริ่มป้องกันทางทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการสตาร์วอร์ ฮาร์พถูกริเริ่มขึ้นในยุคของประธานาธิบดีเรแกน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อศึกษา “การใช้ไอโอโนสเฟีย(ชั้นบรรยากาศระดับบน) เพื่อเป้าหมายของกระทรวงกลาโหม”

    นายอีสแมน เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการนี้ กล่าวถึงฮาร์พว่า “สามารถรบกวนระบบโทรคมนาคมทั้งหมดในพื้นที่ขนาดใหญ่มากบนโลก...เบี่ยงเบนทิศทางหรือทำลายจรวดและเครื่องบิน...ปรับเปลี่ยนภูมิอากาศ...”

    ดอกเตอร์เมกิช นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งที่ติดตามโครงการฮาร์พ อธิบายถึงการทำงานของอาวุธนี้ว่า ฮาร์พ “อาศัยเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุพลังมหาศาลในการยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบนของโลก( ไอโอโนสเฟีย )ขึ้น โดยเล็งพลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้นจนร้อน( หลอมละลายจนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์ที่สามารถรับส่งคลื่นได้) จากนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี”

    อะไรที่ชี้ว่าเทคโนโลยีในการบังคับดินฟ้าอากาศมีจริง?

    หลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุดอยู่ที่การยอมรับเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการบังคับดินฟ้าอากาศของบุคคลสำคัญ สถาบันและองค์กรชั้นนำระดับโลกต่างๆ อาทิ

    เอกสารชื่อ “กองทัพอากาศสหรัฐ ๒๐๐๕“ ที่ประกาศใช้ในปี ๒๕๓๙ ได้ระบุเป้าหมายในอนาคตของกองทัพอากาศสหรัฐว่า “การเปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงทั้งในและระหว่างประเทศและสามารถทำได้แบบเอกภาคี...มันเป็นไปได้ทั้งเชิงการรุกและรับหรือกระทั่งในการข่มขู่ศัตรู...ความสามารถในการทำฝน หมอก และพายุ หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก...และการสร้างดินฟ้าอากาศต่างๆ นี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีแบบบูรณาการซึ่งสร้างเสริมศักยภาพให้กับสหรัฐหรือลดทอนศักยภาพของศัตรู...”

    จริงอยู่ที่ข้อความข้างต้นนี้เป็นเพียงเป้าในอนาคต แต่ก็หมายถึงว่า ก่อนหน้าการประกาศ สหรัฐได้ทำเริ่มลงทุนพัฒนาและทดลองเทคโนโลยีการควบคุมดินฟ้าอากาศเป็นประจำมาเป็นเวลาช้านาน จนกว่าจะมั่นใจได้ว่าสามารถบรรลุภาระกิจที่ตั้งไว้ได้

    ปี ๒๕๓๙ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานคำพูดของนายวิเลียม โคเฮน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐในขณะนั้น ที่กล่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย ณ มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ตอนหนึ่งมีใจความว่า “การป้องกันเกี่ยวกับอาวุธที่ไม่ธรรมดาจะต้องเพิ่มมากขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายพัฒนาอาวุธเคมีและเชื้อโรคและกรรมวิธีทางพลังงานแม่เหล็กที่สามารถเปิดรูโหว่ในชั้นโอโซนหรือกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดได้”

    เป็นไปได้หรือที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะสามารถค้นคิดอาวุธร้ายแรงเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง เพราะตลอดมาพวกเขามีศักยภาพเพียงการลอกเลียนและประยุกต์อาวุธขึ้นจากเทคโนโลยีที่มีบรรดาประเทศมหาอำนาจได้ค้นคิดพัฒนาและใช้การได้จริงแล้วทั้งสิ้น

    ปี ๒๕๔๔ วุฒิสมาชิกสหรัฐจากรัฐโอไฮโอนาย เดนิส คูชินิชได้ เสนอร่างกฎหมายเลขที่ HR 2977 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธในอวกาศ ตอนหนึ่งของร่างนี้กล่าวถึง “อาวุธทางภูมิอากาศหรืออาวุธทางรอยเลื่อนของชั้นแผ่นดิน” เป็นไปได้หรือที่ผู้ที่เป็นถึงวุฒิสมาชิกสหรัฐจะกล้าเสนอกฎหมายนี้หากปราศจากหลักฐานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธเหล่านี้

    นอกจากบุกคลสำคัญและองค์กรของสหรัฐเองจะกล่าวถึงการพัฒนาและทดลองอาวุธที่เปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศแล้ว บุคคลสำคัญและองค์กรในระดับโลกต่างๆ ก็ได้เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธนี้มาแล้วด้วย

    ที่ประชุมใหญ่องค์กรสหประชาชาติประจำปี ๒๕๔๐ ได้มีการลงนามในอนุสัญญา “การห้ามใช้เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศเพื่อการทหารและการรุกราน ที่สร้างผลกระทบอย่างกว้างขวาง ยาวนานและรุนแรง” ทั้งนี้นิยามของ “เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ” หมายถึง “เทคโนโลยีที่จงใจดัดแปลงกระบวนการทางธรรมชาติ การเคลื่อนไหว องค์ประกอบ โครงสร้างของโลกรวมถึงชั้นบรรยากาศต่างๆหรืออวกาศ”

    [​IMG]


    หลักฐานที่ชี้ถึงแสนยานุภาพของฮาร์พ

    ในปี ๒๕๔๖ สมาชิกของคณะกรรมาธิการถึงสี่คณะของสภาสูงสุดรัสเซียหรือสภาดูม่า และสมาชิกสภาทั้งหมด ๙๐ ท่าน ได้ร่วมกันลงชื่อในรายงานเสนอต่อประธานาธิบดีวลาดีเมีย ปูติน องค์กรสหประชาชาติและประเทศสมาชิก องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ผู้นำและรัฐสภาของทุกประเทศ องค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและสื่อมวลชนชั้นนำของโลก เพื่อเรียกร้องให้ประชาคมโลกมีมติห้ามสหรัฐทดลองอาวุธที่มีแสนยานุภาพสูงนี้ ในรายงานนี้ปรากฏข้อความดังนี้ “ภายใต้โครงการฮาร์พ สหรัฐกำลังสร้างอาวุธใหม่ทางธรณีฟิสิกส์ซึ่งอาจสามารถส่งอิทธิพลต่อชั้นบรรยากาศใกล้โลกด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง”

    “แสนยานุภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้ อาจเทียบได้กับการเปลี่ยนแปลงจากอาวุธมีคม สู่อาวุธปืน หรือจากอาวุธธรรมดา สู่อาวุธนิวเคลียร์”

    รายงานนี้ยังระบุอีกว่าสหรัฐกำลังสร้างอาวุธฮาร์พนี้ในพื้นที่ ๓ แห่ง แห่งแรกที่รัฐอะลาสก้า สหรัฐอเมริกา แห่งที่สองที่กรีนแลนด์ และที่สามในประเทศนอร์เว ทั้งนี้สหรัฐเตรียมที่จะเริ่มทดลองอย่างเต็มที่ได้ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๔๖

    “เมื่ออุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศจาก อะลาสก้า นอร์เว และกรีนแลนด์ ความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมายพร้อมกับอานุภาพอันมหัศจรรย์ จะนำไปสู่ความสามารถอันแท้จริงในควบคุมชั้นบรรยากาศใกล้โลก” รายงานของสภาดูม่าสรุป

    ก่อนหน้านี้ในปี ๒๕๔๑ คณะกรรมมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคงและนโยบายการทางทหาร ก็ได้เคยร้องเรียนต่อรัฐสภาสหภาพยุโรปจากกรณีที่สหรัฐปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าในการเปิดเผยข้อมูลและอนุญาตให้องค์กรอิสระระดับนานาชาติเข้าไปตรวจสอบโครงการฮาร์พ อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐสภายุโรปร่างสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมจากกิจกรรมทางการทหารด้วย

    ทั้งนี้ สหรัฐประกาศว่า ปัจจุบันโครงการฮาร์พกำลังอยู่ในชั้นตอนสุดท้ายของการขยายกำลังส่ง และคาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้การได้เต็มที่ในราวปี ๒๕๔๙ หรือเพียงอีกราวหนึ่งปีข้างหน้านี้

    สรุป

    ในวันนี้คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะพยายามติดตามค้นหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุของวิปริตทางธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของธรรมชาติ หรือฝั่งที่เชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า มวลมนุษยชาติกำลังจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ใหญ่หลวงในอนาคตอันใกล้นี้ แต่แน่นอนการคาดการณ์ของพวกเขาอาจะผิดก็ได้

    สิ่งที่สังคมไทยน่าจะพิจารณาก็คือ ในอนาคตอันใกล้นี้ มีความเป็นไปได้ที่สังคมไทยจะต้องเผชิญกับมหันตภัยทางธรรมชาติต่างๆ ที่รุนแรงและใหญ่หลวงเสียยิ่งกว่าคลื่นยักษ์สึนามิที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โอกาสที่ประชาชนคนไทยจะต่อสู้จนได้มาซึ่งรัฐบาลที่ดี พอที่เรียกได้ว่าพวกเขาคือตัวแทนของพวกเรานั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย และต่อให้ความฝันนี้เป็นจริง พวกเขาก็มิอาจปกป้องช่วยเหลือพวกเราจากภัยพิบัติต่างๆ เหล่านี้ได้แต่อย่างใด

    ฉะนั้นวันนี้ การฝากอนาคตทั้งหมดของสังคมไทยใว้ในมือรัฐบาลแต่ฝ่ายเดียวจึงไม่เพียงพอเสียแล้ว เพื่อความไม่ประมาท เราควรต้องเริ่มคิดอ่านเตรียมการเพื่อความอยู่รอดของพวกเรากันเองด้วย

    ***บทความไม่สงวนลิขสิทธิ์ ยินดีให้เผยแพร่***

    ที่มา http://writer.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=46806
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD><TD vAlign=top align=left>
    วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เวลา 08:45:22 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <CENTER>
    </CENTER>
    โรคมืดระบาดฆ่าวัว-ควาย ในรัฐฉาน พม่าตายร่วมร้อย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>สำนักข่าวฉาน อ้างแหล่งข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2552 เป็นต้นมา ในพื้นที่อำเภอเมืองโต๋น จังหวัดเมืองสาด อยู่ในภาคตะวันออกของรัฐฉาน ตรงข้ามอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดมีการแพร่ระบาดของโรคไม่ทราบชนิดในหมู่สัตว์เลี้ยง วัวและควาย ซึ่งส่งผลให้มีวัวควายล้มตายแล้วกว่า 100 ตัว พื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยงวัวและควายล้มตายมากที่สุด คือ บ้านหมอกจะหรี่ มีวัวควายตายแล้วกว่า 60 ตัว เมืองโต๋น ประมาณ 30 ตัว บ้านแม่แกน ประมาณ 20 ตัว และบ้านนาป่าก๋าวอีกว่า 40 ตัว ซึ่งสัตว์ที่ตายเป็นวัวมากกว่าควาย และมีสภาพตามลำคอแดงและตามลำตัวพกช้ำเป็นสีเขียวคล้ำ

    โดยการตายของวัวและควายอย่างไม่ทราบสาเหตุนี้ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ของพม่าในพื้นที่ระบุว่า เป็นโรค “เหล่ชองกวย” หรือ โรคหลอดลมแตก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกให้ชาวบ้านนำวัวและควายไปรับการฉีดยา ประเภท อ๊อคซี่ Oxy เพื่อกันการแพร่ระบาด โดยคิดค่าฉีดยาตัวละ 2,000 จั๊ต ขณะที่ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า เป็นการระบาดของโรค “กะละวัวควาย” ตามภาษาไทใหญ่ หรือไม่ก็เป็นโรคไข้หวัดที่อาจเกิดกับวัวและควาย เช่น หวัดหมู เม็กซิโก ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังจากมีฝนตกลงมาในช่วง 3 – 4 ที่ผ่านมา ยอดการตายของวัวและควายในพื้นที่ดังกล่าวได้ลดลงแล้ว

    ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา (2551) ในพื้นที่เมืองยอง (รัฐฉานภาคตะวันออก) มีการล้มตายของวัวและควายจากการแพร่ระบาดของโรคไม่ทราบชนิดแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนั้นมีวัวและควายล้มตายหลายร้อยตัว โดยลักษณะของวัวควายที่ติดเชื้อ คือ ยืนแน่นิ่งไม่ยอมกินหญ้าและจากนั้นไม่นานก็จะล้มตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ของพม่าจากเมืองสาด ได้เข้าไปฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอยู่ แต่กลับคิดค่าฉีดยาตัวละ 2 หมื่นจั๊ต ทำให้เจ้าของวัวควายที่ไม่มีเงินไม่สามารถนำวัวควายของตนไปรับการฉีดยาได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2009
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก‏
    กลุ่มเมฆรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมีลักษณะต่างๆและเกิดแสงกระทบกัน เหมือนแมงกะพรุน ม้วนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ จานยูเอฟโอ และอื่นๆ
    [​IMG]
    อันดับ 10 Altocumulus Castelanus

    เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆเหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ

    [​IMG]
    อันดับ 9 Nacreous


    เมฆ นี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆที่แสงอาทิตย์ส่องผ่าน เป็นเวลา2ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้




    [​IMG]


    อันดับ 8 Mammatus Clouds

    เมฆ ลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่าหว่า จริงๆแล้ว เมฆนีไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้วต่างหากล่ะ

    [​IMG]
    อันดับ 7 Mushroom Clouds

    เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่ เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์

    [​IMG]

    อันดับ 6 Noctilucent Clouds

    เมฆ ตามชื่อ คือ เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆใกล้ๆขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้



    [​IMG]

    อันดับ 5 Cirrus Kelvin-Helmholtz


    เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3นาที แล้วจากนั้นก็เละ เรียกว่า เป็นความบังเอิ๊ญบังเอิญจริงๆ

    [​IMG]

    อันดับ 4 Lenticular Clouds


    เกิดจากหลยองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้(แต่บางครั้งก็เหมือนUFOนะ หรือว่า.....!?????)

    [​IMG]

    อันดับ 3 Roll Clouds

    เป็น เมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่


    [​IMG]


    อันดับ 2 Shelf Clouds


    ลักษณะ คล้ายๆกับอันดับ 2 แต่อันนี้ไม่ได้เป็นการม้วน แต่เป็นชั้นๆเหมือนที่กำบัง(บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก)และจะมาเป็นแนวตั้ง นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่ อย่างกับในหนังเลยครับ พยาุกระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆและการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว


    [​IMG]


    อันดับ 1 Stratocumulus Clouds

    เมฆ แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆๆๆๆๆๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ และเผอิญว่าเส้นยาวๆจะแบ่งเป็นช่วงๆซะด้วย ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่ม





    <HR>ดูส่วนอื่นๆ ของ Windows Live™ มากกว่าเมล–Windows Live™ เป็นยิ่งกว่ากล่องรับอีเมลของคุณ มากกว่าข้อความ
     
  14. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนาบุญที่ได้ไปกราบพระอริยสงฆ์ครับ
    และขอบคุณคุณ kulchaya ที่นำสิ่งดี ๆ มาบอกกัน
    ถ้ามีอะไรดี ๆ ก็มาบอกกันอีกนะครับ
    อ้อ..อยากทราบว่าไปกราบหลวงปู่ประเสริฐมานี่พบท่านยากไม๊ครับ
    ช่วยแนะนำหน่อย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  15. ปิยนาถ

    ปิยนาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +298
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวติดลบเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกปี 2009</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 พฤษภาคม 2552 09:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ตัวเลขการค้าของญี่ปุ่น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – เศรษฐกิจของญี่ปุ่นหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในไตรมาสแรกของปี 2009 นี้ เนื่องจากความต้องการรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอื่นๆ ลดลงฮวบฮาบท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย

    สำนักงานคณะรัฐมนตรีเผยว่า เศรษฐกิจ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกแห่งนี้ หดตัวลงถึง 4.0% ใน 3 เดือนแรกของปี จนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านั้น ทำให้ตัวเลขตลอดทั้งปีตกลง 15.2%

    ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่สองของปี 2008 เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกหยุดซื้อของสิ้นเปลือง ในช่วงเศรษฐกิจขาลง

    รายงานข้อมูลของสำนักรัฐมนตรีระบุว่า ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ตกลง 26% จากในไตรมาสก่อน ขณะที่การลงเงินทุนร่วมก็ลดไปถึง 10.4%

    ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้อาจผ่านช่วงย่ำแย่ที่สุดมาแล้ว โดยตัวเลขการส่งออกได้แสดงให้เห็นถึงจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

    “ไตรมาสแรกจะเป็นจุดที่ต่ำสุดของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ระยะการหดตัวของเศรษฐกิจไม่ควรรุนแรงในไตรมาสที่สองข้างหน้านี้” เกลน แมกไกวร์ หัววหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของโซซิเอต เจเนอรัลกล่าว

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่นั้นยังคงเลือนราง เนื่องจากความต้องการสินค้าภายในประเทศยังอ่อนกำลัง รวมถึงความเปราะบางในตลาดต่างประเทศด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6747 ข่าวสดรายวัน


    ติดป้ายราชฐาน ลานพระบรมรูป




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ประกาศ- สำนักงานเขตดุสิตติดประกาศคำสั่งสำนักพระราชวังที่ห้ามมิให้กระทำการใดๆ ในลักษณะรบกวนประชาชนที่สัญจร และเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักพระราชวัง เขตดุสิต และตร.นครบาล ติดป้ายประกาศ"ลานพระบรมรูปทรงม้า" เป็น "เขตพระราชฐาน" มีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจร เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ได้ แต่ห้ามมิให้กระทำใดๆ รบกวน กทม.ระบุต้องการจัดระเบียบให้เรียบ ร้อย เน้นห้ามกลุ่มผู้ค้าเร่ขายดอกไม้ธูปเทียน และทิ้งขยะไม่เป็นที่ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ แต่จะจัดพื้นที่ให้ขายเฉพาะ ส่วนกรณีม็อบหากมาชุมนุม ไม่ห้าม เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

    เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า ทางสำนักพระ ราชวัง พร้อมด้วย สำนักงานเขตดุสิต และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันติด ป้ายประกาศ ว่า "พระราชวังดุสิตเป็นเขตพระราชฐาน พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจร และเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ได้ แต่ห้ามมิให้มีการกระทำใดๆ ในลักษณะรบกวนประชาชน" มาติดตั้งไว้ที่ใกล้ฐานพระบรมรูปทรงม้า

    จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศกิจที่รักษาความเรียบร้อยในบริเวณดังกล่าว ระบุว่า เป็น การหารือร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยสำนักงานเขตดุสิตเป็นผู้จัดทำ ที่ผ่านมามีบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าดอกไม้ธูปเทียนบูชา แย่งกันจำหน่ายต้อนหน้าต้อนหลังประชาชน ที่มาสักการะกราบไหว้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญไปทั่ว และยังมีการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา

    ด้าน ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย ทรัพย์บุญมี ผอ.เขตดุสิต กล่าวว่า ได้รับการประสานจากสำนักพระราชวัง ว่าต้องการจัดระเบียบบริเวณลาน พระบรมรูปทรงม้า ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าที่เร่ ขายดอกไม้ ทางคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยระดับเขต ประกอบด้วย ตัวแทนสำนักพระราชวัง สำนักงานเขตดุสิต ตำรวจ สน.ดุสิต สน.สามเสน สน.เตาปูน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงประชุมร่วมกันเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติว่าให้จัดระเบียบในบริเวณดังกล่าวแบบบูรณาการ โดยห้ามกลุ่มผู้ค้าเดินเร่ขายดอกธูปเทียนให่แก่ประชาชนที่มาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และที่สำคัญคือเป็นเขตพระราชฐานด้วย

    ผอ.เขตดุสิต กล่าวว่า การประกาศเป็นเขตห้ามขาย หรือจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน เป็นไปตามมาตรา 43 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า กลุ่มผู้ค้าเร่ขายดอกไม้ธูปเทียนมีพฤติกรรมขายของโก่งราคา และทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง จึงนำมาสู่การจัดระเบียบ แต่ประชาชนสามารถมาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ได้ตามปกติ ส่วนจะจอดรถได้หรือไม่นั้น ทางตำรวจซึ่งดูแลผิวการจราจรจะเป็นผู้พิจารณา และขอยืนยัน ว่าประกาศดังกล่าวไม่ได้เป็นการสกัดกั้นการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ แต่อย่างใด เพราะหากกลุ่มผู้ชุมนุมจะชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ก็คงห้ามปรามอะไรไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

    ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย กล่าวต่อว่า สำหรับ มาตรการแก้ปัญหากลุ่มผู้ค้านั้น ในเบื้องต้นคาดว่าจะจัดพื้นที่ด้านข้างปั๊มน้ำมัน ปตท. ฝั่งตรงข้ามพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อให้กลุ่มผู้ค้า ขายดอกไม้ธูปเทียนในจุดเดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และในอนาคตทางเขตดุสิต จะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายกับกลุ่มผู้ค้าต่อไป หากยังพบว่าละเมิด หรือฝ่าฝืนเข้าไปเดินเร่ขายดอกไม้ธูปเทียนอีก จะประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อหาทางช่วยเหลือ เช่น จัดหาอาชีพอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าต่อไป

    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต. ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. รับผิดชอบ งานจราจร กล่าวว่า เป็นสิ่งดี เพราะเป็นการประกาศให้ทุกคนรับทราบว่า สถานที่แห่งนี้เป็นเขตพระราชฐาน ไม่ใช่สถานที่สาธารณะ สิ่งใดที่จะทำต้องขออนุญาตจากสำนักพระ ราชวัง รวมทั้งการมาทำกิจกรรมต่างๆ การตั้งเวที การจัดนิทรรศการ แม้แต่งานกาชาดของสภากาชาดไทยทุกปี งานสวนสนามของทหารราชวัลลภ งานเฉลิมฉลอง 12 สิงหาฯ ทางคณะผู้จัดงานจะต้องขออนุญาตสำนักพระราชวังก่อน เมื่อได้รับอนุญาต ทางตำรวจก็จะสามารถให้ใช้พื้นที่ได้

    รองผบช.น. กล่าวต่อว่า ในทางปฏิบัติเป็นมาแบบนี้ตลอด แต่ในระยะหลังมา มีผู้ใช้ลานพระราชวังดุสิตไปในกิจกรรมที่ไม่สมควร และไม่ถูกต้อง เช่น ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมเรียก ร้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องทางการ เมือง การเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร เป็นการใช้ที่ไม่ถูกต้อง ผิดไปจากพระบรมราชานุญาต และพระราชประสงค์ที่ให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางสัญจร และเข้ามาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์

    "เรื่องนี้พูดคุยกันมาก่อนกับหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ และกทม. เพราะบริเวณโดยรอบลานพระราชวังดุสิต เป็นที่ตั้งของวังสำคัญๆ และที่ประทับ การมาจัดกิจกรรมโดยใช้เครื่องกระจายเสียง จะเข้าไปรบกวนได้ เวลาปฏิบัติเมื่อมีการมาชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ มีการตั้งเวที หรือใช้รถเป็นเวทีเคลื่อนที่มาตั้งปราศรัย เวลาตำรวจปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยก็ไม่กล้าไปไล่ ดังนั้น เมื่อมีประกาศจึงเป็นการดี ทุกคนจะได้รับรู้กันทั่วไป" รองผบช.น.กล่าว

    พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีขายธูปเทียนดอกไม้บูชา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากลานพระบรมรูปฯ เป็นลานกว้าง การวิ่งข้ามไปมาเพื่อเร่งขายดอกไม้ธูปเทียนแก่ผู้มาสักการะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ แม้ที่ผ่านมายังไม่เคยมีอุบัติเหตุก็ตาม แต่เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และเคยมีกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน ค้าขายกันเป็นธุรกิจ รับจัดสิ่งของกราบไหว้ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มีประกาศนี้ด้วยก็เป็นได้

    โสมคิดได้แล้ววัคซีนกันหวัด2009



    เมื่อ 19 พ.ค. หนังสือพิมพ์โคเรียเฮอรัลด์ของเกาหลีใต้รายงานว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัมของเกาหลีใต้ นำโดยศาสตราจารย์โซ ซางเฮ แถลงผลงานการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช 1 เอ็น 1 สำหรับมนุษย์ได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก คาดว่าจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อที่โลกกำลังหวาดผวาเพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็วและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 70 รายทั่วโลก

    ศาสตราจารย์โซ กล่าวว่า วัคซีนตัวนี้ไม่มีสารพิษและผลิตได้จำนวนมาก พัฒนาขึ้นหลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี ส่งตัวอย่างไวรัสมาให้ 11 วันก่อน พร้อมกับให้นักวิจัยอีกหลายประเทศเพื่อให้ช่วยกันหาทางผลิตวัคซีน ในส่วนของเกาหลีใต้เมื่อผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้ว จะพร้อมวางตลาดได้ในเดือนก.ย.

    วันเดียวกันเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 178 ราย ทำให้ต้องสั่งปิดโรงเรียนกว่า 4,000 แห่ง และขอร้องให้นักเรียนอยู่กับบ้านเพื่อสกัดเชื้อแพร่ระบาดไปยังกรุงโตเกียว แต่มีรายงานว่า บรรดานักเรียนต่างพากันไปเที่ยวร้านคาราโอเกะอย่างเนืองแน่น

    ด้านสหรัฐพบการระบาดของเชื้อใน 48 รัฐ ยืนยันแล้วว่ามีผู้ติดเชื้อจริง 5,123 ราย แต่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อในสหรัฐราว 100,000 ราย ทางการสั่งปิดโรงเรียน ท่ามกลางความวิตกว่าเชื้อจะแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษา


    ศรีลังกาโชว์ศพหน.ทมิฬออกทีวี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. โทรทัศน์ศรีลังกาประโคมแพร่ภาพศพนายเวลุพิไล ประภาคาราน ผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม เพื่อตอบโต้รายงานข่าวของฝ่ายของกลุ่มกบฏยืนยันว่านายเวลุพิไล ประภาคาราน หัวหน้ากลุ่มกบฏยังไม่เสียชีวิตและรอดพ้นปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพมาได้

    ในภาพข่าวทางทีวี สภาพศพนายประภาคารานใส่ชุดเครื่องแบบ มีรอยแผลที่ศีรษะ ดวงตาเบิกโพลง ขณะที่นายพลสารัต ฟอนเสกา ผู้บัญชาการกองทัพศรีลังกา แถลงว่า ทหารพบศพนายประภาคาราน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายในจุดที่เกิดการปะทะ และผลตรวจดีเอ็นเอ็นชี้ว่าเป็นนายประภาคารานอย่างแน่นอน

    ด้านประธานาธิบดีมหินทรา ราชปักษี ผู้นำรัฐบาลศรีลังกา แถลงผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญทั้งกับคนศรีลังกาและประชาคมโลก เพราะเป็นวันที่ศรีลังกาปลดปล่อยประเทศชาติออกจากการควบคุมของกลุ่มก่อการร้ายโดยสมบูรณ์ และเอาชนะหนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุดในโลกได้สำเร็จ นอกจากนั้น ยังขอให้คนทุกเชื้อชาติทุกศาสนาในศรีลังกายุติความขัดแย้งและหันหน้ามาหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน
    วิจัยระบุดินแดงฝุ่นขนาดเล็กเยอะสุดในกรุง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของนักวิจัยไทย ได้ยืนยันถึงผลกระทบทางด้านสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน มีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นถึง 1-2% เพราะฝุ่นสามารถผ่านเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้โดยตรง และเข้าไปจับที่ขั้วปอด จึงมีผลต่อสุขภาพมากกว่าฝุ่นขนาด 10 ไมครอน นอกจากนี้ผลการวิจัยดังกล่าวยังสอดคล้องกับผลจากการตรวจวัดยังพบว่าในฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอนนั้น ก็จะมีฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนปะปนอยู่สูงถึง 50-60% ด้วย และจากข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ล่าสุด สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง คพ. เตรียมจะนำเสนอ เรื่องการกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน เข้าพิจารณาในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในเดือนมิ.ย.เพื่อประกาศเป็นมาตรฐานการควบคุมมลพิษทางอากาศเพิ่มเติมอีกประเภทหนึ่ง หากรายละเอียดทั้งหมดผ่านการพิจารณา เพื่อเป็นการควบคุมมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอันตรายต่อสุขภาพประชาชน
    อธิบดีคพ. กล่าวว่า สำหรับค่ามาตรฐานฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอน ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว คือ ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงต้องไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. โดยค่ามาตรฐานเฉลี่ย 1 ปีต้องไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่จะสามารถป้องกันผลกระทบทางสุขภาพได้มากที่สุด
    ด้าน นายนเรศ เชื้อสุวรรณ หัวหน้าโครงการวิจัยการศึกษาหาสัดส่วนแหล่งกำเนิดฝุ่นขนาด 10 และ 2.5 ไมครอนในพื้นที่กทม. ซึ่งได้รับทุนจากชุดโครงการคุณภาพอากาศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และเพิ่งสรุปผลวิจัยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ของคพ.ทั้ง 4 แห่งที่มีปัญหาการจราจาหนาแน่น พบว่า สถานีดินแดงมีปริมาณฝุ่น 2.5 ไมครอน มีค่าสูงสุด 150.3 มคก./ลบ.ม. รองลงมาคือสถานีบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 144 มคก./ลบ. สถานีจันทรเกษม 109.8 มคก./ลบ. และสถานีบางนา 103.9 มคก./ลบ. โดยการตรวจวัดได้อิงค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดไว้ว่าค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงปี ต้องไม่เกิน 65 มคก./ลบ.ม. โดยฝุ่น 10 ไมครอน ที่เพิ่มหรือลดในแต่ละวันจะส่งผลต่อปริมาณฝุ่น 2.5 ไมครอนโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งจะมีฝุ่นมากกว่าหน้าฝน
    นอกจากนี้เมื่อทำการประเมินการได้รับฝุ่นพบว่า หากอยู่มีบ้านเรือนแถวสถานีดินแดง 1 ชั่วโมง มีโอกาสรับฝุ่นขนาด 10ไมครอนในช่วง 1.0-1.9 มคก.ต่อกก.ต่อวัน และ 0.6-1.3 มคก.ต่อกก.ต่อวันในกรณีของฝุ่น 2.5 ไมครอน เมื่อเทียบกับสถานีอื่นจะสูงกว่า 1-2 เท่า และอาจมากถึง 3 เท่าสำหรับการได้รับฝุ่น 2.5 ไมครอนเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากได้รับฝุ่นแถวสถานีดินแดง 8 ชั่วโมงจะได้รับฝุ่นมากถึง 8.0-15.0 มคก.ต่อกก.ต่อวันสำหรับฝุ่น 10 ไมครอน และ 5.0-10.4 มคก.ต่อกก.ต่อวันสำหรับฝุ่น 2.5 ไมครอน เท่ากับว่าจะได้นับฝุ่นสะสมเข้าในร่างกายระยะยาว ทั้งนี้เมื่อเทียบกับข้อมูลระบาดวิทยาของความสัมพันธ์ระหว่างการตายและระดับฝุ่นในบรรยากาศของกทม.ระหว่างปี 2535-2539 พบว่ามีความสัมพันธกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยฝุ่น 10ไมครอนระดับ 10 มคก.ต่อลบ.ม.ที่เพิ่มขึ้นจะสัมพันธ์กับสาเหตุการตายตามธรรมชาติ 1-2 % การตายจากโรคระบบทางเดินหายใจ 3-6% และการตายจากโรคหัวใจ 1-2%
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เครื่องบินทหารอินโดนีเซียตกพร้อมคนบนเครื่องมากกว่า 100 ชีวิต

    [​IMG]

    จาการ์ตา 20 พ.ค.- โฆษกกองทัพอากาศอินโดนีเซียแจ้งว่า เครื่องบินลำเลียงของทหารประสบเหตุตกที่เมืองมาดิอุน ในจังหวัดชวาตะวันออก ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมลูกเรือ 13 คน และผู้โดยสาร 96 คน

    โฆษกเผยว่า เครื่องบินลำเลียงเฮอร์คิวลิสลำนี้เดินทางจากกรุงจาการ์ตามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาะชวา ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยกับสถานีโทรทัศน์เมโทรทีวีว่า เครื่องบินพุ่งชนบ้านเรือนหลายหลัง มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต 2 คน .-สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 09:15:10

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกในอินโดนีเซียพุ่งไปอยู่ที่ 97 คน

    [​IMG]

    จาการ์ตา 20 พ.ค. - โฆษกกองทัพอากาศอินโดนีเซียยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งไปอยู่ที่ 97 คน จากเหตุเครื่องบินลำเลียงของกองทัพตกกลางบ้านเรือนประชาชนในชวาตะวันออก ส่วนผู้บาดเจ็บมี 15 คน ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ มีผู้อยู่บนเครื่องทั้งสิ้น 112 คน

    เครื่องบินลำเลียง ซี -130 เฮอร์คิวลิส ของกองทัพอินโดนีเซีย ประสบเหตุตกใกล้เมืองมาดิอุนในชวาตะวันออก โดยเครื่องบินได้ร่วงตกกลางบ้านเรือนประชาชน ก่อนจะลื่นไถลไปยังนาข้าวจนเกิดเพลิงลุกไหม้ตัวเครื่องอย่างย่อยยับ เหลือแค่เพียงส่วนหางเครื่องบินที่ไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่มีรายงานพบชาวบ้านที่อยู่เบื้องล่างเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ส่วนบ้านเรือนเสียหายไป 4 หลัง

    โดยเครื่องบินได้บินจากกรุงจาการ์ตามายังชวาตะวันออก แต่แล้วก็ประสบเหตุตกอย่างไม่คาดฝัน เพราะแทนที่จะร่อนลงจอดยังฐานทัพอากาศ แต่เครื่องบินกลับพุ่งตกกลางบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 05.30 น. ของวันนี้ ตามเวลาในไทย. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 15:09:17

    ยูเอ็นระบุมีผู้เสียชีวิตถึง 100,000 คนจากเหตุสู้รบในศรีลังกา

    [​IMG]

    เจนีวา 20 พ.ค. - สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุวันนี้ว่า มีประชาชนราว 80,000-100,000 คน เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลศรีลังกาและกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 30 ปี

    โฆษกสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ คาดการณ์ว่า มีคนศรีลังการาว 80,000-100,000 คน ต้องสังเวยชีวิตในเหตุสู้รบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ ในช่วง 27 ปีที่ผ่านมา

    รัฐบาลศรีลังกาประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬที่ยืดเยื้อมานานหลายสิบปีได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากกองทัพรัฐบาลสามารถบุกยึดฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏ และสังหารผู้นำกลุ่มได้สำเร็จ. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 19:11:21

    อนามัยโลกเผยยอดผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ทะลุ 10,000 รายแล้ว

    [​IMG]

    เจนีวา 20 พ.ค. - องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พุ่งทะลุหลัก 10,000 รายแล้วในวันนี้ และสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น แม้รัฐบาลชาติเอเชียดำเนินความพยายามอย่างหนักในการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อ

    นางฟาเดลา ชาอิบ โฆษกองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ยอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 พุ่งแตะ 10,243 คน ใน 40 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 80 คน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 413 คน ภายในเวลา 24 ชม. ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 346 คน ทำให้ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 5,469 คน ใน 47 รัฐ รวมทั้งกรุงวอชิงตัน

    ส่วนยอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อในเม็กซิโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด เพิ่มขึ้นเกือบ 100 คน ในเวลา 24 ชม. ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 3,660 คน นอกจากนี้ ทางการเม็กซิโกยังประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 4 ราย โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 76 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวบางส่วนยังไม่ได้รวมอยู่ในข้อมูลขององค์การอนามัยโลก

    สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ทวีความรุนแรงขึ้น กลายเป็นประเด็นสำคัญในที่ประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ โดยนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประชาชนเฝ้าระวัง เนื่องจากการระบาดครั้งก่อนที่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะเริ่มทุเลาลงนั้น อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 17:56:42

    ยอดผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นพุ่งแตะ 232 ราย

    [​IMG]

    โกเบ 20 พ.ค.- เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเผยวันนี้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในญี่ปุ่นพุ่งแตะ 232 คนในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ขณะที่เชื้อแพร่ระบาดไปยังจังหวัดที่ 3 แล้ว

    สถานการณ์ในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของญี่ปุ่น และเป็นพื้นที่แรกที่พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดในญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมายังคงพบการระบาดรุนแรงที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ประกาศเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกกว่า 20 ราย

    ส่วนจังหวัดชิงะ กลายเป็นจังหวัดที่ 3 ที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 ต่อจากจังหวัดเฮียวโงะ และโอซากา โดยผู้ป่วยเป็นชายวัย 20 ปีเศษที่เพิ่งเดินทางกลับจากเมืองโกเบ

    รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และย้ำให้ประชาชนทราบว่าขณะนี้ญี่ปุ่นยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนรายที่ป่วยก็มีอาการไม่รุนแรงนัก โดยนายทาเคโอะ คาวามูระ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยว่า รัฐบาลอาจผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งอนุญาตให้โรงพยาบาลสามารถรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ในแผนกผู้ป่วยปกติ

    เพราะตามระเบียบปัจจุบัน ระบุให้ผู้ติดเชื้อทุกคนต้องพบแพทย์ในสถานพยาบาลที่กำหนดไว้เฉพาะเพื่อเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงเพียงใด แต่บรรดานายกเทศมนตรี และแพทย์กลับร้องเรียนว่า มาตรการเหล่านี้ใช้ไม่ได้จริง และเป็นภาระต่อโรงพยาบาลท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 15:26:52


    บราซิลน้ำท่วม เสียชีวิต 45 คน ไร้บ้าน 378,000 คน

    [​IMG]

    บราซิเลีย 20 พ.ค. - บราซิลเกิดน้ำท่วมหนักเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นผลมาจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 45 คน ทางตอนเหนือของประเทศ และอีก 378,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน โดยส่วนใหญ่หนีมาอยู่ในที่พักฉุกเฉิน

    ทางการบราซิลระบุเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนถึง 1 ล้านคน ใน 407 เขต โดยมีอยู่หลายพื้นที่ที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนส่งผลให้หลายเมืองเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่ได้

    รัฐบาลบราซิลคาดการณ์ตัวเลขความเสียหายในเบื้องต้นว่า สูงเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ถึงกับลงพื้นที่เยี่ยมเหยื่อผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมให้คำมั่นว่าจะรีบจัดส่งความช่วยเหลือมาให้ ในขณะที่พื้นที่ทางเหนือของบราซิลเกิดน้ำท่วม แต่ในพื้นที่ทางใต้กลับประสบภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 80 ปี จนทางการต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกว่า 100 เขตด้วยกัน. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 11:25:39

    ไต้หวันย้ำจีนควรถอนขีปนาวุธ ก่อนทำข้อตกลงสันติภาพ

    [​IMG]

    ไต้หวัน 20 พ.ค. - ผู้นำไต้หวันย้ำข้อเรียกร้องอีกครั้ง ให้จีนถอน ขีปนาวุธที่มุ่งเป้ามายังไต้หวันเสียก่อน จึงจะเปิดการเจรจาทำข้อตกลงสันติภาพ

    ในระหว่างการแถลงข่าวในวาระการดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี ประธานาธิบดีหม่า อิง จิ่ว กล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาได้พูดมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในช่วงก่อนและหลังสาบานตนรับตำแหน่งว่า หากจะต้องเจรจาทำข้อตกลงสันติภาพกับจีน รวมถึงเจรจาเรื่องมาตรการสร้างความเชื่อมั่นทางการทหารระหว่างกัน จีนก็ควรจะถอนขีปนาวุธกว่า 1,000 ลูก ที่เล็งเป้ามายังไต้หวันเสียก่อน เพราะไต้หวันย่อมไม่ต้องการเจรจาภายใต้ภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของจีนแน่ ทั้งนี้ จีนขู่เสมอมาว่าจะยกทัพบุกไต้หวัน หากไต้หวันประกาศแยกตัวเป็นอิสระ. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 16:10:38

    รัสเซียระงับขายมิก-31 ให้แก่ซีเรีย

    [​IMG]

    มอสโก 20 พ.ค. - หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ในรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียระงับแผนขายเครื่องบินขับไล่ มิก-31 ให้แก่ซีเรีย เพราะถูกกดดันจากอิสราเอล

    รายงานอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซียว่า รัสเซียได้ตกลงขายเครื่องบินรุ่นนี้ จำนวน 8 ลำ มูลค่า 400-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ซีเรีย เมื่อปี 2550 แต่โครงการนี้ถูกระงับในเวลาต่อมา เพราะแรงกดดันจากอิสราเอล ขณะที่แหล่งข่าวอีกแห่งหนึ่งในรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า โครงการต้องถูกระงับ เพราะซีเรียไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าเครื่องบินได้

    ทางด้านบริษัทส่งออกอาวุธของรัฐบาลรัสเซีย ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว เช่นเดียวกับโฆษกสถานทูตซีเรียในกรุงมอสโกก็ยังไม่ปริปากเรื่องนี้

    เครื่องบินมิก-31 ซึ่งองค์การนาโตเรียกขานว่า “ฟอกซ์ฮาวน์” เป็นเครื่องบินขับไล่ความเร็วเหนือเสียง เพดานบินสูง สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 3,000 กม./ชม. และมีรัศมีการรบ 720 กม. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 15:43:19

    อินเดียประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง

    [​IMG]

    ภูวเนศวร 19 พ.ค. - อินเดียประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ โดยการทดลองมีขึ้นนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ

    ขีปนาวุธพิสัยกลางแบบพื้นสู่พื้น รุ่น “อัคนี 2” สามารถยิงโจมตีเป้าหมายห่างออกไป 2,500 กิโลเมตร อินเดียทดลองขีปนาวุธรุ่นนี้จากฐานปล่อยเคลื่อนที่บนเกาะวีเลอร์ ห่างจากชายฝั่งรัฐโอริสสา

    ขีปนาวุธอัคนี 2 มีความยาว 20 เมตร น้ำหนัก 16 ตัน สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ หรือหัวรบระเบิดแรงสูง น้ำหนัก 1 ตัน สำนักข่าวเพรสทรัสต์ รายงานว่า อินเดียประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่ 3 ในการทดลองขีปนาวุธรุ่นนี้ และขณะนี้พร้อมเข้าสู่สายการผลิต. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-19 16:40:31

    ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจรุนแรงกว่าที่คาดไว้ถึง 2 เท่า

    [​IMG]

    วอชิงตัน 20 พ.ค.- คณะนักวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ในสหรัฐชี้ว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในศตวรรษนี้อาจรุนแรงกว่าที่เคยคาดไว้เมื่อ 6 ปีก่อนถึง 2 เท่า

    วารสารสภาพอากาศของสมาคมอุตุนิยมวิทยาอเมริกันเผยแพร่การคาดการณ์ของเอ็มไอทีว่า ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิผิวโลกอาจเพิ่มขึ้นอีก 5.2 องศาเซลเซียส ภายในปี 2643 สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ เมื่อปี 2546 ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 องศาเซลเซียส ตัวเลขที่เปลี่ยนไปเป็นผลจากใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลใหม่ ๆ และสร้างแบบจำลองทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนอาจคลาดเคลื่อนเนื่องจากผลของการที่โลกเย็นลงหลังภูเขาไฟหลายแห่งระเบิดพ่นเถ้าถ่านออกมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 คณะนักวิจัยเตือนว่า ตัวเลขการคาดการณ์ที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ไม่เช่นนั้นโลกในศตวรรษนี้จะร้อนขึ้นอย่างมาก

    งานวิจัยนี้เผยแพร่ในช่วงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ประกาศมาตรฐานใหม่ของการผลิตรถยนต์และรถบรรทุกให้ปล่อยไอเสียน้อยลง และมีขึ้นในช่วงที่คณะกรรมการพลังงานและพาณิชย์ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกำลังอภิปรายร่างกฎหมายตั้งระบบจำกัดและซื้อขายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 11:46:56

    เศรษฐกิจญี่ปุ่นยิ่งดิ่งหนัก

    [​IMG]

    โตเกียว 20 พ.ค. - เศรษฐกิจญี่ปุ่นยิ่งดิ่งหนัก หลังตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวถึงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจรายไตรมาสที่หดตัวมากที่สุด นับจากมีการบันทึกตัวเลขนี้เมื่อ 54 ปีก่อน

    เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังหดตัวรุนแรงสุดเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอื่น ๆ ของโลก โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวสูงถึงร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการหดตัวรุนแรงกว่าสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกหดตัวเพียงร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว โดยเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็หดตัวถึงร้อยละ 3.8 แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะพลิกกลับมาขยายตัวแบบพอประมาณในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังตัวเลขภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมีนาคม

    เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพารายได้หลักมาจากภาคการส่งออก แต่วิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้หลายประเทศมีความต้องการสินค้าน้อยลง ญี่ปุ่นจึงส่งออกสินค้าได้น้อยลงด้วย โดยเฉพาะสินค้าจำพวกรถยนต์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

    บริษัทชื่อดังในญี่ปุ่นต่างพากันรายงานตัวเลขขาดทุนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น พานาโซนิค หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่สุดของโลก ประกาศตัวเลขขาดทุนเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ส่วนฮิตาชิขาดทุนถึง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบการเงินเดียวกัน ขณะที่นิสสันมีรายงานตัวเลขขาดทุน 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโซนี่มีรายงานตัวเลขขาดทุนสุทธิ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ที่โซนี่ขาดทุน. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 10:49:42

    สหรัฐเสนอช่วยคนหนีการกวาดล้างตอลีบานในปากีสถาน

    [​IMG]

    วอชิงตัน 20 พ.ค.- สหรัฐเสนอให้ความช่วยเหลือแก่ปากีสถาน 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,850 ล้านบาท) เพื่อใช้ช่วยเหลือประชาชนที่อพยพหนีการกวาดล้างกลุ่มตอลีบานในเขตหุบเขาสวัต และกำลังพยายามแก้ไขนโยบายต่อปากีสถานที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

    ทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐจะจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,500 ล้านบาท) ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะจัดสรรความช่วยเหลือให้อีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 350 ล้านบาท) นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การจัดสรรความช่วยเหลือดังกล่าวนอกจากเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ยังจำเป็นต่อความมั่นคงของโลกและสหรัฐ

    เธอกล่าวถึงนโยบายสหรัฐต่อปากีสถานตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาว่า ไม่มีความต่อเนื่อง สหรัฐช่วยปากีสถานติดอาวุธให้กลุ่มมูจาฮีดีนขับไล่อดีตสหภาพโซเวียตออกจากอัฟกานิสถานช่วงคริสตทศวรรษหลังปี 1980 จากนั้นกลับทอดทิ้งทั้งสองประเทศ นางคลินตัน เผยว่า รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันปรารถนาจะสร้างความเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับปากีสถานเพื่อต่อต้านกลุ่มอัลกออิดะห์ที่เชื่อกันว่าหลบหนีจากอัฟกานิสถานไปกบดานบริเวณตอนเหนือของปากีสถาน

    สหประชาชาติประเมินว่า ประชาชน 1.4 ล้านคนกลายเป็นคนไร้บ้านนับตั้งแต่กองกำลังปากีสถานเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มตอลีบานในเขตหุบเขาสวัตตั้งแต่ต้นเดือนนี้ จากเดิมที่มีผู้ไร้บ้านอยู่แล้ว 550,000 คนจากการสู้รบในบริเวณดังกล่าวและอีกหลายพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-20 08:24:32

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    5 เดือนฝนสะสม 500 มม. กทม.รับมากสุดรอบ 30 ปี

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>5 เดือนฝนสะสม 500 มม. กทม.รับมากสุดรอบ 30 ปี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)

    เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหาร กทม.ไปแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการรับมือน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร กับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงพื้นที่ฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) ซึ่งมีเพียงคลองสนามไชย-มหาชัย เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เป็นพื้นที่รับน้ำ (แก้มลิง) ขณะที่พื้นที่ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่เป็นคลองที่ขวางทางน้ำไหล จึงอาจต้องมีการปรับปรุงการระบายน้ำทั้งระบบ แต่ต้องหารือร่วมกับ จ.สมุทรปราการ และ จ.สมุทรสาคร

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ จะมีฝนตกหนัก

    ขณะนี้ กทม.ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทาน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯด้วย ทั้งนี้ กทม.ได้รับรายงานปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 500 มิลลิเมตร ขณะที่ในรอบ 30 ปีของช่วงเดียวกัน มีปริมาณฝนสะสมเพียง 200 มิลลิเมตร เท่านั้น ส่วนตลอดทั้งปีมีฝนเฉลี่ย 1,100-1,200 มิลลิเมตร

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการชำรุดหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว

    พบว่ามีการทรุดพังประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณคลองบางกอกน้อย ซึ่งได้ส่งผลกระทบให้น้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึมเข้าบ้านเรือนประชาชน จึงสั่งการให้แก้ไขไปพร้อมกับเร่งก่อสร้างเขื่อนอีก 7 กิโลเมตรที่เหลือ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2553


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน"แพร่-น่าน"เสี่ยงน้ำท่วมส.ค.-ก.ย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คมชัดลึก :ศูนย์อุทกวิทยาฯ ภาคเหนือตอนบน คาดพายุหมุนเขตร้อนทำ "แพร่-น่าน" เสี่ยงน้ำท่วมหนัก ส.ค.-ก.ย. ส่วนเชียงใหม่ชี้ทุก 6 ปี เตรียมรับอุทกภัย


    (20พ.ค.) นายธาดา สุขะปุณพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน สำนักชลประทานที่ 1 จ.เชียงใหม่

    กล่าวว่า จากสถิติปริมาณฝนสะสมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึง ปัจจุบัน คาดการว่าในช่วงฤดูฝนของปีนี้อาจมีปริมาณฝนสะสมเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปกติ โดยเฉพาะ ช่วงเดือน ส.ค.- ก.ย. ซึ่งจะมีพายุหมุนเขตร้อนจากทะเลจีนใต้พัดผ่านเข้ามาบริเวณประเทศไทยตอน บน ในช่วงเวลาดังกล่าวจึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมทั้งในเขตเมืองและพื้นที่ลุ่มน้ำ

    สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมทั้งในเขตเมืองและพื้นที่ลุ่มน้ำ เป็นพื้นที่ที่ได้ รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อน

    คือ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ แต่ที่เสี่ยงมากที่สุดคือ จังหวัดน่านซึ่งเป็นจังหวัดแรกที่จะต้องรับพายุหมุนเขตร้อนที่พัดมาจากเวียดนามและลาว ขณะที่ จังหวัดน่านและแพร่ยังเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่มตามมาด้วย เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหนึ่ง สร้างที่อยูอาศัยบริเวณที่ลุ่มเชิงเขา ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเคยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2548 จากข้อมูลพบว่า ในวงรอบทุก 6 ปี จังหวัดเชียงใหม่จะต้องเผชิญกับพายุหมุนเขตร้อนหรือฝนมรสุมที่รุนแรง ซึ่งใน ระหว่างปี 2548 ถึง 2554 จังหวัดเชียงใหม่จึงมีโอกาสที่จะต้องเจอพายุหนักอีกครั้งจนอาจเกิด อุทกภัยครั้งใหญ่ได้ อย่างช้าที่สุดคือปี 2554 ดังนั้นในปีนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน

    อย่างไรก็ตามข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการจากสถิติและข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบกัน แต่การพยากรณ์ก่อนพายุเข้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเป็นข้อมูลที่แม่นยำมากที่สุดและเป็นข้อมูล ที่ใช้ในการเตือนภัย

    นายธาดา ระบุว่า สำหรับมาตรการรับมืออุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ศูนย์อุทกวิทยาและ บริหารน้ำภาคเหนือตอนบน ได้ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณะภัยอย่างเต็มที่ โดยความรับ ผิดชอบของกรมชลประทานจะเน้นที่การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุด ปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีพื้นที่รับน้ำในช่วงฝนมรสุมได้อีกกว่า 165 ล้านลูกบาศก์เมตร หรืออีกกว่าร้อยละ 60 ของความจุทั้งหมด ขณะที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารามีพื้นที่รับน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 70 จากความจุทั้งหมด 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแหล่งพักน้ำป้องกันไม่ให้ไหลบ่า เข้าท่วมในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี

    ด้านนายคณิต เอี่ยมระหงส์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งเตือนให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงใน 9 อำเภอทั้งจังหวัด


    โดยเฉพาะ อ.เมือง อ.ลับแล และ อ.ท่าปลา ซึ่งเคยประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2549 รวมทั้งประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้กับบริเวณที่ลาดเชิงเขาให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน หลังมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่วน อ.ตรอน อ.พิชัย อ.ทองแสนขัน อ.บ้าน โคก อ.น้ำปาด และ อ.ฟากท่า ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันเช่นกัน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ประกาศปิด'ทีลอซู'5เดือน ถนอมเส้นทาง-ฟื้นฟูป่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 พ.ค.) นายประสิทธิ์ กรรณสูต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก

    เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝน การเข้า-ออก น้ำตกทีลอซู ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และต้องพันโซ่ที่ล้อ จึงจะสามารถเดินทางเข้า-ออก ได้ อาจส่งผลให้เส้นทางชำรุดเสียหาย ดังนั้น เพื่อเป็นการถนอมเส้นทางให้สภาพป่า และบริเวณน้ำตกทีลอซู ได้พักฟื้น รวมทั้งสัตว์ป่าสามารถอาศัยหากินและขยายพันธุ์ได้

    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จึงขอปิดเส้นทางเข้า-ออก น้ำตกทีลอซู โดยรถยนต์ จากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร

    ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-31 ต.ค.2552 รวมระยะเวลา 5 เดือน "หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะเข้าไปชม หรือทัศนศึกษาธรรมชาติที่น้ำตกทีลอซู ในช่วงดังกล่าว สามารถใช้เส้นทางเดินเท้าเป็นเส้นทางเข้า-ออก ไปยังบริเวณน้ำตกได้" นายประสิทธิ์ กล่าว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เผย22พยานคดี"ซูจี"มีแต่ตำรวจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 19 พ.ค. เอเอฟพีและซีเอ็นเอ็นรายงานว่า

    ศาลในเรือนจำอินเส่ง นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เปิดพิจารณาคดีนางออง ซาน ซู จี วัย 63 ปี ผู้นำประชาธิปไตยและพรรคฝ่ายค้านพม่า ฐานละเมิดคำสั่งกักบริเวณ ปล่อยให้นายจอห์น ยีตทอว์ ชาวอเมริกัน ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบอินยาเข้าไปในบ้าน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นอย่างชัดเจน

    หลังจากสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีของนางซู จี ยังมาชุมนุมที่หน้าเรือนจำอินเส่งต่อเนื่อง และตั้งข้อสังเกตว่า ทหารพม่าเร่งกระบวนการไต่สวนที่อาจทำให้เสร็จในสัปดาห์หน้า โดยเรียกพยานที่เป็นตำรวจขึ้นให้การในวันที่ 2 อีกจำนวน 5 นาย จากพยานทั้งหมด 22 ราย ที่ล้วนเป็นตำรวจทั้งหมด

    ด้านรัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ในฐานะประธานอาเซียน เรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซู จี โดยทันที โดยมีใจความว่า "พม่าในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ย่อมต้องมีความรับผิดชอบที่จะปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนด้วย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าดูแลทางการแพทย์ที่พอเพียงและอย่างทันท่วงทีแก่นางซู จี รวมทั้งปฏิบัติต่อนางอย่างมีมนุษยธรรมและมีศักดิ์ศรี โดยที่ประชาคมโลกกำลังจับตามองพม่าอยู่ในขณะนี้ เกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลแห่งสหภาพพม่าเองจึงอาจได้รับผลกระทบ" ถ้อยแถลงอาเซียน ระบุ

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังให้พม่าฟังเพื่อนๆ ในอาเซียน เพราะอาเซียนมีท่าทีในการดำเนินนโยบายกับพม่าเหมือนเดิม ไม่มีความคิดดำเนินการในลักษณะของประเทศที่อยู่ห่างไกล เรายังพร้อมที่จะมีความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ แต่เมื่ออาเซียนมีกฎบัตร ก็อยากให้ทุกประเทศช่วยกันรักษาแนวทางนั้นไว้

    วันเดียวกัน บุคคลผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเช่นเดียวกับนางซู จี จำนวน 9 คน นำโดยอาร์กบิช็อปเดสมอนตูตู และประธานาธิบดีออสการ์ เอเรียส แห่งคอสตาริกา ลงนามในหนังสือส่งถึงนายบัน คี-มุน

    เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า เลขาฯ ยูเอ็นควรเข้าแทรกแซงการดำเนินคดีกับนางซู จี ซึ่งเห็นชัดว่าเป็นการจัดฉาก เพราะพม่าในปัจจุบันไม่มีกระบวนการยุติธรรม และรัฐบาลพม่าใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุมขังนางซู จี ทั้งที่คำสั่งกักบริเวณครั้งล่าสุดจะหมดอายุ 27 พ.ค. นี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เบรกเจาะตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

    เป็นประธานการประชุมกำหนดแนวทางการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์บริเวณอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และบริเวณใกล้เคียง มีผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร กรมควบคุมมลพิษ กรมศิลปากร นักโบราณคดีใต้น้ำ กองทัพเรือ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักวิชาการด้านการประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัทเอกชน 2 แห่ง เข้าร่วมหารือ นานกว่า 2 ชั่วโมง

    ก่อนการประชุม ดร.ธรณ์นำหัวกะโหลกมนุษย์สภาพผุกร่อนและมีหอยติดอยู่จำนวนมากขึ้นมาวิเคราะห์ร่วมกับเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์

    เพื่อต้องการทราบถึงอายุของกะโหลกใบนี้กี่ปี ซึ่งกะโหลกดังกล่าวติดขึ้นมากับอวนหาปลาของชาวบ้านบริเวณอ่าวแสมสาร โดยดร.ธรณ์เสนอให้ประสานกับแฟนพันธุ์แท้เรื่องหอย มาช่วยวิเคราะห์อายุของหอยบนกะโหลกนี้ด้วย ดร.ธรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากการประชุมคณะทำงานตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ในวันนี้ สรุปว่า จะยังไม่เจาะตู้คอนเทนเนอร์เพื่อถ่ายภาพภายในตู้ เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าจะมีอันตรายกับผู้ที่ปฏิบัติงาน จะขอตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนว่าตู้ใบนี้บรรจุอะไร หากมีความแน่ชัดว่าตู้ใบนี้ไม่มีอันตรายจึงจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์เบื้องต้นพบว่า บริเวณรอบตู้มีกัลปังหาเกาะอยู่จำนวนมาก

    ซึ่งกัลปังหาที่พบนี้มีอายุประมาณ 15-20 ปี และพบอวนพันติดอยู่ ส่วนปะการังใหญ่ขณะนี้ยังไม่พบ หากพบจะสามารถนำมาผ่าพิสูจน์ได้ เพื่อบอกถึงอายุของตู้คอนเทนเนอร์ใบนี้ว่าจมมากี่ปี ส่วนหอยที่ติดอยู่บริเวณกะโหลกศีรษะที่นำมาพิสูจน์วันนี้เป็นกลุ่มหอยฝาจีบ หรือหอยสองฝา ซึ่งคงจะต้องประสานให้ผู้เชี่ยวชาญหรือแฟนพันธุ์แท้เรื่องหอยมาช่วยวิเคราะห์ด้วยว่าหอยนี้มีอายุเท่าใด

    ด้านนายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาดูแลการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ จึงต้องอาศัยอำนาจสืบสวนของดีเอสไอเข้าไปดำเนินการ

    เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในทุกประเด็น โดยการตรวจสอบจะไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นสารพิษ วัตถุระเบิด หรือผู้สูญหายจากเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแรงงานข้ามชาติ หรือเหตุพฤษภาทมิฬ และเบื้องต้นจะยังไม่มีการยกตู้คอนเทนเนอร์ หรือเจาะรูเพื่อสำรวจสภาพภายใน แต่จะสำรวจเพียงสภาพกายภาพใต้น้ำบริเวณที่ตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ และจะตรวจสอบว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ใต้น้ำจุดอื่นอีกหรือไม่ เพื่อให้มีข้อมูลเปรียบเทียบ นอกจากนี้จะเก็บตัวอย่างน้ำทะเลรอบตู้คอนเทนเนอร์มาให้กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทีมงานตรวจพิสูจน์

    วันเดียวกัน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นประธานกรรมการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ว่า ยังไม่ได้สั่งการให้กองทัพเรือเป็นหัวเรือใหญ่

    ขณะนี้พบตู้คอนเทนเนอร์ 1 ตู้ ซึ่งมีปะการังขึ้นจำนวนมาก จากจุดที่ตรวจสอบขณะนี้อยู่ห่างจากที่จอดเรือของกองทัพเรือออกมาถึง 18 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 30 ก.ม. ซึ่งกองทัพเรือภาคที่ 1 รายงานว่า ข้อมูลจากคนในพื้นที่ระบุยังมี 5 จุดที่อาจมีตู้คอนเทนเนอร์อีก และจุดต่างๆ อยู่ห่างออกมา 25 ไมล์ทะเล หรือบางจุดกว่า 100 ก.ม.

    ส่วนมีความพยายามจะดึงเป็นประเด็นการเมืองโยงกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องการเมืองอย่างไร

    แต่ศพในทะเล เวลาเกิดพายุเกย์หรือพายุลินดาลูกเรือประมงหายไป 400-500 คน ศพก็หาไม่เจอ การพบกะโหลกแบบนี้เป็นไปได้หลายอย่าง ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นยังไง แต่ไม่น่าจะใช่ศพจากเหตุพฤษภาทมิฬ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2009
  19. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    ยอดติดเชื้อหวัด2009ทะลุหมื่นใน41ประเทศ
    21 พค. 2552 ffice:smarttags" 07:24 น.
    ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ในสหรัฐเพิ่มเป็นรวม 10 คนแล้วเมื่อวันพุธ หลังจากรัฐยูทาห์รายงานยอดผู้เสียชีวิต เป็นชายหนุ่มวัย 21 ปีผู้มีน้ำหนักเกิน และมีอาการป่วยเรื้อรังมาก่อน แต่เขาไม่ได้เดินทางไปไหนในช่วงเร็วๆนี้ จึงกำลังตรวจสอบว่าเขาติดเชื้อจากที่ใด ขณะที่รัฐอริโซน่ารายงานยอดผู้เสียชีวิตคนที่สาม เป็นเด็กชายวัย 13 ปี ผู้มีพี่ชายที่กำลังป่วยด้วยโรคเดียวกัน ส่วนสมาชิกคนอื่นในครอบครัวหายป่วยแล้ว ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯหรือ CDC รายงานยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 5,710 คน และ ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เม็กซิโกซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของการระบาดเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็น 75 คน และมีผู้ติดเชื้อ 3,892 คน
    มีรายงานการระบาดของโรคเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯกับที่ญี่ปุ่น ซึ่งได้พบผู้ติดเชื้อคนแรกในกรุงโตเกียว เป็นนักเรียนหญิงวัย 16 ปี ผู้ติดเชื้อระหว่างไปเที่ยวนครนิวยอร์คของสหรัฐฯ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 267 คน ยิ่งท้าทายความพยายามที่จะสกัดกั้นการระบาดของโรคนี้
    ตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อใน 41ประเทศทั่วโลกรวมกว่า 10,243 คน แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 80 คน ขณะที่สำนักข่าวเอพีรวบรวมรายงานยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกรวม 87 คน โดยนอกจากสหรัฐกับเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตที่แคนาดากับคอสตาริต้าประเทศละ 1 คนด้วย
    <O:p
    <O:p></O:p>
    พายุหมุนพัดถล่มศาลาวัดที่พิษณูโลกพังทั้งหลัง
    วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เวลา <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]20:23:56</st1:time> น. มติชนออนไลน์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม นายเกรียงวิชญ์ ไกรพวิมล นายอำเภอบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เข้าตรวจสอบความเสียหายศาลาโรงธรรมพิธี วัดกำแพงมณี หมู่ 6 ต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่ม ที่ถูกพายุหมุนพัดถล่ม พบว่าศาลาทรุดตัวและพังเสียหายทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 9 แสนบาท พระครูผาสุกิจวิจารณ์ เจ้าอาวาสวัดกำแพงมณี กล่าวว่า ช่วงค่ำของวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ปรากฏว่ามีลมพายุหมุนแรงมาก พัดศาลาโรงธรรมพิธี ยุบตัวลงทั้งหลัง โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีประชาชน
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE class=tborder id=post2115963 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->toplus99<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2115963", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2006
    สถานที่: นครราชสีมา
    ข้อความ: 58
    Groans: 1
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 22
    ได้รับอนุโมทนา 754 ครั้ง ใน 45 โพส
    พลังการให้คะแนน: 55 [​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2115963 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">
    <!-- google_ad_section_start -->ปู่อินทร์ตาทิพย์ อายุ 107 ปี เตือนอีก 5 ปีภัยพิบัติใหญ่มาแน่


    [​IMG]

    เมื่องานพุทธพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลวัดถ้ำดาวเขาแก้ว มวกเหล็ก สระบุรี ร่วมทำพิธี เบิกเนตร พระประทานพร องค์ใหญ่ ได้มีบรรดาเกจิอาจารย์พระสงฆ์ และบรรดาฤาษีจากทั่วประเทศมาชุมนุมกันที่วัดนี้แห่งนี้ เมื่อช่วงกลางๆปี 2551

    ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเจอสนทนาถึงเรื่องราวต่างๆ กับ ผู้เฒ่าฆราวาส ผู้มีอภิญญา ตาทิพย์บารมีแก่กล้า แห่งเขาตำแย อ.ปักธงชัย เมืองโคราช อายุ 107 ปี แต่ยังแข็งแรงอยู่มาก " นามว่าปู่อินทร์ ตาทิพย์"

    หลายๆคน อาจเคยได้ยินกิตติศัพย์ของปู่อินทร์ กันมาบ้างเรื่องญาณหยั่งรู้ว่ากว้างไกลชัดเจน รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าแม่นยำขนาดใหน ท่านเคยได้บวชร่วมธุดงค์ปฎิบัติธรรมร่วมกับหลวงปู่สรวง สุรินทร์เมื่อครั้งหนุ่มๆ ท่านสร้างวัด ศาสนาวัตถุ มาแล้วนับเป็นร้อยๆแห่ง

    บารมีท่านสูงไม่สูงไม่รู้ล่ะ แม้แต่ฤาษีหลายๆตน ยังต้องกราบลาท่านผู้นี้ก่อนเดินทางกลับ เล่นเอาข้าพเจ้างงไปเหมือนกัน เพราะปรกติไม่ค่อยเห็นฤาษีท่านจะไปไหว้ใครก่อนง่ายๆ อันนี้นอกเหนือขอบเขตที่ข้าพเจ้าจะหยั่งรู้ได้

    ท่านได้เตือนว่าในอีก 3 ปีภัยเศรษฐกิจโลกจะแย่มาก และซ้ำร้ายหนักในอีก 5 ปีที่ปู่เห็นคือภัยพิบัติจากธรรมชาติที่รุนแรงมาก

    โดยในประเทศไทย ภัยหนักที่ปู่เห็นชัดเจนคือ น้ำท่วมแถบโซนจังหวัดภาคกลางโดยเฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑลโดยรอบ เป็นบริเวณกว้าง กินพื้นที่ ติดต่อกันหลายจังหวัด หลายวัน หนักมากกว่าทุกครั้งที่ประเทศไทย เคยประสบมา อุทกภัยที่เกิดขึ้นจากทั้งน้ำทะเลหนุน,น้ำป่าไหลหลากจากทางภาคเหนือมาสมทบ แม่น้ำเอ่อท่วม ฝนตกติดต่อกันหลายวัน แบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เมื่อไหร่

    แล้วระดับน้ำท่วมจะสูงขึ้นมากเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว จนอยู่กันไม่ได้ หนีตายกันอลม่าน รถติดกันเป็นทางยาวทั่วทุกสาย ต้องหนีเพื่อเอาตัวรอดวุ่นวายไปหมด

    ที่เดือดร้อนมากคือจังหวัดที่ติดชายทะเล ,รวมทั้งจังหวัดที่ติดแม่น้ำ สายใหญ่เช่น นนทบุรี ,สมุทรปราการ,นครปฐม, ปทุมธานี ,อยุทธยา, อ่างทอง และอื่นๆอีกมาก

    ผู้คนส่วนใหญ่จะหนีมาที่ภาคอีสาน เพราะเป็นที่ราบสูงน้ำท่วมไม่ถึง ท่านเตือนว่า ถ้าจะหนีอย่าหนีออกมาที่เส้นมิตรภาพ โคราช-สระบุรี เพราะ ผู้คนส่วนจะหนีมาที่เส้นนี้ ให้เลี่ยงไปทาง นครนายก หรือ สระแก้ว พอเอาตัวรอดได้

    การเตรียมตัวท่านบอกอย่างน้อย ก่อนถึงยามนั้นให้เตรียมเงิน เตรียมทองสะสมเก็บไว้ใช้ยามยากให้มาก เพราะยามนั้นเงินทองจะหายาก คนเห็นแก่ตัวกันมาก แย่งกันกินแย่งกันใช้ เหมือนยุคเขมรหนีตาย ยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยเผด็จการอย่างงัยอย่างงั้นเลย

    ท่านปู่อินทร์ท่านถาม พวกข้าพเจ้าไว้ให้คิดนิดหนึ่งว่ารู้มั๊ย "ว่าทำไมเค๊าถึงได้เรียกปู่ว่า ปู่อินทร์" ถามแล้วท่านก็ยิ้ม ส่วนพวกข้าพเจ้าและเพื่อน ต่างคน ต่างก็คิดกันไปต่างๆนาๆ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ.......

    อ่านกันพอประดับปัญญาครับ เชื่อก็ได้ /ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่าประมาทจนเกินไป และอย่าตระหนกจนเกินเหตุ ใช้ปัญญาใคร่ครวญตรวจสอบ เอานะครับ


    ##########################################
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปู่อินทร์ตาทิพย์-อายุ107ปี-เตือนอีก5ปีภัยพิบัติใหญ่มาแน่.188237/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1199192638.jpg
      1199192638.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.3 KB
      เปิดดู:
      1,678
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...