ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    <TABLE height=463 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=1020><TBODY><TR><TD width=836>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width=157> </TD><TD width=27> </TD><TD width=836>
    สถานีวิทยุกระจายเสียงโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
    โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตำบลพรหมณี
    อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระบรมรูปจะออกมาทรงช้างทำยุทธหัตถี หรือทรงม้า หรือประทับนั่งคะ มีรูปต้นแบบให้ดูไหมคะ

    พระองค์ท่านทรงเป็นมหาเทวาที่ไม่เคยทิ้งคนไทยเลยไม่ว่าจะยุคไหนก็ตาม ทรงคุ้มครองประเทศไทยในทุกตารางนิ้วจริงๆค่ะ

    เพราะพระบรมรูปองค์ท่านอยู่เกือบทุกจังหวัดในประเทศเลย
     
  3. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    พระบรมรูปจะเป็นแบบประทับนั่งขณะทรงหลั่งทักษิโณทก

    ครับ ผมได้ตั้งใจว่าจะไปร่วมพิธีในวันดังกล่าวด้วย

    จะพยายามหาต้นแบบมาให้ดูกันนะครับ
     
  4. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    วันนี้กลับจากธุระ เข้าเส้นทางแจ้งวัฒนะ นึกขึ้นได้ว่า
    กองบัญชาการทหารสูงสุด ที่ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ
    ถ้าจำผิดพลาดก็โปรดให้อภัยเพราะไม่ค่อยสันทัดเกี่ยวกับงานด้านทหาร

    จำได้ว่าในกองบัญชาการมีตั้งพระบรมรูป สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ทรงคชธาร พร้อม ทหารจตุรงคบาททั้ง 4

    ปติมากร คนออกแบบ คนปั้น เก่งมาก สวยมาก ขอทหารยามเข้าไปคนเดียวโดดๆ กลางแดดเปลี้ยงๆ บ่ายสอง
    นับว่าเด่นถ้าใครมองลงมาจากตึก เพราะเดินถือร่มกันแดดเข้าไปคนเดียว
    พอถึงพระบรมราชานุสาวรีย์ เมฆฝนก็เคลื่อนเข้ามาปกคลุมทันที เย็นทันตาเห็น

    จึงยืนอ่านพระราชประวัติและเดินไปจุดธูป ท่องคาถาบูชาไป 3 จบ
    ขอให้ชีวิตรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข เหมือนอากาศตอนที่สักการะอยู่นี้ด้วยเทอญ สาธุ

    พอแหงนคอตั้งฉากดูเมฆเคลื่อนผ่านไป ความเร็วสัมพัทธ์นี้ทำให้เหมือน
    องค์อนุสาวรีย์กำลังเคลื่อนไปข้างหน้าเลย ดูมีชีวิตชีวามาก ยืนดูอยู่คนเดียวโดดๆเลยค่ะ
     
  5. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ขออนุโมทนาด้วยครับ ผมยังไม่เคยมีโอกาสเข้าไปกราบพระองค์ท่าน ด้วยคิดว่าเป็นหน่วยทหารคงจะเข้าไปยากลำบาก อีกอย่างหนึ่งวันธรรมดาถนนแจ้งวัฒนะแถบนั้นรถติดมากทีเดียวครับ
     
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    -ขออนุโมทนาด้วยครับ คงเป็นเพราะพระบารมีของ
    พระองค์ท่าน ทำให้คุณทางสายธาตุสามารถลัดเลาะ
    เข้าไปจนพบ แล้วยังได้รับการเชื้อเชิญจากน้อง
    ทหารยามให้เข้าไปถวายสักการะ อีกทั้งบรรยากาศ
    ดูราวจะรู้เห็นเป็นใจอีกด้วย คุณทางสายธาตุเรียก
    ชื่อหน่วยงานได้ถูกต้องครับ แต่ทางราชการเพิ่ง
    จะมาเปลี่ยนชื่อใหม่จากเดิมที่ใช้กองบัญชาการ
    ทหารสูงสุด เป็น กองบัญชาการกองทัพไทยครับ
    สำหรับปฎิมากรท่านสำคัญถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็น
    คุณไข่มุกด์ ชูโต (ต้องขออภัย ถ้าผิดพลาด )
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ทหารยามเขาอนุญาติค่ะ คิดว่าไปได้ทุกคนนะคะ
    ทางสายธาตุ ไม่มีจิตสัมผัสพิเศษเหมือนผู้อื่น

    แต่มั่นใจว่าพระบรมราชานุสาวรีย์นี้พระองค์ท่านคงจะสถิตย์อยู่
    เพราะที่นี่คือกองบัญชาการกองทัพไทย
    พระองค์ท่านทรงดูแลทหารไทยทุกคนอยู่แน่นอน

    ขอถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้เกรียงไกรและกล้าหาญ
    ผู้นำความเป็นอิสระ ความเป็นปึกแผ่น ความร่มเย็นมาสู่ทุกคนในแผ่นดินไทย
    ตราบเท่าทุกวันนี้ ขอดวงพระวิญญาณทรงเกษมสำราญและทรงภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไป
     
  8. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    -ขออนุโมทนากับคุณทางสายธาตุ พระองค์ท่าน ทรงปกป้องคุ้มครองดูแลชาติไทย ผืนแผ่นดินไทยและประชาชนคนไทยอยู่ครับ ถ้าณ สมัยนั้นเวลานั้นปราศจากซึ่งพระองค์แล้วไซร้ พวกเราจะได้มีโอกาสมาอยู่กันสุขสบายอย่างนี้ไหมครับ เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบดอกนะครับ ทำให้เราต้องมองย้อนอดีตกลับไป ณ เวลานั้น เราเชื่อกันว่า
    ยังมีบุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังและมีส่วนสำคัญในการหล่อหลอม ทรงเป็นทั้งขวัญและกำลังใจให้
    กับองค์อนุชาในยามที่ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเมือง
    นอน ห่างไกลทั้งพระชนกและพระชนนี ท่านนั้นก็คือ
    พระพี่นางสุพรรณกัลยา

    "....ใจโอ้ใจ ต้องจำพรากไกลจากจร
    จากถิ่นฟ้าเคยนอน ต้องจำจรไกลร้างห่างเมือง
    ไกลโอ้ไกล แผ่นดินถิ่นกำเนิดมา
    ห่วงรักในอนุชา มุ่งสู่หงสาชีพเป็นเดิมพัน
    ต้องยอมสละสิ้นแล้วทุกสิ่ง ต้องละวางทิ้งสุขนับคณา
    หยดรินไหลร่วงน้ำตา เพื่อสุขประชาไพร่ฟ้าสราญ..."

    ๐ขออนุญาตนำบางตอนของบทเพลง พระสุพรรณกัลยา
    ของคุณโมเย เธอมาปิดท้ายรายการ ได้ครบถ้วนทั้ง
    อรรถรสและเนื้อหาสาระเลยทีเดียวครับ
     
  9. ศรัทธา_พิสุทธิ์

    ศรัทธา_พิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +205
    ขออนุโมทนากับทั้งสองท่านด้วยค่ะ ทั้งคุณทางสายธาตุ
    และคุณจงรัภักดี ได้ฟ้งเพลงพระสุพรรณกัลยา ครั้งใด
    ต้องมีอันเป็นน้ำตาซึมทุกครั้งไปเป็นความรู้สึกที่อัดอั้น
    ตื้นตันใจ คุณโมเยเธอช่างร้อยกรองได้อย่างไพเราะ
    จับใจมากจริงๆ

    ..."....ใจโอ้ใจ ต้องจำพรากไกลจากจร
    จากถิ่นฟ้าเคยนอน ต้องจำจรไกลร้างห่างเมือง
    ไกลโอ้ไกล แผ่นดินถิ่นกำเนิดมา
    ห่วงรักในอนุชา มุ่งสู่หงสาชีพเป็นเดิมพัน
    ต้องยอมสละสิ้นแล้วทุกสิ่ง ต้องละวางทิ้งสุขนับคณา
    หยดรินไหลร่วงน้ำตา เพื่อสุขประชาไพร่ฟ้าสราญ..."


    ๐ข้าพระพุทธเจ้าขอร่วมถวายความจงรักภักดีและรำลึก
    ในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระพี่นาง
    สุพรรณกัลยา และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า
    พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ขอดวง
    พระวิญญาณจงทรงพระเกษมสำราญและทรงภพภูมิที่สูง
    ยิ่งๆขึ้นไป
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระพี่นาง สุพรรณกัลยา

    เป็นรูปที่เชื่อว่าถ่ายมาจากกล้องถ่ายรูปโดยหลวงปู่โง่น ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่
    แต่ว่าทรงงดงามมาก เอามาแบ่งปันกันค่ะ

    พระสิริโฉมอันงดงามนี้ เป็นทั้งเหตุให้พระองค์ต้องจากบ้านเมืองไปเป็นองค์ประกัน
    และพระสิริโฉมนี้เองทำให้ พระองค์สามารถทูลขอในบางอย่างต่อพระเจ้าบุเรงนองได้
    เพื่อความปลอดภัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวัยพระชนมายุเพียง 16 ปีที่หนีจากหงสามา
    หากพระพี่นางไม่ช่วยปกป้องไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง พระองค์ดำคงจะทรงตกอยู่ในความลำบากมากขึ้นเป็นแน่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      133
  11. ศรัทธา_พิสุทธิ์

    ศรัทธา_พิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +205
    ขอบพระคุณ คุณทางสายธาตุมากค่ะ ที่กรุณาแบ่งปัน
    ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ
     
  12. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    -คาดเดาว่า คุณทางสายธาตุ คงจะมีข้อมูลของพระพี่นางสุพรรณกัลยาพอสมควร เล่าสู่กันฟังอีกสิครับ ปกติก็ไม่ไคร่จะมีใครกล่าวถึงพระองค์ท่านกันอยู่แล้ว
    กรณีและเหตุผลที่คุณทางสายธาตุได้กรุณานำมากล่าวถึง เป็นข้อยืนยันต่อ
    การคาดเดาข้างต้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระสุพรรณกัลยา ทรงเป็นพระธิดาใน สมเด็จพระมหาธรรมราชา และ พระวิสุทธิกษัตรีย์ เป็นพระพี่นางของ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช และสมเด็จ พระเอกาทศรถ

    สมภพเมื่อวันเสาร์ ปีมะเส็ง พุทธศักราช ๒๐๙๕ ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก (บริเวณ ที่ตั้ง โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ในปัจจุบัน) พระองค์เป็น วีรสตรี ผู้กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ยอม พลัดพรากจากแผ่นดินไทย ไปเป็นองค์ประกัน ณ กรุงหงสาวดี เพื่อแลกกับ องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ สมเด็จพระ เอกาทศรถ

    หลังสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก เมื่อปี พุทธศักราช ๒๑๑๒ พระนาง และพระอนุชา ทั้งสอง พระองค์ ได้ถูกพระเจ้าบุเรงนอง กวาดต้อนไปเป็น เชลยยังเมืองหงสาวดี พร้อมด้วย พระมหินทราธิราช เจ้าเหนือหัว แต่พระมหินทราธิราช เสด็จสวรรคตที่เมืองอังวะเสียก่อน พม่าจึงแต่งตั้งให้ พระมหา ธรรมราชา ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา

    ในขณะที่โอรสและธิดายังเป็นเชลยอยู่ เพื่อเป็นองค์ประกัน ป้องกัน การคิดทรยศของฝ่ายไทยทั้งสามพี่น้อง อยู่ที่หงสาวดีถึง ๖ ปี จึงได้กลับมากรุงศรีอยุธยาครั้งหนึ่ง เมื่อพระนางมีพระชนมายุได้ ๑๙ พรรษา ด้วยเหตุที่ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เกิดความพึงใจใน พระสิริโฉม ของพระสุพรรณกัลยา จึงมาสู่ขอจากพระมหาธรรมราชา และนำกลับไปอภิเษก เป็น พระชายา ณ เมืองหงสาวดี ต่อมาพระนางได้ออกอุบาย ทูลขอให้พระอนุชาทั้งสองพระองค์ กลับสู่ กรุงศรีอยุธยา โดยอ้างว่า เพื่อไปช่วยพระบิดารับศึก พระยาละแวกแห่งเขมร

    นเรศวร...น้องรัก...คนดี
    จงฟังคำ..พี่หน่อย...เถิดทูนหัว
    ถ้าพี่นั้น..เป็นชาย...เจ้าอย่ากลัว
    คงไม่มา...หมองมัว..แลกเจ้าคืน

    ถึงเป็นหญิง...ก็รู้จัก...เจ็บอาย
    อาจยอมตาย...เพื่อล้าง...ความขมขื่น
    ขอให้พี่...มีโอกาส...แทนดาบปืน
    พอพาชื่น..หฤทัย...บ้างเถิดนา

    ความเป็นไท..ต้องซื้อ..ด้วยชีวิต
    แพงสุดฤทธิ์...ก็ต้องซื้อ...เพราะคุ้มค่า
    เราซื้อกัน..ด้วยเลือด...ด้วยน้ำตา
    ชีวิตของ...กัลยา...เป็นเดิมพัน”

    พระสุพรรณกัลยา มีสภาพเหมือนถูกทอดทิ้ง ให้ผจญกรรมเพียงลำพัง กับไพร่พลเล็กน้อย ในท่ามกลางหมู่อริราช ศัตรู ทั้งสิ้น แต่กระนั้นพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ก็ทรงมีพระเมตตารักใคร่สิเนหา แก่พระสุพรรณกัลยา อยู่ไม่น้อย และด้วยบารมีแห่งพระสุพรรณกัลยา ได้ปกแผ่คุ้มครองแก่คนไทย ที่ตกเป็นเชลย อยู่ใน เมืองพม่า มิให้ได้รับความลำบาก

    ต่อมามังไชยสิงหราช(นันทบุเรง)โอรสของพระเจ้าบุเรงนอง เป็น ผู้มักมากในกามคุณ และต้องการเป็นใหญ่ จึงร่วมมือกับชายาชาวไทยใหญ่ นามว่า "สุวนันทา" วางแผนชิงราชสมบัติ และแย่งอำนาจ ทำให้พระเจ้าบุเรงนองตรอมพระทัย และสวรรคต อย่างกระทัน หัน เมื่อพระเจ้านันทบุเรงขึ้นครองราชย์ เกิดความวุ่นวาย เนื่องด้วยการไม่ยอมรับ ของพระญาติวงศ์ หลายฝ่าย ทำให้พระเจ้านันทบุเรง เกิดความหวาดระแวง

    ครั้งนั้น พระนเรศวรทรงยกทัพออกรบที่หนองสาหร่าย เมื่อปี ๒๑๓๕ และทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา จนได้ชัยชนะ พระเจ้าหงสาวดีเสียพระทัยที่เสียพระมหาอุปราชา เสวยน้ำจัณฑ์จนขาดสติ จึงสั่งจับจองจำพระมารดา เลี้ยง (พระสุพรรณกัลยา) และพระธิดาองค์แรกของพระนางให้อดอาหาร ลงโทษทัณฑ์ ทุบตี โบย อย่างทารุณ ในขณะที่พระนางทรงครรภ์แปดเดือน จนพระธิดาสิ้นพระชนม์

    จากนั้น ก็ทำทารุณกรรมต่อพระนางอีก จนอ่อนเปลี้ยสิ้นเรี่ยวแรง แล้วใช้ดาบฟัน ฆ่าพระนางพร้อมด้วยทารกในครรภ์ ซึ่งพระสุพรรณกัลยาก็ทรงยอมรับความตายโดยเต็มพระทัย สมดังพระวาจาที่เคยรับประกันไว้ เพื่อให้ไทยมีโอกาสกู้เอกราชได้สำเร็จ แม้ร่างกายของพระนาง สิ้นสูญแล้ว ก็ยังไม่เป็นที่สาแก่ใจ ของพระเจ้านันทบุเรง แม้ดวงพระวิญญาณของพระองค์ ก็ถูก กระทำ พิธีทางไสยศาสตร์ ตราสังรัดตรึง ไม่ให้วิญญาณกลับสู่เมืองไทย ให้วนเวียนอยู่ อย่างทุกข์ทรมาน นานนับร้อยปี ...


    เมื่อนเรศ...น้องรัก...ชนะศึก
    ก็ไม่นึก...ถึงตัว...อีกแล้วหนา
    หากจะสิ้น...เพราะศัตรู...มาบีฑา
    ก็ถือว่า...คุ้มค่า...ที่ได้คืน

    ไม่กลับไทย...เพื่อหวัง...ส่งข่าวน้อง
    ประกาศก้อง...ในใจ...ว่าต้องฝืน
    คำฉุดดึง...องค์ดำ...ให้หยัดยืน
    ยอมสะอื้น...กลืนช้ำ...เพื่อชาวไทย

    อยุธยา...ต้องกลับ...มาเรืองรุ่ง
    หวังผดุง...เมืองเกิด...ให้ยิ่งใหญ่
    มิต้องตก...เป็นทาส...ของชาติใคร
    แม้สิ้นหัว...ฝังไว้...แดนศัตรู​

    ทางสายธาตุ อ่านแล้วน้ำตาร่วง เพราะพระพี่นางเสียสละมาก ในฐานะของสตรีสูงศักดิ์ซึ่งต้องมีขัติยมานะ ครั้งนั้นท่านต้องทนรองรับการลบหลู่ดูหมิ่นจากราชวงศ์ในพม่าเพียงใด ต้องทนเห็นพระธิดาองค์แรก ถูกทุบตี อย่างทารุณ และให้อดอาหาร หัวอกแม่คนใดทนเห็นได้บ้าง สงสารพระองค์ท่านมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  14. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    "นเรศวร...น้องรัก...คนดี
    จงฟังคำ..พี่หน่อย...เถิดทูนหัว
    ถ้าพี่นั้น..เป็นชาย...เจ้าอย่ากลัว
    คงไม่มา...หมองมัว..แลกเจ้าคืน

    ถึงเป็นหญิง...ก็รู้จัก...เจ็บอาย
    อาจยอมตาย...เพื่อล้าง...ความขมขื่น
    ขอให้พี่...มีโอกาส...แทนดาบปืน
    พอพาชื่น..หฤทัย...บ้างเถิดนา

    ความเป็นไท..ต้องซื้อ..ด้วยชีวิต
    แพงสุดฤทธิ์...ก็ต้องซื้อ...เพราะคุ้มค่า
    เราซื้อกัน..ด้วยเลือด...ด้วยน้ำตา
    ชีวิตของ...กัลยา...เป็นเดิมพัน”

    -ซาบซึ้งและตราตรึงใจยิ่งครับ
    ขออนุโมทนาสาธุการครับ คุณทางสายธาตุ
     
  15. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ขอพวกเราทั้งหญิงชายมาร่วมใจกันรำลึกถึงพระองค์ท่าน
    สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา หากไม่มีพระองค์ท่านเราก็อาจไม่มีพระองค์ดำ ขอเชิญชวนทุกๆท่านครับ

    "อยุธยา...ต้องกลับ...มาเรืองรุ่ง
    หวังผดุง...เมืองเกิด...ให้ยิ่งใหญ่
    มิต้องตก...เป็นทาส...ของชาติใคร
    แม้สิ้นหัว...ฝังไว้...แดนศัตรู"
    .................................
    มา..แม่มา ปวงราษฎร์ประชาจะขอกราบกราน

    ฟอร์ทขอกราบถวายบังคมแทบฝ่าพระบาทด้วยความสำนึก
    ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  16. ศรัทธา_พิสุทธิ์

    ศรัทธา_พิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +205
    ขอร่วมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ค่ะ
     
  17. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ขอร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลที่ทรงเสียสละเพื่อแผ่นดินไทย ครับ

    "...หยดรินไหลร่วงน้ำตา เพื่อสุขประชาไพร่ฟ้าสราญ .."
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ย้อนรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา โดย หลวงปู่โง่น โสรโย

    คัดมาจากหนังสือ .. " ย้อนรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา "
    เขียนโดย หลวงปู่โง่น โสรโย (หน้า 7-12)

    สัมผัสทางวิญญาณกับพระสุพรรณกัลยา


    [​IMG]

    ในทันใดนั้นเอง สายตาทางจิตวิญญาณของเรา ก็มองเห็นหญิงสาวพราวเสน่ห์ ท่านหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ ท่านยิ้มให้ ยิ้มแล้วยิ้มอีก แล้วเอ่ยปากว่า " ท่านขาท่านชื่อโสรโย ที่เป็นพระสงฆ์ หลงมาจากเมืองสยามไทยใช่ไหม ถ้าใช่ท่านไม่ต้องร้อนใจ ฉันก็เป็นคนไทย เช่นเดียวกับท่าน ฉันจะหาทางช่วยท่านให้พ้นภัย เพราะท่านเคยอยู่กับฉันมาแต่ก่อน เราเคยมีบุญคุณต่อกันมานานแล้ว ท่านเคยช่วยเหลือ ดูแลฉันมาตลอด เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ในคณะเรา เราได้พึ่งพาอาศัยท่าน เวลาจะถูกเขารังแก ท่านต้องมาขัดขวางเอาไว้ ท่านหายไปไหนมา รีบมากับฉันเดี๋ยวนี้ "


    ทันใดนั้นเอง ท่านก็นำพาข้าพเจ้าเข้าไปสู่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งมีสภาวะที่สูงขึ้นไปกว่า ละเอียดกว่า ซึ่งเป็นมิติสถานเก่า ที่ซึ่งพวกเราจำนวนมาก ถูกพม่ากวาดต้อนไปเป็นเชลย เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งแรก แล้วสุภาพสตรีท่านนั้นก็บอกว่า


    " ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา จำได้ไหม พวกเรามาด้วยกันจำนวนมาก ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เพราะท่านเก่งมีฝีมือเป็นนายช่าง เก่งทางสร้างอาคารบ้านเรือน ให้พวกเราอยู่ ในจำนวนหมู่ของเชลย และสร้างวัดเวียงวังให้พม่าด้วย แล้วท่านก็ชี้มือให้เราดู แล้วว่าโน่นแน่ะคือหมู่บ้านที่ท่านสร้าง ก็มองเห็นหมู่บ้าน ที่มีกาแลไว้บนหน้าจั่ว เป็นทิวแถว ทรงไทย เรียงรายกันอยู่อย่างมีระเบียบ ท่านบอกว่า ยังมีอีกหลายที่ยังสร้างไม่เสร็จ โน้นน่ะวัดที่ท่านสร้างให้เขา ก็ยังไม่เสร็จอีก ท่านจึงต้องมาทำต่อในคราวนี้ เมื่อวานนี้ท่านหายไปไหน มีใครเขาบอกว่า ท่านกลับไปช่วยพระยาตาก กู้เมืองกรุงศรีอยุธยาใช่ไหม เมื่อกลับมาวันนี้ แต่งตัวเป็นนักบวชเสียแล้ว คงจะหาวิธีหนีเอาตัวรอดละซี หนีไปทำไม ไม่คิดถึงพวกฉันหรือ เราทุกข์ยาก พลัดพรากจากบ้านเมืองมาด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน มากินข้าวกันเถอะ "


    หลังจากนั้น สุภาพสตรีท่านนั้น ก็จัดอาหารหวานคาว และท่านก็นั่งกินด้วย เราได้เห็นผู้คนที่รู้จักมักคุ้นกัน จำนวนมากเข้ามาหา มาถามข่าว และพูดจาล้อเลียน กระเซ้าเย้าหยอกกันอย่างสนุกสนาน ดูแล้วแต่ละคนเขาแสดงความเคารพนับถือ ในท่านสุภาพสตรีคนที่นั่งกินข้าวอยู่กับเรามาก ท่านออกปากพูดว่า " ฉันได้ส่งข่าวไปทางเมืองสยามไทยแล้ว ให้เขามาช่วยท่านแล้ว อีกไม่นาน ท่านก็จะพ้นภัย "

    ขณะนั้น ความรู้สึกตัวจากความหลับฝัน อันเป็นสมาธิน้อยๆ ที่เป็นตัวแฝงของเราก็ตื่นขึ้น รู้สึกตัว (ตื่นจากหลับฝัน) ฝันสนุกเสียด้วย เพราะเห็นคนสวยๆ มาปลอบใจ แล้วจะไม่ให้สุขได้อย่างไรว๊า แล้วก็ลุกขึ้นเดิน เดินจงกรม กลับไปมานานพอสมควร เพื่อยืดเส้นยืดสาย หายใจให้เต็มปอด แล้วก็ได้ยิน เสียงคนข้างนอกพูดกันว่า พระนายช่างองค์นี้ ท่านเข้านั่งทำสมาธิได้หลายวันแล้ว นั่งตัวตรงแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่ยอมลุก ไม่กิน ไม่ถ่าย นึกว่าแข็งตายไปแล้ว โอ้ยอย่างพึ่งตายเลย ขี้เกียจทำศพ และจะเกิดเรื่องยุ่งด้วย เพราะเป็นพระต่างชาติพลาดท่า รัฐบาลก็ยุ่งด้วยอีก ดู ๆ แล้วมิใช่คนที่จะตายแล้วสูญ เพราะเขามาเป็นนักวิชาการ เพราะท่านอภิธชะมหาอัตฐคุรุ ประมุขสงฆ์ของพม่า ก็นับถือเขาด้วย ไม่แน่จริง เขาคงไม่นิมนต์เข้ามาเมืองเรา

    จากนั้นเขาก็จัดหาอาหารมาให้ฉัน เราก็โบกมือปฏิเสธไม่รับไม่ฉัน จึงมานึกคิดหวนจิต กับไปในความฝันที่ผ่านมา เราไปเห็นสุภาพสตรีสาวสวยคนหนึ่ง ชื่อสุพรรณกัลยาที่บอกว่า เราเคยอยู่กับท่าน เราเคยช่วยท่าน เราเคยเป็นเชลย เราเคยเป็นนายช่าง สร้างบ้านให้เชลยอยู่ เราหายหน้าไปช่วยพระเจ้าตากกู้เมือง เมื่อวานนี้ และเราได้เห็น ได้คุยกับสุภาพสตรี ชื่อสุพรรณกัลยา แสดงความห่วงใยในเรามาก ๆ อยากทราบว่า สุภาพสตรีที่ชื่อสุพรรณกัลยา สุพรรณกัลยาคือใครกันแน่ และท่านบอกว่า เราหายไปเมื่อวันวาน ไปช่วยงานพระยาตากกู้เมือง อะไรกันแน่



    [​IMG]


    อีกเช่นกันอันกาลเวลาของโลกมนุษย์ ห่างกับโลกวิญญาณนั้น ถึงสองร้อยกับสองปี คือกรุงศรีแตก แตกครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2112 แล้วมาเสียอีก ครั้งหลังเมื่อ พ.ศ. 2310 อันกาลเวลามันห่างกันเหลือเกิน คือห่างกันเท่ากับ หนึ่งร้อยปีต่อหนึ่งวัน แต่กาลเวลาของโลกวิญญาณนั้น มันห่างกันแค่สองวันเท่านั้นเอง คือเมื่อวานนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราสนใจมาก อยากจะศึกษาทางโลกวิญญาณ ให้มันชัดเจนมากขึ้นไปอีก คือวันนั้นเอง เป็นคืนวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันลอยกระทงพอดี มีชาววัด ชาวบ้านละแวกนั้น เขามาจุดธูป จุดเทียนบูชาพระไว้ริมสระน้ำ ซึ่งไม่ห่างไกล จากที่เราอยู่ เรายึดเอาแสงสีของไฟ ที่ระยิบระยับกับผิวน้ำ ให้สะท้อนเข้ากับลูกแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา มาเป็นอารมณ์ของจิต ติดอยู่ให้เป็นเตโช และวาโยกสิญ เป็นเครื่องจูงจิต ให้ติดอยู่ในอารมณ์เดียว เหนี่ยวเอาเรื่องราวที่ผ่านมา เมื่อวันก่อนให้เกิดขึ้นในมโนทวาร

    ในกาลนั้นเอง ภาพลักษณ์ของพระนางสุพรรณกัลยา ก็มาปรากฏขึ้น ในมโนทวารอีกอย่างชัดเจน ท่านเป็นสุภาพสตรีที่เลอโฉม แต่งตัวด้วยชุดไหมสีทอง แพรวพราวด้วยอัญมณีที่ล้ำค่า แต่งตัวแบบสาวพม่าในยุคนั้น ใส่ผ้านุ่งสีทอง รัดเข็มขัด มีลูกปัดที่คอสองชั้น สวมเสื้อแขนยาวคอกว้างได้สัดส่วน ประทับยืน มือขวาค้ำสะเอว มือซ้ายหย่อนลง แล้วท่านกล่าวว่า


    " พระคุณเจ้าจะพ้นภัยแล้ว แต่ท่านก็ต้องช่วยฉันเช่นกัน จะให้ท่านช่วยเรื่องอะไร เดี๋ยวจะบอกให้ เพราะฉันเองก็ถูกเขาเล่นงาน ถูกพันธนาการ ด้วยวิธีการทางไสยศาสตร์ ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของ พระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลย อยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ดังที่ท่านทราบมาก่อนแล้ว ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน แต่ท่านเก่งทำอะไรเป็นทุกอย่าง ฉันไว้ใจท่าน เพราะท่านซื่อสัตย์ และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลยตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆ ไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน "



    เรื่องของพระนางมีรายละเอียดไม่มากนักในพงศาวดาร แต่มีรายละเอียดในหนังสือของหลวงปู่โง่น โสรโย จึงมีผู้นิยมหาอ่านกันมาก เพราะลูกหลานไทยอยากทราบถึงความเหนื่อยยาก ลำบากพระทัย ความระทมทุกข์ ว่าพระพี่นางได้รับมากเพียงใด เราชาวไทยควรจะได้รับรู้และควรกตัญญูต่อแผ่นดินผืนนี้ที่พระพี่นางได้สละชีพเพื่อปกป้องอิสระภาพไว้แม้นท่านต้องประทับเป็นองค์ประกันในแดนศัตรูตราบจนวันสิ้นพระชนม์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  19. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    "เรื่องของพระนางมีรายละเอียดไม่มากนักในพงศาวดาร แต่มีรายละเอียดในหนังสือของหลวงปู่โง่น โสรโย จึงมีผู้นิยมหาอ่านกันมาก เพราะลูกหลานไทยอยากทราบถึงความเหนื่อยยาก ลำบากพระทัย ความระทมทุกข์ ว่าพระพี่นางได้รับมากเพียงใด เราชาวไทยควรจะได้รับรู้และควรกตัญญูต่อแผ่นดินผืนนี้ที่พระพี่นางได้สละชีพเพื่อปกป้องอิสระภาพไว้แม้นท่านต้องประทับเป็นองค์ประกันในแดนศัตรูตราบจนวันสิ้นพระชนม์"

    -ขออนุโมทนาและขอขอบพระคุณ คุณทางสายธาตุมากครับ ไม่ทราบว่าหนังสือเล่มนี้ยังจะพอมีจำหน่ายอยู่ไหม
    ครับ อยากจะขอความกรุณาคุณทางสายธาตุช่วยเล่า(เขียน)ต่อไปอีกครับ
     
  20. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่มีต่อชาติไทยและปวงชนชาวไทย ด้วยความจงรักภักดีเป็นล้นพ้น พระพุทธเจ้าข้าขอรับ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    -ขออนุโมทนา และชื่นชมกับท่านเจ้าของกระทู้ ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...