วัตถุมงคลครูบาคำเป็งอิทธิมหาพลังดูดบูชาร่วมสร้างวัดมะค่างาม(ไว้อาลัย อ.โคมฉาย#324)

อ้าว ... ถ้าหมดแล้ว รอบวันที่ 28 มิย. นี้
จะเหลืออะไรให้เก็บล่ะครับ . . นึกว่าแบ่งไว้ก่อนแล้ว



T_T

 

ของหลักๆ ยังมีครับ
ที่หมดนั่นเป็นของทดลองทำ เล็กน้อย
หากใช้ดีมีประสบการณ์ หลวงปู่ก็จะทำเพิ่มในครั้งต่อไป
เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหลวงปู่เองครับ

 

พี่เมาท์ตาอิน ครับ ถ้าผมได้เปิดจักระ ในวันที่ 21 แล้ว ผมจะเปิดจักระ ซ้ำในวันที่ 28 อีกได้ไหมครับ จะเป็นอะไรไหมครับ
ขอบคุณครับ

 

เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องเปิดอีกแล้วครับ
เพียงแต่ไปนั่งรับพลัง ขณะที่มีการส่งพลังให้ เท่านั้นก็พอครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
มาช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอชี้แจงแถลงไขสักนิดนะครับ

ในสภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด
เงินทองไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
กระทบไปทั่วราชอาณาจักรไทย
และประเทศทั้งหลายในโลก

เราทั้งหลาย ต้องกินต้องใช้จ่ายเงินทองเพื่อยังชีพ
บางคนมีภาระมาก บางคนมีภาระน้อย แตกต่างกันไป
ตามปัจจัยสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น เมื่อชีวิตต้องผจญกับปัญหารายรับ ไม่พอกับรายจ่าย
จึงทำให้เกิดทุกข์แสนสาหัส(สำหรับคนที่มีภาระมาก)
และทุกข์เล็กน้อย สำหรับคนที่มีภาระน้อย
และก็ด้วยจิตวิญญาณ ของคนที่มีความรับผิดชอบ
ต่อภาระหน้าที่ ที่จะต้องช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวและตัวเอง
จึงต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนทุกวิถีทางในทางที่ชอบ
เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย

หลายคน เห็นผู้ศรัทธาบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่
นำไปใช้แล้วได้ผล ก็เกิดความต้องการอยากบูชา
ไว้ใช้เพื่อให้ได้ผลตามจิตปรารถนาของตนบ้าง
บางคนนำไปใช้แล้วได้ผล บางคนไม่ได้ผล หรือ
บางคนได้ผลเร็ว บางคนได้ผลช้า

ผู้ที่นำไปใช้แล้วไม่ได้ผล เกิดจากอะไร
ทั้งๆที่วัตถุมงคลของหลวงปู่ ก็มีอิทธิคุณ พลังมากมาย
ในการดึงดูดทรัพย์ ให้คนเห็นแล้วเกิดเมตตา อยากช่วยเหลือ
หรือแม้กระทั่ง ได้โชคลาภแบบไม่รู้ตัว ก็มี

เหตุปัจจัยที่ขวางกั้น ไม่ให้ผลของพลังในวัตถุมงคล
ของหลวงปู่ ก่อเกิดผลได้ทันทีทันใด
หรือไม่ได้เลยสำหรับบางคน นั่นก็คือ<!-- google_ad_section_end -->

เงื่อนไขที่ถูกผูกไว้กับ..เจ้ากรรมนายเวร..
เจ้ากรรมนายเวร ที่เป็นคู่กรณีกับเรา
จะมาตามคิว เรียงแถวกันเข้ามา เมื่อถึงเวลา
เจ้ากรรมนายเวร มีทั้งทำให้เจ็บป่วย
ต้องทุกข์ทรมาณ เหมือนกับที่เคยกระทำต่อกันมา
กระทั่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต ก็มีให้เห็นมากมายมาแล้ว

เจ้ากรรมนายเวรอีกประเภท ที่เรามักคิดไม่ถึง
เพราะไม่ได้ทำให้เราเจ็บป่วย ต้องทนทุกข์ทรมาณทางกาย
แต่ สามารถทำให้เราทุกข์ใจ เรียกได้ว่า
เจาะลึกเข้าสู่เป้าหมายโดยตรงกันเลยทีเดียว

เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ จะคอยขวางกั้นความสำเร็จ
กีดกันความสุขทั้งหลายที่เราจะได้รับ
ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพย์สินเงินทอง
โชคลาภ วาสนา คู่รักคู่ครอง คู่ขา ต่างๆนานา

เมื่อเจอฤทธิ์ของเจ้ากรรมนายเวร ดังกล่าวเข้าไปแล้ว
แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ว่าเป็นฤทธิ์ของท่านเจ้าฯ
ก็จะเกิดจิตตก เกิดการปรามาส ถึงวัตถุมงคล ที่ได้บูชามา
จากพระสงฆ์ องค์ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
กล่าวหาว่า ใช้ไม่ได้ผลตามสรรพคุณที่อ้าง
สารพัดจะกล่าวหา ด่าทอ
ตอนนี้เจ้ากรรมนายเวร ก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก
คือเจ้าโทสะ เจ้าโมหะ
เป็นกรรมหนักเข้าไปอีก...แล้วใครจะช่วยได้
<!-- google_ad_section_end -->

 

เพื่อให้เกิดผลในการบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่
ควรกระทำการขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร
ด้วยจิตที่ยอมรับในความผิด ครั้งอดีต ที่ระลึกได้ก็ดี
ระลึกไม่ได้ก็ดี
กระทำการตั้งจิต กราบขอขมากรรมต่อท่าน ที่เคยล่วงเกิน
ก่อทุกข์ภัยกับท่านมาแล้ว
จนบัดนี้ ข้าฯสำนึกในบาปกรรม การกระทำ ที่ได้กระทำต่อท่าน
ขอกราบฝากพระแม่ธรณีเป็นพยาน ในการขอขมากรรมครั้งนี้
กราบลงที่หน้าพระ และให้พระเป็นพยานอีกด้วยก็ดี

หรือจะสวดบท ขอขมากรรม
ซึ่งจะได้ใจความละเอียดชัดเจนมากขึ้นก็ได้

บทสวดขอขมากรรม มีดังนี้.-

 

คำอธิษฐานถึงเจ้ากรรมนายเวร โดยพี่สุรชัย ZOMZARN

"ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานถึงท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทุกท่านทุกภพทุกชาติของข้าพเจ้าทั้งที่เป็นจิตวิญญาณ เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์เดรัจฉาน ทั้งที่เคยพบกันแล้วและที่ยังไม่ได้พบซึ่งข้าพเจ้าได้เคยกระทำผิดพลาดล่วงเกินหรือประทุษร้ายท่านเจ้ากรรมทั้งหลายด้วยกายวาจา ใจ
ด้วยวิบากกรรมชั่วที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำไว้ต่อท่านเจ้ากรรมทั้งหลายข้าพเจ้ากำลังได้รับผลกรรมนั้น ข้าพเจ้ากำลังได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากกล่าวคือ.......
(อธิบายโดยละเอียดที่สุดทั้งนี้เพื่อให้เจ้ากรรมสามารถระลึกได้ว่าได้กระทำสิ่งที่เป็นผลร้ายอะไรไว้ให้แก่เราบ้างซึ่งอาจมีหลายอย่างและพวกเขาอาจหลงลืมบางอย่างไปหากเมื่อใดที่พวกเขาใจอ่อนยอมอโหสิกรรมยกโทษให้แก่เราพวกเขาจักได้ถอดถอนสิ่งที่เป็นผลร้ายนั้นกลับคืนไปทั้งหมด ไม่ทิ้งสิ่งร้ายใด ๆตกค้างไว้กับเรา)
บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นแล้วว่า กรรมและผลของกรรมนั้นมีจริงข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วในบาปกรรมที่ได้เคยกระทำไว้แก่ท่านเจ้ากรรมทั้งหลายทุก ๆท่าน
ข้าพเจ้าจึงกราบขอขมา ขออภัยโทษ ขออโหสิกรรมจากท่านเจ้ากรรมทั้งหลายทุก ๆท่าน
ขอท่านเจ้ากรรมทั้งหลายได้โปรดให้อภัย อโหสิกรรมอดโทษทั้งหมดนั้นให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ด้วยการสำนึกผิดของข้าพเจ้านี้ข้าพเจ้าขอทำสมาธิเพื่อแสดงออกถึงความสำนึกผิดดังกล่าวนั้นขอให้ท่านเจ้ากรรมทั้งหลายทุกท่านได้โปรดอนุโมทนาบุญอันเกิดจากการทำสมาธิของข้าพเจ้านี้หรือขอให้ท่านเจ้ากรรมได้โปรดร่วมทำสมาธิพร้อมกับข้าพเจ้า ณบัดนี้เถิด"

การทำสมาธิจะใช้วิธีใดก็ได้ทั้งสิ้น จะหลับตาหรือลืมตาก็ได้ถ้าใครไม่รู้ว่าจะใช้วิธีใดให้ลองใช้หลักการดังต่อไปนี้
1.สมาธิไร้รูปแบบให้ทำจิตใจให้สงบผ่อนคลาย(ทำอย่างไรก็ได้)พร้อมทั้งมีสติอยู่กับปัจจุบัน
ทำจิตใจให้ผ่อนคลายปล่อยวางเหมือนสภาวะก่อนจะนอนหลับแต่มีสติรู้อยู่ทั้งภายในและภายนอก
มีสติรู้ภายนอก คือยังรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบกาย เช่น เสียงต่าง ๆ แต่ไม่ใส่ใจไม่นำมานึกคิดปรุงแต่งใด ๆ ให้รู้สักแต่ว่ารู้เท่านั้น
มีสติรู้ภายใน คือรู้อยู่ที่กายและจิต
รู้ถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ (เริ่มต้นคนเราจะนั่งนิ่งแข็งทื่อเป็นท่อนไม้คงเป็นไปไม่ได้)อาจรู้อยู่ที่ลมหายใจกระทบปลายจมูกก็ได้
รู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในจิตเช่น ขณะนั้นกำลังมีความนึกคิดอะไรเกิดขึ้น ก็ให้ตามดูความคิดนั้นอย่าบังคับไม่ให้คิด เพราะจะกลายเป็นความเครียด การคิดนึกเป็นธรรมชาติของจิตแค่เราตามดูตามรู้เท่านั้นก็เพียงพอ แล้วจิตจะค่อย ๆ สงบลงเอง
2.สมาธิมีรูปแบบเช่น กรรมฐาน40
หากใครไม่ชอบกรรมฐาน40 ให้ลองใช้หลักการดังนี้
2.1มีฐานวางจิต/ฐานวางสติ โดยใช้ตำแหน่งต่าง ๆของร่างกาย ส่วนใดก็ได้ทั้งสิ้น เช่น จุดกลางกระหม่อม(จักระ7) จุดกลางหน้าผาก(จักระ6), จุดกลางระหว่างคิ้ว, ปลายจมูก(ลมหายใจกระทบ), วงหน้า, เพดานในช่องปาก, ลูกกระเดือก(จักระ5), หัวใจ, จุดกลางหน้าอกเหนือลิ้นปี่2นิ้ว(จักระ4), ลิ้นปี่, จุดกลางหน้าท้องเหนือสะดือ2นิ้ว(ฐานที่7), จุดสะดือ(จักระ3) เป็นต้น
ใช้เป็นจุดที่เรามีสติรู้อยู่ที่จุดนั้นเสมอควรเลือกเพียงตำแหน่งเดียวที่เรารู้สึกสงบสบายที่สุด
2.2มีคำบริกรรมเราสามารถใช้คำใด ๆ ในโลกได้ทั้งสิ้น โดยอาจใช้คำว่า โอม, พุทโธ, สัมมาอรหัง, Jesus, อัลเลาะ ฯลฯ

การทำสมาธิควรทำในเวลากลางวันมากกว่าเวลากลางคืนเพราะในเวลากลางวันจิตมีสติและมีพลังเต็มที่สมบูรณ์กว่าเวลากลางคืนที่ร่างกายและจิตใจอ่อนแรงเหนื่อยล้าแล้ว

มีคนเป็นจำนวนมากที่เข้าใจผิดว่าบุญที่เกิดจากการทำสมาธิสามารถอุทิศให้ผู้อื่นได้จึงอธิษฐานจิตอุทิศบุญนั้นให้เจ้ากรรมนายเวร ซึ่งพวกเขาจะไม่ได้รับและอาจโกรธเคืองผู้อุทิศด้วย
บุญที่เกิดจากการทำสมาธิ การรักษาศีล การสวดมนต์เป็นบุญที่ใครอยากได้ต้องทำเอง ไม่สามารถอุทิศให้แก่กันได้แต่สามารถอนุโมทนาได้
ส่วนบุญที่เกิดจากการ"ให้" จึงสามารถอุทิศ"ให้"แก่กันได้คือ บุญที่เกิดจากทาน เช่น สังฆทาน วิหารทานธรรมทาน
วิธีที่ให้ผลมากต่อเจ้ากรรมในเรื่องของบุญอันเกิดจากทาน คือเมื่อใดที่ผู้ป่วยจะถวายทาน(เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ)ก่อนถวายให้ตั้งจิตอธิษฐานถึงเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ขอเชิญมาร่วมเป็นเจ้าของทานถ้าสามารถทำได้เช่นนี้ เจ้ากรรมทั้งหลายจะได้บุญเต็มร้อยซึ่งพวกเขาย่อมพึงพอใจอย่างมาก แล้วความขุนเคือง อาฆาตต่าง ๆ จะค่อย ๆลดน้อยลงไปเอง

หากผู้ป่วยอยู่ในอาการหมดสติหรือโคม่าบุคคลใกล้ชิดที่เป็นเลือดสายตรง เช่น บิดามารดากับบุตร หรือสายเลือดเดียวกันพี่กับน้อง หรือแม้แต่บุคคลที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่มีความใกล้ชิดกันมาก เช่นสามีกับภรรยา ก็สามารถอธิษฐานสำนึกผิดและทำสมาธิแก้กรรมแทนผู้ป่วยได้แต่หลังจากผู้ป่วยมีสติรู้สึกตัว อาการดีขึ้นแล้ว เขาต้องทำเองต่อเนื่องไปมิฉะนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ

การอธิษฐานสำนึกผิดและทำสมาธิแก้กรรมนี้ต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมาก ห้ามท้อถอยโดยเด็ดขาดเมื่อเริ่มแล้วต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะประสบความสำเร็จเพราะอาจไม่มีโอกาสแก้ตัวเป็นครั้งที่สอง

เจ้ากรรมนายเวรเขาจะทดสอบเราจะวัดใจเรา จะสั่งลาเรา บางที่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลนั่นคือเขาเอาคืนเราเป็นการสั่งลา แต่แท้ที่จริงมันได้ผลแต่เราไม่รู้จึงเลิกราไปเสียก่อนซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่ง

เรื่องวิบากกรรมที่เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรนี้มิได้เป็นกรณีเฉพาะความเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกรณีอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นการงาน ธุรกิจ ครอบครัว ความรักฯลฯ
จึงขอให้พวกเราได้ตระหนักในเรื่องดังกล่าวนี้ให้มากและให้ผู้ป่วยลองปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวแล้วพวกเราจะแปลกใจในผลที่เกิดขึ้นครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ชมภาพบรรยากาศพิธีลงนะ มนต์ดูดทรัพย์รับลาภ โดยหลวงปู่คำเป็ง เมื่อวันที่ 21/6/52
ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ


http://palungjit.org/threads/ขอเชิญลงชื่อลงมนต์ดูดทรัพย์รับลาภ-ครูบาคำเป็ง-วันที่-28มิถุนายนและชมภาพวันที่-21-ที่ผ่านมา-หน้า-15-a.183909/page-15

 

การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้คาถามนตราหรือวัตถุมงคล
แบบง่ายๆสไตล์โคมฉาย
1.ฝากตัวเป็นศิษย์ครูบาอาจารย์ท่านนั้น
2.โน้มน้าวเอาพลังบารมีของท่านออกมา เช่นการอาราธนา
3.สร้างความเชื่อให้บังเกิด
กรณีมีปัญหาให้อารธนาบารมีครูบาอาจารย์นำหน้าเสมอ
ถ้าทำได้เช่นนี้ ไม่ต้องใช้คาถาครับ

 

คุณโคมฉาย กลับมาจากประจวบฯแล้ว
มีเคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพคาถา/วัตถุมงคล มาฝาก

ขออนุโมทนา เป็นอย่างยิ่งด้วยครับ:z10

 

อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
มาช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ทราบข่าวจากหลวงพี่ว่า จะมีผ้าป่าคณะเจ๊มรรค? ในวันที่ 7 ก.ค. 52 ที่วัด
ไม่ทราบว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้างครับ?
ผมกะจะไป แต่อาจก่อน หรือ หลังยังไม่แน่ใจครับ???
ขอบคุณก๊าบ...

 

เป็นผ้าป่าสร้างโรงครัวที่ยังคั่งค้างอยู่ครับ
รายละเอียดคงต้องโทรสอบถามหลวงปู่อีกครั้งนะครับ

 

ขอบคุณพี่เม้าท์ครับ รวดเร็วทันใจ...

 

เจ้ากรรมนายเวรอีกประเภท ที่เรามักคิดไม่ถึง
เพราะไม่ได้ทำให้เราเจ็บป่วย ต้องทนทุกข์ทรมาณทางกาย
แต่ สามารถทำให้เราทุกข์ใจ เรียกได้ว่า
เจาะลึกเข้าสู่เป้าหมายโดยตรงกันเลยทีเดียว "


เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้มีจริงครับ ช่วงนี้ผมโดนเล่นซะหลายรูปแบบ
ปกติผมเป็นทุกข์ยาก เจ้ากรรมนายเวรเลยเล่นที่ของที่วัตถุมงคลของหลวงปู่ทั้งที่บูชาผ่านเน็ทและที่ได้รับจากมือหลวงปู่
ทำให้มีคนมาขโมย แบบที่มีหนึ่งเดียวคือประเภทที่เป็นตำนานไปแล้วเกือบหมด ผ้ายันต์ฝ่ามืออรหันต์ก็ด้วย
ตอนแรกก็รู้สึกเสียดายและทุกข์ใจอยู่เหมือนกัน แต่แล้วเมื่อปัญญาเกิดทุกข์ที่มีก็ค่อยๆหายไปจนหมด
หนอยแน่รู้ว่าเรามีจิตผูกพันธ์อยู่กับหลวงปู่และของที่ได้รับจากมือหลวงปู่แล้วคิดจามาทำให้เป็นทุกข์ด้วยวิธีการแบบนี้ไม่มีทาง
อย่างมากก็ทุกข์อยู่แป๊บนึงพอนึกได้โลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของของเราโดยแท้จริง สิ่งที่เรายึดถือนั้นมันไม่ใช่ของเราจริง ตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิ่งของอะไร แม้กระทั่ง พ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง แฟน กิ๊ก คนรัก เมีย-ลูก(ผมไม่มีเมียมีลูก) คนรู้จัก คนที่ผูกพัน ก็เอาไปด้วยไม่ได้ทั้งนั้น
ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบใจเป็นเรื่องของธรรมดาโลก
เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นแก่ทุกคนบนโลก
แล้วแบบนี้เรื่องอาไรจาทุกข์ต่อไปให้โง่
ทรัพย์สิ่งของ ของวิเศษบรรดามีมีให้ใช้ก็ใช้ ไม่มีให้ใช้ก็ช่างมัน
อีกไม่กี่ปีอาจมีน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ มีการทำลายล้างโลกเกิดขึ้น
ถึงตอนนั้นของที่มีอาจไหลหายไปกับกระแสน้ำหมดก็ได้
แม้ชีวิตเราก็อาจจะจบลงในช่วงที่มีการทำลายล้างโลกก็อาจเป็นได้
ดังนั้นจะมามัวทุกข์ใจเพราะของนอกกายนอกใจไปทำไมกัน
ตั้งหน้าตั้งตาทำบุญ ทำทาน สั่งสมบารมีทั้ง 10 ทัศให้เต็มต่อไปดีกว่า ชีวิตนี้น้อยนัก ไม่ควรปล่อยให้ทุกข์ใดๆเข้าครอบงำจิตใจ
ทำใจให้สบายดีกว่า


" ช่วงที่ไม่รู้ว่าของหาย ไม่ทุกข์ แต่พอรู้ว่าของหายแล้วเป็นทุกข์แบบนี้
ยังต้องฝึกอีกมาก ยังใช้ไม่ได้ ต้องเป็นสุขได้โดยไม่มีทุกข์มาเจือปนซิถึงจะเรียกว่าผู้มีปัญญารู้เท่าทันทุกข์ "

ทุกข์แป๊บเดียวแล้วก็หายไปไม่มีเหลือแม้เพียงเงา ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญาที่รู้เท่าทันทุกข์

เจ้ากรรมนายเวรทำให้เราเป็นทุกข์ได้นั้นเป็นเพราะเรานั้นขาดสติเผลอปล่อยให้ตัวเองเป็นทุกข์

" ถ้าเราไม่ยอมทุกข์ใครที่ใหนก็มาทำให้เราเป็นทุกข์ไม่ได้ "

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ
มาช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ
เสาร์นี้เสาร์ 5 ครับ

 

ขออนุโมทนากับคุณทองดี ที่พยายามรู้เท่าทันทุกข์
ทำสติและปัญญา ให้เกิดขึ้นในตนด้วยครับ

ทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น เป็นทุกข์ที่เกิดขึ้นที่ขันธ์ห้า
(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
ถ้าเรารู้เท่าทัน เพียงถอยออกมาดู
เราก็จะรู้ได้ว่า มันเป็นทุกข์ของขันธ์ห้า อย่างนั้นจริงๆ
เราก็จะไม่เข้าไปร่วมรับทุกข์กับมัน

ธรรมชาติของจิต จะ เกิด ดับ เกิด ดับ รวดเร็วมากจนเราไม่รู้สึก เหมือนไฟฟ้าที่เราใช้อยู่

จิตใหม่ที่เกิดต้องให้มีปัญญา
เมื่อเกิดปัญญาแก่กล้า ทุกข์ก็จะไม่มีวันมากัดกินเรา

จิตมีปัญญา เมื่อละออกจากขันธ์ห้าที่แตกสลาย ก็จะไปสู่ภพภูมิใหม่
ที่สูงกว่าเดิม และภพภูมิก็จะสั้นลงๆ เข้าอรหัตผล มุ่งตรงสู่พระนิพพานต่อไป

ขออนุโมทนากับคุณทองดี อีกครั้งครับ

 

รูปเหมือนหลวงปู่องค์นี้ เป็นรุ่นเดียวกับรูปเหมือนหลวงปู่มหาอุตม์(คอยาว)
พิมพ์ทรงจะหนากว่า กว้างกว่า ใช้เวลาประจุพลัง เสกเดี่ยวโดยหลวงปู่ 12 ปี

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ผมนำพระหลวงปู่องค์นี้ ไปวนรักษาตาที่มองไม่เห็น
ของคุณพ่อ ท่านหนึ่ง ปรากฏว่า เช้าวันรุ่งขึ้น มีข่าวแจ้งมาทางโทรศัพท์ว่า
คุณพ่อมองเห็นแสงแล้ว น่าอัศจรรย์มาก สาธุๆ ขอให้คุณพ่อ มองเห็นได้ตามปกติโดยเร็ววัน นะครับ ด้วยบารมีหลวงปู่

 

****************************************
อาจารย์เม้าตาอินมีความคิดสร้างสรรในการนำพระหลวงปู่ไปใช้หลากหลายดีจังครับ ผมก็พลอยได้ความรู้ไปด้วย อนุโมทนาสาธุ
ขอให้ผู้ป่วยมองเห็นเป็นปรกติเร็วๆนี้เช่นกันครับ

ปู่เสกตั้ง12ปีอยากบูชาขึ้นคอจัง แต่ของผมไปหากรอบใส่ยังไม่ได้เลย ดูเหมือนเนื้อองค์พระนุ่มๆยุ่ยๆยังไงไม่ทราบ จึงไม่กล้าเอาไปเลี่ยมพลาสติค เพราะกลัวพระแตกน่ะครับ ตอนนี้พกใส่กระเป๋าสะพายติดตัวไปก่อน 55