คิด+มีพลังแค่ไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผีเสื้อราตรี, 19 กรกฎาคม 2009.

  1. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    ทำไมเวลาที่เราคิดสิ่งที่ดี มันรู้สึกแปลกๆเมือนมีพลังบางอย่างออกจากร่างกายที่สามารถถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้ใครที่อยู่ใกล้ๆเราก็จะรู้สึกดีไปด้วย ความคิดนี้มีพลังอย่างนี้ด้วยหรือ หรือว่าเราคิดไปเองpig_ballet
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    ผมว่าเป็นเรื่องจริงครับ ถ้าคิดดี ยิ่งถ้าดีเเบบบริสุทธิ์ไม่มีสิ่งใดเคลือบเเคลง คนรอบข้างเราจะสัมผัสถึงสิ่งดีนั้นได้ด้วย
     
  3. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    การคิด+นี้เราสร้างขึ้นมาหรือเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจจริงๆ เพราะบางที่เราก็พยายามคิด+ แต่บางครั้งไม่ต้องคิดอะไร แต่ความคิดมันก็+เอง บางครั้งเราไม่ได้คิดร้ายกับใครแต่รู้สึกไม่อยากยุ่งกับใครและไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเรา แต่ความรู้สึกตอนที่คิด+คือไม่ได้คิดถึงตัวเองเลยในใจคิดแค่อยากให้ผู้อื่นมีความสุขไม่มีเรื่องทุกข์กายและใจ แสดงว่าจิตส่งไปหาคนอื่นอย่างนี้เรียกลืมกายลืมใจไหมหนอfly_pig
     
  4. jokerpalm

    jokerpalm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +46
    เป็นสิ่งถูกครับ เช่น ถ้าเราหงุดหงิด คงไม่่มีใครเ้ข้าใกล้เราหรอกจริงไหม

    บางคนเค้าจะรู้ทันทีครับว่าเราหงุดหงิด โดยที่เราไม่แสดงอาการอะไรเลย
     
  5. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    จริงครับ ถ้าเราคิดดีใครๆก็อยากจะคุยกับเรา แต่ถ้าเราคิดไม่ดีหรือจิตตกอยู่แค่คนอื่นเห็นหน้าก็อยากกวนประสาทเราหรือไม่ชอบหน้าเราขึ้นมาทันที ใจของคนเราสื่อสารกันได้และเป็นการตอบสนองทางอารมณ์ครับ เพราะเราแต่ละคนก็คือดวงจิตเดียวกันนั่นเอง
     
  6. kanalove

    kanalove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +386
    ดวงจิตเดียวกัน???

    มันเป็นยังไงอะคะ
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เดาว่า น่าจะหมายถึง เป็นธาตุรู้ประเภทเดียวกัน
    ดวงจิตของแต่ละคน เป็นธรรมธาตุแบบเดียวกัน
    แต่เพราะองค์ประกอบที่เพิ่มมาเป็นสิ่งแปลกปลอมในภายหลังมันสะสมมาต่างกัน
    ก็เลยแสดงออกต่างกันไป ถ้ารู้วิธีสละออก สลัดสิ่งแปลกปลอมออก สำรอกออก
    ไม่ยึดสิ่งแปลกปลอม(กิเลสตัณหา) เราก็มีสภาวะธรรมที่สิ้นกิเลสได้เหมือนกัน
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าตอนที่จิตส่งออกไปหาคนอื่น แล้วมีสติรู้ตัวอยู่(แว๊บนึงหรือหลายๆแว๊บก็ได้)
    ก็ได้ชื่อมีสติรู้กายรู้ใจแล้ว แต่ถ้าจิตมันส่งออกแล้วไม่รู้ตัว ก็เรียกว่าลืมกายลืมใจ

    เท่าที่อ่านและฟังธรรมมา..นะ(ยังไม่รู้ด้วยตัวเอง)
    เข้าใจว่า จิตสิ่งออกมันเป็นธรรมชาติของจิตที่ครองขันธ์5อยู่
    มันต้องเกิดจิตส่งออกตลอดเวลา ไม่เคยหยุดทำงานแม้แต่นอนหลับก็ยังฝัน(คิด)
    ส่วนที่จิตส่งออกนอกมันเป็นธรรมชาติปกติของจิต แต่มันมีอีกอันเป็น
    สิ่งแปลกปลอมเรียกว่า ใจปรุง มันเกิดจากกิเลสพอจิตส่งออกมาใจมันก็
    ปรุงกลายเป็นต้นทุนใหม่ส่งให้จิตที่เกิดต่อแล้วส่งออกรับเป็นมรดก
    วนลูปกิเลสปรุงจิต จิตปรุงกิเลส ต่อไปถ้าไม่มีสติมารู้ตัวเป็นช่องว่าง ตัด
    ตอนออกมา ก็ดำเนินเป็นเรื่องเป็นราวเป็นมหากาพย์ทำให้เราวุ่นไปเลยก็มี
    สติรู้ตัวที่พูดถึงนี่ไม่ใช่ สติที่เราตั้งท่าไว้ก่อนนะ แต่หมายถึงจิตที่มันส่งออก
    ถ้าฝึกสติปัฏฐาน4 ได้ถูกวิธี จิตที่มันส่งออกมันมีบางช่องที่เกิดประกอบด้วย
    สติเจตสิก ทำให้จิตมันมีช่องรู้สึกตัว ตัดกรรม ตัดเรื่อง เหมือนน้ำมันหยุดไหล
    เอง เรียกว่า จิตมีสติรู้ตัวขึ้นมาเอง เหมือนตื่นจากฝันร้าย หรือว่าฝันก็รู่ว่าฝัน
    คิด รู้ว่าคิด คิดดีรู้ว่าคิดดี คิดร้ายรู้ว่าคิดร้าย เหมือนรู้สึกตัวว่าตอนนนี้ทำดีอยู่นะ
    ตอนนี้หลงอยู่นะ ตอนนี้จิตวิปลาสไปแล้วนะ ตอนนี้จิตหยุดวิปลาสนะ

    มันมีเรื่องอีกแบบ ที่เราสังเกตตัวเราเอง
    เราเองก็มีการแสดงออก 2 แบบ คือ แบบธรรมชาติของตัวเราเองที่ไม่มีฟอร์ม
    กับแบบ เก๊กๆ มีฟอร์ม อย่างตอนหัวเราะ ก็มีหัวเราะด้วยธรรมชาติที่มันขำเอง
    บางทีขำจนน้ำตาไหลขำแบบท้องคัดท้องแข็ง กับอีกแบบคือแกล้งขำหรือ
    แค่นหัวเราะออกมาคือจิตมันไม่ขำด้วยแต่เราทำเพื่อเอาใจคนอื่น ทุกอารมณ์
    ของเราถ้าสังเกตตัวเองมันก็จะมี2แบบ คล้ายๆแบบนี้ เหมือนธรรมชาติตัวตน
    ที่เป็นตัวจริงของเรา กับตัวปลอมๆที่เป็นบุคคลิกสวมหน้ากากไว้เวลาอยู่ต่อหน้า
    คนอื่น ถ้าเราสังเกตการกระทำของเราเอง ว่าอันไหนทำจากความรู้สึกส่วนลึก
    ที่เป็นธรรมชาติของเราเอง อันนั้นจะมีผลมาก มีอานิสงค์มาก แต่ถ้ามาจากส่วน
    ที่เป็นตัวปลอมๆไม่ได้มาจากใจทำเพราะกิเลสในใจสั่งมา อันนี้มันก็ได้ผลเป็น
    ขึ้นๆลง ไม่หนักแน่น เดี๋ยวชอบ เดี๋ยวไม่ชอบ เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป ลมเพลมพัด

    ความคิดของเราก็เหมือนกัน มันมีทั้งที่คิดออกจากธรรมชาติตัวตนของเรา
    เองจริงๆ และส่วนของใจปรุงคิดเสริมเข้าไป

    ความคิดออกจากธรรมชาติตัวตน
    ของเราคือจินตนาการ จิตมันปรุงจากความรู้ที่บันทึกไว้ เคยรู้อะไรก็เอามา
    จินตนาการเพิ่มเข้าไป ประยุกต์เข้าไป จนบางทีจำเค้าเดิมไม่ได้ก็มี

    ความคิดที่ออกจากใจปรุงของเราเคยจำอะไรมาก็เอามาแปะ เอามาเสริม
    เป็นความจำเป็นกรอบ เป็นความคิดในกรอบ เข้าฟอร์มมีแบบมีแผน
    เรากำหนดไว้ว่าให้เป็นแบบนี้ เราจงใจเขียนกรอบไว้แล้วทำตามนั้น

    ปล.นานๆจะได้มาเจอกันนะ เลยเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ผีเสื้อฟังว่าตอนนี้
    เป็นแบบนี้ สังเกตใจตัวเองให้เยอะๆ แล้วจิตจะมีสติขึ้นมาเอง จิตมีสติรู้สึกตัว
    เรื่องไหนได้ มันจะจืดแล้วคลายความหลงออกมาเอง เช่นเคยชอบคนหน้า
    แบบนี้ พูดจากแบบนี้ พอจิตมีรู้สึกตัวขึ้นมาเห็นตามความเป็นจริง มันก็หมด
    อารมณ์หลงไปเลย กลายเป็น เห็นอะไรก็ไม่รู้มันไม่อินแล้ว ก็ลดความทุกข์ใจ
    ลงไปได้ เวลาสุข ก็รู้ว่าสุขมันเป็นอย่างนี้ เวลาทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์มันเป็นอย่างนี้
    แล้วเวลาไม่สุขไม่ทุกข์มันเป็นอย่างนี้ พอรู้ไปมากๆเข้า มันมีข้อเปรียบเทียบว่า
    เออ... เวลาไม่สุขไม่ทุกข์ ใจมันปกติ มันมีความสุขแบบเงียบๆนะ มันมีรสชาติ
    อีกแบบ ที่ไม่ต้องสุขมั่งทุกข์มั่ง แล้วจิตเรามันจะเลือกเอง จิตเรามันก็ไม่อยาก
    เป็นทุกข์หรอก แต่เพราะมันไม่รู้ จิตไม่มีสติ มันก็เลยเลือกไม่เป็น กินดะไปหมด
    ทั้งสุขและทุกข์ กินไม่เลือก กินจนเป็นอาหารเป็นพิษถึงได้หยุด ถ้าจิตมีสติจำทุกข์ได้ก็
    เลิกกินได้ถาวร ถ้าจิตไม่มีสติมันหยุดได้ชั่วคราวพอหายทุกข์มันก็เริ่มวัฏจักร
    หาทุกข์ใส่ตัวอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  9. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    เราคือคนเดียวกันมาตลอด แต่ภาพลวงตาที่ฉายขึ้นมาจากจิตใจทำให้เราเข้าใจผิดว่าแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วเราก็เหมือนคนเดียวกัน เมื่อคุณไม่สบายใจอะไรสักอย่างคนรอบข้างที่มาพบเห็นก็จะรำคาญหรือไม่อยากอยู่คุณ แต่ถ้าวันไหนคุณรู้สึกดีกับทุกๆคนและเชื่อว่าคนอื่นก็รักเราเช่นกัน คนอื่นก็จะมีความสุขแม้ได้แค่อยู่ใกล้ ผู้ที่รักตัวเองและผู้อื่นอย่างแท้จริง แค่เดินผ่านคนอื่น ก็พาให้คนๆนั้นรู้สึกดีกับเขาไปด้วยแม้โดยไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม
     
  10. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เท่าที่อ่านและฟังธรรมมา..นะ(ยังไม่รู้ด้วยตัวเอง)ขนาดแค่อ่านและฟังมานะ เล่าได้ขนาดนี้เลยน่าจะมาจากประสปการณ์จริงแล้วหละ[​IMG]
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีประสบการณ์ เห็นแค่หางน่ะ แต่จินตนาการเก่ง เลยเขียนหัว ออกมาได้
    แบบว่า รู้ทุกข์ แต่สมุทัยยังไม่เห็น แต่ได้อ่านธรรมะของหลวงปู่หลวงพ่อ
    หลายองค์ เลยจินตนาการ เรื่องจิตที่ครองขันธ์5 มันเกิดการทำงานเป็น
    จิตส่งออก เป็นจิตปรุงกิเลส กิเลสปรุงจิต ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้
    แต่ถ้าทำได้จริงๆ รู้ทุกข์จนเห็นสมุทัย แล้วละได้ถึงจะเรียกว่ารู้จริง
    ทำได้เป็นผลจริง ไง

    ปล.คนมันโม้เก่งอะ อ่านแค่ ก. มันคิดไปให้ถึง ฮ. ถ้าขาดสตินะ ก็คงเลิก
    ปฏิบัติธรรมไปแล้ว เพราะคิดว่ารู้หมดไม่มีอะไรต้องรู้อีกแล้ว โชคดีที่เรา
    รู้แบบแห้งๆ ไม่มีแสง สี เสียง ตระการตา เลยไม่ติดมาก มีแต่ขี้เกียจรู้แล้ว
    เลยปฏิบัติธรรมหัดรู้กิเลสไปเรื่อยๆ รู้ว่ายังเป็นของปลอมอยู่มันเสื่อมได้
    ตายไปก็หมด ต้องไปเริ่มหัดรู้ใหม่อีก แล้วถ้ารอบหน้าไม่มีธรรมให้อ่านนะ
    ก็คงลืมยาวไปเลย จนกว่าจะได้เจอธรรมะแท้ๆ อย่างนี้มาสะกิด ก็คงจะ
    รู้แบบนี้อีก ก็เลยรู้ว่า ของจริงมันจะแน่นอนกว่า ทำให้ได้ในชาตินี้นะ จะได้
    ไม่ต้องทุกข์อีกนานๆ ทุกข์ไม่รู้จบ
     
  12. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
  13. gordberk

    gordberk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +23
    ลองอ่าน the top secret ดูครับ เค้าพูดเกี่ยวกับความคิดมีแรงดึงดูด สนุกดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...