...เริ่มกระทู้..ตามรอยพระเกจิ..๑ ตค.นี้

ในวันที่ 2 มีรูปหล่อบรมครูปู่ฤาษีพัดโบก ให้บูชาด้วยหรือเปล่าครับ?

แล้วถ้าจะซื้อของไปถวายหลวงปู่ ควรเป็นอะไรดีครับ ที่ท่านชอบฉันท์?

 

สงสัย พี่วิ จะไปบูชาน้องกุมารแน่เลย อิ อิ

 

พอมีครับ ผลไม้แอปเปิ้ล น้ำผึ้ง นมสด

 

พรายจินดาแค่เห็นผงก็รู้ว่าขลังแล้ว นี่ได้หลวงปู่ครูบาสิงห์โตเสกอีก.......อย่างนี้ต้องเรียกว่าขลังยกกำลัง2

 

ผมว่าเพื่อนๆช่วยกันฝากลิ้งก์กระทู้ไปเรื่อยๆต้องมีผู้เข้าชมถึง ๙๙๙ แน่ๆ ถึงวันนั้นต้องมีแจกของที่ระฤกกันหน่อยแล้ว

 

หนอยแน่ เดี๋ยวนี้มีแซวเป็นแล้วนะจ๊ะ

 

พวกมาเลย์สิงคโปร์จองกุมารผ่านศูนย์มาแล้วครับ เขาชอบของแรงๆแนวนี้ ใครมีวิชาฝากลิ้งก์ช่วยขยายใหญ่หน่อยครับ

 

เดี๋ยวจะลงคาถาปลุก คาถาเลี้ยงเรียกกินข้าว คาถาเรียกให้ตามไปไหนมาไหน คาถาจินดามณีไว้ให้เรียกลาภ

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </center> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">hanada9, bannar_d, มากับพระครับ, pornchai2500, chatchai_/\_, ton3170, pun-pun </td> </tr> </tbody></table>

 

นอกจากรถเมล์สาย 21 หรือ 21ก ที่จะผ่านหน้าวัด ก็ยังมีรถสี่ล้อเล็ก (ซูบารุ) สาย 99 กับ 88 สามารถไปถึงวัดได้เช่นกัน โดยเฉพาะสาย 88 สุดอู่จะอยู่หน้าวัดเลยครับ. โดยสามารถไปขึ้นรถสี่ล้อเล็ก (ซูบารุ) ได้ที่ตลาดบางปะกอก ใช้เวลาประมาณ 25 ถึง 30 นาทีก็ถึงวัดแล้วครับ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร. ส่วนท่านที่ขับรถไปเอง ที่จอดรถในวัดกว้างขวางมากไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถครับ.

หลังจากกราบลป.แล้ว อย่าลืมไปกราบหลวงพ่อไกรสร (พระประธาน) นะครับ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด.

 

ติดภาระกิจครับเสียดายจัง อย่าลืมกันเอาไว้ให้ก็แล้วกัน แล้วจะไปรับขวัญลูกชายที่วัดอโยธยาเอง

 

ok.

 

คาถาทั้งยาวทั้งจำยาก (ความจำไม่ดี) แล้วเขาต้องกินทุกมื้อเหมือนเราหรือเปล่า และตอนกินต้องแบ่งอาหารให้เขาด้วยหรือเปล่า ถ้าเราลืมเขาจะโกรธและแกล้งเราหรือเปล่า เสียวจัง....

 

กุมารทองพรายจินดาสร้าง ๙๙๙ ตน เนื่องจากศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมากราบหลวงปู่ฯเห็นกุมารทองใหญ่ตนหนึ่งถูกเลี้ยงไว้ที่หอสวดมนต์บริเวณที่ท่านนั่งรับแขกอยู่ ทำให้หลายๆคนรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ฯจึงเลี้ยงกุมารทอง เรื่องราวเป็นมาอย่างไร?

ความจริงแต่เดิมนั้นก่อนที่หลวงปู่ฯจะมาอยู่วัดอโยธยา ท่านเจ้าอาวาสได้ไปเก็บกุมารทองตนนี้มาจากวัดใหญ่ชัยมงคล เข้าใจว่าเดิมเขาคงซนมากไปหน่อย เจ้าของเก่าเลยนำมาปล่อยทิ้งไว้ เมื่อเก็บมาแล้วก็ได้ตั้งไว้หน้าพระบนหอสวดมนต์ พอหลวงปู่เข้ามาอยู่จำวัดที่นี่ ลูกศิษย์จึงได้ย้ายกุมารขึ้นไปไว้บนหลังตู้ข้างๆ

ปรากฏว่าคืนแรก กุมารได้มาร้องไห้จนพระอุปฐากที่นอนอยู่ข้างหน้าต้องสะดุ้งตื่นมาค้นหาที่มาของเสียง แต่ไม่พบใคร ท่านจึงนอนหลับต่อ สักพักท่านก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเสียงร้อง ท่านถูกดึงขา จนต้องขึ้นมาลุกสวดมนต์ด้วยความกลัว หลังจากนั้นรุ่งเช้าหลวงปู่ฯจึงได้ทำพิธีผูกและเลี้ยงเขามาถึงปัจจุบัน โดยตั้งชื่อให้ว่า พรายจินดา พร้อมกับลองเรียกไปช่วยบิณฑบาตรให้ญาติโยมใส่บาตรให้มากหน่อย ปรากฏว่าวันถัดไปพระอุปฐากรูปนี้ไม่ชวนเจ้าพรายจินดากุมารทองตัวเก่งไปอีกเลย เพราะคนใส่บาตรมากจริงๆจนท่านถือไม่ไหว เมื่อยแขนมาก กว่าจะกลับถึงวัด

ตรงนี้ทำเชื่อมั่นได้ว่าพรายจินดานั้นเก่งทางเรียกลาภ ความศักดิ์สิทธิ์และเก่งกล้าของกุมารทองพรายจินดานั้นหาใช่มีเพียงแค่นี้ อย่างในคราวปลุกเสกพระฤๅษีพระลูกศิษย์ของหลวงปู่รูปหนึ่งที่นั่งร่วมปลุกเสกอยู่ด้วยก็เห็นพรายจินดาพาเพื่อนๆมาวิ่งเล่นรอบมณฑลพิธีหลังจากที่ญาณปู่ฤๅษีพัดโบกท่านกลับขึ้นไปแล้ว แสดงว่าพรายจินดานั้นไม่ใช่เป็นกุมารทองระดับธรรมดาแต่เป็นกุมารทองหัวโจก..แรงจริงๆ

พอลูกศิษย์หลายคนทราบประวัติของพรายจินดาจึงอยากขอไปบูชาที่บ้าน แต่หลวงปู่ไม่สามารถให้คนหนึ่งคนใดได้ ท่านจึงต้องผูกพยนต์ถ่ายทอดจิตวิญญาณสร้างกุมารทองพรายจินดาขึ้น ๙๙๙ ตน โดยพระอ.ครรชิต วัดโขดทิม อ.เมือง จ.ระยอง ศิษย์หมอหลาบ สัปเหร่อผู้ไปนำกะโหลกพรายมาตำให้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้นำผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมที่ได้ตกทอดกันมา ถวายให้หลวงปู่ครูบาสิงห์โต พร้อมกันกับหลวงพ่อสัญญาและหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วได้ถวายผงยาจินดามณีที่หลวงปู่เจือบดเองอย่างเต็มพิธี มาร่วมผสมบรรจุ ทำให้พรายจินดา กลายเป็นกุมารทองที่เข้มขลังสุดๆในยุคปัจจุบันและน่าจะเก่งมากในด้านเรียกโชคลาภ ค้าขาย เพราะผงทั้งสองรวมทั้งประวัติของเจ้าพรายจินดาก็เก่งทางนี้อยู่แล้ว อีกอย่างมนต์จินดามณีนั้นเป็นมนต์ที่นางยักษ์พันธุรัตน์มอบให้พระสังข์ทอง(ขณะที่ยังเป็นเด็กน้อย)ใช้เรียกเนื้อเรียกปลา ก็เหมาะจะนำมาใช้เรียกโชคลาภให้แก่ผู้ที่เลี้ยงกุมารทองนี้<O</O

</O</O

คาถาปลุกกุมารทอง

<O</O​

จิเจรุนิ จิตตัง เจตะสิกกัง รูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา เจ้าพรายจินดา อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ กะจะพะสะ โสสะอะนิ

ใช้เป็นคาถาต้นปลุกก่อนว่าคาถาอื่นๆ<O</O
<O</O

คาถาเรียกกุมารไปด้วย

<O</O​

เอหิตาตะปิยะปุตตะ ปุเรถะมะมะปาระมิง หัทยังเมภิสิญเจ ถะกะโรถะวะจะนังมะมะ

ให้ว่าก่อนเรียกพรายจินดาไปไหนกับเรา บอกให้คุ้มครองระวังเราให้ด้วย หรือ จะพาไปช่วยทำอะไรก็บอกไป.................
<O</O
<O</O

คาถาเรียกกินข้าว

<O</O​

โสสะอะนิ สะอะนิโส มะมะปริภุญชันตุ มะมะมามา อะนิโสสะ พรายจินดามากินข้าวกับพ่อ/แม่............กินให้อิ่มแล้วช่วยพ่อ/แม่......ทำ.........

ใช้เวลาเรากินข้าวแล้วเรียกเขากินข้าวถ้าลืมเรียกไม่เป็นไร การเรียบ่อยๆเป็นการกระตุ้นให้จิตเจตสิกของเขาตื่นตัวอยู่เสมอ
<O</O
<O</O

คาถาใช้ในทางเรียกทรัพย์สินโชคลาภหรือทำการใดๆให้สำเร็จ

<O</O​

จินดามณี สหัสสะโกฏิเทวานัง มะนุสสะเทวานัง สมณะจิตตัง มหาสมัยจิตตัง สรรพจิตตัง เอหิ อาคัจฉาหิ ปะริเทวันติ ปิยังมะมะมามา เจ้าพรายจินดาจงไปเรียก...โชค/หาลาภ/หาลูกค้าหรือทำการ....ใดๆก็กล่าวไป.......ให้สำเร็จ มาให้ พ่อ/แม่.........ไว ไว

ใช้ภาวนาเวลาให้พรายจินดาไปเรียกโชคลาภ หรือเรียกลูกค้าให้มาซื้อของ...............<O</O
<O

 

จริงๆแล้ว ที่เคยเลี้ยงมา คาถาไม่จำเป็นต้องใช้เลยก็ยังได้ค่ะ
เขารับรู้ด้วยจิต สำเร็จด้วยจิต แค่พูดบอกเขาดีๆ เขาก็รับรู้โดยที่ไม่ต้องท่องคาถาเลย
จุดธูปก็ไม่ต้องด้วยซ้ำ อย่าไปเครียดกับเรื่องพวกนี้ หมั่นทำบุญแล้วเรียกเขามาอนุโมทนา

แล้วเรื่องที่ว่าถ้าเราลืมให้ของกิน เขาจะว่าหรือเปล่า
สมัยนี้กุมารที่จะมากระโดดเตะก้านคอเจ้าของน่ะ ไม่มีหรอกค่ะ
ถ้าเขาไม่พอใจ เขาอาจจะไม่ทำตามที่เราขอให้ช่วย ก็เท่านั้น

การเลี้ยงกุมาร สำคัญที่สุดคือ สัจจะ
เราบนอะไรหรือสัญญาอะไรกับเค้า ถ้าพูดออกมาแล้วต้องทำ
ห้ามละเลยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่อยู่กับคุณ

บางคนอาจจะสื่อกับเขาไม่ได้ ก็คิดว่าเขาไม่อยู่ เขาไม่มีตัวตน
ขอเหอะค่ะ คุณสื่อไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
รับเขาไปแล้ว ปฏิบัติกับเขาให้ดี สิ่งที่คุณไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มี..

 

ผู้ที่รู้อาคมจริงๆย่อมจะทราบว่ากุมารทองนั้น ทำได้ ๒ แบบ คือ
๑.นำจิตวิญญาณ(ผี)เชิญใส่หุ่นรูปปั้น
๒.ผูกพยนต์โดยเรียกจิต เจตสิก รูป นิมิตร มากำกับด้วยอาคม แบบหุ่นพยนต์นั่นเอง
เจ้าพรายจินดาก็สำเร็จด้วยการผสมผสานของทั้ง ๒ วิธี โดยจำลองจิตวิญญาณของพรายจินดาตนที่วัดมาเป็นต้นแบบ โคลนนิ่งจิตเจตสิกมากำกับอาคมผูกเป็นพยนต์ จึงไม่ต้องเซ่นทุกวัน ไม่รู้จักโกรธเจ้าของ แต่ควรเรียกกินข้าวกับเราทุกครั้งหากไม่ลืม จะเป็นการดีกว่า เพราะได้กระตุ้น จิตเจตสิก ของเขาบ่อยๆ จะได้ตื่นตัวตลอดเวลา แต่ถ้าลืมก็ไม่เป็นไร หุ่นพยนต์ไม่ต้องกินทุกวันนี่ ไม่ต้องเสียวเลยพี่...อย่างอื่นเสียวกว่า..อิ..อิ.

 

ขอบใจน้องวิ.มาก ที่มาช่วยพี่เอกขยาย (พี่เอกทำไม่เป็น)