ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สหรัฐและออสเตรเลียจะเชิญจีนร่วมซ้อมรบ




​

แคนเบอร์รา 3 ก.ย. - หนังสือพิมพ์แฟร์แฟ็กซ์ รายงานว่า สหรัฐและออสเตรเลียจะเชิญจีนเข้าร่วมการซ้อมรบ 3 ฝ่าย ท่ามกลางความวิตกกังวลในการพัฒนากองกำลังของรัฐบาลจีน

พล.ร.อ.ทิโมธี คีตติง ผู้บัญชาการทหารสหรัฐประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า การซ้อมรบร่วมกันจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างเสถียรภาพให้กับภูมิภาค พล.ร.อ.คีตติง และ พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองของออสเตรเลีย ได้พบปะหารือกันในสัปดาห์นี้ และเห็นพ้องในการส่งคำเชิญให้จีนเข้าร่วมซ้อมรบ พล.ร.อ.คีตติง กล่าวด้วยว่า เราต้องรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลจีนให้มากขึ้น

การซ้อมรบดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการซ้อมรบทางทะเลและทางบก แต่อย่างไรก็ตาม การซ้อมรบอาจสร้างความไม่พอใจให้กับประเทศมหาอำนาจในแถบนี้ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งทางสหรัฐกล่าวว่า สามารถควบคุมได้ และจะเชิญนานาประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

การซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้นจากความวิตกกังวลในการพัฒนาเพิ่มขนาดของกองกำลังจีน โดยก่อนหน้านี้ได้มีรายงานเตือนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐถึงการพัฒนาอาวุธของรัฐบาลจีน ซึ่งอาจสั่นคลอนเสถียรภาพทางการทหารของเอเชีย. - สำนักข่าวไทย

2009-09-03 15:13:13

ที่มา http://news.mcot.net/international/<!-- google_ad_section_end -->





--------------------------------------------------------------------------------

ดูเป็นการซ้อมรบร่วมแต่เป็นการวัดกำลังเพื่อประเมิน กันมากกว่าครับ

ว่าใครมีอาวุธอะไรในมือบ้าง

เค้ารางแห่งสงครามยิ่งใกล้เข้ามา

 

ขอบคุณค่ะช่วยกันเตือนภัยดีเยี่ยมจริงๆนะคะ
อ้อ ถ้าจะขอ SMS กรณีเปลี่ยนเบอร์มือถือ ต้องทำอย่างไรดีค่ะ

 

ดีมากเลยครับเพราะผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่เลยไม่ได้รับข่าวสารไม่รู้จะแจ้งที่ไหนอ่ะ เลยไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวตอนไหน ต้องคอยอัพเดทที่เวปเอง แต่มันจะช้ามาก...fly_pig

 

ผมไม่ได้ลงทะเบียนไว้อ่ะ อยากได้บ้างครับ

 

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

 

อยากจะเตือนทุกท่านที่มีโอกาสได้อ่านว่า... สัจจะเป็นเรื่องสำคัญมากต่อสัตว์โลกทั้งมวล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

จะขึ้นกระทู้ใหม่ให้ครับ และขอเน้นให้ขอเพื่อท่านที่ตั้งใจจะนำข้อมูลการเตือนภัยไปใช้ เพื่อช่วยเหลือส่วนรวมเป็นอันดับแรกๆก่อนครับ ท่านที่เป็นนักข่าว ผู้สื่อข่าว หากรู้ได้เร็วไปเตือนคนได้จำนวนมาก ผู้ประสานงานของผู้ให้บริการมือถือค่ายต่างๆที่ ต้องการช่วย นำการเตือนภัย ประกาศออกผ่านทาง เอสเอ็มเอสของ ผู้ให้บริการเพิ่มเรายินดีอย่างยิ่ง เพื่อที่งานเตือนภัยจะได้ช่วยชีวิตผู้คนได้มากที่สุดครับ หรือ หากจะเมตตามาช่วยตรงการสงเคราะห์การส่งเอสเอ็มเอสเตือนภัยในระบบได้ยิ่งดีครับ

ส่วนการขอเพื่อช่วยญาติมิตร ครอบครัวเป็น ลำดับ ประการต่อไป

แต่หากขอเพื่อ รู้สึกว่าเขาขอได้ฟรี ก็ขอบ้าง นี่ อยากให้ทราบว่า เราใช้ปัจจัยจากกองทุนพลังจิตพิชิตภัยพิบัติและจาก เงินส่วนตัวของอีกหลายๆท่านซึ่ง

ต้องเจียดไปใช้ในงานอื่นอีกมากมายครับ

และขอให้อัพเดท กระทู้ข้อความเตือนภัยผ่านอีเมล์ด้วย เนื่องจากมีผู้นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์กัน เช่น นำไปประกาศเรี่ยไร หรือเพื่อเรื่องส่วนตัวอื่น

ตรงนี้ต้องขออนุญาตขึ้นกระทู้ทั้งสองส่วนนี้ใหม่หมดครับ

เพื่องานส่วนรวมจะได้เร็วขึ้น

 

"สงครามกลางเมือง"
จากสองนคราประชาธิปไตยสู่สงครามกลางเมือง ​

​

ไม่ทราบว่าหลายท่านจะมีความรู้สึกคล้ายๆ กับผมหรือเปล่า ที่มีความกังวลใจในความเป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของสังคมไทย และเมื่อได้รับฟังผลจากโพล์สำนักต่างๆ แล้ว ยิ่งมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นกว่าสังคมไทยกำลังขยับเขยื้อนเข้าไปสู่การติดกับ เหมือนกับรูปแบบเดิมๆ ที่เราๆ ท่านๆ เคยเผชิญ ความจริงแล้วถึงแม้ผลจากโพล์สำนักต่างๆ จะไม่ได้ทำการสำรวจจากประชากร (คนไทยทั้งประเทศ) เป็นเพียงแค่กลุ่มตัวอย่าง แต่อย่างน้อยก็จะมีนัยยะที่สามารถยอมรับได้ที่น่าจะสูงกว่า 95% ​

ซึ่งประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความอึดอัดใจในสังคมไทยเรื่องหลักๆ คือ ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการยุบพรรคการเมือง ประเด็นข่าวลือของการปฏิวัติของทหาร ประเด็นทางเศรษฐกิจ และประเด็นอื่นๆ อีกหลายประการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนถึงปัญหาที่ประชาชนคนไทยมีความรู้สึกร่วมพร้อมๆ กันว่า วันนี้ประเทศไทยเราต้องการที่จะเดินไปข้างหน้า มากกว่าที่คนในชาติบางกลุ่มจะมัวแต่ดิดแก่งแย่งชิงดีกัน เอาชนะคะคานกัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ประเทศชาติจะไม่ได้อะไรเลย และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้นคือ การเกิดสงครามกลางเมือง​

คำว่าสงครามกลางเมือง หรือ Civil War ในภาษาอังกฤษ มีผู้ที่ให้ความหมายไว้มากมาย เช่น ใน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายไว้ว่า [1] สงครามกลางเมือง น. สงครามระหว่างชนที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกัน หรือในวิกิพีเดียภาษาไทย ได้มีผู้ให้ความหมายของสงครามกลางเมืองไว้ ดังนี้ [2] “สงครามกลางเมือง (Civil war) เป็นสงครามภายในกลุ่มคนที่มีวัฒนธรรม สัญชาติ หรือสังคมแบบเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแย่งชิงอำนาจหรือดินแดน สงครามกลางเมืองอาจนับเป็นการปฏิวัติ (Revolution) ได้ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่ภายในสังคมนั้นหลังจากสิ้นสุดสงคราม นักประวัติศาสตร์บางกลุ่มยังได้นับรวมเอาการจลาจล (Insurgency) เป็นสงครามกลางเมืองประเภทหนึ่งด้วยถ้ามีการสู้รบระหว่างกองทัพอย่างเต็มรูปแบบ ปัจจุบันความแตกต่างระหว่าง ‘สงครามกลางเมือง’ ‘การปฏิวัติ’ และ ‘การจลาจล’ นั้นไม่ชัดเจนนัก ขึ้นอยู่กับบริบทในการใช้งาน”​

ส่วนใน คู่มือราชการสนามว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ พ.ศ.2540 (รส.100-20) ได้กล่าวถึงคำว่า สงครามกลางเมืองไว้ดังนี้ [3]สงครามกลางเมือง คือการขัดแย้งภายในประเทศที่มีลักษณะดังนี้ ​

• ฝ่ายก่อความไม่สงบยึดครองและควบคุมพื้นที่เอาไว้ได้
• ฝ่ายก่อความไม่สงบจัดตั้งรัฐบาลเข้าบริหารพื้นที่ที่ควบคุม
• ประเทศอื่นให้การยอมรับรัฐบาลของฝ่ายก่อความไม่สงบ และแสดงจุดยืนต่อความขัดแย้งอย่างแน่ชัด
• ฝ่ายก่อความไม่สงบมีกำลังทหาร ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะ ถืออาวุธโดยเปิดเผย ติดเครื่องหมายโดยแน่ชัด และปฏิบัติตามกฏการทำสงคราม
• สถานการณ์อยู่ในสภาวะการเป็นปฏิปักษ์โดยทั่วไป มีการเผชิญหน้ากันโดยตรงด้วยกำลังทหารเป็นส่วนใหญ่​

สำหรับพจนานุกรมออนไลน์ The Merriam-Webster Online Dictionary ได้ให้ความหมายไว้ว่า [4] civil war (n.) - A war between opposing groups of citizens of the same country และในวิกิพีเดีย ได้มีผู้ให้ความหมายของสงครามกลางเมืองไว้ ดังนี้ [5] A civil war is a war in which parties within the same culture, society or nationality fight against each other for the control of political power.​

ถ้าพิจารณาความหมายโดยรวมแล้วจะพบว่า สงครามกลางเมืองมีความหมายคือ การทำสงครามระหว่างกลุ่มคนที่อยู่ในชาติเดียวกัน นอกจากนี้เมื่อกล่าวถึงสงครามกลางเมืองโดยทั่วไปจะมีความหมายถึง สงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกาอีกนัยหนึ่งด้วย โดยสงครามกลางเมืองในครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2404 - 2408 (ค.ศ.1861–1865) มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องทาส ทำให้แบ่งออกเป็น ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้ ประมาณ 618,000 คน [6] ซึ่งเป็นยอดผู้เสียชีวิตที่มากกว่าสหรัฐฯ สูญเสียในสงครามประกาศอิสระภาพ และสงครามเวียดนามเสียอีก ​

ไม่เพียงแต่สงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ที่มีผู้ที่เสียชีวิตจำนวนมาก สงครามกลางเมืองรัสเซียที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ.2461 - 2465 (ค.ศ.1918-1922) ก็เป็นอีกสงครามหนึ่งที่มีผู้เสียชีวิตจากสงครามจำนวนมากคือ ประมาณ 9 ล้านคน [7] โดยมีสาเหตุที่ต่อเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ที่วลาดิมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิส หัวหน้าพรรคบอลเชวิก (Bolshevik) ทำการยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ พร้อมทั้งประกาศให้ประเทศเป็น สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (Union of Soviet Socialist Repubilcs หรือ USSR) แต่สภาพความเร้นแค้นในสหภาพโซเวียตยังไม่ได้รับการบรรเทาเบาบางลงทำให้เป็นสาเหตุนำไปสู่สงครามกลางเมืองในที่สุด​

นอกเหนือจากสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ และรัสเซียที่มีการสูญเสียชีวิตทั้งของทหารและพลเรือนในอัตราที่สูงแล้ว ยังมีสงครามกลางเมืองอีกหลายครั้งของหลายประเทศที่มีการสูญเสียชีวิตในอัตราส่วนที่สูงมากลักษณะเดียวกัน เช่น สงครามกลางเมืองสเปน ที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2479 – 2482 (ค.ศ.1936 – 1939) ที่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างชาวสเปนกลุ่มที่นิยมประชาธิปไตยกับชาวสเปนที่นิยมเผด็จการ มีผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองประมาณ 500,000 คน [8] ​

สงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมาไม่นานนี้ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากคือ สงครามกลางเมืองโซมาเลีย ที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2534 – 2547 (ค.ศ.1991 – 2004) เนื่องจาก นายพลโมฮำเม็ด ชีอาด บาร์รี (Mohamed Siad Barre) ผู้นำถูกโค่นอำนาจลง ทำให้ประเทศแตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่ามากมาย เนื่องจากกลุ่มที่เคยต่อต้านรัฐบาลหันมาจับอาวุธสู้รบ เพื่อแย่งชิงอำนาจกันเอง กลายเป็นสงครามกลางเมือง (civil war) ที่ยืดเยื้อยาวนาน ทำให้โซมาเลียต้องตกอยู่ในสภาพอนาธิปไตย (anarchy) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยผลจากสงครามนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 500,000 คน​

จากที่กล่าวมาในข้างต้นจะเห็นได้ว่าสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นประเทศใดในโลกก็ตาม สงครามการเมืองทุกครั้งจะนำมาซึ่งความสูญเสียที่ใหญ่หลวง ซึ่งสาเหตุส่วนที่นำไปสู่สงครามกลางเมืองได้นั้นจะเกิดจากความเกี่ยวพันในเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์มีการสูญเสียขึ้น และปัจจัยเหล่านี้นำไปสู่ความแตกแยกทางสังคม ที่แบ่งกลุ่มคนออกเป็นกลุ่มต่างๆ ถ้ากลุ่มต่างๆ ไม่สามารถจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้ลงตัวได้ และนั่นแหละประเทศชาติจะก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองที่คนในประเทศเดียวกันหันมารบราฆ่าฟันกันเองเพื่อให้ได้ในสิ่งที่กลุ่มของตนเองต้องการ ซึ่งผลที่ตามมาคือการสูญเสียทั้งชีวิตทหารและพลเรือนจำนวนมากตามมา​

ความจริงแล้วประเทศไทยของเราเองก็เคยผ่านสภาพของสงครามกลางเมืองกันมาโดยที่ไม่มีใครเรียกว่าสงครามกลางเมือง เพราะการเผชิญหน้ากันจะมีลักษณะของการปฏิบัติที่ซ่อนเร้น และอีกกลุ่มหนึ่งปฏิบัติในลักษณะของการปราบปราม นั่นคือสงครามในช่วงการปราบปรามคอมมิวนิสต์ ซึ่งถ้าพิจารณาดีๆ แล้วจะพบลักษณะของการต่อสู้กันจะเกิดจากความเชื่อในลัทธิการเมืองที่แตกต่างกันแล้วนำไปสู่การจับอาวุธเข้าสู้รบกัน ฝ่ายหนึ่งเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองและอีกฝ่ายหนึ่งพยายามรักษาระบอบการปกครองที่มีอยู่ ​

เมื่อการดำเนินนโยบายต่างที่ผิดพลาดในช่วงต้นยิ่งทำให้ปัญหามีความบานปลาย แต่ในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 33 ปี สถานการณ์ภายนอกประเทศ (ความขัดแย้งระหว่างคอมมิวนิสต์ในสายต่างๆ) ได้เป็นจุดเริ่มที่ทำให้มีการออกนโยบายที่มีความาเหมาะสมและมีความสอดคล้องกับทุกฝ่ายและในที่สุดก็นำไปสู่การวางอาวุธของผู้ต้องการล้มล้างระบอบการปกครองที่มีอยู่กลายมาเป็นแนวร่วมในการพัฒนาชาติไทย อันถือเป็นการยุติความขัดแย้งและหันหน้าเข้าหากัน สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสงบสุขในที่สุด ผลจากการต่อสู้ของคนในชาติในครั้งนั้นคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากน่าจะเป็นจำนวนหลายหมื่นคน (ยังไม่สามารถหาตัวเลขยืนยันได้ ขนาดสถานการณ์ในภาคใต้ซึ่งมีอัตราการสูญเสียที่ต่ำกว่าและเกิดขึ้นมาไม่นานมานี้ยังมียอดการสูญเสียในปัจจุบัน มากกว่า 2,000 คน) ​

ความขัดแย้งจนคนไทยในชาติจับอาวุธมาสู้รบและฆ่าฟันกันเองในอดีตกลับเป็นเหตุการณ์ที่แปลกที่ไม่มีใครกล่าวถึงนักในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่ทุกคนที่ผ่านมาไม่อยากที่จะรำลึกรื้อฟื้นขึ้นมา และทั้งสองฝ่ายที่เคยขัดแย้งกันในอดีตหลายคนตอนนี้กลับมาจับมือกันมาเล่นการเมืองอยู่พรรคเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไปคือเรื่องราวที่อาจจะกลับมามีความเหมือนกับในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว เราอาจจะไม่สามารถป้องกันและรวมไปถึงการหาแนวทางแก้ไขที่มีความเหมาะสมได้ เพราะคนในยุคปัจจุบันทีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทราบเรื่องราวเหล่านี้​

สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความเหมือนหรือมีความพ้องกับแนวคิด สองนคราประชาธิปไตย [9] ที่กล่าวไว้ว่า ​

เป็นเพราะเกษตรกรชาวนาชาวไร่ในภาคชนบทเป็นได้เพียง “ฐานเสียง” และเป็น “ผู้ตั้ง” รัฐบาลโดยอาศัยคะแนนเสียงอันท่วมท้นในการเลือกตั้ง ขณะที่ชนชั้นกลางเป็น “ฐานนโยบาย” และมักจะเป็น “ผู้ล้ม” รัฐบาล​

ซึ่งถ้าหากกลุ่มที่เป็นฐานเสียงและกลุ่มผู้เป็นฐานนโยบายไม่หันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกร่วมกันแล้ว นั่นคือความเสี่ยงของประเทศชาติที่กำลังจะก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมือง เพราะสาเหตุสำคัญคือมุมมองความคิดและความเชื่อทางด้านการเมืองนั้นมีความแตกต่าง และที่สำคัญคือ กลุ่มที่เป็นฐานเสียงเคยได้มีโอกาสสัมผัสกับนโยบายของรัฐบาลก่อนๆ ที่ดำเนินการโดยใช้นโยบายแบบประชานิยมแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ถูกอกถูกใจคนในระดับรากแก้ว เพราะความรู้สึกของเขาเหล่านั้นคือ เขาได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐโดยตรงและจับต้องได้ ​

ในขณะที่ผู้ที่เป็นฐานนโยบายหรือชนชั้นกลาง มองเห็นว่าการดำเนินนโยบายประชานิยมเป็นเรื่องที่นำประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยงเพราะทราบกันดีว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่นำนโยบายประชานิยมไปใช้แล้ว ประสบความสำเร็จในระยะยาว ในทำนองกลับกันประเทศที่ใช้นโยบายประชานิยมกลับประสบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงและมักจะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารโดยทหารตามมา (ซึ่งเรื่องนี้ประเทศไทยก็เคยมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน)​

เพราะฉะนั้นทางออกของปัญหาเรื่องนี้คือการเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยเจรจากันระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อหาขอยุติร่วมกัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วสถานการณ์ย่อมมีโอกาสที่จะบานปลายและนำไปสู่สงครามกลางเมืองก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเกิดเช่นนั้นจริงแล้วประเทศไทยคงจะต้องถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งว่ามีสงครามกลางเมืองและมีการสูญเสียที่เกิดจากฝีมือคนไทยด้วยกันฆ่ากันเอง ความจริงแล้วความขัดแย้งและความคิดเห็นที่แตกต่างกันในสังคมเป็นเรื่องที่ไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาดอะไร แต่สิ่งที่สังคมไทยกำลังเผชิญนั้นกลับไม่ใช่ปัญหาของความขัดแย้งแต่กลับกลายเป็นปัญหาของการเอาชนะคะคานกัน ความไม่ยอมกัน เรื่องเหล่านี้คงต้องฝากไว้ให้คนไทยทุกคนต่างต้องคิดให้เยอะๆ ว่าเรารักประเทศชาติหรือรักตัวเองมากกว่ากัน เรื่องนี้ไม่ต้องตอบใครครับตอบแค่ตัวเองก็พอ…………​

บทความโดยคุณ ทอทหาร
วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ​

ที่มา http://www.tortaharn.net/contents/index.php?option=com_content&task=view&id=142&Itemid=75​

 

สงครามกลางเมืองที่อเมริกานั้นนองเลือดเพราะ ประเด็นการเลิกทาส ทำให้ฝ่่ายใต้ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมากในไร่ในเหมืองเสียผลประโยชน์อย่างรุนแรง

สงครามทุกครั้งเกิดจาก ความโลภ(ในทรัพย์สิน ในทรัพยากร ในความมั่งคั่ง ของประเทศอื่น เมืองอื่น) ความโกรธ (การสร้างความเกลียดชัง ความคับแค้น ความขุ่นขัดเคืองให้เกิดความแตกแยก) ความหลง (ในอคติ คิดหาความถูกต้องชอบธรรมแห่งสงคราม โดยไม่ถูกตามอรรถ ตามธรรม ความถูกต้องอย่างแท้จริง)


ไทยเราภายใต้พระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงสืบสายหน่อพุทธางกูร เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั้น

ยามที่ไทยต้องเลิกทาส พระพุทธเจ้าหลวง (รู้ไหมว่าทำไมผู้คนจึงถวายพระราชสมัญญานามให้ท่านเช่นนั้น) ท่านทรงดำเนินกุศโลบายด้วยพระเมตตา จนแผ่นดินไทยปราศจากการนองเลือดได้

ยามวิกฤต ขอให้ทุกคนในชาติร่วมกันน้อมนำ พระราชดำรัส และนำจิตสำนึกเพื่อชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ในจิตใจอย่าให้

ความโกรธ ความเกลียดชัง ความคับแค้นใจ มาครอบงำอย่างเด็ดขาด

สิ่งใดที่ทำให้ประเทศชาติเจริญวัฒนา ประชาชนในชาติมีความสุขโดยรวม ก็ขอจงลงมือทำเถิดอย่าได้เกี่ยงงอนใดๆเลย

สิ่งใดที่แบ่งเบาพระราชภาระกิจของพระองค์ท่านได้ เราจงทำสุดกำลัง

กิจในในพระพุทธศาสนา การสร้างความศรัทธาตั้งมั่นในธรรม ความดี กุศลจิตได้ จงขวนขวาย

ผมเองเคยได้มีโอกาสที่ท่านองคมนตรีท่านหนึ่ง ท่านได้เมตตาสอนเอาไว้ว่า "เราจะนำเงินไปถวายพระเจ้าอยู่ทูลให้ท่านนำไปบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนั้น เป็นการไปใช้ให้ท่านทำงาน จะเป็นการบังควรหรือไม่

หากเราต้องการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านให้เบาลง เราก็จงสร้างโครงการ สร้างงานที่เกิดคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินให้มากที่สุด

เช่นนี้จึงเป็นการช่วยแบ่งเบาพระราชภาระกิจของพระองค์ท่าน"

ซึ่งผมมาพิจารณาก็เห็นจริงในข้อที่พระองค์ท่านทรงแบกพระราชภาระหนักอยู่แล้ว เราจะหา ของหนัก เรื่องกลุ้มใจ ไปให้ท่านหนักขึ้นหรือ

เรามาช่วยพระองค์ท่านด้วย การออกแรงแบก แรงยก แรงหนุน ให้ท่านเบา สบายพระราชหฤทัยดีกว่า

ดังนั้นลองคิดดูเองว่า

"เมื่อลูกทะเลาะกัน พ่อท่านจะทุกข์ จะหนักใจไหม"

"ลูกทำลายทรัพย์ สมบัติคือความเจริญรุ่งเรืองของชาติที่พ่อ เหนื่อยยากสร้างมา ทั้งชีวิต พ่อจะรู้สึกอย่างไร"

 

รับทราบครับ

ผมก็อยากลงทะเบียนบ้าง แต่ก็แล้วแต่ความเหมาะสมของหัวหน้า ครับ

 

ขอแจ้งพีเอ็มไปยัง ทีมงานผู้ก่อตั้งงานเตือนภัยผ่านระบบเอสเอ็มเอส และระบบอีเมล์ก่อนครับ

และจะร่างหลักเกณฑ์ในการจัดส่งข้อมูล การนำข้อมูลไปใช้เพิ่มเติม

เช่นจากการเตือนภัยด้าน แผ่นดินไหว อาจขยายเรื่อง การเตือนภัยด้านอื่นด้วย

เนื่องจาก ทางหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งให้การสนับสนุนข้อมูลตรงจุดนี้ให้อยู่ครับแต่ส่งให้กับสตาฟ

กับอีกจุดหนึ่งที่การเตือนภัยมีการเตือนซ้ำซ้อน 2 ครั้งในเหตุการณ์เดียว

ซึ่งจะหาทางแก้ไขเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ในการเตือนภัย ด้วยทรัพยากรที่น้อยแต่มีประสิทธิภาพมากครับ

และมีอีกจุดหนึ่ง ซึ่งสมาชิกของเวบพลังจิตซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ซึ่ึ่งมีโควต้า ในการส่งเอสเอ็มเอส ได้เดือนละ 200 ครั้ง จะนำ โควต้าตรงส่วนนี้มาใช้เพื่อส่วนรวม ซึ่งก็ขอให้ เกิดอานิสงค์ต่อท่านและกิจการของท่านด้วยครับ

อีกประการอยากให้แจ้งด้วยเวลาขอยื่นในกระทู้ในการเตือนภัยว่า ท่านจะนำข้อมูลไปใช้

"เพื่ออะไร"
"อย่างไร"

เพื่อเป็นข้อสนุนสนุนการ"ให้"ของเรา

รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้ทุกท่าน ได้"คิด" เพื่อส่วนรวมครับ

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

อ่านข้อความข้างบนของอ.คณานันท์แล้วน้ำตามันก็ร่วงลงมาปกๆ สงสารพระองค์ท่าน ขอทุกท่านที่ได้อ่านช่วยกันทำความดีเพื่อแผ่นดินกันนะค่ะ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าสร้างสมมาแต่ต้นจดบัดนี้จงปกป้องคุ้มครองประเทศไทย และคนไทยที่ปฏิบัติดีให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง และรอดพ้นจากเอื้อมมือมารทั้งหลายด้วยเทอญ

 

*** หลักตนพึ่งตน ****

เมื่อการกระทำที่ทำไปแล้ว ไปสร้างผลเบียดเบียนมาก...เมื่อกรรมมา บารมีอาจจะไม่พอ
พระพุทธเจ้า หันมาพึ่งผลสัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

5 ก.ย. 52
<O</O
<O</O
การเตรียมการ<O</O
หลังจากที่ได้ซื้อที่ดิน ที่ อ.เชียงคาน จ. เลย ในเดือนต.ค.52 เป็นที่เรียบร้อย สิ่งที่จะทำต่อไปคือ
<O</O
<O</O
ว่าจ้างคนพื้นที่ขุดฝังบ่อส้วม จำนวน 10-12บ่อ ความลึก 2วงปูน กว้าง 1.00ม. ปิดฝาบ่อแล้วเจาะช่องใส่ฝาเปิดปิด ไว้สำหรับเทกากมูล
<O</O
<O</O
ซื้อโอ่งยักษ์ ซึ่งมีขายใกล้พื้นที่ๆจะไปอยู่ มาวาง ทำหลังคาไว้เก็บน้ำฝนใส่โอ่ง เดินท่อเชื่อมให้ถึงกัน<O</O
<O</O
เดินท่อประปาหมู่บ้าน เข้าพื้นที่
<O</O
<O</O
สามรายการนี้ มีท่านสมาชิกได้ส่งเงินมาช่วยหนึ่งรายเป็นเงิน 1หมื่นบาท เงินส่วนที่ขาด รอดูหลังจากซื้อที่เสร็จ ว่าแนวร่วมจะช่วยกันออกอีกเท่าไร?
<O</O
<O</O
ส่วนผู้ที่จะตามไปอยู่ด้วย<O</O
อันดับแรก ผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่สามารถมาพบผมได้ ก็อยากจะพบหน้าพูดคุยเพื่อทำความรู้จักกันให้ดีก่อน ทุกคน
<O</O
<O</O
อันดับสอง ทุกครอบครัวที่จะไปอยู่จะต้องมีโอ่งยักษ์ไว้เก็บน้ำ 2-4ใบ 2ใบเก็บน้ำประปาหมู่บ้าน 2ใบเก็บน้ำฝน
<O</O
จะต้องมีสุขาเคลื่อนที่ ครอบครัวละ 1ห้องเป็นอย่างน้อย (ผมได้ทำไว้เป็นตัวต้นแบบแล้ว รอให้ท่านมาช่วยกันทำห้องต่อๆไป งบประมาณ 2,000 บาทต่อห้อง เมื่อท่านมาช่วยทำแล้วก็นำไปเก็บไว้ที่บ้าน รอวันนำไปใช้
<O</O
ตัวหนอนปูพื้นที่หรืออิฐแผ่น ปูพื้นที่ๆจะกางเต็นท์นอน
<O</O
เต็นท์ผ้าใบขนาด 3 คูณ 8 กางคร่อมเต็นท์นอน เอาไว้กันแดดกันฝน
<O</O
สองรายการหลังไม่บังคับ เพื่อความสะดวกของผู้อยู่เอง
<O</O
สี่รายการนี้ เมื่อผ่านพ้นช่วงอันตรายไปแล้ว ถ้ามีการแยกตัว ก็นำไปใช้ต่อได้
<O
รายการอื่นๆที่จะต้องช่วยกันออกเงินคือ ซื้อปั้มน้ำและถังขนน้ำและเชื้อเพลิง เมื่อน้ำฝนหมดหรือฝนไม่ตก จะต้องดึงน้ำจากแม่น้ำโขงมาใช้
<O</O
<O</O
ค่าน้ำประปาหมู่บ้านผู้ใช้เป็นผู้จ่าย ตามจำนวนหน่วยของมิเตอร์
<O</O
<O</O
อื่นๆ ปัจจัยสี่ทุกคนจะต้องนำมาเองให้พอกับจำนวนคนและเวลาที่ประมาณการว่าจะต้องอยู่<O</O
<O</O

 

เรื่องการเตรียมการเพื่อนๆ สมาชิกอย่าเพิ่งชะล่าใจเกินไปนะครับ อย่าคิดว่ายังอีกนาน ให้ใกล้ๆปี 2012 แล้วค่อยมาคิดเตรียมตัวกัน ถ้าท่านคิดเช่นนั้นขอบอกว่าท่านคิดผิดเสียแล้ว และกำลังตั้งตนอยู่ในความประมาทอีกด้วย

เพราะว่าจากข้อมูลหลายๆแหล่ง และจากท่านผู้รู้หลายๆท่านที่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ ก็บอกไว้ตรงกันว่า "สงครามกลางเมือง" กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 2 เดือนนี้ค่อนข้างจะแน่นอน หรือถ้าสามารถขอเลื่อนได้อีก อย่างช้าก็ไม่เกินปีหน้า เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านก็จะฉวยโอกาสยกกองทัพเข้ามาโจมตีประเทศไทย เพื่อยึดครองทรัพยากรทางธรรมชาติอันมั่งคั่งของประเทศไทยเอาไปเป็นของตนเอง

ถ้าท่านไม่เตรียมตัวเอาไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อเกิดสงครามทั้งภายในและภายนอกประเทศขึ้นแล้ว เศรษฐกิจของประเทศก็จะประสพกับการตกต่ำครั้งยิ่งใหญ่ เงินในธนาคารจะกลายเป็นเพียงเศษกระดาษที่ไร้ค่า แทบจะไม่สามารถซื้อหาอะไรได้ มีแต่เพียง ทองคำ เท่านั้นที่ยังคงเป็นที่ยอมรับในการแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้าและอาหารกันได้ในเวลานั้น (ท่านผู้รู้บางท่านบอกว่าในตอนนั้นข้าวแกงจากละเกือบ 600.- บาท)

นอกจากภัยสงครามแล้ว ยังมีภัยทางธรรมชาติอีกหลายอย่างที่จะทยอยตามมา ทั้งแผ่นดินไหว พายุทอร์นาโด น้ำท่วมใหญ่ครั้งรุนแรง โรคระบาด เริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ถ้าท่านจะรอให้ถึงปี 2012 ก่อน แล้วค่อยคิดเตรียมตัว ผมก็บอกท่านได้แต่เพียงว่า มันสายเกินไปเสียแล้วครับ

คำทำนายของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ

ดร.กัญจีราฯ เล่าให้ฟังว่า ขอให้ติดตามดูสถานการณ์ ท่านว่าจะมีภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเกิดขึ้นในเมืองไทย

- จะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย

- จะเกิดคลื่นสึนามิอีกครั้ง

- จะมีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และมีน้ำท่วมขัง 2 สัปดาห์

- จะมีแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ จะมีรถติดวินาศสันตะโร ให้ระวังเขตอันตรายย่านหัวลำโพง ปทุมวัน มาบุญครอง เขตดินแดง และแถวรัชโยธิน จะมีเรื่องร้ายแรงเสียหายเกิดขึ้นที่เกิดจากแผ่นดินยุบหรือไหวตัว อาจมีพายุทอนาโดเข้ามาทางอ่าวไทย

หมายเหตุ

เรื่องแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ คงเกิดขึ้นหลังจากเกิดสงครามกลางเมือง และได้นายกคนกลาง หรือได้รัฐบาลแห่งชาติเรียบร้อยแล้วครับ

(บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมคนเดียว ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบ ก่อนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อนะครับ)

 

เห็นด้วยนะคะ ได้ยินมาจากหลายที่เหมือนกัน
ว่าให้จับตา 2 เดือนนี้ (ก.ย.,ต.ค.)
นี่ก็ใกล้สิ้นปีแล้ว อีก 4 เดือน ลุ้นเหมือนกัน
ว่าปีนี้เราจะผ่านพ้นไปแบบไหน
เตรียมตัว เตรียมใจกันให้ดีนะคะ

 

อนามัยโลกเผยยอดผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 ทะลุ 2,800 คน​

​

เจนีวา 4 ก.ย. - องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,837 คนแล้ว หลังพบการระบาดครั้งแรกเมื่อเดือน เม.ย.

นายเกรกอรี ฮาร์เทิล โฆษกองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มขึ้น 652 คน จากยอดผู้เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนที่มีรายงาน 2,185 คน โดยจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้มีอันตรายมากขึ้น

ทวีปอเมริกายังคงเป็นภูมิภาคที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ 2,234 คน ส่วนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีรายงานผู้เสียชีวิต 467 คน ขณะที่ยุโรปมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 104 คน ภูมิภาคตะวันออกกลางพบผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน และแอฟริกามีผู้เสียชีวิต 11 คน โดยประเทศซิมบับเวและจิบูตี มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ. - สำนักข่าวไทย

2009-09-04 19:40:27

นาโตถล่มรถน้ำมันถูกขโมยในอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิต 90 คน​

​

บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 4 ก.ย. - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน จากการถูกองค์การนาโตโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายรถบรรทุกน้ำมัน 2 คัน ที่ถูกนักรบตอลีบานขโมยมา ทางเหนือของอัฟกานิสถาน

องค์การนาโต ยืนยันว่า การโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นที่จังหวัดคุนดูซ บนถนนสายหลักที่จะไปยังเมืองบากลัน ผู้ว่าการจังหวัดคุนดูซ กล่าวว่า ผู้บัญชาการระดับอาวุโสของตอลีบานถูกสังหาร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีชาวบ้านเสียชีวิตด้วย

โฆษกกลุ่มตอลีบาน ยืนยันว่า นักรบตอลีบานขโมยรถบรรทุกน้ำมัน 2 คันของนาโต เมื่อคืนวานนี้ (3 ก.ย.) ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่ตอลีบานต้องการถ่ายน้ำมันออกจากรถให้แก่ชาวบ้าน จึงถูกเครื่องบินรบของนาโตพุ่งเข้าโจมตี ทำให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง

ด้านโฆษกของกองกำลังความช่วยเหลือความมั่นคงนานาชาติ (ไอซาฟ) กล่าวว่า ทหารของไอซาฟเห็นรถบรรทุกน้ำมันที่ตอลีบานขโมยมาจอดอยู่ที่ตลิ่งของแม่น้ำคุนดูซ ผู้บัญชาการทหารในพื้นที่จึงสั่งโจมตีทางอากาศ ทำให้รถบรรทุกน้ำมันทั้ง 2 คัน ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ และมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบตอลีบานและนักรบชาวเชเชน แต่ก็มีรายงานอีกหลายกระแสว่ามีพลเรือนเสียชีวิตด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟลวกก็ถูกลำเลียงตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองคุนดูซแล้ว

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นักรบตอลีบานพยายามนำรถบรรทุกน้ำมันเหล่านี้ข้ามแม่น้ำคุนดูซไปยังหมู่บ้านที่อยู่อีกฟากหนึ่ง จึงได้เรียกชาวบ้านมารับน้ำมันดีเซลที่กำลังจะถ่ายออกจากถังเพื่อให้เบา โดยมีนักรบตอลีบานคอยคุ้มกันอยู่ 15 คน แต่เมื่อนาโตลงมือโจมตีทางอากาศ ทำให้ทุกคนที่อยู่ล้อมรอบรถบรรทุกน้ำมันเสียชีวิตทั้งหมด. - สำนักข่าวไทย

2009-09-04 15:09:05

เกิดเหตุดินถล่มที่มุมไบ มีผู้เสียชีวิต 12 คน​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

มุมไบ 4 ก.ย. - ตำรวจอินเดียกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 12 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน หลังจากที่เกิดฝนตกหนักท่วมชุมชนแออัดในนครมุมไบของอินเดีย

สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงว่า บ้านเรือนราว 15-20 หลัง ส่วนใหญ่เป็นสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย ถูกดินถล่มทับ เหตุดินถล่มเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนที่อินเดียเป็นประจำทุกปี ระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ย. เมื่อปี 2548 ประชาชนกว่า 70 คน เสียชีวิตในพื้นที่เดียวกัน หลังมีรายงานฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมและดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน ในนครมุมไบและรัฐมหาราษฏระ. - สำนักข่าวไทย

2009-09-04 15:55:02

ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 63 คน ​

​

จาการ์ตา 4 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากกองดินถล่ม ได้หลายศพในวันนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 63 คน และยังมีผู้สูญหายที่เกรงว่าจะเสียชีวิตแล้วอีกหลายสิบคน

โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติอินโดนีเซีย เผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเก็บกู้ศพผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาได้ 24 ศพ จากหมู่บ้านจิกังกาเรง ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากดินถล่ม เพราะแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งตอนใต้ของเกาะชวา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 33 คน และมีบ้านเรือน 10 หลัง มัสยิด 1 แห่ง ถูกฝังอยู่ใต้กองหิน และกองโคลน ส่วนศพผู้เสียชีวิตรายอื่นถูกพบอยู่ใต้บ้านเรือนที่พังถล่มลงมา และซากปรักหักพังในหลายเมืองทั่วจังหวัดชวาตะวันตก แผ่นดินไหวยังทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 400 คน และอีก 125 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาอาการกระดูกหัก และบาดแผลอื่น ๆ

โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติ ระบุว่า ภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตจะดำเนินไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตเหลือเพียงริบหรี่ หลังเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 2 วัน อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถสรุปว่า ผู้สูญหายเหล่านี้เสียชีวิตแล้วจนกว่าภารกิจกู้ภัยจะสิ้นสุดลง

ส่วนจำนวนบ้านเรือนที่พังทลาย หรือได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวทั้งหมดอยู่ที่กว่า 87,000 หลัง มีประชาชนราว 28,000 คน ต้องการที่อยู่อาศัย หน่วยงานบรรเทาทุกข์ได้แจกจ่ายเต็นท์ เครื่องนอน และเสบียงอาหารให้ผู้ประสบภัย แต่พื้นที่ห่างไกลบางแห่งก็ยากจะเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง.- สำนักข่าวไทย

2009-09-04 18:14:26

ชาวอินโดนีเซียแห่ไปดูจุดดินถล่มหลังแผ่นดินไหว​

​

จิกังกาเรง 4 ก.ย.- จุดดินถล่มขนาดใหญ่ทับหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งพร้อมชาวบ้านมากกว่า 40 ชีวิตหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กลายเป็นจุดที่ชาวอินโดนีเซียเดินทางไปดูกันอย่างคับคั่งเพื่อเห็นความเสียหายด้วยตาตนเอง

หมู่บ้านจิกังกาเรงอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางใต้ 100 กิโลเมตร ชาวบ้านใช้พลั่วและไม้ไผ่พยายามค้นหาญาติมิตรที่อาจถูกทับอยู่ใต้กองดินและหินเนื่องจากสภาพพื้นดินลาดชันทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถใช้เครื่องจักรตักดินได้ ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงมีทั้งขี่รถจักรยานยนต์และขับรถบรรทุกเดินทางมาถ่ายภาพโศกนาฏกรรมที่อยู่ตรงหน้าหลังจากเห็นแต่ภาพข่าวในโทรทัศน์

แผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์เมื่อบ่ายวันพุธทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 63 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 25,000 คนในจังหวัดชวาตะวันตกกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือนพังเสียหายประมาณ 86,000 หลัง แต่โรงไฟฟ้าและโรงงานใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

2009-09-04 15:04:08

ยูเอ็นเอชซีอาร์วอนจีนให้เข้าถึงผู้ลี้ภัยพม่า​

​

เจนีวา 4 ก.ย. - สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เรียกร้องจีนอนุญาตให้เข้าถึงผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่หลบหนีภัยการสู้รบจากภาคเหนือของพม่าไปยังพื้นที่ภาคใต้ของจีน

โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ เรียกร้องให้ทางการจีนยินยอมให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเอชซีอาร์เข้าไปยังพื้นที่พรมแดนที่มีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ พร้อมเสนอเข้าร่วมประเมินความต้องการจำเป็น และจะให้การสนับสนุนความต้องการต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งยูเอ็นเอชซีอาร์หวังว่าข้อเรียกร้องนี้จะได้รับการพิจารณา และจะรอคำตอบจากจีน เนื่องจากอาจมีผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์สู้รบที่เลวร้ายลงในรัฐฉานของพม่า

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวพม่าหลายพันคนข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน เพื่อหลบหนีภัยการสู้รบจากการที่กองทัพพม่าปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มกบฏในเมืองโกก้างของรัฐฉาน ซึ่งมีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนอาศัยเป็นจำนวนมาก

ยูเอ็นเอชซีอาร์ ระบุว่า ได้รับรายงานว่าจีนได้จัดส่งที่พักพิงชั่วคราว อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และเวชภัณฑ์ ไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ขณะที่สื่อจีนรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยชาวโกก้างราว 37,000 คน เริ่มทยอยกลับพม่าแล้ว แต่ยูเอ็นเอชซีอาร์ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกบังคับให้กลับประเทศ. - สำนักข่าวไทย

2009-09-04 18:52:21

เกาหลีเหนือเผยการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมอยู่ในขั้นสุดท้าย​

​

โซล 4 ก.ย.- สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งเป็นกระบวนการที่นำไปสู่การผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้

สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนือรายงานในเช้าวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับความคืบหน้าในโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ซึ่งขัดกับเสียงเรียกร้องของนานาชาติที่ต้องการให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ แถลงการณ์ของเกาหลีเหนือระบุว่า เกาหลีเหนือสกัดพลูโตเนียมเพื่อใช้ผลิตอาวุธและการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งจะสามารถนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้

เกาหลีเหนือระบุว่าการตัดสินใจเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์มีขึ้นเพื่อตอบโต้ที่คณะมนตรีความมั่นคงฯ คว่ำบาตรรัฐบาลเกาหลีเหนือหนักขึ้นจากการทดลองนิวเคลียร์เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งมติดังกล่าวเกาหลีเหนือถือว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและศักดิ์ศรีของเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

2009-09-04 09:08:19

สหรัฐวิตกเกาหลีเหนืออยู่ในระยะสุดท้ายการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ​

​

วอชิงตัน 5 ก.ย.- นายเอียน เคลลี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แสดงความวิตกอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนืออ้างว่าอยู่ในระยะสุดท้ายของการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมและกำลังสร้างระเบิดปรมาณูจำนวนมากที่ทำจากพลูโตเนียม ซึ่งสหรัฐให้คำมั่นจะสนับสนุนนานาชาติเข้มงวดการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือต่อไป

อย่างไรก็ดี นายเคลลี ไม่ขอออกความเห็นในความถูกต้องของคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือ เพราะต้องอาศัยข้อมูลข่าวกรอง ขณะที่นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาว ให้คำมั่นว่าสหรัฐจะให้ความร่วมมือกับนานาชาติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างเข้มงวด เพื่อกดดันเกาหลีเหนือให้ยอมรับมติของนานาชาติที่ให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ และเป็นการลงโทษที่ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลในเดือนเมษายนและทดลองระเบิดที่ทำจากพลูโตเนียมในเดือนถัดมา.-สำนักข่าวไทย

2009-09-05 09:39:03

เหยื่อประท้วงป่วนซินเจียงดับแล้ว 5​

​

จีน 4 ก.ย.-มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน จากเหตุประท้วงครั้งใหญ่ของชาวฮั่นที่ไม่พอใจที่เกิดเหตุคนร้ายที่เชื่อว่าเป็นชาวอุยกูร์ใช้เข็มฉีดยาไล่แทงผู้คน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลจีนต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงชาวฮั่นจำนวนมากในเมืองอุรุมฉี ก่อนที่จะมีการปะทะกันในหลายจุด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และอีกกว่า 10 คนได้รับบาดเจ็บ กลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจตำรวจที่ดำเนินการล่าช้าในการลงโทษชาวอุยกูร์ที่ก่อเหตุจลาจลนองเลือดขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา

รวมถึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ลงโทษผู้ต้องสงสัยที่ใช้เข็มฉีดยาไล่แทงผู้คน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น ทำให้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีคนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากถูกทำร้ายด้วยเข็มฉีดยาถึง 476 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คนร้ายใส่สารพิษอะไรเอาไว้ในเข็มฉีดยา หลังจากก่อนหน้านั้นมีข่าวลือว่าอาจเป็นเชื้อเอดส์ .-สำนักข่าวไทย

2009-09-04 23:07:24

ที่มา http://news.mcot.net