ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หายไปใหนกันหมดเนี่ยะ
     
  2. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ปัญหา ทุกข์ภาพ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2009
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เจอแต่พวก เป็นกรดไหลย้อน
    รักษากันอุดตะลุด เพียงค่อยยังชั่วแล้วกลับเป็นอีก
    ความจริงแล้ว
    โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่รักษาได้ง่ายๆ
    ที่รักษากันอยู่ทุกวันนี้ เป็นการรักษาที่ปลายเหตุทั้งสิ้น
    มันก็เพียงค่อยยังชั่ว ต้นเหตุไม่ได้ถูกขจัด พอหมดยา ไม่กี่วันก็เริ่มอาการอีก

    ต้นเหตุเกิดจากไฟธาตุในกายพิการไป อาจจะเกิดจากเหตุใดๆก็ได้ เช่น
    กินอาหารไม่เหมาะแก่ธาตุตัวเองเป็นเวลานานๆ
    อาศัยอยู่ในสภาพภูมิศาต์ที่ไม่ถูกโฉลกกับธาตุในกายนานๆ
    ถูกร้อนเย็นมากเกินเหตุ เป็นเวลานานๆ
    ฯลฯ
    และความไม่เหมาะแก่ร่างตนเองนั้น ไปทำลายไฟธาตุในตัวให้หย่อนลง หรือแปรปรวนไป ควบคุมไม่ได้
    อาการไม่สบายก็จะเริ่มเกิดทีละน้อย
    เป็นคนหนาวง่าย กินอาหารไม่มากท้องก็อืด อาหารไม่ย่อย
    ระบบหมุนเวียนโลหิตก็เริ่มติดขัด(ตีบ)ให้รู้สึกจุกอก จุกกลางหลัง
    เป็นมากขึ้น ก็เกิดกรดไหลย้อย ไอของกรดย่อยอาหารก็จะขึ้นมาเผาทำลายหลอดอาหาร หลอดลม ปอด โพรงจมูกไซนัส
    ทำให้อวัยวะนั้นๆอักเสพ เขาก็ว่าเป็นภูมิแพ้
    กินยารักษาอาการข้างเคียงนี้กันอุดตลุด
    เพียงดีขึ้น แต่ไม่หาย

    การรักษา ทำง่ายๆเพียง ให้ยาปรับ/บำรุงไฟธาตุเพียงตัวเดียว ก็หายแล้ว(ยาปลูกเตโช-ต้องกินนานหน่อย ประมาณ ๒-๔ เดือน)
    และอาจต้องให้ยาช่วยรักษาอาการข้างเคียงอื่นๆอีกเช่น
    ยาขมิ้นทอง เพื่อรักษาโรคกระเพาะ (ผู้เป็นกรดไหลย้อนนานๆจะเป็นแผลในกระเพาะทุกคน)
    ยาหอมเทพวิจิตร แก้ลม บำรุงหัวจ (ผู้เป็นกรดไหลย้อน จะเกิดลมดันขึ้นมาที่อกและหัวใจเป็นนิจ)
    ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ ๓ แก้อาการของระบบหายใจ ที่ถูกไอกรดทำลาย
    หลักใหญ่ๆก็ใช้ยาเพียงสี่ตัวนี้
    นอกจากบางท่านอาจต้องมียาพิเศษอื่นๆอีก

    สุวิ
     
  5. tezch

    tezch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +195
    โรคอีกประเภทนึงที่เป็นกันมากสาเหตุอันเนื่องมาจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือใช้สายตามากๆเเละนั่งด้วยอิริยาบถเดิมๆนานๆหรือเรียกว่า Office Syndome
    โรคนี้จะมีอาการ ปวดบ่าข้างใดข้างนึง บ้างร้าวลงหลัง บ้างขึ้นบนออกกระบอกตา
    เเละอาการขัดข้อมือข้อศอก จากการใช่เมาทส์ เเละการใช้มือเขียนนานๆ
    ปัจจุบันโรคชนิดนี้เป็นกันมาก ไปหาหมอนวดทั่วไปหายบ้างไม่หายก็มี


    เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ(คือรู้วิถีทางเดินของลมในเส้น)
    ไม่ใช่การรักษาที่ปลายเหตุ(นวดกล้ามเนื้อที่มีอาการ)

    การนวดเเบบอาจารย์สุวิรักษาได้ผลดีมาก เห็นผลไว
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เดิมมีผู้ถามสุวิไว้ว่า สูตรยาที่ถามถึง ใช้ได้ผลหรือไม่
    ดังนี้

    อ้างอิง:




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ atidtarn [​IMG]
    มีอีกอันคะ อันนี้อยู่ในโพสของเว็บพลังจิต
    วิธีที่ไม่ทำให้ยุงกัด คุณ sunsing โพสไว้วันที่4 ส.ค.52
    วิธีที่ไม่ทำให้ยุงกัด<!-- google_ad_section_end -->


    <TABLE id=post2317717 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sunsing<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2317717", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 7px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 18px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"></INS>
    วันที่สมัคร: May 2009
    ข้อความ: 13
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]









    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2317717 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->วิธีที่ไม่ทำให้ยุงกัด<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    </CENTER>
    เรื่องเกิดตอนที่ผมบวชเป็นพระ แล้วก็ได้ฝึกกรรมฐาน และได้ออกปริวาทสกรรม
    ซึ่งเวลา นั่งสมาธิในป่า จะมี ยุง แมลง ฯลฯ มารบกวนเรา แล้วก็ผมได้เจอกับ พระอาจาร์ย รูปหนึ่ง ชื่อพระอาจาร์ยคำปัน อุตตโม ซึ่งท่านได้มาบอกว่าเลือดคนเราจะมีรสชาติหวาน กลิ่นหอม ทำให้สัตว์พวกนี้ ได้กลิ่น แล้วอยากมาดูดเลือด แต่ด้วยความเป็นพระ และปฏิบัติธรรม ทำให้เราไม่สามารถจะตบหรือทำร้ายสัตว์พวกนี้ด้วย ท่านจึงบอกว่า เราจะต้องทำให้เลือดเราขม ลดกลิ่นตัวลง
    จึงได้บอกสูตรยา ให้ผมทดลองทานดู ก็ใช้เวลาทดลอง 2-3 วัน ก็เริ่มได้ผล
    และถ้าอยากได้ผลที่ดีนั้น ควรจะทานสม่ำเสมอ แค่วันละ 1 แก้วยาขนาดเล็ก
    ถ้าใครสนใจสูตรยา ติดต่อผมได้ 08-3207-6482 ผมชื่อสิงห์ ครับ

    สูตรยา และ อุปกรณ์
    1.หม้อดิน ถ้าไม่มีไม่เป็นไร
    2.เตาถ่าน แนะนำว่าดีที่สุด

    ตัวยา
    1.ฟ้าทลายโจรพร้อมราก 5 ต้นใหญ่
    2.บอระเพ็ดตัวผู้ ยาว 1 ศอก แล้วนำมาซอยสั้น 1 คืบ
    3.ต้นนมแมว ก้านแก่ 10 ก้าน
    4.ต้นเกล็ดปลาหมอ เด็ดใบแก่พอดี 10 ใบ

    **จากนั้น ซอย ใส่ในหม้อ ใส่ไปเลย แล้วเติมน้ำให้เต็มหม้อ ประมาณ 3-4 ขวดน้ำ
    ถ้าเป็นเตาถ่านก็ต้มไปจนกว่า ถ่านจะมอด
    **เวลาทานให้ทานตอนร้อน 1 แก้วยา ต่อวัน 2-3 วันก็จะได้ผล ทานติดต่อ 1 เดือนห้ามทานเกินกว่านั้น จะอยู่ได้ 4-5 เดือน พอหมด ก็ทำใหม่
    **ที่เหลือใส่ขวดไว้ในตู้เย็น
    **ถ้าท่านใดทานแล้วได้ผล โปรดบอกต่อด้วยนะครับ<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>และสุวิได้ตอบไปว่า

    )<!-- google_ad_section_end -->
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 75px; HEIGHT: 4px" marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?format=undefinedxundefined&output=html&lmt=1253082941&ea=0&flash=10.0.32.18&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fnewreply.php%3Fdo%3Dpostreply%26t%3D110817&dt=1253082941203&correlator=1253082941203&frm=0&ga_vid=1780060307.1250768377&ga_sid=1253081015&ga_hid=2020600764&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=11&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=0&bih=0&fu=0&ifi=1&dtd=31" frameBorder=0 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><IFRAME marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?format=undefinedxundefined&output=html&lmt=1253083266&ea=0&flash=10.0.32.18&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff9%2F%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84.110817/page-54%23post2431015&dt=1253083266765&correlator=1253083266765&frm=0&ga_vid=1780060307.1250768377&ga_sid=1253081015&ga_hid=1331025644&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=12&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=479&bih=196&fu=0&ifi=1&dtd=250" frameBorder=0 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2009
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    จากคำตอบที่สุวิ กล่าวถึง ต้นเกล็ดปลาหมอ ว่าเป็นต้นเหงือกปลาหมอนั้น

    ตอนตอบคำถามนี้ ก็ให้รู้สึกสงสัยตะหงิดๆ ว่าตัวเดียวกันแน่หรือเปล่า

    ได้ตรวจเช็คด้วยจิตเคร่าๆ
    เอ ..สรรพคุณเหมือนกันมาก น่าจะใช่
    จึงตอบระบุลงไปว่าตัวเดียวกัน

    แต่ในใจลึกๆ รับรู้ถึงความคล้าย และความแตกต่างอยู่ แต่อธิบาไม่ได้
    ด้วยความสงสัยเล็กๆนี้ ทำให้สุวิต้องตั้งคำถามว่า
    สมุนไพรสองตัวนี้เป็น ต้นเดียวกันหรือไม่ ถ้าคนละต้นกัน มันคืออะไร
    แล้วเริ่มค้น
    สุวิก็ได้พบบันทึก ถึงต้นเหงือกปลาหมอ ที่ใช้กัน จากกรุ เมืองพิษณุโลกดังนี้
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เอกสารชุดนี้ สุวิได้มาเป็นชีต มีข้อความดังนี้

    ตำรายาเหงือกปลาหมอ (บันทึกและรวบรวมโดย หมอเมือง สันยาสี)

    ตำรายานี้ได้มาจากเมืองพิษณุโลก ท่านให้เป็นปริศนาว่า ถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทอง 100 ตำลึง
    คนฉลาดแก้ปริศนาออก จึงไปขุดก็พบแผ่นศิลาปิดปากหลุมไว้อย่างมิดชิด
    เมื่อเปิดออกดูก็พบใบลานยาวประมาณ 1 คืบ เมื่อเอามาอ่านดูก็พบว่าเป็นตำรายาวิเศษ จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ มีใจความว่า

    พระฤาษีแสดงไว้เป็นทานแก่สมณชีพราหมณาจารย์ และมนุษย์ทั่วไปทั้งหญิงและชายเพื่อจะให้บำบัดโรค
    ถ้าผู้ใดได้ตำรานี้แล้วขอให้บอกต่อ ๆ กันไป จะได้อานิสงส์กัลป์
    ถ้าเอาตำรายานี้ไว้ไม่เชื่อถือแล้วจะต้องไปตกนรก
    ตำรายานี้ชื่อ ตำราต้นเหงือกปลาหมอ
    ถ้าเห็นต้นเหงือกปลาหมอขึ้นตรงทาง หรืออยู่ในที่ใด ๆ ก็ดี อย่าเหยียบย่ำข้ามเลย
    ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณวิเศษมากมายหลายอย่างคือ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2009
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตำรายาเหงือกปลาหมอ 2

    ๑. ถ้าเจ็บตา ตานั้นแดง ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำกับหัวขิง เอาหยอดตาหายแล
    ๒. ถ้าเป็นเหน็บชา เท้า มือ หรือทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำทาที่เจ็บนั้นหาย
    ๓. ถ้างูกัด ให้เอาเหงือกปลาหมอทั้งห้ามาตำทั้งกินทั้งทา หายแล<O:p</O:p
    ๔. ถ้าเป็นฝีบวมขึ้นมา ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยมารวมกันตำทา หายแล<O:p</O:p
    ๕. ถ้าเป็นริดสีดวงงอก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยตำปนกับน้ำมันหรือน้ำมูตรทา หายแล
    ๖. ถ้าเป็นไข้หนาวสั่นไปทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขิงตำปนกันแล้วกิน หายแล<O:p</O:p
    ๗. ถ้าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาน้ำกิน แล้วเอาใบส้มป่อยต้มน้ำอาบ หายแล
    ๘. ถ้าเป็นมะเร็งแตกทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ พริกไทย ดีปลี สิ่งละเท่ากัน ตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน หายแล
    ๙. ถ้าเป็นผื่นแดงคันขึ้นมาเกาจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือที่เรียกว่าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอมาต้มกิน เอามาต้มกับใบส้มป่อยอาบด้วย หายแล
    ๑๐. ถ้าเป็นมะเร็ง ทำให้ลงจนตัวเหลือง ให้เอาเหงือกปลาหมอ กระชาย มะคำไก่ และสมอทั้งสาม ต้มกิน หายแล<O:p</O:p
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตำรายาเหงือกปลาหมอ 3

    ๑๑. ถ้าหญิงมีระดูขาด หรือโลหิตแห้งแต่ 1 เดือนถึง 3 เดือนก็ดี ให้เจ็บผอมเหลืองทั่วสรรพางค์กาย
    ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเป็นผงละลายน้ำมันงาหรือน้ำผึ้งกินทุกวันไป โรคนั้นหายแล<O:p</O:p

    ๑๒. ถ้าเจ็บหลัง เจ็บบั้นเอว
    ให้เอาเหงือกปลาหมอกับชะเอมเทศตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวัน หายแล<O:p</O:p

    ๑๓. ถ้าเป็นโรคริดสีดวงแห้ง หรือเป็นฝีในท้อง และซูบผอมไปทั้งตัว
    ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำเป็นผง ละลายน้ำกินทุกวัน หายแล<O:p</O:p

    ๑๔. ถ้าเป็นโรคริดสีดวง มือเท้าตาย ให้ร้อนไปทั้งตัว เวียนศีรษะ ตามืดมัว เจ็บทั่วตัว แลผิวตัวให้สากแห้ง อันชื่อว่าลมเพชฆาต 38 จำพวก
    ให้เอาเหงือกปลาหมอกับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือเล็กน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ เอาฟืน 30 ดุ้นต้ม
    ถ้าเดือดแล้วให้อึดใจยกลง เมื่อจะกินให้อึดใจกิน หายแล

    ๑๕. ถ้าเจ็บตามตัว เมื่อยทั่วสรรพางค์กาย
    ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาแต่น้ำกิน<O:p

    ๑๖. ถ้าช้างแทง กระบือชน หรือตกจากที่สูง หรือต้องคมอาวุธ
    ให้เอาเหงือกปลาหมอตำที่แผล หายแล

    ๑๗. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน<O:p</O:p

    รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี
    รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย<O:p</O:p
    รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย
    รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์
    รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น<O:p</O:p
    รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย
    รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
    รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก
    รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย<O:p</O:p

    ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณค่าหนักหนา เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ก็ว่าได้
    ถ้ากินอาหารหรือสิ่งใดผิดสำแดงเข้าไปจะไม่มีโทษเลย

    ๑๘. <O:p</O:pถ้าเป็นฝีที่รักแร้และที่ลำคอก็ดี
    ให้เอาเหงือกปลาหมอ ขมิ้นอ้อย น้ำมันงา น้ำมูตร ตำเคล้าเข้าด้วยกันแล้วเคี่ยวเป็นน้ำมันทา หายแล

    ๑๙. <O:p</O:pถ้าเป็นลมจับ
    ให้เอาเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน ตำผงละลายน้ำร้อนรับประทาน แก้ลม 8 จำพวกหาย

    ๒๐. ถ้าจะประสานเนื้อให้สนิท
    ให้เอาเหงือกปลาหมอกับหัวสามสิบเท่ากัน ตำเอาน้ำประสานแผลทาหายสนิท

    ๒๑. <O:p</O:pถ้าตามืดมัว
    ให้เอาเหงือกปลาหมอ กะเพราทั้ง 2 แสมสาร ใบทองหลางใบมน บอระเพ็ด เจตมูลเพลิง สิ่งละเท่ากันตำปิดกระหม่อม
    แล้วเอาเหล็กเผาไฟให้ร้อน เอามาวางทับเหนือยานั้น หายแล<O:p</O:p

    จบตำราเพียงนี้<O:p</O:p
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตำรายาเหงือกปลาหมอ 4 (และนี่คือบันทึกต่อท้าย ของหมอเมือง สันยาสี)

    อ่านตำราจบแล้วอย่าเพิ่งจบครับ ต้องคุยกับผมก่อน
    เพราะเหงือกปลาหมอที่ท่านและผู้คนเข้าใจใช้กันอยู่นั้นมันไม่ถูก ไม่ใช่ตามที่ตำราบ่งบอกไว้
    ก็ท่านเคยเห็นใครกินยาเหงือกปลาหมอแล้วได้สรรพคุณดังว่ามั่ง และเคยได้รับคำเล่าลือกันว่าดีวิเศษมั่ง
    ไม่มีนะครับ ที่ทำ ๆ กันมา ทำกินหรือทำขาย ก็ล้วนทำไปเพราะเชื่อตำราว่าดี
    ถ้ามันจะดีก็นิดหน่อย เพราะส่วนผสมอย่างอื่น พาดี แต่ไม่เคยพบคุณวิเศษแบบตำราว่า
    ยกเว้นต้มเอาน้ำอาบแก้ผื่นคันพอใช้ได้อยู่ แต่ไม่มีสรรพคุณโดดเด่นเห็นชัดเหมือนกินกวาวเครือ
    เพราะเหตุนั้นจึงประกันได้ว่าเราใช้เหงือกปลาหมอผิดต้นจากตำรา

    ตำรานี้เขียนโดยผู้คงแก่เรียนชาวพิษณุโลก ผ่านมาหลายร้อยปีมาแล้ว คงเขียนช่วงที่บ้านเมืองสงบสุข ช่วงสุโขทัยเป็นราชธานี
    การที่ท่านไม่ได้บรรยายลักษณะต้นยานั้นเพราะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเขารู้จักกันอยู่แล้ว และมีทั่ว ๆ ไป ในท้องถิ่นนั้น
    แต่ต้นเหงือกปลาหมอที่เรารู้จักกันทุกวันนี้เป็นพันธุ์ไม้ริมทะเล ชอบดินเค็ม ชอบขึ้นตามริมน้ำคูคลองที่ชื้นแฉะ
    ก็เมืองพิษณุโลกนั้นอยู่ห่างทะเลหลายร้อยกิโลเมตร
    ในสมัยโบราณการคมนาคมไม่สะดวกนั้น เหงือกปลาหมอที่ว่านี้จะมีอยู่ที่เมืองพิษณุโลกได้อย่างไร
    ถ้าจะมีก็คงนับต้นได้ มีเพียงหมอยาเอาไปปลูกไว้เท่านั้น
    แต่หมอยาไทยโบราณไม่มีนิสัยปลูกยา เพราะของในป่ามีมากแล้ว
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตำรายาเหงือกปลาหมอ 5
    (และนี่คือบันทึกต่อท้าย ของหมอเมือง สันยาสี)

    มีข้อให้สังเกตหลายอย่าง ตำราโบราณท่านว่า
    ถ้าเห็นต้นเหงือกปลาขึ้นตรงทางหรืออยู่ที่ใด ๆ อย่าเหยียบย่ำข้ามเลย
    ท่านลองคิดดู ถ้าเป็นเหงือกปลาหมอที่ใบแหลมคมเหมือนหนาม แถมต้นสูงท่วมหัวเป็นพุ่มเป็นกอ และชอบขึ้นตามริมน้ำริมคลอง
    ใครจะไปเหยียบย่ำข้ามมันได้
    ถ้าเป็นไม้ดังว่านี้ตำราต้องเขียนว่า หากพบต้นเหงือกปลาหมอขึ้นตรงที่ใด ๆ อย่าได้ฟันทิ้งเพราะรังเกียจหนามแหลมคมของมันเลย มากกว่า

    ท่านอ่านพบใช่ไหมครับ ตำราว่าเอาเหงือกปลาหมอมาตำ
    บางข้อก็บอกว่าให้เอาเหงือกปลาหมอทั้งห้ามาตำ
    ถ้าเป็นเหงือกปลาหมอที่รู้จักกันดีทุกวันนี้มันตำได้ที่ไหน
    ต้นก็แข็ง ใบก็แข็ง แถมปลายใบเป็นหนามแข็งแหลมจนทิ่มมือได้เลือด
    มันมีลู่ทางสำหรับคนโบราณทางเดียวคือสับเป็นชิ้น ๆ แล้วต้มน้ำกินเท่านั้น
    <O:p</O:p
    จึงเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่เหงือกปลาหมอที่หลงใช้กันทุกวันนี้
    แต่เป็นพืชหญ้าชนิดหนึ่งที่ขึ้นตามที่ราบ แผ่ไปบนดิน
    ชอบขึ้นตามที่โล่งเตียน เช่นในนา สนามหญ้า ข้างทางเดิน ซึ่งผู้คนสามารถเดินข้ามเหยียบย่ำได้ง่ายดาย

    พืชนี้มีใบเหมือนเหงือกปลาหมอจริง ๆ ใหญ่เล็กก็เท่าเหงือกปลาหมอ
    ใบอวบแข็งนิด ๆ แต่อวบน้ำแข็งน้ำ ไม่ตำมือให้เจ็บ
    ชอบขึ้นตามที่ลุ่มชื้นแฉะ แต่ถึงไม่มีน้ำชื้นแฉะก็ขึ้นได้งอกงาม
    มักพบในนาหลังช่วงเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือนขึ้นไป
    ถ้าไม่มีใครรบกวนมันจะแผ่ออกไปเป็นพื้นพรมทีเดียว
    แต่สวย ๆ แบบที่ว่านี้ค่อนข้างหายาก
    ผู้เขียนไปมาทั่วประเทศพบอยู่ที่เดียวที่สวยเช่นนี้
    แต่มันก็มีอยู่ทั่วประเทศ แต่พบที่นั่นนิดที่นี่หน่อย จะเก็บมาทำยาทีละมาก ๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน

    <O:p</O:pผมรู้จักต้นยานี้เพราะพระอาจารย์อุดม ซึ่งเชี่ยวชาญในสมุนไพรเป็นผู้พาไปรู้จักต้น
    และอธิบายถึงความผิดพลาดของต้นยาที่ใช้กันอยู่ให้ฟัง
    ท่านว่าเคยใช้แบบนี้ได้สรรพคุณตรงตำราโบราณกล่าวไว้ทุกประการ
    เมื่อผมมาค้นในตำราก็เห็นอย่างที่ท่านกล่าวไว้จริง ๆ
    จึงขอฝากต้นยานี้ให้ท่านผู้อ่านไปหามาทำยาเถิด
    บางแห่งเรียกว่า หญ้าเกล็ดหอย

    จบจะ

    เฮ้อ...หญ้าเกล็ดหอย มีตั้งหลายต้น
    เป็นต้นใหนหว่า
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ให้ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้
    ได้ถูกส่งไปที่พิษณุโลกอีก
    เลยถือโอกาส ตะเวรไปตามร้านขายยาแผนไทยต่างๆ สอบถามถึง ไอ้เจ้าเหงือกปลาหมอ ที่ขึ้นตามท้องนานี้
    ไม่มีคนรู้จักเลย

    แต่โชคดีนะ ที่ร้านหนึ่งพบเจ้าของร้านแก่ๆ เดินออกมาจากหลังร้านพอดี
    ท่านเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนโน้นนนน.. ใช้เหงือกปลาหมอที่มาจากท้องนากัน
    แต่ปัจจุบันเลิกใช้กันแล้วด้วย นาข้าวฉีดยาฆ่าหญ้ากันมาก

    ไอ้เจ้าเหงือกปลาหมอนา(ขอใช้ชื่อนี้นะ) มันเป็นพวกวัชพืช มันก็ตาย
    พวกหมอก็ไม่กล้าเอามาใช้ด้วยกลัวว่า ไอ้ยาฆ่าหญ้ามันจะติดมาด้วย
    นานเข้า หลายๆสิบปี หมอรุ่นใหม่ก็ไม่รู้จักกัน
    และใช้ไอ้เจ้าเหงือกปลาหมอน้ำกร่อยกันแทน (ขอเรียกว่าเหงือกปลาหมอทะเลนะ)

    และให้ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้
    ในระยะ ๓-๔ เดือนที่ผ่านมานี้ได้เรียนรู้ คัมภีร์เล่มที่ห้า พอดี
    ในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งยา การดึงอำนาจของสมุนไพรที่ใช้ทำยามาทดสอบ และอำนาจการการรักษาโรคของยาผสม
    ทำให้เราสามารถ จับพลังยาได้ สามารถทดสอบเปรียบเทียบตัวยาได้

    วันดีคืนดีเรานึกได้ จึงตั้งจิต ถึงองศ์พระพุทธชินราช และผู้เป็นใหญ่ในเมืองพิษณุโลก ขอขมาท่าน
    และเล่าเรื่องถึงความเป็นหมอของเรา มีจิตต้องการทดสอบยา เพื่อนำมารักษาโรคให้ปวงมนุษย์
    ดังนั้นการกระทำของเราที่ใช้อำนาจเข้ามาในพื้นที่ ที่ท่านรักษาอยู่ ก็เพื่อทดสอบยาเท่านั้น มิได้มีจิตอกุศลอื่นใด
    อธิษฐานเสร็จ ก็ยื่นมือไปในพื้นที่พิษณุโลก รำลึกถึงหมอเก่าๆในพื้นที่(ด้วยความเคารพ) ขอยา(พลังยา)เหงือกปลาหมอนาตัวนี้มา

    และเราก็เอาไปเทียบยา เหงือกปลาหมอนา กับเหงือกปลาหมอทะเล และ ต้นเกล็ดปลาหมอ ได้ความดังนี้ (ขอสรุปเลย เล่ารายละเอียดไม่ออกนะ)

    เหงือกปลาหมอนา และต้นเกล็ดปลาหมอ อำนาจยา ทับกันโป๊ะเช๊ะ(เหมือน พอร์ตกราฟทับกัน) แสดงว่าเป็นต้นเดียวกัน

    ส่วนเหงือกปลาหมอทะเล จะเด่นในสรรพคุณ แก้ภูมแพ้ระบบหายใจ และโรคผิวหนังผื่นคันผื่นคัน ที่เป็นสะเก็ดแห้ง

    ส่วนเหงือกปลาหมอนา จะเด่นในเรื่องภูมิแพ้ในระบบเลือดและน้ำเหลือง อะไรเกี่ยวกับระบบเลือดและนำเหลืองจะรักษาได้ทั้งหมด เช่น

    โรคผิวหนังที่แตกน้ำเหลืองไหลเยิ้ม (เช่นโรคเริม ไฟลามทุ่ง มะเร็งผิวหนัง โรคเรื้อน ฯลฯ)
    ปะระเมหะในหลอดเลือด และหลอดน้ำเหลือง(เช่น มธุระเมหะ (เบหวาน) ไขมัน เส้นเลือดตีบ ฯลฯ)
    และเมื่อผสมกับตัวยาอื่นเช่นตรีผลาฯ ก็แก้โรคอันเกิดจากการผิดปกติของโรคอันเกิดจากขบวนการเมต้าโบริซึ่มได้ เช่น
    โรคเลือดจางไธรัสซืเมีย โรคพุ่มพวง โรคของต่อมไธรอยด์

    โอ้....อะไรจะมหัศจรรย์ปานนั้น
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    และแล้วไม่นาน..
    เราก็สามารถตั้งยาตัวใหม่ได้อีก ๑ ตัว ตั้งชื่อว่า

    ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 4

    สรรพคุณ แก้ภูมิแพ้ระบบเลือดและน้ำเหลืองทั้งปวง

    โอ้ย..จาระนัยไม่หมดนะว่าโรคอะไรบ้าง
    โรคอะไรที่เกี่ยวกับเลือดและน้ำเหลือง ยาตัวนี้รักษาได้สิ้น

    นับว่าเป็นยามหัศจรรย์อีกตัว
    ที่ฟ้าประทานให้ (มียามิรู้อยู่ วัชรธาตุ แก้ภูมแพ้เบอร์ 3 และเบอร์ 4)

    กราบขอบพระคุณคูรบาอาจารย์ทุกท่านที่ถ่ายทอดวิชา และสร้างความประจวบเหมาะต่างๆขึ้น
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เอ้า....
    ตอนนี้ ขอไปไล่จับไอ้เจ้าปลาหมอนาก่อนนะ
    จะเอาเหงือกมัน

    ตั้งยาแล้วยังจับปลาหมอไม่ได้เลย
     
  16. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    พูดถึงเรื่องเหงือกปลาหมอ ก็พอดีนึกได้คะว่า
    มีโยคีตาไฟท่านนึง ท่านปรุงยากินมานานแสนนาน
    ทั้งๆๆ ที่ตอนนี้ ท่านอายุ 97 ปีแล้วมั๊งคะ(ยังมีชีวิตอยู่คะ)
    แต่ สุขภาพ ยังแข็งแรง ความจำดีมาก
    แถมยังดูหนุ่มเหมือนคนอายุ 60 ต้นๆๆ
    โรคชรา ปวดแขน ปวดขา ปวดเมื่อยตามตัวแทบจะไม่มี
    เดินเหิรสะดวก เดินทางต่างจังหวัดบ่อยด้วย
    ท่านบอกว่า กินยาสูตรนี้มา 40 กว่าปีแล้วคะ

    ส่วนผสมนะคะ

    พริกไทยป่น 1 ส่วน
    เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน
    น้ำผึ้ง
    วิธีทำ
    ผสมตามส่วนที่กล่าวมา เคี่ยวให้เข้าเนื้อ ใส่น้ำผึ้งพอให้ปั้นเป็นก้อนได้

    เก็บใส่ขวดโหลไว้ กินได้นาน ไม่มีหมดอายุ

    วิธีรับประทาน
    รับประทานเช้า - เย็น ครั้งละ 1 ก้อน


    อยากลองทำดูเหมือนกันคะ
    แต่ยังหาที่ซื้อเหงือกปลาหมอบดไม่ได้เลย




    ................................................................................
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐิน สามัคคี หลวงปู่คำเป็ง
     
  17. fevernova

    fevernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +1,805
    อาจารย์สุวิครับ

    ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 4 วางขายเมื่อไหร่ประกาศให้ทราบด้วยนะครับ

    มีญาติเป็นเบาหวานอยู่ครับ...
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ฮ้า ห้า....
    ตรงกะสรรพคุณ ข้อที่ ๑๗

    เหงือกปลาหมอที่ใช้ ต้องเป็นเหงือกปลาหมอนานะ
    ถ้าใช้เหงือกปลาหมอทะเล สรรพคุณลดไปอื้อเลย

    <O:p</O:p
     
  19. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ขอภาพเกล็ดปลาหมอที่ถูกต้องตามตำรา้หน่อยครับ อ.สุวิ ผมค้นในกูเกิลแล้วสับสน ชื่อเดียวกัน แต่ลักษณะไม่เหมือนกันครับ แล้วจะหาต้นเกล็ดปลาหมอได้จากที่ไหนมาปลูกได้บ้างครับ
     
  20. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
    ๑๗. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน<O:p</O:p

    รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี
    รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย<O:p</O:p
    รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย
    รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์
    รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น<O:p</O:p
    รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย
    รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
    รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก
    รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย



    WOWWW!!!!!!!

    สุดยอดเลยคะ ทำง่ายๆๆๆ
    รับประทานสบายๆๆๆๆๆๆๆๆ๐๐๐

    ว่าแต่ว่า จะหาซื้อเหงือกปลาหมอ
    ได้ที่ไหนคะ...

    อยากเป็นสาว 2 พันปีแย๊วคะ....
    ....สวยตลอดกาล...

    catt9catt9catt9catt9
     

แชร์หน้านี้

Loading...