ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

[FONT=&quot]พี่สุดใจ ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสมาชิกว่า มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ภายในกระทู้ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ด้วยมีการกล่าวอ้างว่าพี่สุดใจ เป็นผู้ใช้นามของ คุณมองตน[FONT=&quot] ในการไปโพสต์ข้อความยังกระทู้อื่น ๆ จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้[/FONT]<o></o>[/FONT]
<o></o>
[FONT=&quot]พี่สุดใจ มิได้ใช้นามคุณ มองตน ดังกล่าว ตามข้อความที่มีการอ้างถึงว่าเป็น
.... คุณป้ามองตน<o></o>[/FONT]
<o></o>
[FONT=&quot] และหากท่านมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือเป็นการคาดคะเนเองนั้น ก็คงไปเปลี่ยนความเข้าใจของท่านผู้กล่าวอ้างไม่ได้<o></o>[/FONT]
<o></o>
[FONT=&quot]จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อให้เข้าใจ ณ ที่นี้ค่ะ[/FONT]<o></o>
<o></o>




<table id="post2586425" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 01:54 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #396 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มองตน<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2581392", true); </script>
สมาชิก

วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 42
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 306
ได้รับอนุโมทนา 782 ครั้ง ใน 42 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_2581392" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ใช้จิตที่ละเอียดพิจารณาก็จะรู้ว่า อะไรจริง อะไรเท็จ
จริง คือ เท็จ เท็จ คือ จริง........ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ใครก็รู้
แต่ของไม่จริงนี่ซิ.........โฆษณาโอ้อวดสารพัด

อนิจจา......คนนอกศาสนาพุทธ มาสอนธรรมมะของพระพุทธองค์<!-- google_ad_section_end -->
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("2581392")</script> </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> </td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table>

 

[FONT=&quot]พี่สุดใจ ไม่ได้เข้ามาในกระทู้นี้ หรือกระทู้ไหน ๆ ในช่วงนี้ [/FONT][FONT=&quot]เพราะเห็นว่ามีแต่ความร้อนรน มีการใช้อารมณ์โต้เถียงกัน ต่างก็มุ่งจะหาความผิด ความถูก ความดี ความชั่วกันให้ได้ มีแต่ความเห็นที่ต่างคนต่างคิดว่า เป็นความคิดที่ถูกต้องของตนเองทั้งสิ้น [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ซึ่งลืมเลือนไปในเรื่องของการอภัยทาน การให้อภัยซึ่งกันและกัน การมองผู้อื่นด้วยความเข้าใจ ในกลไกของธรรมชาติของแต่ละคน แต่ละความเข้าใจ ที่ย่อมไม่เท่าเทียมกัน [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]สิ่งเหล่านั้นหายไปไหนหมด [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]การมุ่งที่จะเอาชนะกันด้วยเหตุผลของแต่ละฝ่าย ซึ่งย่อมไม่มีประโยชน์อันใด[/FONT]<o></o><o></o>

[FONT=&quot]เพราะกฎแห่งกรรม..... ไม่เคยลำเอียง.....ใครทำใครได้[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]คือ ใครทำอย่างใด ก็จะได้อย่างนั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ใครแค่คิดอาฆาต พยาบาท คิดจะมุ่งร้าย คิดจะทำลายกัน บุคคลนั้นก็ได้รับผลไปแล้ว ในขณะนั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]นั่นคือ มีความทุกข์ มีความร้อนรน มีความขุ่นเคือง มีความหนักหนาสาหัสของความมีตัวตนที่หนักอึ้งเกิดขึ้นในขณะนั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ณ ขณะนั้น ณ วินาทีนั้น ณ ปัจจุบันนั้น เขาก็มีความทุกข์ของเขาอยู่แล้ว ตามเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งตามธรรมชาติ [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เพราะเมื่อคิดร้าย สารเคมีประเภทความรุมร้อน ก็หลั่งออกมา อารมณ์ก็ขุ่นมัว ร้อนรน นั่นคือบุคคลนั้นกำลังรับทุกข์อยู่แล้ว แต่มองไม่เห็น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]คือ [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]มองไม่เห็นทุกข์ - คือยังมองไม่เห็นข้อแรกของอริยสัจ 4
[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]แล้วข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 จะมีปัญญาเห็นหรือ ? [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เพราะต้องเห็นข้อ 1 ก่อน ต้องเห็นว่านี่คือ ทุกข์ รู้ว่ากำลังทุกข์อยู่ ความร้อนรนด้วยไฟโทสะ ความร้อนด้วยเพลิงอาฆาตพยาบาท มันเป็นข่ายทุกข์ มันเป็นความทุกข์ [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เมื่อเห็นข้อ 1 ว่ากำลังทุกข์อยู่ จึงจะขนขวายหา เหตุแห่งทุกข์ หาทางดับทุกข์ แล้ว ปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์นั้น [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]แต่.... ขณะที่กำลังทุกข์ ร้อนรนกันอยู่ จะมีปัญญาพิจารณาหรือไม่ ว่ากำลังปรุงทุกข์ทิ่มแทงตนเองกันอยู่<o></o>[/FONT]
<o></o>
[FONT=&quot]ในทางธรรมะจึงมีการให้เปลี่ยนความคิด เพื่อจะได้ไม่ต้องไปทุกข์กับอารมณ์เหล่านั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]หากคิดพยาบาท อย่าเลย ให้คิดเมตตากันดีกว่า [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]หากคิดริษยา อย่าเลย ให้มีมุทิตาจิต(พลอยยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ีดี)กันดีกว่า [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]นี่คือ ทางธรรมะ ก็มีทางออกให้ มีทางแก้ไขผู้ที่กำลังทุกข์อยู่ ให้เห็นทางออกจากทุกข์ คือมีเมตตากันและกัน [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]หากท่านที่มีความเข้าใจ มีการให้อภัย และไม่ชี้ผิด ชี้ถูกในความเข้าใจของแต่ละคน ความเห็นขัดแย้งเหล่านี้ย่อมยุติลง [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot] ความร้อนรนด้วยเพลิงโทสะทั้งหลายก็จะกลายเป็นความสงบเย็น[/FONT]<o></o>
<o></o><o></o>
[FONT=&quot]แล้วกระทู้เพื่อการละวางอัตตาแห่งนี้ หรือกระทู้อื่น ๆ ในพลังจิตแห่งนี้ ก็ย่อมสงบเย็นตามไปด้วย<o></o>[/FONT]

 

[FONT=&quot]สิ่งที่ได้เคยกล่าวมาแล้วในกระทู้แห่งนี้ หากท่านที่ได้ติดตามอ่านมาอย่างต่อเนื่องย่อมมีความเข้าใจเพียงพอ

เพราะสิ่งที่ได้กล่าวไว้อย่างต่อเนื่องก็คือ[/FONT]

[FONT=&quot]การไม่ส่งจิตออกไปนอกตนเอง ไม่ส่งจิตออกไปตัดสินใคร มุ่งเน้นให้เห็นการปรุงแต่งของอุปาทานในขันธ์ห้าของตนเองเท่านั้น มุ่งที่จะพัฒนาความสามารถในการเห็นความว่าง ว่างจากยึดมั่นในอัตตาตัวตน ว่างจากการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้า ที่คิดว่าเป็นตัวตน ของตน[/FONT]

[FONT=&quot]ดังนั้น การไปมองที่ขันธ์ห้าคนอื่น การไปคาดคะเน การไปประเมินปัญญาของคนอื่นนั้น มันเป็นการเห็นผิดตั้งแต่ทีแรก[/FONT]

[FONT=&quot]นั่นคือ....มองออกไปไกลจากขันธ์ห้าของตนนั่นเอง[/FONT]

[FONT=&quot]ดังนั้น หากทุกท่านที่ได้ศึกษาธรรมะเพื่อการละวางอัตตาอย่างถ่องแท้ เห็นตามธรรมของพระพุทธองค์ที่กล่าวไว้ ให้พิจารณาว่าขันธ์ห้านี้มิใช่ตัวตน ของตนแล้ว ท่านย่อมไม่ไปชี้ผิด ชี้ถูก กับใครทั้งสิ้น เพราะทุกคนมีวิบากกรรม ที่ติดตัวมากันทั้งนั้น มีสติปัญญา มีการพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติสัมปชัญญะ ตามแต่กรรม วิบากกรรมของแต่ละท่านเอง[/FONT]

[FONT=&quot]หากเราลองมองย้อนกลับไป เวลาเราพบคนที่เขายังนับถือต้นไม้ใบหญ้า นับถือก้อนหินก้อนดิน เราจะคิดว่า ทำไมเขาไม่มีปัญญามองเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมันไร้สาระ มันช่วยไม่ได้จริง [/FONT][FONT=&quot]มันเป็นสิ่งที่ผิด มันไม่ใช่ทางหลุดพ้น[/FONT]

[FONT=&quot]แต่คนกลุ่มนั้น เขาย่อมมองเห็นว่าเขาทำถูกต้อง มองเห็นว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของเขาแล้ว เพราะเขามีปัญญาแค่นั้น มีวิบากอย่างนั้น ต้องเกิดมาอยู่ในถิ่นที่มีความเชื่อแบบนั้น ซึ่งเป็นการยากที่จะไปเปลี่ยนความเชื่อเขาเหล่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]หากท่านเป็นห่วง อยากช่วยเหลือ อยากเปลี่ยนแปลงเขาเหล่านั้น ท่านก็เป็นทุกข์เอง เพราะความทุกข์มันเกิดอยู่ในขันธ์ห้าของท่าน แล้วยื่นออกไป ทั้ง ๆ ที่ไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย[/FONT]

[FONT=&quot]ท่านจึงต้องใช้ปัญญาเพื่อพิจารณาแล้วปล่อยวาง ให้เห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัย สติปัญญาของเขามาได้...เท่ากับวิบากของเขาเท่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]หากท่านมองไปยังจุดอื่น ๆ ในปัจจุบัน มีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปยังจุดต่าง ๆ มากมาย มีหลากหลายวิธีการปฏิบัติ หลากหลายสำนักมากมาย แต่ละที่ แต่ละแห่ง ก็มีการมุ่งเน้นปฏิบัติเพื่อการออกจากวัฏฏะสงสารทั้งสิ้น แล้วแต่จะเป็นรูปแบบ หรือวิธีใด ๆ [/FONT]

[FONT=&quot]นั่นก็มิได้หมายความว่า เขาเหล่านั้นคิดผิดหรือคิดถูก แต่มันถูกต้องตามจริต ตามปัญญา ตามกรรม วิบากกรรมที่ส่งมานั่นเอง
[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ดังนั้น อย่าได้ไปมองว่าคนนั้นโง่ คนนี้ฉลาด เราคิดถูก เขาคิดผิด หรือมีมุมมองใด ๆ ที่จะทำให้เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมา[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เพราะทุกคน ต้องรับผิดชอบดวงจิตของตนเอง ต้องหมั่นพิจารณาไตร่ตรอง ต้องปฏิบัติจนเห็นความเบาบางจางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นด้วยตนเอง

[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]และที่สำคัญ ห้องเรียนของท่านคือขันธ์ห้าขันธ์นี้ ต้องหมั่นที่จะพิจารณาขันธ์ห้าของท่าน เพื่อการปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่น ในอุปาทานขันธ์ห้าของท่านเอง [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ไม่ต้องไปช่วยขันธ์ห้าอื่น ๆ เขาปล่อยวางหรอก เพราะช่วยกันไม่ได้ ของใครของมัน ได้แต่เพียงชี้แนะแนวทางให้ได้เท่านั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]แต่ละท่าน ก็ต้องทำเอาเอง[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ระบบ ก็เพียงแต่ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติตามทฤษฎีของระบบ เพื่อให้ปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าของท่านเอง[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ที่เหลือ ท่านต้องใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง แล้วลองนำไปปฏิบัติ [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot] เมื่อผลการปฏิบัติออกมาแล้ว [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ท่านก็จะทราบได้ว่า ท่านมาถูกทางหรือไม่[/FONT][FONT=&quot]?[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เพราะทุกอย่างเป็นปัจจัตตัง ที่ท่านเท่านั้นจะรู้เอง เห็นเอง และสัมผัสเอง. [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ระบบจึงเพียง แจ้งเพื่อทราบ เท่านั้น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]และจะยังคง แจ้งเพื่อทราบ ต่อไป [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านค่ะ<o></o>[/FONT]

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ no.9 อย่างยิ่งค่ะ

การปฏิบัติอย่างต่อเนื่องของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ก็คือ มีการขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย อย่างต่อเนื่องจนเป็นปกติ เพียงแต่ไม่ได้มีพิธีรีตองมากมาย ง่าย ๆ แค่ตั้งจิตอธิฐาน ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย และกล่าวคำขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัยด้วยใจจริง

และหากท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม หรือเดินทางไปกราบพระประธานบนเขากะลา ทุกครั้งที่มีการนำกราบพระประธาน จะตั้งนะโม 3 จบ และกล่าวบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และไตรสรณคมน์ ทุกครั้ง


ไตรสรณคมน์ แปลว่า การถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ไตรสรณคมน์ ได้แก่การเปล่งวาจาขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะที่พึ่งพิงที่ระลึกว่า
พุทฺธัง สรณัง คัจฺฉามิ
ธมฺมัง สรณัง คัจฺฉามิ
สงฺฆัง สรณัง คัจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ....
ตติยมฺปิ....
ไตรสรณคมน์ เป็นการน้อมกาย วาจา ใจ นำพระรัตนตรัยเข้าไปไว้ในตน เพื่อแสดงว่าตนมีพระรัตนตรัยเป็นที่ระลึกนึกถึงและเป็นที่พึ่งตลอดไป และแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เป็นผู้ระบุนับถือพระพุทธศาสนา




อ้างอิงจากกระทู้ ไตรสรณคมน์ - วิกิพีเดีย


ไตรสรณคมน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี






เพียงแต่ไม่ได้บอกกล่าวให้ทุกท่านรับรู้ ไม่ได้แจ้งออกสู่สาธารณะ แต่เป็นการน้อมเข้ามาปฏิบัติจริงเท่านั้น



และมีการขอขมากรรมเพื่อนร่วมปฏิบัีติธรรมด้วยกัน เพื่ออโหสิกรรม และให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ดังที่คุณ no.9 ได้กล่าวไว้ และได้กระทำแล้ว

พี่สุดใจ จึงขอร่วมขอขมากรรมกับเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน ทั้งที่เคยรู้จักก็ดี ไม่เคยรู้จักก็ดี ผู้ที่ได้ติดตามอ่านทุก ๆ ท่านก็ดี เพื่อเป็นการอโหสิกรรม และให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เพื่อกรรมทั้งหลายจะได้เป็นโมฆะกรรม ดังนี้

หากกายกรรมใด วจีกรรมใด หรือแม้แต่มโนกรรมใด หากได้กระทำล่วงเกินต่อท่านหนึ่งท่านใด หรือหลายท่าน ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี พี่สุดใจและกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) ขอกราบขอขมากรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวลที่เว็บพลังจิตแห่งนี้มีการกล่าว พระนามถึง หรือกล่าวนามถึง ขอได้โปรดเสด็จมาเป็นพยานและโปรดอำนวยอวยชัยให้ท่านทั้งหลายมีความเจริญใน ธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในเร็ววัน ได้มรรคผลนิพพานอย่างเร็วไวด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

...


​

 

ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เกิดอะไรขึ้นหรือนี่​

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไร บทเรียนหรือบททดสอบไหนๆ จากสิ่งใดๆ​

ก็หวังให้ทุกๆคนมีแสงสว่าง​

ทั้งในจิตใจ ความคิดและปัญญา ทุกอารมณ์ความรู้สึก ทุกย่างก้าว​

ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลทำร้าย หรือทำลายแสงสว่างลงได้​

ความกลัว ความกังวล ความโกรธ ความเกลียด ​

และพลังแห่งความมืดทั้งหลายที่จ้องฉกฉวยโอกาสทองทุกครั้งอย่างเต็มความสามารถเพื่อทำลาย​

จงมลายสูญสิ้นไปเมื่อพบแสงสว่างในจิตใจของทุกคนนะคะ​

ขอให้กำลังใจทุกๆคนต่อไป แม้กระทั่งหุ่นเชิดของฝ่ายมืด ​

เพราะหุ่นเชิดเหล่านี้เปรียบเสมือนครู การทดลอง ​

บททดสอบก่อนเรียนรู้และหลังเรียนรู้ ​

ให้ฝ่ายสว่างได้พัฒนาตนเองในขั้นต่อไป ขอขอบคุณทุกๆสิ่งค่ะ​

และครูเหล่านี้จะได้พบแสงสว่างอย่างแน่นอน​

นับวัน ก็เริ่มเร่งขึ้นทุกทีๆแล้ว เปิดใจออกมาให้กว้างๆ ​

พัฒนาและฉายแสงสว่างในตนเองกันเถิด​

รัก เคารพ และนับถือ ทุกๆท่านค่ะ​

:z11:z11:z11​

 

ขอกราบขออภัย อาจารย์สุดใจ ชื่นสำนวน เป็นอย่างสูง ที่มีคนเข้าใจผิดคิดว่า มองตน เป็นท่านอาจารย์ฯ และใช้ถ้อยคำล่วงเกินว่า คุณป้ามองตน ทั้งนี้ กระผมมิได้มีเจตนา ที่จะกระทำให้คนทั่วไปได้เข้าใจผิดเลยแม้แต่น้อย ลูกจึงกราบขอขมากรรมมา ณ ที่นี้

มองตน ขอยืนยันหนักแน่นอีกครั้งว่า มองตน มิใช่คนของเขากะลา และมิใช่ อาจารย์สุดใจ ชื่นสำนวน แต่อย่างใด

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เซี่ยมหล่อนั๊ง
ขอแสดงความเห็นนิดนึง สมมติว่าเราต่างไม่รู้จักกัน มีโครงการพ่อแม่บุญธรรม หรือชื่ออะไรแล้วแต่ วันหนึงมีการตั้งโครงการขึ้นมาแล้วขอการบริจาคอย่างตรงไปตรงมาเพื่อช่วยอนุเคราะห์ในกิจกรรมดังกล่าว อย่างแรกหากเราติดตามทกิจกรรมมาระยะนึ่ง ก็คิดว่าช่วยได้ก็ช่วย ไม่มีอะไรต้องมากังวล เพราะเห็นความตั้งใจ และเปิดเผย แม้ว่าการให้เป็นพ่อแม่บุญธรรมนั้นตามที่เกิดขั้นจริงแล้ว การส่งเงินเพื่อแสดงความกรุณา มุทิตา ต่อโครงการก็ยิ่งไม่เป็นที่เสียหายเพราะก็แสดงความบริสุทธิ์ตรงไปตรงมา อย่างแรก คือ คน pm เข้ามาได้รู้จักกันมาเป็นเวลาพอควร ย่อมมีความเชื่อ และยินดีที่จะช่วยเหลือ เพราะไม่ใช่เงินมากมายอะไร หากเปรียบเทียบกับการบริจาคสถานที่อื่นใดเงินมากกว่านี้ก็ไม่เห็นมีการตั้งข้อสงสัย แล้วเรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาตั้งแง่กันว่าเป็นลูกใครหรือไม่ใช่ลูกใคร ผมเป็นคนชอบการศึกษา ยิ่งส่งเสริมให้เด็กมีการศึกษา ยิ่งเป็นลูกญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องกันเองในคณะ การเสียสละเงินให้มิได้เป็นเรื่องหลอกลวง เพราะก็แสดงเจตนาแล้ว ว่าจะช่วยเด็กจะกลุ่มไหน เด็กใคร ก็ช่วยเด็กนี่ แล้วผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ จะมาตีกัน ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร เรื่องอย่างนี้ไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องคิดให้ไกลก่วานี้ ผมสงเคราะห์ให้กับการศึกษาโดยไม่เคยเห็นเด็ก ไม่เคยมีชื่อเด็กมาก็บ่อย ไม่เห็นต้องตั้งแง่ว่า เอาไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ อีกอย่างคนกันเอง หากสงสัยก็ขอจตรวจสิ ทำเป็นอื่นไกล เรื่องนี้ก็ไม่ควรเอามาเป็นประเด็น ยังน่าจะมีเรื่องใหญ่กว่าที่ทำให้บานปลายขนาดนี้ ก็จบสะทีเถอะ ไม่เหนื่อยเหรอ คนผ่านหน้าบ้านมาจะเข้าใจว่า สุดท้ายก็บ้องกัญชา อายเขา

</TD></TR></TBODY></TABLE>
จบสะทีเถอะ ไม่เหนื่อยเหรอ คนผ่านหน้าบ้านมาจะเข้าใจว่า สุดท้ายก็บ้องกัญชา อายเขา[/QUOTE]

เซี่ยม คนอื่นเค้าหยุด เค้าจบกันแล้ว แต่เซี่ยมไม่จบใช่ไหม เซี่ยมยังจะเซี่ยมให้เค้าชนกันอีก คือเซี่ยมไม่อยากจบ ไม่ต้องการจบ ไม่อยากหยุด ไม่ต้องการหยุด จะขอออกความเห็นในเรื่องที่เค้าหยุดกันแล้ว และมันไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้นี้เลย มันเป็นเรื่องของพวกเขากะลาเค้า ทำไมเซี่ยมไม่ไปโพสในกะทู้เขากะลา สงสัยอะไร มีปัญหาอะไร ทำไมไม่ไปโพสต์ถามหรือแสดงความเห็นในกะทู้เขากะลาเขา เหอ
เซี่ยมเราให้เวลาเซี่ยมถึงเที่ยงคืน กรุณาลบโพสต์นี้ออกซะ มิฉนั้นเราจะนำโพสต์ของเซี่ยม นำส่งเข้าไปในกะทู้ของเขากะลาเอง จะได้มีผู้รู้ของเขากะลามาตอบให้เซี่ยมนะ


<TABLE class=tborder id=post2588234 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> เมื่อวานนี้, 10:54 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#476 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เซี่ยมหล่อนั๊ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2588234", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Mar 2008
สถานที่: สุวรรณภูมิ
ข้อความ: 211
Groans: 20
Groaned at 8 Times in 5 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,726
ได้รับอนุโมทนา 1,637 ครั้ง ใน 185 โพส
พลังการให้คะแนน: 45



</TD><TD class=alt1 id=td_post_2588234 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ NANA JITTANG
โครงการพี่แม่บุญธรรมนั้น เริ่มต้นด้วยดีเป็นการช่วยเหลือกันเฉพาะภายในกลุ่มฯ
แต่เมื่อโครงการที่สองเกิดขึ้น ก็พยายามที่จะเพิ่มเด็กเข้ามาร่วมอยู่ในโครงการ โดยการคัดเลือกลูกของคนที่คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว ช่วยเหลืองานด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

จากการอวดอ้างคุณสมบัติที่ตนเองมีอยู่นั้น ต้องเสียสละงานทางโลก ทรัพย์สมบัติทางครอบครัวที่ตนเองมีอยู่ โดยไม่เดือดร้อนและสามารถเลี้ยงดูบุตรของตนเองได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติดีเด่นทั้งทางโลกและทางธรรม อุทิศตัวเองเพื่อมาช่วยเหลือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์

อยากทราบว่าประโยชน์ที่ว่านี้ เป็นประโยชน์ตน หรือ ประโยชน์ท่าน

เรื่องนี้จริงหรือเท็จประการใด ไม่มีใครตอบได้ นอกจากตัวเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่า
กำลังทำอะไรกันอยู่ แต่คนภายในเขารู้กันหมดทุกคนแล้วนะ

ทำดี ย่อมได้รับผลดีตอบ
ทำชั่ว ย่อมได้รับผลชั่วตอบ

ผลของกรรมเห็นกันได้ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า

คิดดี ทำดี จิตดี ย่อมอยู่อย่างเป็นสุข ขอให้ก้าวหน้าและเจริญในธรรมยิ่งขึ้น




</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอแสดงความเห็นนิดนึง สมมติว่าเราต่างไม่รู้จักกัน มีโครงการพ่อแม่บุญธรรม หรือชื่ออะไรแล้วแต่ วันหนึงมีการตั้งโครงการขึ้นมาแล้วขอการบริจาคอย่างตรงไปตรงมาเพื่อช่วยอนุเคราะห์ในกิจกรรมดังกล่าว อย่างแรกหากเราติดตามทกิจกรรมมาระยะนึ่ง ก็คิดว่าช่วยได้ก็ช่วย ไม่มีอะไรต้องมากังวล เพราะเห็นความตั้งใจ และเปิดเผย แม้ว่าการให้เป็นพ่อแม่บุญธรรมนั้นตามที่เกิดขั้นจริงแล้ว การส่งเงินเพื่อแสดงความกรุณา มุทิตา ต่อโครงการก็ยิ่งไม่เป็นที่เสียหายเพราะก็แสดงความบริสุทธิ์ตรงไปตรงมา อย่างแรก คือ คน pm เข้ามาได้รู้จักกันมาเป็นเวลาพอควร ย่อมมีความเชื่อ และยินดีที่จะช่วยเหลือ เพราะไม่ใช่เงินมากมายอะไร หากเปรียบเทียบกับการบริจาคสถานที่อื่นใดเงินมากกว่านี้ก็ไม่เห็นมีการตั้งข้อสงสัย แล้วเรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาตั้งแง่กันว่าเป็นลูกใครหรือไม่ใช่ลูกใคร ผมเป็นคนชอบการศึกษา ยิ่งส่งเสริมให้เด็กมีการศึกษา ยิ่งเป็นลูกญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องกันเองในคณะ การเสียสละเงินให้มิได้เป็นเรื่องหลอกลวง เพราะก็แสดงเจตนาแล้ว ว่าจะช่วยเด็กจะกลุ่มไหน เด็กใคร ก็ช่วยเด็กนี่ แล้วผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ จะมาตีกัน ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร เรื่องอย่างนี้ไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องคิดให้ไกลก่วานี้ ผมสงเคราะห์ให้กับการศึกษาโดยไม่เคยเห็นเด็ก ไม่เคยมีชื่อเด็กมาก็บ่อย ไม่เห็นต้องตั้งแง่ว่า เอาไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ อีกอย่างคนกันเอง หากสงสัยก็ขอจตรวจสิ ทำเป็นอื่นไกล เรื่องนี้ก็ไม่ควรเอามาเป็นประเด็น ยังน่าจะมีเรื่องใหญ่กว่าที่ทำให้บานปลายขนาดนี้ ก็จบสะทีเถอะ ไม่เหนื่อยเหรอ คนผ่านหน้าบ้านมาจะเข้าใจว่า สุดท้ายก็บ้องกัญชา อายเขา<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<table style="width: 679px; height: 589px;" id="post2586427" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">เมื่อวานนี้, 01:54 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #11169 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2586427", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2007
สถานที่: ดินน้ำลมไฟหยั่งไม่ถึง
อายุ: 39
ข้อความ: 306
Groans: 42
Groaned at 11 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,997
ได้รับอนุโมทนา 26,043 ครั้ง ใน 1,444 โพส
พลังการให้คะแนน: 329


</td> <td class="alt1" id="td_post_2586427" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ทุกๆคน

ผมห่างหายไปนาน นานนับเดือน ผมคิดถึงเพื่อนๆพี่ทุกคนที่เคยมีเมตตาต่อผม ผมยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่พอผมถอยออกไปอย่างเงียบๆ มีคน PM มาหาผมหลายสิบคน สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่ามันคืออะไรกันแน่
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
มีคนสงสัยว่าขัดแย้งในเรื่องเรื่องพ่อแม่บุญธรรมหรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนใดใด หรือไม่ ผมตอบว่า มันไม่เกี่ยวกัน
เลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่การอยากเด่นอยากดัง ก็ไม่เกี่ยว อยากเป็นเจ้าสำนักก็ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการออกจากลุ่มของผม
แต่การตัดสินใจปิดสถานธรรมที่เขากะลา นครสวรรค์ และสถานธรรมอื่นๆ เช่น ที่ธนบุรีรมย์ มันเป็นการตัดสินใจของคุณธนวรรณDigital ด้วยตัวเอง
เพียงแต่เหตุการณ์มันบังเอิญสอบรับกันกับผม และเราก็ได้คุยกันในรายข้อมูลละเอียดที่ต่างคนต่างก็ไม่เคยได้รับรู้กันมาก่อน

แต่ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในชีวิตผมในหลายปีนี้
มันมหัศจรรย์เกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด มันล้ำลึกเกินกว่าที่ใครๆจะคาดถึง
ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ทางจิต ที่ควรจะเปิดเผยให้กับทุกคนได้รับรู้รับฟัง
</td></tr></tbody></table>



<table id="post2586432" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">เมื่อวานนี้, 01:56 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #11170 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2586432", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2007
สถานที่: ดินน้ำลมไฟหยั่งไม่ถึง
อายุ: 39
ข้อความ: 306
Groans: 42
Groaned at 11 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,997
ได้รับอนุโมทนา 26,043 ครั้ง ใน 1,444 โพส
พลังการให้คะแนน: 329


</td> <td class="alt1" id="td_post_2586432" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ผมพยายามออกไปอย่างบัวไม่ให้น้ำช้ำไม่ให้ขุ่น เรื่องราวบางเรื่องผมสงวนเฉพาะพี่ๆเพื่อนๆที่เข้าไปในวังวนแห่งจิตขั้นลึกเท่านั้น
แต่ก็ไม่มีใครฟังผม ..... แต่ก็ไม่เป็นไร
เมื่อผมถูกโจมตีต่อว่ามาที่กระทู้ผมอย่างโกรธแค้น ด้วยความที่ต้องการที่จะทำลายจากคนที่อีกฉากหนึ่งบอกว่าเป็นผู้ปฎิบัติธรรม
ผมก็รู้สึกว่าการที่เราอยู่นิ่งเฉย ไม่ออกมาเปิดเผยความจริง มันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นหรือเปล่า......
เปล่าเลย...มันก็ยังเหมือนเดิม
เรื่องราวของเขากะลา 2 มันเป็นเรื่องราวที่มาจากตัวผมเองทั้งสิ้น
เรื่องของการถ่ายทอดพระญาณบารมี พระญาณรักษา ระหัสและข้อความจากจักรวาล
พิธีการขอขมากรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวร การเชื่อระบบจากจักรวาล
ก็มาจากข้อมูลของผมที่ถ่ายทอดมา ไม่มีใครทำให้ผม และไม่ใช่"ระบบของเขากะลา" อย่างที่ทุกคนเข้าใจ

ผมเป็นผู้เริ่มเปิดฉากทุกๆฉากมาตลอดสองปีนี้ และผมจะปิดทุกฉากลงด้วยตัวผมเอง..............
ที่ทำไม่ได้ต้องการแยกตัวออกมาดัง เพราะผมไม่เคยต้องการสิ่งเหล่านี้ เมื่อผมบอกเล่าทุกอย่างจบลง(อาจจะใช้เวลา)
ทุกคนจะเข้าเหตุผลทุกๆอย่าง ด้วยสติและปัญญาธรรมดาๆ ไม่ต้องคิดให้มันยุ่งยากซับซ้อน
________________ <!-- google_ad_section_end --> __
</td></tr></tbody></table>



<table id="post2586434" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">เมื่อวานนี้, 01:56 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #11171 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2586434", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2007
สถานที่: ดินน้ำลมไฟหยั่งไม่ถึง
อายุ: 39
ข้อความ: 306
Groans: 42
Groaned at 11 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,997
ได้รับอนุโมทนา 26,043 ครั้ง ใน 1,444 โพส
พลังการให้คะแนน: 329


</td> <td class="alt1" id="td_post_2586434" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->คาถาผูกจิต
มีหลายคนบอกว่าให้ผมอยู่เฉยๆ นิ่งๆทุกอย่างจะสงบลงไปเอง ต่างคนต่างทำไปตามเรื่องราวของตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกัน
ผมเองก็เห็นด้วย แต่เมื่อพิจารณาดูอีกที ถึงผลลัพท์ของมัน มันร้ายแรงเกินกว่าที่พวกเราจะคาดคิด โดยเฉพาะมันได้เกิดกับเพื่อนๆพี่ของเรา
และพวกเขาเหล่านั้นยังหลับไหลไม่ยอมตื่น เพราะไม่มีกุญแจไขระหัสค่ายกลทางจิตวิญญาณที่พวกเขาถูกคุมขังเอาไว้อย่างรอบด้าน
ตอนนี้กุญแจไขความลับของวิชาเมืองลับแลทุกๆดอกอยู่ในมือผมแล้ว
ผมได้ช่วยเหลือหลายคนในการนำกุจแจแห่งสติและปัญญา ไขความคิดขอพวกเขาออกมาจากวังวนอันนี้
ตัวผมเอง คุณธนวรรณ คุณแดนเดือนเดียว คนที่เคยตกอยู่ในวงวนแห่งมิจฉาทิฐิ ด้วยการตั้งจิตเอาไว้ผิด มีมนสิการผิด
การเข้าใจในชีวิต โลกและจักรวาลด้วยมุมมองที่ผิด แม้นความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่เราก็ยอมเชื่อโดยขาดสติพิจารณาไปอย่างง่ายดาย
โดยที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันราวต้องมนต์สะกดที่ลึกลับซับซ้อน มันมีกลไกทางความคิดที่แยบยล มันทำงานโดยใช้จิตหลอกจิต
มันราวกับว่าเราได้เดินไปในโลกอีกโลกหนึ่ง ทั้งๆที่เรากับกำลังเดินไปบนโลกใบนี้แท้ๆ
จิตใจมันถูกผูกมัดด้วย"อาคม" "คาถา" ที่เป็นคำเฉพาะของระบบ ที่พวกเราพูดกันอย่างพร่ำเพรื่อ แต่เมื่อกล่าวถึงคำๆนั้น
จิตของเราก็ตกลงไปสู่การผูดมัดเสียแล้ว
มันคือยาสั่ง มันคือขนมหวานที่มียาพิษแฝงเอาไว้ข้างใน รอวันสุกงอม และพร้อมที่จะรับฟังคำสั่งทุกเมื่อ แม้ว่าจะไปตายก็ตาม
เมื่อ ผมให้กุญแจพวกเขาทุกๆดอก พอพวกเขาไขประตูแห่งจิตวิญญาณออกมาได้
ทุกคนร้องขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ว่ามันคือ "แมททริกซ์ " จิตใจของเรามันได้ตกลงไปสู่ความดำมืดแห่งจิตวิญญาณ มันขาดสติในทุกๆอิริยาบท
มันได้ชักจูงจิตให้ไปผูกมัดกับสิ่งๆหนึ่ง ที่เราไม่รู้จัก และเราก็เชื่อว่าตัวเราไม่มีตัวตน และความสำนึกรู้ของเรามันได้พลันหายไปสิ้น มันทำให้เราขาดสติความระลึกในตัวตนของเรา
มันทำลายความรับผิดชอบทางศีลธรรมขั้นพื้นฐานของเรา มันทำจิตสำนึกที่ควรมีที่ควรเป็น หลายคนละทิ้งความรับผิดชอบต่อชีวิตครอบครัว หน้าที่การงาน
ความกตัญญูกตเวทิตา ต่อบุพการี ต่อครูอาจารย์ ทำให้เจาไม่เคร่งต่อศีล วินัย และขาดสติที่ตั้งมั่น
มันได้ทำลายไตรสิกขา ตั้งแต่ศีล สมาธิ จนถึงทำลายสัมมาปัญญา ทุกๆคนยอมรับว่าน่ากลัว มันแนบเนียนมาก
__________________
<!-- google_ad_section_end --> </td></tr></tbody></table>



<table style="width: 603px; height: 587px;" id="post2586436" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">เมื่อวานนี้, 01:56 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #11172 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2586436", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2007
สถานที่: ดินน้ำลมไฟหยั่งไม่ถึง
อายุ: 39
ข้อความ: 306
Groans: 42
Groaned at 11 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,997
ได้รับอนุโมทนา 26,043 ครั้ง ใน 1,444 โพส
พลังการให้คะแนน: 329


</td> <td class="alt1" id="td_post_2586436" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ความรู้แจ้งดัวยสัมมาปัญญา
ผมเคยปฎิบัติตามแนวสติปัฐฐานสี่มานานนับสิบปี เคยปฎิธรรมสมาธิจากครูบาอาจารย์สายหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ บ้านเกิดของผม
ผมศึกษาอภิธรรมจากอภิธรรมมูลนิธิสมัยท่านอาจารย์ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ จนผมพอจะรู้จักวิถีแห่งจิต เจตสิก ลักษณะอารมณ์แห่งจิต การเสวยอารมณ์ของจิตแต่ละประเภท
กำหนดแยกแยะรูปและนาม บัญญัติต่างๆ ตามแนวอภิธรรม
ผมเคยปฎิบัติได้ฌาณมาก่อน แต่เมื่อผมปฎิบัตืฃิตามแนวเขากะลา ฌาณมันหายไป มันไม่ลงองค์ฌาณมันได้แค่วิตกแลัววิจารแล้วกลับมาที่เดิม มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งนานนับปี
จน หลังๆมานี้ ประมาณ 6เดือน ที่ผมพยามยามจะรวบรวมสมาธิจิต กำหนดใหม่เอาแบบเดิม ละทิ้งทฤษฎีระบบให้หมด และฌาณผมก็กลับมาเหมือนเดิม
6 เดือนมานี้ผมครุ่นคิดถึงแนวปฏิบัติ และสภาวะจิตที่มันได้เกิดขึ้นมาแปลกๆก่อนหน้านนี้ สลับไปมา จนรวบรวมกุญแจไขประตูจิตที่ละดอกๆ จนหลุดออกมาได้ด้วยตัวเอง
จนได้คร่ำเคร่งศึกษาจิต มาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการสอบอารมณ์ของคนที่อยู่รอบๆตัว มาโดยตลอด และวัดผล วัดสภาวะจิตของตน ทดสอบอารมณ์ตนเอง
ถึงแม้นบางครั้งผมได้มีเจตนาล่วงศีล เพื่อทดสอบจิตใจของตนเองบางอย่าง และมันก็ล่วงศีลได้อย่างไม่สะทกสะท้าน อย่างไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีใดใด อ้อมันเป็นอย่างนี้เอง
จิตใจที่มีนิ่ง ราวกับว่ามันสงบ แต่มันเหมือนมีหมอกควันครอบงำอยู่ ไม่ไม่ได้สงบจริงๆ มันมีอนุสัยนอนเนื่องอยู่เหมือนเดิม อาจจะมากว่าเดิม แต่เรามองไม่เห็น...............
ผมมีจิตสัมผัสพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ผมมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ผมรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ แต่ผมจะไม่พูดในที่นี้เพราะดูเหมือนว่าจะยอตนเองเกินไป ผมจะเล่าในฐานะคนธรรมดาๆ
เพื่อใชัสัมผัสธรรมดาๆ บอกเล่าให้ทุกคนเข้าใจ.........................






ขอบคุณทั่นอาจารย์แอสโตรนีโม่ ที่ทำให้เห็นตัวตนอันแท้จริงของทั่น ไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากความ เพียงสัมผัสธรรมดาก็เข้าใจได้ ว่าอัตตาตัวตน ตามที่ได้ศึกษาข้อความจากเขากะลามาแต่ต้นนั้น ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับผู้มีวิชาสรรพศาสตร์ที่เคยเป็นที่ยกย่องของผู้คนมากหลายมาก่อน น้ำที่ว่าใสก็ยังไม่ใสจริง ตะกอนความรู้วิชชาที่ผูกมัดอยู่ในส่วนลึก พร้อมที่จะขุ่นมัวขึ้นมาได้ทุกขณะ ไม่ใช่ยาก และก็ไม่ง่าย คิดมากทำไม ปวดหัวเปล่าๆนะพี่น้อง
</td></tr></tbody></table>

 

เห็นด้วยกับคุณโซ่นะครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่หรือที่ไหนๆก็ตาม
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสมมุติและเป็นบททดสอบทั้งนั้นครับ ทำใจให้เป็นกลางๆกันไว้ดีที่สุด รักษาจิตที่อุดมไปด้วยสติปัญญาและความรักอันมั่นคงเอาไว้ครับ มองให้เห็นสิ่งดีๆและความเปลื่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจ ก็จะไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่ต้องไปกล่าวโทษสิ่งใดๆ หันกลับมามองและแก้ไขที่ตัวเอง และเมื่อประสบการณ์และความเชื่อได้เปลื่ยนเป็นความรู้แล้ว เมื่อนั้นเราอาจมานั่งหัวเราะและขำกลิ้งกันทีหลังนะครับ

ลึกๆแล้วก็เชื่อว่าความรู้สึกดีๆต่อกันของทุกท่านยังคงเหมือนเดิมไม่เปลื่ยนแปลง มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูรกันต่อไปครับ บทเรียนเหล่านี้นี้จะช่วยให้จิตวิญญาณก้าวหน้ายิ่งขึ้น มีพลัง มีอิสระ จากการที่เรามองโลกในแง่ดี เพียงแค่รักษาการสั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่เป็นบวกเอาไว้ การแก้ไขปัญหาต่างจะทำได้อย่างวิเศษสวยงามและลงตัวในที่สุดครับ

เมื่อคืนวานขณะที่โทรหาคุณหนุ่ยผู้ก่อสร้างอาคาร...ถามสารทุกข์สุกดิบกัน
ก็เห็นบางอย่างคล้ายกลุ่มดาวลูกไก่เคลื่อนที่เป็นกลุ่มผ่านท้องฟ้าด้วยครับ
เคลื่อนที่ไปทางนครสวรรค์ไปแบบนิ่มๆ ไม่กระพริบแสงเลย...แปลกดีนะครับ

 

นั่นสิคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เป็นกำลังใจ
ให้ทุกท่าน ทุกฝ่าย ให้ฝ่าฟัน ให้ผ่านพ้น
กิเลสมันละเอียดจริงๆ บางครั้งมันก็หลอก
ของจริงคืออะไร บางครั้งมันก็มีที่จริงยิ่งกว่าจริง
บางครั้งที่ว่าจริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ บางครั้งก็ว่ามีสติแล้ว
แต่สติที่ว่ามี มันก็ไม่จริง เราจึงต้องตามดู ตามรู้ให้มันทันเท่านั้น
บางทีมันก็ยังสรุปไม่ได้ จะว่าจริงก็ไม่ได้ ไม่จริงก็ไม่ได้
ต้องตามดูตามรู้ไปเรื่อยๆ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ

 

ก็ระบบเค้าจะประชาสัมพันธ์เวปของเขาก็เท่านั้น จะไปปลิ้นทำไม ขอแนะนำ ให้ไขว่ห้างกระดิกขาดู เพราะว่า เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าตีกรอบ

 

ขณะนี้ได้ข้อสรุปจากการประชุมสนทนากันระหว่าง อ.สุดใจ,อ.จักษวัชร์,อ.ยูคริน และ MOUNTAIN ว่า

ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552 จะมีงานผ้าป่าสามัคคี สร้างพระประธานใหญ่
ที่วัดอัมพวัน ท่าลี่ จ.เลย ดังนั้น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
นำโดย อาจารย์สุดใจ จะพาคณะขึ้นไปถวายปัจจัยร่วมสร้างพระประธาน ดังกล่าว โดยนำยอดเงินจากผู้บริจาคสร้างพระประธาน และฐานพระประธาน ที่สถานธรรม เขากะลา จำนวนรวม 61,742.34 บาท ไปมอบให้กับทางวัดอัมพวัน เป็นกองผ้าป่าสร้างพระประธาน บนเขา ดังรายละเอียดแจ้งให้ทราบแล้ว

ส่วน เงินบริจาคที่มีผู้บริจาคสมทบสร้าง อาคารปฏิบัติธรรม เขากะลา จำนวน 6,811.11 บาท นั้น ทางกลุ่มฯ จะนำไปสมทบกับปัจจัยบุญที่อาจารย์ธนวรรณ จะนำไปร่วม สร้างโบสถ์ ที่วัดเชิงเลน อยุธยา เพื่อให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค ในด้านตัวอาคาร คาดว่าคงจะแล้วเสร็จภายในไม่เกินเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้


ขอกราบอนุโมทนากับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการบริจาคปัจจัยเพื่องานบุญครั้งนี้ด้วยครับ

 

ขณะนี้คณะเดินทางเพื่อไปร่วมกิจกรรม ที่ แม่เมาะ ลำปาง ได้จัดสรร พาหนะเดินทาง ลงตัวแล้ว และพร้อมที่จะเดินทาง ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. 2552 ดังนี้


1.รถเฮียอ้วน มีผู้โดยสาร ดังนี้

----พี่แพท--อ.หนุ่ย(เทพฯ)---อ.แตง---อ.ยูคริน--mountain---คุณพรรณ
(รถจอดรับหน้าร้าน แพท โปสเตอร์ พรานนก เวลา 7.00 น.)

2.รถคุณศรุต มีผู้โดยสารดังนี้

----คุณแขก--คุณA41--คุณกุ๊ก(Tasanum) และอาจารย์ทานะบารมี (รถจอดรับที่บิ๊กคิงส์ บางใหญ่ เวลา 8.00 น.)

รถทั้ง 2 คัน จะเดินทางไปสมทบกับคณะของ อาจารย์สุดใจที่นครสวรรค์
และอาจารย์กัลยา ที่พิษณุโลก


สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะขอไปร่วมกิจกรรม(นอกเหนือจากรายชื่อดังกล่าวข้างต้น) ในวันเสาร์ที่ 14/11/52 เวลา 19.00 น. ที่อาคารฝึกอบรม กฟผ.แม่เมาะ ลำปาง ก็สามารถติดต่อที่พักในตัวเมืองลำปาง ได้ และสามารถมาร่วมขบวนอีกครั้งเพื่อชมทุ่งบัวตอง ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 15/11/52

ต้องขออภัยในความไม่สะดวกในเรื่องที่พัก สำหรับท่านที่จะร่วมเดินทางไปโดยการส่วนตัว

เนื่องจากเจ้าภาพ ได้จัดเตรียมห้องพัก และอาหาร ครบตามจำนวนผู้ไปร่วมงานที่มีการแจ้งไปแล้วก่อนหน้านี้ ตามรายชื่อข้างต้น

แจ้งมาเพื่อทราบครับ

 

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ี16

 

น่าสนใจ

วันพฤหัสที่ 10 ธันวาคม 2552 เวลา 14.00 น.- 15.00 น
ณ เวทีบรรยาย 1

ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน บรรยายเรื่อง

เสวนา " มนุษย์ต่างดาวช่วยมนุษย์ได้จริงหรือ? "

นาวาอากาศเอกสุรพล นะวะมวัฒน์ บรรยายร่วม




วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552 เวทีบรรยาย 1

" กู้โลกกับมนุษย์ต่างดาวและจิตวิญญาณขั้นสูง "

บรรยายโดย อาจารย์สถิตฐ์ธรรม เพ็ญสุขษ์

 

งานวิทยาศาสตร์ทางจิต พลาดมาหลายครั้ง เพราะไปตรงกับกำหนดการที่จะต้องไปปฎิบัติภารกิจส่วนตัวที่อุตรดิตถ์ งานวิทยาศาสตร์ทางจิตพลาดได้แต่ไม่ทุกข์ แต่งานที่อุตรดิตถ์พลาดไม่ได้ครับ ถ้าพลาดก็ทุกข์น้อยครับ ไม่มีงานไหนเลยที่ไปแล้วเป็นสุข

งานฯ วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2552 ไปแน่แต่ไม่นอนครับ
ส่วนวันอื่นๆ ยังไม่แน่ อาจจะต้องไปปฎิบัติภารกิจส่วนตัวที่อุตรดิตถ์ เหมือนเช่นทุกครั้งเคยปฎิบัติมา

แล้วพบกับครับ อิ อิ

 

ผมคนนึงก็คงไม่พลาดครับอาจารย์ แต่เสียดายว่าที่พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน หาที่จอดรถยากมากเลย อยากจะฟังความเห็นทั้งของท่านศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน และท่านอาจารย์สถิตฐ์ธรรม เพ็ญสุขษ์ ว่าจะมีข้อมูลที่น่าสนใจในประเด็นที่ตรงใจนี้อย่างไรบ้าง

แต่ในส่วนของปัญหา หรือคำถามคล้ายคลึงกับเรื่องเดียวกันนี้ แต่จะออกไปในแนวของการปฏิบัติธรรมซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วอาจจะยังไม่ได้รับคำตอบจากในกระทู้นี้ ก็เห็นว่าจารย์โนนายเขาก็จะมีการบรรยายเหมือนกันนะครับ แต่เป็นแบบปุจฉาแล้ววิสัชนา ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย.นี้เหมือนกัน แต่เห็นว่าหลบไปบรรยายในป่าในเขาเอาบรรยากาศต้นหนาวเคล้าไอหมอกในทุ่งดอกกะเจียว ที่ไหนซักที่ในภาคเหนือโน่นละครับ ท่านใดที่ได้ไปพบปะกันด้วยก็เตรียมคำถามไว้ให้เยอะๆ เลยนะครับ

หากผู้ที่ปฏิบัติแล้วเกิดวิจิกิจฉาขึ้นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว ความเจริญในธรรมย่อมอาจเกิดขึ้นได้ยาก และบางทีแค่ "ความไม่เข้าใจเพียงเล็กน้อย" ก็อาจจะส่งผลที่ใหญ่หลวงต่อปัจจุบัน และอนาคตของผู้ที่คิดว่าจะปฏิบัติในท่านนั้นๆ ได้

ขออนุโมทนาครับ

 

สวัสดีอ.จุก สบายดีนะครับ คิดถึง เลยทักทายหน่อย ครับ รับไม๊ครับ

 

ตามที่ได้นัดกับเพื่อนๆไว้ว่าจะนำเงินที่เพื่อนๆที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญถมดิน ไฟฟ้า น้ำปะปา ต้นไม้ ที่สถานธรรมเขากะลา และจะนำไปถวายสร้างโบสถ์ที่วัดเชิงเลน จ.อยุธยานั้น ด้วยมีเหตุจำเป็นที่วรรณไม่สามารถไปทำบุญในวันที่นัดกันไว้คือวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2552 ดังนั้นจึงขอเลื่อนการไปทำบุญเป็นวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 กำหนดออกเดินทางที่เดิมที่หน้า ไอที สแควร์ ทาวเวอร์ หลักสี่ ขอเลื่อนเวลาออกเดินทางจากเวลา 10.00 น. เป็นเวลา 9.00 น.

สาเหตุที่เลื่อนเวลาการออกเดินทางก็เพราะจะได้มีเวลามากขึ้น ที่คุณเซี่ยมหล่อนั้ง จะเป็นไกด์ พา เที่ยววัดตูมและสถานที่ต่างๆ ที่อยุธยาด้วยค่ะ

และมีเงินอีกจำนวนหนึ่งที่คุณแม่ยายของคุณพีท ทองเจือ จะร่วมเดินทางนำไปถวายสร้างโบสถ์ด้วยกันอีกประมาณ สองหมื่นกว่าบาท

 

การพยากรณ์อริยบุคคล
เมื่อจิตใจตกอยู่วังวนแห่งความคิดที่ผิดพลาด พร้อมกับความเชื่อผิดๆที่ไม่ตรงกับสภาวะธรรมอันเกิดขึ้นตามความเป็นจริง มันทำให้เราได้หลงไหลไปกับความคิดแบบมายา ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย.............
ผมเริ่มรับรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังรับรู้รับฟังอยู่นั้น มันได้นำพาเราไปสู่ อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฯลฯ อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว และมันได้เป็นไปแล้วและเกิดขึ้นกับเพื่อนๆของเราอีกนับสิบคน มันได้นำเราไปสู่สิ่งที่เรียกว่ามิจฉาทิฐิในขั้นรุนแรงอันมีโทษทัณฑ์ถึงขั้นปิดกั้นมรรคผลนิพพานไปอีกนานนับล้านอสงไขย แสนมหากัลป์
นั่นก็คือการพยากรณ์มรรคผลแก่ผู้ที่ได้รับการขยายระบบ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกระทำนานหลายๆชั่วโมงต่อครั้ง หรือนับสิบชั่วโมงต่อครั้ง ต่อเนื่องนานนับเดือนปี
ด้วยทฤษฎีสั่งจิตให้เกิดความรับรู้ สับสนในบัญญัติ ในความจริงที่เกิดแก่ทวารทั้งหก นำเอาความหมายในเชิงปรมัตถ์มาปะปนกับบัญญัติ ทำให้ผู้ฟังเกิดความสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก โดยขาดการปฎิบัติตามแนววิปัสสนาญาณและสติปัฎฐานสี่ที่ถูกต้อง เมื่อผู้ใดได้รับรู้รับฟัง และยอมเชื่อตามทฤษฎีอันจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน อันปลิ้นปล้อนตะลบตะแลงและกลับไปกลับมานี้ แยกแยะผิดถูกดีชั่วไม่ได้แล้ว ก็จะได้รับการพยากรณ์จากระบบว่า ได้สำเร็จมรรคผล ในขั้นต่างๆกันตั้งแต่โสดาบันปัตติผล มีตั้งแต่ 7 ชาติ 5 ชาติ 3ชาติ หรือเอกพีชีเหลือชาติเดียว อันแล้วแต่ความเชื่อว่าได้ตกลงไปลึกในขั้นไหน .....
ซึ่งผู้ถูกพยากรณ์พระอริยะบุคคลนี้ ต่างก็ได้หลงเชื่อว่าตนเองได้บรรลุมรรคผล ตามที่กล่าวอ้างไว้แล้วจริงๆ โดยทั้งที่ตนเองขาดโยนิโสมนสิการที่แยบคาย ขาดสัมมาปัญญาและสติที่บริบูรณ์
ซึ่งการพยากรณ์พระอริยะบุคคลนั้น เป็นสิ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่จะกระทำได้เท่านั้น นอกนั้นมิได้มีใครอื่นที่จะกระทำได้เลย.....
เมื่อได้หลงผิดเข้าไปลึกถึงขั้นนี้แล้วก็เลยเกิดทิฐิ เกิดความคิดว่าตนเองวิเศษกว่าผู้อื่น วิเศษกว่าพระสมมุติสงฆ์ หลงผิดว่าตนนั้นจะต้องไม่ไปเกิดอีกแล้ว ภพชาติจบแล้ว พรหมจรรย์สิ้นแล้ว เท่าการยกตนเสมอพระรัตนตรัย คิดว่าตนเองเป็นเนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่ ใครมาทำบุญกับตนแล้วจะได้กุศลผลบุญมหาศาล ใครทำชั่วกับตนแล้วจะต้องไปเกิดในนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
อีกทั้งได้เที่ยวสั่งสอนอสัทธรรมให้เผยแพร่ออกไป ยิ่งแต่ทำให้เกิดความหลงผิดไปมากขึ้นๆ
การคัดค้านคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้าและพระสงฆ์ทั้งหลาย การบิดเบือนพระสัทธรรม เทียบได้กับการทำอนันตริยกรรมเลยทีเดียว