หมดแล้ว <<ฟ้าสร้าง>> หนุมานเกราะเพชรมากประสบการณ์ หลวงปู่หริ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าสร้าง, 24 พฤศจิกายน 2009.

  1. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ทำไมถึงทอกผ้าตอนกลางคืนด้วยฮ่ะ อยากรู้จัง
     
  2. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    เกร็ดความรู้

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD>พิธีทอดผ้าป่า เป็นการทำบุญอีกอย่างหนึ่งของชาวพุทธ คล้ายกับพิธีทอดกฐิน แต่ไม่มีกำหนดระยะเวลาจำกัด คือสามารถจะทอดเมื่อใหร่ก็ได้ และวัดหนึ่ง ๆ ในแต่ละปีจะจัดให้มีการทอดผ้าป่ากี่ครั้งก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังไม่เจาะจงเกี่ยวกับภิกษุที่จะรับผ้ากฐินแต่อย่างใด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระบรมศาสนายังมิได้ทรงอนุญาตให้พระภิกษุทั้งหลายรับจีวรจากชาวบ้าน พระภิกษุเหล่านั้นจึงต้องเที่ยวเก็บผ้าที่เขาทิ้งแล้ว เช่น ผ้าเปรอะเปื้อนที่ชาวบ้านไม่ต้อง การนำมาทิ้งไว้ ผ้าห่อศพ ฯลฯ เมื่อรวบรวมผ้าชิ้นเล็กน้อยพอแก่ความต้องการแล้ว จึงนำมาซักทำความสะอาด ตัดเย็บ ย้อม เพื่อทำเป็นจีวร สบง หรือสังฆาฏิ ผืนใดผืนหนึ่ง การทำจีวรของภิกษุในสมัยพุทธกาลจึงค่อนข้างยุ่งยากและเป็นงานใหญ่ ดังที่กล่าวไว้แล้วในเรื่องพิธีทอดกฐิน
    ครั้นชาวบ้านทั้งหลายเห็นความยากลำบากของพระภิกษุสงฆ์ต้องการจะนำผ้ามาถวาย แต่เมื่อยังไม่มีพุทธานุญาตโดยตรง จึงนำผ้าไปทอดทิ้งไว้ ณ ที่ต่าง ๆ เช่น ในป่า ตามป่าช้า หรือข้างทางเดิน เมื่อภิกษุสงฆ์มาพบ เห็นว่าเป็นผ้าที่ผู้เป็นเจ้าของทอดอาลัยแล้ว ก็นำเอามาทำเป็นสบงจีวร พิธีการทอดผ้าป่าก็มีความเป็นมาด้วยประการฉะนี้
    สำหรับในเมืองไทย พิธีทอดผ้าป่าได้รับการรื้อฟื้นขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ด้วยทรงพระประสงค์จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีในทางพระศาสนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> ความจริงแล้ว การทอดผ้าป่ามีอยู่อย่างเดียว คือการนำผ้าไปทิ้งไว้ดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ในปัจจุบันนิยมทำในรูปแบบ ต่าง ๆ แตกต่างกันไป จึงมีชื่อเรียกเป็น 3 อย่าง คือ
    1. ผ้าป่าหางกฐิน ได้แก่ ผ้าป่าชนิดที่เจ้าภาพจัดให้มีขึ้น ต่อจากการทอดกฐิน คือเมื่อทำพิธีทอดกฐินเสร็จแล้ว ก็ให้มีการทอดผ้าป่าด้วยเลย จึงเรียกว่าผ้าป่าหางกฐิน หรือ ผ้าป่าแถมกฐิน
    2. ผ้าป่าโยง ได้แก่ ผ้าป่าที่จัดทำรวม ๆ กันหลายกอง นำบรรทุกเรือแห่ไปทอดตามวัดต่าง ๆ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำ จึงเรียกว่าผ้าป่าโยง จะมีเจ้าภาพเดียวหรือหลายเจ้าภาพก็ได้
    3. ผ้าป่าสามัคคี ได้แก่ ผ้าป่าที่มีการแจกฎีกาบอกบุญไปตามสถานที่ต่าง ๆ ให้ร่วมกันทำบุญแล้วแต่ศรัทธา โดยจัดเป็นกองผ้าป่ามา รวมกัน จะเป็นกี่กองก็ได้ เมื่อถึงวันทอดจะมีขบวนแห่ผ้าป่ามารวมกันที่วัดอย่างสนุกสนาน บางทีจุดประสงค์ก็เพื่อร่วมกันหาเงินสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ เช่น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ และอื่น ๆ ฯลฯ
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> ให้ผู้เป็นเจ้าภาพไปแจ้งความประสงค์แก่เจ้าอาวาสวัดที่ต้องการจะนำผ้าป่ามาทอด เรียกว่าเป็นการจองผ้าป่า เมื่อกำหนดวันเวลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตั้งองค์ผ้าป่า ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะต้องมีก็คือ
    1. ผ้า
    2. กิ่งไม้สำหรับพาดผ้า และ
    3. ให้อุทิศถวายไม่เจาะจงพระรูปใดรูปหนึ่ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> เจ้าภาพจะจัดหาผ้าสำหรับภิกษุผืนหนึ่ง อาจเป็นสบง จีวร สังฆาฎิ หรือทั้ง 3 อย่างแล้วแต่ศรัทธาเพราะไม่มีข้อกำหนด นำกิ่งไม้ไปปักไว้ในภาชนะขนาดพอสมควร เพื่อใช้เป็นที่พาดผ้าป่า และใช้สำหรับนำสิ่งของเครื่องใช้ที่จะถวายพระ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ผ้าอาบน้ำฝน สมุด ดินสอ ฯลฯ สำหรับเงินหรือปัจจัยนั้น นิยมเสียบไม้ปักไว้กับต้นกล้วยเล็ก ๆในกองผ้าป่านั้น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> ในสมัยโบราณ ไม่ต้องมีการจองผ้าป่า เมื่อเจ้าภาพนำองค์ผ้าไปถึงวัดแล้ว ก็จุดประทัดหรือส่งสัญญาณด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ให้พระท่านรู้ว่ามีผ้าป่า เป็นอันเสร็จพิธี หรือจะอยู่รอให้พระท่านมาชักผ้าป่าด้วยก็ได้
    แต่ในปัจจุบัน การทอดผ้าป่านับว่าเป็นงานค่อนข้างใหญ่ต้องมีการจองผ้าป่าเพื่อแจ้งให้ทางวัดทราบหมายกำหนดการ จะได้จัดเตรียมต้อนรับ เมื่อถึงกำหนดก็จะมีการแห่แหนองค์ผ้าป่ามาด้วยขบวนเถิดเทิงกลองยาวหรือแตรวง เป็นที่ครึกครื้นสนุกสนาน ยิ่งถ้าเป็นผ้าป่าสามัคคีต่างเจ้าภาพต่างแห่มาพบกันที่วัด จนกลายเป็นมหกรรมย่อย ๆ มีการละเล่นพื้นบ้านเหรือร่วมร้องรำทำเพลงร่วมรำวงกันเป็นที่สนุกสนานบางทีก่อนวันทอดก็จะจัดให้มีมหรสพฉลองที่บ้านของเจ้าภาพ
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> ให้นำผ้าป่าไปวางต่อหน้าภิกษุสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าป่า พระสงฆ์รูปหนึ่งผู้ได้รับฉันทานุมัติจากหมู่สงฆ์ก็จะลุกขึ้นเดินถือตาลปัตรมาชักผ้าบังสุกุลที่องค์ผ้าป่า โดยกล่าวคำปริกรรมว่า "อิมัง ปังสุกูลละจีวะรัง อัสสามิกัง มัยหัง ปาปุณาติ" แปลใจความได้ว่า "ผ้าบังสุกุลผืนนี้ เป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของหวงแหน ย่อมตกใจเป็นของข้าพเจ้า
    ต่อจากนั้นพระสงฆ์จึงสวดอนุโมทนาในผลบุญ เจ้าภาพกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล เป็นอันเสร็จพิธี
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=22 height=20></TD><TD>[​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> อิมานิ มะยัง ภันเต ปังสุกูลละจีวะรานิ สุปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามา สาธุ โน ภันเต
    ภิกขุสังโฆ อินามิ ปังสุกูลละจีวะรานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
    คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ผ้าบังสุกุลจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ผ้าบังสุกุลจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เทอญฯ
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD> สิ่งสำคัญที่สุดในการทอดผ้าป่าก็คือ ผู้ที่ถวายต้องตั้งใจหรือกล่าวคำถวายอุทิศแด่ภิกษุสงฆ์ ผู้ต้องการผ้าบังสุกุลอย่างเดียว จึงจะได้ชื่อว่าเป็นการถวายผ้าป่า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=640 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ตะกรุดรกแมว ของครูบาแม้ว วัดขุนคงหลวง ซึ่งได้เคยจัดสร้างรุ่นแรกออกมาให้บูชา 108 ดอกหมดแล้วภายใน 1 เดือน ปัจจุบันท่านได้จัดสร้างตะกรุดรกแมวรุ่น 2 ขึ้น ซึ่งเป็นตะกรุดตามสายวิชาไทยใหญ่อันโด่งดัง ที่ครูบาแม้วไปเรียนจากพ่อเฒ่าหูตึงที่อพยพจากรัฐฉานประเทศพม่ามาอยู่ที่ อ.เวียงแหง ปัจจุบันพ่อเฒ่าท่านนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ก่อนตายตะกรุดรกแมวของพ่อเฒ่าดังมากเพราะพุทธคุณทางเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู เด่นเหลือเกิน การจัดสร้างในครั้งนี้ ครูบาแม้วได้บรรจุผงรกแมวจริงๆ ที่แมวของท่านมาคลอดลูกและคายรกบนที่นอนจำวัด(ปกติแมวจะไปแอบคลอดและจะกลืนกินรกตามสัญชาติญาณสัตว์แต่กลับคายรกกองไว้บนที่นอนให้ครูบาฯ) แต่แมวตัวนี้รักและผูกพันธ์กับครูบาแม้วมากจึงคายรกไว้ให้ รกแมวนี้จึงเปรียบดังของวิเศษที่มีอิทธิคุณอยู่ในตัวเป็นของหายาก จะมีก็แต่พระผู้มากบารมีเท่านั้นที่จะมี

    ประสบการณ์ตะกรุดรกแมวรุ่นแรก (บางส่วน)<!-- google_ad_section_end --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><TABLE class=tborder id=post2483929 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->eicalos<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2483929", true); </SCRIPT>
    สมาชิก PREMIUM

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 381
    Groans: 5
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,022
    ได้รับอนุโมทนา 816 ครั้ง ใน 308 โพส
    พลังการให้คะแนน: 114 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]









    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2483929 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ตะกรุดรกแมว รุ่นแรกของครูบาแม้วโชว์ แล้วล่ะคับวันแรกที่ผมได้มา แถวๆที่ผมอยู่แมวเยอะคับ แมวเดินตามผมเป็นพรวนเลยคับ ผมก็งงมันจะมาเดินตามผมทำไม บางตัวก็เข้ามาคลอเคลียผมคับ ปกติแมวจะไม่ค่อยยุ่งกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเลย แต่มันมารุมล้อมผมซะงั้นเลย นอกจากนี้ยังเด่นด้านเรื่องเมตตาด้วยคับ อาจารย์ที่มหาลัยปกติแกจะโหดๆไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร ผมเข้าไปหาเพื่อขอเลื่อนส่งงาน แกเลื่อนให้เฉยเลยคับ เพื่อนๆงงกันมากเป็นไปได้ไง ปกติแกโหดจะตายไป แถมยังชวนผมไปกินข้าวอีก เอาเข้าไป<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[​IMG]
    เอ...สีสันวันนี้มากมายเลอะเทอะพอดีแล้ว..ผมว่าเปิดพื้นที่ให้พี่พิมานเล่าเรื่องดีๆของตะกรุดรกแมวที่เพิ่งได้รับดีกว่า









    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ก็ไม่มีอะไรแค่ลองอธิฐานให้เรียกลูกค้ามาซื้อของภายใน 10 นาทีนี้ ลูกค้าดันมาจริงแน่<!-- google_ad_section_end -->




    คืนแรกที่ผมนำตะกรุดเข้าบ้านปรากฏว่ามีแมวจากไหนก็ไม่รู้มาส่งเสียงที่หน้าบ้านเป็นฝูงเลยครับ ทั้งๆที่แถวบ้านผมไม่มีแมวซักตัว<!-- google_ad_section_end -->




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post2461665 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><TABLE class=tborder id=post2464286 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2464286 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->







    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2461665 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->






    <TABLE class=tborder id=post2482627 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->maxkyman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2482627", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2009
    ข้อความ: 246
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 199
    ได้รับอนุโมทนา 1,182 ครั้ง ใน 207 โพส
    พลังการให้คะแนน: 85 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]





    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2482627 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ตั้งแต่ได้ตะกรุดมา คนที่เคยติดเงิน ก็ใช้เงินให้กันหมดเลยครับ ทั้งๆที่จะผัดผ่อนกันตลอดว่าเดี๋ยวใช้นะ แต่เมื่อวานอยู่ๆก็เอามาใช้ให้กันทุกคนเลยครับ แปลกใจดี อิอิ<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  4. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ตะกรุดรกแมวเก่งจริงๆ พุทธคุณ ดีด้านค้าขายดีมีคนอุปถัมภ์ล้มแล้วลุก เจ๊งแล้วฟื้นทำนองนั้นเลยลองมาคิดดูดีๆทำไมออกไปทางเจ๊งแล้วฟื้นด้วยนะ"โบราณเขาว่าไว้งัย แมวมีเก้าชีวิต"จิตวิญญาณไม่รู้จักแตกดับตายไปสักทีเพียงแต่เปลี่ยนเข้าร่างใหม่ตลอดได้ถึง๙ครั้ง<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    คาถาบูชาตะกรุดรกแมว

    (ตั้งนะโม ๓ จบ)
    นา กา ตะ ปัง อา กา ตะ ปิ
    :z7​
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  6. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ตะกรุดรกแมว เปิดให้บูชาแล้ว


    [​IMG]
     
  7. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ท่านลงอักขระและบดผง ยัดยง ด้วยตัวท่านเองทุกดอก


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    อิ่มจังตังอยู่ครบ
     
  9. ชาลี(ตรี)

    ชาลี(ตรี) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +798
    ผมขอบูชา ฤาษีพัดโบก รมดำ 2 องค์ รวม 698 บาท
    แมงวันคำ 349 บาท รวมทั้งหมด 1,047+50 =1,097 บาท
    ผมได้โอนเข้าบัญชีพระอุทิศย์ฯ แล้วในวันนี้เวลาประมาณ 12.52 น.
    จาก ชาตรี สุรวิริยาการ 231 ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน่อย กรุงเทพฯ 10700 ขอขอบคุณครับ
     
  10. sunjiaa

    sunjiaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +2,755
    เดี๋ยวถ้าไม่เย็น นี้ก็พรุ่งนี้นะคับ จะโอนให้

    ช่วงนี้ออกไปไหนลำบากคับ

    เหอ ๆ
     
  11. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    จะรีบจัดส่งให้นะคะ
     
  12. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    แหมๆ....แถวโน้นนนนนนน มีม๊อบด้วยหรอ ที่ว่าออกไปไหนลำบากเพราะโดนคุมประพฤติอ่ะดิ อิ อิ
     
  13. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    อร่อยมั๊ย....
     
  14. sunjiaa

    sunjiaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +2,755
    หง่า อยู่บ้านครับ ไม่ได้โดนใครคุมประพฤติ ครับ

    แต่ทำงานที่บ้านยังไม่มีเวลาออกไปอ่ะคับ

    ว่าแต่ ครูบาธร มาที่ไหนอ่ะคับ วันที่ 20-21

    อยากไปสัก อ่าคับ

    ขอด้านเสน่ห์แรง ๆ ซํก 1 ยันต์
     
  15. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,329
    เออ ใช่พี่ตรี ที่อยู่แถวโพธิ์สามต้นรึป่าวครับ ที่ผมกะพี่พัลลภเคยไปจองจตุคามอ่ะ
     
  16. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    วันเวลาเดี๋ยวแจ้งอีกทีนะคะ และจะให้พี่โก๋กำชับท่านให้ว่าคนนี้ต้องหนักๆหน่อย(มือหนัก)555
     
  17. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    อ้าว..รู้จักกันด้วย:cool:
     
  18. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    [​IMG]

    [​IMG]
    ปรอทกรอ เป็นเครื่องรางของขลังยุคโบราณที่หายากมากชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าตามพระปรางค์ เจดีย์โบราณหรือพระอุโบสถ์หลังหนึ่ง มีฝังไว้เพียง 1 ลูกเท่านั้น มีสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเชียงแสน มีใช้ในชนชั้นสูง เช่นวรรณะกษัตริย์และแม่ทัพนายกอง เมื่อถูกสั่นสะเทือนแม้เพียงเล็กน้อยจะส่งเสียงร้องคล้ายจั๋กจั่น เสียงกังวานไพเราะ เมื่อมีโจรผู้ร้ายบุกรุก หรือยามช้างศึกม้าศึกกรีฑาทัพมาจะส่งเสียงร้องเตือนภัยแก่แม่ทัพนายกองได้ กลไกภายในยังเป็นความลับอยู่ เชื่อกันว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ปลุกเสกด้วยคาถาอาคม มีความคงทนมาก แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี
    โดดเด่นทางป้องกันฟ้าผ่า สิ่งชั่วร้าย สิ่งอัปมงคลต่างๆ คงกระพันชาตรี นำโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ผู้ครอบครอง และร้องเตือนภัยแก่ผู้เป็นเจ้าของได้
    หากมีไว้บูชาในร้านค้าจะเรียกลูกค้าเข้าร้านได้และใช้ด้านเมตตามหาเสน่ห์ได้อีกด้วย

    ครูบาบุญทาท่านทำการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่านเต็มที่เลยค่ะ

    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  19. sunjiaa

    sunjiaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +2,755
    จัดมาคับ หนัก ๆ เสน่ห์ก็ต้องหนักๆ ด้วยนะคับ

    ไม่งั้น ผมร้องไห้ เลยนะ

    ปล.ไม่เคยสักเลยคับ
     
  20. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ความรู้เพิ่มเติมจากพี่เอก<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    ลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด

    [​IMG]


    ภาพพระสุนทรีวาณี ถือดวงแก้ววิเชียร
    ที่สมเด็จพระวันรัตแดงเกิดนิมิตร
    แล้วให้จิตกรหลวงเขียนไว้<O:p


    ประวัติ..พระสุนทรีวาณี
    เป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร อยู่ในพระหัตถ์
    <O:pพระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำ
    <O:pพระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา<O:p

    สืบได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา<O:p

    สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน ครั้นต่อมารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถวายคาถานี้ให้จำเริญ ครั้นเสด็จกลับจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์ และทรงยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา ๕ ปี จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานคืนวัด ปัจจุบันประดิษฐานที่ พระตำหนัก (คณะ ๖)<O:p
    </O:p
    คาถาพระสุนทรีวาณี
    ตั้ง นะโม (๓ จบ)
    มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตังมะนัง<O:p

    คำแปล
    นางฟ้า คือพระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ<O:p

    หมายเหตุ<O:p
    พระสุนทรีวาณี เป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคล มหาลาภต่าง ๆ จึงเหมาะแก่ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วไปจะมีไว้บูชาเพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน<O:p
    ผู้บูชาเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และความสำเร็จสมหวัง..

    <O:pที่มา: เปิดกรุวัดสุทัศน์ ,วัดสุทัศนเทพวราราม<O:p

    <O:p
    เมื่อแรกผู้เขียนเองก็สงสัยว่าลูกสุนทรีที่หลวงปู่ครูบาบุญทานำมาแช่น้ำพระพุทธมนต์เวลาปลุกเสกและนำมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกคืออะไร จึงได้เริ่มต้นทำการสืบค้นจากสำนักวัดสุทัศน์ฯซึ่งเคยบวชเรียน โดยได้ภาพพระสุนทรีวาณีมาพิจารณา ปรากฎว่าในภาพท่านถือดวงแก้ววิเชียร(วิเชียรแปลว่าเพชร) แต่ทำไมสีไม่เหมือนเพชร กลับเหมือนสีของลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แสดงว่าดวงแก้ววิเชียรที่สมเด็จพระวันรัตแดงเห็นในนิมิตรก็คือลูกสุนทรีนี้นั่นเองซึ่งแปลกมากที่ตรงกับการเรียกของครูบาส้อพระอาจารย์ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แปลว่าถ้าสืบค้นขึ้นไปทางล้านนาในยุคโบราณแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการสืบทอดความเชื่อนี้กันมานานเพราะลูกสุนทรีที่ว่านี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเชียงแสนแล้ว แต่เพิ่งสูญไปในระยะหลังนี่เอง พอผู้เขียนหันกลับมาสืบค้นข้อมูลในภาคกลางปัจจุบันกลับเรียกลูกสุนทรีว่าปรอทกรอซึ่งก็สัมพันธ์กลับดวงแก้ววิเชียรที่แปลว่าเพชรเพราะปรอทมีสีเงินวาวสว่างคล้ายเพขรและมีที่ไปที่มาตามนี้

    <O:pปรอทกรอ จริงๆแล้วเป็นของดีที่หายาก มีมาตั้งแต่ยุคเชียงแสนจนถึงลพบุรี อยุธยา วัดหนึ่งวัดจะมีมีฝังไว้ที่ใต้อุโบสถอยู่ลูกเดียว มีหลายขนาดครับ ที่นิยมกันที่สุดก็คือเนื้อสำริด วัตถุประสงค์ก็เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงที่เข้ามารวมทั้งโจรผู้ร้ายเมื่อเขามาปรอทก็จะส่งเสียงดัง<O:p

    ปรอทกรอเป็นยุทโธปกรณ์ใช้ในการทำสงครามสมัยโบราณ สร้างไว้ให้สำหรับผู้นำทับระดับนายกอง หรือหัวหมู่ เวลานอนจะเอาปรอทกรอวางไว้บนดินแล้วนอนเอาหูแนบปรอทกรอไว้ ข้าศึกขี่ม้าหรือช้างเข้ามาใกล้ ปรอทกรอจะสั่นได้ยินเสียง จะได้รู้ตัวก่อน ปรอทกรอสำหรับแม่ทัพจะทำด้วยโลหะมีค่าหรือหุ้มด้วยทองคำ ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็ก เหล็กไหล ปรอทแข็งหรือ โลหะใดๆที่ปลุกเสกดีแล้วที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอามาใส่ไว้ ฉะนั้นเวลาเขย่าจะคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างใน ปรอทกรอเดิมเท่าที่พบก็จะฝังอยู่ตามวัดเก่าหรือเป็นของตกทอดมาจากปู่ย่า บรรพบุรุษที่เป็นนักรบ<O:p

    ต่อมาพระเกจิอาจารย์จึงได้นำมาสร้างเป็นเครื่องรางเรียกว่า ปรอทกรอ โดยเชื่อว่าเมื่อมีภัยมาถึงปรอทกรอจะส่งเสียงเตือนให้รู้ล่วงหน้า จึงบันทึกเพื่อสืบสานประวัติเครื่องรางบางอย่าง ก่อนที่อนาคตจะเหลือแค่เรื่องเล่าที่ขาดการประติดประต่อ

    <O:pคาถาปลุกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<O:p

    (ตั้งนะโม 3 จบ)<O:p

    สุนักขัตตั๋ง สุมังคะลัง สุปะภาตั๋ง สุหุฏฐิตั๋ง สุขะโณ สุมุหุตโต สุยิฏฐัง พรัหมะ จารีสุ
    อธิษฐานใช้ด้านป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนภัยกันศัตรูนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้<O:p

    .................................................<O:p
    (ตั้งนะโม 3 จบ)<O:p

    โอม จะเร จั๋นเต๋วะรัง พันทะนัง สวาหุมติ๊ด<O:p
    อธิษฐานใช้ด้านเมตตามหาเสน่ห์<O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...