ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วันนี้แถวนนทบุรีฝนตก

ตกเสร็จ ร้อนๆ แบบเหนียวๆ เลยครับ

 

โปรดช่วยกันดูแลและรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย​

เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย กำลังตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ผมจึงจำเป็นต้องนำข่าวเรื่องการจาบจ้วง ดูหมิ่น และทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย มาโพสต์ในกระทู้นี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้คนไทยทั้งหลายเกิดจิตสำนึก ออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกที่ต้องการทำลายล้างพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย​

แต่ก็ยังมีผู้อ่านบางท่านมองเจตนาของผมไปในแง่ร้าย โดยกล่าวหาว่านำข่าวมาสร้างความแตกแยกให้กับคนไทย แทนที่จะรีบออกมาช่วยกันปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย กลับมองเห็นว่าเป็นเรืองเหลวไหลเป็นการกุข่าวขึ้นมาเอง ทั้งๆที่ก็มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า กระบวนการต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย เป็นเรื่องจริงที่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดแจ้ง​

ผมจึงอยากขอร้องให้ทุกท่านที่รักในหลวงของเรา อย่าได้นิ่งเฉยต่อกระบวนการล้มเจ้านี้อีกต่อไปเลยครับ โปรดช่วยกันต่อต้าน โปรดออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกระบวนการล้มเจ้านี้ด้วยเถิด เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้ว โดยพวกเขาพยายามปิดปากคนที่ออกมาเปิดเผยข่าวนี้ โดยอ้างว่าเป็นการสร้างความแตกแยกบ้าง เอาเรื่องร้อนมาโพสต์ในกระทู้บ้าง ให้ปิดกระทู้นี้บ้าง ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพียงเพื่อไม่ต้องการให้ใครไปขัดขวางกระบวนการล้มเจ้าของพวกเขานั่นเอง​

หมายเหตุ ​

ถ้าผู้ดูแลกระทู้นี้เห็นว่าข้อความที่ผมโพสต์มานี้ไม่เหมาะสม ไม่เป็นเรื่องจริง ผมก็อนุญาตให้ลบข้อความทั้งหมดของผมได้โดยทันทีครับ แต่ได้โปรดช่วยกันต่อต้านกระบวนการล้มเจ้านี้ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยให้ยั่งยืนต่อไปครับ​

 

เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้ทรง ตรัสรู้แล้ว แต่เนื่องจากพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อน สุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ ทรงเกิดความท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรมโปรดมหาชน ต่อมาท่านได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้ง แล้วทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า ดังนั้นแล้วจึงดำริที่จะแสดงธรรมเพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป
บัว ๔ เหล่า ได้แก่

๑.พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)

๒.พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปจิตัญญู)

๓.พวกที่มีสติ ปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอยด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)

๔.พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน (ปทปรมะ)

 

แผ่นดินนี้

มีผู้อ้าง ไม่ประสงค์ ล้มล้างสถาบัน แต่หวังเปลี่ยนโครงสร้างการปกครอง

มีผู้เป็นอวิชชา แลเห็นกงจักร แต่สำคัญว่าดอกบัว

มีผู้ติดกับแห่งโมหะ ดวงตาไม่แจ้ง ตระหนักตามจริง

จวนจะสิ้นแล้ว ซึ่งกรรมวิบาก

 

ทนไม่ไหว

อ่านมานานแล้วครับ กระทู้นี้ แต่ไม่ได้สมัครสมาชิก ชอบข้อความข้อมูล

จากพี่ๆทุกๆคนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณเกษม

วันนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ที่มีคนมาบอก มาว่าคุณเกษม มั่ว

จะปิดตากันไปถึงไหน เป็นกำลังใจให้คุณเกษม คับ เพราะผมก็รู้ว่ามีพวกล้มเจ้า

จริงๆ เว็ปไซต์ที่ผมเคยเข้าไปอ่านเดี๋ยวนี้โดนลบไปหมดแล้ว ยกตัวอย่าง

นอปอชอยูเอสเอ เว็ปนี้แรงมากๆ พวกที่ คิดว่าคุณเกษม มาสร้างความแตกแยก

คุณกลับไปหาข้อมูลมาก่อนเถอะคับ ความจริงก็คือความจริง ภัยภิบัติร้ายใกล้ตัว

เลยครับอันนี้ เพราะผมรักในหลวงผมทนไม่ไหวจริงๆ

 

ผมเห็นด้วยครับ ขอบคุณครับที่ยังมีคนคิดแบบนี้(ในประเทศไทย) ตอนนี้คนชั่ว แบบ คนที่หนีคดี อยู่ต่างประเทศ คนชั่วช้าที่ราชประสงค์ มีแนวร่วมเยอะมาก น่ากลัวจริงๆ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาประเทศไทย ขอได้โปรด ดลบันดาล ให้ผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติ บ้านเมือง จงพินาศโดยเร็ววัน

 

เป็นกำลังใจให้พี่เกษม

What's going on in America กล่าวว่า... คุณ Banksia ครับ

กับปรากฏการณ์เสื้อแดง เวลาคงจะเป็นตัวชี้วัดครับ ในกลุ่มคนเสื้อแดงเองก็ประกอบด้วยหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีจุดหมายต่างกัน คงต้องดูทิศทางของเค้าและการขยายผลครับ ถ้าเราศึกษาเรื่องอีลูมินาติได้ลึกพอสมควรเราจะรู้ว่าคนที่ถูกเค้าใช้ยังไม่ รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าถูกเค้าใช้อยู่ จนสถานการณ์บีบหรือเลยเถิดจนถลำตัวลึกเข้าไปแล้วก็ต้องเป็นไปตามแผนที่บงการ อยู่เบื้องหลังวางเอาไว้ ซึ่งตรงนี้จะตามทันได้ยากอันตรายมากครับ ที่สำคัญคืออย่าไปเหมารวมว่าการเรียกร้องทั้งหมดเป็นการล้มเจ้า คนที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมก็เยอะครับ แม้แต่ตัวแกนนำเองก็ตาม เพราะฉะนั้นข้อมูลต่างๆที่ออกมาจึงทำให้ประชาชนสับสนไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด และถูกชี้นำได้โดยง่ายครับ

ในกรณีที่แย่ที่สุดของเราคือรัฐบาล ใช้กำลังเข้าปราบปราม(ก็เข้าทางเค้า)แล้วม๊อบแตกกระจายไปในหลายจังหวัด มีการจราจล ความรุนแรงและการประทะในจังหวัดต่างๆ ของหลายๆ กลุ่ม จนต่างชาติต้องเข้ามา โดยเฉพาะเจ้า UN นี่ เค้าอ้างได้แล้วทีนี้ ว่ารัฐบาลเผด็จการใช้กำลังทหารเข่นฆ่าประชาชน (เหมือนกับที่เค้าทำกับหลายๆ ประเทศด้อยพัฒนาเพื่อล้มรัฐบาลของประเทศนั้นๆ***) จับตาดูความเคลื่อนไหวของต่างชาติที่มาในลักษณะต่างๆ ครับ เช่น ฑูตของบางประเทศที่เข้าไปในกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะ UN, สหภาพยุโรป, สหรัฐ และ อังกฤษ และอาเซียนบางประเทศว่าจะมาไม้ไหนกันบ้าง ถ้าเมื่อไหร่ที่ความรุนแรงขยายตัวแล้วกลุ่มประเทศเหล่านี้ขยับมากขึ้นจน เริ่มน่าเกลียด ก็มีความเป็นไปได้สูงครับ ว่าเราโดนของเค้าเข้าแล้ว.....( ตัวอย่างเช่น เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ, จีนกับใต้หวัน, อินเดียกับปากีสถาน, เวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้, ประเทศในสหภาพโซเวียตเดิม เกือบทุกคู่มีเชื้อชาติเดียวกันแต่ก็โดนปั่นจนเละมีสงครามแล้วก็ไปซื้ออาวุธ ของเค้ามาห้ำหั่นกันเอง )

กับเรื่องปฏิบัติการมารครองโลก ผมเห็นว่าอาจจะช่วยให้คนไทยส่วนหนึ่งให้ "รู้ทัน" วิธีการและรูปแบบที่เค้าใช้บ่อนทำลายชาติต่างๆ ทำให้เราไม่เลือกข้างจนกว่าจะเห็นอะไรชัดเจนจริงๆ ซึ่งไม่ง่ายเลยครับ เพราะอาจจะมีมือที่มองไม่เห็นเดินหมากกันอยู่ข้างบน และคนไทยด้วยกันก็มาด่า มาทะเลาะ ฆ่ากันหนักขึ้นเรื่อยๆ ประมาณว่าเปิดประเด็นปุ๊บทะเลาะกันได้ทันที!!!

อย่างน้อยก็ขอให้มีคน กลุ่มหนึ่งซึ่งมองทะลุสิ่งเหล่านี้ครับ แล้วไม่ไปเป็นเบี้ย เป็นเหยื่อหรือเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และผมเชื่อว่าพวกเราจะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าครับ

 

ผมขอแสดงความจงรักภักดี
และขอปกป้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เป็นที่สุดครับ
วสุธรรม

 

<HR color=#b0ad27>
รูปขนาด 940 x 628 pixel
รูปขนาด 940 x 628 pixel

ขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ภูเขาทั้งลูกก็ไหลมาทับรถไปหลายคัน..เหตุเกิด 25-0410 Taiwan


<EMBED style="WIDTH: 660px; HEIGHT: 363px" title=www.ecrazys.net雅俗共賞-主版面 height=363 type=application/x-shockwave-flash width=660 src=http://www.youtube.com/v/HRUU0Ghf-2Q&hl=en_US&fs=1&autoplay=1 allowfullscreen="true" allow***access="always"></EMBED> ​

</LEFT>

<EMBED height=385 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/DmTKB2-cvp8&hl=zh_CN&fs=1& allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>​

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นกปากห่างตายเป็นฝูงผวาหวัดนก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผวาโรคไข้หวัดนกกลับมาระบาดอีก หลังจากนกปากห่างฝูงใหญ่ที่เกาะอาศัยในพื้นที่ร่วงหล่นตายเป็นจำนวนมาก นายอำเภอทราบเรื่องเร่งส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบ คาดว่านกปากห่างอาจกินปลาหรือหอยที่มีการวางยาเบื่อไว้ จึงตายตามไปด้วย

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ว่ามีนกปากห่างนับพันตัวตายเกลื่อนทุ่งนาในพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 4 ต.โคกช้าง ซึ่งเป็นป่ารกร้างกลางทุ่งนาติดคลองบางปลาหมู บริเวณดังกล่าวปกติเป็นที่เกาะอาศัยนอนและออกไข่ฟักลูกของนกปากห่างฝูงใหญ่หลายหมื่นตัว และเป็นพื้นที่ระบาดของไข้หวัดนกมาก่อน

นายวิเชียร พวงลำเจียก ชาวนาต.โคกช้าง กล่าวว่าเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา นกปากห่างที่เกาะอาศัยเริ่มหล่นจากต้นไม้ลงมาตายจำนวนมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ

และนกยังตายเพิ่มขึ้นอีก ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วบริเวณ ชาวบ้านกลัวว่านกปากห่างจะเป็นไข้หวัดนก เพราะพื้นที่อ.ผักไห่ เคยเป็นพื้นที่ระบาดของไข้หวัดนกมาก่อน จึงขอร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบด้วย

ทางด้านนายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอผักไห่ เปิดเผยว่าได้ขอร้องไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว

แล้วจะจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และปศุสัตว์อำเภอ เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อเก็บตัวอย่างซากนกที่ตายไปตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่านกปากห่างอาจไปกินปลา หรือหอยที่มีการวางยาเบื่อไว้ และพิษของยาเบื่อยังตกค้างอยู่ เมื่อนกกินหอย กินปลาเข้าไปจึงเสียชีวิต โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่ไข้หวัดนก เพราะปกติไข้หวัดนกจะระบาดช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว ไม่ใช่ระบาดในหน้าร้อน

อย่างไรก็ตามขอร้องประชาชนอย่าหยิบจับนกด้วยมือเปล่า หากนกตายในท้องนา ให้ชาวนาสวมถุงมือและปิดปากปิดจมูกก่อนหยิบซากนก จากนั้นให้นำไปเผาหรือฝังกลบ.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จจาก รพ.จุฬาฯ ไปประทับรักษาพระองค์ที่ รพ.ศิริราช</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง รพ.จุฬาฯ

เพื่อทรงเยี่ยมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ประทับรักษาพระองค์ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ด้วยทรงห่วงใยพระอาการ และทรงห่วงใยการทำงานของบุคลากรใน รพ.จุฬาฯ ทั้งทรงให้มีการติดตามอาการผู้ป่วยที่ต้องย้ายออกจากโรงพยาบาล และในช่วงเย็นวันนี้สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จจาก รพ.จุฬาฯ ไปประทับรักษาพระองค์ที่ รพ.ศิริราชแล้ว

นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่าเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (1 พ.ค.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จพระราชดำเนินไปยัง รพ.จุฬาลงกรณ์ ทรงเยี่ยมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และห้องฉุกเฉินใหม่ ที่ตึกจงกลนี ทั้งนี้ทรงรับสั่งห่วงใยการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ว่าคงต้องเหนื่อย แต่ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และขอให้มีการติดตามอาการของผู้ป่วยที่ต้องย้ายออกจากโรงพยาบาลทุกคนทั้งเรื่องของอาการ และค่าใช้จ่าย และมีพระราชดำรัสว่า จะทรงร่วมติดตามอาการของผู้ป่วยด้วยพระองค์เองเช่นกัน และยังทรงห่วงเรื่องของตึกอาคารต่างๆ ว่ามีส่วนใดได้รับความเสียหายหรือไม่

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยด้วยว่า ในโอกาสนี้ คณะสงฆ์และคณะแพทย์ได้หารือร่วมกันถึงการถวายการดูแลสมเด็จพระสังฆราชฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทูลเชิญเสด็จไปประทับรักษาพระองค์ที่ รพ.ศิริราช

นพ.อดิศร กล่าวว่า การเปิดถอยร่นของกลุ่ม นปช.จากถนนราชดำริออกไปนั้นเพียงแค่เลนเดียวยังไม่เพียงพอ

กับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยที่จะมาใช้บริการของโรงพยาบาล และการเข้า-ออกของผู้ป่วยยังคงยากลำบากอยู่ดี ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่า กลุ่ม นปช.ควรถอยร่นไปถึงแยกสารสิน เพื่อบริเวณรอบโรงพยาบาลกลายเป็นเซฟโซน พร้อมยืนยัน ไม่มีแนวคิดใช้อำนาจศาลจัดการกับกลุ่ม นปช.เนื่องจากต้องการให้เกิดความสงบ ไม่มีความขัดแย้ง และเห็นว่าการพึ่งอำนาจศาลให้สั่งให้กลุ่มนปช.ออกจากพื้นที่ต้องใช้เวลานาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ สมเด็จพระสังฆราช เสด็จลงจากชั้น 8 อาคาร ล้วน- เพิ่มพูน ว่องวานิช รพ.จุฬาฯ

ไปประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราช แล้ว หลังจากที่ทรงเป็นผู้ป่วยรายสุดท้ายที่ยังคงรักษาพระอาการ ใน รพ.จุฬาฯ เพียงองค์เดียว เนื่องจากทาง รพ.จุฬาฯ ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีอยู่ทั้งหมดไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่นๆ แล้ว เพราะสถานการณ์การชุมนุม . -สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

งานนี้ยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คนหนึ่งหวังได้ คนหนึ่งหวังเป็น 2 คนรวมกัน คนหนึ่งออกหน้า คนหนึ่งอยู่หลังใช้พลังช่วยหนุน พวกเบี้ยเม็ดดาหน้า รู้จริงหรือไม่ ถ้าสิ้นศึกฆ่าโค บูชายัน เนื้อสันขึ้นเหลา ส่วนเขาเอาไว้ประดับเท่านั้น

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณเกษมสู้ต่อครับ ร่วมกันปกป้องสถาบัน
อย่าหวั่นไหวต่อมารผจญ :boo:

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แพทย์พยาบาลจุฬาฯ 500 คนแสดงพลังยันดูแลผู้ป่วยไม่แบ่งแยก วอนอย่ารุกล้ำการปฏิบัติหน้าที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 พฤษภาคม 2553 10:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาฯ กว่า 500 คนแสดงพลังและเจตนารมย์ต่อเหตุการณ์ก๊กแดงบุกโรงพยาบาล ยืนยันดูแลผู้ป่วยโดยไม่แบ่งแยก เรียกร้องอย่ารุกล้ำการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ พยาบาลร้ำไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยผู้ป่ายเกือบ 200 คน เดินทางมาพบแพทย์แต่เช้าต้องผิดหวัง เพราะโรงพยาบาลยังไม่ให้บริการเกรงจะไม่ปลอดภัย ย้ำก๊กแดงต้องรื้อถอนบังเกอร์ไปถึงแยกสารสิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า เช้าวันนี้ (3 พ.ค.) ทีมแพทย์ พยาบาล นิสิต บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกระดับของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เกือบ 500 คน ได้ออกมาแสดงพลังและเจตนารมย์ต่อเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าค้นโรงพยาบาลจุฬาฯ และร่วมร้องเพลงชาติ เพลงมาร์ชประจำโรงพยาบาล มาร์ชพยาบาล บริเวณหน้าตึกอำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยมีการนำป้ายแสดงความรู้สึกและจุดยืน ซึ่งมีเนื้อหาว่า "โรงพยาบาลจุฬาฯ สภากาชาดไทย เป็นกลาง ยึดถือหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด โดยไม่แบ่งแยก โปรดอย่ารุกล้ำการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ของพวกเรา"

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างทีมแพทย์ พยาบาล นิสิต บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ร้องเพลงมาร์ซพยาบาลนั้น พยาบาลบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนของพยาบาลและบุคลากรของฝ่ายต่างๆ ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มาเปิดเผยถึงความรู้สึกกับเหตุการณ์ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บุกตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทำให้ส่งผลกระทบกับผู้ป่วย

ขณะเดียวกันยังยืนยันตามแถลงการณ์ของโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่ต้องการให้กลุ่มคนเสื้อแดง รื้อถอนแนวรั้วไปถึงแยกสารสิน สำหรับปัญหาเกี่ยวเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่ม นปช.นั้น ขณะนี้มีการรื้อถอนแนวรั้วไปอยู่ที่จุดกลับรถที่สองของ ถนนราชดำริ ซึ่งตรงกับประตูทางออก ยังไม่ได้รื้อแนวไปถึงแยกสารสินตามที่ร้องขอ ส่วนการให้บริการของโรงพยาบาลยังเปิดเฉพาะแผนกฉุกเฉิน ยังปิดบริการผู้ป่วยนอก แต่วันนี้มีผู้ป่วยเดินทางมาโรงพยาบาลเกือบ 200 คนแล้ว บางคนเดินทางการมาตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เลื่อนนัดออกไป ถ้าจะรับยา ก็ให้แพทย์มาสั่งจ่าย

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณแยกราชประสงค์ เช้าวันนี้ บนเวทียังคงมีแนวร่วมขึ้นไปเล่าข่าวและวิพากษ์วิจารณ์ข่าว สลับกับการปราศรัยโจมตีรัฐบาล ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างก็ปฏิบัติภารกิจส่วนตัว บางส่วนก็หุงหาอาหาร อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แกนนำจะประชุมกันในช่วงเช้าก่อนที่จะแถลงต่อสื่อมวลชน

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000060684

 

ลองทำตัวเป็นกลาง คิดว่าไม่อยู่ข้างใคร เราเป็นคนอื่นมองไปดูปัญหาของคนอื่น ไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสิน เอาหลักของเหตุและผลมาพิจารณา ไม่เชื่อตามคนที่เล่าทันที
ใช้เวลาศึกษาข้อมูลทุกด้านทุกแขนง ไม่มั่ว ใช้ใจที่เป็นกลาง ศึกษาประวัติศาสตร์การช่วงชิงอำนาจจากหลายๆที่หลายๆประเทศ สุดท้ายชาวประชา เบี้ยไบ้รายทาง ได้อะไร
ใครเป็นคนที่ได้ กันแน่ ลองดูใจเย็นมีสติคิดทุกลมหายใจ สิ่งที่รับฟัง ดู อ่าน กันเหล่านั้น ลึกๆเคลือบแฝงไปด้วยอะไร มันซับซ้อนสับสนทางใครทางมันอุดมไปด้วยผลประโยชน์ ความโลภหรือไม่ เรื่องมันคงไม่เล็กๆแค่ในประเทศเราเท่านั้น อย่าลืมนะครับทุกวันนี้มันสัมพันธ์กันหมดทั้งโลก คุณดู อ่านแต่แหล่งเดิมซ้ำๆ แน่ใจหรือว่ารับข้อมูลกันครบถ้วนทุกด้านทุกประเด็นไม่ถูกตัดต่อให้ดูแค่สิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ เปิดตา เปิดใจ ให้ กว้าง............................. ไว้ ก็น่าจะได้ความคิดบางอย่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ลองคิดตัวเองเป็นคนชาติอื่นแล้วศึกษาข้อมูลเป็นกรณีศึกษา คงได้อะไรบางอย่าง

แต่............ สุดท้ายอย่าลืมคิดแบบวิญญาณของคนไทยแบบเต็มดวงด้วยนะครับ
อย่าให้ โมหะ โทสะ โลภะ มาคลุมตาคลุมใจกันเลย

 

นราธิวาส-ยิง M 79 ใส่ฐานทหารที่ตันหยงลิมอ 2 ลูกซ้อน​

​

โจรใต้ยิงเอ็ม.79 จำนวน 2 ลูก ใส่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดพัฒนาสันติที่ 38-12 ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านไอปาเซ ม.8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ แต่พลาดเป้า ทำให้อาคารเรียนเสียหายหลายจุด ส่วนทหารปลอดภัย

เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ ( 3 พ.ค.) ร.ต.ท.นรเศรษฐ์ สุขศรี ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 ยิงถล่มใส่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดพัฒนาสันติที่ 38-12 ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านไอปาเซ ม.8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จำนวน 2 ลูกซ้อน เหตุเกิดเมื่อ เวลา 00.45 น.วันนี้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงกลุ่มคนร้ายจะวางแผนดักซุ่มโจมตี

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิด จำนวน 2 จุด จุดแรกที่บริเวณถนนหน้าอาคารเรียนชั้น ป.4 ซึ่งมีเศษชิ้นส่วนของปลอกกระสุนปืน เอ็ม.79 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง ส่งผลทำให้ฝาผนังอาคารเรียนชั้น 2 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายหลายจุด ส่วนจุดที่ 2 เกิดขึ้นที่บริเวณบ่อเลี้ยงปลาหลังกำแพงรั้วของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการณ์ ไม่มีกำลังพล และส่วนใดของฐานได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบว่า จุดที่คนร้ายซุ่มยิง เอ็ม.79 ใส่ฐานปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ อยู่บริเวณสวนยางพาราห่างจากฐานประมาณ 200 เมตร ขณะที่กำลังผสมร่วมทหารพรานกรมที่ 45 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 38 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ และกำลัง อส. รวม 4 ชุดปฏิบัติการณ์ ภายใต้การควบคุมของ ร.ต.กิตติพัฒน์ ม่วงน้อย กำลังพักผ่อน และเข้าเวรยามอยู่ภายในฐาน ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวเข้าไปในสวนยางพารา และใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 ยิงถล่มใส่ฐาน จำนวน 2 นัดซ้อน แต่กระสุนปืนพลาดเป้า ร.ต.กิตติพัฒน์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังผสม เข้าประจำจุดและใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนกลุ่มคนร้ายล่าถอยไป

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

อยุธยา-เก็บซากนกปากห่างตรวจพิสูจน์​

​

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ และจากกรมปศุสัตว์เข้าเก็บทำลายซากนกปากห่างที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุจำนวนมากในพื้นที่ อ.ผักไห่ พร้อมนำเชื้อไปตรวจสอบว่าเป็นโรคไข้หวัดนกหรือไม่

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์กว่า 60 นาย เดินทางโดยรถยนต์เข้าไปยังพื้นที่เกาะกลางน้ำ ลำรางปลาหมู เขตพื้นที่ ม.3 และ 4 ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบและเก็บตัวอย่างนกปากห่างที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้พบว่าตลอดระยะทางที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบซากนกปากห่างตายเกลื่อนตลอดทาง โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บซากนกปากห่างใส่ถุงดำเพื่อนำไปรวมเผาและฝัง โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สวมชุดป้องกันเชื้อโรค พร้อมนำอุปกรณ์ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และถุงเก็บซากสัตว์ เข้าปฏิบัติหน้าที่เก็บซากนกปากห่าง และต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ระบาดของไข้หวัดนกมาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด กระจายออกเก็บซากนกปากห่างจำนวนมากที่ตายตามใต้ต้นไม้ กลางทุ่งนา โดยสามารถเก็บซากนกได้เกือบ 1,000 ตัว และบางตัวตายมาประมาณ 2-3 วัน ส่วนบางตัวเพิ่งจะตายใหม่ ๆ เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างมูลของนกปากห่างที่ตายไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุของการตายที่แท้จริง โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จึงจะทราบผล

นายเรวัติ ประสงค์ นายอำเภอผักไห่ กล่าวว่า ได้เก็บตัวอย่างทั้งนกเป็นและนกตายส่งไปให้ฝ่ายปฏิบัติการทดสอบทั้ง 2 ส่วน คือกรมปศุสัตว์ 1 ชุด และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช 1 ชุด เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงว่ามาจากสัตว์กินน้ำที่มีสารเคมี หรือยาฆ่าแมลงตกค้าง หรือเกิดจากเชื้อไข้หวัดนก แต่จากการลงพื้นที่พบว่า สาเหตุการตายน่าจะมาจากกินสัตว์น้ำที่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้าง โดยพื้นที่ อ.ผักไห่ มีการปลูกข้าวกันจำนวนมาก และก่อนหน้านี้มีปัญหาหอยระบาดหนัก และปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดหนัก ทำให้ชาวนาเพิ่มปริมาณยาและสารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูของต้นข้าว และสารเคมีและยาฆ่าแมลงลงไปตกค้างในสัตว์น้ำ เมื่อนกมากินจึงตายได้ แต่ประเด็นที่ชาวบ้านหวั่นเกรงคือไข้หวัดนกนั้นไม่ได้ตัดทิ้ง และคงต้องรอผลพิสูจน์ต่อไป

ว่าที่ ร.ต.วีระศักดิ์ ว่องทรง หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวัดไผ่ล้อมฯ เชื่อว่าการตายอาจมาจากสารพิษตกค้างในสัตว์น้ำที่นกกินเข้าไป ไม่น่าจะเป็นเชื้อไข้หวัดนก เพราะเชื้อโรคหวัดนกจะระบาดในที่อุณหภูมิไม่สูง หรือในช่วงหน้าหนาวของไทย และไม่เคยปรากฏว่าเชื่อไข้หวัดนกจะระบาดในหน้าร้อน ยิ่งช่วงนี้อุณหภูมิในประเทศสูงสุดกว่า 40 องศา ซึ่งความร้อนขนาดนี้ เชื้อโรคไม่สามารถระบาดได้ เพราะไขที่หุ้มเชื้อโรคสลายไปเพราะความร้อน และความร้อนก็จะฆ่าเชื้อโรค แต่หากในหน้าหนาวไขที่หุ้มเชื้อโรคจะช่วยปกป้องเชื้อโรคไว้ และในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสำรวจเก็บตัวอย่างนกปากห่างในเขต อ.ผักไห่ไปแล้ว ผลการตรวจสอบก็ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดนกเช่นกัน

อย่างไรก็ตามการตายของนกปากห่างจำนวนมากครั้งนี้ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานกำลังวิตกว่า หากเป็นเชื้อไข้หวัดนกจริงก็เท่ากับเชื้อโรคพัฒนาสายพันธุ์ให้ทนต่อสภาพอากาศของไทยซึ่งยากต่อการฆ่าเชื้อ แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้คิดไกลไปถึงขนาดนั้น

ข่าวทีวีช่อง3 วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

บังกลาเทศ-ฟ้าผ่าคนตายทั่วประเทศ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

เกิดเหตุฟ้าผ่าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ในเขตการปกครองของบังกลาเทศ เหยื่อส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อยู่กลางทุ่งนา หรือไม่ก็อยู่ในบ้าน ส่วนที่เหลือเดินอยู่บนถนน

สำนักข่าวแห่งชาติ UNB UNITED NEWS OF BANGDADESH ของบังกลาเทศ รายงานว่า ประชาชน 6 คนเสียชีวิตในเขตการปกครองฮาบีกันจ์ ห่างจากกรุงธากา นครหลวงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 120 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน มีผู้เสียชีวิตอีก 10 คน ในอีก 5 เขตการปกครองทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ และภาคตะวันออกของประเทศ และผู้บาดเจ็บหลายสิบรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สหรัฐฯ-โอบามาตรวจคราบน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก​

​

ปธน.บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปรัฐลุยเซียนาเพื่อตรวจสอบคราบน้ำมัน พร้อมเตือนวิกฤตน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้อาจทำให้เกิดความหายนะทางสิ่งแวดล้อมครั้งเลวร้ายที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายบารัค โอบามา เดินทางไปยังพื้นที่ทางใต้ของรัฐลุยเซียนาเมื่อวานนี้ และได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจคราบน้ำมัน ซึ่งล่าสุดเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากชายฝั่งรัฐลุยเซียนา เพียง 14 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามนายโอบามาขึ้นบินออกไปได้เพียง 24 กิโลเมตร ก็ต้องบินกลับเข้าฝั่งเนื่องจากเผชิญกับปัญหาลมแรง ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อยุติวิกฤตคราบน้ำมันครั้งนี้

พร้อมเตือนว่าวิกฤตคราบน้ำมันดังกล่าวนับเป็นครั้งเลวร้าย และอาจทำให้เกิดความหายนะทางสิ่งแวดล้อมครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และว่าอาจต้องใช้เวลาถึงหลายวันกว่าจะสามารถยุติการรั่วไหลได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯกล่าวว่าปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็น 100,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากบริษัทน้ำมันบีพีอาจต้องใช้เวลาถึง 60-90 วันในการเจาะบ่อพักน้ำมันเพื่อลดการรั่วไหล

ด้านนายเคน ซาลาซาร์ รัฐมนตรีมหาดไทย สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์ NBC ยอมรับว่าคราบน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้รุนแรงมาก และกว่าจะยุติได้คาดว่าคราบน้ำมันคงขยายไปทั่วอ่าวเม็กซิโก ซึ่งขณะนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับประเทศเปอร์โตริโก้แล้ว

ทั้งนี้นายลามาร์ แม็คเคย์ ประธานบีพีอเมริกา ซึ่งไปออกรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ยอมรับว่าคราบน้ำมันไม่เพียงส่งผลต่อชายฝั่งรัฐมิสซิสซิปปี แต่จะขยายไปถึงรัฐมิสซิสซิปปี และเรื่อยไปถึงรัฐฟลอริดา แต่ยืนยันว่าบีพีกำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ แต่การอุดรูรั่วของท่อน้ำมันซึ่งอยู่ลึกลงไปถึง 5,000 ฟุตไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะที่สภาพอากาศเป็นอุปสรรคสำคัญ

ล่าสุดทางการสหรัฐฯได้สั่งระงับการทำประมงทั่วน่านน้ำอ่าวเม็กซิโกเป็นเวลา 10 วันเนื่องจากวิตกว่าจะเกิดปัญหาสัตว์ทะเลเจือปนสารพิษ ส่งผลให้บรรดาชาวประมงในหลายรัฐในพื้นที่ดังกล่าวต่างแสดงความวิตกว่าวิกฤตคราบน้ำมันจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลของสหรัฐฯและเศรษฐกิจของรัฐชายฝั่งทางใต้เป็นเวลานาน และอาจรุนแรงกว่าครั้งเฮอริเคนคาทรีน่าเสียอีก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สหรัฐฯ-น้ำท่วมเทนเนสซี​

​

หลายพื้นที่ของรัฐเทนเนสซีเผชิญกับฝนตกหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 5 คน

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 6-10 นิ้ว จากฝนที่ตกลงมา 12 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบางที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ซึ่งบางช่วงของถนนระหว่างรัฐ หรือ Interstate สาย 24 ต้องจมอยู่ใต้น้ำ จนทางการต้องสั่งปิดถนนชั่วคราว-น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ปริมาณน้ำไหลทะลักเข้าท่วมถนนอย่างไม่ทันตั้งตั้ว ทำให้รถยนต์ราว 70 คัน ที่สัญจรไปมาจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมเกือบมิดหลังคารถ ขณะเดียวกันประชาชนราว 50 คน ติดอยู่ภายในรถยนต์ ต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเดินเท้า หรือใช้เรือเข้ามาช่วยเหลือ

นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 5 คน ขณะที่ประชาชนอีกหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านไปอยู่ศูนย์ที่พักชั่วคราว ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯ ผยว่าพื้นที่ 25 เขต ของรัฐเทนเนสซีอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังพายุทอร์นาโดถล่ม ขณะที่อีก 33 เขต จากทั้งหมด 75 เขต ของรัฐอาร์คันซอ อยู่ภายใต้การเตือนภัยเกิดพายุทอร์นาโด

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สหรัฐฯ- ไทส์สแควร์ป่วนหลังพบรถซุกซ่อนระเบิด อพยพคนนับพัน​

​

ตำรวจนิวยอร์กเข้าตรวจสอบรถยนต์สีดำ ยี่ห้อ Nissan Pathfinder ที่มีคนมาจอดทิ้งไว้บนถนนหมายเลข 45 บริเวณจัตุรัสไทมส์ สแควร์ เมื่อเวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 05.30 น.ตามเวลาในไทย

หลังจากที่มีคนสังเกตเหตุกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากรถยนต์ดังกล่าวที่ยังไม่ดับเครื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอพยพประชาชน และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ออกจากอาคารและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย และปิดพื้นที่ระหว่างถนนหมายเลข 7 และ 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงละครจำนวนมาก

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยใช้แกนกลเก็บกู้วัตุระเบิดทุบกระจกรถยนต์เข้าไปก็พบว่าภายในรถมีถังก๊าซโพรเพน,ดอกไม้เพลิง,ถังน้ำมันขนาด 19 ลิตร,นาฬิกา 2 เรือน พร้อมแบตเตอรี่ สายไฟ และวัสดุที่ใช้ในการทำระเบิดเช่นผงแป้ง นอกจากนี้ยังพบกล่องโลหะสีดำที่มีลักษณะคล้ายกับกุญแจล็อกไกปืนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณ หลังจากที่มีคนเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากมาจากรถต้องสงสัย

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาชื่นชมการทำงานของตำรวจนิวยอร์กที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่นายบลูมเบิร์ก กล่าวว่า โชคดีสำหรับชาวนิวยอร์คที่ชาวนิวยอร์คเห็นความผิดปกติแล้วรีบแจ้ง และตำรวจก็ทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันเวลา และว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ดูเป็นมือสมัครเล่น แต่อาจจะระเบิดอย่างรุนแรงได้ ส่วนมูลเหตุของความพยายามในการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายสากลหรือไม่

จัตุรัส ไทมส์ สแควร์ ถือเป็นย่านธุรกิจที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในสหรัฐฯ ตั้งอยู่ห่างจากอาคารเวิร์ลด์เทรดที่กลุ่มก่อการร้ายโจมตีในเหตุวินาศกรรมสะเทือนโลกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2001 เพียง 6 กิโลเมตร

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ผมเคยเสนอแล้ว การเมืองไปหาข่าวดูกันเอาเอง ยิ่งลงคนยิ่งตอบโต้กัน มันจะบานปลาย

ยิ่งตอนนี้ข่าวมันร้อนมากๆด้วย ใครอ่านก็เครียดกันทั้งนั้น ยิ่งเครียดอารมณ์ยิ่งมามากจิตมันจะรุนแรงขึ้น ยิ่งเถียงกันยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ อย่างงี้จะปรองดองกันได้อย่างไร

 

*** เมตตาตน คนในชาติ ****

บริโภค ทำไม่เที่ยง โลกก็ดูไม่เที่ยง
บริโภค ทำเที่ยง โลกก็แสดงให้เห็นความเที่ยง ทันตาเห็น
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

การเมือง = แตก แยก
การมุ้ง = หมกมุ่น
การธรรม = ความสุขสามัคคี